NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภรรยาบ้าของคุณกันต์

    ลำดับตอนที่ #3 : เมียบ้า

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 67


              “พี่บัว กานต์ไม่อยากแต่งงานกับคุณกันต์เลย”

              “โธ่ คุณกานต์ขา บัวเองก็ไม่รู้จะช่วยคุณกานต์ยังไง”

              “เราหนีกันไหม”

              “อย่านะคะ! คุณกานต์ลืมที่คุณท่านเคยบอกแล้วหรือ”

              กานติมาไม่เคยลืมสิ่งที่พิพัฒน์เฝ้าบอกเธอมาตลอด 5 ปี ความจริงที่แสนโหดร้ายจนพรากชีวิตพ่อแม่และพี่ชายไป และถ้าคุณอาพิพัฒน์ไม่ยื่นมือมาช่วยไว้ ป่านนี้เธอคงได้ไปอยู่บนสวรรค์กับพ่อแม่และพี่ชายแล้ว

              “จนป่านนี้เรายังไม่รู้ว่าคนร้ายตัวจริงเป็นใครเลยนะคะ”

              “ ห้าปีแล้ว พี่บัวคิดว่าเขายังอยากจะฆ่ากานต์อยู่หรือคะ”

              “พี่ไม่รู้หรอกค่ะ แต่เราจะไว้ใจใครไม่ได้นอกจากคุณกันต์”

              กานติมาอยากแย้งพี่บัวแก้วเหลือเกินว่า คนที่ไม่น่าไว้ใจที่สุดคือ คุณกันต์พิพัฒน์ของพี่บัวต่างหาก

              “กานต์กลัวคุณกันต์จะรู้ความจริง”

              บัวแก้วเองก็กลัวไม่แพ้กัน เห็นเป็นคนหัวร้อนมุทะลุดุดันแบบนั้น ใครจะคิดว่าคุณกันต์ฉลาดเป็นกรด ฉะนั้น เรื่องที่คุณหนูกานติมาแกล้งบ้า ทำไมเธอจะดูไม่ออก เพียงแค่เพราะมีอคติบังตาเท่านั้น แต่ครั้นต้องมาอยู่กินแบบผัวเมีย บัวแก้วคิดว่าพวกเธอคงปิดเรื่องนี้ได้ไม่นาน

              “เราหลอกทุกคนมาได้ตั้งห้าปี พี่บัวเชื่อว่าคุณหนูต้องทำได้ค่ะ”

              “กานต์อยากบ้าจริง ๆ แล้วสิ” กานติมาถอนหายใจยาว นึกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

              หลังแต่งงานชีวิตเธอจะไปในทิศทางไหน และที่สำคัญ คุณกันต์จะปฏิบัติตัวกับเธออย่างไร จะเป็นเหมือนผัวเมียคู่อื่น หรือจะเป็นศัตรูคู่แค้นเหมือนอย่างที่เขาทำมาตลอด 5 ปี

     

              “หลังแต่งงานคุณกันต์จะใช้ห้องไหนเป็นเรือนหอคะ นมจะได้ให้เด็ก ๆ มาจัดห้องหับให้ใหม่ หรือคุณหนูอยากปรับเปลี่ยนอะไรจะได้เรียกช่างมาทำได้ทันก่อนงาน”

              “ไม่ต้องหรอกครับ ผมจะอยู่ห้องเดิมของผม”

              “อ้าว แล้วคุณกานต์ล่ะคะ ห้องของคุณหนูกว้างก็จริง แต่ถ้ามีคุณกานต์ไปอยู่ด้วย นมว่าจะไม่สะดวกกันนะคะ”

              “เขาก็อยู่ห้องตัวเองสิครับ จะมาอยู่กับผมทำไม”

              “แต่คุณหนูกำลังจะแต่งงานกับเธอนะคะ ผัวเมียแยกกันอยู่แบบนี้มันผิดธรรมเนียม”

              “ผมไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอกครับ”

              ลำพังแค่เงื่อนไขที่เขาต้องแบกรับอยู่ตอนนี้ก็หนักเกินกว่าจะมาคิดเรื่องอื่นแล้ว

              ทั้งเรื่องที่ต้องแต่งงานอยู่กินกับคนบ้า หรือเรื่องที่เขาต้องเข้ามาบริหารงานทุกอย่างแทนพ่อเป็นเวลา 3 ปี และแต่ละปีต้องมีกำไรมากขึ้น เขาถึงมีสิทธิ์ขายทรัพย์สินทุกอย่างของพ่อได้

