ตอนที่ 2 : 2 / THE 1975 - THIS MUST BE MY DREAM
- - - -
- -
-
“เฮ้ย อย่าแย่งดิ” รามิลที่นั่งตรงฟุตปาธข้างหอพักเถียงกับหมาพันธุ์ทางขนสีน้ำตาลแดงที่คนแถวนี้รู้จักในนาม ‘พี่ตี๋’ ไส้กรอกถูกส่งให้พี่ตี๋หนึ่งชิ้นยาวๆก่อนที่เจ้าตัวจะกินแค่ชิ้นเล็กๆที่เหลืออยู่ในซองพลาสติกอุ่นร้อน
มินพรูลมหายใจ นั่งมองเชือกรองเท้านักเรียนของตัวเอง จะว่ายังไงดี เขาเพิ่งซ้อมดนตรีเสร็จตอนสี่ทุ่มสิบเจ็ดนาที กว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อน นั่งคุยกันเรื่องการแข่งที่ใกล้เข้ามาถึงก็ปาไปห้าทุ่มสิบแล้วแต่ก็ยังเข้าหอไม่ได้ .. เพราะว่า
“ … ”
อ่า เพราะว่ากำลังรอบางคนอยู่น่ะสิ
ปอร์เช่คุ้นตาจอดลงหน้าหอพักของเขาที่ดูไม่สมราคากับรถคันสีเงินเท่ๆนั่นเลยสักนิด มินมองผู้ชายใส่ชุดนักศึกษาที่กระแทกประตูรถให้ปิดแล้วเดินตรงดิ่งมาหาเขาในสภาพที่ดูไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่
พี่ตี๋กระดิกหางไปมาเหมือนทักทายแขกใหม่ แต่ยังไม่ทันจะได้เล่นกับคุณเดือนมหาวิทยาลัยก็ถูกใครสักคนเรียกชื่อไว้ก่อนจนเจ้าหมาขนสีน้ำตาลแดงวิ่งอย่างร่าเริงไปรับของกิน .. มินเคี้ยวไส้กรอกชิ้นสุดท้ายก่อนจะกระดกน้ำเปล่า
ไม่มีคำเอ่ยทักทายใดๆเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของส่วนสูง 184 เซนติเมตรมาหยุดนิ่งๆพลางทิ้งตัวลงนั่งยองๆตรงหน้า กลิ่นเหล้าและบุหรี่ที่ปะปนกันจนกลายเป็นกลิ่นน่าเวียนหัวทำให้เด็กเกรดสิบสองย่นจมูกอย่างไม่ชอบใจนัก
“รอนานมั้ย”
มินส่ายหัว จ้องตาคมๆปรือปรอยของคนที่ขับรถมาตั้งไกล .. ผมสีดำสนิทของคุณไต้ปรกตาข้างหนึ่งดูเท่อย่างร้ายกาจ ริมฝีปากได้รูปขึ้นสีสดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ นิ้วเย็นๆนั่นจิ้มแก้มเด็กที่มองหน้ากันนิ่งๆอยู่แบบนั้นก่อนจะรวบกระเป๋าสะพายสีน้ำเงินของมินที่วางกองอยู่บนฟุตปาธขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าขึ้นห้องได้แล้ว
รามิลกับส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองเดินตามแผ่นหลังกว้างๆของคนที่ทำตัวเหมือนเป็นคนแถวนี้ไปเงียบๆเพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ประตูหอพักถูกเปิดออกด้วยคีย์การ์ดที่อีกฝ่ายมีอยู่แล้วนั่นก็เป็นเพราะว่าเขาให้คนเป็นพี่ไว้
ติ๊ง~
มินถูกดันหลังเข้าลิฟต์เมื่อประตูเปิดออก คนตัวเตี้ยกว่ามองอีกคนที่กดชั้นหกอันเป็นชั้นที่เขาพักอยู่ก่อนที่ตาจะเหม่อมองหมายเลขสีแดงที่กะพริบแสดงชั้นเมื่อตัวลิฟต์เคลื่อนขึ้นสูงเรื่อยๆ
“เหนื่อย”
น้ำเสียงแหบพร่าทรงเสน่ห์สม่ำเสมอกระซิบบอกตอนที่ยืนซ้อนหลังแล้ววางหน้าผากไว้บนไหล่รามิล .. มินเกลียดทุกทีเวลาลิฟต์หอตัวเองเคลื่อนขึ้นและลงช้าเหมือนเต่าทั้งๆที่ก็มีอยู่แค่หกชั้น แต่วันนี้นึกขอบคุณที่มันช้าแบบนี้เพราะคุณคนที่บ่นว่าเหนื่อยจะได้พักใจไว้บนไหล่เขานานๆ
ประตูลิฟต์เปิดออกในวินาทีที่บางคนยกหน้าผากตัวเองขึ้น สะกิดเอวน้องให้เดินนำออกไปก่อนในขณะที่ตัวเองเดินรั้งท้ายลากกระเป๋านักเรียนของมินจนมาหยุดอยู่ที่ห้อง 603
“พี่กินอะไรมารึยัง” เจ้าของห้องเอ่ยถามเมื่อไขประตูเข้าไปในห้องแล้วตบสวิตช์เพื่อเปิดไฟ ไต้ฝุ่นพยักหน้า วางกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะอ่านหนังสือข้างประตู มองห้องมินที่เป็นระเบียบแบบที่เคยตกลงกันไว้ว่าไม่ว่าจะมีใครมาห้องหรือไม่มี ห้องก็ควรจะเรียบร้อยไม่เลอะเทอะ
ธงสีขาวปักลายกุหลาบสีแดงพร้อมชื่อนักร้องวงโปรดอย่าง LANY ถูกขึงอยู่บนหัวเตียงพร้อมกับโคมไฟที่ประกอบขึ้นจากตัวอักษรทั้งหมดเจ็ดตัวรวมกันเป็นคำว่า THE 1975 ซึ่งก็เป็นอีกวงที่มินคลั่งมากๆเหมือนกันคือสองสิ่งที่เตะตาเสมอเมื่อมาเหยียบหอของอีกฝ่าย
ด็อกเตอร์มาร์ตินส์ถูกถอดออกวางไว้บนชั้นวางรองเท้า ไต้ฝุ่นมองแผ่นหลังไร้ผ้าผ่อนของเด็กบางคนที่กำลังสลัดเสื้อนักเรียนตัวเองทิ้งพลางหันหน้ามาหาเขาก่อนจะถามด้วยแววตางุนงง
“พี่จะอาบน้ำก่อนมั้ย?”
