ตอนที่ 23 : 21 - เหลือเกิน
21
"เธอจะดึงฉันไปกอด อย่างที่เคย ได้หรือเปล่า
เธอจะปลอบฉันไหม .. ถ้าไม่ทิ้งได้ไหม
หากว่าเรานั้น อยู่ด้วยกัน ต่อไป ได้หรือเปล่า"
เคยกับเนตรส่ายหัวใส่กันก่อนจะให้สัญญาณเป็นเชิงบอกว่าออกไปคุยกันที่อื่นจะดีกว่า .. ทั้งสองคนเดินกอดอกเครียดๆออกมาจากห้องนอนแกงที่นั่งเหม่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์มาหลายวันแล้ว
มันไม่ไปทำงาน ใช้โควต้าลาแบบคนโคตรเส้นใหญ่
แต่เอาเหอะ ไอ้คุณโชนก็ทำเกินไปจริงๆ รู้ทั้งรู้ว่าแกงมันไม่พร้อมจะเจอแฟนเก่า ก็รั้งอยู่ได้ ไอ้บ้า
“เอาไงดีวะ”
“จะหนึ่งอาทิตย์แล้วนะมึง เพื่อนมึงเหมือนตายทั้งเป็น”
“มันก็ตายทั้งเป็นมาตลอด สัด ทำไมเราทำอะไรเพื่อมันไม่ได้เลยวะ” เคยสบถ นึกอยากเตะถังขยะเล็กๆที่แกงเอาไว้ใส่เศษกระดาษแต่ก็กลัวเพื่อนจะตกใจจนออกมาดู
ที่จริงมันไม่มีสติเลย มันเหม่อขนาดที่เขากับเนตรยืนมองมันอยู่ยี่สิบนาทีแล้วมันก็ยังไม่รู้ตัว
“มันแอบคบกันได้มั้ย”
“น้องมันจะยังรักแกงเหรอเนตร”
“ .. กูไม่รู้”
“ถ้าเรามองมุมน้อง มึงจะไม่โกรธแกงมันเลยเหรอวะ”
“ … ”
“นั่นมันเด็กนะเว้ย เด็กฉิบหายเลย แค่สิบแปดอะเนตร มันจะมาเข้าใจอะไรวะว่าถ้าไม่มีคนเสียสละ ถ้าแกงมันไม่เดินออกมา ชีวิตมันจะไม่ได้ก้าวไปไหนเลย”
“กูเข้าใจมึงนะเคย”
“มันไม่ถูกใจแต่มันถูกต้องที่สุดแล้ว มันไม่ได้ง่ายเลยสำหรับแกง มันก็ยังเจ็บมาจนวันนี้ ก็เจ็บกันทุกคน กูแค่อยากให้น้องมันเข้าใจ เราอยู่ตรงกลางแต่พูดอะไรไม่ได้ น้องมันก็เป็นคนดัง เกิดมันกลับไปคุยกันจริงๆ แกงมันก็ต้องเจ็บอีกเพราะมันเป็นไปไม่ได้”
เนตรสะอึกเพราะคำว่าเป็นไปไม่ได้ .. ใช่ มันเป็นไปไม่ได้จริงๆที่หมูจะมีแฟนตอนนี้หรือมีแฟนอีกครั้ง ไม่ใช่แค่น้องมันหรอก สมาชิกทุกคนในวงนั่นแหละ
“มันพอจะเป็นไปได้มั้ยที่จะให้มันคุยๆกันไปก่อน เหมือนให้มันได้คุยกันบ้าง รอไปเรื่อยๆ สักวันที่มันอิ่มตัว ค่ายเขาโอเคแล้วเขาต้องให้มีแฟนได้ดิวะ ศิลปินนะเว้ยไม่ใช่นักโทษ”
“แล้วมันนานแค่ไหนล่ะ?”
