ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • o n m y m i n d | wonkyu •

    ลำดับตอนที่ #7 : [SF] wonkyu :: Let's Eat -3-

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 59


    [SF] LET’S EAT

     

    -PART 3-

     




              กริ๊ง

     

                เสียงกริ่งเป็นสัญญาณบอกถึงเวลาเลิกเรียน ทำให้นักเรียนในชั้นเรียนทุกชั้นแทบจะเททุกอย่างทิ้งลงในกระเป๋าแล้วสะพายกระเป๋ากลับบ้านอย่างสุขสันต์

     

                คยูฮยอนก็เช่นกัน

     

                ใบหน้ากลมเงยหน้าถึงมาจากโต๊ะหลังจากฟุบหลับไปหนึ่งชั่วโมงเต็มในวิชาประวัติศาสตร์ที่แสนน่าเบื่อ โชคดีที่ครูที่สอนเขานั่งสอนเพราะไขข้อไม่ค่อยดี เลยไม่ได้สังเกตเด็กอ้วนที่นั่งติดริมหน้าต่างหลังสุดที่แอบฟุบหลังมาตลอดชั่วโมง พูดแล้วก็จะหาว่าคุย เรื่องเนียนนี่บอกเลยว่าเชี่ยวนักล่ะ

     

                “ไออ้วนนนนนนนนน”

     

                -______-

     

                คยูฮยอนหันไปมองไอแว่นข้าง ๆ ที่กุรีกุจรรีบเก็บกระเป๋าเหมือนจะรีบไปเรียนพิเศษ เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งสังเกตป้ายชื่อมันและได้รู้ว่าไอเนิร์ดนี่มันชื่อ อี ทงเฮ อื้อหือ ชื่อแม่งโคตรหล่อแต่ตัวแม่งโคตรเตี้ย(เกี่ยว?) ในคาบนี่จดยิกตลอดทุกวินาที เหมือนกลัวว่าถ้าพลาดไปแม้แต่คำเดียวชีวิตมันจะมีอันเป็นไป

     

                “ร...เราไปก่อนนะคยู”

     

                “อื้อ บาย”

     

                โอเค ปล่อยไอเนิร์ดให้มันไปเข้าดงอนาคตของชาติไป คยูฮยอนขอนั่งรอให้เด็กมันทยอยออกจากโรงเรียนสักพักดีกว่า ไม่อยากไปยืนต่อแถว เมื่อย

     

                สนใจไอไม้เสียบผีที่เพิ่งวิ่งเข้ามาพร้อมคำเรียกที่แสนหยาบคายนั่นดีกว่า

     

                “วันนี้ไปดูกูซ้อมบอลม่ะ” ฮยอกแจหลบทางให้ทงเฮเดินออกไปนอกห้องก่อนจะกระซิบกระซาบอะไรสักอย่างจนเด็กมันสะดุ้งแล้วรีบวิ่งแจ้นออกไปทันที แถมยังหัวเราะร่าที่แกล้งไอเนิร์ดได้สำเร็จ มันเป็นกิจวัตรของฮยอกแจไปแล้วที่จะแกล้งให้ไอเตี้ยกลัวก่อนกลับบ้าน

     

                 “กูอยากกินแฮมเบอร์เกอร์”

     

                “อ้วน”

     

                -______-

     

                “กูยังไม่ได้เคลียร์เรื่องมึงไม่มาลงชื่อที่ชมรมฟุตบอลเลยนะ” นั่น มันทำหน้าหาเรื่อง โหย ตัวแค่นี้โดนคยูฮยอนชนทีก็กลิ้งตกบันไดเป็นศพไม่สวยแล้ว

     

                “กูไม่ยอมให้พวกมึงเตะกูแทนลูกบอลหรอก เสียใจด้วยกูไม่หลงกลมึง”

     

                “นี่ก็ควายจัง ใครเขาจะไปเตะมึงไหว แต่ฟาดแข้งไปที่ก้นมึงนะกระดูกขาก็ร้าวแล้ว”

     

                -______-

     

                คยูฮยอนทำหน้าเซ็งใส่เพื่อนสนิท นี่มึงยังเป็นกูเป็นคนอยู่ใช่ไหม บางทีกูก็ไม่ใช่เดอะฮักที่ฆ่าไม่ตายที่โคตรพาวเวอร์ฟูลโดนตึกล้มทับก็ไม่ตายหรือเปล่า กูก็คนนะ มีชีวิต มีจิตใจ กูเจ็บปวดเป็น ทำไมต้องพูดเหมือนกูเป็นก้อนไขมันโง่ ๆ ด้วย กูพัง

     

                “ไม่ต้องมาเบะปาก มันไม่ได้ทำให้มึงผอมลงหรอกอ้วน”

     

                ไอห่า

     

                “ไปซ้อมบอลกับกู” ว่าแล้วไอฮยอกแจมันก็คว้าประเป๋าที่มีตุ๊กตาหมูน่ารักห้อยอยู่ของคยูฮยอนซึ่งมันเบามากแทบจะไม่ได้พกอะไรมาเรียน ต่างหากไอเนิร์ดที่นั่งข้าง ๆ เห็นแบกขึ้นหลังทีอย่างกับขนหนังสือย้ายบ้าน

     

                แขนอวบถูกกระชากไปตามทางเดินของโรงเรียนต่อให้คยูฮยอนจะกรีดร้องเรียกร้องความยุติธรรมครั้งนี้เท่าไหร่ก็ไม่มีใครเหลียวแล นี่มันละครช่องสามช่าชัด ๆ ทำไมชีวิตคยูฮยอนดราม่าแบนี้ไหนมึงบอกว่าเตะก็ทีเดียวหน้าแข้งมึงร้าวไง เอาแรงจากไหนมาจากถูลู่ถูกังคยูฮยอนเหมือนลากช้างแบบนี้อ่ะ ไม่เข้าใจ งง

     

                “เตะ” และเขาก็มาถึงสนามบอลอันกว้างขวางพร้อมลูกฟุตบอลหนึ่งลูกตรงหน้า...

     

                กระเป๋าหมูน้อยของเขาถูกฮยอกแจโยนทิ้งไปตอนไหนก็ไม่รู้ โอ้โห ในนั้นอุตส่าห์อดข้าวมื้อนึงเก็บตังซื้อกลับมาจากฝรั่งเศสเลยนะเว่ยยยยย มึงขว้างทิ้งอย่างกับใบละ199 แถวคลองสาน เห็นคุณหมูสีชมพูรุ่นลิมิเต็ดอิดิตชั่นนอนเลอะดินที่สนามหญ้าแล้วน้ำตาเริ่มคลอ ทั้งกระเป๋าทั้งพร๊อบนั่นมีค่ามากกว่าเหล็กดัดฟันมึงอีกนะอีฮยอกแจ๊!!!

