ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • o n m y m i n d | wonkyu •

    ลำดับตอนที่ #5 : [SF] wonkyu :: Let's Eat -2-

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 58


    [SF] LET’S EAT

     

    -     PART 2 –

     


    (())


     

                “เมื่อวานเห็นรีบกลับไปก่อน... อย่างนี้คุณน้าบัวบานกับหลานบัวตูมแล้วก็คุณย่าพิชัยก็อดทานเลยอ่ะดิ”

     

                ฟ้าคคคคคคคคค

     

                ใบหน้าอวบยังคงฉายแววอึ้งออกมาไม่จางหาย คยูฮยอนมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เพิ่งโผล่หัวออกมาจากโซฟาและเดินเข้ามายิ้มกริ่ม ๆ ให้เขาก่อนจะฉวยเอาใบสีขาวในมือของรยออุคไปอ่านหน้าตาเฉยแถมยังยิ้มออกมาอีกต่างหาก คยูฮยอนจะไม่ตกใจ จะไม่ยืนเป็นหมูใบแดกแบบนี้ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่เขาได้ก่อวีรกรรมเอาไว้จนโดนเหล่าสาวกพ่อค้าแซ่บเมนชั่นมาด่าไม่หวั่นไม่ไหว

     

                ถีบเขาแรง ๆ ให้ตื่นทีเถอะ ฮื่ออออ

     

                “อืม... งั้นพี่เอาไปยื่นให้ฝ่ายกิจกรรมเลยรึกันนะ” ไอพี่หกห่อเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารที่มีประวัติเขากรอกอยู่แทบจะทั้งหมด ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมใบสมัครเข้าชมรมต้องให้กรอกประวัติละเอียดอย่างกับจะต้องไปรับมรดกร้อยล้าน ถ้าไม่เกรงใจกันคยูฮยอนคิดว่าคงมีคำถามว่าเขาใส่กางเกงในสีอะไรในแต่ละวันแน่ ๆ

     

                “เขาไม่ได้จะมาเข้าชมรมเราอ่ะพี่” คนที่ชื่อรยออุคพูดพลางเบ้ปากเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ โอ้โห เมื่อกี้ร้องไห้ค่าน้ำนมยังไม่พอใช่มั้ย ยังอยากเบะร้องไห้อีกรอบงั้นหรอ มึงมันเยอะไปแล้วไอเตี้ย

     

                “อ่าว แล้วใบสมัครนี่...”

     

                “พวกพี่หยิบไปเอง” คนตัวอ้วนกลมยังคงไม่ผ่อนคลายสีหน้าบูดบึ้ง ก่อนจะตวัดตามองไปที่นักแสดงทั้งสามคนที่มีสีหน้าอยากตายอยู่รอมร่อ “ผมไม่ได้อยากเช้าชมรมนี้”

     

                และพูดย้ำไปอีกรอบ แน่ละ เขาเห็นคนที่ถืออีทึกทรุดลงไปนั่งกับพื้นพร้อมฉวยเอาถ้วยมาม่ามาดูดเส้นเข้าปากเสียงซู้ดซ้าดพร้อมน้ำตาไหลพรากเป็นพร็อบประกอบ (ไปต้มมาตอนไหนวะ)

     

                 “แต่ในใบสมัครก็เขียนอยู่นี่ไง น้องทาโกะชื่อคยูฮยอนนามสกุลโจว น้องทาโกะประสงค์จะเข้าชมรมคหกรรม...”

     

                “ห้ะ ผมไม่ได้เขียน แล้วอีกอย่าง...เลิกเรียกผมว่าทาโกะได้แล้วเว่ยยย!!!” ผมนี่ขึ้นเลยได้ยินแล้วขึ้นนนน ตอนนี้คำว่าทาโกะเป็นคำต้องห้ามสำหรับคยูฮยอนไปเสียแล้ว เหมือนเป็นคำสั่งที่ถูกป้อนเข้ามาใหม่ว่าถ้าได้ยินควันมันจะออกหู มันจะหน้าแดง มันจะอายชิบหายจนอยากมุดดินนนน

     

                ฮื่อออออออ

     

                “น้องทาโกะ”

     

                “บอกว่าอย่า...”

     

                “น้องทาโกะ”

     

                “บอกให้หยุดเรียกไง”

     

                “นี่ไงน้องทาโกะเขียนไว้อยู่ตรงนี้”

     

                ใบสมัครถูกยื่นมาให้ คยูฮยอนเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าช่องที่ให้ใส่ชื่อชมรมนั้นมันถูกเติมด้วยคำว่า คหกรรมซึ่งแน่นอนนั้นไม่ใช่ลายมือของเขา ตากลมรีบตวัดไปมองคนที่แย่งใบชมรมไปจากมือเขาก่อนหน้านี้ทันที ไอเตี้ยนั่น... มันไปเขียนตอนไหนวะ โอ้ยยยยอยากตายยยย ตอนไปเอาใบนี้ครูเขาบอกว่าไม่มีแล้วด้วย แล้วดูนั่น ใบหน้าโศกเศร้าของคนที่ร้องเพลงค่าน้ำนมได้หายไปแล้ว รยออุคกำลังใช้มือปิดปากกลั้นขำพร้อมกับพรรคพวกอีกสองคน ไอพวกบ้า

     