ไต้ฝุ่นพรูลมหายใจก่อนจะส่ายหัว ถอดขนาดนั้นแล้วก็อาบไปก่อนเลยเหอะ เขาย่นคิ้วเป็นอวัจนภาษาบอกว่าหงุดหงิด มินยักไหล่ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวที่ราวตากผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ตาคมมองบางคนที่หายไปได้ครู่เดียวแล้วก็เปิดออกมาโดยที่สวมผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่ท่อนล่าง
“ไรอะ”
“รำคาญ”
“ผมทำไรผิดอีกวะ”
“เข้าๆออกๆ”
“ก็ลืมเปิดเพลงอะ กลัวผีฉิบหาย” เจ้าของห้องว่าก่อนจะเสียบไอพอดนาโนรุ่นเก่าของตัวเองเข้ากับลำโพงมาร์แชล เลือกเพลงอยู่ไม่นานก็กดเปิดเพลย์ลิสต์เดิมที่ไต้ฝุ่นจำได้ดีว่าเพลงแรกคือ ..
I personify the ‘adolescent on a phone’
Speaking like I’m bigger than my body
“Whooooaaa~”
เด็กพิเรนทร์โยกหัวจริงจังเข้าห้องน้ำไปพร้อมใบหน้าสุขสันต์เมื่อ This must be my dream ของ The 1975 ดังกระหึ่มออกมาจากลำโพง ไต้ฝุ่นยิ้มบางๆตอนที่อีกฝ่ายร้องเพลงเสียงดังออกมาพร้อมกับเสียงน้ำจากฝักบัวที่กระทบกับร่างกาย
So why is this feeling on my chest?
This must be my dream
Wide awake before I found you
This must be my dream ..
I can't wait for you, boy
ไต้ฝุ่นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานหยิบไอโฟนในกระเป๋ามาเลื่อนดูแชท เลือกตอบเฉพาะบางคนที่อยากตอบเพราะไม่รู้เหมือนกันว่าผู้หญิงพวกนี้ไปเอาไลน์เขามาจากไหนเยอะแยะแล้วก็ตอบคนที่รัวข้อความส่งมาทุกวินาทีอย่างเดือนสถาปัตย์ที่หลังจากออกจากหอดาวเดือนก็สนิทกับเขาเป็นพิเศษ
typhoon : ถึงแล้ว ไม่ต้องไลน์มาแล้ว
typhoon : บอกเพื่อนคนอื่นด้วย รำคาญ
typhoon : กูไม่ได้จะไปตายที่ไหน
รอไม่ถึงวิอีกฝ่ายก็ตอบมาอย่างรวดเร็วตามประสาคนขี้เหงา
ttttttt : คนเขาห่วงก็ด่าฉิบหาย
ttttttt : ว่าแต่ถึงเนี่ย ถึงที่ไหนครับคุ้ณณณ :)
typhoon : ไม่ยุ่งสักเรื่องได้มั้ยไอ้สัด
typhoon : เสือกไม่หยุด
ตาคมมองข้อความล่าสุดที่ไม้ทีส่งมาและมันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่บางคนออกมาจากห้องน้ำ มีหยดน้ำเกาะพราวตามใบหน้าและลำตัวท่อนบน ท่อนล่างน่ะสวมกางเกงขายาวไว้แล้ว ผมสีน้ำตาลที่ไม่สั้นไม่ยาวเพราะเจ้าตัวก็อยู่มอหกแล้ว โรงเรียนคงไม่เข้มงวดมากเหมือนตอนอยู่ชั้นอื่นๆ
ttttttt : น้องคนนั้นป้ะ?
น้องคนนั้นของไต้ฝุ่นหันมามองด้วยแววตางุนงงเพราะคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมไอโฟนในมือจ้องตัวเองเขม็ง รามิลเดินผ่านอีกฝ่ายไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเสื้อนอนที่ลืมเอาเข้าห้องน้ำไปด้วยพลางหันไปเอียงคอถามอีกฝ่าย
“พี่มองอะไรไม่เลิกวะ ถามจริง”
“เปล่า”
typhoon : อืม
“แปรงสีฟันพี่อยู่ที่เดิมนะ ไปอาบน้ำได้แล้วมั้ง ผมเหม็นบุหรี่” ย่นจมูกประกอบก่อนจะสะบัดเสื้อนอนตัวเอง
“จะออกไปสูบอีกมวนแล้วอาบ”
“ไม่ได้แล้วดิ วันนี้พี่เกินสองมวนที่ดีลกันไว้แล้วด้วยซ้ำเพราะไปร้านเหล้างี้คงเป็นซองอะ”
“ .. โทษที” ไต้ฝุ่นกระซิบบอกแผ่วเบาในจังหวะที่เพลงจากลำโพงเปลี่ยนเป็นเพลงอื่น
“ไม่เป็นไรพี่ พรุ่งนี้ก็ได้”
“ … ”
“พรุ่งนี้ก็วันใหม่แล้ว” ยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายก่อนจะสวมเสื้อและติดกระดุมทีละเม็ดแต่ติดผิดตั้งแต่เม็ดแรก เสื้อเลยดูผิดรูปผิดทรงไปหมด
มันเป็นวินาทีนั้นเองที่บางคนไถเก้าอี้จากโต๊ะทำงานมาหยุดตรงหน้าเจ้าของห้อง ไต้ฝุ่นแกะกระดุมน้องออกทีละเม็ดก่อนจะติดใหม่ให้ตั้งแต่เม็ดแรกอย่างเงียบเชียบ .. มินมองแพขนตาอีกฝ่ายที่ถึงจะนั่งแล้วและมีเขายืนอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างแบบนี้ก็ยังดูตัวโตกว่าโข
มือบางแปะลงบนกลุ่มผมสีดำสนิทที่ถึงจะยุ่งเหยิงเพราะเจ้าตัวเป็นคนผมหยักศกแต่ก็นั่นแหละ .. นิ่มมากๆ
“ … ”
ไม่มีคำพูดใดๆเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากคนสองคน ไต้ฝุ่นมองมินที่ยืนลูบผมตัวเองอยู่อย่างเบามือคล้ายเขาเป็นสิ่งของที่เปราะแตกง่าย มือใหญ่เอื้อมขึ้นไปหยุดสัมผัสนั้นไว้ กุมมืออุ่นและนุ่มนิ่มผิดวิสัยของคนที่ทั้งตีกลอง เล่นเบสและกีตาร์ไว้
“ขอโทษ”
“ … ”
“ที่ทำให้ผิดหวัง”
“ผมไม่เคยผิดหวังในตัวพี่หรอก”
มินสวนขึ้นมาทันที นึกถึงบทสนทนาที่อีกฝ่ายโทรมาหาราวๆสามทุ่มเกือบสี่ทุ่มตอนที่เขากำลังซ้อมดนตรีอยู่แต่ก็ขอโทษขอโพยเพื่อนออกมาคุยโทรศัพท์ด้านนอกทั้งๆที่กำลังหวดไม้กลองอยู่ .. บางสิ่งนั้นสำคัญมากจนไม่สามารถปล่อยใจให้นิ่งเฉยได้
‘เดี๋ยวไปหาที่หอนะ’
‘ผมน่าจะเลิกซ้อมประมาณสี่ทุ่มนิดๆ’
‘อือ น่าจะถึงช่วงห้าทุ่มครึ่ง’
‘พี่ .. โอเครึเปล่า?’
