คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : อาบน้ำด้วยกัน
นมนุ่มแทบหัวใจวายในช่วงพิธีรดน้ำสังข์ บรรดาคู่ขาของคุณหนูกันต์ต่างยกขบวนมาร่วมอวยพร ยังโชคดีที่แขกในงานวันนี้ล้วนแต่เป็นคนกันเอง ไม่อย่างนั้นคงมีเรื่องให้ได้ซุบซิบนินทาในวงสังคมไปอีกหลายวัน
“เราจะทำพิธีปูที่นอนและส่งตัวเข้าหอที่ห้องสวีทของโรงแรมนะครับ” อธิปบอกกันต์พิพัฒน์ที่กำลังดื่มกินอยู่กับเพื่อนและบรรดาสาว ๆ ในช่วงท้ายของงานฉลองมงคลสมรส
“จำเป็นด้วยหรือครับ”
“จำเป็นครับ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าพิธีการยังไม่สมบูรณ์” อธิปไม่ถือคนเมา และเข้าใจชายหนุ่มเป็นอย่างดี ว่าเพราะเหตุใดถึงได้มีทีท่าต่อต้านการแต่งงานครั้งนี้นัก
“ยอม ๆ ไปเถอะ เจ้าสาวแม่งสวยชิบหาย”
“สวยแต่เป็นบ้า”
“ถ้าบ้าแล้วสวยขนาดนี้กูยอมมีเมียบ้า”
อธิปเดินเลี่ยงออกมา เขาไม่อยากฟังสิ่งที่ระคายหู แม้มันจะเป็นความจริง แต่ก็ไม่ควรเอามาพูดเล่นเป็นเรื่องสนุกปากกลางวงเหล้าแบบนี้
แม้จะไม่ได้ยินดียินร้ายกับการแต่งงานของตัวเอง แต่เมื่อได้รับพรจากนมนุ่มและคุณลุงทนายในช่วงส่งตัวเข้าหอ กานติมากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะนี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เธอได้เข้าพิธีแต่งงาน
“เสร็จแล้วใช่ไหมครับ” กันต์พิพัฒน์ถาม เขามีนัดต่อจากนี้
“ค่ะ อ้าว คุณหนูจะไปไหนคะ” นมนุ่มร้องถามเมื่อเห็นคุณหนูกันต์ดีดตัวลุกจากที่นอนเตรียมตั้งท่าออกจากห้องหอ
“ผมมีนัดครับนม”
“ไม่ได้นะคะ คุณหนูจะออกจากห้องหอก่อนฟ้าสางไม่ได้ โบราณเขาถือว่าจะอยู่กันไม่ยืด”
“ฮ่า ฮ่า…นมครับ อีกสามปีเราก็เลิกกันแล้ว” กันต์พิพัฒน์ขำให้กับความเชื่อนี้ เขาอุตส่าห์อดทนจนมาถึงพิธีการสุดท้าย นมนุ่มยังจะมาเอาอะไรกับเขาอีก
“งั้น ผมไปทำเรื่องยกทรัพย์สินให้คุณกานต์เลยนะครับ” อธิปผู้ถือไพ่เหนือกว่า
“ดะ เดี๋ยวครับ” กันต์พิพัฒน์เดินก้มหน้ากลับมานอนลงบนเตียงอีกครั้ง
“นอนหลับตานิ่ง ๆ สักสิบนาทีนะคะ แล้วค่อยลุกอาบน้ำอาบท่ากัน”
นมนุ่มบอกก่อนออกจากห้องหอพร้อมคุณทนายอธิป เพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ใช้เวลาร่วมกัน
“นี่”
“………….”
“กานติมา”
“………..”
