ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตามเบ็คแฮมมาเรียนอังกฤษ

    ลำดับตอนที่ #7 : 5 th step: มีชีวิตรอดเพราะอาหารจาก Big four supermarket

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 55


                         การมาเรียนที่นี่ สิ่งหนึ่งที่นักเรียนทุกคนต้องได้กลับไปแน่นอนคือ ทักษะการทำอาหาร คือจะอร่อยหรือไม่อร่อย แต่อย่างน้อยก็ทำออกมาแบบพอกินได้แน่นอน ซึ่งวัตถุดิบในการทำอาหาร เราก็สามารถหาได้จากสามทาง (ขึ้นอยู่กับเมืองที่อยู่นะคะ) อย่างแรกก็คือ ตลาดประจำเมือง ซึ่งก็คล้ายๆกับตลาดสดบ้านเรา แต่สะอาดกว่า เป็นระเบียบกว่าอะค่ะ มีทุกอย่างขายตั้งแต่ซากกระเบือ ยันเรือรบ และราคาก็ถูกกว่าซื้อใน super market ด้วย ข้อเสียที่เห็นอย่างเดียวสำหรับเราคือ มันไกลจากหอพักเรา ทำให้เวลาที่เรียนหนักมากๆ เราก็ไม่อยากเดินไปอะค่ะ


                            อย่างที่สอง คือ Chinese supermarket หรือ พวกร้านขายของสำหรับคนเอเชียทั้งหลาย ….อยากได้อะไรจากเมืองไทยก็หาจากที่นี่อะค่ะ (มาม่าที่นี่ก็มีขายนะคะ คือแบบoriginal ที่หิ้วมาจากเมืองไทย ซองเป็นภาษาไทย กับแบบที่ทำขายเพื่อชาวต่างประเทศ ฉลากจะเป็นภาษาอังกฤษล้วน เราลองกินทั้งสองแบบ พบว่า แบบที่ทำขายคนที่นี่ ไม่อร่อยอะค่ะ คือ มันเป็นมาม่าต้มยำกุ้งก็จริง แต่ไม่เผ็ดเลย เราเลยรู้สึกว่ามันไม่เข้มข้น ไม่จัดจ้านเหมือนมาม่าoriginal แต่รสชาติแบบนี้คงเหมาะกะฝรั่ง เพราะไม่เผ็ดมาก เพื่อนเราคนเกาหลี กะคนไต้หวันนี่ชอบมาก มาซูเปอร์จีนทีไร ขนมาม่ากลับไปทุกที) ลูกชิ้นจากเมืองไทยก็มีนะคะ ขนมบัวลอยของ S&P ก็มีขาย เถ้าแก่น้อยเอย ข้าวเกรียบมโนราเอย แต่ราคาแพงมากมายมหาศาล เห็นแล้วซื้อไม่ลงค่ะ ยกตัวอย่างลูกชิ้นแต้จิ๋ว เมืองไทยขายห่อละ 30 บาท ที่นี่ขายห่อละ ร้อยกว่าบาท, มาม่าที่เมืองไทยซองละ 6 บาท ที่นี่ 22 บาท (แต่ราคามาม่า ก็ยังพอรับได้)  ก็อย่างว่าค่าครองชีพที่อังกฤษแพงมากที่สุดในโลก เราจะกินอะไรทีก็คิดแล้ว คิดอีก ….จนตอนหลังเลิกคำนวนกลับมาเป็นเงินบาท เพราะไม่งั้นจะไม่ได้กินอะไรเลย

                           
                            ทางที่สาม คือ
    Supermarket ค่ะ ซึ่งเป็นที่ๆเรามาซื้อของกินบ่อยที่สุด เพราะมีหลายเจ้า และอยู่ใกล้หอพักและมหาลัยที่เราอยู่ที่สุด สะดวก และมีทุกอย่าง ที่เมืองไทยเราอาจจะรู้จัก โลตัส,คาร์ฟู, บิ๊กซี, ท๊อปส์ ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการนี้ แต่ที่อังกฤษ เรามี Tesco (จริงๆก็คือ โลตัสบ้านเรา แต่บ้านเราไม่เรียกเทสโก้), Sainsbury’s ,Morrisons , and ASDA  