              “แต่ในพินัยกรรมบอกไว้ว่าคุณหนูทั้งสองต้องอยู่กินกันแบบผัวเมียนะคะ นมเองยังไม่เคยเห็นผัวเมียคู่ไหนแยกกันอยู่ทั้งที่อยู่บ้านหลังเดียวกันเลย”

              “ก็คู่ผมไงครับ”

              “โธ่ คุณหนู” นมนุ่มให้ระอาใจนัก จะโทษคุณกันต์ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะเธอเองก็มีส่วนผิดที่เลี้ยงดูคุณหนูให้กลายเป็นคนเอาแต่ใจแบบนี้

              “เอาน่า ผมว่าคุณหนูกานต์ของนมเธอก็คงไม่ขัดเหมือนกัน ถ้าเราสองคนจะแยกกันอยู่” รายนั้นห่างเขาเท่าไหร่ก็ยิ่งชอบใจ

              “แล้วมันจะไม่ผิดเงื่อนไขหรือคะ”

              “ถ้าไม่มีใครไปบอกคุณทนาย ก็ไม่น่ามีปัญหานะครับ”

              คุณหนูของเธอช่างดื้อดึงเสียใจ

              “แล้วนี่จะออกไปดูชุดแต่งงานกันวันไหนคะ” นมนุ่มกลัวไม่ทัน ตามเงื่อนไขทั้งคู่ต้องแต่งงานกันภายใน 1 เดือน นี่ก็ผ่านมา 3 วันแล้วหลังจากเปิดพินัยกรรม แต่ดูเหมือนคุณหนูจะไม่รีบร้อนอะไรเลย ที่จริงต้องพูดว่า คุณหนูไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยด้วยซ้ำ เห็นวุ่นวายอยู่กับการเข้าไปทำงานในบริษัทจนแทบไม่มีกินเวลานอน

              “เรื่องนี้ผมฝากนมช่วยจัดการด้วยนะครับ”

              “ไม่ได้คะ ของแบบนี้คนใส่ต้องไปเลือกเองสิคะ ให้คนอื่นเลือกจะถูกใจได้ยังไง”

              “ผมไม่ถือ จะแบบไหนสีอะไรผมใส่ได้หมด”

              “โธ่ คุณหนู”

              “เอาเป็นว่า ผมวานนมช่วยพายายบ้า” โดนนมนุ่มจ้องเขม็งจนกันต์พิพัฒน์ต้องรีบเปลี่ยนสรรพนามที่พูดจนติดปากเสียใหม่ “เออ..คุณกานต์ไปดูชุดแต่งงานแทนผมด้วยล่ะกัน ส่วนของผมนมชอบแบบไหนก็จัดไปเลยครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะ” พูดจบคุณหนูของบ้านกิตติวรเดชก็โน้มตัวหอมแก้มสาวเหลือน้อยไปฟอดใหญ่ เล่นเอาคนอายุมากหัวใจเต้นโครมครามให้กับความทะเล้นของเจ้านายหนุ่ม

     

              “กานต์ไม่ไปได้ไหมคะ” หญิงสาวนั่งหน้ามุ่ย เธอไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงานของตัวเอง อันที่จริง ต้องพูดว่า เธอไม่อยากให้งานแต่งงานนี้เกิดขึ้นด้วยซ้ำ ใครเล่าอยากจะแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก

              “ไม่ได้ค่ะ คุณกันต์ก็ไม่ไปคนนึงแล้ว ถ้าคุณกานต์ไม่ไปอีกคนงานมันจะเดินหน้าต่อไปยังไงคะ” บัวแก้วพยายามกล่อมเจ้านายสาว

              “เขาไม่ไปหรือคะ” ไม่รู้ว่าเธอควรจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ ที่อีกคนก็ไม่ให้ความสำคัญกับงานแต่งงานครั้งนี้เหมือนกัน

              “ใช่ค่ะ รายนั้นออกไปทำงานตั้งแต่เช้า” บัวแก้วรายงานตามที่ได้รับข้อมูลมาจากพี่ไหมลูกสาวคุณนมนุ่ม “ไปเถอะนะคะ คิดซะว่าเป็นครั้งนึงในชีวิตที่คุณหนูจะได้ใส่ชุดเจ้าสาวแสนสวย”

