คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [SF] wonkyu :: Let's Eat -2-
[SF] LET’S EAT
-
PART 2 –
( ̄(エ) ̄)
“เมื่อวานเห็นรีบกลับไปก่อน...
อย่างนี้คุณน้าบัวบานกับหลานบัวตูมแล้วก็คุณย่าพิชัยก็อดทานเลยอ่ะดิ”
ฟ้าคคคคคคคคค
ใบหน้าอวบยังคงฉายแววอึ้งออกมาไม่จางหาย
คยูฮยอนมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เพิ่งโผล่หัวออกมาจากโซฟาและเดินเข้ามายิ้มกริ่ม
ๆ
ให้เขาก่อนจะฉวยเอาใบสีขาวในมือของรยออุคไปอ่านหน้าตาเฉยแถมยังยิ้มออกมาอีกต่างหาก
คยูฮยอนจะไม่ตกใจ จะไม่ยืนเป็นหมูใบแดกแบบนี้ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่เขาได้ก่อวีรกรรมเอาไว้จนโดนเหล่าสาวกพ่อค้าแซ่บเมนชั่นมาด่าไม่หวั่นไม่ไหว
ถีบเขาแรง ๆ
ให้ตื่นทีเถอะ ฮื่ออออ
“อืม...
งั้นพี่เอาไปยื่นให้ฝ่ายกิจกรรมเลยรึกันนะ”
ไอพี่หกห่อเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารที่มีประวัติเขากรอกอยู่แทบจะทั้งหมด
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมใบสมัครเข้าชมรมต้องให้กรอกประวัติละเอียดอย่างกับจะต้องไปรับมรดกร้อยล้าน
ถ้าไม่เกรงใจกันคยูฮยอนคิดว่าคงมีคำถามว่าเขาใส่กางเกงในสีอะไรในแต่ละวันแน่ ๆ
“เขาไม่ได้จะมาเข้าชมรมเราอ่ะพี่”
คนที่ชื่อรยออุคพูดพลางเบ้ปากเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ โอ้โห
เมื่อกี้ร้องไห้ค่าน้ำนมยังไม่พอใช่มั้ย ยังอยากเบะร้องไห้อีกรอบงั้นหรอ
มึงมันเยอะไปแล้วไอเตี้ย
“อ่าว แล้วใบสมัครนี่...”
“พวกพี่หยิบไปเอง”
คนตัวอ้วนกลมยังคงไม่ผ่อนคลายสีหน้าบูดบึ้ง
ก่อนจะตวัดตามองไปที่นักแสดงทั้งสามคนที่มีสีหน้าอยากตายอยู่รอมร่อ “ผมไม่ได้อยากเช้าชมรมนี้”
และพูดย้ำไปอีกรอบ
แน่ละ เขาเห็นคนที่ถืออีทึกทรุดลงไปนั่งกับพื้นพร้อมฉวยเอาถ้วยมาม่ามาดูดเส้นเข้าปากเสียงซู้ดซ้าดพร้อมน้ำตาไหลพรากเป็นพร็อบประกอบ
(ไปต้มมาตอนไหนวะ)
“แต่ในใบสมัครก็เขียนอยู่นี่ไง น้องทาโกะชื่อคยูฮยอนนามสกุลโจว
น้องทาโกะประสงค์จะเข้าชมรมคหกรรม...”
“ห้ะ ผมไม่ได้เขียน
แล้วอีกอย่าง...เลิกเรียกผมว่าทาโกะได้แล้วเว่ยยย!!!” ผมนี่ขึ้นเลยได้ยินแล้วขึ้นนนน
ตอนนี้คำว่าทาโกะเป็นคำต้องห้ามสำหรับคยูฮยอนไปเสียแล้ว
เหมือนเป็นคำสั่งที่ถูกป้อนเข้ามาใหม่ว่าถ้าได้ยินควันมันจะออกหู มันจะหน้าแดง มันจะอายชิบหายจนอยากมุดดินนนน
ฮื่อออออออ
“น้องทาโกะ”
“บอกว่าอย่า...”
“น้องทาโกะ”
“บอกให้หยุดเรียกไง”
“นี่ไงน้องทาโกะเขียนไว้อยู่ตรงนี้”
ใบสมัครถูกยื่นมาให้
คยูฮยอนเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าช่องที่ให้ใส่ชื่อชมรมนั้นมันถูกเติมด้วยคำว่า ‘คหกรรม’ ซึ่งแน่นอนนั้นไม่ใช่ลายมือของเขา
ตากลมรีบตวัดไปมองคนที่แย่งใบชมรมไปจากมือเขาก่อนหน้านี้ทันที ไอเตี้ยนั่น... มันไปเขียนตอนไหนวะ
โอ้ยยยยอยากตายยยย ตอนไปเอาใบนี้ครูเขาบอกว่าไม่มีแล้วด้วย แล้วดูนั่น
ใบหน้าโศกเศร้าของคนที่ร้องเพลงค่าน้ำนมได้หายไปแล้ว
รยออุคกำลังใช้มือปิดปากกลั้นขำพร้อมกับพรรคพวกอีกสองคน ไอพวกบ้า
“สรุปดีลนะ”
ใบสีขาวในมือถูกฉวยไปจากมืออีกครั้ง คยูฮยอนมองหน้าไอพี่หกห่ออย่างบูดบึ้ง ซวย
ทำไมซวยอย่างนี้
“ผมไม่ได้เต็มใจจะเข้า
ไม่ดีล”
“ไม่อยากเข้าจริงหรอ”
“เออ”
“เราทำขนมอร่อย ๆ
กันทุกวันเลยนะ”
“คิดจะเอาของกินมาล่อหรอ
ไม่เอาไม่อยู่ไม่ดีลเอาใบสมัครคืนมาเลยจะกลับบ้าน”
“ในครัวมีเค้กช็อกโกแลตที่ฮีชอลอบไว้
ส่วนในตู้เย็นก็มีพุดดิ้งที่รยออุคแช่เอาไว้ตอนนี้มันน่าจะทานได้แล้ว
ส่วนตอนนี้แป้งสำหรับทำพิซซ่าที่อีทึกทำไว้ก็พร้อมอบคิดว่าไม่ถึงชั่วโมงเราคงได้กินกัน”
“...”