                                                                 
                                           Source: BBC News:   
    http://www.bbc.co.uk/news/uk-england-12039041, 2010                    


      ไม่ใช่เฉพาะบ้านเราที่มีข่าวการต่อต้านโลตัส เวลามาเปิดสาขาใหม่ในต่างจังหวัด เพราะว่ากลัวโชห่วย หรือร้านต่างๆของจังหวัดนั้นๆจะล้มหายตายจากไป แต่ที่UK ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อเรามาเรียนแรกๆ เราได้ทำ Case study นี้ด้วย ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่า การมาของSuper market ทำให้ร้านชำเอย ร้านขายหมูขายเนื้อเอย ต้องปิดตัวลงไปเป็นจำนวนมาก แต่ซูเปอร์เหล่านี้ก็พยายามแก้ไขโดย จ้างคนท้องถิ่นผลิตสินค้ามาให้


                             สำหรับชีวิตแม่บ้านจำเป็นอย่างเรา อย่างแรกที่ทำก่อนเข้าซูเปอร์คือ จดรายการสินค้าที่ขาด และเดินสืบราคาค่ะ มาใหม่ๆไม่ค่อยรู้ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า Morrisons ถูกที่สุดค่ะ แต่ในความคิดของเรา ถูกกว่าก็จริงแต่คุณภาพของสด ที่Sainsbury’s ดีกว่ามาก(แต่ถ้าให้สดจริงๆ ต้องตลาดประจำเมืองค่ะ)  ส่วน Tesco เราก็เข้าบ่อยค่ะ ขนมของ Tesco รสชาติอร่อยใช้ได้เลย เราลองกินมาหลายอย่างละ โดนัท ขนมเค้กนี่โอเคเลย (แต่อย่าไปเทียบกับ เทสโก้โลตัสนะคะ เพราะคุณภาพคนละเรื่องเลยอ่า เราเลยสงสัยว่า ตกลงมันบริษัทเดียวกันป่าวนี่) อาจเป็นเพราะว่าที่นี่ของกินทุกอย่างแพง เลยอาจจะได้อานิสงค์ว่าคุณภาพเลยดีตาม ยกตัวอย่าง ไอศครีม Magnum ของ Wall ที่ไทย 40 บาท แต่ที่นี่ 85 บาท แต่ก็อร่อยสมราคา อ๋อแล้วก็น้ำเปล่าที่เป็นขวดๆที่นี่ก็แพงมากราคาแทบจะเท่ากับน้ำโค้กเลย เราเลยซื้อเครื่องกรอง กรองแล้วต้ม กินเอง (แม้ทางการอังกฤษจะประกาศว่าน้ำประปาดื่มได้ก็เถอะ เราก็ไม่ชินและไม่มั่นใจ) คือถ้าจะซื้อน้ำขวดอิชั้นจะซื้อแต่ Evian เท่านั้น เพราะที่นี่ขายถูกกว่าเมืองไทยมากๆ คือเหมือนเป็นยี่ห้อน้ำธรรมดาๆเลยอะค่ะ กินแล้วรู้สึกคุ้มค่า แต่เวลาไปร้านอาหารบางทีเราก็หลีกเลี่ยงการกินน้ำประปาไม่ได้ เพราะมันฟรีค่ะ (ถ้าสั่งอย่างอื่นเสียเงิน) บางร้านเค้าจะยก Tap water มาให้เป็นเหยือกๆเลย และส่วนใหญ่เค้าจะเอามะนาวลอยไว้ในเหยือกอะค่ะ เพราะมันจะช่วยดับกลิ่นของน้ำประปา   


                            ส่วนถ้าใครขี้เกียจทำอาหารกินเองละก็ ในซูเปอร์ที่นี่ก็มีอาหารแช่แข็ง ready to eat มากมายให้เลือกสรร ล่าสุด Sainsbury’s ออกไลน์ Oriental food ออกมา มีเมนู ข้าวแกงเขียวหวานไก่ กับข้าวพะแนงไก่ ออกมาด้วย เราลองชิมละ พอกินได้ แต่รสชาติไม่จัดจ้าน และไม่เผ็ดเลยไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ แต่เอาไว้กินแก้เหงายามคิดถึงอาหารไทย


