คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทเรียนแรก
“ไม่” รีบปฏิเสธแม้ไม่ว่ารู้สามีต้องการขออะไรจากตน แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ สิ่งที่เขาขอคงไม่เป็นผลดีต่อเธอสักเท่าไหร่
“รู้รึ ว่าฉันต้องการอะไรจากเธอ” ดวงตาคู่คมเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟปรารถนาที่พยายามสื่อให้อีกคนได้รับรู้
“ไม่เอา” ร่างเล็กร้อนผ่าวไปทั้งตัว เมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อีกคนต้องการจากตน แม้จะไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากับใครมาก่อน แต่กานติมาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนถึงกับดูไม่ออก ว่าสามีต้องการอะไรจากตน
“ก็ไม่ได้เอาตอนนี้”
‘จะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่ให้เอา’
“คุณกันต์”
“เธอรู้ไหม ภรรยาที่ดีต้องปรนนิบัติสามียังไง” กันต์พิพัฒน์ไม่คาดหวังคำตอบจากภรรยา ไม่คาดหวังด้วยซ้ำว่าอีกคนจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
“ปล่อย”
“ภรรยาที่ดีต้องดูแลสามีในทุกเรื่อง รวมไปถึงเรื่องบนเตียง” ชายหนุ่มเว้นวรรค มองคนเขินอายจนเอียงหน้าหนี ก่อนพูดประโยคต่อมา “เรื่องอื่นนมนุ่มกับบัวแก้วคงสอนเธอได้ แต่เรื่องบนเตียง คงต้องเป็นฉันเท่านั้นที่จะสอนเธอ”
กานติมาอยากบอกสามีเหลือเกินว่า ไม่ต้องมาสอนเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากรู้
“งั้นเรามาเริ่มบทเรียนแรกกันเลย”
ไม่รอให้ภรรยาเห็นชอบด้วย กันต์พิพัฒน์โน้มลงแตะริมฝีปากบาง แต่ครั้งนี้ดุดันเร่าร้อนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ลิ้นร้อนสอดรอดผ่านเข้าไปกวาดชิมน้ำหวานทั่วโพรงปากนุ่ม กานติมากำเสื้อนอนบริเวณเอวสอบแน่นเพื่อระบายอารมณ์ใคร่ที่ไต่ขึ้นสูงเรื่อย
ผีเสื้อนับร้อยกำลังโบยบินในท้องและกำลังบินต่ำลง หัวใจดวงน้อยหวิวไหวเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะวาย ความเสียวซ่านกำลังเข้าครอบงำแม้ใจพยายามต่อต้านมัน แต่ร่างกายกับไม่เชื่อฟัง
ความชื้นแฉะบริเวณช่วงล่างคือสัญญาณเตือน กานติมากำลังหลงใหลในสิ่งที่สามีปรนเปรอให้จนคุมสติตัวเองไม่อยู่
กันต์พิพัฒน์สอนบทเรียนแรกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยกลัวว่านักเรียนจะไม่เข้าใจ เพราะบทเรียนแรกเป็นการปูพื้นฐานไปสู่บทเรียนต่อไป อธิบายซ้ำย้ำสอดแทรกเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่นักเรียนควรรู้เสริมเพิ่มเติมไปด้วย
“เราเรียนกันแค่นี้ก่อนนะ” แม้ใจอยากจะสอนจนจบบทรัก แต่ใจก็ยังมีภาพเงาผู้เป็นพ่อทับซ้อน ถึงตอนนี้การติมาจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แต่ครั้งหนึ่ง เธอก็เคยเป็นภรรยาของพ่อเขามาก่อน
กันต์พิพัฒน์ยันกายลงจากร่างบางที่ยังนอนหายใจหอบกระเส่า กลัดกระดุมที่หลุดออกด้วยฝีมือเขาให้กลับเข้าที่ สุดท้ายดึงผ้าห่มที่ถอยร่นจนไปกองที่พื้นขึ้นมาสะบัดแล้วคลุมลงไปบนร่างกานติมา
‘เกือบไปแล้ว’ กานติมาผ่อนลมหายใจจนการเต้นของหัวใจกลับมาปกติ อยากจะลุกหนีกลับห้องเพราะกลัวสามีจะสอนบทเรียนรักอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะอยู่ต่อ