“กฎของเราคือถ้าคนไม่ใช่สมาชิกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าครัว...อืม...แล้วก็จะกินไม่ได้ด้วยถ้าพวกเราไม่อนุญาต”
“...”
“พูดถึงรสชาติ...ก็เลิศกว่าที่ขายตามห้างเสียอีก
น้องทาโกะไม่ได้กลิ่นเค้กช็อกโกแลตหรอ ?
ไม่คิดว่ามันหอมกว่าที่เคยได้กลิ่นปกติหรือไง ?”
อือใช่...
คิดว่าคยูฮยอนเดินตามกลิ่นเค้กมาเป็นหมาเพราะอะไรกันล่ะถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นเค้กช็อกโกแลตที่หอมยั่วยวนกว่าที่เคยได้กลิ่นนั้น
และนั่น เขาเสียรู้ให้คนตรงหน้าเสียแล้วเพราะเผลอไปพยักหน้ารับตามอย่างเห็นด้วย
โอ๊ยยยยคยูเอ๊ยยยยหัดขรึมให้ได้สักนาทีได้ม้ายยย
“ผมไม่หลงกลพี่หรอก
ไม่ต้องเอาของกินมายั่ว”
“งั้นถ้าใช้พี่ยั่ว
น้องทาโกะก็จะยอมเข้าชมรมเราใช่รึเปล่า”
“...”
ฟ้าคคคคคคค
มันใช่เรื่องไหมที่พี่มึงต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้! หน้าแม่งใกล้มากอ่ะ
เห็นยันไรหนวดที่กำลังขึ้นหน่อย ๆ
ของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าหน้าไอพี่หกห่อแม่งเนียนสัดถึงจะใส่แว่นกรอบสีดำไว้ก็เหอะ
มันไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าออร่าตกไปกว่าตอนที่ขายทาโกะอยู่เมื่อวานหรอก
แค่พี่เขาไม่ได้ใส่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียวกับกางเกงยีนส์สีซีด
แต่ดูคูลไปอีกแบบเมื่ออยู่ในชุดนักเรียนของโรงเรียนที่ผิดระเบียบคือการเอาเสื้อออกนอกกางเกงและเน็คไทล์ที่ถูกปลดออกเล็กน้อย
คยูฮยอนโดน All kill ไปเรียบร้อยแล้วจังหวะนี้
“โอเค
ประทับรอยนิ้วมือแล้วเรียบร้อย”
“...”
หา ?
คยูฮยอนก้มมองที่มือของตัวเองทันทีและก็ได้พบว่านิ้วโป้งของเขากลายเป็นสีน้ำเงินเข้มเรียบร้อยแล้ว
มองไปที่อีทึกที่นั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ เขาพร้อมกับตลับหมึกในมือกับรอยยิ้มแห้ง ๆ
ที่ถูกส่งมาให้
ใบสมัครที่ขาวสะอาดตามีแค่ตัวหลังสือและลายมือไก่เขี่ยของเขาตอนนี้มันมีรอยนิ้วมือสีน้ำเงินเพิ่มเข้ามาตรงช่องยืนยันเรียบร้อย
ว้อทเดอะ...