     

                กูจะเตะมึงน่ะแหละไอเหงือกกกกก

     

                “เมื่อก่อนมึงเล่นบอลเก่ง กูจำได้”  แงะ ทำมาฟื้นความหลัง บอกเลยว่ากูไม่ซึ้งหม้อไหกระทะกับมึงหรอก กูงอน มึงทำร้ายหมูกู

     

                “เล่นไม่เป็นแล้ว ลืมแล้ว”  ตอบกลับไปแบบไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น กูงอนนนน

     

                “อ้วนแล้วยังสมองเสื่อมอีกหรอว่ะห่ะ?”

     

                “เออ จำไม่ได้แล้ว ลืมไปหมดแล้วเว่ยยยย” คยูฮยอนชักเริ่มหงิด นี่จะมารื้อฟื้นความหลังทำส้นอะไร เล่นไม่เป็นแล้วก็คือเล่นไม่เป็น ไม่ได้แอ๊บ ไม่ใช่โทรศัพท์ ยูโนว์ (นั่นมันแอพฯ)

     

                คยูฮยอนเห็นฮยอกแจถอนหายใจ ก่อนจะเตะบอลไปทางสนามแรง ๆ เพื่อระบายอารมณ์ ไอนี่ก็นะ เมื่อไหร่จะเลือกนิสัยใจร้อนเสียที สอนทีไรไม่เคยจำ สงสัยสักวันต้องหลอกล้อมันไปกินบิงซูให้แม่งแทะน้ำแข็งเล่นไปส่วนคยูฮยอนกินท็อปปิ้งเอง ฮิ

     

                “รู้ป่ะ กูโคตรเกลียดนิสัยนี้ของมึงเลย” ฮยอกแจพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง คยูฮยอนไม่สนใจ เขาเดินไปหยิบเอากระเป๋าสีน้ำตาลของตัวเองขึ้นมาแล้วกอดมันไว้แนบอก

     

                “ลืมก็คือลืมไงมึง พูดให้มันรู้เรื่อง กูรอที่ห้องคหกรรมนะ” เขาไม่ได้หันไปมองว่าฮยอกแจทำสีหน้ายังไง คยูฮยอนรีบเอากระเป๋าสะพายหลังและจ้ำออกมาจากตรงนั้นทันที

     

                ลืมก็คือลืม เขาไม่คิดจะรื้อฟื้นมันขึ้นมาให้เปลืองพื้นที่สมองหรอก

               

    .

    .

     

     

     

                HOMEECONOMICS ROOM

     

                คยูฮยอนไขกุญแจทองเปิดประตูห้องชมรมเข้าไปเหมือนเมื่อวานเพื่อรอฮยอกแจซ้อมบอล ทันทีที่เปิดเข้าไปในห้อง กลิ่นของวนิลาที่อบอวลไปทั่วทำให้คยูฮยอนคล้ายปมที่คิ้วนิดหน่อย กลิ่นเค้กวนิลา... ไม่พี่ฮีชอลก็รยออุคแน่ ๆ ที่กำลังลงฝีไม้ลายมืออยู่ในครัว

     

                และคนจัดการก็ต้องเป็นคยูฮยอน ฮี่ ๆ

     

                ร่างอวบจัดการโยนกระเป๋าที่บอกว่าแพงหนักหนาไปที่โซฟาแดงกลางห้อง ก่อนจะเดินไปทางห้องครัวที่เป็นแหล่งกำเนิดกลิ่นหอมหวนยวนใจ รู้สึกเหมือนอยู่ในดงวนิดาเลยอ่ะ คยูฟิน คยูอยากเขมือบแล้ว แม่ !

     

                “จ๊ะเอ๋”

     

                “นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำ” ทันทีที่โผล่หน้าเข้าไปในครัว เขาเห็นพี่ฮีชอลที่กำลังตกแต่งหน้าเค้กก้อนเหลืองนวลทำหน้าภูมิใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองพี่รยออุคที่เบ้ปากใส่คนแก่กว่าอย่างหมั่นไส้

     

                “นินทาผมหรอ”

     

                “ป๊าว เห็นว่านายยังไม่มาพี่เลยนึกว่าวันนี้เค้กจะเป็นหมันซะแล้ว” ฮีชอลยิ้มให้คยูฮยอนก่อนจะก้มหน้าก้มตาแต่งหน้าเค้กต่อ โดยมีคยูฮยอนยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามและยืนมองพี่ฮีชอลที่ตั้งใจละเมียดละไมแต่งหน้าเค้ก คยูฮยอนชอบยืนดูเวลาพวกพี่เขาทำขนมนะ รู้สึกเพลิน แต่ถ้าให้เขาทำน่ะหรอ เหอะ...

     

                ชาติหน้าก็ไม่ได้แดก

     

                “ชอบเวลาพี่ฮีชอลตั้งใจแต่งหน้าเค้กอ่ะ ดูมีออร่ายังไงไม่รู้” คยูฮยอนบ่นพึมพำออกมาตามที่ตัวเองคิด

     

                “ออร่าบ่าอะไร ทุกวันนี้แค่ยิ้มยังโดนอีทึกมันถามเลยว่าจะไปลอบฆ่าใคร” ว่าแล้วก็เบ้ปากเมื่อคิดถึงคำพูดของเพื่อนสนิทตัวเอง

     

                “พี่เขาแกแซวเล่นไปงั้นแหละ ว่าแต่พี่อีทึกไปไหนอ่ะ”

     

                “ตายแล้ว”         

     

                “หะ ?”

     

                “รยออุคพี่ลืมไปเอาเอกสารวันนิทรรศการอ่ะ เดดไลน์ห้าโมง อ๊ากกกก” เหมือนจะไม่ได้หมายถึงพี่อีทึกกันแล้วแหะ.... คยูฮยอนตกใจเมื่อจู่ ๆ พี่ฮีชอลก็วางครีมแล้วลงไปทรุดกับพื้นพร้อมหยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูออกมาซับ ๆ แก้มที่แห้งสนิท ทำอะไร ปัดไรฝุ่นหรอ ?