“อีเคย อีเหี้ย”
“กูรักเพื่อนกูไง กูแค่อยากรู้ว่าถ้าจะให้มันรอ ต้องรอนานแค่ไหน จะมีวันนั้นจริงๆมั้ยที่มันจะได้คบกันอีกครั้งหรือว่าเราตัดทุกอย่างแบบนี้แหละ สักวันแกงมันก็จะทำใจได้จริงๆ มึงก็รู้”
“ … ”
“มึงว่าอันไหนมันจะเกิดก่อนกันล่ะ ระหว่างเพื่อนมึงลืมกับบริษัทเหี้ยนั่นยกเลิกสัญญาห่าเหวนี่น่ะ มึงก็ตอบไม่ได้ ไม่มีใครรู้เหี้ยอะไรเลย เซฟตัวเองหน่อยดิวะ”
เพราะว่าเขาเห็นมากับตาว่าแกงมันร้องไห้ใจจะขาดยังไงเพียงแค่ได้ยินเสียงแฟนเก่าตัวเองร้องเพลง เขาเห็นมากับตาว่ามันจะตายยังไง มันจะตายแบบที่เขากลัวจับใจว่ามันไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้วจริงๆ
“ดารากับคนธรรมดามันก็ยากแล้วนะเนตร นี่ดาราที่เขาสั่งห้ามไม่ให้มีแฟนกับคนธรรมดาแบบแกงมันอะ .. มึงจะให้มันคุยกันอีกครั้งทั้งๆที่เด็กมันยังไม่พร้อมเพื่ออะไรวะ”
“กูขอโทษ .. กูแค่คิดว่าแกงมันอยากเจอ ลึกๆมันต้องอยากเจอ ความคิดถึงมันน่ากลัวนะเคย”
“กูไม่รู้เนตร เราควรเลิกเดาทุกอย่างแล้วไปถามมัน” ผู้ชายผมยาวถึงกลางหลังพยักพเยิดหน้าไปทางห้องนอนที่บางคนขังตัวเองเอาไว้ ข้าวปลาก็ไม่กิน
ฟังแต่เพลงในเพลย์ลิสต์เดิมๆวนไปมา
พอเจอเขาแค่วิเดียวก็กลับมาเป็นแบบนี้อีกทั้งๆที่ดีขึ้นมากๆแล้ว
“งั้นเราไปคุยกับมัน”
ไอ้เหี้ยเอ๊ย อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง
“เออ กูอยากคุยมานานแล้วเหมือนกัน บางทีเราก็ถนอมมันเกินไป ให้มันเผชิญหน้าบ้าง”
“อีหน้าหมา มึงมันย้อนแย้ง”
“ก็ให้มันมองหน้าน้องเขาได้บ้าง แต่ไม่ต้องคุยไงอีเนตร”
“โอ๊ย มึงห้ามใจร้อนละกัน ห้ามเสียงดังใส่มันด้วย”
“เออๆ!”
เนตรถอนหายใจ รวบรวมสติก่อนจะเดินนำหน้าเข้าไปในห้องนอนแกงก่อนตามด้วยเคยที่เสยผมยาวๆไปด้านหลัง เนตรวางมือลงบนไหล่แกงและชินแล้วที่มันจะสะบัดออกเพราะสะดุ้งตกใจ
“เฮ้ย พวกมึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เฮ้อ แกง”
“กินไรมายัง กูทำให้กินมั้ย”
“ไม่แดกไอ้ห่า มึงมานั่งนี่” เคยลากแขนแกงไปนั่งที่เตียง เพื่อนทั้งสองคนล้อมแกงไว้ก่อนจะมองใบหน้าอิดโรยอย่างที่ไม่ต้องเดาว่าคงใช้เวลาว่างไปกับการร้องไห้ .. สงสารฉิบหาย
สงสารจนเจ็บไปทั้งตัว
“แกง”
“หือ มีอะไรรึเปล่า?”
“มึงอยากเจอน้องมั้ย”
“ … ”
“พูดความจริงกันได้มั้ยวะ พวกกูจะได้ช่วยมึงถูก” เนตรจับมือเพื่อนแน่น แน่นพอจะทำให้แกงเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะรู้สึกท่วมท้น
เขาไม่น่าทำให้เพื่อนๆต้องมาลำบากใจกันขนาดนี้เลย
“กูขอโทษ”
“มึงขอโทษอะไร” เคยเอ่ย
“ที่ทำให้พวกมึงลำบากมาตลอด จะ จริงๆนะ”
“ไม่ต้องร้องแล้ว พวกกูไม่ได้ลำบากอะไรเลย แค่อยากช่วยมึง ช่วยได้ทุกอย่าง มึงอยากได้อะไรบอกพวกกู ถ้ามันไม่ได้ยากเกินไป ก็ทำให้ได้ทุกอย่างจริงๆเหมือนกัน” ผู้ชายผมยาวพูดยาวเหยียดก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มแกงออกด้วยนิ้วมือแล้วถอนหายใจออกมาเพราะเนตรเริ่มร้องไห้ตามแกงแล้ว
เอาเข้าไป
“กะ แกง มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกู .. ฮึก ให้กูได้ทำอะไรเพื่อมึงบ้างเถอะนะ”
เคยหันไปเช็ดน้ำตาให้เนตรแล้วก็นึกขำตัวเองในใจว่ากูมาทำอะไรตรงนี้วะเนี่ย
“อยากเจอ”
“ … ”
“แต่ก็กลัวสิ่งที่จะตามมา”
เนตรสะอื้นเพราะมันคงจะเจ็บปวด เธอนึกไม่ออกเลยว่าแกงแบกรับเรื่องราวพวกนี้ได้ยังไง มันไม่เคยมีแฟนด้วยซ้ำ มันไม่เคยชอบใครแบบนั้น จนกระทั่งน้องมันเข้ามาและได้ทุกอย่างจากแกงไปทั้งใจ
มันอยู่มาได้ยังไง
มันเก่งขนาดนั้นได้ยังไง
“มึงอยากเจอโดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องพูดอะไรกับมึงเหรอ”
“อือ .. แค่อยากเห็นใกล้ๆว่ามันสบายดี อยากกอดมันสักครั้งแล้วจะปล่อยแล้วจริงๆ”
“มันจะเป็นไปได้ยังไงวะ กอดโดยไม่ให้รู้ว่ามันเป็นมึงเนี่ย กูต้องไปลักพาตัวมันรึเป .. โอ๊ย! อีเนตร!” เคยโดนทุบทั้งๆที่ยังพูดไม่จบ
“เป็นไปได้อีสัด อึก เป็นไปได้!”