‘ไม่’
‘ … เพราะเขาอีกแล้วใช่มั้ย หืม’
‘อื้อ’
“ไปอาบน้ำเถอะคุณไต้ เดี๋ยวออกมาเล่นเกมกัน ดีมั้ย?”
เจ้าของดวงตามีเสน่ห์กับต่างหูสีดำสนิทพยักหน้าก่อนจะลุกจากเก้าอี้ หยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปพร้อมชุดนอนที่มีทิ้งไว้ที่หอมินสองสามชุดแล้วหายไปในห้องน้ำ
คนตัวเล็กพรูลมหายใจ ทิ้งตัวนอนลงบนที่นอนทั้งๆที่หัวชื้น ตามองเพดานสีขาวสะอาด เงียบเชียบเพื่อฟังเสียงหยดน้ำตกกระทบพื้นที่คลอไปกับน้ำเสียงมึนเมาของแมทธิว ฮีลีย์ในเพลง fallingforyou จะว่าไปเพลงของวงนี้ถ้าเอามามิกซ์กับเสียงฝนน่าจะเศร้าพอจะทำให้คนเอาหัวจุ่มน้ำเพื่อเรียกสติไม่ให้คิดสั้นได้เลยอะไรแบบนั้น
ที่จริงวันนี้เขาก็เหนื่อย
เหนื่อยมากๆเลย .. แต่นั่นแหละ ถ้าโลกนี้มันโอนความเหนื่อยกันได้ เขาขอเหนื่อยเป็นสองเท่าก็ได้ถ้าคุณไต้จะได้อยู่แบบสบายอกสบายใจกับใครเขาบ้าง
_
ไต้ฝุ่นไม่รู้ว่าเขาเล่นเกมกับมินมานานเท่าไหร่แล้วแต่ที่แน่ๆ ..
“ … ”
เด็กคนนั้นไม่ยอมหลับยอมนอนจนสลบคาไหล่เขาที่เล่นเกมรถแข่งด้วยกันอยู่บนพื้นที่ปลายเตียง มันแปลกดีเหมือนกันที่ใช้แชมพูจากขวดเดียวกันแต่ผมสีน้ำตาลของรามิลกลับหอมผิดปกติ
ไต้ฝุ่นที่ค่อยๆลุกขึ้นยืนมองเด็กบางคนที่นั่งพิงหลังกับปลายเตียงแล้วหลุดยิ้มพลางครุ่นคิดว่าจะพาน้องขึ้นเตียงยังไงดีโดยที่ไม่ตื่น ต้องอุ้มแบบไหนหรือทำยังไง สุดท้ายก็ตัดสินใจอุ้มอีกฝ่ายขึ้นเตียงเหมือนอุ้มลูกลิงแบบที่วงแขนของบางคนกอดคอเขาไว้หลวมๆ ขาสองข้างกระหวัดรอบเอวสอบ คางและใบหน้าฝังที่ซอกคอ
“ถึงเตียงแล้วนะมู .. ”
กระซิบเบาๆใส่หูคนขี้เซาที่รับคำในลำคอ ปล่อยวงแขนแล้วร่วงลงไปนอนบนเตียง กอดตุ๊กตามูมินของตัวเองสบายใจเฉิบ เหมือนเคยบอกว่าแฟนเก่าซื้อให้ซึ่งก็เหมาะกับรักวัยมัธยมดีไม่หยอก
ไต้ฝุ่นเดินไปปิดไฟดวงสีส้มที่หัวเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆมินที่หลับง่ายมาตลอด .. เคยได้ยินมั้ยว่าผู้ชายสนิทกันเร็ว ยิ่งชอบอะไรเหมือนๆกัน คุยกันถูกคอเท่านั้นแหละก็เหมือนรู้จักกันมาเป็นปีๆ เขากับมินคืออะไรแบบนั้น อาจจะไม่ได้ชอบสิ่งที่เหมือนกันไปหมดแต่คุยทุกๆเรื่องด้วยกันได้
มันเริ่มจากเพจเพราะคุณอกหักอะไรนั่นก็จริง แต่รู้อะไรมั้ย ในสัญญาที่คุยกันไว้มันก็แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นสำหรับการให้คำปรึกษา .. ส่วนที่มันล่วงเลยมาเกือบสองเดือนนั้นก็เป็นเพราะความสบายใจของเขาล้วนๆ
สัญญาของมินกินระยะเวลาเจ็ดวันที่จะคอยให้คำปรึกษาทุกๆด้าน แลกเบอร์ แลกไลน์กันได้ จะติดต่อกันต่อหรือไม่ตามใจแต่ห้ามบอกข้อมูลส่วนตัวจนเกินขอบเขตและแน่นอน ผู้ให้คำปรึกษาจะเป็นเพศเดียวกันกับผู้ประสบปัญหาเท่านั้นเพื่อป้องกันการเกิดความรู้สึกในเชิงชู้สาวหรือโหยหาใครมาแทนที่ใคร
แรกๆก็นัดเจอกันทั่วไป ร้านกาแฟ ดูหนังต้านเศร้า วิ่งที่สวมลุมพินี พายเรือเป็ดที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ ไปเดินเจเจกรีนในคืนวันศุกร์และนั่งรถไฟไปอยุธยาในเช้าวันเสาร์ .. ใช้ชีวิตอย่างบ้าคลั่งจนรู้สึกสนิทกัน
สนิทใจ
จากที่ตอนแรกจบหนึ่งอาทิตย์ก็ต้องแยกกันไปใช้ชีวิต กลายเป็นว่าเสพติดการมีอีกฝ่ายอยู่ เหมือนพกรูปหม่าม้าใส่กระเป๋าสตางค์ไว้แล้วจะอุ่นใจหรือนิสัยบางอย่างที่แก้ไม่หาย ต้องทำแล้วถึงจะนอนหลับ .. รู้ตัวอีกทีก็มีมินเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว
และเขาก็รู้ว่ามินเองก็มีเขาเป็นอีกส่วนหนึ่งไปแล้วเหมือนกัน
“ … ”
เราแชร์กันทุกๆเรื่อง
มินเติมเต็มส่วนที่สุขให้เขา
เขาแบ่งส่วนที่เศร้าให้กับมินเผื่อว่ามันจะสอนให้น้องโตขึ้น
จากที่ยิ้มได้ไม่เต็มความรู้สึก ก็พอจะยิ้มได้โดยที่ไม่ต้องฝืน
จากที่ต้องรู้สึกแย่อยู่คนเดียวเพราะความไม่เป็นเหตุเป็นผลที่เกิดขึ้นในหัว ..