“อ้า…”
กันต์พิพัฒน์ครางกระเส่ามือสาวรั้งรูดขึ้นลง ในชั่วขณะหนึ่งใบหน้าของภรรยาที่ถูกเขาสอนบทจูบก็ลอยเข้ามา ยิ่งกระตุ้นความกระสันให้พุ่งสูงขึ้นจนปะทุออกมาเป็นลาวาขาวข้นเปื้อนเต็มมือ
“เราเป็นอะไรไป” ชายหนุ่มถามอีกคนที่อยู่ในกระจก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะใช้กานติมาเป็นตัวช่วยในการระบายอารมณ์
หัวใจเขา มันเริ่มไม่ปกติแล้ว…
“อุ้ย! นี่รอยอะไรคะคุณกานต์”
กานติมารีบหันกลับเข้าไปในห้องน้ำที่ตนเพิ่งออกมา ส่องกระจกมองหารอยที่บัวแก้วบอก
“คุณกันต์” รอยแดงจ้ำอยู่บริเวณคอในส่วนที่กานติมาไม่ทันสังเกตเห็น ตอนแรกคิดว่าเมื่อคืนตัวเองโดนมดกันเลยไม่ทันคิดอะไร แต่พอนึกย้อนว่าช่วงนั้นตนกำลังทำอะไรอยู่กับสามี ริ้วแดงก็พาดผ่านแก้มใสขึ้นมา
“แหม รู้สึกว่าจะคืบหน้าไปเยอะนะคะ” ออกมาก็โดนบัวแก้วล้อซ้ำเพิ่มความอายเข้าไปอีก
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ กานต์โดนมดกัด”
“แปลกจัง บ้านเราก็ออกจะสะอาด ฝุ่นสักเม็ดยังไม่มี แล้วมดพวกนี้มันมาจากไหนล่ะคะ” บัวแก้วรู้ดีว่ามดตัวนั้นคือใคร
กานติมาเม้มปากแน่น คิดหาคำแก้ตัวไม่ถูก โดนบัวแก้วไล่ต้อนจนหาทางออกไม่เจอ เลยก้มหน้าซ่อนความเขินอายหนีหน้าพี่เลี้ยง
“คุณกานต์ค่ะ พี่บัวว่าคุณกันต์เองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถึงเมื่อก่อนจะใจร้ายกับคุณหนู แต่หลังจากแต่งงาน พี่บัวว่าคุณกันต์เธอเปลี่ยนไปนะคะ”
ไม่ใช่แค่บัวแก้วหรอกที่สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของกันต์พิพัฒน์ เธอเองผู้ซึ่งถือสถานะภรรยาก็รับรู้แบบนั้นเช่นกัน
เช้ามาก็มีเรื่องให้กันต์พิพัฒน์ได้ปวดหัวก่อนไปทำงาน ปัญหานั่นก็ไม่ได้มาจากใครที่ไหน
อิงอรและทักษอร…
“ถ้าคุณกันต์รับยัยเชอร์รี่เข้าทำงาน พวกอาก็จะมีรายได้ พอตั้งตัวเราก็จะไปจากที่นี่”
“แล้วน้องเรียนจบอะไรมาครับ”
อิงอรหน้าเสียหันมองลูกสาวเพราะไม่รู้จะตอบหลานชายอย่างไร
“คะ คือเชอร์รี่เรียนจบ ปวส. ค่ะ” แถมจบมาแบบเกรดเฉลี่ยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
ชนิดว่าต้องแก้เกรดแล้วแก้อีก
“แล้วเธอเคยทำงานอะไรมา”
“เชอร์รี่เป็นนักแสดงค่ะ เล่นละครมาสองสามเรื่อง”
กันต์พิพัฒน์เลิกคิ้วสูง ไม่ได้ตรงกับสายงานอะไรเลย มองตรงไหนก็ไม่มีงานอะไรในบริษัทที่ทักษอรจะทำได้
“ให้น้องเป็นผู้ช่วยคุณกันต์ก็ได้ค่ะ”
“ตำแหน่งนั้นคงไม่ได้หรอกครับ ผมจำเป็นต้องใช้มืออาชีพ”
“งั้นให้น้องคอยรับใช้คุณกันต์ก็ได้ค่ะ” อิงอรไม่ยอมแพ้ ยังไงเธอก็จะทำทุกทางเพื่อให้ลูกสาวได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหลานชาย
“บริษัทผมมีแม่บ้านครับ”
“ถ้าเราไม่มีรายได้เข้ามา เราก็ต้องพึ่งพาคุณกันต์”
พอมาถึงตรงนี้กันต์พิพัฒน์เริ่มเปลี่ยนความคิด จริงอย่างที่อิงอรพูด ถ้าพวกคุณอาไม่มีรายได้ก็ต้องอาศัยอยู่ที่นี่ไปอีกนาน หรืออาจตลอดไป แต่ถ้าทั้งคู่มีรายได้พอเลี้ยงตัว การจะให้ออกจากบ้านนี้ก็คงไม่น่าเกลียด
“ก็ได้ครับ ส่วนจะทำในตำแหน่งอะไร ผมขอดูก่อน”
“ขอบคุณนะคะพี่กันต์” ทักษอรลุกจากเก้าอี้มานั่งกอดแขนชายหนุ่ม พยายามใช้หน้าอกคัพอีเบียดเสียดที่ท่อนแขนแกร่ง
พรึ่บ!