“ … ”
“เป็นไปได้จริงๆนะ”
เนตรยืนยันเสียงเข้มอีกครั้งพร้อมน้ำตา เธอจับมือแกงแน่น พยักหน้าบอกเพื่อนว่าไม่ต้องห่วงอะไร จะทำให้ทุกอย่างแล้วเราจะได้พ้นไปจากตรงนี้สักที
“แค่ต้องใช้เส้นที่ใหญ่มากๆเท่านั้นเอง”
“พี่ ผมไม่เล่นแล้ว”
“กูก็ไม่เล่นค่ะอียศ”
“โห เรียกอีว่ะ”
“มึงกวนกูอะ ละเมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ย” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองที่กำลังทำแผลแบบสเปเชียลเอฟเฟคลงบนหน้าพยศเอามือเท้าสะเอวพร้อมกับชี้หน้าเด็กหนุ่มด้วยแปรงแต่งหน้า
“ยอมละจ้า”
“จะเล่นใหญ่เป็นซอมบี้เอง”
“ก็ผมคิดว่าแค่ป้ายเลือดแล้วทำมือหงิกๆก็พอ”
“มันกระจอกไง มึงอยู่กัมพ์นะอีควาย”
“อีควายเลยเหรอพี่”
“เออสิวะ คิดว่าหล่อแล้วจะเรื่องมากได้เหรอ” พยศหัวเราะเบาๆ ยกมือไหว้ช่างแต่งหน้าที่สนิทกันสัดๆเพราะแกก็ทำงานนี้มาเป็นปีๆแล้ว ตาคมมองไอ้โปเต้ที่แต่งตัวตามฝัน .. คนเหี้ยไรอยากเป็นเชร็ควะ เละเทะพอกัน หน้าเน่อเขียวหมด
แฟนคลับคงดีใจตายอะ กะจะมาเจอหล่อๆเสือกเป็นเชร็ค
“เต้ หน้ามึงเขียวมาก”
“เอ้า ก็กูเป็นเชร็ค”
“ทำไมเราไม่ทำอะไรเท่ๆแบบพี่จั๊งก์หรือไอ้หมูวะ”
“ไม่รู้แม่ง กูพอใจ” ไอ้เชร็คมันว่าก่อนจะยักคิ้วอวดชุดที่มันใส่ โอเคดิ คอสตูมเขามาเต็มจริงๆ กูล่ะยอมใจ พยศกลอกตามองไปทางพี่ใหญ่ของวงที่กำลังเซตผมสีส้มขึ้น
นี่ก็ลงทุนไม่หยอก ย้อมผมเป็นสีส้มจริงๆไม่ใช้สเปรย์ เออ พี่แกแต่งเป็นคุโรซากิ อิจิโกะจากอะนิเมะเรื่องโปรดอย่างบลีช เทพมรณะ
“กูว่าไอ้หมูงานสบายสุดแล้ว แฟนคลับชอบด้วย”
“แต่งเป็นเจ้าชาย ใจมันได้ปะล่ะ”
พี่ๆมองน้องเล็กของกลุ่มที่นอนเล่นเกมสบายอยู่บนโซฟาเพราะมันไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากแต่งหน้า ใส่ชุดอะไรก็ได้ที่ดูดีแล้วก็แปะมงกุฏลงบนหัว
“ไอ้หมู”
“แป๊บพี่ ตีป้อมอยู่ๆๆ แป๊บบบบๆๆ”
“มันจะตอบพี่มึงไม่ได้เลยเหรอวะ”
“สมาธิไง คนเราอะ คอนเซ็นเทรต พี่ลูกเกดสอนไว้”
“โอเคซึ้ง” โปเต้ชูนิ้วกลางใส่น้องที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเพราะเล่นเกมอยู่ จริงๆลุคเจ้าชายเป็นอะไรที่ยากสำหรับหมู มันเป็นเด็กกวนโอ๊ย แฟนคลับก็รู้กันหมดว่ามันกวนตีนและเป็นคนตลก การจะให้มาแต่งเป็นเจ้าชายคืออะไรที่เหนือความคาดหมายมาก