ก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับมันลำพัง
ที่จริงวันนี้ก็ไม่ได้แย่มาก เขาแค่กลับไปจมเพราะไปกินข้าวกับดาวเหนือ ไม้ทีและปกป้อง ดาวเหนือนั่งข้างเขา ตักนู่นนี่ให้กินอย่างเคยและนิสัยที่ดาวเหนือเป็นกับทุกคนคือเวลาคุยจะสบตาแล้วเวลาขำจะตีต้นขาคนที่คุยด้วยแล้ววางไว้แบบนั้นเพราะไม่ได้คิดอะไร
ต่อหน้าดาวเหนือ เขาก็ทำเป็นไม่เป็นอะไรนั่นแหละ
แต่พอลับหลัง .. ก็กลับมาคิดมากแบบนี้
จะบอกดาวเหนือว่าเขาอึดอัดหรือคิดไปไกลน่ะเหรอ อย่าหวังเลย เขาไม่อยากให้ดาวเหนือห่างออกไปจนหลุดวงโคจรเพื่อให้เขารักษาใจตัวเอง ดาวเหนือยังเป็นคนคนนั้นที่เขาอยากเจอ อยากคุยด้วย อยากให้อีกฝ่ายสนิทใจจะพูดกันทุกเรื่องอย่างเคยแม้ว่าจะไม่มีอะไรเหมือนเดิม
เขารักดาวเหนือนะ
“มิน .. ”
เป็นพันๆครั้ง
ในความคิด
“ฮื่อ” บางคนรับคำในความมืด มินปลุกไม่ยากถ้าเรียกชื่อและที่ตื่นขึ้นมาง่ายดายก็เพราะกลัวคนตัวโตกว่าจะดิ่งจนเผลอทำอะไรแย่ๆ
“ว่าไง .. คุณไต้” พูดเหมือนละเมอและรองแก้มตัวเองด้วยมือทั้งสองข้าง ไต้ฝุ่นเงียบไป ปรับสายตาในห้องมืดสนิทจนเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายเลือนราง เสียงของเข็มนาฬิกามันดังก้องเหลือเกินในเวลาแบบนี้
“ฝันดี”
ไต้ฝุ่นเห็นบางคนพยักหน้าแล้วปิดเปลือกตาที่ปรือปรอย แอร์เย็นๆเป็นอะไรที่มินชอบแต่การไม่ห่มผ้านอนทั้งๆที่เปิดแอร์แบบนี้น่าจะทำให้เด็กคนนี้มีน้ำมูกตอนตื่นนอน โชคดีจริงๆที่พรุ่งนี้เขาไม่มีเรียนเลยสักคาบเพราะยกคลาส
ผ้าห่มผืนโตที่กองอยู่ที่ปลายเท้าเจ้าของห้องถูกหยิบขึ้นมาคลุมคนที่นอนกอดตุ๊กตามูมินของแฟนเก่าอย่างรักใคร่คล้ายเด็กๆ ไต้ฝุ่นสอดตัวลงใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับมิน ปิดเปลือกตาลงแล้วได้ยินบางเพลงดังขึ้นในหัว
So why is this feeling on my chest?
Wide awake before I found you
This must be my dream
ไต้ฝุ่นตื่นขึ้นมาในห้องเงียบเชียบ ผ้าม่านถูกเลื่อนปิดจนไม่รู้ว่านี่มันกี่โมงแล้วกันแน่ มือใหญ่ควานหาโทรศัพท์แล้วพอมองดีๆก็เห็นว่ามินเอาไปวางไว้ให้ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง พอยกมือซ้ายตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่ามีโพสต์อิทแปะอยู่ .. โพสต์อิทสีชมพูนมเย็นซึ่งเป็นสีที่เขาโคตรเกลียดและมินน่าจะรู้ดี
‘gotta go to school!
call me when you wake up, okay?