กันต์พิพัฒน์เริ่มหงุดหงิด นอนอยู่ข้างกันแค่นี้คนใบ้ยังจะมาทำหูหนวกใส่เขาอีก
“ฉันเรียกเธอ ไม่ได้ยินรึไง” ชายหนุ่มพลิกกายนอนตะแคงข้างเข้าหาคนที่ตนเรียกแต่ไม่มีการตอบรับ
‘หลับไปตอนไหน’
กานติมากำลังนอนหลับสนิททั้งชุดเจ้าสาว กันต์พิพัฒน์ถือโอกาสที่คนบ้าหลับสำรวจดวงหน้าหวานที่ในยามนี้สวยหยาดฟ้ามาดินชนิดที่ว่าตนไม่เคยเจอใครสวยเท่านี้มาก่อน อาจเพราะอภิหารของเครื่องสำอางชั้นเลิศที่เสกให้คนบ้ากลายเป็นนางฟ้ากระนั้นมั้ง
“ถ้าเธอไม่เป็นเมียพ่อฉัน ระหว่างเรามันก็คงจะดีกว่านี้”
เขาเองก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอะไรขนาดนั้น ยิ่งกับคนสติไม่สมประกอบด้วย ยิ่งให้สงสารกว่าคนปกติ แต่เหตุที่เขาจงเกลียดจงชังหญิงบ้าผู้นี้เหลือเกิน นั่นก็เพราะหญิงบ้าผู้นี้ก้าวเข้ามาในบ้านกิตติวรเดชในฐานะภรรยาของพ่อ โดยในช่วงเวลานั้น เธอมีอายุเพียง 17 ปี และมันเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์การเสียชีวิตของเมียเขาไม่กี่วัน
“นอนเข้าไปได้ยังไง” เป็นคำถามที่เขาไม่ต้องการคำตอบอะไรจากคนหลับ
คิดเห็นแล้วว่าขืนปล่อยให้นอนทั้งชุดเจ้าสาวฟูฟ่องรัดติ้วแบบนี้ แถมเครื่องสำอางยังอยู่ครบ คงไม่เป็นผลดีสักเท่าไหร่
“ตื่น กานติมา” เรียกพลางเขย่าแขนเบา ๆ สองสามที คนบ้าก็สะลึมสะลือฝืนเปิดเปลือกตาขึ้นมา
“ไปอาบน้ำ”
“ไม่เอา ง่วง” นาทีนี้เธอไม่ต้องการอะไรแล้ว นอกจากขอนอนหลับยาว ๆ สัก 10 ชั่วโมง เพื่อชดเชยที่ตนต้องตื่นขึ้นแต่งหน้าตั้งแต่ตี 3
“เห้ย ไม่ได้ เธอจะนอนทั้งชุดนี้ได้ไง เหม็นตายชัก” อันที่จริงมันตรงข้ามกับที่เขาพูดทุกอย่าง
“ง่วง”
“ก็รู้ แต่ลุกไปอาบน้ำก่อน” คราวนี้ไม่แค่เรียก กันต์พิพัฒน์ออกแรงจับแขนเรียวดึงร่างหญิงสาวขึ้นมา
“ปล่อยนะ จะนอน”
“ฉันเหนื่อยแล้วก็อยากนอนนะกานติมา เลิกดื้อแล้วก็ไปอาบน้ำซะ” ความอดทนเริ่มลดน้อยลงทุกที เขาเองเมื่อได้นอนเอนกายลงบนเตียงอีกครั้ง ก็เริ่มรู้สึกอยากจะพักผ่อนมากกว่าจะออกไปหาสาวตามนัด
“คุณกันต์ก็นอนไปสิ เดี๋ยวกานต์นอนพื้นก็ได้” ไม่พูดเปล่า กานติมาทำท่าจะปีนลงจากเตียงคิงไซส์
“เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ” ชายหนุ่มได้ยินทุกคำชัดเจน เพราะนั่งใกล้จนหน้าแทบจะชนกันอยู่แล้ว แต่ทุกคำที่กานติมาพูดออกมา ฟังอย่างไรก็ไม่เหมือนคำที่ออกมาจากปากคนบ้าใบ้เสียสติ
กานติมาเบิกตากว้าง เพิ่งรู้ว่าตัวเองพลาดไป เลยแสร้งทำบ้ากลบเกลื่อนความสงสัยของอีกคน
“นอน จานอน” ไม่พูดเปล่าแกล้งทิ้งตัวลงเตียงเต็มแรงจนแอบจุกไปครู่นึง
“ถ้าไม่ลุกฉันอุ้มนะ”
กานติมาหาได้สนใจในคำขู่นั้นไม่ รู้อยู่ว่าคุณกันต์เกลียดตัวเองอย่างกับอะไร เรื่องจะมาถูกเนื้อต้องตัวเธอ สบายใจได้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแน่นอน
“ว้าย!…” แต่ครั้งนี้เธอคิดผิด
กันต์พิพัฒน์เบื่อเต็มทนที่ต้องมานั่งเถียงกับคนบ้า ในเมื่อขู่แล้วก็ยังไม่กลัว เขาก็จัดให้ ตัวเล็กแค่นี้ทำไมเขาจะอุ้มไม่ไหว สาว ๆ ที่หุ่นอวบอัดกว่านี้เขายังอุ้มไหว อุ้มได้หลายท่าด้วย
