NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภรรยาบ้าของคุณกันต์

    ลำดับตอนที่ #9 : บทเรียนแรก

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 67


          

             “ไม่” รีบปฏิเสธแม้ไม่ว่ารู้สามีต้องการขออะไรจากตน แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ สิ่งที่เขาขอคงไม่เป็นผลดีต่อเธอสักเท่าไหร่

              “รู้รึ ว่าฉันต้องการอะไรจากเธอ” ดวงตาคู่คมเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟปรารถนาที่พยายามสื่อให้อีกคนได้รับรู้

              “ไม่เอา” ร่างเล็กร้อนผ่าวไปทั้งตัว เมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อีกคนต้องการจากตน แม้จะไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากับใครมาก่อน แต่กานติมาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนถึงกับดูไม่ออก ว่าสามีต้องการอะไรจากตน

              “ก็ไม่ได้เอาตอนนี้”

              ‘จะตอนนี้หรือตอนไหนก็ไม่ให้เอา’

              “คุณกันต์”

              “เธอรู้ไหม ภรรยาที่ดีต้องปรนนิบัติสามียังไง” กันต์พิพัฒน์ไม่คาดหวังคำตอบจากภรรยา ไม่คาดหวังด้วยซ้ำว่าอีกคนจะเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

              “ปล่อย”

              “ภรรยาที่ดีต้องดูแลสามีในทุกเรื่อง รวมไปถึงเรื่องบนเตียง” ชายหนุ่มเว้นวรรค มองคนเขินอายจนเอียงหน้าหนี ก่อนพูดประโยคต่อมา “เรื่องอื่นนมนุ่มกับบัวแก้วคงสอนเธอได้ แต่เรื่องบนเตียง คงต้องเป็นฉันเท่านั้นที่จะสอนเธอ”

              กานติมาอยากบอกสามีเหลือเกินว่า ไม่ต้องมาสอนเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากรู้

              “งั้นเรามาเริ่มบทเรียนแรกกันเลย”

              ไม่รอให้ภรรยาเห็นชอบด้วย กันต์พิพัฒน์โน้มลงแตะริมฝีปากบาง แต่ครั้งนี้ดุดันเร่าร้อนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ลิ้นร้อนสอดรอดผ่านเข้าไปกวาดชิมน้ำหวานทั่วโพรงปากนุ่ม กานติมากำเสื้อนอนบริเวณเอวสอบแน่นเพื่อระบายอารมณ์ใคร่ที่ไต่ขึ้นสูงเรื่อย

              ผีเสื้อนับร้อยกำลังโบยบินในท้องและกำลังบินต่ำลง หัวใจดวงน้อยหวิวไหวเต้นระรัวจนกลัวว่ามันจะวาย ความเสียวซ่านกำลังเข้าครอบงำแม้ใจพยายามต่อต้านมัน แต่ร่างกายกับไม่เชื่อฟัง

              ความชื้นแฉะบริเวณช่วงล่างคือสัญญาณเตือน กานติมากำลังหลงใหลในสิ่งที่สามีปรนเปรอให้จนคุมสติตัวเองไม่อยู่

              กันต์พิพัฒน์สอนบทเรียนแรกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยกลัวว่านักเรียนจะไม่เข้าใจ เพราะบทเรียนแรกเป็นการปูพื้นฐานไปสู่บทเรียนต่อไป อธิบายซ้ำย้ำสอดแทรกเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่นักเรียนควรรู้เสริมเพิ่มเติมไปด้วย

              “เราเรียนกันแค่นี้ก่อนนะ” แม้ใจอยากจะสอนจนจบบทรัก แต่ใจก็ยังมีภาพเงาผู้เป็นพ่อทับซ้อน ถึงตอนนี้การติมาจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แต่ครั้งหนึ่ง เธอก็เคยเป็นภรรยาของพ่อเขามาก่อน

