NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภรรยาบ้าของคุณกันต์

    ลำดับตอนที่ #22 : ของค้ำประกัน

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 67


              “ชิบหาย นี่พวกแกทำไพ่ใช่ไหม”

              “อ้าวเจ้ ทำไมพูดหมา ๆ แบบนั้นล่ะครับ การพนันมีได้ก็ต้องมีเสียสิครับ”

              “เออ เรื่องนั้นฉันรู้ แต่นี่แกแจกมาสิบรอบ ฉันก็โดนแกกินทั้งสิบรอบ มันใช่หรือวะ”

              “ดวงเจ้ไม่ดีเองป่าว แล้วมาโทษผม”

              “ฉันไม่เชื่อ พวกแกโกงฉัน”

              อิงอรไม่อยากเชื่อว่าตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในบ่อนของเสี่ยกู้ เธอจะโดนกินมันทุกรอบ ครั้งก่อนยังมีได้มีเสียพอให้ได้ติดปลายนวมกลับไปใช้บ้าง แต่ครั้งนี้มีแต่แทงเสีย แล้วจะไม่ให้คิดได้อย่างไร ว่าเธอกำลังโดนไอ้เด็กเมื่อวานซืนโกง

              “อะไรกันครับคุณอิงอร เสียงดังลั่นไปถึงข้างบนเลย” กิตติทัศน์ หรือเสี่ยกู้ที่กำลังนั่งนับเงินอยู่บนชั้น 2 ของบ่อน ได้ยินเสียงเอะอะแสบแก้วหูก็จำได้ทันทีว่ามันคือเสียงของอิงอร ลูกหนี้รายใหญ่ของบ่อน

              “ก็เด็กพวกนี้สิ มันโกงฉัน”

              “ผมเปล่านะครับเฮีย เจ้แกเล่นเสียเองแล้วมาโทษพวกผม”

              “โธ่ คุณอรครับ เรื่องพวกนี้มีได้ก็ต้องมีเสียเป็นของธรรมดา ดูอย่างเมื่อก่อนสิ คุณกับคุณพิศาลได้เงินจากบ่อนผมไปเกือบสิบล้าน ผมยังไม่บ่นสักคำ วันนี้เสียนิดเสียหน่อยก็อย่าคิดมากเลยครับ เสียไปก็แก้มือได้”

              ก็อยากจะทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้เงินของเธอหมดเกลี้ยงแล้ว แถมเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ได้มาจากการเอารถยนต์จำนำกับทางบ่อนด้วย เสียหมดตัวแบบนี้เธอจะเอาเงินที่ไหนมาไถ่ถอนรถล่ะ

              “หรือว่า…” กิตติทัศน์ขยับเข้าใกล้ พูดกระซิบเบาให้ได้ยินกันแค่ 2 คน “ทุนของคุณอรหมดแล้ว”

              “ก็ใช่น่ะสิ เสี่ยพอจะปล่อยให้ฉันสักหน่อยได้ไหมล่ะ”

              “แหม คุณอรครับ หนี้เก่ารวมดอกเบี้ยด้วยก็ร่วมยี่สิบล้านแล้วนะครับ แถมคุณอรก็ยังไม่ใช้ผมเลยสักบาท แล้วแบบนี้เจ้าหนี้ที่ไหนจะให้ยืมอีกล่ะครับ”

              “เสี่ย เมตตาฉันหน่อยเถอะ ยังไงฉันก็เป็นลูกค้าของเสี่ยมานาน ขนเงินมาให้เสี่ยก็เยอะ รับรองฉันไม่เบี้ยวแน่”

              “คุณอรต้องเข้าใจนะครับ คำพูดมันใช้รับรองกันไม่ได้หรอก ยิ่งเป็นคำพูดของคุณอรด้วยแล้ว ผมไม่ค่อยกล้าเชื่อสักเท่าไหร่”

              “ฉันพูดจริงนะ เดี๋ยวอีกไม่นานลูกสาวฉันก็จะแต่งงานกับคนตระกูลกิตติวรเดชแล้ว ถึงเวลานั้น มากกว่ายี่สิบล้านฉันก็ให้เสี่ยได้”

              เพราะชื่อตระกูลทำเอากิตติทัศน์หูผึ่ง ใครบ้างในแวดวงธุรกิจจะไม่รู้จักตระกูลที่รวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ

              “ได้ข่าวว่าตระกูลนี้เหลือแค่คุณกันพิพัฒน์นี่ครับ” แถมข่าวที่ว่ายังบอกด้วย ว่าผู้ชายคนนั้นแต่งงานแล้ว

              “ใช่ ๆ กันต์พิพัฒน์นี่แหล่ะที่ลูกสาวฉันจะแต่งงานด้วย”

