คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เมียบ้า
“พี่บัว กานต์ไม่อยากแต่งงานกับคุณกันต์เลย”
“โธ่ คุณกานต์ขา บัวเองก็ไม่รู้จะช่วยคุณกานต์ยังไง”
“เราหนีกันไหม”
“อย่านะคะ! คุณกานต์ลืมที่คุณท่านเคยบอกแล้วหรือ”
กานติมาไม่เคยลืมสิ่งที่พิพัฒน์เฝ้าบอกเธอมาตลอด 5 ปี ความจริงที่แสนโหดร้ายจนพรากชีวิตพ่อแม่และพี่ชายไป และถ้าคุณอาพิพัฒน์ไม่ยื่นมือมาช่วยไว้ ป่านนี้เธอคงได้ไปอยู่บนสวรรค์กับพ่อแม่และพี่ชายแล้ว
“จนป่านนี้เรายังไม่รู้ว่าคนร้ายตัวจริงเป็นใครเลยนะคะ”
“ ห้าปีแล้ว พี่บัวคิดว่าเขายังอยากจะฆ่ากานต์อยู่หรือคะ”
“พี่ไม่รู้หรอกค่ะ แต่เราจะไว้ใจใครไม่ได้นอกจากคุณกันต์”
กานติมาอยากแย้งพี่บัวแก้วเหลือเกินว่า คนที่ไม่น่าไว้ใจที่สุดคือ คุณกันต์พิพัฒน์ของพี่บัวต่างหาก
“กานต์กลัวคุณกันต์จะรู้ความจริง”
บัวแก้วเองก็กลัวไม่แพ้กัน เห็นเป็นคนหัวร้อนมุทะลุดุดันแบบนั้น ใครจะคิดว่าคุณกันต์ฉลาดเป็นกรด ฉะนั้น เรื่องที่คุณหนูกานติมาแกล้งบ้า ทำไมเธอจะดูไม่ออก เพียงแค่เพราะมีอคติบังตาเท่านั้น แต่ครั้นต้องมาอยู่กินแบบผัวเมีย บัวแก้วคิดว่าพวกเธอคงปิดเรื่องนี้ได้ไม่นาน
“เราหลอกทุกคนมาได้ตั้งห้าปี พี่บัวเชื่อว่าคุณหนูต้องทำได้ค่ะ”
“กานต์อยากบ้าจริง ๆ แล้วสิ” กานติมาถอนหายใจยาว นึกถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
หลังแต่งงานชีวิตเธอจะไปในทิศทางไหน และที่สำคัญ คุณกันต์จะปฏิบัติตัวกับเธออย่างไร จะเป็นเหมือนผัวเมียคู่อื่น หรือจะเป็นศัตรูคู่แค้นเหมือนอย่างที่เขาทำมาตลอด 5 ปี
“หลังแต่งงานคุณกันต์จะใช้ห้องไหนเป็นเรือนหอคะ นมจะได้ให้เด็ก ๆ มาจัดห้องหับให้ใหม่ หรือคุณหนูอยากปรับเปลี่ยนอะไรจะได้เรียกช่างมาทำได้ทันก่อนงาน”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมจะอยู่ห้องเดิมของผม”
“อ้าว แล้วคุณกานต์ล่ะคะ ห้องของคุณหนูกว้างก็จริง แต่ถ้ามีคุณกานต์ไปอยู่ด้วย นมว่าจะไม่สะดวกกันนะคะ”
“เขาก็อยู่ห้องตัวเองสิครับ จะมาอยู่กับผมทำไม”
“แต่คุณหนูกำลังจะแต่งงานกับเธอนะคะ ผัวเมียแยกกันอยู่แบบนี้มันผิดธรรมเนียม”
“ผมไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอกครับ”
ลำพังแค่เงื่อนไขที่เขาต้องแบกรับอยู่ตอนนี้ก็หนักเกินกว่าจะมาคิดเรื่องอื่นแล้ว
ทั้งเรื่องที่ต้องแต่งงานอยู่กินกับคนบ้า หรือเรื่องที่เขาต้องเข้ามาบริหารงานทุกอย่างแทนพ่อเป็นเวลา 3 ปี และแต่ละปีต้องมีกำไรมากขึ้น เขาถึงมีสิทธิ์ขายทรัพย์สินทุกอย่างของพ่อได้
“แต่ในพินัยกรรมบอกไว้ว่าคุณหนูทั้งสองต้องอยู่กินกันแบบผัวเมียนะคะ นมเองยังไม่เคยเห็นผัวเมียคู่ไหนแยกกันอยู่ทั้งที่อยู่บ้านหลังเดียวกันเลย”
“ก็คู่ผมไงครับ”