                “สรุปดีลนะ” ใบสีขาวในมือถูกฉวยไปจากมืออีกครั้ง คยูฮยอนมองหน้าไอพี่หกห่ออย่างบูดบึ้ง ซวย ทำไมซวยอย่างนี้

     

                “ผมไม่ได้เต็มใจจะเข้า ไม่ดีล”

     

                “ไม่อยากเข้าจริงหรอ”

     

                “เออ”

     

                “เราทำขนมอร่อย ๆ กันทุกวันเลยนะ”

     

                “คิดจะเอาของกินมาล่อหรอ ไม่เอาไม่อยู่ไม่ดีลเอาใบสมัครคืนมาเลยจะกลับบ้าน”

     

                “ในครัวมีเค้กช็อกโกแลตที่ฮีชอลอบไว้ ส่วนในตู้เย็นก็มีพุดดิ้งที่รยออุคแช่เอาไว้ตอนนี้มันน่าจะทานได้แล้ว ส่วนตอนนี้แป้งสำหรับทำพิซซ่าที่อีทึกทำไว้ก็พร้อมอบคิดว่าไม่ถึงชั่วโมงเราคงได้กินกัน”

     

                “...”

     

                “กฎของเราคือถ้าคนไม่ใช่สมาชิกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าครัว...อืม...แล้วก็จะกินไม่ได้ด้วยถ้าพวกเราไม่อนุญาต”

     

                “...”

     

                “พูดถึงรสชาติ...ก็เลิศกว่าที่ขายตามห้างเสียอีก น้องทาโกะไม่ได้กลิ่นเค้กช็อกโกแลตหรอ ? ไม่คิดว่ามันหอมกว่าที่เคยได้กลิ่นปกติหรือไง ?”

     

                อือใช่... คิดว่าคยูฮยอนเดินตามกลิ่นเค้กมาเป็นหมาเพราะอะไรกันล่ะถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นเค้กช็อกโกแลตที่หอมยั่วยวนกว่าที่เคยได้กลิ่นนั้น และนั่น เขาเสียรู้ให้คนตรงหน้าเสียแล้วเพราะเผลอไปพยักหน้ารับตามอย่างเห็นด้วย

     

                โอ๊ยยยยคยูเอ๊ยยยยหัดขรึมให้ได้สักนาทีได้ม้ายยย

     

                “ผมไม่หลงกลพี่หรอก ไม่ต้องเอาของกินมายั่ว”

     

                “งั้นถ้าใช้พี่ยั่ว น้องทาโกะก็จะยอมเข้าชมรมเราใช่รึเปล่า”

     

                “...”

     

                ฟ้าคคคคคคค

     

                มันใช่เรื่องไหมที่พี่มึงต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้! หน้าแม่งใกล้มากอ่ะ เห็นยันไรหนวดที่กำลังขึ้นหน่อย ๆ ของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนแต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าหน้าไอพี่หกห่อแม่งเนียนสัดถึงจะใส่แว่นกรอบสีดำไว้ก็เหอะ มันไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าออร่าตกไปกว่าตอนที่ขายทาโกะอยู่เมื่อวานหรอก แค่พี่เขาไม่ได้ใส่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียวกับกางเกงยีนส์สีซีด แต่ดูคูลไปอีกแบบเมื่ออยู่ในชุดนักเรียนของโรงเรียนที่ผิดระเบียบคือการเอาเสื้อออกนอกกางเกงและเน็คไทล์ที่ถูกปลดออกเล็กน้อย

     

                คยูฮยอนโดน All kill ไปเรียบร้อยแล้วจังหวะนี้

     

                “โอเค ประทับรอยนิ้วมือแล้วเรียบร้อย”

     

                “...”

     

                หา ?

     

                คยูฮยอนก้มมองที่มือของตัวเองทันทีและก็ได้พบว่านิ้วโป้งของเขากลายเป็นสีน้ำเงินเข้มเรียบร้อยแล้ว มองไปที่อีทึกที่นั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ เขาพร้อมกับตลับหมึกในมือกับรอยยิ้มแห้ง ๆ ที่ถูกส่งมาให้ ใบสมัครที่ขาวสะอาดตามีแค่ตัวหลังสือและลายมือไก่เขี่ยของเขาตอนนี้มันมีรอยนิ้วมือสีน้ำเงินเพิ่มเข้ามาตรงช่องยืนยันเรียบร้อย

     

                ว้อทเดอะ...

     

                “ยินดีต้อนรับเข้าสู้ชมรมเรานะน้องทาโกะ ไปล้างมือและเข้าไปทานเค้กในครัวได้แล้วล่ะ” มือข้างหนึ่งของไอพี่หกห่อถือใบสมัครของเขาอยู่ก่อนจะส่งมือข้างที่ว่างมาวางลงบนหัวเบาและตบปุ๊ ๆ เบา ๆ และเดินไปหยิบแฟ้มสีแดงบนโต๊ะก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

     

                “พวกพี่ขี้โกง”

     

                “มาทานเค้กกันเร็ววววว” เป็นรยออุคที่พูดขึ้นเสียงร่าเริงก่อนจะฉุดกระชากคนที่ยืนเอ๋ออยู่กลางห้องให้เดินเข้าไปใบครัวด้วยกันและตามมาด้วยฮีชอลและอีทึกที่เดินไล่หลังมา

     

