NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภรรยาบ้าของคุณกันต์

    ลำดับตอนที่ #27 : ตายหรืออยู่

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 67


              “คุณ หมอนข้างมันเยอะไปไหม” กันต์พิพัฒน์ขมวดคิ้วมุ่น มองเตียงนอนคิงไซส์ที่เต็มไปด้วยหมอนข้าง

              “กานต์ชอบนอนดิ้นค่ะ ต้องมีหมอนไว้กอด” 

              “กอดพี่ไม่ดีกว่าเหรอ”

              บัวแก้วกับไหมอยากจะละลายไหลกองรวมกันเสียจริง นี่ขนาดพวกเธออยู่ด้วย คุณกันต์ยังตอดเล็กตอดน้อยคุณกานต์ตลอด เห็นทีอีกไม่นาน คุณ ๆ คงมีคุณหนูตัวเล็ก ๆ มาให้พวกเธอเลี้ยงแน่นอน

              “ไม่ดีกว่าค่ะ คุณกันต์ตัวแข็ง ไม่นิ่มเหมือนหมอน”

              “แต่บางจุดก็นิ่มนะ แถมดิ้นได้ด้วย”

            ‘หู้ย!...ยกอีบัวจะแตก’       

            เพี๊ยะ!

              กานติมาตีแขนสามีอย่างแรง พูดจาแบบนี้ต่อหน้าพวกพี่บัวแก้วแล้วเธอจะสู้หน้าพวกพี่เขาได้ยังไง นับวันคุณกันต์ยิ่งทะลึ่งลามกมากขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยมีลักษณะนิสัยแบบนี้เลย

              “คุณกันต์จะเก็บเครื่องเพชรเข้าเซฟเลยหรือเปล่าคะ” ตั้งแต่วันที่เธอใส่ไปร่วมงานเลี้ยง กล่องกำมะหยีสีแดงสดนี่ยังวางอยู่บนโต๊ะเหมือนเดิม คุณกันต์เองก็ไม่เคยทวงถาม

              “มีอะไรหรือเปล่า”

              “กานต์ขอทำความสะอาดก่อนเก็บได้หรือเปล่าคะ”

              “งานพวกนี้ให้ไหมทำก็ได้”

              “กานต์อยากทำเองค่ะ” 

              “ทำไมเมียพี่น่ารักจัง”

              เพี๊ยะ!

              โดนไปอีกข้างหวังว่าจะเบาความทะลึ่งลงบ้าง

              “บัวกับไหมออกไปก่อนครับ ผมกับคุณกานต์ขอลองเตียงสักหน่อย อยากรู้ว่าจะเด้งดี นอนสบายหรือเปล่า”

              คล้อยหลังสองสาวไม่นาน เสียงครางหวานหูก็ดังแผ่วภายในห้องนอนกว้าง เตียงคิงไซส์หลังใหม่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วงและทุกมุม เล่นเอาคนทดสอบคุณภาพของเตียงอย่างกานติมาต้องร้องขอชีวิตจากผู้ร่วมทดสอบ

              ฝ่ายทักษอรที่หมกตัวอยู่แต่ในห้องมา 2 วัน ไม่หลับไม่นอนและไม่ยอมกินอะไรเลย จนคนรอบข้างอย่างกานติมาเริ่มเป็นห่วง

              ก๊อก ก๊อก ก๊อก

              ไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านใน กานติมาเคาะประตูซ้ำ แต่ก็ยังเงียบเหมือนเดิม ด้วยความร้อนใจและเป็นห่วง กลัวว่าคนในห้องจะเป็นลมเป็นแล้งไปเพราะไม่ได้ทานอะไรมาหลายมื้อแล้ว 