     

                ละครฉากใหญ่กำลังจะมาอีกแล้ว

     

                “ถ..ถ้าเราไม่ได้ส่งเอกสารตรงเวลา ช..ชมรมเราก็จะไม่มีซุ้ม พอไม่มีซุ้มเราก็จะไม่มีผลงาน ถ..ถ้าไม่มีผลงานเราก็จะถูกยุบชมรม ท..ทำยังไงดีรยออุค พี่จะทำยังไงดี ฮื่อ”

     

     

    (())

     

                คยูฮยอนมองสองพี่น้องที่เริ่มทรุดลงไปกอดกันที่พื้น มันเหมือนวันที่เขา(โดนบังคับ)เข้าชมรมนี้เดะ ๆ ต่างไปแค่ไม่มีแนวร่วมสนับสนุนดราม่าตัวพ่อย่างอีทึกอยู่ด้วยแค่นั้นเอง คยูฮยอนมองหน้าทั้งสองคนที่ทำหน้าเศร้าเอาผ้าเช็ดหน้าซับหน้าแห้ง ๆ ของตัวเองสลับกับหันมามองหน้าเขาเหมือนต้องการให้คยูฮยอนพูดอะไรสักอย่าง ก่อนจะหันมาปล่อยโฮใส่กันอีกครั้ง

     

                และนั่น เขาแอบเห็นพี่ฮีชอลหยิกรยออุคจนเจ้าตัวร้องจ๊ากแต่ก็กลับไปปล่อยโฮใหม่ แหละนั่นได้น้ำตามาประมาณหนึ่งหยดแห้ง ๆ เจ็บไหมล่ะมึง

     

                “ต้องการอะไรก็บอกกันดี ๆ เถอะ” คยูฮยอนยอมแพ้ครับ เขาไม่สามารถทนดูละครตรงหน้าได้อีกต่อไป

     

                “นายไปเอาเอกสารที่สภาให้พี่หน่อยสิ”

     

                “ทำไมพี่ไม่ไปเอาเอง”

     

                “พี่ทำเค้กอยู่”

     

                “พี่รยออุคล่ะ”

     

                “พี่ช่วยวัดคุณภาพเค้กอยู่”

     

                “ยังไง”

     

                “ดม”

     

                -_______-

     

                “เอาเป็นว่าตกลงนะ ตอนนี้ไม่มีใครว่างนอกจากนาย เดี๋ยวกลับมาพี่ยกเค้กนี่ให้นายเลย แต่ตอนนี้ไปเอาเอกสารให้พี่ก่อนนะ ตึกห้องสภาขึ้นลิฟต์ไปชั้นหก เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว แต้งกิ้วนะ”

     

                “เดี๋ย...”

     

                ปึง

     

                -______-

     

                คยูฮยอนไม่รู้ตัวเองว่าโดนดันออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อไหร่

     

                และนี่อะไร กระเป๋านักเรียนมาอยู่บนบ่าได้ยังไง อะไรตอนไหน

     

                ไอพวกพี่บ้า

     

                คยูฮยอนเบ้ปาก ไม่ใช่เพราะเซ็งที่ถูกใช้ แต่เพราะเปอร์เซ็นที่เขาจะได้กินเค้กวนิลามันลดลง จำไว้นะพี่ฮีชอลมึงพูดแล้วนะว่าจะยกทั้งหมดนั่นให้ ถ้าเขาไม่ได้ทั้งหมดนะ จะไปเผาบ้านไอพวกพี่ที่ชมรมทีละคนโทษฐานโป้ปดน้องนุ้งให้มันเชื่อใจและหักหลังกัน บอกเลยว่าเรื่องนี้ยอมไม่ได้ พูดคำไหนคำนั้น

     

                คยูฮยอนเดินจับสายสะพายจนมาถึงลิฟต์ที่มีนักเรียนทยอยขึ้นไปแล้วประมาณห้าคน โถ นี่มันก็เย็นย่ำแล้วไหมล่ะสังคม จะใช้อะไรกันเยอะแยะ คยูฮยอนต้องอึดอัดแน่ ๆ ถ้าอยู่ในลิฟต์ตัวนี้ คิดแล้วก็เซ็งแต่ก็ยอมเดินไปขึ้นแต่โดยดี เขาไม่บ้าขนาดเดินขึ้นไปชั้นหกทั้งที่ตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ชั้นหนึ่งหรอกนะ ว่าแล้วก็ก้าวขึ้นลิฟต์และหลังจากเขาไม่กี่วิก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในเครื่องแบบของโรงเรียนต่างถิ่นวิ่งตามเข้ามา

     

                ติ๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!

     

          (())

     

                “น้ำหนักเกินแหละแก”

     

                อ้อเหรอ

     

                “ทำไงดีฉันต้องรีบเอางานไปส่งครูวันชาติด้วยเอ่าะ”

     

                อื้อ ขอให้ทันล่ะ

     

                “แม่งกูจะไปซ่อมอิ้งไม่ทันแล้ว”

     

                ว๊ายโง่อ่ะ

     

                “เหี้ย!!!! ปวดขี้เว่ยยยยยยย!!!!!!!!

     

       (())

     

                คยูฮยอนเหลือบมองสายตาของคนหกคนที่มองมาที่เขาแต่มันเหมือนเข็มร้อยเล่มที่ทิ่มแทงอยากให้เขาออกไปจากกล่องสี่เหลี่ยมนี่ โถ่ สังคม ไอคนที่ขึ้นทีหลังมันก็มีไหม ไล่มันออกไปสิ เกี่ยวไรกับคยูฮยอน นี่ก็รีบเหมือนกัน คนอ้วนคนนี้ไม่ได้ทำให้ลิฟต์น้ำหนักเกิน แต่เป็นแม่นมโตที่รีบวิ่งเข้ามาคนสุดท้ายต่างหาก บางทีนมนั่นอาจจะทำให้น้ำหนักเกินก็ได้ ทำไมไม่โทษนางทำไมต้องส่งสายตาขับไล่มาที่คยูฮยอน นี่เจ็บ นี่แค่อ้วนก็ผิดหรอ

     

                เออ

     

                “ฮัลโหลลลลลล อ่าว ไหนมึงบอกอยู่ข้างบนไหงไปโผล่หน้าโรงเรียน อ้อ โอเค เจอกันหน้าโรงเรียนนะ บายยยยยยยยยย” โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสีเข้มถูกหยิบออกมาใช้ทั้ง ๆ ที่หน้าจอของมันไม่ได้ปรากฏแสงสว่างหรือแรงสั่นอะไรว่ามีคนโทรเข้ามา คยูฮยอนยังคงพูดกับโทรศัพท์พร้อมกับก้าวเดินออกมาจากลิฟต์โดยไม่หันกลับไปมอง

     

                ปึง

     

                โทรศัพท์ถูกเก็บเข้ากระเป๋าทันทีที่ประตูลิฟต์ปิด คยูฮยอนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ เขามองลิฟต์ตัวเดิมอีกครั้งก่อนจะหันหลังให้มันแล้วเดินไปที่บันไดที่อยู่ข้าง ๆ แทน

     

                ช่างมันเถอะ

     

                ชินแล้วล่ะ

     

     

     

    .