ทักษอรหงายท้องนอนแผ่ อยู่ ๆ กันต์พิพัฒน์ก็ลุกพรวดไม่ให้เธอตั้งตัว เมื่อมองตามก็เห็นว่าใครที่ทำให้เธอมานอนหงายท้องอยู่ตรงนี้
“มาช้านะ” อิงอรว่า
“ขอโทษค่ะ” กานติมายกมือไหว้ขอโทษ เธอลงมาช้าไปเกือบ 10 นาที เพราะต้องให้พี่บัวแก้วทาคอลซีลเลอร์ปิดรอยแดงที่ใครอีกคนทำไว้
“ไม่สบายหรือเปล่า” กันต์พิพัฒน์ถาม ปกติกานติมาและบัวแก้วเป็นคนตรงเวลาเสมอ
“ไม่ค่ะ”
“แล้วนี่เธอต้องไปรับยงรับยาแก้บ้าหรือเปล่า” อยู่ ๆ อิงอรก็ถามขึ้นมาไม่ให้คนถูกถามได้ทันตั้งตัวจนต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่เลี้ยง
“ปะ ไปค่ะ คุณหนูต้องไปหาหมอทุกเดือน”
“ใครเป็นคนพาไปครับ” กันต์พิพัฒน์ถามบัวแก้ว
“ลุงชุ่มค่ะ”
“งั้นเดือนนี้ผมจะพาไปเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวบัวกับลุงชุ่มพาคุณหนูไปเอง” ขืนให้คุณกันต์พาไปความได้แตกพอดี
“ตอนนี้คุณกานต์แต่งงานแล้ว หน้าที่ตรงนี้ควรจะเป็นผม”
“บัวไม่อยากรบกวนคุณกันต์”
“ไม่รบกวนหรอกครับ เพราะกานติมาคือภรรยาผม”
แล้วกานติมากับบัวแก้วจะพูดอะไรได้ ทั้งคู่คงต้องคิดหาทางรอดกันต่อไป
หลังใช้เวลาในการหาตำแหน่งงานถึง 3 วัน ภาคภูมิก็เดินหน้าเศร้ามาแจ้งข่าวร้ายให้เจ้านายรู้ว่า ในบริษัทไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมกับความรู้และประสบการณ์ของทักษอรเลย
คุณเลขาเลยคิดหาทางออกให้เจ้านาย เพราะดูแล้ว อย่างไรก็คงต้องรับหญิงสาวคนนี้เข้าทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
ภาคภูมิเสนอให้กันต์พิพัฒน์รับทักษอรเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยของเขาเพราะเหมือนเป็นการสร้างโปรไฟล์ให้เจ้านายตน ทักษอรมีหน้าตาที่สะสวย จะทำให้การออกพบลูกค้าในแต่ละครั้งดูมีสีสัน และเธอน่าจะสามารถช่วยเขาซึ่งเป็นผู้ชาย ช่วยดูแลแขกของเจ้านายได้ดีกว่าด้วย
กันต์พิพัฒน์เองก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะรับเธอเข้าทำงาน
“เชอร์รี่ขอไปด้วยได้ไหมคะ” ทักษอรรุกต่อ
“รถเธอก็มี”
“เรามีรถแค่คันเดียว ยังไงอาขอไว้ใช้เถอะนะคุณกันต์” อิงอรแทรกขึ้นมา
กันต์พิพัฒน์เหนื่อยที่จะหาข้อโต้แย้งกับ 2 แม่ลูก เลยจำยอมให้ทักษอรอาศัยติดรถไปทำงานด้วย แต่ก็แค่ชั่วคราว
ทักษอรกระโดดดีใจเข้าไปยืนเกาะแขนชายหนุ่ม โดยไม่สนใจเลยว่าเมียเขากำลังยืนมองอยู่
“พี่บัวครับ คุณกานต์ต้องไปหาหมอวันไหนครับ” กันต์พิพัฒน์หันไปถามพี่เลี้ยงภรรยาที่ยืนอยู่ข้างกัน
“วันพรุ่งนี้ค่ะ”
“พรุ่งนี้หรือครับ”
“ใช่ค่ะ”
“เราขอเลื่อนนัดได้ไหมครับ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะยาที่คุณหมอจัดให้พอดีกับวันนัดเลย” บัวแก้วแอบมองคุณหนูกานต์ส่งยิ้มให้กัน ก่อนกลับมาปั้นหน้าแสดงละครต่อ “ถ้าคุณกันต์ไม่ว่าง เดี๋ยวเราไปกับลุงชุ่มก็ได้ค่ะ”
“อืม ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมบอกอีกทีนะ” ชายหนุ่มพูดเสร็จก็ขยับมายืนตรงหน้าภรรยาที่กำลังถือกระเป๋าทำงานของเขา “ผมไปทำงานแล้วนะ อยู่บ้านก็อย่าซนล่ะ”
“ค่ะ กานต์ไม่ซน” กานติมารับคำสั่ง
ฟอด!
ไม่ทันตั้งตัว คุณสามีโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มภรรยาฟอดใหญ่ เล่นเอาคนถูกหอมเขินอายจนหน้าแดง ก่อนกระซิบประโยคต่อมาที่เล่นเอากานติมาแทบลมใส่
“คืนนี้ผมจะสอนบทเรียนที่สองให้นะครับ คุณภรรยา”
ความคิดเห็น