เอ้อ ถ้าถามว่าเราทำอะไรกันอยู่ ก็ต้องบอกว่ากำลังเตรียมตัวสำหรับงานแฟนมีตติ้งแบบกระทบไหล่กับแฟนคลับหนึ่งร้อยห้าสิบคนที่แต้มบุญสูงจนได้บัตรเข้างานมา ความเยอะของพี่อ๋องคือแกอยากให้จัดเป็นธีมแฟนตาซี แต่งเป็นตัวอะไรก็ได้ในการ์ตูน หนังหรือเกม
“พี่ เล่นเสร็จแล้วๆๆ”
“มึงเป็นเจ้าชายจากเรื่องไหน”
“อะไรวะ เป็นเจ้าชายต้องมีจากเรื่องไหนอีกเหรอพี่”
“เออสิวะ เดี๋ยวพิธีกรถามแล้วหน้าแห้งเลยนะ” จั๊งก์ส่ายหัวขำๆกับไอ้หมู มันจะไปรู้อะไร เพิ่งกลับมาจากเที่ยวยุโรปกับที่บ้าน พวกเขาได้ของฝากจากครอบครัวมันเป็นเข็มขัดแบรนด์เนมคนละเส้น .. บ้านมันรวยจริงๆแถมยังมาสายนี้กันหมด
แต่ไอ้หมูคือคนที่ไม่เคยถือตัวเลย
“ผมผมดำอะ เป็นเจ้าชายเอริคในแอเรียลละกัน”
“ถ้ามีแฟนคลับแต่งเป็นนางเงือกมา มึงต้องเซอร์วิสเขาหนักๆเลยนะไอ้หมู”
“แน่นอนพี่ เตรียมแหวนมาแล้วเนี่ยระดับนายหมู”
“ริงป๊อป?”
“เฮ้ย! พี่รู้ได้ไงวะ” หมูทำตาโต
“มึงสั่งพี่อ๋องไปซื้อไง ไอ้ควาย”
“อะไรวะ ไม่เซอร์ไพรส์เลย ผมกะจะคุกเข่าขอเลยนะ แม่แอเรียลสาวพราวเสน่ห์~”
“กูเตรียมหูแตกเลย พิกเล็ตสุดยอด” ชื่อแฟนคลับของหมูถูกยกมาแซว หมูทำหน้าเขินๆก่อนจะพูดว่า ‘ต้าวบ้า’ ซึ่งก็คือเจ้าบ้าแบบแบ๊วๆไม่หยุด
“เออ แล้วก่อนมึงไปยุโรป พี่อ๋องบอกมือมึงซ้น กูก็ลืมถาม สรุปมึงเป็นไรวะ?”
“ .. อ๋อ”
พี่ๆหันไปมองน้องที่ส่งยิ้มมาให้
แต่เป็นยิ้มที่ฝืนชะมัดยาด
“ผมรีบวิ่งลงบันไดไปหน่อยมันเลยลื่น .. ไม่มีอะไรหรอกพี่”
คนฟังไม่ถามอะไรต่อ ก้มหน้าก้มตาทำเป็นกดโทรศัพท์ไปเพราะรู้ว่าน้องคงไม่อยากให้ซัก รู้ตัวอีกทีก็เตรียมตัวกันเสร็จหมดแล้วและมารันคิวงานอีกครั้งกับทีมงานเพราะไม่อยากให้งานออกมาพลาดหรือกร่อย
หลักๆก็จะมีร้องเพลงของวงนั่นแหละแล้วก็พูดคุยกับเล่นเกมกับแฟนๆ ปิดท้ายด้วยพวกเราสี่คนนั่งเรียงกันแจกลายเซ็นให้แฟนๆ ช่วงนั้นจะน่ารักตรงที่พูดคุยได้ทีละคน จับมือได้อีกต่างหาก
“พร้อมนะกัมพ์!”
“พร้อมครับ!”
“ข้างนอกสแตนด์บายครับ!”
จั๊งก์พยักหน้าให้น้องๆก่อนที่ทั้งสี่คนจะกอดคอกันเป็นวงกลม .. เป็นอะไรที่ทำกันมาตลอดไม่เคยขาด หมูสบตาพี่ๆ มีความปลอดภัยให้กันเสมอและนี่เป็นอีกครอบครัวที่เขารัก
เพราะเราผ่านอะไรมาด้วยกันมากมายจริงๆ
“ไปทำวันนี้ให้ดีที่สุดอีกวันกัน”
“รักมึงนะยศ รักพี่จั๊งก์ครับ รักน้องหมู!”