    .

     

     

     

                #16:57 p.m.

     

                โอเค... คยูฮยอนรู้แล้วว่าทำไมไอรุ่นพี่สองหน่อในห้องมันถึงไม่ยอมมาเอาเอกสารเอง

     

                สภานักเรียนแม่งเรื่องมากชิบหายยยย

     

                คยูฮยอนจำไม่ได้ว่าตัวเองวิ่งสลับไปสลับมาระกว่างห้องถ่ายเอกสารกับห้องสภานักเรียนรอบที่เท่าไหร่แล้ว โชคดีที่โรงเรียนมีห้องถ่ายเอกสารกับคอมฯสองสามตัวไว้ให้ใช้ข้าง ๆ ห้องสภานักเรียนด้วยเลยไม่ต้องวิ่งขึ้นลงให้เหนื่อย แค่วิ่งไปวิ่งมาแค่ไม่กี่เมตรนี่ก็หอบแดกไขมันจะหมดตัวแล้ว

     

                บอกเลยว่ามีรุ่นพี่แม่งไม่ได้ช่วยห่าอะไรเลยนอกจากอวยพรให้โชคดีแล้ววางสายไปโดยอ้างว่าจะไปทำเอแคลร์ต่อ หอยหลอดดดด นี่เป็นแค่สมาชิกมั้ยล่ะไม่ใช่ผู้ก่อตั้งชมรม ทำไมคยูฮยอนต้องมาวิ่งไปวิ่งมาแทนไอรุ่นพี่เวรพวกนั้นด้วยวะ อยากกินเค้กวนิลาแล้วเว่ยยย!

     

                เขาแก้เอกสารเป็นรอบที่ร้อยใช้กระดาษในห้องถ่ายเอกสารจนมันจะหมดกองอยู่แล้ว นี่ยังไม่ผ่านเลย เดี๋ยวถามโน้นถามนี่ ทำไมต้องเป็นอย่างนั้นทำไมเป็นอย่างนี้ ถามมาก ๆ เข้าคยูฮยอนก็เท้าสะเอวจะลากมันไปห้องคหกรรมให้รู้แล้วรู้รอด แต่ฝ่ายนั้นทำหน้ารังเกียจใส่ แหม มึงมันไม่รู้อะไร ไม่เคยเข้าไปในสรวงสวรรค์ชมรมกูละทำมาเป็นอี๋ หอยหลอดด

     

                รอบสุดท้ายแล้ว...คยูฮยอนพูดกับตัวเองแบบนี้มาสามล้านรอบ

     

                มืออวบผลักประตูเข้าไปในห้องสภานักเรียนอีกครั้ง บอกเลยว่าพี่จะไม่ทนแล้ว พี่เหนื่อย พี่สะสมไขมันมาทั้งชีวิตทำไมพี่ต้องมาทำให้มันหายไปง่าย ๆ แบบนี้ด้วย เวววว ? คยูฮยอนเกร็งมือเอาไว้ไม่ให้กำเอกสารแน่นจากอารมณ์เลือดคนอ้วนที่พุ่งพล่านเพราะเดี๋ยวมันจะยับ พร้อมกับเดินอย่างแนวแน่เข้าไปที่โต๊ะของสภานักเรียนสักฝ่ายที่มันนั่งอ่านอะไรอยู่สักอย่างในคอม โถ่...เพ่งจนหน้าจะทะลุจออยู่แล้วไอแว่น

     

                “นี่ครับ !!

     

                คยูฮยอนกระแทกเอกสารลงไปที่โต๊ะจนโต๊ะสั่นสะเทือนแก้วน้ำที่วางอยู่ถึงกับสั่นเป็นเจ้าเข้าอย่างกับโดนสิง พร้อมกับไอแว่นที่เพ่งจออยู่ก็สะดุ้งหันมามองเขาเหมือนกัน ไงล่ะ พี่สายเดอะฮักหลายฮักแหน่นะขอบอก

     

                แต่นั้น... สายตาอันว่องไวของคยูฮยอนก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่แฟนแทสติกเบบี้ในจอคอมรุ่มใหม่เอี่ยมอ่องของบริษัทสตีปจ็อบ ภาพการ์ตูนเป็นช่อง ๆ และมีไออาล็อกเขียนไว้อยู่นั่นบ่งบอกได้ว่าไอบ้านี่มันอ่านการ์ตูนอยู่ แต่นั่น ! สิ่งที่ทำให้คยูฮยอนต้องอ้าปากค้างปล่อยให้แมลงวันบินเข้าปากก็คือ...

     

                เธอพร้อมหรือยังมิซาเอะ ฉันอยากเข้าไปใน***เธอจะแย่แล้ว

                ‘ฉันพร้อมแล้วค่ะอาเบะ เข้ามาเลยค่ะ เข้ามาในตัวฉัน!’

                ‘อ๊า *** มิซาเอะ

                ‘อื้อออาเยะ

               

                เจ็ทแม่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

     

                ไอแว่นที่พับจอลงมานั้นยังไม่ทันสายตาของคยูฮยอนที่สแกนสิ่งที่อยู่ในคอมไวยิ่งกว่าเน็ตประเทศเกาหลี ไอบ้านี่มันกล้าดียังไงมาอ่านการ์ตูนโป๊ในห้องกรรมการนักเรียนห๊า

     

                ทำไมไม่ชวนกันมั่งงงง

     

                ไม่ใช่และอีอ้วน

     

                “ทะ...ทำไมทำหน้าแบบนั้น”

     

                “เปล๊า... ไม่ทำอะไรในคอมต่อแล้วหรอ” เสียงของคยูฮยอนดูร่าเริงและลั้ลลามากขึ้นอย่างก้าวกระโดด เขาเห็นหนทางที่เขาจะหลุดพ้นจากการแก้เอกสารแล้วล่ะ ร่างอ้วนยังคงส่งร้อยยิ้มกรุ่มกริ่มไปให้กรรมการนักเรียนแว่นหนาที่บังอาจมาซ่าอ่านโดกลางวันแสก ๆ

     

                “นี่มันกี่โมงแล้ว ทำไมเพิ่งมาส่ง! พอ ๆ ไม่ต้องส่งแล้ว ฉันไม่รับเรื่องชมรมนายแล้ว”

     

                “ :)


                “ยะ...ยิ้มอะไรของนาย น่าเกลียด!

