คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : อยากรู้ก็ต้องพิสูจน์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาครับ” รอจนคนในห้องอนุญาต กานติมาจับลูกบิดประตูเปิดเข้าไป
“นม” เพราะเจ้าของห้องมัวแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านอะไรบางอย่างในไอแพดอยู่ กานติมาไม่รู้จะวางมันไว้ตรงไหน เลยส่งเสียงให้อีกคนรู้ตัว
“อ้าว ทำไมเป็นเธอ” กันต์พิพัฒน์รีบเงยหน้ามองเพราะจำเสียงได้ว่าเป็นใคร และแปลกใจว่าคนบ้านนี้ไปไหนกันหมด คนที่ยกแก้วนมมาให้เขาถึงได้กลายเป็นกานติมา
“นม” กานติมาตอบไม่ตรงคำถาม แต่บอกจุดประสงค์การมาของตัวเองอีกครั้ง
“เอาวางบนโต๊ะ”
กานติมาย่อตัวลงช้า ๆ โดยมีกันต์พิพัฒน์เฝ้ามองอากัปกิริยาด้วยความแปลกใจที่คนบ้าแลดูจะมีมารยาทมากกว่าคนปกติด้วยซ้ำ
“จะนอนหรือยัง” เห็นภรรยาลุกยืนหันหลังให้ กันต์พิพัฒน์รีบรั้งไว้
“ยังค่ะ” เธอตอบตามจริง ดื่มนมไปคงอีกสักพักถึงจะนอนหลับ
“งั้นอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิ” ชายหนุ่มตบลงบนโซฟาข้างกัน กานติมาหันหน้าหันหน้าหาทางปฏิเสธ แต่เป็นสามีที่ไวกว่า คว้ามือดึงภรรยาให้นั่งลงข้างกัน
หญิงสาวไม่เข้าใจว่าเขาต้องการให้เธออยู่ด้วยทำไม เพราะต่อจากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาระหว่างกันเลย
กันต์พิพัฒน์นั่งอ่านข้อมูลของบริษัทที่จะเข้ามาร่วมทุนหลังดื่มนมที่ภรรยาเอามาให้จนหมดแก้ว รายละเอียดและผลงานที่ผ่านมาของบริษัทจากจีนฮ่องกงเป็นที่น่าพอใจ ผลประกอบการที่พุ่งสูงขึ้นทุกปีในแบบที่ไม่มีอะไรผิดปกติ รวมไปถึงประวัติเจ้าของบริษัทที่ใสสะอาดก็เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจทุกวันนี้ เพราะไม่รู้ว่าวันใดวันหนึ่งบริษัทของตนจะกลายเป็นที่ฟอกเงินของกลุ่มธุรกิจสีเทาหรือเปล่า
การลงทุนในแต่ละครั้ง เม็ดเงินที่ลงไปไม่ใช่จำนวนน้อย ยิ่งลงทุนมากยิ่งเพิ่มความเสี่ยงขึ้น เจ้าของบริษัทอย่างกันต์พิพัฒน์ต้องพิจารณาเรื่องพวกนี้ให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะถ้าพลาดพลั้งเท่ากับการขาดทุน ถึงตอนนั้นเขาคิดจะขายกิจการ ก็คงทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ
“ง่วงยัง” ถามคนนั่งข้างทั้งที่ตายังคงมองอ่านข้อมูลในเครื่อง แต่พอไม่ได้คำตอบเลยเรียกซ้ำ “กานติมา”
“………..” ได้เพียงความเงียบตอบกลับมา
กันต์พิพัฒน์ละสายตาจากไอแพดหันมองคนนั่งข้างกัน จนได้เห็นว่า กานติมานั่งหลับหัวพิงผนักโซฟาไปแล้ว
“ง่วงแล้วทำไมไม่บอกกัน” บ่นเฉย ๆ ไม่ได้ว่าจริงจังอะไร และคิดว่าอีกคนคงกลัวตนจนไม่กล้าบอก ปกติเจอหน้ากัน เขาไม่เคยมีรอยยิ้มให้ภรรยาอยู่แล้ว ไม่ผิดหรอกที่อีกฝ่ายจะกลัวเขา