“ขอบคุณที่เคียงข้างกันมาตลอดนะครับ”
“รักทุกๆคนเหมือนกันครับ”
ผู้จัดการวงยืนมองเด็กๆบอกรักกันแบบนั้นก่อนจะร้องเฮ้แล้วออกไปนอกเวทีกันทีละคน .. และแม้ว่าจะมีแฟนคลับแค่ร้อยห้าสิบคนที่ได้เข้าร่วมงาน เสียงกรี๊ดที่เป็นกำลังใจให้เด็กๆทั้งสี่คนเสมอก็ลั่นห้องโถงขนาดกลางที่บริษัทจัดเป็นธีมสดใสให้เข้ากับผู้ร่วมงานที่สำรวจมาแล้วว่าส่วนมากก็เป็นวัยรุ่นกันทั้งนั้น
“กรี๊ดดดดดดดดด!!”
“พยศศศศ เรารักเธอ!”
“พี่จั๊งก์ผมสีส้มอะแก กรี๊ด~~~~”
เพลงแรกเริ่มขึ้นด้วยดนตรีสดที่มันเล่นกันเอง เด็กๆในวงเล่นดนตรีเป็นหลายอย่าง วันนี้โปเต้ตีกลอง พยศอาสาเล่นเบส จั๊งก์ร้องนำและหมูเป็นคอรัสร่วมกับเล่นกีตาร์ สารพัดเพลงตลกๆที่เลือกมาจากทั้งการเข้าค่ายลูกเสืออย่างลูกเสือเขาไม่จับมือขวาไปถึงเพลงไก่จ๋าที่หมูบอกว่าอยากเล่นให้มันโจ๊ะๆสักครั้ง เพลงไทย เพลงสากล ฮิปฮอป เคป็อปก็มา ทั้งหมดทั้งมวลเรียกรอยยิ้มร่าจากแฟนคลับได้เป็นอย่างดี
“เกิร์ลกรุ๊ปหวานๆ~”
“เชร็คน่ารักมาก หล่อทะลุเมคอัพสีเขียว!!”
“พี่ตายแทนน้องหมูได้นะคะ โฮ ปริ๊นซ์ชาร์มมิ่งมากๆ!”
แฟนๆกรีดร้องพร้อมกับเสียงหัวเราะและเอ่ยแซวเมื่อหนุ่มๆออกมาเต้นเพลงเกิร์ลกรุ๊ปกันอย่างออกรส คนที่เต้นแรงที่สุดเป็นใครไม่ต้องเดา นายโมกข์ ดิเรกสกุลกาลใส่อินเนอร์ลงไปในทุกท่วงท่า
“น้องหมูลูกสาวแม่ เต้นเอวจะหักละจ้าาาา”
“จ้าาาาาา อินเนอร์ล้วนๆ”
“จั๊งก์หมู! ใครไม่เป็นจั๊งก์หมูก็ออกจากประเทศนี้ไปเลยจ้าาา”
มันเป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษ .. ศิลปินกับแฟนคลับ
เราแลกเปลี่ยนรอยยิ้มให้กันและกัน บอกเล่าทุกเรื่องราวผ่านเสียงเพลงอย่างจริงใจ พอมองลงไปด้านล่างเวทีที่คราวนี้ไม่ได้สูงขนาดนั้นอีกแล้ว มันก็รู้ว่าระยะห่างระหว่างเราไม่ได้ไกลจนเกินไปเลย
เหมือนโลกกับดวงอาทิตย์
ไม่ใกล้ไม่ไกล
“สวัสดีครับบบ! พวกเรากัมพ์ครับ!”
“กรี๊ดดดดดดดดด!”
พอดิบพอดี
/
“ไหวมั้ยมึง? ร้อนมั้ย ยังไงดี ไปแอบหายใจก่อนก็ได้นะ” เนตรนภาพยายามมองเข้าไปในดวงตาของมาสคอตหมีสีชมพูเข้มตรงหน้า ที่จริงเธอไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันมาจากการ์ตูนเรื่องไหน จนกระทั่งแกงบอกว่าหมีตัวนี้ชื่อ Lots-o'-Huggin' Bear และเป็นตัวละครที่เจ้าตัวชอบจากการ์ตูนเรื่อง Toy Story
ตลกดีเหมือนกันที่หมีตัวเบ้อเร่อมานั่งนิ่งๆรอเวลาอยู่ท้ายแถวของงานมีตติ้ง .. ใกล้จบงานแล้วและสตาฟรันให้แฟนคลับขึ้นไปพูดคุยกับกัมพ์ตามบัตรคิว