“ยินดีต้อนรับเข้าสู้ชมรมเรานะน้องทาโกะ
ไปล้างมือและเข้าไปทานเค้กในครัวได้แล้วล่ะ” มือข้างหนึ่งของไอพี่หกห่อถือใบสมัครของเขาอยู่ก่อนจะส่งมือข้างที่ว่างมาวางลงบนหัวเบาและตบปุ๊
ๆ เบา ๆ และเดินไปหยิบแฟ้มสีแดงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
“พวกพี่ขี้โกง”
“มาทานเค้กกันเร็ววววว”
เป็นรยออุคที่พูดขึ้นเสียงร่าเริงก่อนจะฉุดกระชากคนที่ยืนเอ๋ออยู่กลางห้องให้เดินเข้าไปใบครัวด้วยกันและตามมาด้วยฮีชอลและอีทึกที่เดินไล่หลังมา
กลิ่นเค้กที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมทำให้คยูฮยอนรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
ยอมรับว่าแอบหงุดหงิดที่โดนมัดมือชกแบบนี้ เขาไม่ชอบการถูกบังคับ
เกลียดที่สุดเพราะมันทำให้รู้สึกอึดอัดมากกว่าตอนกินบุฟเฟ่ต์พิซซ่าที่ฝรั่งเศสอีก
ร่างอวบยอมนั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทานอาหารแต่โดยดี มองไปรอบ ๆ
ก็พบกับครัวที่สะอาดสะอ้านดี
แถมยังดูหรูกว่าครัวทั่วไปด้วยซ้ำเพราะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ครบครัน
แต่สิ่งที่ไม่จำเป็นคือโคมไฟระย้าบนหัว ไม่รู้จะมีไปทำส้นตึกอัลไล
“นี่เรายังอยู่ในโรงเรียนกันใช่ป่ะพี่”
“น้องเห็นประตูไปที่ไหนก็ได้หรือเปล่าล่ะ”
ฮีชอลที่กำลังตัดเค้กใส่จานตอบมาพร้อมขำออกมาเล็กน้อย
“เห็นดิ นั่นไง”
ว่าพลางชี้ไปทางประตูทางเข้าที่เขาเดินเข้ามา
“กวนตีน”
ร่างเพรียวเดินมาวางเค้กตรงหน้าเขาก่อนจะเดินไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม “เข้าใจว่าพวกพี่มัดมือชกน้องแบบนี้มันไม่ดี
แต่สงสารพวกพี่เถอะ เรายังไม่อยากปิดชมรมกัน”
“แล้วทำไมพวกพี่ไม่ไปประกาศรับสมัครล่ะ”
“พวกเรามีศักดิ์ศรีกันพอ
ไม่ไปก้มหัวให้ใครมาเข้าชมรมของเราหรอก”
อ่าวมึง แต่เมื่อกี้มึงทำแบบนั้นกับกูครับพี่ฮีชอล
“อีกอย่างชมรมนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใครเข้า
คนภายนอกก็คงมองว่าห้องชมรมเรามันเก่าไม่เหมาะจะเป็นชมรมทำอาหารล่ะมั้ง”
“แล้วทำไมพวกพี่ไม่ทำอะไรสักอย่างกับมันล่ะ”
“แบบนี้มันก็ดูขลังดีไม่ใช่หรือไง
เหมือนที่เค้าบอกว่าอย่ามองคนที่เปลือกนอกนั่นแหละ”
แถวบ้านเรียกแถ
“แล้วทำไมผมถึงเข้ามาได้ล่ะ”
“พรมลิขิตมั้ง”
“บอกเหตุผลจริง ๆ
มาเหอะพี่”
“พี่ลืมล็อคห้องชมรมเองแหละ”
กูว่าแล้ว
“เอาน่าอยู่ชมรมเราสบายจะตายถ้าน้องไม่ชอบทำอาหารจะกินอย่างเดียวก็ได้
อาจจะต้องมีผลงานอย่างการออกบู๊ทวันกิจกรรมโรงเรียนหรืออะไรก็ว่าไป
แต่มันไม่ได้หนักหนามากนักหรอก”
“ผมปฎิเสธทันหรือยังไงพี่ส่งชื่อผมไปแล้วนี่”
ว่าพลางเบ้ปากและตักเค้กเข้าปาก
เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าโดนเอามือไปทาบกับหมึกและปั้มลงกระดาษตอนไหน
ต้องเป็นเพราะมัวแต่มองหน้าไปพี่หกห่อที่เป็นตัวล่อแน่ ๆ
ร้ายกาจ
(ทำเสียงเหมือนรอนวิสลีย์)
“ว่าแต่น้องรู้จักซีวอนด้วยหรอ”
นั่นไง...เขาถามมาแล้วครับ นั่นทำให้คยูฮยอนชะงักการตักเค้กก้อนที่สองเข้าปากทันที
เอาไงดีคยู
จะให้ตอบว่าแรดจนไปทำหน้าแตกให้เขาอยากประทับตีนมากกว่าประทับใจแถมยังไปเล่นแม่พี่เขาอีกเท่านั้นไม่พอยังไปเอาชื่อญาติใครก็ไม่รู้มาอ้างเป็นญาติตัวเองอีก
โอ๊ยยยย คิดแล้วก็อายจนอยากเขมือบเค้กสองปอร์นนี่ให้หมดสิ้น ฮื่ออออ อายโว้ยยย
“อ่าว
แค่ถามเองทำไมหน้าแดง”
“ไม่ได้รู้จักอะไรพี่มันทั้งนั้นแหละ”
“ก็ซีวอนเรียกน้องว่าน้องทาโกะ”
“ไม่รู้จักโว้ยยย”
“โอ๊ะหรือว่า...”