                กลิ่นเค้กที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมทำให้คยูฮยอนรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ยอมรับว่าแอบหงุดหงิดที่โดนมัดมือชกแบบนี้ เขาไม่ชอบการถูกบังคับ เกลียดที่สุดเพราะมันทำให้รู้สึกอึดอัดมากกว่าตอนกินบุฟเฟ่ต์พิซซ่าที่ฝรั่งเศสอีก ร่างอวบยอมนั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทานอาหารแต่โดยดี มองไปรอบ ๆ ก็พบกับครัวที่สะอาดสะอ้านดี แถมยังดูหรูกว่าครัวทั่วไปด้วยซ้ำเพราะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ครบครัน แต่สิ่งที่ไม่จำเป็นคือโคมไฟระย้าบนหัว ไม่รู้จะมีไปทำส้นตึกอัลไล

     

                “นี่เรายังอยู่ในโรงเรียนกันใช่ป่ะพี่”

     

                “น้องเห็นประตูไปที่ไหนก็ได้หรือเปล่าล่ะ” ฮีชอลที่กำลังตัดเค้กใส่จานตอบมาพร้อมขำออกมาเล็กน้อย

     

                “เห็นดิ นั่นไง” ว่าพลางชี้ไปทางประตูทางเข้าที่เขาเดินเข้ามา

     

                “กวนตีน” ร่างเพรียวเดินมาวางเค้กตรงหน้าเขาก่อนจะเดินไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม “เข้าใจว่าพวกพี่มัดมือชกน้องแบบนี้มันไม่ดี แต่สงสารพวกพี่เถอะ เรายังไม่อยากปิดชมรมกัน”

     

                “แล้วทำไมพวกพี่ไม่ไปประกาศรับสมัครล่ะ”

     

                “พวกเรามีศักดิ์ศรีกันพอ ไม่ไปก้มหัวให้ใครมาเข้าชมรมของเราหรอก”

     

                อ่าวมึง แต่เมื่อกี้มึงทำแบบนั้นกับกูครับพี่ฮีชอล

     

                “อีกอย่างชมรมนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ใครเข้า คนภายนอกก็คงมองว่าห้องชมรมเรามันเก่าไม่เหมาะจะเป็นชมรมทำอาหารล่ะมั้ง”

     

                “แล้วทำไมพวกพี่ไม่ทำอะไรสักอย่างกับมันล่ะ”

     

                “แบบนี้มันก็ดูขลังดีไม่ใช่หรือไง เหมือนที่เค้าบอกว่าอย่ามองคนที่เปลือกนอกนั่นแหละ”

     

                แถวบ้านเรียกแถ

     

                “แล้วทำไมผมถึงเข้ามาได้ล่ะ”

     

                “พรมลิขิตมั้ง”

     

                “บอกเหตุผลจริง ๆ มาเหอะพี่”

     

                “พี่ลืมล็อคห้องชมรมเองแหละ”    

     

                กูว่าแล้ว

     

                “เอาน่าอยู่ชมรมเราสบายจะตายถ้าน้องไม่ชอบทำอาหารจะกินอย่างเดียวก็ได้ อาจจะต้องมีผลงานอย่างการออกบู๊ทวันกิจกรรมโรงเรียนหรืออะไรก็ว่าไป แต่มันไม่ได้หนักหนามากนักหรอก”

     

                “ผมปฎิเสธทันหรือยังไงพี่ส่งชื่อผมไปแล้วนี่” ว่าพลางเบ้ปากและตักเค้กเข้าปาก เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าโดนเอามือไปทาบกับหมึกและปั้มลงกระดาษตอนไหน ต้องเป็นเพราะมัวแต่มองหน้าไปพี่หกห่อที่เป็นตัวล่อแน่ ๆ

     

                ร้ายกาจ (ทำเสียงเหมือนรอนวิสลีย์)

     

                “ว่าแต่น้องรู้จักซีวอนด้วยหรอ” นั่นไง...เขาถามมาแล้วครับ นั่นทำให้คยูฮยอนชะงักการตักเค้กก้อนที่สองเข้าปากทันที

     

                เอาไงดีคยู จะให้ตอบว่าแรดจนไปทำหน้าแตกให้เขาอยากประทับตีนมากกว่าประทับใจแถมยังไปเล่นแม่พี่เขาอีกเท่านั้นไม่พอยังไปเอาชื่อญาติใครก็ไม่รู้มาอ้างเป็นญาติตัวเองอีก โอ๊ยยยย คิดแล้วก็อายจนอยากเขมือบเค้กสองปอร์นนี่ให้หมดสิ้น ฮื่ออออ อายโว้ยยย

     

                “อ่าว แค่ถามเองทำไมหน้าแดง”

     

                “ไม่ได้รู้จักอะไรพี่มันทั้งนั้นแหละ”

     

                “ก็ซีวอนเรียกน้องว่าน้องทาโกะ”

     

                “ไม่รู้จักโว้ยยย”

     

                “โอ๊ะหรือว่า...” ว่าแล้วพี่ฮีชอลมันก็ล้วงเอาไอโฟนเครื่องใหญ่กว่าหน้าตัวเองขึ้นมาสไลด์หาอะไรบางอย่างในนั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาสลับกับมองจอ “น้องอัพทูกูจริง ๆ ด้วย”

     

                โอ๊ยยยยฉายากูแค่ล่ะอย่างขอร้องงงง เขามีชื่อนะ นี่แม่ตั้งให้ไม่อยากทำให้แม่ผิดหวังอ่ะเข้าใจมั้ย เรียกชื่อกูสิ เรียกชื่อกูบ้างเรียกชื่อกูววววววว