“โธ่ คุณหนู” นมนุ่มให้ระอาใจนัก จะโทษคุณกันต์ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะเธอเองก็มีส่วนผิดที่เลี้ยงดูคุณหนูให้กลายเป็นคนเอาแต่ใจแบบนี้
“เอาน่า ผมว่าคุณหนูกานต์ของนมเธอก็คงไม่ขัดเหมือนกัน ถ้าเราสองคนจะแยกกันอยู่” รายนั้นห่างเขาเท่าไหร่ก็ยิ่งชอบใจ
“แล้วมันจะไม่ผิดเงื่อนไขหรือคะ”
“ถ้าไม่มีใครไปบอกคุณทนาย ก็ไม่น่ามีปัญหานะครับ”
คุณหนูของเธอช่างดื้อดึงเสียใจ
“แล้วนี่จะออกไปดูชุดแต่งงานกันวันไหนคะ” นมนุ่มกลัวไม่ทัน ตามเงื่อนไขทั้งคู่ต้องแต่งงานกันภายใน 1 เดือน นี่ก็ผ่านมา 3 วันแล้วหลังจากเปิดพินัยกรรม แต่ดูเหมือนคุณหนูจะไม่รีบร้อนอะไรเลย ที่จริงต้องพูดว่า คุณหนูไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยด้วยซ้ำ เห็นวุ่นวายอยู่กับการเข้าไปทำงานในบริษัทจนแทบไม่มีกินเวลานอน
“เรื่องนี้ผมฝากนมช่วยจัดการด้วยนะครับ”
“ไม่ได้คะ ของแบบนี้คนใส่ต้องไปเลือกเองสิคะ ให้คนอื่นเลือกจะถูกใจได้ยังไง”
“ผมไม่ถือ จะแบบไหนสีอะไรผมใส่ได้หมด”
“โธ่ คุณหนู”
“เอาเป็นว่า ผมวานนมช่วยพายายบ้า” โดนนมนุ่มจ้องเขม็งจนกันต์พิพัฒน์ต้องรีบเปลี่ยนสรรพนามที่พูดจนติดปากเสียใหม่ “เออ..คุณกานต์ไปดูชุดแต่งงานแทนผมด้วยล่ะกัน ส่วนของผมนมชอบแบบไหนก็จัดไปเลยครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะ” พูดจบคุณหนูของบ้านกิตติวรเดชก็โน้มตัวหอมแก้มสาวเหลือน้อยไปฟอดใหญ่ เล่นเอาคนอายุมากหัวใจเต้นโครมครามให้กับความทะเล้นของเจ้านายหนุ่ม
“กานต์ไม่ไปได้ไหมคะ” หญิงสาวนั่งหน้ามุ่ย เธอไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นที่เกี่ยวข้องกับงานแต่งงานของตัวเอง อันที่จริง ต้องพูดว่า เธอไม่อยากให้งานแต่งงานนี้เกิดขึ้นด้วยซ้ำ ใครเล่าอยากจะแต่งงานกับคนที่ตนไม่ได้รัก
“ไม่ได้ค่ะ คุณกันต์ก็ไม่ไปคนนึงแล้ว ถ้าคุณกานต์ไม่ไปอีกคนงานมันจะเดินหน้าต่อไปยังไงคะ” บัวแก้วพยายามกล่อมเจ้านายสาว
“เขาไม่ไปหรือคะ” ไม่รู้ว่าเธอควรจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ ที่อีกคนก็ไม่ให้ความสำคัญกับงานแต่งงานครั้งนี้เหมือนกัน
“ใช่ค่ะ รายนั้นออกไปทำงานตั้งแต่เช้า” บัวแก้วรายงานตามที่ได้รับข้อมูลมาจากพี่ไหมลูกสาวคุณนมนุ่ม “ไปเถอะนะคะ คิดซะว่าเป็นครั้งนึงในชีวิตที่คุณหนูจะได้ใส่ชุดเจ้าสาวแสนสวย”
ถ้าได้ใส่ชุดเจ้าสาวแล้วแต่งงานเคียงคู่กับคนที่เธอรัก มันคงจะเต็มไปด้วยความสุขและความเต็มใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่พิธีแต่งงานที่เกิดจากเงื่อนไขแบบนี้ เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับเงินทองทรัพย์สิน
“ผมมารับแล้วครับ” ธนาธิปยิ้มกว้างให้กานติมาและบัวแก้วที่กำลังยืนรอลุงชุ่มอยู่หน้าบ้าน
“อ้าว คุณธนามาได้ไงคะ”
