คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : เผชิญหน้ากับความจริง
“เกิดเรื่องแบบนี้กับเชอร์รี่ได้ยังไง” กันต์พิพัฒน์หัวร้อนทันทีที่ได้ยินเรื่องราวของน้องสาวจากปากภรรยาที่เพิ่งกลับจากโรงพยาบาลเพื่อมาเก็บข้าวของไปนอนเฝ้าทักษอรที่ต้องเข้าแอดมิด
“กานต์ก็ไม่รู้ค่ะ คุณเชอร์รี่ไม่ยอมพูดอะไรเลย”
“อืม ให้เวลาเขาหน่อย” ปากพูดมือก็พับเสื้อผ้าที่เมียเอามาวางให้เรียบร้อย “แล้วหมอบอกต้องอยู่กี่วันล่ะ”
“ประมาณสองสามวันค่ะ ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน”
“งั้นเดี๋ยวคืนนี้พี่นอนเป็นเพื่อนนะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ กานต์นอนคนเดียวได้ คุณกันต์แค่ไปส่งก็พอ”
“ให้พี่ไปเถอะ พี่เองก็ทำผิดกับเชอร์รี่ไว้เยอะ”
“ก็ได้ค่ะ” เห็นสามีอยากทำคุณไถ่โทษก็ยิ้มกว้างให้ อย่างน้อยเหตุการณ์นี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของทุกคนก็ได้
“เป็นยังไงบ้าง” กันต์พิพัฒน์ถามคนนอนป่วยที่กำลังลืมตาแป๋วจ้องมองเขา “ยังเจ็บอยู่ไหม” คำตอบเดิมยังไม่ได้ ก็ป้อนคำถามใหม่เข้าไปอีก
“ใจเย็น ๆ สิคะ ให้คุณเชอร์รี่ได้พักก่อน” เห็นพี่สาวนิ่งเงียบก็เป็นห่วงความรู้สึก
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ เชอร์รี่ดีขึ้นแล้วค่ะพี่กันต์” หญิงสาวตอบตามจริง ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของตนในเวลานี้ มันดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากโข
“นอนสบายไหม พี่ว่าห้องมันเล็กไปนะ เราเปลี่ยนห้องให้มันใหญ่กว่านี้ไหม”
“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ” ทักษอรยิ้มกว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรับรู้ได้ถึงความห่วงใยจากพี่ชายต่างสายเลือด
“แน่นะ”
“แน่ค่ะ”
“ถ้าเชอร์รี่ห่วงเรื่องเงิน ไม่ต้องคิดเลยนะ เดี๋ยวเรื่องนี้พี่จัดการให้”
“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวประนมมือไหว้สวยพร้อมส่งยิ้มบางให้ ผู้เป็นพี่ไม่เคยเห็นมุมนี้ของน้องสาวก็รู้สึกเอ็นดู ยื่นมือหนาลูบลงบนเรือนผมสลวยสีมะฮอกกานีอย่างเบามือ
การกระทำแสนอบอุ่นในแบบที่ทักษอรไม่เคยได้รับจากใคร ทำเอาหญิงสาวบ่อน้ำตาแตกอีกครั้ง สองสามีภรรยานี่ช่างดีกับเธอเหลือเกิน
“อึก เชอะ เชอร์รี่ขอโทษนะคะพี่กันต์ ทะ ที่เชอร์รี่เคยทำไม่ดีกับพี่” หญิงสาวสะอื้นไห้ปากบางละล่ำละลักพร่ำขอโทษในสิ่งที่ตัวเองเคยทำผิดพลาดไป
“พี่สิที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ และขอโทษที่เคยล่วงเกินเรา เชอร์รี่จะยกโทษในความผิดที่พี่เคยทำไปได้ไหม”
“ดะ ได้ค่ะ อึก ฮือ…” และยิ่งร้องหนักกว่าเดิมเมื่อกันต์พิพัฒน์โน้มตัวเข้าสวมกอดคนขวัญเสีย มือหนาลูบแผ่นหลังบางอย่างทะนุถนอม ผิดแผกจากก่อนที่ลูบไล้ด้วยความเสน่หา
“พักผ่อนนะ พี่กับกานต์จะไม่ไปไหน”
ทักษอรพยักหน้ารับ นาทีนี้เธอตื้นตันจนกลั่นออกมาเป็นคำพูดไม่ได้แล้ว ความอบอุ่นของทั้งคู่ทลายชั้นน้ำแข็งที่เกาะหนาในหัวใจจนสิ้นซาก จากที่เคยใช้ชีวิตด้วยความผิดพลาดมาตลอด ต่อไปเธอจะขอเลือกทางเดินใหม่
“นายครับ ครบสามวันแล้ว” ชิต ลูกน้องมือซ้ายถามกิตติทัศน์ที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อย่างใจเย็น
“ได้ข่าวอะไรบ้าง” หันไปถามลูกน้องมือขวาที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“คุณเชอร์รี่เข้าโรงพยาบาลครับ ตั้งแต่เมื่อวาน”