กันต์พิพัฒน์เอื้อมมือหมายจะเขย่าตัวปลุกภรรยาให้ตื่น เพื่อให้กลับไปนอนที่ห้องเธอซึ่งอยู่ติดกัน แต่ดันมีคนเคาะประตูห้องเขาเสียก่อน
“หรือจะเป็นบัว” คิดเอาเองว่ากานติมาหายตัวมานานพี่เลี้ยงคงเป็นห่วงจนออกตามหา เลยมาเคาะเรียกที่ห้องตน
“คือ เชอร์รี่นอนไม่หลับ เลยอยากหาเพื่อนคุยค่ะ” ทันที่เปิดประตูแขกผู้มาเยือนในยามวิกาลก็บอกจุดประสงค์ของการมาทันที
“พี่ว่าเวลานี้ไม่เหมาะเท่าไหร่นะ” แล้วไหนจะยังชุดนอนที่เหมือนไม่ได้สวมใสอะไรของอีกคน นมแทบจะทิ่มตาเขาอยู่แล้ว
“เวลานี้เหมาะที่สุดแล้วค่ะ พี่กันต์ว่าไหม” หญิงสาวส่งสายตาสื่อความนัยให้อีกคนได้รู้ มือเรียวจับสายชุดนอนเล็กจิ๋วให้เลื่อนต่ำลง เปิดหน้าอกหน้าใจทะล้นลักให้อีกฝ่ายเห็นเต็มตา
กันต์พิพัฒน์เองก็เป็นผู้ชายมีเลือดมีเนื้อและมีความต้องการเรื่องของเพศ ไม่ต่างจากคนหนุ่มทั่วไป แต่ที่ต่างคือเขามีภรรยาแล้ว แม้จะเป็นภรรยาที่ไม่ได้เต็มใจจะรับ เป็นภรรยาที่ไม่เคยคิดรัก แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเขาแล้ว
“เธอกลับไปเถอะ พี่จะนอนแล้ว” ชายหนุ่มปฏิเสธนุ่มนวล อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าเป็นลูกของอาพิศาล
“งั้น…ขอเชอร์รี่นอนเป็นเพื่อนนะคะ”
“คุณกันต์ค่ะ”
บัวแก้วที่เดินตามหาเจ้านายสาวจนมาพบเหตุการณ์น่าอดสูตรงหน้าพอดี รีบเรียกเจ้านายหนุ่มที่กำลังถูกชะนีเผือกดันอกให้ถอยหลังกลับเข้าห้อง
“ครับ พี่บัว” กันต์พิพัฒน์โล่งอก ที่บัวแก้วมาช่วยเขาได้ทัน
“คุณกันต์เห็นคุณกานต์ไหมคะ” บัวแก้วยืนเบียดทักษอรจนเจ้าหล่อนต้องยอมหลีกทางให้
“นอนอยู่ข้างในครับ”
“อ้าว บัวก็หาตั้งนาน ที่ไหนได้มานอนห้องสามีนี่เอง” ปลายประโยคแอบชำเลืองมองคนข้าง ๆ ไปแว็บนึง แต่งตัวอะไรก็ไม่รู้ เห็นแล้วหนาวแทน
“คุณกานต์หลับอยู่ ถ้ายังไงคืนนี้ให้เขานอนกับผมก็ได้ครับ” กันต์พิพัฒน์ได้ทียกกานติมาขึ้นมาเป็นโล่ให้ตัวเอง
ทักษอรที่ไม่มีบทพูดทำได้แค่ยืนปากอ้าตาถลน ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนกำลังได้ยินได้ฟังอยู่ในตอนนี้เลย ไหนข่าวที่แม่เธอบอกมา ว่ากันต์พิพัฒน์เกลียดกานติมายิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน ขนาดก่อนวันแต่งงานยังพาผู้หญิงมานอนเอาเย้ยว่าที่เมียถึงข้างห้อง ทำไมมันถึงกลับตาลปัตรขนาดนี้
“ดีเลยค่ะคุณกันต์ บัวฝากคุณหนูด้วยนะคะ” บัวแก้วดีใจเป็นที่สุด ที่คุณกันต์เปิดใจรับคุณหนูของเธอ ส่วนอีกคนที่ยืนเป็นใบ้อยู่ข้างกายนั้น “คุณเชอร์รี่ไม่ง่วงรึคะ ไปค่ะ เดี๋ยวบัวไปส่งที่ห้อง” ไม่รอให้อีกคนอนุญาต บัวแก้วจูงมือ ทักษอรมายังห้องตรงข้าม
“ดะ..”