moo :-) ’
คนตัวสูงลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับโน้ตสีชมพูในมือก่อนจะพับครึ่งแล้วยัดใส่ช่องช่องหนึ่งในกระเป๋าสตางค์ที่วางไว้ข้างโทรศัพท์ .. แต่ยัดยังไงก็ไม่เข้า
อ่า
“ … ”
ลืมไปว่าใส่ถุงยางเอาไว้
ไต้ฝุ่นพยายามหาช่องใส่โพสต์อิทสีชมพูน่าเกลียดแต่ยิ่งค้นยิ่งเจออะไรแปลกๆเช่นบัตรสะสมแต้มชานมไข่มุกของไม้ที บัตรนักศึกษาของต่อ(เพื่อนที่คณะ) บัตรสมาชิกชาเนลของม้า .. มีอะไรเป็นของเขาจริงๆจังๆบ้างมั้ยวะเนี่ย
คนตัวสูงถอดเสื้อออก สวมแค่กางเกงขายาวเข้าชุดกัน โยนเสื้อใส่ตะกร้าผ้าของมินและเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ยังไม่ได้เช็กโทรศัพท์หรืออะไรเลยสักอย่างแต่ที่แน่ๆรู้ว่ามันเกือบจะเที่ยงแล้ว มินน่าจะเรียนแค่ครึ่งวันถ้าจำไม่ผิดไป .. เจ้าของดวงตาเฉียงๆเงยหน้าขึ้นรับน้ำไม่อุ่นไม่เย็นคลายความง่วง ที่จริงเขาก็นอนไม่ค่อยพอสักวันทั้งทำรีพอร์ตแล็บ อ่านหนังสือไปสอบ รายงานนั่นนี่
ไต้ฝุ่นออกมาจากห้องน้ำ สวมแค่ชั้นในเพราะเจ้าของห้องคงไม่กลับมาตอนนี้แหงๆ ตัวสูงโปร่งกับกล้ามเนื้อหน้าท้องและต้นแขนสะท้อนอยู่บนกระจกที่ติดอยู่ข้างตู้เสื้อผ้า คุณเดือนมหาวิทยาลัยหยิบเสื้อยืดแนวสตรีทของมินออกมาจากตู้ ไม่ต้องขออะไรทั้งนั้นเพราะน้องมันก็ขโมยเสื้อผ้าเขาไปเยอะ ส่วนกางเกงก็ใส่ยีนส์ของตัวเองนั่นแหละ
มือหนาขยี้ผมตัวเองให้หมาดด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ฉีดน้ำหอมของมินที่ตั้งไว้บนโต๊ะ เห็นดูเซี้ยวๆแต่ใช้โจ มาโลน wood sage and sea salt ซึ่งถามว่าเข้ากับมินมั้ย ก็เข้า
เวลาเล่นสเก็ตแล้วขึ้นรถมาพร้อมกลิ่นน้ำหอมปนเหงื่อ
มันก็ไม่ได้แย่ .. ห่างจากคำว่าแย่ไปเยอะอยู่เหมือนกัน สงสัยเพราะน้ำหอมมันแพงแหงๆ
เจ้าของส่วนสูงร้อยแปดสิบสี่หยิบโทรศัพท์ตัวเองมาปลดล็อกก่อนจะกดโทรออกหารายชื่อล่าสุด ปกติก็โทรหาไม่กี่คน ม้า ป๊า ต่อ แฟรงก์ ไม้ทีแล้วก็ .. มู
[คุณนายตื่นสายยยยยยยย]
น้ำเสียงยียวนกวนประสาทนั่นดังขึ้นจนเขาจินตนาการหน้าตาที่น่าจะกวนประสาทไม่แพ้กันของรามิลออก ไต้ฝุ่นกับเสียงที่แหบกว่าปกติเพราะเมื่อคืนทั้งกินทั้งสูบของดีๆเข้าไปบานเอ่ยกับคนที่ปลายสาย
“อยู่ไหน”
[กำลังจะออกจากโรงเรียนไปหาพี่นี่ไง]
“ไม่ต้องขึ้นมานะ กำลังจะลงไป”
[อ้าว อาบน้ำแล้วเหรอพี่]
“อือ”
[ทำไมไม่ทักมาบอก ทีผมนะ ตื่นก็ต้องบอก กินข้าวก็ต้องเซลฟี]
“ความรับผิดชอบมันต่างกัน .. จะให้หยิบอะไรไปมั้ย”
[ทำไมอะ ก็ห้องผมทำไมต้องหยิบ]
“คืนนี้นอนคอนโดกู”
[เอาแต่ใจอีกและ] บอกแบบนอยด์ๆแต่ไต้ฝุ่นไม่สน นี่คืนวันศุกร์และจำได้ว่าอาทิตย์นี้รามิลมีเล่นดนตรีที่บาร์แถวมอเขาเพราะไปใจดีแลกเวรกับใครไม่รู้ไว้ ก็นอนที่คอนโดเขาไปเลยจะได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่กลับมาคนเดียวไกลๆ
[เอากีตาร์มาให้หน่อยกับสมุดเล่มสีแดงเลือดหมู]
“กีตาร์ตัวไหน”
[สีดำ]
“See you then.”
แล้วก็ตัดสายพร้อมกับคว้าคอกีตาร์ไปจับยัดใส่กระเป๋า สะพายไว้ด้านหลังและดูแบดเอาซะมากๆเพราะมันรับกันไปหมด การแต่งตัว สีต่างหู กระเป๋ากีตาร์และใบหน้าไม่สบอารมณ์
ไต้ฝุ่นออกจากห้องพร้อมกับการล็อกกุญแจและเช็กความเรียบร้อยทุกอย่าง เดินอาดๆไปกดลิฟต์และพบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งแทรกตัวเข้ามาในลิฟต์พร้อมรอยยิ้มเคอะเขิน อ่า .. แถวนี้ติดมหาวิทยาลัยแล้วก็โรงเรียนของมินด้วย ผู้หญิงคนนี้ใส่ชุดนักศึกษาก็คงหมายความว่าเธอน่าจะเรียนอยู่แถวนี้นั่นแหละนะ
“พักที่นี่เหรอคะ ไม่เคยเห็นหน้าเลย”
มันปกติใช่มั้ยนะที่คนไม่รู้จักกันจะคุยกันในลิฟต์แบบนี้
เออ โลกนี้ก็ไม่น่ามีอะไรผิดปกติอีกตั้งแต่เขากับมินมาสนิทกันแล้วแหละ ดังนั้น ..
“เปล่าครับ”
“มานอนห้องแฟนเหรอคะ” เธอยิ้มแซวๆ
เออจะว่าไปก็สวยไม่หยอก ตัวเล็กแต่ใส่เสื้อนักศึกษาเบอร์ xs หน้าอกหน้าใจกระแทกตาสุดๆ ทรงเอสั้นจุ๊ดจู๋ สะพายกระเป๋า ysl สีชมพูอ่อน สเปกผู้ชายในร้านเหล้า 1000% ไม่ต้องสงสัย
ไต้ฝุ่นไม่ได้ตอบเพราะลิฟต์เปิดพอดี เขาเห็นมินยืนรออยู่หน้าประตูพร้อมกับใบหน้ามึนงงเมื่อเขาเดินออกมาพร้อมผู้หญิงหน้าอกบึ้มคนหนึ่ง จู่ๆเธอก็ร้องอุ๊ย ตามองรองเท้าผ้าใบที่เชือกรองเท้าหลุดอย่างลำบากใจเพราะเธอก้มลงไปผูกไม่ได้
เออ ผูกเองไม่ได้หรอกไม่งั้นเห็นไปถึงไหนต่อไหน
ไต้ฝุ่นถอนหายใจ ทำท่าจะก้มลงไปผูกให้แต่คนที่ไวกว่าอย่างรามิลปาดหน้านั่งยองๆลงผูกเชือกรองเท้าให้พี่สาวสุดเอ็กซ์เล่นเอาคุณเดือนมหาวิทยาลัยกลอกตามองบน
.. เซอร์วิสเก่ง
“ตายแล้ว ไม่มีน้องผูกให้พี่แย่แน่ๆเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
ยังไปยิ้มให้เขาอีก
ไต้ฝุ่นคิดและล็อกคอมินที่ยืนเต็มความสูงแล้วแต่ก็ตัวเล็กนิดเดียวเวลาอยู่กับเขาพลางยื่นคีย์การ์ดไปแตะกับตัวสแกนที่ประตูเพื่อให้มันเปิดออก สองหนุ่มรอให้ผู้หญิงเดินออกไปก่อนก่อนจะตรงไปที่ปอร์เช่สีเงิน
สาวสวยหุ่นสะบึมหันมามองความสัมพันธ์แปลกๆของผู้ชายที่หล่อที่สุดตั้งแต่ที่เธอเคยเจอะเจอมาในชีวิตกับเด็กที่หน้าเหมือนคนเกาหลีมากๆกำลังถกเถียงกัน
“ผมไม่กินข้าวร้านเจ๊แดงนะ”
“ไม่กินร้านลุงสอง”
“แต่ผมจะกินไง”
“เจ๊แดง”
“ลุงสอง!”
