ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC WONKYU] ALEATORY LOVE┃Ft.DONGHAE

    ลำดับตอนที่ #5 : ►Lesson 4 :: เขาขี้แกล้ง -100%-

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 58


    .


    Lesson 4

    :: เขาขี้แกล้ง

     



                สิ่งที่เราชอบมันโดยไม่รู้ตัว

                มักจะมีค่ามากกว่าสิ่งที่รู้ตัวว่าชอบเสมอ...

     

     

                ป๊อก !

     

                “...ฮื่ออออ ดีดเราทำไม”

     

                “แล้วเหม่อทำไม รีบคนสิ”

     

                “แต่เราไม่อยากกินอันนี้”

     

                “แต่เราอยากสอนอันนี้”

     

                “แต่เราเป็นคนเรียน”

     

                “แต่เราเป็นคนสอน”

     

                “แต่เรา...”

     

                “และนี่ก็บ้านเรา ครัวเรา อุปกรณ์เรา ความพอใจของเรา มีอะไรจะเถียงอีกมั้ยครับคุณนักเรียน”

     

                คนแพ้ได้แต่งับปากแล้วคนสิ่งที่อยู่ในมือต่อไป... จำไว้เลยนะ ถึงตาคยูฮยอนสอนบ้างล่ะเขาจะแกล้งซีวอนคืนบ้าง

     

                คยูฮยอนอยากทำเค้กไม่ใช่บราวน์นี่ !!!

     

                ร่างโปร่งเบ้ปากใส่เนื้อแป้งที่ตอนนี้มันทั้งข้นทั้งเหลวอยู่ในชามพลาสติกสีเขียวขนาดกลาง มือใหม่หัดตีกำลังกล้ามขึ้นกับการพยายามตีเนื้อให้มันเข้ากันมากที่สุด เพราะคุณครูของเขาไม่บอกอะไรสักอย่างนอกจากบอกให้ตี

     

                คยูฮยอนอยากตีเซ็นเซย์แทนละอ่ะ [*เซ็นเซย์(ภาษาญี่ปุ่น) = คุณครู]

     

                หลังจากตกลงกันได้อย่างสมานฉันท์ คยูฮยอนตอบตกลงจะเป็นครูสอนเคมีให้ในขณะที่ซีวอนจะเป็นครูสอนทำเค้ก แน่นอนพวกเขาแลกเบอร์กันไว้เป็นบารมีเครื่องสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว คุยกันไปมาก็ได้ข้อตกลงว่าเจอกันวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ที่ร้านเบเกอร์รี่ของซีวอน

     

                คยูฮยอนตื่นเต้นดีใจว่าจะได้ทำเค้กช็อกโกแลตที่อีทงเฮโปรดปรานอาจจะมีพ่วงมาด้วยเค้กส้มที่ตัวเองชอบนักหนา ถ้าซีวอนใจดีหน่อยก็อาจจะให้ของแถมเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นเอแคลร์สักกล่อง

     

                แต่นี่มันไม่ใช่อ่ะซาร่า บราวน์นี่คยูฮยอนก็ชอบกินนะ แต่คยูฮยอนไม่อยากทำอ่ะอยากกินอย่างเดียว T_____T

     

                “ใช้ได้ยังอ่ะ”

     

                “ยัง คนต่อไปอย่าหยุด”

     

                “แต่เราเมื่อย”

     

                “ถ้ายังอยากทำเค้กก็อดทนนะครับ” นั่น... ยังมายิ้มพราวอีก ดูก็รู้ว่าตอนนี้ชเวซีวอนกำลังกวนโอ๊ยเขาอยู่อ่ะ

     

                ผู้ชายสองคนส่วนสูงไล่เลี่ยกันส่วนผ้ากันเปื้อนสีสดใสยืนตีแป้งกันอยู่ในครัว มันอาจจะเป็นภาพที่ดูน่ารักน่าชังคนมองมาอาจจะคิดแบบ ว๊าย แกดูสิผู้ชายทำขนมอ่ะ น่ารักกกแต่ไม่ใช่สภาพคยูฮยอนตอนนี้คือแป้งเต็มหัว(เพราะครูแกล้ง)มีหนวดสามหนวดอยู่บนใบหน้าทั้งสองข้าง(คุณครูแกล้งอีก)แถมหน้าม้ายังถูกมักเป็นน้ำพุเหมือนเด็กปัญญาอ่อน(อันนี้มัดเองแม่งเข้าตา)

     

                “เป็นไงจ้ะหนุ่ม ๆ ไหวมั้ยคะน้องคยู”

     

                “ไม่ไหวแล้วครับพี่จียอน เมื่อยอ่ะ”

     

                “ทำครั้งแรกก็แบบนี้แหละ ซีวอนก็จริง ๆ เลยทำไมไม่ช่วยเพื่อนล่ะ อีกอย่างเครื่องตีแป้งเราก็มี” ขวับ !!!