              หญิงสาวจับลูกบิดประตูเปิดเข้าไปในห้องที่มืดสลัว เพ่งสายตามองหาสวิตซ์ไฟแล้วกดมัน

              “คุณเชอร์รี่” กานติมาวางถาดอาหารลงที่พื้นด้วยความตกใจ เท้าเล็กก้าวยาวตรงไปหาร่างบางที่นอนคว่ำหน้าไม่ได้สติอยู่ที่พื้น

              กานติมาจับพลิกคนหมดสติให้นอนหงายโดยใช้ตักเธอต่างหมอนหนุน ลูบคลำตามตัวจนมีเลือดติดฝ่ามือขึ้นมา สำรวจหาอย่างร้อนใจจนพบว่ามันไหลมาจากส่วนนั้น แถมเนื้อตัวยังร้อนระอุไปทั่ว ริมฝีปากแดงสดอย่างกับคนมีไข้

              หญิงสาวตะโกนเรียกบัวแก้ว อยู่ครู่นึง พี่เลี้ยงสาววิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาช่วยพยุงทักษอรกลับขึ้นไปนอนบนเตียง

              “สงสัยคุณเชอร์รี่จะเป็นไข้ค่ะ ตัวร้อนจี๋เลย” หญิงสาวบอกพี่เลี้ยง

              “งั้นเดี๋ยวบัวโทรตามคุณหมอนะคะ”

              พูดจบบัวแก้ววิ่งตัวปลิวลงไปโทรหาคุณหมอที่ชั้นล่าง กานติมาเดินเข้าไปในห้องน้ำหาอุปรณ์ที่พอจะเอามาใช้เช็ดตัวทักษอรได้

              “ทะ ทำอะไร” ความเย็นที่ลูบไล้อยู่บนใบหน้า เรียกคนหมดสติให้ฟื้นคืน

              “คุณเชอร์รี่ตัวร้อนมากค่ะ น่าจะเป็นไข้ กานต์เลยเช็ดตัวให้”

              “ไม่ต้อง” 

              หญิงสาวเสียงแหบพร่า หน้าตาอิดโรยดูซูบผอมลงไป กานติมาไม่ฟัง ตั้งหน้าตั้งตาเช็ดใบหน้าซูบซีดนั้นต่อ

              “ฉันบอกว่าไม่ต้องไง” ทักษอรตะเบ็งสุดเสียงก็ดังเพียงแค่ได้ยิน 2 คน

              “กานต์รู้ว่าคุณเชอร์รี่ไม่ชอบกานต์ เดี๋ยวถ้ากานต์เช็ดตัวให้เสร็จ กานต์จะไม่มาให้เห็นหน้า ไม่เข้าใกล้เลยค่ะ สัญญา” กานติมายิ้มกว้าง พาเอาคนหัวใจแห้งกร้านกระตุกรัว

              “อืม อยากทำอะไรก็แล้วแต่เธอเลย แต่อย่าให้พี่กันต์มาว่าฉันได้ล่ะ”

              “ค่ะ” กานติมาส่งยิ้มให้ชุบผ้าขยำน้ำ บิดหมาดแฃ้วเช็ดที่คอไล่ลงมาที่แขน “คุณเชอร์รี่ถอดเสื้อได้ไหมคะ” อยากจะเช็ดให้ทั้งตัว อุณหภูมิจะได้ลดลง

              “มะ ไม่ต้อง เท่านี้ก็พอ”

              “ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวไข้ไม่ลด”

              “ก็บอกว่าไม่ต้องไง” ทักษอรตวาดเสียงดังจนกานติมาหน้าหงอย เห็นแบบนั้นก็รู้สึกไม่ดี “ฉันมีปานน่าเกลียด ไม่อยากให้เธอเห็น”

              “ไม่เป็นไรค่ะ กานต์จะไม่บอกใคร”

              “สัญญาได้ไหม ว่าเธอจะไม่บอกใคร”

              “กานต์สัญญาค่ะ”

              เพราะความเชื่อใจ ไว้ใจมันพังทลายไปหมดแล้ว ถ้าในวันนี้กานติมาจะเป็นอีกคนที่หักหลังกัน เธอคงไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว

              ทักษอรยันกายลุกนั่ง ปล่อยให้กานติมาปลดชุดนอนที่ตนสวมอยู่ทั้งท่อนบนและล่าง

              “อึก” กานติมาปิดปากแน่น ทั่วตัวคุณเชอร์รี่มีแต่รอยฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด บางจุดซ้ำจนเป็นสีม่วง คงเพราะรอยพวกนี้ เธอถึงมีไข้

              “น่าสมเพชใช่ไหม” ขนาดตัวเธอเองยังคิดแบบนั้น กานติมาเองก็คงคิดไม่ต่างกัน

              “คุณเชอร์รี่คงเจ็บมากเลยใช่ไหมคะ” หญิงสาวน้ำตารื้น เธอสงสารคุณเชอร์รี่

              “ไม่หรอก” เพราะเธอเจ็บที่ใจมากกว่า

              “เดี๋ยวกานต์จะเช็ดเบา ๆ นะคะ ถ้าคุณเชอร์รี่เจ็บรีบบอกกานต์เลยนะคะ”

              ทักษอรจ้องมองหญิงสาวที่กำลังบรรจงเช็ดตัวให้เธอด้วยความประหลาดใจ กานติมาไม่ได้มีทีท่ารังเกียจหรือเหยียดหยามเธอเลยสักนิด ตรงกันข้าม กลับมองเธอเหมือนเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง

              แม้จะชะงักมือไปตอนที่เช็ดช่วงล่างที่เกรอะกรังเต็มไปด้วยเลือด แต่
    กานติมาก็ยังทำหน้าที่ต่อ โดยไม่ปริปากพูดหรือถามอะไรเลยสักคำ ทำให้
    ทักษอรตื่นตันใจอย่างบอกไม่ถูก

              “เปลี่ยนชุดหน่อยนะคะ จะได้สบายตัว” กานติมาหยิบชุดนอนจากในตู้มาสวมใส่ให้จนเรียบร้อย

              “ทำไมเธอถึงดีกับฉัน ทั้งที่…”

              “คุณเชอร์รี่เป็นลูกของคุณอาพิศาล แล้วคุณอาก็เป็นน้องชายของคุณอาพิพัฒน์ผู้มีพระคุณของกานต์ อะไรที่กานต์ตอบแทนคุณอาพิพัฒน์ได้ กานต์ยินดีทำค่ะ”

              มาถึงตอนนี้ทักษอรรู้แล้วว่า คนที่เหมาะสมกับกันต์พิพัฒน์คือใคร

              “ฉันไม่เคยมีอะไรกับพี่กันต์” เธออยากบอกให้อีกคนรู้

              “คุณกันต์เคยบอกกานต์แล้วค่ะ”

              “คือ ฉัน…”

              “คุณหมอมาแล้วค่ะ” ก่อนทักษอรจะพูดบางอย่างออกไป บัวแก้วก็พาคุณอาหมอเข้ามาพอดี

              คุณอาหมอวิทวัสเป็นหมอประจำบ้านกิตติวรเดชมาหลายสิบปี ตั้งแต่เรียบจบแพทย์มาใหม่ ๆ จนทุกวันนี้ขึ้นเป็นอาจารย์หมอแล้วก็ยังดูลทุกคนในบ้านเป็นอย่างดี

              ใช้เวลาตรวจร่างกายอยู่หลายสิบนาที คิ้วคุณหมอก็ขมวดมุ่นในตอนที่ตรวจพบสาเหตุของการเจ็บป่วยครั้งนี้ เป็นหมอมาทั้งชีวิตยังไม่เคยเจออะไรที่หดหู่ขนาดนี้มาก่อน

              “เดี๋ยวกานต์ออกไปรอข้างนอกนะคะ” เห็นท่าทางคุณหมอหนักใจ กานติมารีบขอตัวเพื่อให้พูดคุยกับคนป่วยได้สะดวก แต่…