              “ฮ่า ฮ่า” กิตติทัศน์หัวเราะร่วน ยายป้านี่คิดว่าเขาโง่หรือยังไง หรือคิดว่าเขาอยู่แต่ในกะลาครอบถึงไม่รู้ว่า กันต์พิพัฒน์คือใคร “คุณอรครับ ลูกสาวคุณจะไปเป็นเมียน้อยเขาหรือไงครับ ผมได้ข่าวว่าคุณกันต์พิพัฒน์เขาแต่งงานแล้วนี่”

              อิงอรหน้าชา แต่ต้องทนฝืนหน้ายิ้มไว้ ขืนเธออาละวาดใส่ไอ้เสี่ยนี่ มีหวังได้โดนลากไปฝั่งใต้ต้นมะม่วงตรงไหนสักแห่ง

              “คะ คือ ใช่ค่ะ คุณกันต์แต่งงานแล้ว แต่ก็กำลังจะเลิกกันแล้วมาแต่งมากับลูกสาวฉัน”

              “อย่าบอกนะครับ ว่าลูกคุณอรไปแย่งเขามา”

              “ไม่ใช่นะ คุณกันต์เขาโดนบังคับให้แต่งงาน เขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นเลย เขารักลูกสาวฉันต่างหาก แล้วตอนนี้เขาก็กำลังจะหาทางเลิกกับนังนั่น”

              “คุณอรต้องการเท่าไหร่”

     

              “เฮีย ผมว่าคุณอรน่าจะโกหกเรา”

              “ทำไมวะ”

              “เฮียดูนี่” เก่ง มือขวาของกิตติทัศน์ยื่นไอแพดในมือส่งให้เจ้านายได้ดูภาพหญิงสาวสวยสง่าในชุดเดรสสีน้ำเงิน “นั่นคุณกานติมา ภรรยาของคุณกันต์พิพัฒน์ครับ”

              “แม่ง สวยว่ะ” เห็นผู้หญิงสวยมาก็เยอะ แต่ยังไม่เคยเจอใครที่ทำให้สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นแบบนี้ ขนาดเป็นแค่ภาพนิ่งยังสะกดเขาให้จ้องมองได้ไม่วางตา ไม่อยากคิดเลยว่าตัวจริงจะสวยขนาดไหน

              “ส่วนนั่น ทักษอร ลูกสาวคุณอิงอรครับ” เก่งชี้ให้เจ้านายดูสาวสวยชุด
    เดรสแดงสุดเซ็กซี่ที่ยืนใกล้กับคุณกันต์พิพัฒน์

              “ก็สวยนะ แต่กูว่า ยังไม่เท่าเมียคุณกันต์นั่น” ชายหนุ่มใช้นิ้วเลื่อนหน้าจอดึงภาพกานติมาให้กลับมาอยู่กึ่งกลางพร้อมซูมขยาย

              “นั่นสิเฮีย เป็นผมนะ ไม่ทิ้งเพชรมาเอาก้อนกรวดหรอก เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าผู้ดีสัส”

              

              “โอ้ย!...วันนี้มันเป็นวันซวยของฉันหรือไง” อิงอรทึ้งผมตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เงินก้อนสุดท้ายที่เสี่ยกู้ให้เธอมาละลายหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง

              “จะเล่นต่อเปล่าเจ้ ถ้าไม่ก็ออก คนอื่นเขาจะได้เล่นบ้าง” 

              “ฉันอยากเจอเสี่ย”

              “พอแล้วมั้งเจ้ เมื่อกี้เฮียเขาก็ให้มาตั้งห้าแสนไม่ใช่เหรอ”

              “ไม่ต้องมาเสือก แกมันแค่ลูกน้อง”

              “อ้าว อีเจ้นี่” เด็กหนุ่มโผเข้าหาด้วยความโมโห เขาทนปากผู้หญิงคนนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้มันมากเกินไป

              “เฮ้ย! ๆ พอ แขกมองกันใหญ่แล้ว” เก่งรีบปราม ไม่อยากให้บ่อนอันดับหนึ่งต้องเสียชื่อ

              “ก็ดูปากมันสิพี่ แม่ง! คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนวะ”

              “เบาหน่อยมึง คนนี้นายเขาขอ” เก่งกระซิบอยากให้ได้ยินกันแค่ 2 คน และเพราะคำว่า ‘นายขอ’ เด็กหนุ่มเลือดร้อนถึงเย็นลงได้

              “อืม ผมขอโทษแทนลูกน้องด้วยล่ะกัน” เก่งบอก

              “หัดอบรมเด็กบ้างสิ” ได้ทีอิงอรใส่ยับเพื่อระบายอารมณ์ เงินก็เสียจนหมดตัว รถก็ถูกยึดไป แถมยังได้หนี้เพิ่มมาอีก เป็นใครจะคุมสติอยู่

              “ค้าบ…ผมจะอบรมมันให้นะ ว่าแต่เจ้เถอะ หมดแล้วหรือครับ” 