“โอเคแน่นะ?” ผู้หญิงผมยาวที่วันนี้ตัดสินใจแต่งเป็นกัปตันอเมริกาเพราะกลัวจะโดนจำหน้าได้จนแผนแตกถามย้ำอีกครั้งหลังจากเจ้าหมีล็อตโซ่ทำมือบอกว่าโอเค
แกงที่อยู่ในชุดมาสคอตพยักหน้า เห็นเพื่อนไม่ค่อยชัดเจนนักจนต้องใช้อุ้งมือหมีสีชมพูเช็ดตามาสคอตอยู่แบบนั้น ท่าทางตลกๆทำให้เนตรหัวเราะออกมาเป็นครั้งแรกของวัน
เพราะมันไม่ยอมถอดหัวออก ก็เลยไม่รู้ว่าที่นั่งนิ่งๆอยู่บนเก้าอี้เนี่ย มันกำลังยิ้ม หัวเราะหรือร้องไห้อยู่กันแน่ .. เฮ้อ ให้ตายเถอะ ข้าวแกง
“กัปตันอเมริกากับคุณหมีล็อตโซ่เชิญเลยค่ะ”
“มึง .. พร้อมมั้ย”
แกงยิ้มภายใต้มาสคอต พยักหน้าขึ้นลงก่อนจะยกนิ้วโป้งให้เนตรรู้ว่าเขาพร้อม
ที่จริงมันหายใจลำบากมากๆเลยในมาสคอต ร้อนจนอยากจะถอดทิ้งซะให้พ้นๆ แต่ก็ทำไม่ได้หรอก อดทนมาตั้งขนาดนี้แล้ว .. คุณหมีล็อตโซ่หยิบถุงของขวัญของตัวเองขึ้น เขาเตรียมของมาให้สมาชิกทุกๆคนนั่นแหละ
“สวัสดีครับ” เสียงทักทายจากพี่ใหญ่ของวงที่ยังไงก็อายุน้อยกว่าเขาอยู่ดีทำให้ยิ้มตอบกลับไปภายใต้มาสคอต ตากลมพิจารณาผู้ชายผมยาวประบ่าคล้ายเคยเพื่อนสนิทเขา หากแต่ความหล่อแบบลูกครึ่งมันมัดใจสาวๆไปค่อนประเทศแล้ว
‘ขอบคุณที่คอยดูแลมันในฐานะพี่ใหญ่นะครับ’
แกงบอกในใจก่อนจะยื่นกล่องของขวัญสีน้ำเงินให้ แปะมืออยู่กับจั๊งก์สักพัก พอรู้มาแล้วแหละว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่คนช่างพูดแถมเขาไม่คิดจะพูดด้วยเพราะมันอู้อี้จะตายใต้มาสคอต ดังนั้นกับสมาชิกคนแรกของวงก็เลยไม่มีอะไรขนาดนั้น
“โห น่ารักจังวะเนี่ย ลงทุนใส่มาสคอตเลยเหรอเรา~”
แกงพยักหน้าหงึกหงักให้โปเต้ มองผู้ชายที่ลบหน้าสีเขียวของตัวเองออกแล้วเพราะอยากจะให้แฟนคลับได้เห็นหน้ากันชัดๆ รอยยิ้มกว้างและสดใสพร้อมกับการเซ็นลายเซ็นไปบนแผ่นซีดีที่มีแจกให้แฟนคลับทุกคนฟรีๆเป็นของขวัญ
“ชื่ออะไรครับเนี่ย?”
หมีล็อตโซ่ยกมือกากบาทเป็นเชิงบอกว่าไม่บอก
“โห เล่นตัวจังเลย”
“ … ”
“ถอดหัวให้ดูหน่อยได้มั้ยครับ อยากรู้ว่าน่ารักมากมั้ยเล่นตัวแบบเนี้ย” แซวกวนๆก่อนจะหันไปกระแทกศอกใส่พยศที่นั่งข้างๆแล้วชี้ชวนให้ดูมาสคอตหมีตัวเบ้อเร่อที่ยืนกอดอกเป็นเชิงบอกว่าหงุดหงิดแล้วนะ
“ห้าวมาก กลัวแล้วครับ ฮ่าๆๆ วาดรูปหมีให้แล้วกันเนอะ คุณหมีล็อตโซ่”
“มึงรู้จักด้วยหรอ”
“บ้านนอกไงมึงอะ ไม่เคยดูทอยสตอรี่ล่ะสิ”
“เจ้านกขุนทองเท่านั้นแหละกูอะ” พยศรับแผ่นซีดีมาต่อในจังหวะที่แกงมูฟมายืนตรงหน้า เด็กคนนี้แม่งตลกหน้าตายเพราะหลายมุกที่ปล่อยมาบนเวทีทำให้เขาหลุดหัวเราะภายใต้มาสคอตอยู่หลายครั้ง
“เป็นผู้หญิงที่สูงหรือผู้ชายครับ?”