“หลับฝันดีนะคะคุณเชอร์รี่” บัวแก้วยอมเสียมารยาทกับคนไร้มารยาท เธอเปิดประตูแล้วดันทักษอรเข้าห้องปิดประตูให้อย่างดิบดี
ฝั่งกันต์พิพัฒน์ที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอมยิ้มหัวเราะเบา ๆ ให้กับการทำหน้าที่อย่างขันแข็งของบัวแก้ว เห็นทีสิ้นปีนี้คงต้องมีโบนัสให้แล้ว
บัวแก้วหันมาก้มหัวให้เจ้านายหนุ่มก่อนเดิมฮัมเพลงโปรดกลับห้องที่อยู่ติดกัน หวังว่าค่ำคืนนี้คุณหนูกานต์จะมีความสุขอยู่ในอ้อมอกของคุณหนูกันต์นะคะ
อิอิ…
กันต์พิพัฒน์เดินกลับมายืนดูกานติมาที่เอนตัวลงนอนราบไปกับโซฟาเรียบร้อยแล้ว วันนี้คนตัวเล็กคงจะเหนื่อยน่าดูถึงได้หลับสนิทขนาดนี้ เกิดเหตุการณ์มากมายก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะตื่นเอาง่าย ๆ
ชายหนุ่มตัดสินใจโน้มตัวลงอุ้มภรรยาขึ้นมาแนบอก คนถูกอุ้มขยับกายเล็กน้อยแล้วหลับต่อเพราะได้ความอบอุ่นเข้ามาแทรก กันต์พิพัฒน์วาง กานติมาลงบนเตียงอย่างเบามือ จัดท่าทางการนอนให้สบายตัวแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้จนถึงอก ก่อนแทรกตัวลงนอนภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
ไม่อยากเชื่อว่าหลังแต่งงานตัวเองจะนอนร่วมเตียงกับภรรยาเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกนั้นจำใจต้องนอนเพราะทำตามประเพณีและเขาเองก็ไม่อยากขัดใจคุณนม แต่ครั้งนี้เป็นเขาเองที่เต็มใจให้หญิงสาวคนนี้มานอนร่วมเตียงด้วย
ดวงหน้ากานติมายังคงหวานอยู่เหมือนเดิม ยิ่งมองยิ่งมีแรงดึงดูดให้เขาอยากเข้าใกล้ เช่นเวลานี้ที่ใบหน้าตนนั้นโน้มลงจนปลายจมูกแตะแก้มอีกคน ในใจก็ใคร่อยากรู้จริงว่ากานติมาใช้สบู่อะไร ถึงได้หอมหวานติดกายแบบนี้
เมื่อเกิดข้อสงสัย ก็อยากจะพิสูจน์ความจริงว่ากลิ่นหอมนี้จะติดไปทุกซอกมุมของเรือนกายนี้หรือเปล่า กันต์พิพัฒน์เปลี่ยนจากแก้มขวามาที่แก้มซ้าย เลื่อนขึ้นไปบนหน้าผาก และลงมาบรรจบที่ริมฝีปากบางสีสด
ตอนนั้นเองที่กานติมาลืมตาขึ้นมา หญิงสาวตกใจแต่ไม่ได้โวยวายอะไร
“ฉันขอโทษ” กันต์พิพัฒน์รู้สึกผิดจริง เขาเคยพูดไปแล้วว่าจะไม่แตะต้องตัวเธอ แต่ก็ทำไมได้
“คุณกันต์” กานติมาอยากจะพูดออกไปว่า ไม่เป็นไร แต่ก็กลัวว่าอีกคนจะจับผิดในประโยคที่เธอพูดออกไป
“ทำไม หืม”
หัวใจดวงน้อยสั่นไหวกับน้ำเสียงหวานนั่น แล้วยังจะใบหน้าหล่อเหลาดั่งรูปสลักที่โน้มใกล้จนสัมผัสลมหายใจของอีกคนได้
“ถ้าเธอไม่พูด ฉันถือว่าเธอไม่ถือสาฉันนะ”
แล้วจะให้กานติมาพูดอะไรได้อีก แค่นี้ก็ร้อนไปทั้งตัวจนแทบจะระเบิดตัวเองได้แล้ว
จุ๊บ!