ว่าแล้วพี่ฮีชอลมันก็ล้วงเอาไอโฟนเครื่องใหญ่กว่าหน้าตัวเองขึ้นมาสไลด์หาอะไรบางอย่างในนั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาสลับกับมองจอ
“น้องอัพทูกูจริง ๆ ด้วย”
โอ๊ยยยยฉายากูแค่ล่ะอย่างขอร้องงงง
เขามีชื่อนะ นี่แม่ตั้งให้ไม่อยากทำให้แม่ผิดหวังอ่ะเข้าใจมั้ย เรียกชื่อกูสิ
เรียกชื่อกูบ้างเรียกชื่อกูววววววว
“นั่นมันสกรีนเสื้อผมมั้ยอ่ะ
ไม่ต้องเอามาเรียกก็ได้”
“มีเรื่องอยากถาม
นี่ตั้งใจไว้เลยว่าถ้าเจอต้องถามให้ได้”
นั่น
ตั้งแต่เมื่อวานเขาก็เจอคำถามมากมายแทนความรู้สึกของพวกคนขี้เสือกต่าง ๆ นานา ทั้ง ‘น้องคิดอะไรอยู่ถึงกล้าไปสะบัดหน้าใส่พี่สุดหล่อเขาแบบนั้นหรอคะ ?’ หรือ ‘ต้องได้ยินตอนน้องเขาทำเป็นโทรหาญาติค่ะ บอกเลยว่าเจ๊ค่อนข้างกลัวตุ๊ดเด็กสมัยนี้’ ตอนนั้นคยูฮยอนแทบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วด่าลั่นว่าตุ๊ดพ่องงง นั่นทำให้คยูฮยอนแบล็กลิสคนพวกนั้นไว้ในหัวเรียบร้อย บอกเลยว่าถ้าถึงทีเขาเมื่อไหร่จะเล่นมันให้หนักและคิดว่าพี่ฮีชอลแม่งอาจจะเป็นรายต่อไป
“น้องซื้อเสื้อตัวนั้นที่ไหนหรอ
พี่อยากได้อ่ะ”
โอเค... เขาจะละเว้นพี่ฮีชอลไว้สักคนรึกัน
.
.
“ผมกลับก่อนนะครับ”
“กลับบ้านดี ๆ
ล่ะอย่าไปกลิ้งทับใครเขาน้า”
ไอห่าพี่ทึก
“ไปละครับ” บอกลาก่อนจะปิดห้องชมรมไม่วายไขกุญแจล็อคให้ด้วย
ร่างอวบยัดกุญแจสีทองลงในกระเป๋าเสื้อสูทรของโรงเรียนและเดินไปตามทางเรื่อย ๆ
ตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเด็กนักเรียนก็เริ่มทยอยกลับบ้านกันแล้วเหมือนกัน
หลังจากกินเค้กช็อกโกแลตไปเกือบครึ่งคยูฮยอนก็โดนรยออุคลากไปชิมพุดดิ้งฝีมือเจ้าตัวซึ่งมันโคตรจะอร่อยไปหลายถ้วยนั่งเล่นได้สัดพักอีทึกก็ยกพิซซ่าออกมาจากครัวให้นั่งล้อมวงกินกันหน้าทีวีนั่นก็ฟาดไปอีกเกือบครึ่งถาด
ดูเหมือนพี่ ๆ จะชื่นชอบที่ได้ฟังคำชมจากเขาพร้อมอาหารที่เต็มปาก
แต่มันก็อร่อยจริง ๆ แสดงว่าที่ไอพี่หกห่อนั่นโม้ไว้นั่นคือเรื่องจริง คือมันเลอค่ามันอร่อยจนน้ำตาจะไหล
และจากที่ซักประวัติสมาชิกในชมรมได้แล้วก็ได้ความว่าเขาคือน้องเล็กสุด
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
สิ่งสำคัญคือคนในชมรมเขานั้น...ไม่ใช่แค่พวกบ้าชอบทำอาหารไปวัน ๆ นะครับ...
พี่ฮีชอลและพี่อีทึกอยู่ปีสามมีแพลนจะไปศึกษาต่อที่ออสเตรเลียเกี่ยวกับด้านอาหารโดยเฉพาะด้วยกัน ที่บ้านค่อนข้างมีฐานะพอสมควรเพราะรู้สึกว่าจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างร่วมกันอยู่ ส่วนรยออุค รายนั้นอยู่ปีสองความฝันคืออยากเป็นเชฟที่ฝรั่งเศสและที่บ้านสนับสนุนเต็มที่(คยูฮยอนนึกว่าแค่ดราม่าเล่น ๆ เสียอีก)รู้สึกว่าที่บ้านจะเปิดร้านขนมที่เป็นที่นิยมพอสมควรเหมือนคยูฮยอนจะเคยได้ยินมาว่าร้านนั้นมันแพงมากเลยด้วย
ส่วนคนสุดท้ายไปพี่หกห่ออยู่ปีสาม...