     

                “จะไม่รับเรื่องชมรมเค้าจริงหย๋อออ” สาบานได้เลยว่าใครมาได้ยินเสียงน่ารักปนกวนส้นตีนหน่อย ๆ ของคยูฮยอนอนนี้ก็มีแต่จะเกิดอารมณ์อยากกวนตีนกลับด้วยการมากวนบนใบหน้า ไออ้วนตรงหน้ากรรมการนักเรียนยังคงยิ้มกริ่มต่อไป โดยยังมีไอแว่นที่ยังพยายามทำกร่างใส่

     

                 “ไม่รับ กลับไปได้แล้ว สวัสดี”

     

                หูยยยย ทำเป็นเข้มมมม

     

                คยูฮยอนพยักหน้ารับก่อนจะหยิบเอกสารขึ้นมาไว้ในมือ ก่อนจะเดินถอยหลังออกจากห้องไปช้า ๆ ประหนึ่งมูนวอร์ก เขาเดินไปเกาะตรงประตูแล้วโผล่มาแค่หน้า จ้องมองกรรมการนักเรียนที่ยังคงตีหน้าขรึมรอเขาออกไปจนวินาทีสุดท้าย

     

                “แต่เค้าว่ามิซาเอะนมใหญ่ไปน้า แถมไม่เห็นน่ารักตรงไหนเลยยยย หรือนายชอบดูตัวละครที่ความใหญ่ เอ๊ะ หรือว่าจริง ๆ แล้วนายสนใจอาเบะอยู่”

     

                “...”

     

                “อ่า...เค้าแค่แนะนำเฉย ๆ ไม่เห็นต้องทำหน้าซีดขนาดนั้นเลย ไปละน้า”

     

                คยูฮยอนยังไงยิ้มมีเลศนัยจนวินาทีสุดท้ายแล้วเดินเยื้องย่างออกมาจากตรงนั้นด้วยความสบายใจ เขาต้องได้กลับเข้าไปในห้องนั้นอีกแน่นอนนนนน คยูฮยอนเดินกรีดกรายรอเวลาสวย ๆ ไม่เคยรู้สึกดีเหมือนเดินบนแคทเวิร์กสวย ๆ ได้ขนาดนี้

     

                นับตามพี่นะ

     

                3...

     

                2..

     

                1..

     

                “นาย!! กลับมาก๊อนนนนนนนนน”

     

                บอกแล้วว่าพี่ไม่ได้มาเล่น ๆ ....

     

                พี่อ่านอยู่ทุกวัน -..-

     

     

    .

    .

     

     

     

                คยูฮยอนเดินออกจากห้องกรรมการนักเรียนด้วยสภาพสดใสแข่งกับดวงอาทิตย์ยามอัศดง ตอนนี้รู้สึกรอบตัวเป็นสีชมพู้ชมพูไปหมด คยูฮยอนชูสิ่งที่อยู่ในมือและหมุน ๆ ไปเรื่อย ๆ จนถึงลิฟต์ ดีที่ตอนนี้มันก็เย็นย่ำมากแล้ว ทำให้ไม่มีเด็กอยู่บนตึก แม้แต่ไอบ้ากรรมการนักเรียนนั่นหลังจากเคลียร์กันเสร็จก็วิ่งป่าราบลงตึกไปก่อนเสียอย่างนั้น

     

                ชมรมเขาได้รับอนุมัติแล้ว แถมได้บู๊ทที่ดีที่สุดเสียด้วย

     

                และคยูฮยอนก็ยังได้บัตรพิซซ่าฟรีตลอดปีมาอีก เลอค่าอะไรเบอร์นี้

     

                ร่างกายต้องการพิซซ่า

     

                ไม่ต้องรอให้นึกอะไรนานไปมากกว่านี้ คยูฮยอนไม่สนใจว่ามันนี้ไม่ใช่วันสุดท้ายของการเรียน มันใช่วันศุกร์ที่แสนสุขสันต์ พรุ่งนี้เขายังต้องมาเรียนและต้องตื่นเช้า การบ้านก็มีท่วมหัว แต่แต่ก็ช่างมันเถอะครับ กินก็คือกินคยูฮยอนเป็นคนพูดอะไรแล้วไม่เคยคืนคำ

     

                “ไออ้วนนนนน”

     

                -______-

     

                ร่างที่อ้วนดั่งเสียงเรียกชะงักฝีเท้าไว้ทันที ไม่มีใครหยาบคายได้เท่าไอไม้เสียบผีนี่อีกแล้ว คยูฮยอนยืนเป็นเป้านิ่งรับขีปนาวุธขนาดย่อมที่พุ่งเข้าใส่ตัวเองอย่างจัง แต่ขอโทษ สกิลพี่ดีมากโหนรถเมล์ฟรีบ่อยก็เงี่ย คยูฮยอนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงเมื่อเจอฮยอกแจวิ่งเข้าใส่อย่างแรง ค่อย ๆ แงะเพื่อนสนิทออกจากตัวเพราะเหม็นกลิ่นเหงื่อมันเหลือเกิน

     

                “ไปเตะบอลหรือไปอาบเหงื่อ”

     

                “มันเป็นคำถามแบบไหนวะ เตะบอลไม่ให้ร่างกายกูขับเหงื่อจะให้มันขับน้ำแร่ออกมาให้มึงแดกไง”

     

                “ทำตัวมีประโยชน์ให้ได้เหมือนน้ำประปาก่อนก็ได้ น้ำแร่มันคงดีเกินไปสำหรับคนอย่างมึง”

     

                “ไปสิ้นซะไออ้วน” และแล้วเขาก็โดนไอแห้งนี่ตบหัวมาทีหนึ่ง ไอห่า เจ็บ “ไหนบอกจะรอห้องคหกรรมกูไปหามึงแม่งก็ล็อกแถมมีแมลงสาบเต็มไปหมด ไอคนโป้ปด คนอย่างมึงต้องโดนตัดลิ้น”

