คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : 8th step: สมัครNI กับงาน Part time ยอดฮิตของเด็กไทย
อย่างที่หลายๆคนทราบกันดีว่า ค่าครองชีพที่อังกฤษติดอันดับต้นๆของโลก เพื่อนๆหลายคนที่มัวแต่หลั่นล้า ช๊อปปิ้ง หรือท่องเที่ยวกันเพลินๆ อาจจะเกิดอาการช็อคเมื่อมาเช็คยอดเงินคงเหลือได้ หรือนักเรียนอีกหลายคนที่ไม่อยากรบกวนพ่อแม่ที่เมืองไทยเมื่อเรียนไปซักพัก ให้อยู่ตัวก่อนก็จะเริ่มออกหางานกัน งานPart-time สำหรับนักเรียนที่นี่ก็มีมากมาย ขึ้นอยู่กับความสามารถด้านภาษา และความไวในการสมัครงาน ส่วนมากถ้าเป็นงานพิเศษในมหาลัย พวกงานแคชเชียร์ หรือเป็นพนักงานในโรงอาหาร เราก็จะเจอแต่พวกฝรั่งเต็มไปหมด รวมถึงงานในซูเปอร์มาเก็ตแ ละตามshopต่างๆด้วย เหตุผลหนึ่งคือ นักเรียนเอเชียอาจมีทักษะด้านภาษาที่ด้อยกว่า ถ้าไปสมัครพร้อมกันเวลาเค้าเลือก เค้าก็ชอบเลือกฝรั่งก่อน ดังนั้นงานส่วนใหญ่ที่เด็กไทยที่นี่ทำคือ งานร้านอาหาร และส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารไทย แต่ถ้าทำงานร้านอาหารไทย ค่าจ้างต่อชั่วโมงจะได้ต่ำกว่าทำงานร้านอาหาราฝรั่ง คือ ได้ชั่วโมงละประมาณ 6 ปอนด์กว่า ขณะที่ถ้าทำร้านฝรั่งจะได้ 7 ปอนด์กว่า แต่สำหรับเพื่อนที่ไปทำร้านอาหารฝรั่งเล่าว่า เค้าไม่ให้ออกไปรับออเดอร์ ให้อยู่แต่ในครัว และก็ทำหน้าที่จัดอาหาร
อย่างไรก็ตามรายได้หลักของนักเรียนที่ทำร้านอาหารนอกจากค่าจ้างรายชั่วโมงแล้วก็คือทิปจากลูกค้านี่เอง และสำหรับร้านอาหารไทยในเมืองที่เราอยู่นั้นเป็นทิปรวม คือไม่ว่าคุณจะมีหน้าที่อะไรในร้าน จะได้เงินค่าทิปเท่ากันหมด โชคดีที่ร้านอาหารไทยที่นี่เป็นร้าน High-end คนที่มาทานส่วนมากเป็นคนมีเงิน ยิ่งถ้าใครทำงานช่วงวันศุกร์กับเสาร์ ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกค้าเยอะที่สุด ก็จะได้ค่าทิปมากเป็นพิเศษ โดยปกติ Part-time สำหรับร้านอาหารไทย เค้าจะให้ทำวันละ 5 ชั่วโมง คือเข้างาน 6 โมง เลิก 5 ทุ่ม…แต่บางร้านก็อาจต้องอยู่ดึกกว่านั้น ในขณะที่ได้เงินเท่าเดิม ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากทำ ต้องเช็คกันเองดีๆ เพราะร้านบางร้านก็เอาเปรียบเรา ทั้งๆที่เป็นคนชาติเดียวกัน
สำหรับวีซ่านักเรียน Full-time ของอังกฤษนั้น จะสามารถทำงานได้ 20 hrs/week สำหรับตัวเราคิดว่าเค้าให้ชั่วโมงมาเผื่อแล้ว เพราะถ้าทำงานมากกว่านี้ คงเรียนกันไม่ไหวแน่ เพราะมีเรียนทุกวัน และเรียนเต็มวันด้วย (แต่ถ้าไปถามนักเรียนอินเดียบางคน เค้าอาจตอบว่าน้อยเกินไป เพราะมีเพื่อนชาวอินเดียบางคน เวลานัดกลุ่ม ฮีจะไม่เคยว่าง สุดท้ายฮีก็บอกตรงๆว่าฮีมาทำงานเป็นจุดประสงค์หลัก เรียนเป็นเรื่องรอง…ก็เอากะเค้าสิT_T)
พูดมาถึงตรงนี้ หลายๆคนก็อาจจะอยากไปทำงาน Part-time บ้างอะไรบ้าง (ถือว่า ตัดเวลาเดินช๊อปปิ้ง ดูหนัง มาใช้ให้เป็นประโยชน์) ก่อนที่จะทำงานPart-time นั้น เราต้องโทรไปสมัคร National Insurance (NI) ก่อน ( เราต้องใช้เลขNI ในการจ่ายภาษ๊เงินได้ให้รัฐบาลอังกฤษอะค่ะ ซึ่งมันจะมีกำหนดรายได้ขั้นต่ำที่ต้องเสียภาษีไว้) จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะนัดวันเวลาให้เราเดินทางไปสัมภาษณ์ที่สำนักงาน (แต่เห็นเพื่อนบางคนบอกว่า บางทีเค้าก็จะส่งจดหมายมาให้เราส่งเอกสารตามที่เค้าแนบไว้กลับไปเฉยๆ คือไม่ต้องไปด้วยตัวเอง) อันนี้ก็อาจจะสุ่มเป็นคนๆไป แต่เราเจอแบบต้องไปสัมภาษณ์ พร้อมเอาเอกสารพวกวีซ่า พาสปอร์ต ไปด้วย ตอนสัมภาษณ์ก็ไม่มีไรมาก เค้าถามแค่ว่ามาสมัครNI เพื่ออะไร ตอนนี้เป็นนักเรียนที่ไหน นักเรียนจริงรึเปล่า ไหนเอาเอกสารมหาลัยมาดูสิ คืออารมณ์ว่ามาดูหน้าเฉยๆว่ามีโอกาสที่เราจะทำงานแล้วอยู่ยาวแบบพวกหลบหนีเข้าเมืองรึป่าว 555