                            สำหรับซูเปอร์สุดโปรดอันดับหนึ่งในใจเรา เพราะเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ไม่ใช่ Big four ตามที่ยกตัวอย่างไป แต่เป็นซูเปอร์ในห้างชื่อดัง อังกรี๊ด อังกฤษมากๆ แบบ Mark and Spencer ….แต่ไม่ค่อยได้ไปบ่อย เพราะไกล และค่อนข้างแพง  ก็อย่างว่าที่นี่ราคาตามคุณภาพ  เวลามาที่นี่สิ่งแรกที่มองหาไม่ใช่อาหารสดค่ะ แต่เป็นขนม จะบอกว่าขนมทุกอย่าง (เน้นว่าทุกอย่าง แม้แต่ขนมปัง หรือโดนัทหน้าตาธรรมด๊า ธรรมดา) อร่อยมาก และราคาถูกกว่าที่นำเข้าไปขายที่เมืองไทยอีกด้วย ต้องรีบกินให้คุ้มก่อนกลับไทย 555


                            เมื่อซื้ออาหารเสร็จเราก็ต้องมาจ่ายเงิน การจ่ายเงินมีสองแบบ แบบแรกก็คือจ่ายกับแคชเชียร์ กะแบบที่สองคือจ่ายผ่าน Self-checkout  machine ค่ะ ซึ่งการที่มีเครื่องแบบนี้หลายๆเครื่องทำให้ ซูเปอร์ประหยัดงบในการจ้างคนไปได้เยอะเลย วิธีการจ่ายก็ไม่ยาก (แต่ก็ทำเอาเรางงๆ เมื่อตอนจ่ายเงินกับเครื่องนี้ครั้งแรก) เอาตระกร้าวางลงบนตะแกรงด้านข้างของเครื่อง เพื่อให้เครื่องคำนวนน้ำหนักของๆที่เราซื้อวันนี้ทั้งหมด จากนั้นก็หยิบของ จากตระกร้าไปscan barcode ที่เครื่อง scan เสร็จก็เอามาวางใส่ในถุงที่ตระแกรงอีกข้าง ทำยังงี้ไปเรื่อยๆจนหมดค่ะ อันนี้ก็เป็นวิธีเช็ควิธีนึงว่าซูเปอร์จะไม่โดนลูกค้าโกง เพราะถ้าเมื่อใดที่น้ำหนักข้างขวาไม่เท่ากับข้างซ้าย เราจะจ่ายเงินไม่ได้ และเครื่องมันก็จะส่งเสียงร้อง เพื่อให้พนักงานมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เราจ่ายเงินแรกๆนี่เครื่องร้องบ่อยมาก เพราะเราไม่รู้ว่าน้ำหนักสองข้างต้องเท่ากัน คือพอเอาของวางอีกด้านเสร็จเราก็หยิบถุงออกมาวางข้างล่างเลย ซึ่งมันไม่ได้ เราต้องเอาของที่scan แล้วทุกอย่างไว้บนตะแกรงก่อนถึงจะจ่ายเงินได้

                                         
      Source: Organizedrage: 
    http://www.organizedrage.com/2012/01/tesco-by-introducing-self-scanning.html, 2012                   


     ทำอาหารกินเองนานเข้าๆ บางที่ก็ขี้เกียจ เราก็จะออกไปเปลี่ยนบรรยากาศตามร้านอาหารต่างๆบ้าง แต่ร้านที่ชอบที่สุดคือร้านอาหารไทยค่ะ แต่ร้านอาหารไทยจัดว่าเป็นร้านอาหารไฮโซของที่นี่ ดังนั้นราคามันเลยอัพตามนั้นด้วย เลยไม่มีโอกาสได้กินบ่อย เราเลยพยายามทำกินเองบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เรื่องเลย แบบทำออกมารสชาติไม่เหมือนที่อยากกินเลยอ่า T_T


                              ถ้าช่วงไหนไม่มีเงิน แต่ก็เบื่ออาหารที่ทำ (คือตอนนี้ทำเป็นไม่กี่อย่าง) ก็จะต้องพึ่ง McDonalds’, KFC, Subway, หรือBurger King เพราะถ้าเทียบราคากับร้านอาหารอื่นแล้ว กินพวกนี้ถูกกว่าค่ะ (แต่ราคายังแพงกว่าเมืองไทย2-3 เท่า) ในความคิดเห็นของเราไก่ทอด KFC ไม่ถูกปากเราเลย แบบเค้าทอดแล้วไม่กรอบเหมือนเมืองไทยเลยอ่า เราเลยกินสองครั้งเลิก


                            พูดมาถึงตรงนี้แล้วคิดถึงข้าวราดแกงจานละ30 บาทที่เมืองไทยที่สุด ไม่แพง แล้วยังอร่อยกว่าอาหารที่นี่ล้านเท่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×