“พอดีนมนุ่มโทรหาผม ขอให้ช่วยไปเลือกชุดเจ้าบ่าวแทนคุณกันต์น่ะครับ”
บัวแก้วกวาดตาขึ้นลงมองคุณธนาธิปแล้วให้นึกได้ว่า ชายหนุ่มตรงหน้าช่างมีรูปร่างพอดิบพอดีกับคุณกันต์พิพัฒน์เสียจริง ไม่แปลกเลยที่คุณนมให้มาช่วยเรื่องสำคัญนี้ แถมทั้งคู่ยังอายุอานามใกล้เคียงกัน ความชอบคงไม่ต่างกันเท่าไหร่
“แหม ใส่ชุดไหนก็ขึ้นหมดเลยนะคะ สวยหล่อสมกันมากค่ะ”
“ขอบคุณครับ” ธนาธิปยิ้มรับคำชมจากเจ้าของร้าน ผิดกับอีกคนที่สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้ใดออกมา
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะเธอสติไม่สมประกอบ แต่ต่อให้เธอจะเป็นอย่างไร ธนาธิปก็ยังรัก และหวังว่า ต่อจากนี้ไปอีก 3 ปี เขาจะได้เป็นเจ้าบ่าวตัวจริงของหญิงบ้าผู้นี้ ไม่ใช่แค่เจ้าบ่าวตัวสำรอง
“คุณกานต์ชอบชุดนี้ไหมครับ” เห็นคนยืนข้างกันนิ่งเงียบหลังร่วมถ่ายภาพกันไปหลายใบ ธนาธิปเลยชวนคุย
“ชอบ” หญิงสาวตอบกลับมาสั้น ๆ
“วันนี้คุณกานต์สวยมากเลยครับ”
“คุณก็หล่อ” หญิงสาวชมจากใจจริง
“ขอบคุณครับ” แม้ใจรู้ดีว่าคนชมอาจไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูด แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้หัวใจเขาพองฟูไปแล้ว
“พี่บัวขออนุญาตพาคุณหนูไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ” บัวแก้วยกป้ายไฟเชียร์คุณธนาธิปมาตลอด แต่สถานการณ์ปัจจุบันมันเปลี่ยนไปแล้ว คุณหนูกานต์กำลังจะแต่งงาน ขืนยังปล่อยให้คุณธนาธิปมาจีบอยู่แบบนี้ จะพาเสียชื่อกันหมด
“คุณหนูไม่ชอบชุดเหรอคะ” เห็นเจ้านายสาวสีหน้าเรียบเฉยไม่มีความสุขกับการเลือกชุดวันนี้เลยอดห่วงไม่ได้
“กานต์จะชอบหรือไม่ชอบมันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้นี่คะ”
“โธ่คุณหนู” บัวแก้วสงสารคุณหนูจับใจ ตั้งแต่โตมาเธอก็โดนบังคับไปทุกอย่าง ขนาดสติดียังถูกบังคับให้แสดงเป็นคนบ้า แม้กระทั่งจะแต่งงานมีครอบครัวก็ยังโดนบังคับ ถึงจะไม่มีใครถือมีดถือปืนมา มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
วันเวลาล่วงเลยจนเกือบครบเดือน กันต์พิพัฒน์และกานติมาคงจะเป็นคู่บ่าวสาวที่แปลกประหลาดที่สุด ทั้งคู่ไม่สนใจงานแต่งงานของตนที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แม้แต่น้อย ไม่สนใจว่าจะจัดงานที่ไหน ของชำร่วยคืออะไร โดยเฉพาะ
ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะฝ่ายเจ้าบ่าวที่ยังคงใช้ชีวิตเหมือนหนุ่มโสดไร้พันธะ บริษัทกำลังไปได้ดีภายใต้การบริหารงานของกันต์พิพัฒน์ เช่นเดียวกับข่าวคาวระหว่างนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า ทั้งนางแบบ ดารา ไฮโซ จนกลายเป็นข่าวซุบซิบเต็มโลกโซเชียล