     

                คยูฮยอนหยุดตีแป้งในมือแล้วหันขวับไปหาคนตัวสูงกว่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันที ถึงว่าทำไมร้านเบเกอร์รี่ใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่มีเครื่องตีไข่ตีแป้งเขาใช้กำลังแขนจัดการพวกมันงั้นหรอ ? แค่คิดแบบนั้นคยูฮยอนก็คิดแล้วว่ากล้ามของคนที่นี่ต้องใหญ่มากแน่ ๆ

     

                เขาโดนซีวอนแกล้งอีกแล้วสินะ

     

                “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ตีเองมันดีกว่านะ”

     

                “ยังไง”

     

                “ได้ออกกำลังแขนไง บ่นมากจริง ๆ เลย มาเราตีต่อให้ก็ได้” ไม่พูดเปล่าชามบนโต๊ะที่มีไม้ตีแป้งถูกซีวอนหยิบไปแล้วตีมันอย่างคล่องแคล่วจนคยูฮยอนได้แต่มองอย่างอึ้ง  ๆ

     

                ได้ไงอ่ะ ทำไมดูสบาย ๆ แบบนั้น คยูฮยอนงัดแรงออกมาแทบตายเลยนะ

     

                “พี่ไปอยู่หน้าร้านแล้วนะ ซีวอนก็อย่าแกล้งเพื่อนมากล่ะรู้มั้ย” พี่เขาว่างั้นแต่การกระทำพี่เขามันตรงข้ามอ่ะ

     

                ก่อนจากไปมีการเอื้อมมือมาถึงน้ำพุบนหัวของเขาหนึ่งทีก่อนจะป้ายหนวดแมวเพิ่มให้อย่างหมั่นเขี้ยว อะไรกันอ่ะพี่น้องคู่นี้ ทำไมชอบแกล้งเขากันจังเลย

     

                ‘ชเว จียอนพี่สาวแท้ ๆ ของซีวอนที่รับหน้าที่เป็นพนักงานหน้าร้านอยู่บ้าน ๆ ซีวอนบอกว่าขนมหน้าร้านนั่นพี่สาวเขาตื่นขึ้นมาอบตั้งแต่ตีสี่ตีห้าส่วนอื่น ๆ ก็มีพนักงานทำขนมอยู่ที่ครัวของร้าน ส่วนที่ซีวอนกับคยูฮยอนอยู่ตอนนี้คือส่วนของครัวบ้าน

     

                คยูฮยอนเลิกสนใจคนพี่ที่เดินออกจากห้องไปด้วยเสียงหัวเราะก่อนจะหันมาสนใจซีวอนที่ตอนนี้ตีแป้งในถ้วยด้วยท่าทางสบาย ๆ เนื้อของมันเริ่มเนียนและเริ่มเป็นเนื้อเดียวกันแล้วล่ะ น่ากินสุด ๆ เหมือนช็อกโกแลตข้น ๆ เหนียว ๆ เลยอ่ะ

     

                “นี่คือเสร็จแล้วหรอ ?”

     

                “ใช่”

     

                “ทำไมง่ายจัง”

     

                “เพราะมันง่ายไงเราเลยอยากให้นายเริ่มทำมันก่อน มาเถอะ เอาไปอบกัน” ซีวอนพูดก่อนจะตี ๆ มันเร็ว ๆ ครั้งสุดแล้วและวางมันลง ก่อนจะเดินไปหยิบถาดที่มีกระดาษไขทาน้ำมันเสร็จเรียบร้อยเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้วมาวางที่โต๊ะ

     

                “เทใส่ไปเลย”

     

                “ให้เราเทหรอ ?”

     

                “ครับ คุณนั่นแหละครับคุณนักเรียน”

     

                มือเรียวเอื้อมมือไปหยิบถ้วยเนื้อแป้งของบราวน์นี่มาไว้ในมือ ก่อนจะค่อย ๆ เทมันใส่ลงในพิมพ์ เนื้อมันเหนียวข้นจนน่าเอามาทานเปล่า ๆ เสียมากกว่า ถ้าไม่ติดว่ามันมีไข่ดิบผสมอยู่มันคงจะเสร็จคยูฮยอนไปแล้ว

     

                “แล้วก็โรยไอนี่” เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถูกหยิบมาวางไว้บนโต๊ะซึ่งซีวอนก็ให้มันเป็นหน้าที่ของคยูฮยอนอีกนั่นแหละที่จะครีเอตมันเอง

     

                แอบขำออกมาหน่อย ๆ เมื่อรูปทรงของเม็ดมะม่วงพิมพานต์มันค่อนข้างงอ คยูฮยอนเลยจัดการกะสายตาในการแบ่งสัดส่วนของบราวน์นี่แต่ละชิ้นและใช้เม็ดมะม่วงแต่งหน้ามันให้เป็นรูปยิ้ม

     

                เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ

     

                “เสร็จแล้ว”

     

                “โอเค จากนั้นเอาไปอบก็ใช้ได้แล้วล่ะ” ซีวอนยิ้มให้ก่อนจะหยิบเจ้าบราวน์นี่เหลวไปเข้าเตาอบพร้อมบอกรายละเอียดในการตั้งอุณหภูมิกับเวลาให้คยูฮยอนฟังด้วย ร่างโปร่งพยักหน้าอย่างเข้าใจพลางพยายามจดจำรายละเอียดให้มากที่สุด

     

                “เราล้างจานให้นะ”

     

                “เฮ้ย ไม่เป็นระ..”