              ถ้าได้ใส่ชุดเจ้าสาวแล้วแต่งงานเคียงคู่กับคนที่เธอรัก มันคงจะเต็มไปด้วยความสุขและความเต็มใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่พิธีแต่งงานที่เกิดจากเงื่อนไขแบบนี้ เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับเงินทองทรัพย์สิน

     

              “ผมมารับแล้วครับ” ธนาธิปยิ้มกว้างให้กานติมาและบัวแก้วที่กำลังยืนรอลุงชุ่มอยู่หน้าบ้าน

              “อ้าว คุณธนามาได้ไงคะ”

              “พอดีนมนุ่มโทรหาผม ขอให้ช่วยไปเลือกชุดเจ้าบ่าวแทนคุณกันต์น่ะครับ”

              บัวแก้วกวาดตาขึ้นลงมองคุณธนาธิปแล้วให้นึกได้ว่า ชายหนุ่มตรงหน้าช่างมีรูปร่างพอดิบพอดีกับคุณกันต์พิพัฒน์เสียจริง ไม่แปลกเลยที่คุณนมให้มาช่วยเรื่องสำคัญนี้ แถมทั้งคู่ยังอายุอานามใกล้เคียงกัน ความชอบคงไม่ต่างกันเท่าไหร่

     

              “แหม ใส่ชุดไหนก็ขึ้นหมดเลยนะคะ สวยหล่อสมกันมากค่ะ”

              “ขอบคุณครับ” ธนาธิปยิ้มรับคำชมจากเจ้าของร้าน ผิดกับอีกคนที่สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้ใดออกมา

              ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเธอสติไม่สมประกอบ แต่ต่อให้เธอจะเป็นอย่างไร ธนาธิปก็ยังรัก และหวังว่า ต่อจากนี้ไปอีก 3 ปี เขาจะได้เป็นเจ้าบ่าวตัวจริงของหญิงบ้าผู้นี้ ไม่ใช่แค่เจ้าบ่าวตัวสำรอง

              “คุณกานต์ชอบชุดนี้ไหมครับ” เห็นคนยืนข้างกันนิ่งเงียบหลังร่วมถ่ายภาพกันไปหลายใบ ธนาธิปเลยชวนคุย

              “ชอบ” หญิงสาวตอบกลับมาสั้น ๆ

              “วันนี้คุณกานต์สวยมากเลยครับ”

              “คุณก็หล่อ” หญิงสาวชมจากใจจริง

              “ขอบคุณครับ” แม้ใจรู้ดีว่าคนชมอาจไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูด แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้หัวใจเขาพองฟูไปแล้ว

              “พี่บัวขออนุญาตพาคุณหนูไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ” บัวแก้วยกป้ายไฟเชียร์คุณธนาธิปมาตลอด แต่สถานการณ์ปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว คุณหนูกานต์กำลังจะแต่งงาน ขืนยังปล่อยให้คุณธนาธิปมาจีบอยู่แบบนี้ จะพาเสียชื่อกันหมด

              “คุณหนูไม่ชอบชุดเหรอคะ” เห็นเจ้านายสาวสีหน้าเรียบเฉยไม่มีความสุขกับการเลือกชุดวันนี้เลยอดห่วงไม่ได้

              “กานต์จะชอบหรือไม่ชอบมันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้นี่คะ”

              “โธ่คุณหนู” บัวแก้วสงสารคุณหนูจับใจ ตั้งแต่โตมาเธอก็โดนบังคับไปทุกอย่าง ขนาดสติดียังถูกบังคับให้แสดงเป็นคนบ้า แม้กระทั่งจะแต่งงานมีครอบครัวก็ยังโดนบังคับ ถึงจะไม่มีใครถือมีดถือปืนมา มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่

     

              วันเวลาล่วงเลยจนเกือบครบเดือน กันต์พิพัฒน์และกานติมาคงจะเป็นคู่บ่าวสาวที่แปลกประหลาดที่สุด ทั้งคู่ไม่สนใจงานแต่งงานของตนที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แม้แต่น้อย ไม่สนใจว่าจะจัดงานที่ไหน ของชำร่วยคืออะไร โดยเฉพาะ

              ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร

              โดยเฉพาะฝ่ายเจ้าบ่าวที่ยังคงใช้ชีวิตเหมือนหนุ่มโสดไร้พันธะ บริษัทกำลังไปได้ดีภายใต้การบริหารงานของกันต์พิพัฒน์ เช่นเดียวกับข่าวคาวระหว่างนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า ทั้งนางแบบ ดารา ไฮโซ จนกลายเป็นข่าวซุบซิบเต็มโลกโซเชียล