เห็นภรรยาเบือนหน้าหนีซ่อนความเขินอายก็ยิ่งให้อยากแกล้ง เลยโน้มตัวลงเร็วแตะริมฝีปาก
“คุณกันต์!” กานติมาเสียงดังใส่
“ทำไม เธอจะตีฉันเหรอ” ไม่ถามเปล่า กันต์พิพัฒน์โน้มตัวใช้แขนทั้งสองกักขังร่างเล็กไว้ไม่ให้ลุกหนี “เธอกล้าตีสามีตัวเองงั้นรึ” กานติมาอยากเอานิ้วจิ้มตาเจ้าเล่ห์คู่นี้นัก
“ปล่อย”
จุ๊บ! กันต์พิพัฒน์แตะริมฝีปากลงที่เดิมเพื่อหยุดคนช่างเจรจา
“ถ้าไม่หยุดดิ้นฉันจะทำมากกว่านี้นะ”
กานติมาไม่กลัวหรอก คุณกันต์บอกเสมอว่าจะไม่ทำอะไรเธอ อีกอย่างเขาเกลียดเธอจะตาย ส่วนเรื่องที่เกิดในห้องน้ำคืนนั้นก็เพราะคุณกันต์เมา กลิ่นเหล้านี่หึ่งติดตัวเลย
เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเธอ…
“ปล่อยนะ!” กานติมาร้องพร้อมดิ้นสุดกำลัง
กันต์พิพัฒน์ขยับตัวขึ้นคล่อมภรรยาอย่างสมบูรณ์ เวลานี้กานติมาอยู่ภายใต้ร่างเขาแล้ว ทุกส่วนแนบชิดติดกันจนไม่มีช่องว่าง มีเพียงช่วงอกขึ้นไปเท่านั้นที่ยังห่างกัน เพราะคนขี้เล่นอยากจะเห็นหน้าภรรยาเต็มตาอีกสักครั้ง
“คุณกันต์”
“ทำไม เรียกบ่อยแบบนี้กลัวลืมชื่อสามีรึไง”
ไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อย ที่เรียกเพื่อขอความเมตตาให้ปล่อยเธอไป ความมั่นใจที่เคยมีว่าคุณกันต์จะไม่ล่วงเกินเธอเริ่มลดน้อยลง วันนี้คุณกันต์ไม่ได้ดื่มเหล้าเลย ถ้าจะมีอะไรทำให้เมาจนขาดสติ เห็นจะมีก็แค่นมแก้วนั้น
“ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าเพราะอะไรเธอถึงยอมเป็นเมียพ่อฉัน”
กานติมาเม้มปากแน่น คำถามนี้เธอมีคำตอบให้เขาแน่ แต่ยังไม่ใช่วันนี้
“แล้วเพราะอะไรพ่อฉันถึงได้หลงเธอจนกล้าทิ้งลูกอย่างฉัน”
เป็นอีกเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ตลอดเวลาที่คุณกันต์ไปอยู่ต่างประเทศ คุณพิพัฒน์ก็ส่งคนที่ไว้ใจได้ให้ตามไปดูแลอยู่ห่าง ๆ แม้กระทั่งเรื่องงานที่คุณกันต์ทำตอนอยู่ที่นั่น คุณพิพัฒน์ก็ส่งเอกสารรับรองการทำงานของคุณกันต์ไปให้บริษัทนั้น
คุณพิพัฒน์ไม่เคยทิ้งคุณกันต์เลย…
“จริงสินะ สิ่งที่ฉันถามเธอคงไม่เข้าใจ แล้วก็คงให้คำตอบฉันไม่ได้ แบบนี้ฉันต้องทำยังไงดีล่ะ ถึงจะได้คำตอบ”