ไม่ต้องเล่าคยูฮยอนก็รู้ว่าที่บ้านทำธุรกิจอะไร
ทายาทร้านทาโกะยากิที่ดังไปทั่วโลกและมีสาขาใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น ตอนนี้ดูเหมือนกำลังเวียนไปจำหน่ายแต่ละประเทศเหมือนศิลปินเวิล์ดทัวร์เพราะเหมือนจะมีสาขาย่อยแค่ไม่กี่ประเทศเท่านั้น
ส่วนคยูฮยอนน่ะหรอครับ
ที่บ้านทำสวนผลไม้ก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก แค่ห้าร้อยกว่าไร่แค่นั้นเอง เฮาะ
คยูฮยอนไหว้ครูหน้าโรงเรียนก่อนจะเดินไปตามทางเรื่อย
ๆ เพื่อไปยังรถไฟฟ้าบีทีอยู่ไม่ไกล
มองไปข้างทางก็พบกับร้านอาหารมากมายโอ้โหเห็นแล้วอยากจะกระโจนเข้าไปนั่งกินทีละร้าน
เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวรู้เรื่องเลย
เพราะวันนี้ลืมเอากระเป๋าตังค์มาวันนี้เลยเหลือเงินแค่พอกลับบ้าน
รอพี่ก่อนนะน้องไว้พี่มีตังค์พี่จะมาตระเวนกินให้ครบทุกร้าน
ปั่ก
และเพราะมัวแต่มองร้ายอาหารด้วยความสิเหน่หาเลยไปชนใครเข้าให้ไม่รู้ดังปั่กจนล้ม
ไม่ใช่คยูฮยอนหรอกนะ คนที่โดนเขาชนต่างหาก
“หูย
ทำไมชนแรงแบบนี้ล่ะน้องทาโกะ”
( ̄(エ) ̄)
....
....
มึงอีกแล้วหรออออออออออ
นี่อุตส่าห์ดีใจที่อีกคนไปส่งรายชื่อแล้วหายต๋อมไปเลยไหงมาเดินชนจนล้มแบบนี้ได้ล่ะ
คยูฮยอนมองอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในเสื้อนักเรียนเหมือนเมื่อหลายชั่วโมงก่อนแต่หากอยู่ในชุดบาสตัวโคร่งสะพายกระเป๋าใบใหญ่
แขนที่เต็มไปด้วยเหงื่อทำให้คยูฮยอนเห็นกล้ามแขนได้อย่างชัดเจน
ไหนจะผมของอีกฝ่ายที่ยุ่งไม่เป็นทรงนั่นอีกละ หูยยยย
*สูดยาดม*
“พี่นั่นแหละ
นึกว่ากลับบ้านไปแล้วซะอีก”
“รอพี่อยู่งั้นดิ”
“ไม่ใช่โว้ยยยยยย”
“อ่าวหรอ
เห็นทำหน้าฟินก็นึกว่ารอให้พี่ไปป้อนเค้กอยู่”
ซีวอนที่ลุกขึ้นมาหลังจากก้มจ้ำเบ้าไปกับพื้นเมื่อกี้ มือปัด ๆ
ฝุ่นที่เลอะกางเกงตัวเองออกเบา ๆ และมองหน้าคยูฮยอนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนทุกที
“กินเองได้เหอะ”
“ก็เห็นตอนนั้นมองกล้องหน้าเป็นไมค์พี่ก็นึกว่าเราจะเห็นช้อนเป็น...”
“โอ๊ยยยยทำไมพี่ต้องขุดคุ้ยด้วยอ่ะ
ยึดติดกับอดีตมันไม่ดีนะพี่ไม่รู้หรอ”
พูดขัดขึ้นมาเสียงดังก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ประชดประชันอะไรเขาไปมากกว่านี้
ทำไว้เลยไอพี่หกห่อ อย่าให้เผลอคยูฮยอนลงกลิ้งทับให้ไอที่นูน ๆ
อยู่นั่นยุบลงให้ได้
คิดอะไร
หมายถึงซิกแพคโว้ยยยย
“โอเค ๆ
พี่ขอโทษพอใจยังครับน้องทาโกะ”
“จะพอใจกว่านี้ถ้าพี่เลิกเรียกชื่อผมแบบนั้นสักที”
เบ้ปากใส่พลางจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง “หลบไปเลยผมจะกลับบ้านแล้ว”
“ก็ไปสิทางเดินตั้งกว้าง
พี่ไม่ได้ขวางทางเราสักหน่อย”
แม่งงงงง
คนที่อ้วนไม่พอยังขี้หงุดหงิดอีกต่างหากเดินฟิดฟัดผ่านคนตัวสูงกว่ามา
หึ๋ย
หงุดหงิดอย่างน้อยก็อย่าทำหน้าตายิ้มแย้มเหมือนอยู่เหนื่อกว่าตลอดเวลาแบบนั้นได้ไหมเล่า
เจ็ท คยูฮยอนหงุดหงิด อยากกลิ้ง อยากกิน ฮื่อออออ
หมับ
“โกรธพี่หรอ ?”
เดินผ่านไปได้ไม่กี่ก้าวก็โดนคว้าข้อมือเอาไว้
คยูฮยอนหันมาตวัดสายตาใส่หมือนแมวโกรธทำเอาร่างสูงยิ้มร่า
“เออโกรธ
พี่นิสัยไม่ดี”
“อะไรที่บอกว่าพี่นิสัยไม่ดี
?”
“พี่ล้อผม
พี่ไม่ยอมเรียกชื่อผม”
“อ้อ
ไม่ชอบให้เรียกว่าน้องทาโกะว่างั้น”
“เออ”
“งั้น... น้องคยูครับ”
“...”
“น้องคยูหายโกรธพี่ซีวอนนะ
เดี๋ยวพาไปเลี้ยงบิงซู ตกลงนะครับ”
.
.
ไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจว่าไอน้ำแข็งไสหน้ามะม่วงสีเหลืองอ๋อยนี่มันมีอะไรดีถึงราคาเกือบสามร้อย
!