“ปล่อยนะ”
“เงียบ! แล้วก็หยุดดิ้นซะ ถ้าไม่อยากให้ฉันโยนเธอลงพื้น”
กานติมาเม้มปากแน่นทั้งเขินทั้งอายและกลัว เกิดมายังไม่เคยมีผู้ชายคนไหนถูกเนื้อต้องตัวกันแบบนี้มาก่อน หัวใจดวงน้อยที่มันควรจะสงบนิ่งพลันเต้นระส่ำจนแทบกระเด็นออกมานอกอก
“อาบน้ำซะ เร็วด้วย” วางเจ้าสาวลงบนพื้นห้องน้ำอย่างเบามือ ดูจนแน่ใจว่ายืนได้มั่นคงดีแล้วจึงละมือออกจากเอวบาง แล้วออกมา
เห็นทีวันนี้การนัดหมายระหว่างเขากับจีน่าคงต้องยกเลิกไปก่อน แม้ว่าคุณทนายกับนมจะกลับไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทั้งคู่จะไม่รู้ไม่เห็น ถ้าเขาเดินออกจากห้องนี้ไป และที่สำคัญ เขาเหนื่อยจนแทบจะลืมตาไม่ไหวแล้ว นี่ขนาดมีหน้าที่แค่พาตัวเองเข้าร่วมงาน ยังเหนื่อยขนาดนี้ ยอมใจคนที่ลงไปจัดการงานเองทุกอย่างเสียจริง
คิดอย่างนั้นชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนข้างเตียงขึ้นมากดเบอร์โทรออกหาอีกคนที่กำลังรอเขาอยู่
ใช้เวลาไม่กี่วินาทีปลายสายก็กดรับ
[ว่าไงคะ จีน่ารอคุณจนจะหลับแล้วเนี่ย]
“ผมไปไม่ได้แล้วนะ”
[อ้าว ทำไมละคะ]
“ผมต้องอยู่ในห้องจนถึงเช้า”
[อย่าบอกนะคะ ว่าคุณจะนอนกับภรรยา]
“ไม่ใช่แบบนั้น นมขอไว้ ผมไม่อยากขัดใจแก” ชายหนุ่มรู้ดีว่า นอน ของจีนากับ นอน ที่เขากำลังจะทำอยู่ตอนนี้ คนละความหมายกัน
[ให้จีน่าไปหาไหมคะ]
“คุณช่วยเอารถมาให้ผมทีได้ไหม พรุ่งนี้ผมมีงานตอนเช้า ผมต้องใช้เอกสารในรถ” เขาไม่อยากรบกวนลุงชุ่ม แค่งานวันนี้ครอบครัวของนมก็เหนื่อยกันมากพอแล้ว และผิดที่เขาเองที่อนุญาตให้จีนาขับรถตัวเองกลับคอนโดไป เพราะคิดไว้ว่าอย่างไรตนก็จะออกไปหาอีกคนอยู่แล้ว
[ได้ค่ะ เดี๋ยวจีน่าไป]
“ขอบคุณครับ”
หลังวางสายจากจีน่า กันต์พิพัฒน์เข้าสู่โลกโซเชียลเพื่อฆ่าเวลาระหว่างอีกคนอาบน้ำ งานแต่งงานครั้งนี้แม้จะเป็นงานเล็ก ๆ จัดกันเป็นการภายในมีเฉพาะเครือญาติและเพื่อนสนิท แต่ข่าวคราวก็ยังออกสู่สาธารณชนจนได้
‘ยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยนะคะ ขอบคุณที่ไว้ใจร้านเราค่ะ’
โพสนี้คงไม่มีอะไรสะดุดตาพอให้เขาสนใจ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าที่เจ้าสาวในรูปคือกานติมา แต่ทว่า ว่าที่เจ้าบ่าวที่ใส่ชุดเดียวกับเขาอยู่ขณะนี้
ไม่ใช่เขา…แต่เป็นธนาธิป
กันต์พิพัฒน์กดเข้าไปดูเนื้อหาเพิ่มเติมของโพสนี้ ซึ่งเป็นโพสของร้านชุดแต่งงานสุดหรูชื่อดัง วันที่ลงก็ตรงกับวันที่นมอุ่นบอกให้เขาไปเลือกชุดแต่งงาน
ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจ ซึ่งเขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าความรู้สึกนี้มันเรียกว่าอะไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่บอกได้
มันเป็นความรู้สึกด้านลบ…
“อ้าว ทำไมยังไม่อาบน้ำ” เงยหน้าจากจอเพราะประตูห้องน้ำเปิด แต่คนที่ควรจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ยังคงใส่ชุดเจ้าสาวฟูฟ่องอยู่เหมือนเดิม