“เออๆ รำคาญว่ะมู” ผู้ชายตัวสูงที่ผมหยักศกนิดหน่อยตรงปลายบอกปัดๆก่อนจะเอากีตาร์ที่สะพายไว้ด้านหลังใส่รถพร้อมกับกระเป๋านักเรียนของเด็กที่ตัวเท่าคางเห็นจะได้
หญิงสาวมองทั้งสองคนเดินเถียงกันไปที่ร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหอพักด้วยกัน
“อีแจง มึงทำไรวะ”
“ไปกินข้าวร้านเฮียสองกัน”
“เออๆเอาดิ ละมึงมองตามใครวะ”
“เดี๋ยวรู้ หล่อสัดๆ”
“โกค่ะ โก!” เธอยิ้มกริ่มเดินไปกับเพื่อนสาวสองคน จริงๆมีเรียนแล้วก็รีบมากแต่ความสอดรู้สอดเห็นและความสนอกสนใจในตัวผู้ชายผมดำแววตาร้ายกาจแบบนั้นมันมีมากกว่า
จะว่ายังไงดี เจอผู้ชายเซ็กซี่มาเยอะแต่ไม่มีใครเซ็กซี่เท่าผู้ชายคนนี้ ทั้งๆที่ไม่ได้แต่งตัวโชว์กล้ามหรืออะไรเลย แค่ปล่อยผมปรกตา ใส่ต่างหูกับแหวนเยอะๆดูดิบๆ .. เซ็กส์แอพพีลสูงมากๆจนเธอเนื้อเต้นไปหมด
“หล่อฉิบหายเลยว่ะ”
“กูบอกแล้ว”
“อยู่มาตั้งสามปีเพิ่งเจอ” สาวๆทั้งกลุ่มกระซิบกันไปมา ตามองเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนที่อยู่ในเขตมหาวิทยาลัยเธอกำลังทำหน้าโมโหชี้เมนูสลับกับผู้ชายตัวสูงผิวขาวซีดเหมือนลูกคนจีนที่เอื้อมมือไปผลักหัวอีกฝ่ายจนเซ
“กูไม่แดกต้มยำ มันเผ็ด”
“กระจอกว่ะคุณไต้”
“ละมึงแดกข้าวผัดใส่แค่ไข่มันเท่ตรงไหนวะมู”
“แต่เราจะกินข้าวโดยที่ไม่มีน้ำๆไม่ได้”
“น้ำเปล่าไม่พอเหรอ?”
“มันไม่ได้ซดอะ”
“มึงก็เอาช้อนตักน้ำเปล่าในแก้วมาซด มากเรื่อง -_-”
“แต่มันไม่ร้อน”
“ลุงครับ มีน้ำร้อนให้กินมั้ย?”
“ไอ้เหี้ยพี่แม่งงงงง”
เถียงกันไปมาสุดท้ายก็ส่งเมนูจนได้ จบที่ข้าวผัดไข่ไม่ใส่ผักสองที่ ต้มยำน้ำใสรวมมิตรไม่เผ็ด กุ้งกระเทียม น้ำกระเจี๊ยบสอง ทุกๆสายตาในร้านหันไปสนใจสองหนุ่มที่ไม่รู้จะหน้าตาดีแข่งกันทำไม พอน้ำกระเจี๊ยบมาเสิร์ฟก็แย่งกันอีกว่าหลอดสีน้ำเงินต้องเป็นของใคร
“อีแจง กูว่าแปลกๆ”
“เป็นแฟนกันปะวะ”
“กูว่าไม่น่า” ประเด็นที่ถูกยกมาพูดพร้อมกับสายตาที่สอดส่องสองหนุ่มตลอดเวลาทำให้เจ้าของสายตาคมๆตวัดขึ้นไปมองสาวๆสามคนที่ก็ได้ยินมานานแล้วว่าพูดถึงเขากับมิน
พอมองก็ดั๊นยิ้มให้เฉย ผู้หญิงที่เจอในลิฟต์เมื่อกี้น่ะ
“ฮันแน่ะ พ่อหนุ่ม~”
“ไร”
“แจกยิ้มให้สาวๆว่ะ” มินทำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ก่อนจะใช้ศอกสะกิดคนพี่ใต้โต๊ะเมื่อเห็นว่าสาวๆยกกลุ่มส่งสายตาหวานๆมาให้คุณไต้ จริงๆไม่ว่าจะไปที่ไหนคนข้างตัวเขาก็มักได้รับความสนใจเสมอ อาจจะเพราะออร่าเดือนมหาวิทยาลัยมันเตะตาหรือไม่ก็ผู้หญิงชอบผู้ชายลุคแบดๆ
แต่บอกเลยว่าคุณไต้เนี่ยแบดปลอม กินเผ็ดไม่ได้ ชอบดูสนูปี้ เวลาซื้อปากกาต้องมีลายการ์ตูน อ่านหนังสือต้องไฮไลท์ด้วยปากกาสีพาสเทล .. จริงๆ ไม่ได้หลอก
“เขายิ้มให้กู กูไม่ได้ยิ้มให้เขาเลย”
“เชื่อๆ”
“กวนตีนว่ะมู”
“ทำไมต้องหัวร้อน แซวนิดเดียวเอง”
“เหอะ”
“หาคนคุยได้ละม้างงงงง ไหวเปล่าวัยรุ่น” ดูดน้ำกระเจี๊ยบหลอดสีน้ำเงินสบายใจเฉิบ
“ก็พอมีแล้ว”
“เนี่ย ก้าวหน้าว่ะคุณไต้”
“Proud daddy มาก?”