ตอนนี้คยูฮยอนกำลังนั่งอยู่ในร้านน้ำแข็งไสหรือบิงซูนั่นแหละ
ในย่านดังของเมืองที่แสนวุ่นวาย
ดวงตากลมจ้องไปที่เข้าน้ำแข็งไสถ้วยยักษ์ที่มีมะม่วงปะบนหน้ามันเป็นชิ้นหลงสี่เหลี่ยมด้านบนเป็นไอติมรสมะม่วงหนึ่งลูกพร้อมกับชีสเป็นก้อนที่ปะปนกับเนื้อมะม่วงอีกประมาณห้าหกชิ้นได้
“กินสิ อุตส่าห์พามาเลี้ยงขอโทษเลยนะน้องคยู~”
“ผมเกลียดพี่อ่ะ”
เบ้ปากใส่อีกฝ่ายแต่ก็ยอมหยิบช้อนมาโดยดี
ตอนนี้เขานั่งอยู่ที่ชั้นสองของร้าน
โชคดีที่ได้นั่งร้านติดหน้าต่างเลยทำให้เห็นวิวยามเย็นของย่านดังที่ยังมีผู้คนเดินกันพล่านเต็มไปหมด
ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่แถมนี้กับวัยรุ่นวัยต่าง ๆ ยันผู้ใหญ่
ในร้านก็ใช่ว่าจะจะต่างจากข้างนอก ก่อนเข้ามาเขาเห็นคนยืนรอหน้าร้านตั้งเยอะ
สงสัยเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงเดินเข้ามาได้ง่าย ๆ
โดยไม่ต้องต่อคิว แต่ก็ได้รับคำตอบจากคนข้าง ๆ ว่า
‘นี่ร้านของอาพี่น่ะ’
เอาเถอะพี่มึง รวยให้พอ
หมั่นไส้เว่ยยยย
ตักมะม่วงพร้อมเกล็ดน้ำแข็งสีขาวเข้าปากพร้อมเคี้ยวตุ้ย
ๆ จนแก้มอูม จริง ๆ ก็ยังอิ่มจากที่กินมาที่ชมรมอยู่หรอก
แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าอยากมากินร้านนี้นานแล้ว
ถึงกับชวนฮยอกแจแต่รายนั้นตอนนี้โดนสั่งลดน้ำหนักอยู่เพราะต้องเตรียมแข่งอยากบอกโค้ชมันเหมือนกันว่าแค่นี้ก็แทบจะเป็นไม้เสียบผีอยู่แล้วยังจะให้มันลดอะไรอีก
เอากระดูกออกไปเลยมั้ยจะได้เบาสบายเหมือนผ้าอนามัยรอริเอะ
“อร่อยมั้ย”
คนตรงข้ามถามมาในจังหวะที่คยูฮยอนตักไอติมมะม่วงเข้าปาก อื้อหืออออ มันเข้มข้นมาก
ฟินชิบหาย
“อื้อ”
ตอบอะไรไม่ได้มากเพราะเคี้ยวเต็มปาก
ถึงน้ำแข็งจะจืดไปหน่อยแต่เพราะอย่างนั้นเขาถึงให้มะม่วงมาเยอะแยะหรือเพราะพี่ซีวอนมันเป็นหลานเจ้าของร้านอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน
เขาตักน้ำแข็งคำมะม่วงคำเข้าปากไม่หยุด
จนไม่ได้สังเกตว่าคนตรงข้ามหยุดกินไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ซีวอนนั่งมองรุ่นน้องที่ห่างกันสองปีที่ตักบิงซูเข้าปากอย่างดูน่าอร่อย
เลยไม่อยากจะไปแย่งกินกลัวเด็กมันไม่อิ่ม เด็กอ้วนที่ตอนนี้กินเลอะเทอะจนปากเลอะไอศกรีมถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัวหรอก
ตักเอา ๆ เข้าปากไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“กินเลอะเทอะ”
“จริง ? ตรงไหนอ่ะ”
คยูฮยอนวางช้อนเมื่อเขาทัก
และหยิบทิชชู่ของทางร้านเช็ดไปทั่วปากแต่มันก็ไม่โดนจุดที่มันเลอะสักที
ซีวอนส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะส่งสัญญาณให้คยูฮยอนหยุด และส่งทิชชู่ไปเช็ดให้แทน
“อ่ะ
กินต่อได้แล้ว”
“เช็ดเองก็ได้อ่ะ”
เจ้าเด็กอ้วนบ่นอะไรขมิบขมิบก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อ
ที่นี่เป็นร้านของอาเขาซีวอนกินมาหมดแล้วทุกเมนู
จริง ๆ วันนี้ก็ตั้งใจจะเข้ามากินแก้ร้อนเพราะไปเล่นบาสให้พวกชมรมบาสมาจนเหนื่อย แต่ก็ดันเจอเด็กอ้วนที่สะพายกระเป๋าเหมือนเมื่อวันที่ไปซื้อทาโกะที่ร้านของบ้านเขาไม่มีผิด
พวงกุญแจหมูสีชมพูนั่นเป็นตัวยืนยันได้อย่างดี ซึ่งซีวอนก็มองว่ามันน่ารักและเข้ากับเจ้าตัวดี
เจ้าเด็กนี่ตลก...