“ทำไมคุณกันต์ทำแบบนี้ล่ะคะ พรุ่งนี้ก็จะแต่งงานแต่งการอยู่แล้ว” นมนุ่มผู้เฝ้ามองดูเหตุการณ์นี้มาหลายวันจนอดรนทนต่อไปไม่ไหว ถึงกับเอ่ยปากพูดกับกันต์พิพัฒน์
“ผมทำอะไรครับนม” แสร้งถามทำตาใส ทั้งที่รู้ความดีว่าที่คุณนมพูดถึงคือเรื่องที่เขาพาสาวมาเล่นจ้ำจี้กันในบ้านอย่างเปิดเผย แถมเปลี่ยนสับเวียนหน้ากันจนเด็กในบ้านจำไม่ได้
“ก็ที่กำลังทำอยู่นี่ไงคะ” นมพูดพลางชำเลืองมองหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อยจนแทบปิดส่วนอกไม่มิดกำลังยืนเกาะแขนนายน้อยเธออย่างกับกล้ามเนื้ออ่อนแรงพยุงตัวเองไม่ได้
“ผมก็แค่หาความสุขให้กับตัวเอง”
“แต่ความสุขของคุณหนูกำลังทำร้ายคุณกานต์นะคะ”
หญิงชราไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดคุณหนูของเธอถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ รู้ดีว่าเธอโกรธและเกลียดคุณหนูกานต์มาตั้งแต่ที่เข้ามาเป็นเมียอีกคนของพ่อ
แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกลียดจนถึงกับทำร้ายน้ำใจกันแบบนี้ ต่อให้ไม่ได้รักใคร่ชอบพอกัน แต่คนที่กำลังจะอยู่ในฐานะเมีย ก็คงไม่สบายใจกับการกระทำของว่าที่สามี
“ผมยังไม่เคยเห็นคุณกานต์ของนมว่าอะไรเลยนะครับ อันที่จริงเธอควรดีใจด้วยซ้ำที่ผมหาคนมาแบ่งเบาภาระหน้าที่เมียของเธอ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
กันต์พิพัฒน์ควงสาวสวยขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน โดยไม่สนใจว่าคุณนมแทบลมจับกับประโยคสุดร้ายกาจของตน
“ไม่ต้องปิดประตู”
“แล้วถ้าใคร…”
“เปิด!”
จีน่าไม่รู้มาก่อนว่าหนุ่มหล่อคนนี้จะมีรสนิยมทางเพศที่แปลก คงเป็นพวกชอบโชว์ ถึงให้เธอเปิดแง้มประตูห้องนอนไว้ เธอเองก็ไม่ใช่คนหน้าบางเท่าไหร่ อีกอย่างเงินของอีกคนมันหอมหวานจนปิดหูปิดตาเธอได้สนิท
“อาบน้ำด้วยกันไหมคะ จีน่าจะได้ถูสบู่ให้” ส่งสายตายั่วยวนพร้อมรบในชุดผ้าขนหนูพันตัว เชื้อเชิญอีกคนให้เปิดเกมรักในห้องน้ำด้วยกัน
“ไม่ วันนี้ผมมีเวลาไม่มาก คุณรีบไปอาบเถอะ”
คล้อยหลังจีน่าที่เดินเข้าไปอาบน้ำด้านใน กันต์พิพัฒน์ออกมาจากห้องนอนเพื่อมาหาใครบางคนที่อยู่ห้องติดกัน
ก๊อก ๆ …
“อ้าว คุณกันต์ มีอะไรให้บัวรับใช้ค่ะ” เป็นบัวแก้วที่เป็นคนมาเปิดประตูให้
“ยาย…คุณหนูของบัวอยู่ไหม”
“อยู่ค่ะ คุณกานต์เธออาบน้ำอยู่ คุณกันต์มีอะไรรึเปล่าคะ”
ร้อยวันพันปีนายน้อยของกิตติวรเดชไม่เคยดูดำดูดี ไม่เคยมาสนใจ หรือมาหาคุณกานต์แบบนี้เลยสักครั้ง สร้างความแปลกใจให้บัวแก้วพอสมควร
ครั้นพอนึกได้ว่า วันพรุ่งนี้ทั้งคู่ก็จะเข้าพิธีมงคลสมรสกันแล้ว คุณกันต์เธออาจมีเรื่องพูดคุยกับคุณกานต์ก็เป็นได้
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา” อย่างที่คิดเลย
“ได้ค่ะ คุณกานต์อาบน้ำใกล้เสร็จแล้ว คุณกันต์จะให้เธอไปพบที่ไหนคะ”