     

                “นั่นมันสกรีนเสื้อผมมั้ยอ่ะ ไม่ต้องเอามาเรียกก็ได้”

     

                “มีเรื่องอยากถาม นี่ตั้งใจไว้เลยว่าถ้าเจอต้องถามให้ได้”

     

                นั่น

     

                ตั้งแต่เมื่อวานเขาก็เจอคำถามมากมายแทนความรู้สึกของพวกคนขี้เสือกต่าง ๆ นานา ทั้ง น้องคิดอะไรอยู่ถึงกล้าไปสะบัดหน้าใส่พี่สุดหล่อเขาแบบนั้นหรอคะ ?หรือ ต้องได้ยินตอนน้องเขาทำเป็นโทรหาญาติค่ะ บอกเลยว่าเจ๊ค่อนข้างกลัวตุ๊ดเด็กสมัยนี้ตอนนั้นคยูฮยอนแทบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วด่าลั่นว่าตุ๊ดพ่องงง นั่นทำให้คยูฮยอนแบล็กลิสคนพวกนั้นไว้ในหัวเรียบร้อย บอกเลยว่าถ้าถึงทีเขาเมื่อไหร่จะเล่นมันให้หนักและคิดว่าพี่ฮีชอลแม่งอาจจะเป็นรายต่อไป

     

                “น้องซื้อเสื้อตัวนั้นที่ไหนหรอ พี่อยากได้อ่ะ”

     

                โอเค... เขาจะละเว้นพี่ฮีชอลไว้สักคนรึกัน

     

     

    .

    .

     

     

     

               

                “ผมกลับก่อนนะครับ”

     

                “กลับบ้านดี ๆ ล่ะอย่าไปกลิ้งทับใครเขาน้า”

     

                ไอห่าพี่ทึก

     

                “ไปละครับ” บอกลาก่อนจะปิดห้องชมรมไม่วายไขกุญแจล็อคให้ด้วย ร่างอวบยัดกุญแจสีทองลงในกระเป๋าเสื้อสูทรของโรงเรียนและเดินไปตามทางเรื่อย ๆ ตอนนี้มันก็เย็นมากแล้วเด็กนักเรียนก็เริ่มทยอยกลับบ้านกันแล้วเหมือนกัน

     

                หลังจากกินเค้กช็อกโกแลตไปเกือบครึ่งคยูฮยอนก็โดนรยออุคลากไปชิมพุดดิ้งฝีมือเจ้าตัวซึ่งมันโคตรจะอร่อยไปหลายถ้วยนั่งเล่นได้สัดพักอีทึกก็ยกพิซซ่าออกมาจากครัวให้นั่งล้อมวงกินกันหน้าทีวีนั่นก็ฟาดไปอีกเกือบครึ่งถาด ดูเหมือนพี่ ๆ จะชื่นชอบที่ได้ฟังคำชมจากเขาพร้อมอาหารที่เต็มปาก แต่มันก็อร่อยจริง ๆ แสดงว่าที่ไอพี่หกห่อนั่นโม้ไว้นั่นคือเรื่องจริง คือมันเลอค่ามันอร่อยจนน้ำตาจะไหล

     

                และจากที่ซักประวัติสมาชิกในชมรมได้แล้วก็ได้ความว่าเขาคือน้องเล็กสุด แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งสำคัญคือคนในชมรมเขานั้น...ไม่ใช่แค่พวกบ้าชอบทำอาหารไปวัน ๆ นะครับ...

     

                พี่ฮีชอลและพี่อีทึกอยู่ปีสามมีแพลนจะไปศึกษาต่อที่ออสเตรเลียเกี่ยวกับด้านอาหารโดยเฉพาะด้วยกัน ที่บ้านค่อนข้างมีฐานะพอสมควรเพราะรู้สึกว่าจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างร่วมกันอยู่ ส่วนรยออุค รายนั้นอยู่ปีสองความฝันคืออยากเป็นเชฟที่ฝรั่งเศสและที่บ้านสนับสนุนเต็มที่(คยูฮยอนนึกว่าแค่ดราม่าเล่น ๆ เสียอีก)รู้สึกว่าที่บ้านจะเปิดร้านขนมที่เป็นที่นิยมพอสมควรเหมือนคยูฮยอนจะเคยได้ยินมาว่าร้านนั้นมันแพงมากเลยด้วย

     

                ส่วนคนสุดท้ายไปพี่หกห่ออยู่ปีสาม... ไม่ต้องเล่าคยูฮยอนก็รู้ว่าที่บ้านทำธุรกิจอะไร ทายาทร้านทาโกะยากิที่ดังไปทั่วโลกและมีสาขาใหญ่อยู่ที่ญี่ปุ่น ตอนนี้ดูเหมือนกำลังเวียนไปจำหน่ายแต่ละประเทศเหมือนศิลปินเวิล์ดทัวร์เพราะเหมือนจะมีสาขาย่อยแค่ไม่กี่ประเทศเท่านั้น

     

                ส่วนคยูฮยอนน่ะหรอครับ ที่บ้านทำสวนผลไม้ก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก แค่ห้าร้อยกว่าไร่แค่นั้นเอง เฮาะ

     