     

                “นะนะนะ เรามาใช้ครัวบ้านนายอ่ะ เดี๋ยวเราทำความสะอาดเอง” คยูฮยอนยิ้มอ้อนไปหนึ่งทีก่อนจะจากการถกเสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาลของตัวเองและเดินไปที่ซิงค์ล้างจานทันที การทำอะไรแบบนี้มันเป็นงานประจำของคนเล็กของบ้านอยู่แล้วครับ ชิล  ๆ

     

                ซีวอนไม่ได้เถียงอะไรต่อไปเมื่อเจอคยูฮยอนส่งสายตาอ้อน ๆ มาให้ ก่อนจะพยักหน้ารับโดยดีและตัวเองขอตัวไปจัดการกับสภาพตัวเองที่ตอนนี้เลอะไปด้วยผงแป้งเช่นกัน(โดนคยูฮยอนเอาคืนบ้างตอนร่อนแป้ง)ผ้ากันเปื้อนที่เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรถูกแขวนไว้ที่เดินของมันก่อนที่ร่างสูงจะขึ้นไปจัดการตัวเองบนบ้าน

     

                คนมีน้ำพุบนหัวยังคงทำหน้าที่นักเรียนที่ดีโดนการเก็บกวาดครัวไปเรื่อย ๆ จนกว่าคุณครูจะลงมา จะว่าไปบ้านของซีวอนทำได้น่าอยู่มากเลยล่ะ คยูฮยอนเพิ่งรู้ว่าหลังร้านเบเกอร์รี่ที่เขามาอุดหนุนบ่อย ๆ จะมีบ้านเดี่ยวขนาดกลางที่ถูกล้อมไปด้วยสวนเล็ก ๆ มันดูน่ารักมากสำหรับเขานะก็สงสัยอยู่ตั้งนานว่าไปช่องทางเดินเล็ก ๆ ข้างร้านนี้มันคือทางไปไหน แต่ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วล่ะว่ามันคือทางเดินไปบ้านของซีวอนน่ะเอง

     

                ถ้าถามว่าแล้วถ้ามีเวลามีรถใหญ่จะเข้ายังไงก็ต้องบอกไว้เลยว่าบ้านนี้มีทางเข้าอีกทางครับ แถมบ้านนี้เขาอยู่กันสองคน มีแค่พี่จีวอนและซีวอนเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน ส่วนคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าทำงานอยู่ต่างประเทศนาน ๆ จะกลับมาทีหรือบางทีทางนี้ก็บินไปหาพวกท่านเอง

     

                รวยอ่ะ ไว้ดึก ๆ คยูฮยอนจะย่องไปปล้น... ใช่ คยูฮยอนบอกซีวอนไปแบบนั้น แต่กลับโดนคุณครูสอนทำเค้กตอบกลับมาด้วยประโยคน่าหมั่นไส้ว่า

     

                จะมาปล้นอะไร เงินหรือลูกชายคนเล็กของบ้าน ?

     

                เท่านั้นแหละ คยูฮยอนก็ตอบกลับไปด้วยหมัดเบา ๆ ที่แขนหนึ่งทีพร้อมกับความหมั่นไส้

     

                ป๊อก

     

                “อื้อ เจ็บ!” คิดอะไรเพลิน ๆ ได้ไม่นานสัมผัสที่คุ้นเคยก็สร้างความเจ็บปวดที่หน้าผากเขาอีกแล้ว นี่เขาพลาดให้คนอื่นนอกจากอีทงเฮดีดหน้าผากกี่รอบแล้วเนี่ย

     

                “เหม่ออีกแล้ว ดูบ้างสิว่าไอที่ขัดอยู่มันใช่จานหรือเปล่า”

     

                “อ๊ะ” เมื่อโดนเตือนสติคยูฮยอนก็ก้มลงมองที่มือตัวเองทันที หว๊า...นี่เขาเหม่อจนขัดมือตัวเองเลยแทนหรอว่ะ ก็ว่าทำไมมันเจ็บ ๆ  “แสบอ่ะ”

     

                “แหงะล่ะ นายยืนเหม่ออยู่กี่นาทีแล้วล่ะ”

     

                “แล้วทำไมเพิ่งบอกเล่า”

     

                “เราอยากรู้ว่ากว่านายจะรู้ตัวมือนายจะเลือดออกก่อนหรือเปล่า” ทำการทดลองอะไรไม่สงสารเพื่อนร่วมโลกเลยจริง ๆ คยูฮยอนเบ้หน้าใส่ก่อนจะหันไปล้างจานต่อโดยไม่สนใจซีวอนที่ยืนมองโดยพิงซิงค์ล้างจานอยู่ข้าง ๆ

     

                “เอ๋อ ๆ แบบนี้จะทำเค้กรอดหรอ ?”