     

                “กูไปห้องกรรมการนักเรียนมา โดนใช้งาน”

     

                “แล้วไม่โทรบอก”

     

                “มึงมันไม่สำคัญงะ”

     

                “เดี๋ยวนี้อ้วนแล้วยังจะปีกกล้าขาแข็ง กัดลิ้นตัวเองเดี๋ยวนี้ มึงกล้าพูดกับเพื่อนที่แสนน่ารักของมึงอย่างนี้ได้ยังไง ไอคนเนรคุณ”

     

                สรุปชาตินี้ก็จะหาความดีเข้าตัวไม่ได้ ทำบุญไม่ขึ้นแล้วใช่ไหม ตอบ

     

                “กูไปกินพิซซ่าต่อนะ”

     

                “สัส อ้วน”

     

                “เรื่องของกูอีกนั้นแหละจ้า”

     

                “งั้นเชิญมึงเลย เอาให้อ้วนไขมันสะสมตายห่าไปเลยจ้า” สาบานได้ว่าเขาอยากกระโดดถีบไอแห้งให้กระดูกที่ประคองตัวมันให้มีชีวิตได้ถึงทุกวันนี้หักเป็นสองท่อน ทีแรกก็กะจะชวนมันไปด้วยนะ แต่เปลี่ยนใจและ คนที่ใจร้ายกับเพื่อนมักไม่ได้ดี จัมวรั้ย

     

                ฮยอกแจกับคยูฮยอนแยกกันที่หน้าโรงเรียน และยังไม่วายด่าส่งท้ายเขาพร้อมปาลูกบอลใส่แถมยังมีหน้ามาบอกว่า ฝากและแม่งก็วิ่งหายไปด้วยความเร็วแสง สัส กูต้องไปเผชิญโชคกับคนบนรถเมล์มั้ยยังไง คนที่มีรถมารับสวย ๆ จะไปเข้าใจอะไร นอกจากผอมแล้วมึงยังจะใจร้ายกับกูอีกหรอ

     

                คนอ้วนกับลูกบอลหนึ่งลูกตัดสินใจนั่งแท็กซี่มาลงที่ห้างที่ใกล้บ้านที่สุด ตอนนี้มันเย็นมากแล้วซึ่งเป็นเวลาคนทำงานเลิกงานพอดี บอกเลยว่าเห็นปลากระป๋องนั่นแล้วพี่ลมแทบจับ ถึงพี่จะกินแมนซั่มทุกวันแต่นั่นไม่ได้ทำให้พี่สตรองพอจะไปเป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสมปลากระป๋องในนั้น และโดยไม่มีความลังเล แขนอวบยื่นออกไปโบกแท็กซี่บริหารไขมันใต้ท้องแขนจนมันสั่นสะเทือนระริกระรี้ เห็นแล้วรู้สึกปริ่มจริง ๆ ที่สะสมมันมาได้ขนาดนี้

     

                “ไปห้าง xxx ครับ”

     

                คยูฮยอนบอกที่หมายปลายทางให้เสร็จสรรพ จัดการวางลูกบอลของอีฮยอกแจวันที่ข้างตัวและลวงเอาหูฟังที่พันกันยุ่งเหนิงในกระเป๋าออกมาคลี่ออกและเสียบโทรศัพท์ฟังเพลง เขาไม่ลืมที่จะถ่ายเลขทะเบียนของแท็กซี่เอาไว้ด้วย ม๊าสอนไว้ว่าถ้าเจอคนขับหล่อจะได้ตามทะเบียนได้ถูก ฮิ

     

                ร่างอวบมาถึงห้างโดยปลอดภัย ไม่ได้โดนคนขับล่อลวงไปเฉียนทำคยูแดดเดียวแต่อย่างใด โดยทำการไลน์ไปบอกหม่าม๊าเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้จะมาจัดการยัดไขมันใส่ท้อง หม่าม๊าก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่กลับบอกทิ้งท้ายไว้ว่าให้ซื้อคาโบนาร่ากลับไปฝากไอหมู(หมา)ที่บ้านด้วย คยูฮยอนนี่ถึงกับมองบนใส่ ที่กับลูกนี่บอกให้ต้มมาม่ากินไปถ้ายังมีขามีแขน โถ...ไอหมู(หมา)ก็มีขาเหมือนกันทำไมไม่ให้มันต้มมาม่ากินเองมั่งอ่ะ ม๊าไม่ยุติธรรม

     

     คยูฮยอนเข้ามานั่งในรานได้แล้วก็จัดการใช้สิทธิพิเศษทันที เขายื่นบัตรกินฟรีตลอดปีที่ได้รับมาจากกรรมการนักเรียนที่บังอาจอ่านรับ porn กลางวันแสก ๆ และจัดการสั่งพิซซ่าหน้าซีฟู้ดมาหนึ่งถาด และคาโบนาร่าเอากลับบ้านไปให้ไอหมูหมาบีเกิ้ลปัญญาอ่อนที่บ้านได้กินตามบัญชาของเด็จแม่

     

    “พิซซ่าซีฟู้ดได้แล้วครับ”

     

    “ขอบคุณครับ”

     

    “ขอนั่งกินด้วยได้ป่ะครับ”

     

    มองบนเลยมองบน...

     

    พนักงานนี่มันยังไง ? คยูฮยอนถึงกับเหล่ตาขึ้นมองบนเป็นกัสไออารี่ตุ๊ดซี่ ไม่ใช่อะไรก็แม่งยืนอยู่แล้วเขานั่งอ่ะ จะให้หลุบตาลงก็ไม่ใช่ป่ะ นั่นมันไว้ทำเวลาเขิน ยังไม่ถึงเวลาอ่ะ ยูโนว์ ? คยูฮยอนจัดการมองบนใส่อีกฝ่ายพร้อมเลิกคิ้วขึ้นอย่างไปพอใจว่าพนักงานนี่มันถามคำถามส้นตีนอะไร แต่พอตาดำเหล่ขึ้นไปเห็นหน้าพนักงานเท่านั้นแหละ รู้เรื่องเลย...

     

    “ไอพี่...”

     

    “อะ ๆ พูดไม่เพราะหรอ ?”

     

    “พี่ซีวอน .______.