                คยูฮยอนไหว้ครูหน้าโรงเรียนก่อนจะเดินไปตามทางเรื่อย ๆ เพื่อไปยังรถไฟฟ้าบีทีอยู่ไม่ไกล มองไปข้างทางก็พบกับร้านอาหารมากมายโอ้โหเห็นแล้วอยากจะกระโจนเข้าไปนั่งกินทีละร้าน เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวรู้เรื่องเลย เพราะวันนี้ลืมเอากระเป๋าตังค์มาวันนี้เลยเหลือเงินแค่พอกลับบ้าน รอพี่ก่อนนะน้องไว้พี่มีตังค์พี่จะมาตระเวนกินให้ครบทุกร้าน

     

                ปั่ก

     

                และเพราะมัวแต่มองร้ายอาหารด้วยความสิเหน่หาเลยไปชนใครเข้าให้ไม่รู้ดังปั่กจนล้ม ไม่ใช่คยูฮยอนหรอกนะ คนที่โดนเขาชนต่างหาก

     

                “หูย ทำไมชนแรงแบบนี้ล่ะน้องทาโกะ”

     

    (())

    ....

    ....

    มึงอีกแล้วหรออออออออออ

     

     

                นี่อุตส่าห์ดีใจที่อีกคนไปส่งรายชื่อแล้วหายต๋อมไปเลยไหงมาเดินชนจนล้มแบบนี้ได้ล่ะ คยูฮยอนมองอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในเสื้อนักเรียนเหมือนเมื่อหลายชั่วโมงก่อนแต่หากอยู่ในชุดบาสตัวโคร่งสะพายกระเป๋าใบใหญ่ แขนที่เต็มไปด้วยเหงื่อทำให้คยูฮยอนเห็นกล้ามแขนได้อย่างชัดเจน ไหนจะผมของอีกฝ่ายที่ยุ่งไม่เป็นทรงนั่นอีกละ หูยยยย

     

                *สูดยาดม*

     

                “พี่นั่นแหละ นึกว่ากลับบ้านไปแล้วซะอีก”

     

                “รอพี่อยู่งั้นดิ”

     

                “ไม่ใช่โว้ยยยยยย”

     

                “อ่าวหรอ เห็นทำหน้าฟินก็นึกว่ารอให้พี่ไปป้อนเค้กอยู่” ซีวอนที่ลุกขึ้นมาหลังจากก้มจ้ำเบ้าไปกับพื้นเมื่อกี้ มือปัด ๆ ฝุ่นที่เลอะกางเกงตัวเองออกเบา ๆ และมองหน้าคยูฮยอนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนทุกที

     

                “กินเองได้เหอะ”

     

                “ก็เห็นตอนนั้นมองกล้องหน้าเป็นไมค์พี่ก็นึกว่าเราจะเห็นช้อนเป็น...”

     

                “โอ๊ยยยยทำไมพี่ต้องขุดคุ้ยด้วยอ่ะ ยึดติดกับอดีตมันไม่ดีนะพี่ไม่รู้หรอ” พูดขัดขึ้นมาเสียงดังก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ประชดประชันอะไรเขาไปมากกว่านี้ ทำไว้เลยไอพี่หกห่อ อย่าให้เผลอคยูฮยอนลงกลิ้งทับให้ไอที่นูน ๆ อยู่นั่นยุบลงให้ได้

     

                คิดอะไร หมายถึงซิกแพคโว้ยยยย

     

                “โอเค ๆ พี่ขอโทษพอใจยังครับน้องทาโกะ”

     

                “จะพอใจกว่านี้ถ้าพี่เลิกเรียกชื่อผมแบบนั้นสักที” เบ้ปากใส่พลางจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง “หลบไปเลยผมจะกลับบ้านแล้ว”

     

                “ก็ไปสิทางเดินตั้งกว้าง พี่ไม่ได้ขวางทางเราสักหน่อย”

     

                แม่งงงงง

     

                คนที่อ้วนไม่พอยังขี้หงุดหงิดอีกต่างหากเดินฟิดฟัดผ่านคนตัวสูงกว่ามา หึ๋ย หงุดหงิดอย่างน้อยก็อย่าทำหน้าตายิ้มแย้มเหมือนอยู่เหนื่อกว่าตลอดเวลาแบบนั้นได้ไหมเล่า เจ็ท คยูฮยอนหงุดหงิด อยากกลิ้ง อยากกิน ฮื่อออออ

     

                หมับ

     

                “โกรธพี่หรอ ?” เดินผ่านไปได้ไม่กี่ก้าวก็โดนคว้าข้อมือเอาไว้ คยูฮยอนหันมาตวัดสายตาใส่หมือนแมวโกรธทำเอาร่างสูงยิ้มร่า

     

                “เออโกรธ พี่นิสัยไม่ดี”

     

                “อะไรที่บอกว่าพี่นิสัยไม่ดี ?”

     

                “พี่ล้อผม พี่ไม่ยอมเรียกชื่อผม”

     

                “อ้อ ไม่ชอบให้เรียกว่าน้องทาโกะว่างั้น”

     

                “เออ”

     

                “งั้น... น้องคยูครับ”

     

                “...”

     

                “น้องคยูหายโกรธพี่ซีวอนนะ เดี๋ยวพาไปเลี้ยงบิงซู ตกลงนะครับ”

     

     

    .

    .

     

     

                ไม่เข้าใจ

     

                ไม่เข้าใจว่าไอน้ำแข็งไสหน้ามะม่วงสีเหลืองอ๋อยนี่มันมีอะไรดีถึงราคาเกือบสามร้อย !

