คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : คนกลัวเมีย
“ทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะแม่”
“นั่นสิ แม่เองก็งงไปหมดแล้ว” อิงอรไม่คิดมาก่อนว่าจะได้พบเจอเรื่องราวแผลกประหลาดอะไรขนาดนี้
“แล้วทำไมมันต้องแกล้งบ้าด้วย”
เรื่องนั้นอิงอรคิดว่าตัวเองพอจะรู้ ว่าเพราะเหตุใดคนที่สติปัญญาครบถ้วนถึงได้แสร้างแกล้งเป็นบ้ามานานหลายปี
“แล้วแกกลัวมันไหมล่ะ”
“ไม่ แบบนี้เชอร์รี่ยิ่งชอบ จะได้สู้กันแบบตาต่อตาฟันต่อฟันให้เต็มที่” ก่อนหน้ายังมียั้งมือเพราะสงสารในความเป็นคนบ้า แต่ในเมื่อกานติมาเป็นคนปกติแบบนี้ ทักษอรก็ไม่จำเป็นต้องออมมืออีกต่อไป
“แกต้องเร่งมือแล้วนะ ลองอีนั่นไม่ได้บ้าจริง ตากันต์ได้เอามันทำเมียแน่”
“แม่ไม่ต้องห่วง หนูจะเอาพี่กันต์มาเป็นผัวให้ได้”
“ตอนนี่ชีวิตฉันฝากไว้ในมือแกแล้วนะ” เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น ถ้าเธอไม่สามารถหาเงินยี่สิบล้านมาใช้หนี้เสี่ยกู้ได้ เห็นทีคงเป็นเธอกับลูกที่ต้องลงไปนอนเล่นที่ก้นแม่น้ำ
“รีบตื่นทำไม นอนพักอีกสักหน่อยเถอะ”
แม้บทเรียนรักเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาจะไม่ได้รุนแรงอะไรมากมาย แต่กว่าเขาจะปล่อยให้ภรรยาได้นอนพักก็ปาไปเกือบตี 3
“กานต์จะไปช่วยคุณนมเตรียมอาหารเช้าค่ะ” นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด เพราะตอนนี้ช่วงขาอ่อนของตนกำลังโกนบางสิ่งดุดันอยู่ ไม่ต้องเสียเวลาก้มมอง กานติมาเดาได้ทันทีว่าสิ่งนั้นคือสิ่งเดียวกับที่เข้าออกตัวเธอมาตลอดคืน
‘ขืนอยู่ต่อได้โดนคุณกันต์จับกินอีกรอบแน่’
“ไม่เป็นไรหรอก คุณนมมีพวกไหมช่วยอยู่”
“แต่…”
“เธอเขินพี่รึ”
ถ้าตอบไปว่าเขินเธอจะสู้หน้าเขาได้ไหม เมื่อคืนเธอทำเรื่องน่าอายไปหลายอย่าง อีกทั้งคำพูดคำจาที่ลามกในแบบที่ตนไม่เคยพูดมาก่อนนั่นอีก คุณกันต์จะมองว่าเธอเป็นคนอย่างไร
“เปล่าค่ะ กานต์ไม่ได้เขิน แต่กานต์อยาก…” หญิงสาวกลัวเหลือเกินว่า ถ้าทุกคนในบ้านรู้ความจริงที่เธอปิดบังพวกเขามาตลอด 5 ปี ทุกคนจะรังเกียจและรู้สึกว่าโดนเธอหักหลัง
“พี่เชื่อว่า ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่กานต์ทำ” เพราะขนาดเขาเองแม้ในตอนแรกจะโกรธกับการกระทำของภรรยา แต่พอตั้งสติได้แล้วคิดทวนหาเหตุและผล ก็ทำให้รู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวทำไปนั้นก็เพื่อรักษาชีวิตตัวเอง แล้วเหตุใดเล่า เราถึงไม่มีสิทธิ์ปกป้องชีวิตของตน
กานติมาใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่ความกลัวก็ยังหลงเหลืออยู่ในใจ ทั้งกลัวการไม่ถูกยอมรับ และที่สำคัญ กลัวว่าชีวิตตนที่เคยซ่อนอยู่ในมุมมืดมานาน ตอนนี้ตนเดินออกมาจากมุมนั้นจนแสงสว่างสาดส่องเห็นชัดไปทั้งตัวแล้ว คนร้ายที่สุ่มอยู่ในความมืดคงได้เวลาเก็บกวาดสิ่งที่ทำค้างไว้เสียที
“กานต์ต้องขอโทษทุกคนจริง ๆ นะคะ กานต์ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกทุกคนเลย” หญิงสาวยกมืไหว้ทุกคนที่นั่งอยู่นห้องรับแขก โดยมีสามีนั่งเคียงข้างให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง
“คุณหนูคะ นมเชื่อว่าลูก ๆ ของนมไม่มีใครโกรธเกลียดคุณหนูแน่นอนค่ะ”
“ใช่ค่ะคุณกานต์ ไหมกับฝ้ายดีใจด้วยซ้ำที่คุณหนูไม่ต้องปิดบังตัวตนอีกต่อไป” ไหมและฝ้ายคิดแบบนั้นจริง ๆ เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอกับน้องได้ฟังเรื่องราวที่เป็นเหตุให้คุณหนูกานต์ต้องแกล้งบ้าจากพ่อและแม่แล้ว
“และต่อไปนี้ผมขอให้ทุกคนช่วยดูแลคุณกานต์ด้วยนะครับ” ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่คุณหนูกันต์พูดเป็นอย่างดี เพราะต่อจากนี้ชีวิตของคุณหนูกานต์คงไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
“ประชุมเรื่องอะไรกันรึคะ” อิงอรกับลูกสาวที่เพิ่งกลับเข้ามาทักถาม เมื่อเห็นทุกคนในบ้านมานั่งรวมตัวกันที่ห้องรับแขก
“คุณอามาก็ดีแล้วครับ ผมมีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วย” นมนุ่มและครอบครัวพากันออกจากห้อง กานติมาจะลุกตามแต่โดนสามีรั้งไว้ให้อยู่ต่อ
“คุณกันต์มีอะไรกับอารึคะ” อิงอรกับลูกสาวเดินเข้ามานั่งที่โซฟาตรงข้ามกัน
“ผมอยากให้คุณอาหาที่อยู่ใหม่ครับ”
“หมายความว่าไงคะ” เธอเข้าใจในสิ่งที่หลานชายพูดทุกคำ แต่ที่ถามซ้ำเพราะไม่คิดว่าหลานจะไล่ตนเร็วขนาดนี้
“เมื่อคืนเชอร์รี่คงไม่ได้เล่าให้ฟังสิครับ ว่าเธอไปก่อเรื่องอะไรไว้”
“ปะ เปล่านะคะ เชอร์รี่แค่หวังดีอยากให้ทุกคนได้รู้จักน้องกานต์” ทักษอรรีบสวมวิญญาณนักแสดงตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ทั้งที่การกระทำทุกอย่างมันฟ้องได้ดี
“สิ่งที่เธอทำมันเรียกว่าหวังดีได้ด้วยรึ” ชายหนุ่มมองไม่เห็นส่วนนั้นเลย
“เชอร์รี่แค่กลัวว่าทุกคนจะไม่พอใจ โดยเฉพาะคุณจินหลง”
“เรื่องพวกนี้ควรเป็นหน้าที่ของพี่ ไม่ใช่เธอ”
“เชอร์รี่ขอโทษนะคะที่หวังดีจนลืมคิดหน้าคิดหลัง”