              กันต์พิพัฒน์ยันกายลงจากร่างบางที่ยังนอนหายใจหอบกระเส่า กลัดกระดุมที่หลุดออกด้วยฝีมือเขาให้กลับเข้าที่ สุดท้ายดึงผ้าห่มที่ถอยร่นจนไปกองที่พื้นขึ้นมาสะบัดแล้วคลุมลงไปบนร่างกานติมา

              ‘เกือบไปแล้ว’ กานติมาผ่อนลมหายใจจนการเต้นของหัวใจกลับมาปกติ อยากจะลุกหนีกลับห้องเพราะกลัวสามีจะสอนบทเรียนรักอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะอยู่ต่อ 

              “อ้า…” 

              กันต์พิพัฒน์ครางกระเส่ามือสาวรั้งรูดขึ้นลง ในชั่วขณะหนึ่งใบหน้าของภรรยาที่ถูกเขาสอนบทจูบก็ลอยเข้ามา ยิ่งกระตุ้นความกระสันให้พุ่งสูงขึ้นจนปะทุออกมาเป็นลาวาขาวข้นเปื้อนเต็มมือ

              “เราเป็นอะไรไป” ชายหนุ่มถามอีกคนที่อยู่ในกระจก ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะใช้กานติมาเป็นตัวช่วยในการระบายอารมณ์ 

              หัวใจเขา มันเริ่มไม่ปกติแล้ว…

     

              “อุ้ย! นี่รอยอะไรคะคุณกานต์” 

              กานติมารีบหันกลับเข้าไปในห้องน้ำที่ตนเพิ่งออกมา ส่องกระจกมองหารอยที่บัวแก้วบอก

              “คุณกันต์” รอยแดงจ้ำอยู่บริเวณคอในส่วนที่กานติมาไม่ทันสังเกตเห็น ตอนแรกคิดว่าเมื่อคืนตัวเองโดนมดกันเลยไม่ทันคิดอะไร แต่พอนึกย้อนว่าช่วงนั้นตนกำลังทำอะไรอยู่กับสามี ริ้วแดงก็พาดผ่านแก้มใสขึ้นมา

              “แหม รู้สึกว่าจะคืบหน้าไปเยอะนะคะ” ออกมาก็โดนบัวแก้วล้อซ้ำเพิ่มความอายเข้าไปอีก

              “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ กานต์โดนมดกัด”

              “แปลกจัง บ้านเราก็ออกจะสะอาด ฝุ่นสักเม็ดยังไม่มี แล้วมดพวกนี้มันมาจากไหนล่ะคะ” บัวแก้วรู้ดีว่ามดตัวนั้นคือใคร

              กานติมาเม้มปากแน่น คิดหาคำแก้ตัวไม่ถูก โดนบัวแก้วไล่ต้อนจนหาทางออกไม่เจอ เลยก้มหน้าซ่อนความเขินอายหนีหน้าพี่เลี้ยง

              “คุณกานต์ค่ะ พี่บัวว่าคุณกันต์เองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถึงเมื่อก่อนจะใจร้ายกับคุณหนู แต่หลังจากแต่งงาน พี่บัวว่าคุณกันต์เธอเปลี่ยนไปนะคะ”

              ไม่ใช่แค่บัวแก้วหรอกที่สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของกันต์พิพัฒน์ เธอเองผู้ซึ่งถือสถานะภรรยาก็รับรู้แบบนั้นเช่นกัน

              

              เช้ามาก็มีเรื่องให้กันต์พิพัฒน์ได้ปวดหัวก่อนไปทำงาน ปัญหานั่นก็ไม่ได้มาจากใครที่ไหน

              อิงอรและทักษอร…

              “ถ้าคุณกันต์รับยัยเชอร์รี่เข้าทำงาน พวกอาก็จะมีรายได้ พอตั้งตัวเราก็จะไปจากที่นี่”

              “แล้วน้องเรียนจบอะไรมาครับ”