ซีวอนรู้สึกติดใจตั้งแต่ที่เจ้าเด็กนั่นแสร้งว่ามีคนโทรมาแล้ว
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำแบบนั้นทำไมแต่พอเห็นสีหน้าที่แดงหน่อย ๆ
นั่นมันทำให้เขาพอเดาได้
เพราะวันนั้นอากาศร้อนมากและในเต็นท์ไม่มีแอร์
เขาที่ถูกเรียกมาเป็นผู้ชายลุงทาเคชิที่เป็นเชพประจำร้านซีวอนที่นอนเปื่อยอยู่ในเต๊นท์นั่งอ่านทามไลน์ทวิตเตอร์ไปเรื่อย
ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่มาซื้อรู้ได้ยังไงว่าเขาจะมาที่ร้านวันนี้
มีบางครั้งที่เขาเดินทางไปต่างประเทศเพื่อช่วยลุงทาเคชิทำบ้างจริง ๆ
ก็ไปเที่ยวด้วยล่ะ ลูกมือลุงแกมีเยอะแยะจะตาย
ซีวอนตัดสินใจคว้าเอาผ้ากันเปื้อนผืนเดียวมาสวม
เพราะอากาศร้อนมากเสื้อเชิร์ตที่พาดอยู่ที่เก้าอี้จึงถูกลืมไปเลย เอาเถอะ
ยังไงเขาก็ยังมีผ้ากันเปื้อนปิดบังคงไม่โดนหาว่าเป็นพวกวิกลจริตไม่ใส่เสื้อผ้าหรอกมั้ง
คิดแบบนั้นก็เดินออกมาตามเสียงเรียกของพี่แก้ว
ก็เจอกับเด็กตัวอ้วนที่กำลังยืนกดโทรศัพท์รอทาโกะอยู่ทั้งคิ้วขมวดเป็นปมแต่พอเงยหน้ามามองเขาเท่านั้นแหละ
ตาโตยิ่งกว่าไข่ห่านเสียอีก
แหละสถานการณ์ต่อจากนั้นก็เป็นความประทับใจแรกของเขากับน้องทาโกะ
คิดไว้เหมือนกันว่าถ้าได้เจอกันอีกก็คงดีไม่น้อย
และมันก็เป็นจริง
เมื่อฟ้าส่งน้องเขามายืนตัวเป็น ๆ ถึงในห้องชมรมของเขา
แก้มกลม ๆ
นั่นเวลาโกรธน่ะ น่าหยิกชะมัด
“พี่ยิ้มอะไรอ่ะ
โรคจิตป่ะ” คยูฮยอนถามอีกฝ่ายที่อยู่ ๆ ก็นั่งยิ้มออกมาตาลอย ๆ ตอนนี้เขาได้ฟาดบิงซูถ้วยยักษ์จะหมดแล้วและกำลังคิดจะสั่งอีกถ้วยในรสที่ต่างกัน
“อ่า...โทษที
จะกินอีกหรือเปล่า”
“อื้อ”
“งั้นเดี๋ยวสักพักพี่ไปสั่งให้”
“แล้วพี่ไม่กินหรอ
เล่นบาสมาเหนื่อย ๆ ไม่ใช่หรือไง” คยูฮยอนถามซีวอนที่นั่งมองเขากินเงียบ ๆ
จนเขากินหมดไปถ้วยนึงแล้ว เขาก็จำได้ว่าซีวอนกินไปแค่สามคำเท่านั้น
“อ้อ พอดีแขนเจ็บน่ะ”
“ห้ะ”
“เล่นบาสแล้วกระแทกนิดหน่อย”
คยูฮยอนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอย่างนั้น
ชิบหาย... ถ้างั้นตอนเขาชนมันไม่ยิ่งปวดเข้าไปใหญ่หรอว่ะ
สายตากลมส่งไปมองทางมือขวาของอีกฝ่ายที่วางนิ่งอยู่ที่โต๊ะ
ไม่มีร่างรอยบาดเจ็บเลยสักนิด แต่มันอาจจะเป็นที่ข้างในก็ได้ใครจะรู้
“ทายายังอ่ะ”
“เรียบร้อยแล้ว”
ขมวดคิ้วเข้าไปอีก
ทำไมเขาไม่ได้กลิ่นยาว่ะ ปกติพวกยานวดกลิ่นมันจะแรงมากไม่ใช่หรือ
อืม...
มันอาจจะเป็นแบบไม่มีกลิ่นก็ได้
ร่างอวบหยิบช้อนขึ้นมาอีกครั้งและมองบิงซูในถ้วยที่เหลืออีกไม่เยอะมากนัก
ตอนนี้ไอพี่หกห่อมันหยิบโทรศัพท์มานั่งเล่นแล้ว ร่างอวบเม้มปากกับความคิดตัวเอง
เอาไงดีว่ะ นี่เขาก็อุตส่าห์พามาเลี้ยงทั้งที่คยูฮยอนเป็นฝ่ายไปชนอีกฝ่ายจนล้ม
โอ๊ยยยยยเอาไงดีเอาไงดี
มือที่ถือช้อนอยู่ตักบิงซูที่ละลายไปนิดหน่อยแล้วขึ้นมาก่อนจะนิ่งอยู่กลางอากาศสักพักและตัดสินใจ...