     

                “นายว่าใครเอ๋อ”

     

                “กุมารที่อยู่ข้าง ๆ นายน่ะ” ขวับ !! คยูฮยอนรีบหันไปข้างตัวทันทีแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า... หน่อย แกล้งเขาอีกแล้ว

     

                จริง ๆ คยูฮยอนไม่ใช่คนกลัวผีขึ้นสมองอะไรขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นเขาไม่กล้าวิ่งเข้าไปในลานจอดรถมืด ๆ เพื่อหาชเวซีวอนที่ไม่รู้อยู่ตรงส่วนไหนหรอกนะ แต่ถ้าจะให้นั่งดูหนังผีตัวเขาก็ไม่ไหวเหมือนกัน

     

                “แกล้งกันเข้าไป”

     

                “ก็ไม่คิดว่านายจะเชื่อ”

     

                “ขอโทษรึกันนะที่เป็นคนเชื่อคนง่าย”

     

                “อ่าหะ” ดูเหมือนชเวซีวอนจะดูสนุกสนานกับการต่อล้อต่อเถียงกับเขาเสียเหลือเกิน คยูฮยอนจะขอไม่สนใจอีกต่อไป คนมีน้ำพุบนหัวหันมาสนใจจานในมือต่อ คยูฮยอนอยากรีบล้างให้มันเสร็จ ๆ เขาอยากรีบจัดการกับชเวซีวอนแล้ว ย๊ากกก

     

                “นี่ หันมานี่หน่อยสิ”

     

                “ไม่ เดี๋ยวนายหลอกเราอีก”

     

                “น่านะ”

     

                “ไม่”

     

                “อ่าวสวัสดีอีทงเฮ” เหมือนเป็นปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าโดยอัตโนมัติ คยูฮยอนที่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่หวั่นไหวกับการกลั่นแกล้งของชเวซีวอนอีกก็รีบหันขวับไปทันทีพร้อมอ้าปากเตรียมจะพูดแต่หากมันก็ไม่ทันซีวอนที่ยัดอะไรบางอย่างใส่ปากเขา

     

                มันหวาน...นุ่มลิ้น... อร่อยยยย

     

                “เคี้ยวแก้มตุ๋ยเชียว อ่ะ..อย่าพูดนะไม่งั้นเราถ่ายรูปตอนนายฟันดำไปลงไอจี” อยากจะแยกเขี้ยวใส่แต่ก็ไม่สามารถทำได้ คยูฮยอนได้แต่ทำแก้มป่องเคี้ยวบราวน์นี่ในปากแก้มตุ๋ย แน่ละก็ชเวซีวอนเล่นยัดมันเข้ามาในปากเขาก้อนเบอเริ้ม “อร่อยใช่มั้ยล่ะ”

     

                หงึก ๆ ... คนเคี้ยวปากปิดทำได้แค่พยักหน้ารับก่อนจะค่อย ๆ กลืนบราวน์นี่ในปากลงคอ จะว่าไปนี่มันสุดยอดเลยต่างหาก

     

                คยูฮยอนไม่ทันสังเกตเลยว่าซีวอนเอาถาดบราวน์นี่ออกมาจากเตาตั้งแต่เมื่อไหร่อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเขามัวแต่คิดวิธีจะแก้แค้นชเวซีวอนในตอนสอนเคมีล่ะมั้ง แถมซีวอนยังตัดแบ่งมันตามที่คยูฮยอนโรยเป็นหน้ายิ้มไว้เรียบร้อยแล้วด้วย ร่างโปร่งยังเคี้ยวขนมในปากตุ้ย ๆ มองการกระทำของซีวอนที่ตอนนี้กำลังค่อย ๆ หยิบชิ้นบราวน์นี่ในถาดใส่จาน

     

                “เราเอากลับบ้านได้มั้ย”

     

                “จะเอาไปให้คุณแม่ทานหรอ”

     

                “อื้อ” ถึงลูกคนเล็กจะโดนใช้แรงงานมากแค่ไหน แต่เชื่อเถอะคนเป็นลูกเวลาได้ลงมือทำอะไรแบบนี้แล้วสิ่งแรกที่คิดเลยคืออยากให้คนใครครอบครัวได้ลองชิม

     

                “เอาสิ เดี๋ยวเราหยิบกล่องให้” คยูฮยอนยิ้มกว้างให้ซีวอนก่อนที่ร่างสูงจะเอื้อมมือขึ้นไปเปิดชั้นหยิบเอากล่องกระดาษสีขาวที่ดีไซน์เป็นรูปบ้านอย่างน่ารักหยิบมาสองสามกล่องและแบะออกให้คยูฮยอนใส่มันได้ตามใจชอบ

     

                “นายไม่กินหรอ”

     

                “เรากินมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว มันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ”

     

                “แต่อันนี้เราทำเลยนะ ไม่เหมือนกันสักหน่อย”

     

                “อ้อเหรอ คุณนักเรียนโจวคยูฮยอนทำเองจริงหรอครับ”

     

                “ง่ะ ก็...ก็ทำเองนะ !