              “อืม ฉันอยากเจอเสี่ย” เพราะเข้าออกบ่อนนี้มานาน จนรู้ว่าไอ้เด็กนี่เป็นลูกน้องคนสนิท

              “เฮียเขาไม่ค่อยว่างอ่ะเจ้”

              “บอกเสี่ยให้หน่อยสิ ฉันมีธุระด่วนจริง ๆ ”

              “ถ้าเป็นเรื่องเงินเจ้เลิกคิดไปได้เลย”

              “ทำไม”

              “อ้าว ก็เจ้เล่นกู้โดยไม่มีหลักทรัพย์อะไรมาค้ำประกันสักอย่าง แบบนี้ใครเขาจะกล้าให้เจ้กู้ล่ะ”

              “ก็ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันมีมาคืนให้แน่”

              “ไม่ใช่เจ้คนแรกนะที่พูดแบบนี้ แล้วไอ้คนที่พูดแบบนี้ผมส่งไปนอนเล่นที่ก้นแม่น้ำมาหลายคนแล้วนะ”

              อิงอรกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เรื่องความโหดเหี้ยมของกิตติทัศน์คนในวงการต่างรู้ดี ว่าผู้ชายคนนี้แบล็คดีขนาดไหน ขนาดกฎหมายยังไม่สามารถเอาผิดอะไรเขาได้เลย

              “แต่ถ้าเจ้มีทุน เจ้ก็มีเงินมาคืนเสี่ยเขานะ”

              เก่งถอนลมหายใจยาว ส่ายหน้าช้า ๆ ผู้หญิงคนนี้เกินเยียวยา ผีพนันได้เข้าสิงจนกัดกินชีวิตเธอไปเกือบหมดแล้ว คงต้องโทษความโลภในตัวและโทษจิตใจที่ไม่เข้มแข็งพอจะเอาชนะมัน

              ส่วนบ่อนอย่างพวกเขาก็แค่สถานที่สำหรับเสี่ยงโชคสำหรับคนโลภ พวกเขาไม่เคยไปบังคับหรือฝืนใจใครให้เข้ามาเล่นการพนัน ทุกคนล้วนก้าวเท้าเข้ามาสู่วังวนนี้เอง

              และในเมื่อเตือนสติแล้วก็ยังไม่ฟังกัน ก็เปล่าประโยชน์ที่จะพูด หนำซ้ำยังเป็นผลดีกับบ่อนของเฮียอีกด้วย 

              “ว่าไงครับคุณอร” กิตติทัศน์รู้อยู่แล้วว่า หญิงวัยกลางตรงหน้าต้องการอะไรจากตน

              “คะ คือ เสี่ยค่ะ ฉันอยากกู้เงินเพิ่ม”

              “แหม เมื่อครู่ผมนึกว่าโชคจะเข้าข้างคุณอรแล้วซะอีก”

              “เกือบแล้วค่ะ ฉันอยากขอแก้มือ คราวนี้รับรองว่าฉันต้องชนะแน่นอน”

              กิตติทัศน์มองหญิงสาววัยคราวแม่ตนด้วยความสมเพช ชายหนุ่มเอนตัวนั่งพิงเก้าอี้ยกมือขึ้นเกี่ยวประสานที่อก กี่ครั้งกี่หนอิงอรคนนี้ไม่เคยจำ เงินทองที่ทำงานหากันมาทั้งชีวิตก็เอามาลงที่บ่อนนี้จนหมด บ้านช่องที่เคยอยู่ก็เอาไว้กับธนาคาร สุดท้ายไม่มีปัญญาส่งจนปล่อยให้เขายึด

              วัยนี้แล้วแท้ ๆ ควรจะมีความสุขอยู่กับลูกหลาน มั่นเข้าวัดทำบุญทำทานรักษาศีลภาวนา ไม่ใช่เดินคอตกอยู่ในบ่อนแบบนี้

              แต่เขาเองก็ไม่ใช่เทพบุตรมาจากไหน แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะมาชี้นำทางสว่างให้กับดวงวิญญาณดำมืดด้วยเล่า

              “ได้ครับ แต่คราวนี้คุณอรต้องมีของมาค้ำประกัน”

              “ตะ แต่ฉันไม่เหลืออะไรแล้วนะคะ” นั่นสิ แม้แต่ค่าแท็กซี่กลับบ้านเธอยังไม่รู้จะเอาจากไหนเลย

              “มีสิครับ” อิงอรหูผึ่งตาลุกวาว ลองเสี่ยพูดมาแบบนี้ก็หมายความว่าเขายินดีที่จะปล่อยกู้ให้เธออีก

              “อะไรคะ เสี่ยบอกมาเลย ฉันยินดียกให้เลย”

              “ทักษอร ลูกสาวคุณ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×