ส่งมันไปให้คนตรงหน้า
“อ่ะ”
คยูฮยอนส่งเสียงให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ และมันได้ผล
ซีวอนเงยหน้าขึ้นมาพร้อมขมวดคิ้วสงสัย “กินดิ”
“หือ
เราจะป้อนพี่หรอ”
“ผมเอามันเทใส่หัวพี่อยู่มั้ง”
“กวน”
“งั้นก็ไม่ต้องกินแล้ว”
“เห๊ย ล้อเล่น
กินดิกิน” ไม่ให้คยูฮยอนชักมือกลับร่างสูงรีบยื่นหน้ามางับเอาน้ำแข็งและมะม่วงเข้าปากทันทีก่อนจะเคี้ยวพร้อมยิ้มตุ้ย
ๆ ทำให้คนป้อนเบ้ปาก หึ๋ยยยย
คนอย่างคยูฮยอนไม่เคยแบ่งของกินให้ใครเลยนะ
บอกจากป๊าม๊าและไอหมู(หมา)ที่บ้านน่ะ
ดีใจซะไอพี่หกห่อ
“เอาชีสด้วยดิ”
“ผมป้อนแล้วพี่ยังจะเรื่องมากอีกหรอ”
บ่นไปอย่างนั้นแต่ก็เขี่ย ๆ
หาก้อนชีสให้อีกฝ่ายพร้อมกับมะม่วงชิ้นโตตามคำเรียกร้อง
ซีวอนอ้าปากกว้างก่อนจะงับเอาน้ำแข็งไสในช้องเข้าปากไปทั้งยิ้มตาปิด
คยูฮยอนเกลียดรอยยิ้มนี้ มันกำลังทำเขาเป็นบ้า กรี๊ด
“ทำไมถึงป้อนล่ะ”
“ก็เห็นบอกเจ็บมือ”
“เป็นห่วงหรอ ?”
“...”
“แหนะ หน้าแดงด้วยอ่ะ”
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
คยูฮยอนโยนกระดาษทิชชู่แผ่นหนาของร้านใส่หน้าไอพี่หกห่อทันที
รู้ตัวอยู่หรอกว่าตอนนี้ตัวเองหน้าร้อนเห่อแค่ไหน แต่มึงไม่ต้องพูดก็ได้พี่ซีวอน
แค่นี้ก็จะระเบิดไขมันกลางร้านแล้วเว่ยยย ซึ่งซีวอนก็ไม่ได้โกรธเลยสักนิดที่โดนคนอายุน้อยกว่าปาทิชชู่(ใช้แล้ว)ใส่
แต่กลับหัวเราะร่าอีกต่างหาก
“กินเองเลย”
วางช้อนลงก่อนจะกอดอกและหันหน้าหนีไปมองวิวนอกกระจก
ท่าทางที่สะดิ้งเสียจนหมั่นไส้ตัวเอง หึ๋ย คนมันเขินเข้าใจมั้ยยยย
“โหยอะไรอ่ะ
นี่เจ็บมืออยู่นะ แถมเมื่อกี้นายก็ชนพี่จนล้มเลยด้วย”
นั่นเกิดการขุดคุ้ยขึ้นอีกแล้ว
“เนี่ยพี่เจ็บมือมากเลย”
“...”
“จับช้อนทีไรแล้วมันรู้สึกจี๊ด
ๆ ทุกที...”
“...”
“ป้อนพี่ซีวอนหน่อยสิครับน้องคยู”
เกลียดมันนนนนนนนนนน
คยูฮยอนเม้มปากเน้น
สุดท้ายก็แพ้รอยยิ้มหล่อ ๆ กับดวงตาปริบ ๆ นั่นที่อ้อนเสียเหลือเกิน
พี่ซีวอนมึงคิดว่าตัวเองเป็นแมวหรอ
บอกเลยขนาดหมาที่บ้านคยูฮยอนยังโยนตับไก่ให้มันกินเลย ไม่มีอ่ะมาป้งมาป้อน
บ่นในใจไปแบบนั้นแต่สุดท้ายก็หยิบช้อนขึ้นมาและตักบิงซูไปจ่อปากอีกฝ่ายตามคำเรียกร้อง
“พี่แม่งนิสัยไม่ได้จริง
ๆ ด้วย”
บ่นอุบอิบก่อนจะตักอีกคำเข้าปากตัวเองด้วยความหงุดหงิด
ครับ...ก็อย่างที่คยูฮยอนว่า
ซีวอนนิสัยไม่ดี
อย่าบอกน้องนะครับว่าวันนี้ผมชนะบาสโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใด
ๆ :)
TBC
วร๊ายกาจจจจจจจจจจ
กลับมาต่อด้วยใจรัก
เรื่องหลักรอก่อนนาจา
ช่วงนี้สอบสอบสอบและก็สอบจะเข้าที่ไหนก็ยังไม่รู้
ไร้อนาคตสุด ๆ
ขี้เกียจจุงเงยยยยยยยย
มีแท็กดีม่ะ อยากส่องอ่ะปกติอีนี่ก็ส่งนะแต่ไม่ค่อยเข้าไปเล่นเท่าไหร่5555555
#น้องทาโกะ
ความคิดเห็น