     

                ตอนนี้คยูฮยอนกำลังนั่งอยู่ในร้านน้ำแข็งไสหรือบิงซูนั่นแหละ ในย่านดังของเมืองที่แสนวุ่นวาย ดวงตากลมจ้องไปที่เข้าน้ำแข็งไสถ้วยยักษ์ที่มีมะม่วงปะบนหน้ามันเป็นชิ้นหลงสี่เหลี่ยมด้านบนเป็นไอติมรสมะม่วงหนึ่งลูกพร้อมกับชีสเป็นก้อนที่ปะปนกับเนื้อมะม่วงอีกประมาณห้าหกชิ้นได้

     

                “กินสิ อุตส่าห์พามาเลี้ยงขอโทษเลยนะน้องคยู~

     

                “ผมเกลียดพี่อ่ะ” เบ้ปากใส่อีกฝ่ายแต่ก็ยอมหยิบช้อนมาโดยดี

     

                ตอนนี้เขานั่งอยู่ที่ชั้นสองของร้าน โชคดีที่ได้นั่งร้านติดหน้าต่างเลยทำให้เห็นวิวยามเย็นของย่านดังที่ยังมีผู้คนเดินกันพล่านเต็มไปหมด ส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กนักเรียนที่เรียนอยู่แถมนี้กับวัยรุ่นวัยต่าง ๆ ยันผู้ใหญ่ ในร้านก็ใช่ว่าจะจะต่างจากข้างนอก ก่อนเข้ามาเขาเห็นคนยืนรอหน้าร้านตั้งเยอะ สงสัยเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงเดินเข้ามาได้ง่าย ๆ  โดยไม่ต้องต่อคิว แต่ก็ได้รับคำตอบจากคนข้าง ๆ ว่า

     

                นี่ร้านของอาพี่น่ะ

     

                เอาเถอะพี่มึง รวยให้พอ หมั่นไส้เว่ยยยย

     

                ตักมะม่วงพร้อมเกล็ดน้ำแข็งสีขาวเข้าปากพร้อมเคี้ยวตุ้ย ๆ จนแก้มอูม จริง ๆ ก็ยังอิ่มจากที่กินมาที่ชมรมอยู่หรอก แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าอยากมากินร้านนี้นานแล้ว ถึงกับชวนฮยอกแจแต่รายนั้นตอนนี้โดนสั่งลดน้ำหนักอยู่เพราะต้องเตรียมแข่งอยากบอกโค้ชมันเหมือนกันว่าแค่นี้ก็แทบจะเป็นไม้เสียบผีอยู่แล้วยังจะให้มันลดอะไรอีก เอากระดูกออกไปเลยมั้ยจะได้เบาสบายเหมือนผ้าอนามัยรอริเอะ

     

                “อร่อยมั้ย” คนตรงข้ามถามมาในจังหวะที่คยูฮยอนตักไอติมมะม่วงเข้าปาก อื้อหืออออ มันเข้มข้นมาก ฟินชิบหาย

     

                “อื้อ” ตอบอะไรไม่ได้มากเพราะเคี้ยวเต็มปาก ถึงน้ำแข็งจะจืดไปหน่อยแต่เพราะอย่างนั้นเขาถึงให้มะม่วงมาเยอะแยะหรือเพราะพี่ซีวอนมันเป็นหลานเจ้าของร้านอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาตักน้ำแข็งคำมะม่วงคำเข้าปากไม่หยุด จนไม่ได้สังเกตว่าคนตรงข้ามหยุดกินไปตั้งแต่เมื่อไหร่

     

                ซีวอนนั่งมองรุ่นน้องที่ห่างกันสองปีที่ตักบิงซูเข้าปากอย่างดูน่าอร่อย เลยไม่อยากจะไปแย่งกินกลัวเด็กมันไม่อิ่ม เด็กอ้วนที่ตอนนี้กินเลอะเทอะจนปากเลอะไอศกรีมถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัวหรอก ตักเอา ๆ เข้าปากไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

     

                “กินเลอะเทอะ”

     

                “จริง ? ตรงไหนอ่ะ” คยูฮยอนวางช้อนเมื่อเขาทัก และหยิบทิชชู่ของทางร้านเช็ดไปทั่วปากแต่มันก็ไม่โดนจุดที่มันเลอะสักที ซีวอนส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะส่งสัญญาณให้คยูฮยอนหยุด และส่งทิชชู่ไปเช็ดให้แทน

     

                “อ่ะ กินต่อได้แล้ว”

     

                “เช็ดเองก็ได้อ่ะ” เจ้าเด็กอ้วนบ่นอะไรขมิบขมิบก่อนจะก้มหน้าก้มตากินต่อ

     

                ที่นี่เป็นร้านของอาเขาซีวอนกินมาหมดแล้วทุกเมนู จริง ๆ วันนี้ก็ตั้งใจจะเข้ามากินแก้ร้อนเพราะไปเล่นบาสให้พวกชมรมบาสมาจนเหนื่อย แต่ก็ดันเจอเด็กอ้วนที่สะพายกระเป๋าเหมือนเมื่อวันที่ไปซื้อทาโกะที่ร้านของบ้านเขาไม่มีผิด พวงกุญแจหมูสีชมพูนั่นเป็นตัวยืนยันได้อย่างดี ซึ่งซีวอนก็มองว่ามันน่ารักและเข้ากับเจ้าตัวดี

     