“นิดหน่อย” ก็ภูมิใจเหมือนกันที่พอจะคุยกับสาวๆได้บ้างแล้ว ไม่อยากให้จมอยู่กับความเศร้าเพราะความไม่รักจากคนแค่คนเดียวหรอก หาไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอ
.. คนคนนั้นของคุณไต้น่ะ
“ข้าวผัดไข่มาแล้วจ้า” ป้าติ๋มเมียลุงสองยกข้าวผัดไข่มาเสิร์ฟ กินแบบนี้มีคนเดียวเธอจำได้ รามิลหอ HSR เจ้าเด็กแสบที่ชอบมากวนใจตอนร้านใกล้ปิดว่าให้ขายให้หน่อย หิวจะแย่แล้วก็ยอมทุกครั้งไปเพราะอ้อนเก่งเหลือเกิน
“กินไม่อิ่ม ป้าให้ลุงทำเพิ่มให้นะมินลูกกก”
“ขอบคุณครับป้าติ๋ม”
“ลูกรักมากดิ”
“อิจฉาไมอะ ใส่พริกไทยมั้ย?”
“ไม่”
“แค่พริกไทยก็เผ็ดอ่อ”
“เขาก็ใส่ตอนผัดมาให้แล้วมั้ยวะมู”
“กาจอกกกก” บอกเสียงกวนประสาทจนต้องล็อกคอแล้วตีหัวให้มันหายซ่าส์ ตีกันอยู่สักพักก็เริ่มกินข้าวเพราะอาหารมาครบแล้ว ไต้ฝุ่นมองเด็กที่นั่งข้างๆกันนี่แหละเพราะโต๊ะเป็นแบบยาวๆ นั่งได้ฝั่งเดียว หันหน้าออกจากร้านเป่าต้มยำน้ำใสจนน้ำซุปกระเด็น
“ใจเย็นๆ”
“เมื่อไหร่จะหายร้อน หิวละเนี่ยย เข้าใจวัยรุ่นป้ะ?” น้องมันถามก่อนจะก้มหน้าก้มตาเป่าแล้วก็ส่งเข้าปาก เคี้ยวอย่างพึงพอใจแล้วจัดการอาหารไปทีละอย่าง ไต้ฝุ่นที่กินช้าเพราะกินของร้อนๆไม่ค่อยเก่งคนต้มยำน้ำใสก่อนจะเป่าไปด้วยให้มันอุ่นทั้งถ้วย
ไม่ได้เป่าให้มินกินหรอก
จริงๆ
เป่าให้ตัวเองกินนี่แหละ
“เออพี่ ยืมเชิ้ตสักตัวนะ วันนี้ไปเล่นดนตรีที่บาร์”
“แปลกว่ะ”
“แปลกไงอะ”
“ปกติมึงไม่เคยขอ ก็เห็นหยิบๆไปตลอด” มินสำลักน้ำกระเจี๊ยบเพราะคาดหวังว่าพี่มันจะพูดอะไร แต่ก็กวนประสาทกันจนได้ ทิชชู่สีชมพูไร้คุณภาพถูกยัดปากคนน้องที่เปรอะน้ำกระเจี๊ยบ
ไต้ฝุ่นทำหน้ารังเกียจก่อนจะเริ่มกินข้าวเงียบๆ ตาก็มองถนนที่ผู้คนเดินสวนกันไปมา รถมอเตอร์ไซค์และรถกระบะ .. แต่ทุกๆสายตามักจะมองมาที่เขากับมินและปอร์เช่ที่จอดอยู่ใต้หอสลับไปมา
“เอ่อ ...”
“เขามองเชี่ยไรกันวะ” ว่าแล้วก็หันไปมองด้านหลังตัวเอง กวาดสายตาดูรอบร้านว่ามันมีอะไรผิดปกติ รามิลหัวเราะออกมาเบาๆ ตักกุ้งที่แกะแล้วใส่จานคุณไต้
“มองพี่กับรถพี่นั่นแหละ ปกติในซอยไม่มีใครขับรถแพงๆแบบนี้กันหรอก”
“เจ็ดล้านนิดๆเอง”
“พี่พูดเหมือนเจ็ดบาทอะ รวยมากป้ะ?”
“ไม่รู้จักไอ้เจ้าชายดิ พูดงี้”
“เจ้าชายไหน”
“คนที่หักอกไอ้ไม้ทีไง”
“ใครๆก็หักอกพี่ไม้ทีทั้งนั้นอะ -_-” น้องมันว่าก่อนจะกลอกตา ไต้ฝุ่นอยากจะอัดเสียงไปให้เจ้าของชื่อฟังจริงๆ มันตลกดีที่มินรู้จักเพื่อนเขาทุกคนเพราะเขาเล่าให้ฟังพร้อมให้ดูรูปประกอบ แต่เพื่อนเขาไม่รู้จักมินเลย .. อ่า อาจจะรู้จักในนามของน้องคนนั้น แต่ไม่เคยพาไปเจอ
ไม่ใช่ไม่อยากพาไปเจอ
แต่ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับมินมากกว่า
“ไว้พาไปเจอไอ้ที”
“พี่เขาชอบกวนตีนผมอะ”
“หืม?”