     

                ถึงเวลาหลุบตาแล้วจ้า

     

                น้องคูอ้วนคนแมนที่กินแมนซั่มทุกวันแต่ไม่ได้ช่วยให้หุ่นน่าซั่มสักเท่าไหร่ หลุบตาลงก้มหน้างุดทันทีที่เห็นหน้าพนักงานพิซซ่า แต่เอะ สังเกตดี ๆ พี่มันก็อยู่ในเครื่องแบบนักเรียนนี่หว่า ผ้ากันเปื้อนก็ไม่มี บังอาจมากที่เดินเอาพิซซ่ามาส่ง แย่งงานคนอื่นทำมันไม่ดีนะ ไอคนรวย

     

                “กินไม่ชวนอ่ะ”

     

                ว่าแล้วพี่ซีวอนแม่งก็นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วนั่งจ้องหน้าอย่างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหาคดีร้ายแรง อห กูผิดมากดิ พิซซ่านี่ก็เงินกูอ่ะ(ได้ข่าวว่าฟรี) ไปขอเงินพี่มาจ่ายหรืองะ (แต่ถ้าจ่ายให้ก็ถือเป็นเรื่องดี)

     

                “มาไงอ่ะ .____.

     

                “นั่งรถมาสิ น้องยอนไม่โง่ดิ”

     

                “....”

     

                จ่ะ

     

                คยูฮยอนว่าพี่แม่งเนียนอีกแล้ว ตอนแรกยังเรียกน้องคยูอยู่เลยแล้วนี่อะไรอ่ะ น้องยอนคือไร เราสนิทกันขนาดไหนหรอฮะ ฮะ ฮะะะ ถึงเวลามองบนอีกครั้ง คยูฮยอนรู้สึกว่าพี่แม่งกวนตีนอ่ะ นี่คันยิก ๆ แล้วเหมือนกัน ไม่ใช่อยากถีบหน้าพี่มันนะ คยูฮยอนเป็นฮ่องกงฟุตอ่ะ วันนี้ยังไม่ได้ทาโทนาฟเลอ .____.

     

                ไม่ต้องรอให้เจ้าของพิซซ่าอนุญาตพี่ซีวอนมันก็จัดแจงเอาพิซซ่าหนึ่งชิ้นใส่จานฝั่งมันทันที(เอาจานมาจากไหนนนน) แถมตอนตักนี่ยืดพิซซ่ายาวเป็นทางช้างเผือก พี่มึงอย่าเว่อร์ให้มันมาก นี่ก็หิวไง ทำไมคนสั่งต้องได้กินทีหลังอ่ะ ไม่เข้าใจ

     

                “เอ้านี่ ไม่ต้องเบะปาก ได้กินทุกคน” พี่ซีวอนว่าพลางตักพิซซ่าใส่จานเขา คยูฮยอนมองหน้าพี่มันอีกรอบเพราะคำพูดเมื่อกี้ ได้ข่าวกูสั่งแมะ พี่มึงอย่ามาทำเหมือนของตัวเอง ฉันก็รักของฉันเข้าใจบ้างไหม ?

     

                “ของผมอ่ะ”

     

                “อืม แต่พี่จะกินด้วยไง หิว”

     

                เออ ตามสบายนะ

     

                คยูฮยอนตัดสินใจตัดบทสนทนาพาเพลินครั้งนี้ด้วยการเอื้อมไปหยิบซอสมะเขือเทศมาเทใส่จาน ข้าง ๆ พิซซ่า จัดการเขี่ยกุ้งหอยปูปลาทั้งหมดไปกองรวมกันไว้อีกด้านหนึ่งเพื่อเก็บไว้กินทีหลัง ค่อย ๆ ใช้มืดหั่นแป้งหนานุ่มจิ้มซอสมะเขือเทศเล็กน้อยและเอาเข้าปาก อื้อหือออ ฟินนนน

     

                “เรานี่ดูจะชอบกินจังเลยนะ” พี่ซีวอนคงเห็นขาทำหน้าฟินเกินไปเลยทักขึ้นมาจากนั้นก็จิ้มพิซซ่าที่ถูกตัดไว้พอดีคำเข้าปาก

     

                “ผมเรียกมันว่าความรัก” คยูฮยอนตอบทั้งยังเคี้ยวแป้งไว้เต็มปาก ทำไมพี่เขากินดูแพงอ่ะ ทำไมคยูฮยอนดูมูมมามเหมือนคนไม่เคยกินพิซซ่ามาทั้งชีวิต เซ็ง

     

                “เล่นบอลด้วยหรอเรา ?” พี่มันว่าพลางพยักเพยิดไปทางลูกบอลที่วางอยู่ตรงทีนของคยูฮยอน โถ่ มึงก็อุตส่าห์มองต่ำไปเห็นนะพี่

     

                “เพื่อนฝากอ่ะ ไม่ได้เล่น”

     

                “เห็นเพื่อนเราบอกว่าเมื่อก่อนเราไม่อ้วนนี่”

     

                กึก

     

                ระหว่างกำลังเคี้ยวอย่างมีความสุขคยูฮยอนก็หยุดชะงักทันที... ติดคออ่ะ น้ำ ๆ  ๆ

     

                “แค่ก ๆ ๆ ”

     

                คยูฮยอนรีบซัดเอาเป๊ปซี่เข้าปาก เสียงดื่มนี่เป็นอึก ๆ ๆ อย่างกับในโฆษณา อยากจะร้องซ่าดัง ๆ เหมือนกันแต่ก็กลัวโต๊ะข้าง ๆ ปากระดูกไก่ใส่ด้วยความลำไย ฮือ มากินที่ร้านมันก็ลำบากแบบนี้แหละทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ

     

                “เอ้า ใจเย็น ๆ ถึงกับสำลักเลยหรอ” ไม่รู้ว่าพี่ซีวอนย้ายมานั่งฝั่งเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ มือของพี่เขาลูบ ๆ หลังผมให้ค่อย ๆ ดื่มน้ำ ไม่เข้าใจการกระทำอ่ะ ลูบทำไม ทำไมเวลาคนเราสำลักน้ำต้องมาคนมาลูบหลัง เวลาอ้วกก็เหมือนกัน ลูบทำไมอ่ะ กระเพาะกับหลังมีความสัมพันธ์กับยังไงหรอ ? (จงตอบคำถามสิบคะแนน)

     

                “พี่พูดจาไม่เข้าหูอ่ะ”

     

                “ไม่อยากรื้อฟื้นอดีตว่างั้น”

     

                “ผมไม่ได้อ้วนสักหน่อย เขาเรียกอุดมสมบูรณ์ พี่ไม่เคยเห็นขวดซีอิ้วหรอ”

     

                “...”