กานติมาอยากใช้โทรศัพท์เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากบัวแก้ว แต่มันดันอยู่ในกระเป๋าที่วางอยู่ข้างเตียงฝั่งที่กันต์พิพัฒน์นอนพอดี
“เอ้า! ฉันถามทำไมไม่ตอบ หรือไม่เข้าใจคำถาม” เขาก็ไม่ได้ถามอะไรที่ซับซ้อนจนคนตรงหน้าจะตอบไม่ได้
“คะ คือ…”
“คืออะไร ฉันไม่มีเวลามาเล่นด้วยนะกานติมา ถ้าเธอยังไม่ไปอาบน้ำ ฉันจะเป็นคนอาบให้เอง” เขาไม่ได้พูดเล่น กว่าภรรยาบ้าของเขาจะอาบเสร็จก็คงปาเข้าไปวันใหม่แล้ว คนรักสะอาดอย่างเขานอนไม่หลับเสียด้วยถ้าไม่ได้อาบน้ำก่อนนอน
“ถอดไม่ได้” เมื่อจนหนทาง หญิงสาวจำต้องพูดออกไป อย่างน้อยคุณกันต์คงให้พนักงานโรงแรมที่เป็นผู้หญิงมาช่วยเธอ
กันต์พิพัฒน์เลิกคิ้วสูงมองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เลยพอเข้าใจว่าทำไมถึงถอดชุดเองไม่ได้
“หันหลังมา” ชายหนุ่มดีดตัวลุกจากเตียงอีกครั้ง พร้อมสั่งอีกคนให้ทำตาม
“ไม่ ๆ พี่บัว” ใครจะกล้าให้ผู้ชายมาช่วยเปลื้องผ้า ต่อให้คนนั้นจะมีสถานะสามีก็ตาม
“เว้ย! ดึกป่านนี้แล้วจะตามให้ใครมาช่วย หันมาแล้วทำให้มันจบ ๆ ซะ ไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะปล้ำเธอ รูปร่างหน้าตาแบบนี้ไม่ใช่สเปค แล้วฉันก็ไม่ชอบเอากับคนบ้า”
ทั้งโกรธทั้งอายแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยจำใจหันหลังให้คนปากเสียจัดการรูดซิปลง
คนโดนแอบด่าว่าปากเสียนั้น เมื่อครั้งแรกก็ไม่ได้คิดลามกหรือคิดอะไรมาก ต้องการให้ทุกอย่างจบลงเร็ว ๆ เพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นฝ่ายอาบน้ำแล้วพักผ่อนบ้าง
แต่พอรูดซิปลงเรื่อย เนื้อนวลขาวผุดผ่องไร้ริ้วรอยไฝฝ้าก็ประจักษ์ต่อสายตา จนกันต์พิพัฒน์เผลอลูบที่แผ่นหลังนั้น
“อ๊ะ!” กานติมาร้องด้วยความตกใจ รีบหันกลับมาก่อนที่จะโดนลวนลามไปมากกว่านี้
“ยะ ยังไม่เสร็จเลย” ชายหนุ่มบอกไม่เต็มเสียง รู้สึกคอแห้งผากขึ้นมาดื้อ ๆ
กานติมาสมองโล่งไปชั่วคราว คิดคำไม่ถูกว่าจะพูดอย่างไรให้เหมือนคนบ้า
“จะอาบน้ำ”
“หันหลังก่อน ยังไม่เสร็จ” เป็นกันต์พิพัฒน์ที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้ก่อน
กานติมาเม้นปากแน่น ครั้นจะรับความช่วยเหลือก็กลัวจะโดนอีกฝ่ายลวนลามซ้ำ แต่ถ้าจะให้ทำเองก็จนปัญหา เธอลองมาหมดทุกวิธีแล้ว ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมชุดแต่งงานพวกนี้ถึงออกแบบมาให้เจ้าสาวถอดเองไม่ได้
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เธอได้คิด จับไหล่หมุนตัวให้กลับหลังหันหาตนอีกครั้ง แล้วจัดการรูดซิปลงสุดจนเห็นบั้นเอวบาง
“อาบเองได้ไหม” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาถามเธอออกไปแบบนั้น
“ได้ กานต์อาบน้ำได้”
“คนบ้าอาบน้ำเองได้ด้วยรึ”
กานติมาอยากจะบอกเหลือเกินว่า เธอแค่บ้า ไม่ได้พิการเสียหน่อยที่จะช่วยเหลือตัวเองในเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ได้ ขนาดเด็กอนุบาลยังอาบน้ำเองได้เลย
“เดี๋ยวฉันช่วยอาบ”
ความคิดเห็น