     

                ซีวอนขำให้นักเรียนที่เถียงออกมาข้าง ๆ คู ๆ จริง ๆ คยูฮยอนก็ทำเองน่ะแหละแต่แค่มีเขาคอยบอกอยู่ข้าง ๆ แถมเตรียมส่วนผสมให้เรียบร้อยหมดแล้ว คยูฮยอนแค่จับเทและคนมันเท่านั้น แถมตอนคนก็คนไม่เสร็จด้วย บ่นเยอะไปจนซีวอนทนไม่ไหวต้องเข้ามาช่วยคนแทน

     

                “ครับ ๆ รีบใส่กล่องเร็ว เย็นมากแล้วนะ” มองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังห้องครัวก็พบว่ามันจะหกโมงอยู่แล้ว ไม่ให้มันเย็นขนาดนี้ได้ยังไงกันล่ะ ก็กว่าคุณคนเล็กจะตื่นแล้วปั่นแป๊ะยิ้มมาบ้านซีวอนน่ะก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายแล้ว

     

                “จริงด้วย ! ตายล่ะ ยังไม่ได้เก็บผ้าเลย คุณนายบ่นแหง ๆ T___T” สีหน้าจะร้องไห้นั่นมันทำให้ซีวอนนึกสงสาร

     

                เห็นเจ้าตัวบ่น ๆ ว่าตัวเองต้องอยู่บ้านคนเดียวบ่อย ๆ เพราะจริง ๆ แล้วฮีชอลเป็นนักศึกษาอยู่หอพักไม่เสาอาทิตย์ก็นาน ๆ จะกลับมาบ้านที ส่วนคุณแม่ก็ทำงานเป็นช่างเสริมสวยเปิดร้านในห้างอีกละแวกนึง คุณพ่อก็เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีดีกรีเป็นหัวหน้าแผนกกลับค่ำก็บ่อย

     

                แต่ดูเหมือนคยูฮยอนจะไม่ค่อนอิดออดเท่าไหร่กับการที่อยู่บ้านคนเดียวและต้องทำงานบ้านเองทุกอย่าง มักออกจะดีซะอีกที่เขาจะได้เล่นคอมทั้งวันอย่างสบายใจ

     

                “ไม่ไปส่งนะ”

     

                “อ่าหะ เราเอาแป๊ะยิ้มมาจะรีบปั่นติดเทอร์โบกลับบ้านเลย”

     

                “ระวังด้วย รถใหญ่มันเยอะนะ”

     

                “รู้แล้ว ว่าแต่จะไม่กินจริงหรอ ?” คยูฮยอนชูกล่องสามสี่กล่องในมือตัวเองที่จัดการใส่บราวน์นี่ทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้วด้วยสีหน้าหง่อย ๆ หน่อย ซีวอนยิ้มขำกับสีหน้าแบบนั้นก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ

     

                “ไม่ล่ะ เบื่อแล้ว”

     

                “จำไว้เลย” คยูฮยอนพูดพลางสะบัดหน้าเดินออกจากตัวบ้านมา ซึ่งก็มีซีวอนเดินตามมาส่งถึงหน้าร้านที่จำตัวจอดจักรยานชื่อแสนน่ารักว่าแป๊ะยิ้มเอาไว้ อยากจะถามเหมือนกันว่าตอนตั้งชื่อคิดอะไรอยู่

     

                “ไม่เอาจุกออกหรือไง เดี๋ยวก็โดนเด็กชวนไปเล่นตบแปะหรอก” ว่าแล้วก็ดึกจุกออกให้คนที่ขึ้นคร่อมจักรยานเตรียมออกตัวเรียบร้อยแล้วออกจากผมให้ “ขี่ระวัง ๆ ด้วยล่ะ”

     

                “รู้แล้ว...” เหมือนจะยังไม่หายงอนแหะ ซีวอนหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กโดนขัดใจแบบนั้น ก่อนจะเดินไปนั่งซ้อนท้ายคยูฮยอนจนร่างโปร่งหับขวับมามองด้วยสีหน้าบึ้งตึง

     

                “แกล้งเราอีกแล้วอ่ะ!

     

                “ก็เลิกทำหน้าแบบนั้นก่อนดิ”

     

                “หน้าแบบไหน”

     

                “แบบนี้ไง” ว่าแล้วก็จิ้มหน้าผากคนที่หันคอมาทั้งคิ้วขมวดด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

                “ลงไปเลย เราจะกลับบ้านแล้ว”

     

                “กลับได้ไง เรายังไม่ได้ชิมบราวน์นี่ของลูกศิษย์เลย” ระบายยิ้มกวน ๆ ก่อนจะยักยิ้มให้ชวนโดนต่อย ชเวซีวอนกำลังกลายเป็นผู้ชายที่คยูฮยอนจะจดจำเข้าซีรีบรัมว่าแม่งกวนตีน

     

                “ไม่ให้กิน คุณครูหมดสิทธิ์นั้นแล้ว”

     

                “มีสิทธิ์สั่งครูด้วยหรอ”

     

                “ลงไปเลย” ว่าแล้วก็ทำการส่งขาไปข้างหลังเพื่อถีบขาอีกคนอย่างไร้มารยาท แต่เหมือนซีวอนจะตลกกับท่าทางแบบนั้นเสียมากกว่า ร่างสูงยอมลงแต่โดยดีอย่างยอมแพ้  แต่ก็ยังยืนอยู่ข้างรถจักรยานของคยูฮยอนอยู่อย่างนั้น

     

                “นี่นักเรียนครับ”

     

                “จะกลับบ้านแล้ว”

     