     

              “ทำไมคุณกันต์ทำแบบนี้ล่ะคะ พรุ่งนี้ก็จะแต่งงานแต่งการอยู่แล้ว” นมนุ่มผู้เฝ้ามองดูเหตุการณ์นี้มาหลายวันจนอดรนทนต่อไปไม่ไหว ถึงกับเอ่ยปากพูดกับกันต์พิพัฒน์

              “ผมทำอะไรครับนม” แสร้งถามทำตาใส ทั้งที่รู้ความดีว่าที่คุณนมพูดถึงคือเรื่องที่เขาพาสาวมาเล่นจ้ำจี้กันในบ้านอย่างเปิดเผย แถมเปลี่ยนสับเวียนหน้ากันจนเด็กในบ้านจำไม่ได้

              “ก็ที่กำลังทำอยู่นี่ไงคะ” นมพูดพลางชำเลืองมองหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยจนแทบปิดส่วนอกไม่มิดกำลังยืนเกาะแขนนายน้อยเธออย่างกับกล้ามเนื้ออ่อนแรงพยุงตัวเองไม่ได้

              “ผมก็แค่หาความสุขให้กับตัวเอง”

              “แต่ความสุขของคุณหนูกำลังทำร้ายคุณกานต์นะคะ”

              หญิงชราไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดคุณหนูของเธอถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ รู้ดีว่าเธอโกรธและเกลียดคุณหนูกานต์มาตั้งแต่ที่เข้ามาเป็นเมียอีกคนของพ่อ

              แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกลียดจนถึงกับทำร้ายน้ำใจกันแบบนี้ ต่อให้ไม่ได้รักใคร่ชอบพอกัน แต่คนที่กำลังจะอยู่ในฐานะเมีย ก็คงไม่สบายใจกับการกระทำของว่าที่สามี

              “ผมยังไม่เคยเห็นคุณกานต์ของนมว่าอะไรเลยนะครับ อันที่จริงเธอควรดีใจด้วยซ้ำที่ผมหาคนมาแบ่งเบาภาระหน้าที่เมียของเธอ ผมขอตัวก่อนนะครับ”

              กันต์พิพัฒน์ควงสาวสวยขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน โดยไม่สนใจว่าคุณนมแทบลมจับกับประโยคสุดร้ายกาจของตน

     

              “ไม่ต้องปิดประตู”

              “แล้วถ้าใคร…”

              “เปิด!”

              จีน่าไม่รู้มาก่อนว่าหนุ่มหล่อคนนี้จะมีรสนิยมทางเพศที่แปลก คงเป็นพวกชอบโชว์ ถึงให้เธอเปิดแง้มประตูห้องนอนไว้ เธอเองก็ไม่ใช่คนหน้าบางเท่าไหร่ อีกอย่างเงินของอีกคนมันหอมหวานจนปิดหูปิดตาเธอได้สนิท

              “อาบน้ำด้วยกันไหมคะ จีน่าจะได้ถูสบู่ให้” ส่งสายตายั่วยวนพร้อมรบในชุดผ้าขนหนูพันตัว เชื้อเชิญอีกคนให้เปิดเกมรักในห้องน้ำด้วยกัน

              “ไม่ วันนี้ผมมีเวลาไม่มาก คุณรีบไปอาบเถอะ”

              คล้อยหลังจีน่าที่เดินเข้าไปอาบน้ำด้านใน กันต์พิพัฒน์ออกมาจากห้องนอนเพื่อมาหาใครบางคนที่อยู่ห้องติดกัน

              ก๊อก ๆ …

              “อ้าว คุณกันต์ มีอะไรให้บัวรับใช้ค่ะ” เป็นบัวแก้วที่เป็นคนมาเปิดประตูให้

              “ยาย…คุณหนูของบัวอยู่ไหม”

              “อยู่ค่ะ คุณกานต์เธออาบน้ำอยู่ คุณกันต์มีอะไรรึเปล่าคะ”

              ร้อยวันพันปีนายน้อยของกิตติวรเดชไม่เคยดูดำดูดี ไม่เคยมาสนใจ หรือมาหาคุณกานต์แบบนี้เลยสักครั้ง สร้างความแปลกใจให้บัวแก้วพอสมควร

              ครั้นพอนึกได้ว่า วันพรุ่งนี้ทั้งคู่ก็จะเข้าพิธีมงคลสมรสกันแล้ว คุณกันต์เธออาจมีเรื่องพูดคุยกับคุณกานต์ก็เป็นได้