              อิงอรหน้าเสียหันมองลูกสาวเพราะไม่รู้จะตอบหลานชายอย่างไร

              “คะ คือเชอร์รี่เรียนจบ ปวส. ค่ะ” แถมจบมาแบบเกรดเฉลี่ยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

    ชนิดว่าต้องแก้เกรดแล้วแก้อีก

              “แล้วเธอเคยทำงานอะไรมา”

              “เชอร์รี่เป็นนักแสดงค่ะ เล่นละครมาสองสามเรื่อง”

              กันต์พิพัฒน์เลิกคิ้วสูง ไม่ได้ตรงกับสายงานอะไรเลย มองตรงไหนก็ไม่มีงานอะไรในบริษัทที่ทักษอรจะทำได้

              “ให้น้องเป็นผู้ช่วยคุณกันต์ก็ได้ค่ะ”

              “ตำแหน่งนั้นคงไม่ได้หรอกครับ ผมจำเป็นต้องใช้มืออาชีพ” 

              “งั้นให้น้องคอยรับใช้คุณกันต์ก็ได้ค่ะ” อิงอรไม่ยอมแพ้ ยังไงเธอก็จะทำทุกทางเพื่อให้ลูกสาวได้มีโอกาสใกล้ชิดกับหลานชาย

              “บริษัทผมมีแม่บ้านครับ”

              “ถ้าเราไม่มีรายได้เข้ามา เราก็ต้องพึ่งพาคุณกันต์”

              พอมาถึงตรงนี้กันต์พิพัฒน์เริ่มเปลี่ยนความคิด จริงอย่างที่อิงอรพูด ถ้าพวกคุณอาไม่มีรายได้ก็ต้องอาศัยอยู่ที่นี่ไปอีกนาน หรืออาจตลอดไป แต่ถ้าทั้งคู่มีรายได้พอเลี้ยงตัว การจะให้ออกจากบ้านนี้ก็คงไม่น่าเกลียด

              “ก็ได้ครับ ส่วนจะทำในตำแหน่งอะไร ผมขอดูก่อน”

              “ขอบคุณนะคะพี่กันต์” ทักษอรลุกจากเก้าอี้มานั่งกอดแขนชายหนุ่ม พยายามใช้หน้าอกคัพอีเบียดเสียดที่ท่อนแขนแกร่ง

              พรึ่บ!

              ทักษอรหงายท้องนอนแผ่ อยู่ ๆ กันต์พิพัฒน์ก็ลุกพรวดไม่ให้เธอตั้งตัว เมื่อมองตามก็เห็นว่าใครที่ทำให้เธอมานอนหงายท้องอยู่ตรงนี้

              “มาช้านะ” อิงอรว่า

              “ขอโทษค่ะ” กานติมายกมือไหว้ขอโทษ เธอลงมาช้าไปเกือบ 10 นาที เพราะต้องให้พี่บัวแก้วทาคอลซีลเลอร์ปิดรอยแดงที่ใครอีกคนทำไว้

              “ไม่สบายหรือเปล่า” กันต์พิพัฒน์ถาม ปกติกานติมาและบัวแก้วเป็นคนตรงเวลาเสมอ 

              “ไม่ค่ะ”

              “แล้วนี่เธอต้องไปรับยงรับยาแก้บ้าหรือเปล่า” อยู่ ๆ อิงอรก็ถามขึ้นมาไม่ให้คนถูกถามได้ทันตั้งตัวจนต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่เลี้ยง

              “ปะ ไปค่ะ คุณหนูต้องไปหาหมอทุกเดือน”

              “ใครเป็นคนพาไปครับ” กันต์พิพัฒน์ถามบัวแก้ว

              “ลุงชุ่มค่ะ”

              “งั้นเดือนนี้ผมจะพาไปเอง”

              “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวบัวกับลุงชุ่มพาคุณหนูไปเอง” ขืนให้คุณกันต์พาไปความได้แตกพอดี