                เจ้าเด็กนี่ตลก... ซีวอนรู้สึกติดใจตั้งแต่ที่เจ้าเด็กนั่นแสร้งว่ามีคนโทรมาแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำแบบนั้นทำไมแต่พอเห็นสีหน้าที่แดงหน่อย ๆ นั่นมันทำให้เขาพอเดาได้

     

                เพราะวันนั้นอากาศร้อนมากและในเต็นท์ไม่มีแอร์ เขาที่ถูกเรียกมาเป็นผู้ชายลุงทาเคชิที่เป็นเชพประจำร้านซีวอนที่นอนเปื่อยอยู่ในเต๊นท์นั่งอ่านทามไลน์ทวิตเตอร์ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่มาซื้อรู้ได้ยังไงว่าเขาจะมาที่ร้านวันนี้ มีบางครั้งที่เขาเดินทางไปต่างประเทศเพื่อช่วยลุงทาเคชิทำบ้างจริง ๆ ก็ไปเที่ยวด้วยล่ะ ลูกมือลุงแกมีเยอะแยะจะตาย

     

                ซีวอนตัดสินใจคว้าเอาผ้ากันเปื้อนผืนเดียวมาสวม เพราะอากาศร้อนมากเสื้อเชิร์ตที่พาดอยู่ที่เก้าอี้จึงถูกลืมไปเลย เอาเถอะ ยังไงเขาก็ยังมีผ้ากันเปื้อนปิดบังคงไม่โดนหาว่าเป็นพวกวิกลจริตไม่ใส่เสื้อผ้าหรอกมั้ง คิดแบบนั้นก็เดินออกมาตามเสียงเรียกของพี่แก้ว ก็เจอกับเด็กตัวอ้วนที่กำลังยืนกดโทรศัพท์รอทาโกะอยู่ทั้งคิ้วขมวดเป็นปมแต่พอเงยหน้ามามองเขาเท่านั้นแหละ ตาโตยิ่งกว่าไข่ห่านเสียอีก

     

                แหละสถานการณ์ต่อจากนั้นก็เป็นความประทับใจแรกของเขากับน้องทาโกะ คิดไว้เหมือนกันว่าถ้าได้เจอกันอีกก็คงดีไม่น้อย

     

                และมันก็เป็นจริง เมื่อฟ้าส่งน้องเขามายืนตัวเป็น ๆ ถึงในห้องชมรมของเขา

     

                แก้มกลม ๆ นั่นเวลาโกรธน่ะ น่าหยิกชะมัด

     

                “พี่ยิ้มอะไรอ่ะ โรคจิตป่ะ” คยูฮยอนถามอีกฝ่ายที่อยู่ ๆ ก็นั่งยิ้มออกมาตาลอย ๆ  ตอนนี้เขาได้ฟาดบิงซูถ้วยยักษ์จะหมดแล้วและกำลังคิดจะสั่งอีกถ้วยในรสที่ต่างกัน

     

                “อ่า...โทษที จะกินอีกหรือเปล่า”

     

                “อื้อ”

     

                “งั้นเดี๋ยวสักพักพี่ไปสั่งให้”

     

                “แล้วพี่ไม่กินหรอ เล่นบาสมาเหนื่อย ๆ ไม่ใช่หรือไง” คยูฮยอนถามซีวอนที่นั่งมองเขากินเงียบ ๆ จนเขากินหมดไปถ้วยนึงแล้ว เขาก็จำได้ว่าซีวอนกินไปแค่สามคำเท่านั้น

     

                “อ้อ พอดีแขนเจ็บน่ะ”

     

                “ห้ะ”

     

                “เล่นบาสแล้วกระแทกนิดหน่อย”

     

                คยูฮยอนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินอย่างนั้น ชิบหาย... ถ้างั้นตอนเขาชนมันไม่ยิ่งปวดเข้าไปใหญ่หรอว่ะ สายตากลมส่งไปมองทางมือขวาของอีกฝ่ายที่วางนิ่งอยู่ที่โต๊ะ ไม่มีร่างรอยบาดเจ็บเลยสักนิด แต่มันอาจจะเป็นที่ข้างในก็ได้ใครจะรู้

     

                “ทายายังอ่ะ”

     

                “เรียบร้อยแล้ว”

     

                ขมวดคิ้วเข้าไปอีก ทำไมเขาไม่ได้กลิ่นยาว่ะ ปกติพวกยานวดกลิ่นมันจะแรงมากไม่ใช่หรือ

     

                อืม... มันอาจจะเป็นแบบไม่มีกลิ่นก็ได้

     

                ร่างอวบหยิบช้อนขึ้นมาอีกครั้งและมองบิงซูในถ้วยที่เหลืออีกไม่เยอะมากนัก ตอนนี้ไอพี่หกห่อมันหยิบโทรศัพท์มานั่งเล่นแล้ว ร่างอวบเม้มปากกับความคิดตัวเอง เอาไงดีว่ะ นี่เขาก็อุตส่าห์พามาเลี้ยงทั้งที่คยูฮยอนเป็นฝ่ายไปชนอีกฝ่ายจนล้ม

     

                โอ๊ยยยยยเอาไงดีเอาไงดี

     

                มือที่ถือช้อนอยู่ตักบิงซูที่ละลายไปนิดหน่อยแล้วขึ้นมาก่อนจะนิ่งอยู่กลางอากาศสักพักและตัดสินใจ... ส่งมันไปให้คนตรงหน้า