“ไม่ต้อง ฉันจะรอที่นี่”
“แต่ว่า”
“เธอไปเอากาแฟให้ฉันหน่อย”
“แต่…”
“หรือเธออยากจะหางานใหม่”
แล้วบัวแก้วจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อคนจ่ายเงินเดือนให้เธอทุกวันนี้แทนคุณพิพัฒน์ก็คือคุณกันต์พิพัฒน์คนนี้
ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์นั่งลงบนเตียงกว้างของกานติมา กวาดตามองไปรอบห้องที่เขาไม่เคยเข้ามาเหยียบเลยสักครั้ง ข้าวของเครื่องใช้น้อยชิ้นรวมกับโทนสีของห้องชวนให้สบายตา กลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ ลอยฟุ้งกระจายไปในอากาศ
กลิ่นของกานติมา…
“ว้าย!...” กานติมาตกใจสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นว่าใครนั่งอยู่บนเตียงนอนของเธอ ตากลมไหวระริกมองหาพี่เลี้ยง
“บัวลงไปเอากาแฟให้ฉัน”กันต์พิพัฒน์ตอบข้อสงสัยอย่างกับมานั่งในใจเธอ
ชายหนุ่มนึกขันอากัปกิริยาของว่าที่ภรรยา เธอทำราวกับว่าเขาเป็นพวกบ้ากามที่ฉวยโอกาสจะเข้ามาทำมิดีมิร้าย สองมือกำสาบเสื้อคลุมอาบน้ำเสียแน่น
“ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะปล้ำเธอหรอก อย่างเธอมีอะไรให้น่าเอา”
‘หยาบคาย’ กานติมาก่นว่าในใจถึงคำพูดคำจาของอีกฝ่าย
“ฉันแค่มีเรื่องจะมาตกลงกับเธอ”
“พี่บัว จะหาพี่บัว”
“ฉันพูดไม่นาน ฟังฉันก่อน”
“ไม่เอา จะหาพี่บัว กานต์จะไปหาพี่บัว”
กานติมาเริ่มส่งเสียงดังและพยายามจะออกจากห้อง แต่โดนคุณกันต์พิพัฒน์คว้าเอวไว้ก่อน เลยกลายเป็นว่าในตอนนี้เธอกำลังอยู่ในอ้อมแขนของว่าที่สามีโดยที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง
“อย่าดิ้น ถ้าไม่อยากโดนฉันปล้ำก่อนแต่ง”
คำขู่ได้ผลในแบบที่กันต์พิพัฒน์ไม่คิดว่าคนบ้าอย่างกานติมาจะฟังรู้เรื่อง ตอนนี้เธอยืนนิ่งในอ้อมกอดเขา
‘หอม นิ่ม’ นั่นคือสัมผัสแรกที่รับรู้ เนื้อตัวของกานติมานุ่มนิ่มจนเขาเผลอลูบแขนเนียน ตัวก็หอมในแบบหวานละมุนจนอยากจะซบหน้าลงกับไหล่มนเพื่อสูดดมกลิ่นหอมให้ชื่นใจ
แต่กันต์พิพัฒน์ต้องหยุดทุกอย่างไว้ เพื่อพูดในสิ่งที่เขาตั้งใจจะมาบอกเธอ
“ฟังฉัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป เราสองคนจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ก็แค่ในนาม ฉันจะไม่แตะต้องตัวเธอ เราจะแยกกันอยู่จนครบสามปี แล้วเราจะเลิกกัน ฉันจะให้เงินเธอก้อนนึงแล้วออกไปจากที่นี่ซะ”
หัวใจดวงน้อยวูบโหวงไหวสั่น ไม่รัก ไม่ว่า แต่สงสารเมตตาเธอสักนิดจะได้ไหม เธอกับบัวแก้วไม่มีที่ไหนให้ไปแล้ว และถ้าวันใดเธอก้าวเท้าออกจากบ้านหลังนี้ ก็เท่ากับว่าเธอกำลังเดินขึ้นลานประหาร ที่ไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าเธอทำผิดอะไร และใครที่ตั้งใจจะประหารเธอ
ความคิดเห็น