“น้าก็ขอโทษแทนน้องด้วยนะตากันต์ เราทั้งคู่หวังดีกับหลานทั้งสองและตระกูลกิตติวรเดชจริง ๆ นะ” อิงอรว่าพร้อมแสร้งบีบน้ำตาเรียกคะแนนเห็นใจจากหลานชาย
“แต่ถึงยังไงสิ่งที่น้องทำก็เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ เอาเป็นว่าผมจะให้เงินคุณอาสักก้อน ซึ่งมันพอจะซื้อบ้านสักหลังให้พวกคุณอาอยู่อาศัยได้”
“อย่าไล่พวกเราเลยนะคะพี่กันต์” ทักษอรถลาลงมานั่งที่พื้นเกาะขาชายหนุ่มแน่น ขืนโดนไล่ออกจากบ้านแบบนี้ แผนการที่วางไว้คงล้มไม่เป็นท่า
“ปล่อยเชอร์รี่ นี่ถือว่าพี่เมตตาพวกเธอมากแล้วนะ” เพราะสิ่งที่ 2 แม่ลูกนี้ทำลงไป เป็นใครก็ทำใจให้อภัยไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้น อาขอเวลาสักเดือนนึงได้ไหม ขออาหาบ้านได้ก่อน”
กานติมาสงสาร 2 แม่ลูก อย่างน้อยคุณอิงอรก็ได้ชื่อว่าใช้นามสกุลของกิตติวรเดช ถ้าคุณกันต์จะปล่อยให้ทั้งคู่ไปตกระกำลำบาก คงไม่พ้นโดนคนในสังคมตราหน้า
“ให้พวกคุณอิงอรอยู่ต่ออีกสักพักเถอะค่ะ” หญิงสาวขอร้องสามี มือบางบีบมือของอีกฝ่ายเบา ๆ
เพราะเป็นครั้งแรกที่ภรรยาร้องขอ ส่วนตัวเขาเองก็มองว่าระยะเวลา 1 เดือนก็ไม่นานเกินไป เลยอนุญาตให้ทั้งคู่ได้อยู่ต่อ
“ขอบคุณมากนะหนูกานต์” อิงอรโผเข้ากอดหลานสะใภ้ โดยซ่อนใบหน้ายิ้มร้ายไว้ด้านหลัง ยากที่ใครจะมองเห็น
“คุณกันต์ไม่สงสารคุณทักษอรบ้างหรือคะ อย่างน้อยเธอก็เป็นภรรยาคุณกันต์อีกคน”
เมื่อได้อยู่กันตามลำพังกานติมาถามในสิ่งที่ตนสงสัย ดูแล้วสามีเธอก็ไม่ได้เป็นคนใจร้ายใจดำอะไรขนาดนั้น แต่ทำไมวันนี้ถึงกลับไล่ภรรยาอีกคนออกจากบ้านแบบไม่เหลือเยื่อใย หรือ 2 แม่ลูกนั่นจะไปทำอะไรให้คุณกันต์ไม่พอใจ
“ก่อนอื่นพี่ขอแก้ข่าวหน่อย เชอร์รี่ไม่เคยเป็นเมียพี่”
“แต่…” ไม่กล้าพูดว่าเธอเคยเห็นเจอว่าทั้งคู่อยู่ด้วยกันตามลำพัง ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม
“พี่ยอมรับนะว่าเคย อืม เคยให้เชอร์รี่ปลดปล่อยอารมณ์ให้ แต่เราก็ไม่เคยทำมากไปกว่านั้น” แต่งงานเป็นผัวเมียกันมาร่วมเดือน แต่ทำไมกันต์พิพัฒน์ถึงได้มากลัวกานติมาเอาวันนี้ก็ไม่รู้
“จริงหรือคะ”
“จริงสิ พี่ไม่เคยนอกใจกานต์เลยตั้งแต่เราแต่งงานกัน”
“อันที่จริง คุณกันต์จะไปมีใคร กานต์ก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าหรอกค่ะ”
น้ำเสียงท่าท่างดูเหมือนตัดพ้อ แต่ทำไมขนตามตัวของชายหนุ่มถึงได้ลุกซู่กับประโยคธรรมดาของกานติมาเสียได้
ความคิดเห็น