                “กลับได้ไง ขนมยังติดหน้าอยู่เลย” พูดอย่างขำ ๆ ก่อนจะหยิบเศษบราวน์นี่ชิ้นเล็กออกจากมุมปากให้คยูฮยอน  ร่างโปร่งทำหน้าเหลอหราทันที ก่อนจะเอามือปัด ๆ หน้าตัวเองแถว ๆ มุมปากเองอย่างลืมตัว “หมดแล้วล่ะ ไม่ต้องปัดแล้ว”

     

                “ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า”

     

                “นั่นสิ ทำไมกันนะ”

     

                กวน – ตีน

     

                “ไปล่ะ” คยูฮยอนวางเท้าไว้ที่บันได ก่อนจะออกแรงปั่นออกไปช้า ๆ เพราะเวลานี้รถใหญ่เริ่มเยอะแล้วพอสมควร แต่หากเสียงที่ตะโกนไล่มาทางด้านหลังมันก็ทำให้คยูฮยอนแทบจะหน้าทิ่มกลางตลาด

     

                “บราวน์นี่อร่อยมากเลยครับนักเรียน”

     

    .

    .

    -ต่อ-

     

     

                วันศุกร์สีฟ้า...

                วันนี้คยูฮยอนอารมณ์ดี

     

                หลังจากได้รับข้อความจากที่เรียนพิเศษครูอ้วนว่าวันนี้เป็นวันหยุดพิเศษ ไม่ต้องรออ่านถึงสาเหตุคยูฮยอนก็กดล็อกหน้าจอและรัวนิ้วไลน์หาคนที่อยู่ในความคิดของเขาตอนนี้ทันที

     

                [-KYUHYUN-]

                วันนี้ไม่มีเรียน ::

              จะกลับด้วยกันมั้ย ? ::

              *สติ๊กเกอร์หมีกอดเข่า* ::

     

                ด้วยความที่ทิ้งให้มันกลับบ้านคนเดียวมากลายต่อหลายครั้งที่มีเรียน วันนี้ได้หยุดทั้งทีคยูฮยอนไม่พลาดที่จะไถ่โทษมันทันที ไม่ได้กลับบ้านกับฮยอกแจก็ตั้งนมนานแล้ว บางทีเขาก็ควรมีเวลาให้เพื่อนสนิทบ้าง

               

                [-HYUKJAE-]

                :: ไม่ได้ว่ะ วันนี้รุ่นพี่เรียกซ้อม

              :: อะไรว่ะ มึงว่างทั้งทีทำไมกูไม่ว่าง ฟัคคคค

    [-KYUHYUN-]

    เออ ไม่เป็นไร ::

    มึงรีบไปซ้อมเหอะ พ่อลีดเดอร์คนงาม ::

                [-HYUKJAE-]

              :: เลิกล้อกูเลย เซ็งจะตายห่า

              :: ไปและ

     

                คยูฮยอนขำกับเพื่อนสนิทก่อนจะกดล็อกหน้าจอและเก็บมันใส่กระเป๋า บางทีกรรมอาจจะตามสนองเขาบ้างแล้วที่ปล่อยให้มันกลับบ้านคนเดียวอยู่หลายวันและคงเป็นอย่างนี้ไปอีกนาน วันนี้เขาอาจจะต้องกลับบ้านคนเดียวบ้างแล้วล่ะ

     

                ทำไมไม่ชวนทงเฮกลับด้วยกันน่ะหรอ ?

     

                บอกแล้วไงว่าอีทงเฮมันคนของประชาชน -_-

     

                ยิ่งพี่เหล่าบรรดารุ่นพี่ที่ปลาบปลื้มอีทงเฮรู้ว่าวันนี้คนที่คยูฮยอนแอบชอบว่างงานก็รีบดึงตัวไปช่วยทำโน้นนี่ทันที แถมตอนนี้เด็กก็อยู่กันเต็มโรงเรียนไปหมด ทงเฮอปป้าสงสัยจะได้กลับบ้านดึกกว่าตอนไปเรียน วันนี้เป็นวันศุกร์เสียด้วย

     

                เพราะอีกไม่กี่วันจะเป็นวันงานเปิดโลกกิจกรรมของโรงเรียน เด็กกิจกรรมทั้งหลายแหล่เลยตั้งเร่งฝึกซ้อมกันเพื่องัดของดีมาพรีเซ้นท์ให้โรงเรียนตัวเอง แน่นอนชมรมต่าง ๆ ยุ่งกันจ้าละหวั่นเลยล่ะ

     

                แล้วทำไมคยูฮยอนถึงเดินกลับบ้านได้ชิล ๆ แบบนี้น่ะหรอ เพราะหน้าที่จัดซุ้มมันเป็นของรุ่นพี่ม.6ที่ต้องทำเป็นคะแนนเก็บน่ะ เด็กม.5อย่างอย่างพวกเขาที่เรียนหนักที่สุดในชั้นปีน่ะเดินออกโรงเรียนได้สบาย ๆ เลยล่ะ บางส่วนถ้าอยากช่วยรุ่นพี่ก็ช่วยได้ แต่คยูฮยอนมันเป็นพวกรุ่นพี่จำหน้าได้มากกว่าจำชื่อน่ะ พูดง่าย ๆ คือไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเสียเท่าไหร่ -_-

     

                แต่คยูฮยอนไม่เสียใจหรอกนะ อย่างนี้มันก็ดีออก ไม่วุ่นวายดี

     