“ … ”
ไม่บอกหรอก
อย่าหลอกถามเลย
“หยิ่งจริงด้วย เป็นหมีใช่เปล่าเรา เดี๋ยวให้ไปคุยกับหมู”
หัวใจบางคนเต้นตึกตัก มันสูบฉีดเลือดรุนแรงและไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองว่าน้องเล็กของวงที่นั่งถัดไปจากพยศกำลังทำอะไรอยู่ หากแต่เขาได้ยินเสียงมันหยอกล้อกับแฟนคลับใกล้ๆ
“พี่หมู หนูน่าจะแต่งเป็นแอเรียล พี่จะได้แต่งงานกับหนู”
“เรียนให้จบมอหกก่อนค่อยคิดเรื่องแต่งงาน เคเปล่าครับ”
“มีความหวังเลยอะ”
“คนเราอยู่ได้ด้วยความหวัง เอ้า! นี่ของเรา ขอบคุณนะครับที่มาเจอกันวันนี้เจ้าน้ำหวาน :)” แกงยิ้มบางๆ ไม่ได้ยินเสียงพยศที่ชวนพูดคุยอยู่ตรงหน้าแม้ว่าตาจะมองเจ้าตัวอยู่ .. มันน่ารัก
น่ารักสม่ำเสมอ
ก็อกๆ
“คุณหมี ได้ยินผมปะเนี่ย?”
เวร ใครใช้ให้ลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาเคาะหัวกันวะ แกงง้างหมัดใส่พยศ เล่นเอาหนุ่มๆฮาครืน อยากจะรู้จริงๆว่าหมีตัวนี้เป็นใคร ทำไมมันดื้อขนาดนี้วะเนี่ย
“ฮ่าๆๆ ไปหาไอ้หมูเหอะครับ รับมือไม่ไหวแล้ว”
“ … ”
“แล้วมาเจอกันอีกนะครับ” ซีดีถูกส่งคืนให้แกงเช่นเดียวกันกับแกงที่ยื่นกล่องของขวัญสีเหลืองให้
เหมือนกับว่ามันนานมากๆแล้ว
ทั้งๆที่มันก็ผ่านไปแค่หนึ่งปีกับสี่เดือน
“สวัสดีครับ :)”
แกงวางถุงของขวัญอันเบ้อเร่อลงข้างตัวก่อนจะใช้มือหนึ่งจับหัวมาสคอตเอาไว้ ส่วนอีกมือล้วงเอาแผ่นกระดาษแข็งขึ้นมา
‘ไง’
“กูว่าละ แฟนคลับน้องหมูแน่ๆ ยอมคุยด้วยเฉยเลย”
“ให้เขาหน่อยเหอะ เตรียมกระดาษมาจากบ้าน คิดเอาละกัน”
แกงยิ้มโง่ๆให้ตัวเองกับคำแซวพวกนั้น มันยังทำให้เขาใจเต้นแรง .. มันที่สบตากันสบายๆ ดวงตายังเป็นประกายและมีรอยยิ้มที่โชว์เขี้ยวเล็กๆ
จากเด็กผู้ชายที่วิ่งไล่ลูกบอลกลมๆกลางสนามหญ้าเทียม
จากเด็กผู้ชายที่ต้องใส่เสื้อกันหนาวรูดซิปถึงคอเป็นคาแรคเตอร์
“ชื่ออะไรครับเนี่ยคุณหมี?”
กระดาษแผ่นต่อไปถูกส่งให้เงียบเชียบ
‘สบายดีรึเปล่า’
“โห่ เตงจะไม่บอกชื่อเค้าจริงๆดิ”
สรรพนามแบบนั้นทำให้คนที่อยู่ใต้มาสคอตร้อนอบอ้าว ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยทุกความรู้สึก .. ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้ามันแล้วจริงๆ
‘ไม่เจ็บป่วยใช่มั้ย’
“ไม่ครับ ผมแข็งแรงมากๆเลย” มันบอกพร้อมกับเบ่งกล้ามและชักดาบของเล่นที่วางอยู่บนโต๊ะมาวาดลวดลายโชว์ แกงหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา สุดท้ายก็ต้องเชื่อแล้วว่ามันเป็นคนเดียวในโลกที่ทำให้เขารู้สึกทุกๆสิ่ง
รู้สึก
‘ต้องใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองชอบนะ’
ทุกๆความรู้สึกเลย
“ … ” เจ้าชายเอริคไล่สายตาอ่านประโยคนั้นที่ถูกพิมพ์ไว้บนกระดาษด้วยฟอนต์ TH sarabun รูปประโยคแบบนั้นทำให้เขาโหวงในใจเพราะเขาไม่เคยได้ยินมันจากใครมาก่อน
ตาคมสบกับดวงตาสีดำสนิทของมาสคอต ไม่แน่ใจนักว่าจริงๆแล้วเรากำลังจ้องตากันอยู่มั้ย .. หมูวาดรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าให้กับหมีสีชมพูตัวเบ้อเร่อตรงหน้าพลางพยักหน้าช้าๆเป็นเชิงบอกว่า เขาจะใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองชอบ
‘รัก’
“เอาดิ้ คุณหมีเขาบอกรักเลยนะเว้ย”
“น้องหมูว่าไง เขาเตรียมอะไรๆมาให้เยอะแยะขนาดนี้แล้ว”
“Lots-o'-Huggin' Bear เลยนะหมู ไม่กอดไม่ได้แล้วรึเปล่า?”