              “ไม่ต้องไปหรอก เธออยู่นี่แหล่ะ”

              “แต่ ผมว่า…”

              “ไม่เป็นไรค่ะคุณหมอ ให้คุณกานต์อยู่ด้วยเถอะค่ะ”

              “ครับ” คุณหมอพูดพลางขยับแว่นให้เข้าที่ และเพื่อรวมสติของตัวเองบอกกล่าวสาเหตุการเจ็บป่วยครั้งนี้ให้ทุกคนในห้องได้รู้ “คือ อวัยวะเพศฉีกขาดรวมถึงหูรูดด้วย เกิดการอักเสบฟกช้ำและติดเชื้อ เลยทำให้คุณทักษอรมีไข้ ยังไงก็ต้องไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลนะครับ”

              “ขอบคุณค่ะคุณหมอ” ทักษอรยกมือไหว้ เธอไม่ได้มีท่าทีตกใจแม้แต่น้อยผิดกับอีกคนที่ยืนตัวแข็งทื่อน้ำตาไหลพราก “เป็นอะไร” เห็นแบบนั้นเลยอดถามไม่ได้

              “ใครทำกับคุณแบบนี้ อึก” กานติมาถามเสียงสั่นเครือ สำหรับลูกผู้หญิงแล้ว เรื่องพวกนี้มันเหมือนฝันร้าย

              “ก็แค่พวกนรกส่งมาเกิด”

              “ผมว่าคุณควรแจ้งความนะครับ” คุณหมอแนะนำ สภาพแบบนี้ ไม่ใช่เพราะความยินยอมพร้อมใจแน่นอน

              “ไม่เป็นไรค่ะคุณหมอ เป็นความผิดของหนูเอง”

              เมื่อคนไข้ตัดสินใจแบบนั้น คนเป็นหมออย่างเขาก็ขัดไม่ได้ หลังจัดแจงเรื่องยากับนัดหมายเรื่องไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลเสร็จ คุณหมอก็ขอตัวกลับ

              “เดี๋ยวเราไปหาหมอกันนะคะ” กานติมาพูดหลังคุณหมอออกจากห้องไป

              “ไม่ต้อง แผลแค่นี้ไม่ทำให้ฉันตายหรอก หรือถ้ามันจะตายจริง ฉันก็ยินดี” เพราะตอนนี้ตายหรืออยู่ก็ไม่ได้ต่างกัน

              “กานต์ไม่มีวันปล่อยให้คุณเชอร์รี่เป็นอะไรไปหรอกค่ะ”

              “ถ้าฉันตาย เธอน่าจะดีใจนะ”

              “พี่สาวตายทั้งคน กานต์คงดีใจไม่ได้หรอกค่ะ”

              “พี่สาวงั้นเหรอ”

              “ใช่ค่ะ กานต์มองคุณเชอร์รี่เหมือนพี่สาวคนนึง ถึงคุณเชอร์รี่จะมองกานต์เป็นอะไรก็ตาม

              “คนอย่างฉันเป็นพี่ให้ใครไม่ได้หรอก อึก…” สิ่งที่ทนแบกรับไว้มันหนักเกินไปแล้ว

              กานติมานั่งลงข้างเตียง โน้มตัวกอดคนเสียขวัญไว้แน่น ครั้งหนึ่งตนก็เคยรู้สึกแบบนี้ รู้สึกว่าชีวิตช่างไร้ค่า ไม่น่าจะอยู่ต่อบนโลกนี้ ไม่เหลือใครให้เป็นที่ยึดเหนี่ยว มือบางลูบหลังแผ่วเบาปลอบประโลมคนเศร้าให้คลายทุกข์ ส่งความปรารถนาดีผ่านความอบอุ่นของอ้อมกอดนี้ หวังว่ามันจะไปน้ำแข็งที่เกาะกินหัวใจของทักษอรได้บ้าง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×