                วันนี้โรงเรียนก็เลิกเร็วด้วยเพิ่งจะสี่โมงเอง กลับบ้านไปคยูฮยอนก็ไม่ทำอะไรของจากยื่นนิ้วตีนตัวเองไปจิ้มคอมอย่างไร้ซึ่งสมบัติผู้ดีและนั่งเล่นมันจนกว่าพ่อกับแม่จะกลับบ้าน

     

                “ไปเดินดูหนังสือหน่อยก็ดี”

     

                ติดสินใจเองได้แล้วก็มุ่งหน้าไปป้ายรถเมล์เพื่อหารถกลับบ้าน อาจจะเป็นโชคดีว่าบ้านของคยูฮยอนอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่เพียงแค่สามป้ายรถเมล์เท่านั้น เพราะงั้นไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเลยล่ะ

     

                แล้วไอหนังสือที่ว่าจะไปดูเนี่ย ไม่ใช่หนังสือเรียนหรอกนะ...

     

                คยูฮยอนไม่ใช่เด็กเรียนขนาดนั้น

     

    .

    .

     

                ร่างโปร่งในชุดนักเรียนของโรงเรียนชายล้วนติดแม่น้ำสายหลักของเมืองหลวงกำลังเดินทอดน่องรับแอร์ห้างเย็น ๆ อย่างสบายใจ เสียบหูฟังฮัมเพลงเดินไปไม่ค่อยสนใจรอบข้างเสียเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สนใจจนเดินตกท่อหรือชนเสาที่ไหน

     

                ร้ายนายอ้วนซ์

     

                คยูฮยอนมองชื่อร้านแล้วก็เดินเข้าไปทันที ร้านนี้เป็นนายที่คยูฮยอนมาอุดหนุนบ่อยที่สุดเพราะเขามีส่วนลดจากบัตรของฮยอกแจอยู่ -.- แถมได้แสตมป์สะสมไว้เป็นส่วนลดด้วยล่ะ ไม่มีอะไรฟินกว่านี้อีกแล้ว

     

                “อะไรว่ะ ยังไม่ออกใหม่อีกหรอ” มองไปยังโซนการ์ตูนสยองขวัญที่ตัวเองชอบอ่านก็พบว่ามันยังเป็นเล่มของเมื่อสามเดือนที่แล้ว นี่คยูฮยอนรอยันรากตูดจะงอกอยู่แล้วนะ ทำไมมันนานจังเลยว่ะ บทกลางนี่อ่านค้างจนลืมเนื้อเรื่องไปแล้ว

     

                ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะมองไปยังโซนหนังสือเรียน ก็เห็นหนังสือที่มีคำว่า H2O ตัวใหญ่ ๆ อยู่หน้าปก

     

                เราจะให้นายมาติวเคมีให้เราหน่อย

     

                เสียงของเบเกอร์รี่เซ็นเซย์ดังเข้ามาในหัว จะว่าไปก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้สวมบทของคุณครูสอนเคมีเพราะต่างฝ่ายก็เรียนพิเศษตอนเย็นยันดึกดื่นทุกวัน อาจจะเป็นเสาร์อาทิตย์นี้ล่ะมั้งที่คยูฮยอนจะได้สวมบทเป็นครูเคมีแทนครูอ้วน

     

                จะว่าไปบราวน์นี่ที่ซีวอนสอนทำ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะหมดด้วยฝีมือของคุณนาย แต่เหมือนคยูฮยอนกำลังเข้าช่วงชิมไปบ่นไป เพราะมือนางก็หยิบปากนางก็เคี้ยวแถมบ่นออกมาด้วย สุดท้ายก็เหลือแต่กล่องเปล่าให้คยูฮยอนได้จับมันลงถังขยะ

     

                แต่คยูฮยอนก็ยังสงสัยอยู่เรื่องนึง...

                ซีวอนชิมบราวน์นี่ตอนไหนกันนะ ?

     

                คยูฮยอนเอาปริศนาคำสุดท้ายก่อนจะแยกกันในวันนั้นมาคิดจนถึงวันนี้ นับชิ้นบราวน์นี่ที่เขานำกลับบ้านมามันก็ครบดี แล้วซีวอนเอาไปชิมตอนไหนว่ะ

     

                ช่างเถอะ มันอร่อยก็พอแล้ว~

     

                คยูฮยอนหยิบหนังสือเล่มนั้นมาเปิดดู  จริง ๆ แล้วเคมีคยูฮยอนก็พอถูไถไปได้อยู่หรอก แต่หากเขาก็เข้าใจในแบบของเขานี่นา ถ้าให้ไปสอนคนอื่นก็ไม่รู้จะเข้าใจเหมือนเขาหรือเปล่า เพราะฉะนั้นดูหนังสือหาคำพูดสวย ๆ ไว้สอนคุณนักเรียนหน่อยก็ไม่เสียหาย

     

                อืม... หรือจะซื้อเล่มนี้ไปเลยดีนะ

     

                วูบนึงเขาก็คิดว่าทำไมต้องลงทุนซื้อหนังสือไปสอนมันด้วยว่ะ แค่เปิดหนังสือเคมีที่เรียนพิเศษสอนไปก็คงพอแล้วมั้ง คอสนึงก็ไม่ใช่ถูก ๆ เขาควรจะใช้มันให้คุ้ม

     

                แต่ยังไงก็อยากซื้ออ่ะ ทำไงดี...