     

                ทำไมพี่เขาต้องทำหน้าเอือมอ่ะ งง

     

                คยูฮยอนไม่สนใจหน้าพี่ซีวอน เขาจัดการลงมือกินพิซซ่าอีกสี่ชิ้นที่เหลือ ก็แล้วไงอ่ะ กินฟรีตลอดปี เราต้องเอาคุ้มสินี่ถ้าไม่ได้มีเงื่อนไขว่ากินได้วันละถาดนี่จะสั่งอีกสักสิบถาด พิซซ่ากับเด็กแลกเปลี่ยนเป็นอะไรที่เข้ากั๊นเข้ากันนนน การไปอยู่เหมือนฝรั่งมาไม่ได้ทำให้คยูฮยอนเอียนแป้งสักเท่าไหร่ และแน่นอนคยูฮยอนเรียกมันว่าความรักอีกเช่นกัน

     

                ทั้งสองทำเพียงแค่นั่งกินเงียบ ๆ ซีวอนที่ย้านก้นมานั่งข้าง ๆ เขาแล้วก็ไม่ได้ย้ายกลับไปที่เดิม ร่างสูงของรุ่นพี่ยังคงนั่งโซ้ยพิซซ่าชิ้นที่สองอยู่ข้าง ๆ เขาและคยูฮยอนก็ยังคงนั่งเขี่ยหน้าพิซซ่าไว้กินทีหลังและกินแป้งก่อนเป็นชิ้นที่สาม

     

                งื้ออออฟินนนน

     

                แต่เดี๋ยวนะ พี่มึง... จะทำอะไรน่ะ

     

                ปึก

     

                “พี่คิดจะทำอะไรอ่ะ หยุดความคิดที่เลวทรามนั่นเดี๋ยวนี้เลยนะ” ซ้อมที่กำลังจิ้มแป้งที่หั่นเป็นชิ้นเข้าปากล้มเลิกภารกิจทันทีและไปจิ้มพิซซ่าชิ้นสุดท้ายที่ซีวอนกำลังจะตักมันใส่จานตัวเอง บอกเลยว่าไม่ได้แดก มีสิทธิ์อะไรมาแย่งชิ้นสุดท้ายห๊าาาาาา

     

                “นี่ของพี่ไง คนละสามชิ้นเท่ากันพอดี” พี่แม่งยังคงบอกหน้าตาย ตอนนี้คยูฮยอนอ่านสีหน้านิ่ง ๆ ของมันได้เลยว่า น้องยอนเป็นบ้าอะไรอ่ะ นี่ของพี่ซีวอนนะ

     

                “ของผมอ่ะ”

     

                “ตกเลขป่ะน้องยอน มาสองคนมีหกชิ้นก็ต้องคนละสามชิ้น โอเค้”

     

                “แต่ผมสั่ง”

     

                “แต่พี่จะกิน”

     

                “ไม่ให้โว้ยยยยย” สายตาแน่วแน่แบบนั้นบอกเลยว่าพี่แม่งไม่ยกเลิกความคิดจะแย่งพิซซ่าชิ้นสุดท้ายของเขาแน่ ๆ เพราะฉะนั้นคยูฮยอนถึงใช้ทั้งซ้อมทั้งมีดยื้อพิซซ่าในถาดเอาไว้โดยมีพี่ซีวอนมันใช้ที่ตักยื้อไว้เหมือนกัน

     

                ว่าแต่ไม่นานมันก็ยิ้มว่ะ บ้าแล้ว

     

                “โอเค ไม่เอาก็ได้”

     

                เออ ค่อยว่าง่ายหน่อย

     

                “กินอันนี้แทนก็ได้”

     

                พรึ่บ

     

                ไม่ต้องรอพ่อใครตัดริบบิ้น จานพิซซ่าของคยูฮยอนที่อุดมไปด้วยกุ้งหอยปูปลามากมายที่ถูกโกยเอาไว้อย่างสวยงามก็เข้าปากพี่มันไปด้วยความเร็วแสง มึง...มึงงงงงงงงงง

     

                อย่า – อยู่ – เลย ...

     

                “กินเปล่า ๆ มันอร่อยแบบนี้นี้เอง” พี่มันยังคงเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างไม่รู้สึกรู้สาถึงสายตาอาฆาตแค้นที่ทะลุปรอทของคยูฮยอนเลยสักนิด ถึงจะโกรธมากแต่คยูฮยอนรู้สึกถึงความเศร้าในจิตใจมากกว่า เหตุใดความอดทนที่มีต่อน้องกุ้งหอยปูปลาของเขาถึงถูกทำลายด้วยไอพี่หกห่อนี่ด้วย พี่มันคนบาป กูขอสาปแช่ง

     

                “พี่...ของผมอ่ะ...ฮึก...” คยูฮยอนไม่สตรองพอ เขาเบะปากแล้วถึงจะไม่มีน้ำตาก็เถอะแต่รู้สึกอยากร้องไห้งอแงฟ้องคุณม๊าเหลือเกินว่าโดนผู้ชายหล่อแย่งของกิน

     

                “งกดีนักกินไปเลยชิ้นสุดท้ายอ่ะ” คนขี้ขโมยยังคงจิ้มคุณซีฟู้ดในจานเขาต่อไป

     

                คนเฬว คนเฬว คนเฬว คนเฬววววววว

     

                “ชิ้นสุดท้ายแฟนหล่อนะรู้ป่าว”

     

                “ตรรกะกะโหลก”

     

                “...กินแล้วเผื่อจะได้พี่เป็นแฟนไงครับ”

     

                . . . . . .

     

                คยูฮยอนกำลังสับสนตัวเองว่าตอนนี้ควรทำอะไรก่อนระหว่างด่าพี่มันว่าหลงตัวเอง หรือ บีบน้ำตาให้คนเฬวอย่างมันได้สำนึก

     

                เขาก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกันนะ

     

                แต่สิ่งที่ร่างกายทำตอนนี้คือก้มหน้าก้มตากินพิซซ่าชิ้นสุดท้ายและกินแป๊ปซี่เย็นเจี๊ยบตามเผื่อจะช่วยลดอาการหน้าร้อนตอนนี้ได้บ้าง

     

                กู was killed by หกห่ออปป้าที่ฆ่าคนด้วยคำหยอดอย่างเลือดเย็น           

     

     

    TBC

        จึงมาตามห้วงอารมณ์ผสมกับความคิดถึงกัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×