              “ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา” อย่างที่คิดเลย

              “ได้ค่ะ คุณกานต์อาบน้ำใกล้เสร็จแล้ว คุณกันต์จะให้เธอไปพบที่ไหนคะ”

              “ไม่ต้อง ฉันจะรอที่นี่”

              “แต่ว่า”

              “เธอไปเอากาแฟให้ฉันหน่อย”

              “แต่…”

              “หรือเธออยากจะหางานใหม่”

              แล้วบัวแก้วจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อคนจ่ายเงินเดือนให้เธอทุกวันนี้แทนคุณพิพัฒน์ก็คือคุณกันต์พิพัฒน์คนนี้

              ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์นั่งลงบนเตียงกว้างของกานติมา กวาดตามองไปรอบห้องที่เขาไม่เคยเข้ามาเหยียบเลยสักครั้ง ข้าวของเครื่องใช้น้อยชิ้นรวมกับโทนสีของห้องชวนให้สบายตา กลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ ลอยฟุ้งกระจายไปในอากาศ

              กลิ่นของกานติมา…

              “ว้าย!...” กานติมาตกใจสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่บนเตียงนอนของเธอ ตากลมไหวระริกมองหาพี่เลี้ยง

              “บัวลงไปเอากาแฟให้ฉัน”กันต์พิพัฒน์ตอบข้อสงสัยอย่างกับมานั่งในใจเธอ

              ชายหนุ่มนึกขันอากัปกิริยาของว่าที่ภรรยา เธอทำราวกับว่าเขาเป็นพวกบ้ากามที่ฉวยโอกาสจะเข้ามาทำมิดีมิร้าย สองมือกำสาบเสื้อคลุมอาบน้ำเสียแน่น

              “ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะปล้ำเธอหรอก อย่างเธอมีอะไรให้น่าเอา”

              ‘หยาบคาย’ กานติมาก่นว่าในใจถึงคำพูดคำจาของอีกฝ่าย

              “ฉันแค่มีเรื่องจะมาตกลงกับเธอ”

              “พี่บัว จะหาพี่บัว”

              “ฉันพูดไม่นาน ฟังฉันก่อน”

              “ไม่เอา จะหาพี่บัว กานต์จะไปหาพี่บัว”

              กานติมาเริ่มส่งเสียงดังและพยายามจะออกจากห้อง แต่โดนคุณกันต์พิพัฒน์คว้าเอวไว้ก่อน เลยกลายเป็นว่าในตอนนี้เธอกำลังอยู่ในอ้อมแขนของว่าที่สามีโดยที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง

              “อย่าดิ้น ถ้าไม่อยากโดนฉันปล้ำก่อนแต่ง”

              คำขู่ได้ผลในแบบที่กันต์พิพัฒน์ไม่คิดว่าคนบ้าอย่างกานติมาจะฟังรู้เรื่อง ตอนนี้เธอยืนนิ่งในอ้อมกอดเขา

              ‘หอม นิ่ม’ นั่นคือสัมผัสแรกที่รับรู้ เนื้อตัวของกานติมานุ่มนิ่มจนเขาเผลอลูบแขนเนียน ตัวก็หอมในแบบหวานละมุนจนอยากจะซบหน้าลงกับไหล่มนเพื่อสูดดมกลิ่นหอมให้ชื่นใจ

              แต่กันต์พิพัฒน์ต้องหยุดทุกอย่างไว้ เพื่อพูดในสิ่งที่เขาตั้งใจจะมาบอกเธอ

              “ฟังฉัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป เราสองคนจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ก็แค่ในนาม ฉันจะไม่แตะต้องตัวเธอ เราจะแยกกันอยู่จนครบสามปี แล้วเราจะเลิกกัน ฉันจะให้เงินเธอก้อนนึงแล้วออกไปจากที่นี่ซะ”

              หัวใจดวงน้อยวูบโหวงไหวสั่น ไม่รัก ไม่ว่า แต่สงสารเมตตาเธอสักนิดจะได้ไหม เธอกับบัวแก้วไม่มีที่ไหนให้ไปแล้ว และถ้าวันใดเธอก้าวเท้าออกจากบ้านหลังนี้ ก็เท่ากับว่าเธอกำลังเดินขึ้นลานประหาร ที่ไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าเธอทำผิดอะไร และใครที่ตั้งใจจะประหารเธอ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×