     

                “นี่... นายว่าหนังสือเล่มนี้ดีหรือเปล่า ?”

     

                “ถ้าเธออยากได้เราก็จะซื้อให้”

     

                “ใจดีจัง~” เสียงคู่รักคุยกันกระหนุงกระหนิงข้างหูทำให้คนที่คิ้วขมวดกับการตัดสินใจซื้อหนังสือสนใจไม่ใช่น้อย ครับ... รู้แล้วว่ารักกันมาก แต่นี่มันในร้านหนังสือนะครับ เงียบหน่อยได้ไหม

     

                ว่าแต่.. ทำไมเสียงคุ้น ๆ

     

                “....” คยูฮยอนหันไปมองสายตาขุ่นมัวเล็กน้อย แต่มันกลับต้องเปลี่ยนเป็นตกใจแทนเมื่อคู่รักข้าง ๆ เขานั้นคือคนที่คยูฮยอนคิดมากชิบหายกับการจะซื้อหนังสือไปสอนมัน

     

                แต่หากมันก็ไม่น่าตกใจเท่ากับคนที่ควงแขนอยู่ข้าง ๆ

     

                ไอรีน ?

     

                คยูฮยอนมองซีวอนที่ตอนนี้มีไอรีนที่ถักเปียสองข้างและผูกผ้าสีชมพูไว้อย่างน่ารัก พูดเสียงใสถามว่าหนังสือเล่มไหนดีกว่า ซึ่งหนึ่งในนั้นมันก็มีหนังสือเล่มที่คยูฮยอนตั้งใจจะซื้อไปสอนซีวอนอยู่ด้วย

     

                อืม... ไหนว่าเจ็บเพราะเธอคนนี้ไม่ใช่หรอ ?

     

                ไม่เข้าใจเลย...

     

                ร่างโปร่งเบี่ยงหน้าเพื่อหลบไม่ให้ซีวอนเห็นก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาเพื่อออกจากร้าน คยูฮยอนไม่ซื้อหนังสือแล้ว ตอนนี้เขาอยากรู้มากกว่าว่าทำไมซีวอนถึงมายืนกระหนุงกระหนิงกับไอรีนอยู่ทั้ง ๆ ที่โดนแฟนเธอซ้อมขนาดนั้น

     

                [-KYUHYUN-]

    อยู่ไหนอ่ะ ? ::

    เมื่อไหร่จะให้เราสอนเคมีแล้วเมื่อไหร่เราจะได้ทำเค้ก ? ::

    *สติ๊กเกอร์หมีรวบหูกระต่าย* ::

     

                แกล้งส่งไลน์ไปถามพร้อมกับจ้องทั้งสองคนที่อยู่ในร้าน จะว่าไปทำไมคยูฮยอนต้องมาทำตัวเหมือนเป็นสต๊อกเกอร์ด้วยว่ะ เขาจะคบใครมันก็เรื่องของเขามั้ยอ่ะ -_-

     

                [-SIWON-]

              :: เพิ่งเลิกเรียนอ่ะ

              :: วันอาทิตย์ดีไหม ?

     

                คยูฮยอนเบ้หน้าเมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบกลับมาแบบนั้น ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าต้องการคำตอบแบบไหน แต่ไม่สบอารมณ์เลยแหะ

     

                ก็เห็นอยู่เต็มสองตามาจู่จี๋กับแฟนชาวบ้านอยู่ในร้านหนังสือ ถ้าโดนเหมือนครั้งที่แล้วจะทำยังไงว่ะ คยูฮยอนอ่านข้อความแต่ไม่ตอบอย่างเซ็ง ๆ ก่อนจะกดล็อคหน้าจอและยัดมันลงในกระเป๋ากางเกง

     

                ยังไงก็ช่างมันเถอะ

     

                ไม่ใช่เรื่องของคยูฮยอนสักหน่อย

     

                “อย่ามาให้เราต้องวิ่งแจ้นไปทำแผลให้อีกแล้วกัน”






     

    TO BE CONTINUE...

    เบเกอร์รี่เซ็นเซย์มันควายค่ะ เจ็บแล้วไม่จำ

    ถามว่าทำไมไม่อัพทีเดียวก็บอกได้เลยว่าลังเลอยู่นานว่าจะลงฉากนี้เลยดีมั้ย 55555555

    แต่ตอนหน้ามีอีกประเด็นเอาเป็นว่าจัดตอนนี้มาเกริ่นเลยดีกว่า

    ตอนนี้ไม่มีพี่ทงอีกละ เซ็งอ่ะ

    ฟิคนี้แก้เครียดนะ ตอนนี้แต่งอะไรไม่ออกสักอย่างนอกจากเรื่องนี้อ่ะ

    เขียนได้ทั้งวันทั้งคืนเพราะฉากมันอยู่ในหัวตลอดเวลาไม่ต้องเมก 5555555

    ขอบคุณที่เข้าไปสกรีมกันในแท็ก #วอนคยูโอริโอ้ นะครัช เขินแรงมากเลยเอ่าะ

     

                

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×