แกงกลั้นเสียงสะอื้น แต่น้ำตาเขาไหลไม่หยุด มันแสบไปหมดตอนที่เด็กคนนั้นลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วโน้มตัวมากอดเขาไว้เบาๆ .. สัมผัสนั้นอ้อยอิ่ง กอดของมันยังเหมือนเดิมแม้ว่าเราจะแตกสลาย
มันผละออกไปแล้วเพราะทุกๆคนจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษมากมายขนาดนั้น แค่ไม่กี่วินาทีก็ถือว่าโชคดีมากๆแล้วสำหรับแฟนคลับ
“ขอบคุณที่มาเจอกันวันนี้นะครับคุณหมี”
ผอมลงรึเปล่า
เมคอัพนั่นน่ะ หลอกพี่ไม่ได้หรอกว่าแกนอนน้อย
อย่าทำงานหนักนักสิ
“ถ้ามีโอกาส”
“ … ”
แกกินข้าวตรงเวลารึเปล่า
อย่างอแงจะกินแต่ข้าวผัดล่ะ
อย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยนะรู้มั้ย แกหาเงินได้แล้วก็จริงแต่อย่าซื้อรองเท้าทีละหลายๆคู่
“คราวหน้าต้องมาเจอกันแบบไม่ใส่มาสคอตนะครับ :)”
ดูแลตัวเองดีๆล่ะ
ที่ผ่านมา .. แกทำได้ดีแล้ว
แกเก่งมากจริงๆ
พี่ภูมิใจในตัวแกนะ
“คุณหมีล็อตโซ่มีอะไรจะให้น้องหมูอีกมั้ยคะ”
พี่รักแก
หยุดรักแกไม่ได้เลย
“บ๊ายบายครับ”
รอยยิ้มสุดท้ายของมันเกิดขึ้นในตอนที่เขายื่นของขวัญกล่องสีขาวให้ก่อนจะถูกพาลงเวทีไปด้วยฝีมือสตาฟเพราะมาสคอตเทอะทะทำให้เขามองต่ำและลงบันไดด้วยตัวเองไม่ได้
“แกง .. แกง มึงไหวมั้ย”
“ … ”
“มาทางนี้ก่อน ออกจากงานเลยดีกว่า ไม่ต้องรอฟังเพลงสุดท้ายแล้ว” แกงไม่รู้ว่าเนตรพาเขาออกมาจากงานตอนไหน รู้อีกทีอากาศเย็นๆก็เข้ามาแทนที่ความอบอ้าวในมาสคอตหมี
เนตรนภามองน้ำตาที่ผสมไปกับเหงื่อ ริมฝีปากของเพื่อนที่ห้อเลือดเพราะมันคงจะกัดปากตัวเองกลั้นสะอื้นตลอดเวลาสั้นๆที่คงจะยาวนานสำหรับมันมากๆในการพบเจอคนที่อยู่ในใจเสมอ .. ตัวผอมๆของมันสั่นและในวินาทีที่มันโกยลมหายใจเข้า
“ฮึก เนตร .. กูเป็นคนไม่ดีใช่มั้ย”
เนตรได้ยินเสียงร้องไห้ที่ดังที่สุดที่เธอจะจินตนาการออกจากแกง
“ไม่เลย มะ มึงไม่ได้ผิดเลย”
“ไม่เคยอยากทิ้งมันเลย”
เนตรกอดเพื่อนเอาไว้แน่นแม้จะรู้ว่านี่ไม่ใช่กอดที่มันต้องการ
เธอไม่สนด้วยซ้ำว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะมองเรายังไงในโลกที่มันโหดร้ายขนาดนี้
“ไม่เคยไม่รักมันเลยสักวัน”
tbc.
.
ที่บอกในทวิตว่าเขาเจอกันแชปนี้อะ ไม่ได้หลอกนะ เจอจริงๆ
ถ้าใครอยากรู้ว่าร้องไห้ในมาสคอตเป็นไง ลองเปิดเอ็มวี 'ไม่คิดถึงเลย'
แล้วก็ เราจะพยายามอัพบ่อยๆ แหะ
จะได้ไม่คอมเม้นทำร้ายใจกัน ใจเราก่บางแค่นี้ (T▽T)
รักทุกคนเสมอ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนบัดนี้ เริ้บ
#แค่ที่แกง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ร้องหนักมากกน้ำตาไหลทั้งคอนเลยหน่วงไปหมด
ร้องไห้หนักมาก
น้ำตาไหลแล้ว ไรท์;_;
แค่นี้ก็น้ำตาไหลพรากแล้ว
เปิดให้อ่านปีใหม่วันหนึ่งได้ไหม😙
ฮือปวดตาาาา