              “ตอนนี้คุณกานต์แต่งงานแล้ว หน้าที่ตรงนี้ควรจะเป็นผม”

              “บัวไม่อยากรบกวนคุณกันต์”

              “ไม่รบกวนหรอกครับ เพราะกานติมาคือภรรยาผม”

              แล้วกานติมากับบัวแก้วจะพูดอะไรได้ ทั้งคู่คงต้องคิดหาทางรอดกันต่อไป

     

              หลังใช้เวลาในการหาตำแหน่งงานถึง 3 วัน ภาคภูมิก็เดินหน้าเศร้ามาแจ้งข่าวร้ายให้เจ้านายรู้ว่า ในบริษัทไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมกับความรู้และประสบการณ์ของทักษอรเลย

              คุณเลขาเลยคิดหาทางออกให้เจ้านาย เพราะดูแล้ว อย่างไรก็คงต้องรับหญิงสาวคนนี้เข้าทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้

              ภาคภูมิเสนอให้กันต์พิพัฒน์รับทักษอรเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยของเขาเพราะเหมือนเป็นการสร้างโปรไฟล์ให้เจ้านายตน ทักษอรมีหน้าตาที่สะสวย จะทำให้การออกพบลูกค้าในแต่ละครั้งดูมีสีสัน และเธอน่าจะสามารถช่วยเขาซึ่งเป็นผู้ชาย ช่วยดูแลแขกของเจ้านายได้ดีกว่าด้วย

              กันต์พิพัฒน์เองก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะรับเธอเข้าทำงาน

     

              “เชอร์รี่ขอไปด้วยได้ไหมคะ” ทักษอรรุกต่อ

              “รถเธอก็มี”

              “เรามีรถแค่คันเดียว ยังไงอาขอไว้ใช้เถอะนะคุณกันต์” อิงอรแทรกขึ้นมา

              กันต์พิพัฒน์เหนื่อยที่จะหาข้อโต้แย้งกับ 2 แม่ลูก เลยจำยอมให้ทักษอรอาศัยติดรถไปทำงานด้วย แต่ก็แค่ชั่วคราว

              ทักษอรกระโดดดีใจเข้าไปยืนเกาะแขนชายหนุ่ม โดยไม่สนใจเลยว่าเมียเขากำลังยืนมองอยู่

              “พี่บัวครับ คุณกานต์ต้องไปหาหมอวันไหนครับ” กันต์พิพัฒน์หันไปถามพี่เลี้ยงภรรยาที่ยืนอยู่ข้างกัน

              “วันพรุ่งนี้ค่ะ”

              “พรุ่งนี้หรือครับ”

              “ใช่ค่ะ”

              “เราขอเลื่อนนัดได้ไหมครับ”

            “ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะยาที่คุณหมอจัดให้พอดีกับวันนัดเลย” บัวแก้วแอบมองคุณหนูกานต์ส่งยิ้มให้กัน ก่อนกลับมาปั้นหน้าแสดงละครต่อ “ถ้าคุณกันต์ไม่ว่าง เดี๋ยวเราไปกับลุงชุ่มก็ได้ค่ะ”

           “อืม ยังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมบอกอีกทีนะ” ชายหนุ่มพูดเสร็จก็ขยับมายืนตรงหน้าภรรยาที่กำลังถือกระเป๋าทำงานของเขา “ผมไปทำงานแล้วนะ อยู่บ้านก็อย่าซนล่ะ”

              “ค่ะ กานต์ไม่ซน” กานติมารับคำสั่ง 

              ฟอด!

              ไม่ทันตั้งตัว คุณสามีโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มภรรยาฟอดใหญ่ เล่นเอาคนถูกหอมเขินอายจนหน้าแดง ก่อนกระซิบประโยคต่อมาที่เล่นเอากานติมาแทบลมใส่

              “คืนนี้ผมจะสอนบทเรียนที่สองให้นะครับ คุณภรรยา”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×