Source: http://www.eazycityblog.com/wp-content/uploads/2013/01/national-insurance-number-FAQ.png
เมื่อสัมภาษณ์เสร็จก็ต้องรออีก 3-4 สัปดาห์ เพื่อที่เค้าจะส่งNI ตัวจริงมาให้ทางไปรษณ๊ย์ พอได้ปุ๊ป ทีนี่ก็เริ่มเอาไปสมัครงานได้แล้ว งานพิเศษ แบ่งกว้างๆได้เป็น แบบจ่ายเงินกับแบบไม่จ่ายเงิน
แบบจ่ายเงิน ก็เป็นงานทั่วไป พวกร้านอาหาร, แคชเชียร์, คนจัดของในซูเปอร์มาร์เก็ต, พนักงานเดินตั๋วหนัง, ผู้ช่วยผู้ป่วยในมหาวิทยาลัย ( อันนี้เราเห็นป้ายประกาศในมหาลัยค่ะ ได้เงินดีด้วย ), พี่เลี้ยงเด็ก (งานนี้แอบต้องระวังนิดนึงนะคะ ทางที่ดีให้อิงงานที่มารับสมัครผ่านทาง Student Union ในมหาลัยโดยตรงดีกว่า ถือเป็นการสกรีนไปหนึ่งขั้น จากนั้นพวกงานส่วนตัวแบบนี้ เจ้าของบ้านจะมีนัดสัมภาษณ์นักเรียนที่สนใจ สถานที่เท่าที่เห็นก็ โรงอาหารมหาลัยบ้าง คอฟฟี่ช๊อปในมหาลัยบ้างอะค่ะ) , งานของมหาลัยต่างๆ พวกผู้คุมสอบ, คนเก็บขยะ และอีกมากมาย
แบบไม่จ่ายเงิน อันนี้ส่วนใหญ่เป็นงานการกุศลนะคะ ที่เราเห็นเพื่อนเราทำคือ ไปช่วยเค้าฝึกน้องหมา ให้กลายเป็นน้องหมานำทางของคนตาบอด…เพื่อนเราช่างสวยและใจบุญจริงๆ^_^ ข้อดีมากๆเลยคือ ได้สังคมใหม่และได้ฝึกภาษากับคนอังกฤษแท้ๆเลยค่ะ ,งานพวกอาสาสมัครช่วยเหลือคนทั้งหลาย (ส่วนมากจะมาติดประกาศในมหาลัย), งานของคณะกรรมการนักเรียน, และเก๋กว่านั้น มีงานอาสาสมัครไปช่วยคนยากไร้ในประเทศโลกที่สามด้วยค่ะ อันนี้สำหรับคนชอบเที่ยวและมีหัวใจเพื่อมนุษย์โลก^_^
โดยสรุปคือ ถ้าเรียนไหว ไม่ได้ทุกทรมานกับการเรียนมากมาย การทำงานพิเศษ ถือเป็นกำไรชีวิตอย่างหนึ่ง เพราะนอกจากจะได้เงินจากน้ำพักน้ำแรงของเราเองแล้ว ยังเป็นการเปิดโลก ได้เจอเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ ที่เป็นคนที่เค้าทำงานกันจริงๆ อาจจะพบเจอบางมุมของชีวิต ที่จะช่วยหล่อหลอมให้เราแข็งแกร่งขึ้น ทั้งยังเป็นประสบการณ์ดีๆที่เราสามารถนำมาใช้ในภายภาคหน้าได้ อย่างไรก็ตามให้นึกเสมอว่าเรามาเรียน ดังนั้นเรื่องเรียนต้องเป็นเรื่องหลัก ถ้าการทำงานทำให้เราเรียนแย่ลง เราก็ไม่ควรทำแต่งานมากเกินไป เพราะถ้าเรียนไม่จบขึ้นมา ตัวเราก็จะแย่เอง เงินหาเมื่อไหร่ก็ได้ ยิ่งเมื่อเราเรียนจบแล้ว ยิ่งหาเงินได้มากกว่าที่ทำงานพิเศษนี้อีก ดังนั้นต้องทำให้สมดุลกัน
P.S สำหรับคนที่จะสมัคร NI นะคะ เราขอย้ำตรงนี้ว่า เค้าให้ทำฟรี ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น ที่ต้องมาย้ำตรงนี้เพราะ เพื่อนเราหลายคนโดนหลอก ให้สมัครผ่านนายหน้า เสียเงินคนละ 40 ปอนด์ และไม่อยากบอกเลยว่าคนที่มาหลอกก็เป็นคนไทยเราชาติเดียวกันนี่แหละ มันน่าช้ำใจนัก …เป็นอีกข้อคิดหนึ่งว่า มาไกลบ้าน ต้องรู้จักเอาตัวรอด และมีไหวพริบ อย่าเชื่อใครง่ายๆแม้แต่คนไทยด้วยกัน
ความคิดเห็น