     

                “อ่ะ” คยูฮยอนส่งเสียงให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ และมันได้ผล ซีวอนเงยหน้าขึ้นมาพร้อมขมวดคิ้วสงสัย “กินดิ”

     

                “หือ เราจะป้อนพี่หรอ”

     

                “ผมเอามันเทใส่หัวพี่อยู่มั้ง”

     

                “กวน”

     

                “งั้นก็ไม่ต้องกินแล้ว”

     

                “เห๊ย ล้อเล่น กินดิกิน” ไม่ให้คยูฮยอนชักมือกลับร่างสูงรีบยื่นหน้ามางับเอาน้ำแข็งและมะม่วงเข้าปากทันทีก่อนจะเคี้ยวพร้อมยิ้มตุ้ย ๆ ทำให้คนป้อนเบ้ปาก หึ๋ยยยย

     

                คนอย่างคยูฮยอนไม่เคยแบ่งของกินให้ใครเลยนะ บอกจากป๊าม๊าและไอหมู(หมา)ที่บ้านน่ะ

     

                ดีใจซะไอพี่หกห่อ

     

                “เอาชีสด้วยดิ”

     

                “ผมป้อนแล้วพี่ยังจะเรื่องมากอีกหรอ” บ่นไปอย่างนั้นแต่ก็เขี่ย ๆ หาก้อนชีสให้อีกฝ่ายพร้อมกับมะม่วงชิ้นโตตามคำเรียกร้อง ซีวอนอ้าปากกว้างก่อนจะงับเอาน้ำแข็งไสในช้องเข้าปากไปทั้งยิ้มตาปิด คยูฮยอนเกลียดรอยยิ้มนี้ มันกำลังทำเขาเป็นบ้า กรี๊ด

     

                “ทำไมถึงป้อนล่ะ”

     

                “ก็เห็นบอกเจ็บมือ”

     

                “เป็นห่วงหรอ ?”

     

                “...”

     

                “แหนะ หน้าแดงด้วยอ่ะ”

     

                โว้ยยยยยยยยยยยยยยยย

     

                คยูฮยอนโยนกระดาษทิชชู่แผ่นหนาของร้านใส่หน้าไอพี่หกห่อทันที รู้ตัวอยู่หรอกว่าตอนนี้ตัวเองหน้าร้อนเห่อแค่ไหน แต่มึงไม่ต้องพูดก็ได้พี่ซีวอน แค่นี้ก็จะระเบิดไขมันกลางร้านแล้วเว่ยยย ซึ่งซีวอนก็ไม่ได้โกรธเลยสักนิดที่โดนคนอายุน้อยกว่าปาทิชชู่(ใช้แล้ว)ใส่ แต่กลับหัวเราะร่าอีกต่างหาก

     

                “กินเองเลย” วางช้อนลงก่อนจะกอดอกและหันหน้าหนีไปมองวิวนอกกระจก ท่าทางที่สะดิ้งเสียจนหมั่นไส้ตัวเอง หึ๋ย คนมันเขินเข้าใจมั้ยยยย

     

                “โหยอะไรอ่ะ นี่เจ็บมืออยู่นะ แถมเมื่อกี้นายก็ชนพี่จนล้มเลยด้วย”

     

                นั่นเกิดการขุดคุ้ยขึ้นอีกแล้ว

     

                “เนี่ยพี่เจ็บมือมากเลย”

     

                “...”

     

                “จับช้อนทีไรแล้วมันรู้สึกจี๊ด ๆ ทุกที...”

     

                “...”

     

                “ป้อนพี่ซีวอนหน่อยสิครับน้องคยู”

     

                เกลียดมันนนนนนนนนนน

     

                คยูฮยอนเม้มปากเน้น สุดท้ายก็แพ้รอยยิ้มหล่อ ๆ กับดวงตาปริบ ๆ นั่นที่อ้อนเสียเหลือเกิน พี่ซีวอนมึงคิดว่าตัวเองเป็นแมวหรอ บอกเลยขนาดหมาที่บ้านคยูฮยอนยังโยนตับไก่ให้มันกินเลย ไม่มีอ่ะมาป้งมาป้อน บ่นในใจไปแบบนั้นแต่สุดท้ายก็หยิบช้อนขึ้นมาและตักบิงซูไปจ่อปากอีกฝ่ายตามคำเรียกร้อง

     

                “พี่แม่งนิสัยไม่ได้จริง ๆ ด้วย”

     

                บ่นอุบอิบก่อนจะตักอีกคำเข้าปากตัวเองด้วยความหงุดหงิด

     

                ครับ...ก็อย่างที่คยูฮยอนว่า ซีวอนนิสัยไม่ดี

     

                อย่าบอกน้องนะครับว่าวันนี้ผมชนะบาสโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ  :)

     

     


    TBC

    วร๊ายกาจจจจจจจจจจ

    กลับมาต่อด้วยใจรัก เรื่องหลักรอก่อนนาจา

    ช่วงนี้สอบสอบสอบและก็สอบจะเข้าที่ไหนก็ยังไม่รู้ ไร้อนาคตสุด ๆ

    ขี้เกียจจุงเงยยยยยยยย

    มีแท็กดีม่ะ อยากส่องอ่ะปกติอีนี่ก็ส่งนะแต่ไม่ค่อยเข้าไปเล่นเท่าไหร่5555555

     #น้องทาโกะ



    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×