“พี่ให้ไลน์ผมกับพี่ไม้ทีไปปะ”
“มันมีไลน์มึงเหรอ”
“ช่าย แอดมาเมื่อคืนอะ คุยกันเมื่อเช้าแต่นี่ยังไม่ได้ตอบเลยนะ ตั้งแต่แปดเก้าโมงมั้ง”
“ … ”
ไอ้เหี้ยไม้ที
ไต้ฝุ่นเช็กโทรศัพท์ตัวเองแล้วก็คิดว่าเมื่อคืน .. อ่า มันยืมโทรศัพท์เขาไปถ่ายรูปขวดเหล้า บอกว่ายี่ห้อนี้ดีแล้วก็บอกจะส่งเข้าไลน์ตัวเอง มึนๆอยู่ก็เลยไม่ทันคิดว่ามือถือมันก็มี จะมายืมทำส้นตีนอะไร
พอเลื่อนๆดูประวัติการสนทนาก็พบว่าเขาส่งคอนแท็กมินให้มันโดยที่ตัวมันเองนั่นแหละเป็นคนจัดการเองทั้งหมด เหอะ เรื่องแบบนี้น่ะฉลาดนักไอ้ไม้ทีเอ๊ย
“เอาโทรศัพท์มา”
“โทรศัพท์ใคร”
“มึงนั่นแหละ”
“เอ้า อยู่ในกระเป๋ากางเกงอะ ล้วงเอาดิ ผมแกะกุ้งอยู่เนี่ย” ไต้ฝุ่นถอนหายใจ ล้วงกระเป๋ากางเกงมินจนแตะขาอ่อนคนที่เอาแต่แทะกุ้งเหมือนหนูแฮมสเตอร์แทะเมล็ดทานตะวัน
ไอ้เด็กนี่ชอบกินกุ้งมาก
ผิดกับบางคน .. ที่แพ้กุ้ง
อ่า นี่เขาเผลอนึกถึงดาวเหนืออีกแล้ว
ttttttt : ทักครับ
error 404 : ใครวะ เสี่ยวสัดๆ
ttttttt : ไอ้เหี้ย กูพี่มึงนะ
ttttttt : พี่ไม้ทีเองครับ :)
error 404 : อ๋อ เพื่อนคุณไต้
error 404 : หวัดดีพี่
ttttttt : แหม แหม แหม แหม้ เรียกกันน่ารักจัง
“ … ”
ttttttt : ชื่อไรเราอะ
error 404 : พี่แอดมาโดยไม่รู้ชื่อผมเนี่ยนะ lol
ttttttt : เออ ปกติเรียกน้องคนนั้น
ttttttt : เร็วๆชื่อไร เขาอยากรู้กันทั้งมหา’ลัย X ละ
error 404 : ขึ้นต้นด้วยมอม้า ลงท้ายด้วยนอหนู
ttttttt : มน
error 404 : มนที่หน้าพี่อะ
ttttttt : เอ้าสัด
ttttttt : ไอ้เหี้ยนี่ 5555555555555
ttttttt : คุยกับมึงสนุกดีว่ะ
ttttttt : จีบได้ป้ะ
ttttttt : เอ้า หายเลย
ttttttt : เขินอ่อ
“เฮ้ยๆ อย่ากำมือถือผมแรงดิ เดี๋ยวพังไม่มีเงินซื้อใหม่นะเว้ย” รามิลที่กินและไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะเอามือถือเขาไปดูอะไรทำตาเหลือกเมื่อพบว่าคุณเดือนมหาวิทยาลัยทั้งกำ ทั้งทำท่าเหมือนจะปาโทรศัพท์เขาทิ้ง
เป็นอะไรของเขาวะน่ะ
error 404 : จีบเหี้ยไรไอ้ที
error 404 : บล็อกนะ
error 404 : รำคาญ
ไต้ฝุ่นพิมพ์ตอบกลับไป รอไม่ถึงสองนาทีอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา
ttttttt : แหมมมมมมมมมมมมมม!!!
ttttttt : กูล้อเล่นป้ะ
ttttttt : ถ้ารู้ว่ามึงจะมาเช็กโทรศัพท์น้องนะ กูจะทำมากกว่านี้
ttttttt : อยากเห็นคนโมโหว่ะ
error 404 : ไม่ได้โมโห
error 404 : น้องกู อย่าเสือกจีบ
error 404 : คนเหี้ยๆไม่ควรได้จีบคนดีๆ
error 404 : อย่าทักมาอีก ไม่งั้นเจอกูแน่ๆ
กดลบแชททิ้งก่อนจะทำหน้าไม่สบอารมณ์
“เอาคืนไป”
“เอ้า อะไรของเขาวะ” มินที่แกะกุ้งเสร็จหมดแล้วแถมให้คนที่ทำหน้าบึ้งใส่ทุกสิ่งบนโลกตั้งหลายตัวพูดงงๆก่อนจะเช็ดมือกับทิชชู่แล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า
“ไม่กินละเหรอพี่”
“ไม่มีอารมณ์”
“กินข้าวต้องมีอารมณ์ด้วยอ่อ”
“-_-”
“ขอโทษก็ได้จ้า”
เหอะ
ความจริงของรามิล - ผมชอบใส่เชิ้ตของคุณไต้
ความจริงของไต้ฝุ่น - ผมขี้หึง .. มากๆ
tbc.
มาต่อแน่ๆ มาแน่ๆ แต่จะเมื่อไหร่นั้น (T⌓T)
รักคุณไต้ รักเจ้ามู รักทุกคน
ใครเหงาไปอ่านแค่ที่แกงรอ อันนั้นน่าจะจบก่อน โฮ
#ไม่มีฤดูกาล
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

คุณไต้ก็คือ อันดับหนึ่งในใจของจักรวาลคุณมม เป็นพระเอกที่เรารักมากเลย ทั้งๆที่แบบไม่ได้ตรงไทป์ที่ชอบ ไม่ใช่แนวคาบคลื่นหรือขั้วฟ้า แต่เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์จนเราอยากพิมพ์ชมเขาทุกวันเลย ดีมาก ดีต่อหัวใจมาตลอด ชอบค่ะอยากได้มากๆ555555555555555
ส่วนน้องมิน อ่านตอนนี้กี่ทีก็รู้สึกรักเด็กลูกครึ่งคนนี้จัง อยากเอานิ้วจุ่มแจ้มเบาๆแล้วบอกว่าพี่รักเทอมาเสมอ ตั้งแต่แรกเจอเลยคนดี🥺
วันนี้ฟังเพลงรอยแผลของไลก้ามา เราชอบจับคู่นิยายกับเพลงที่ฟัง พอฟังแล้วก็เลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยนะคะ ขอบคุณที่คุณมมสร้างตัวละครที่น่ารัก มีเสน่ห์ มีมุมที่เออ อธิบายไม่ถูกแต่เราชอบจัง อ่าน1ตอนมันทั้งยิ้ม ทั้งรู้สึกสงสารความรู้สึกของคุณไต้ รู้สึกขอบคุณการมีอยู่ของน้องมิน และรู้สึกขอบใจไม้ทีที่คอยสร้างรอยยิ้มให้เรา เนี่ย แค่ตอนสองตอน มันทำให้เรารักเรื่องนี้แบบรักมากถอนตอนไม่ขึ้นเลย เก่งมากเลยคั้บบบบบคุณมม ยอดเยี่ยมนัมเบ้อวัน!
เราอยากแวะมาชมทุกๆเดือนทุกๆปีเลย
ขอบคุณนะคะ💖
( ฮือ เราไม่ได้มาเร่งให้แต่งต่อหรืออะไรนะคะ แค่คิดถึงคุณไม้ที น้องมิน คุณไต้ เราเลยมาอ่านอีกรอบนึง🥺🤏🏻ถ้าทำให้กังวลต้องขอโทษด้วยนะคะ )
รอออออแน้ววว
ยังรอเจ้าแมวมูกับคุณไต้อยู่นะค้าาา:)