กานติมาอยากตอบคำถามที่คุณกันต์สงสัยเหลือเกิน ติดอยู่ที่ว่าในตอนนี้เธอยังไม่อาจแสดงตัวตนที่แท้จริงให้เขารับรู้ได้ แต่ถ้าวันใด เธอสามารถไว้ใจและเชื่อใจผู้ชายนี้ได้ เขาจะรับรู้ทุกอย่างทุกเรื่องที่สงสัยจากปากของเธอเอง
“งั้นฉันขอพิสูจน์”
“อื้อ”
หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีก็โน้มใบหน้ามาจูบอย่างเร็ว จูบครั้งนี้ไม่เหมือนในห้องน้ำเลยสักนิด ครั้งนั้นเหมือนแค่อยากลองเชิง แต่ครั้งนี้ดูจริงจังกว่า
ริมฝีปากร้อนเลาะเล็มขบเม้มที่กลีบปากบางอย่างทะนุถนอมแต่ก็ซ่อนความเร่าร้อนไว้ไม่มิด
หวานจนอยากจะลิ้มชิมรสมากกว่านี้ ได้คืบก็อยากจะเอาศอกด้วย โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อย จะกล่าวหาว่าเขาเป็นคนฉวยโอกาสก็ยินดียืดอกรับด้วยความเต็มใจ
“เปิดปากของเธอสิ กานติมา” ร้องขอเสียงกระเส่าอยู่ข้างใบหูขาวที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อพาให้ภรรยาบ้าเคลิบเคลิ้มกับการกระทำของสามี
“อืม อื้อ” เสียงหวานครางหวิวปลุกเร้าความรู้สึกจนแข็งขันขึ้นมา ใบหน้าหวานเห่อร้อนเมื่อโดนอะไรบางอย่างดุนดันอยู่ที่ส่วนล่าง
จากจูบนุ่มนวลดุจปุยเฆมยามอารมณ์พุ่งทะยานขึ้นสูงเริ่มแปรเปลี่ยนร้อนแรง กันต์พิพัฒน์ดูดกลืนลิ้นเล็กด้อยประสบการณ์ที่พยายามหนีเขา ตวัดพันรัด ไม่ว่าเธอจะหลบไปตรงไหนเขาก็ตามไปลิ้มลองรสหวานจนหนำใจ
น้ำหวานสีใสไหลเยิ้มที่มุมปากบางเกิดเป็นเสียงดังน่าอายในยามที่ กันต์พิพัฒน์ตามไปเก็บกวาด ริมฝีปากบางแดงก่ำเปียกชิ้น ฉ่ำไปด้วยคราบน้ำ
กานติมาผู้น่าสงสารกลั้นลมหายใจจนสุดท้ายทนไม่ไหวรัวกำปั้นน้อยลงบนอกแกร่งเพื่อร้องท้วงขออากาศให้เธอได้หายใจ
กันต์พิพัฒน์มองภรรยาที่หายใจเร็วถี่กอบโกยอากาศเข้าปอดแล้วให้เอ็นดู ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือไปด้วยไฟปรารถนาจนน่ารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากได้ลองลิ้มชิมรสหวานไปแล้วรอบนึง มีสิ่งหนึ่งที่เขาบอกได้
กานติมาจูบไม่เป็น และอาจไม่เคยจูบกับใครมาก่อนด้วยซ้ำ นำมาซึ่งความแปลกใจให้กับชายหนุ่มที่รับรู้มาตลอดว่าหญิงสาวคนนี้เคยครองสถานะภรรยาของพ่อตนมาก่อน
กระนั้นแล้ว ถ้าอยากรู้เขาก็คงต้องพิสูจน์ต่อ เพียงจูบครั้งเดียวยังคงบอกอะไรได้ไม่มาก เขาต้องพิสูจน์อะไรที่มันมากกว่านี้
“ฉันขอนะ”
ความคิดเห็น