“อืม ฉันคงต้องไปเยี่ยมสักหน่อย”
สองลูกน้องคนสนิทเย็นวาบไปทั้งตัว รอยยิ้มร้ายแบบนั้นเป็นใครก็กลัว ในใจก็นึกสงสารผู้หญิงคนนั้นที่ถูกพิพากษาให้รับโทษทัณฑ์แทนแม่ของตัวเอง
“เดี๋ยวพี่ขอไปบริษัทแป๊บนึงนะ” ใจอยากจะอยู่เป็นเพื่อน แต่งานก็ต้องทำแถมเป็นงานสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้
“คุณกันต์ไปเถอะค่ะ เราสองคนอยู่ได้” กานติมายิ้มกว้างให้สามี เดี๋ยวช่วงสายก็จะมีพี่บัวมาด้วยอีกคน
“อืม พี่จะรีบกลับนะ”
“ค่ะ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
คล้อยหลังสามีไม่นาน ประตูถูกเคาะจากด้านนอก กานติมารีบลุกมาเปิดให้เพราะคิดว่าเป็นพี่เลี้ยง
“สวัสดีครับ คุณกานติมา”
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้คนที่เอ่ยปากทักตนก่อน แม้จะไม่เคยรู้จักชายผู้นี้มาก่อนก็ตาม
“ผมมาเยี่ยมคุณทักษอรครับ”
“อ่อ เชิญด้านในก่อนค่ะ” กานติมายิ้มกว้างรับแขก ก่อนเชื้อเชิญให้เข้ามาในห้องพักฟื้น
ทักษอรที่ในคราวแรกกังวลกับสุ้มเสียงที่ได้ยิน เพราะมันช่างละม้ายคล้ายกับไอ้ชาติชั่วนั่น พอได้เห็นว่าเป็นใครก็ตกใจตาเบิกโพลง หัวใจเต้นรัวราวจะหลุดออกมานอกอก ความหวาดกลัวฉายออกมาทางแววตาและท่าทางที่ถดถอยหนีจนติดหัวเตียง
กานติมาเห็นอาการของพี่สาวก็รู้ได้ทันทีว่ากลุ่มชายฉกรรจ์นี้ไม่ใช่คนดี และอาจเป็นคนที่ฝากรอยแผลไว้ให้ทักษอร
“เชิญคุณกลับไปก่อนนะคะ” หญิงสาวรีบออกปากไล่อย่างสุภาพ
“อย่าเพิ่งไล่กันสิครับ คุณกานติมา” หญิงสาวตาโตจ้องมองชายหนุ่มที่ตนไม่รู้จัก แต่อีกคนกลับรู้จักตน
“คุณ…”
“กิตติทัศน์ครับ ผมเป็นสามีคุณเชอร์รี่”
“ไม่ใช่! แกข่มขืนฉัน” ทักษอรประกาศเสียงแข็ง
“ทั้งที่คุณขึ้นขย่มผมเองเหรอครับ” เสี่ยหนุ่มพูดยิ้มยียวน
“ดิฉันว่าคุณกลับไปเถอะค่ะ” กานติมาหาทางไล่ เริ่มจะเข้าใจความสัมพันธ์ของทั้งคู่
“ผมกลับแน่ครับ แต่ต้องหลังจากคุณเชอร์รี่ใช้หนี้ผมแล้ว”
ทักษอรหน้าซีดตัวสั่น กลัวว่าความลับที่ตนปิดไว้จะถูกเปิดเผย และที่สำคัญที่สุด กลัวว่าเซ็กเทปที่ตนแสดงเป็นนางเอกนั้น จะถูกเผยแพร่ออกไป
“กลับไปก่อน เดี๋ยวออกจากโรงพยาบาลฉันจะไปหาแกเอง”
“ไม่ครับ ผมให้เวลาคุณมามากแล้ว”
“ตอนนี้ฉันยังไม่มีให้แกหรอก”
“อืม ถ้างั้น คุณคงไม่ว่านะ ถ้าผมจะขายมัน”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
กลุ่มคนในห้องต่างจ้องบานประตูที่กำลังเปิดเข้ามา
บัวแก้วมองกลุ่มชายฉกรรจ์ด้วยความสงสัย จะว่าเป็นเพื่อนคุณกานต์คงไม่ใช่ จะเป็นแขกของคุณทักษอรก็ไม่เชิง เพราะดูตึง ๆ กันอยู่
“เลือกเอานะครับ ระหว่างเงินหนึ่งล้านกับการรับบทเป็นนางเอกหนังเอ็กซ์ แต่ผมว่า อย่างหลังก็เหมาะกับคุณนะ”
กานติมากับบัวแก้วมองหน้ากัน คำพูดของชายแปลกหน้าชัดเจนทุกคำ ไม่ต้องแปลไม่ต้องตีความ
ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกตะลึงกับสิ่งที่ตนเพิ่งได้ยินไปเมื่อครู่ กิตติทัศน์ย่างสามขุมเข้าหาทักษอรที่นั่งตัวสั่นอยู่บนเตียง
“ไหนเสี่ยบอกว่าชอบเชอร์รี่ไง” เธอจำได้ ตอนที่ตัวเองขึ้นขย่มร่างสูงพร่ำบอกว่าชอบเธอไม่หยุด
“โถ นี่คุณคิดจริงหรือครับ ว่าผมจะไปชอบผู้หญิงร่าน ๆ แบบคุณ แค่สะกิดนิดหน่อยก็ขึ้นขย่มคนอื่นได้แบบหน้าไม่อาย ถ้าคุณคิดแบบนั้นจริง ผมก็คงชอบอีตัวทุกคนที่ผมเอาด้วย”
“ไอ้เหี้ยเอ้ย!” ทักษอรโน้มตัวทุบไปที่ไหล่กว้างเต็มแรง คำดูถูกเหยียดหยามที่สาดใส่ชนิดที่ว่ากดต่ำจนเตี้ยกว่าคำว่ามนุษย์ เป็นใครจะรับได้
เพี๊ยะ!
ฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าซีกแก้มซ้ายเต็มแรง ผู้ชั้นต่ำคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงได้กล้ามาทำร้ายตัวเขา
“ถอยไปนะ!” บัวแก้ววิ่งเข้าไปผลักอกเสี่ยหนุ่มอย่างไม่กลัวตาย “อย่าทำอะไรคุณหนูเชอร์รี่นะ” ยกมือขึ้นทำท่าตั้งการ์ด ความรู้ที่เคยเรียนมาจากชุมนุมมวยไทยสมัยม.3 เห็นทีคงได้ใช้งานวันนี้
“อย่าทำอะไรพี่เชอร์รี่นะ” กานติมาวิ่งเข้ามาอีกคน สองแขนเรียวยกขึ้นกั้นระหว่างเสี่ยหนุ่มกับพี่สาว
“อย่าทำอะไรพวกเขานะ ถ้าแกจะทำมาทำฉันนี่” ทักษอรไม่ยอมให้ 2 คนนี้ต้องมารับเคราะห์แทนตน ที่ทำอยู่ก็มากมายเกินจะตอบแทนความดีแล้ว
“แหม รักกันดีจังนะครับ” เสี่ยหนุ่มยิ้มเยาะ “ว่าแต่ คุณกานติมาเคยรู้ไหมครับ ว่าผู้หญิงคนนั้นคิดจะแย่งสามีของคุณไป” ชายหนุ่มชี้นิ้วไปที่ทักษอรจนคนถูกชี้หน้าเสีย
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกานติมาดีขึ้นมาก จากที่เคยมีตัวคนเดียว ทุกวันนี้เธอมีน้องสาวที่น่ารัก แต่ตอนนี้เธอกำลังจะเสียความสัมพันธ์นั้นไป เพราะสิ่งที่กิตติทัศน์พูด เป็นความจริงทุกอย่าง
“กานต์รู้ค่ะ” ทักษอรตาเบิกโพลงจ้องมองน้องสาวด้วยความกลัว “แต่นั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว”
“คุณนี่สมกับเป็นนางเอกเลยนะครับ ขนาดโดนคนอื่นแย่งสามี คุณยังยื่นดอกไม้ให้เขาอยู่ได้”
“พูดธุระของคุณมา แล้วก็กลับไปซะ” กานติมาพูดเสียงแข็ง
“ก็ดีครับ ผมก็ไม่อยากยืดเยื้อให้มากความ”
กานติมาเดินตามกิตติทัศน์ไปนั่งที่โซฟา กำชับให้บัวแก้วดูทักษอรที่นั่งตัวสั่นงันงกเหมือนคนเสียสติ
“คุณหนู เป็นยังไงบ้างคะ” บัวแก้วไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่านี่คือครั้งแรกที่ตนเรียกทักษอรด้วยสรรพนามนี้ น้ำเสียงนุ่มนวลแววตาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“เจ็บตรงไหน บอกพี่บัวสิคะ” บัวแก้วสำรวจหาร่องรอย เห็นคุณเชอร์รี่ร้องไห้คงมีแผลนอกเหนือจากรอยตบที่แดงช้ำ
“พะ พี่บัว ทำไมดีกับเชอร์รี่จัง”
เอาตรง ๆ พี่เลี้ยงคนเก่งก็ไม่รู้หรอก ว่าเพราะเหตุใดตนถึงได้ทำดีกับคุณหนูทักษอร อาจจะเพราะความสงสารในโชคชะตาของเธอ หรือเพราะเธอสำนึกผิดแล้วหันมาดีกับคุณหนูกานต์ บัวแก้วก็ตอบไม่ได้
ความคิดเห็น