ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • o n m y m i n d | wonkyu •

    ลำดับตอนที่ #4 : [SF] wonkyu :: Let's Eat -1-

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 58



    [SF] LET’S EAT

     

    -PART 1-


     



    หลายคนก็ถามว่า... ไม่อยากกลับไปผอมหรอ ?

    นี่ก็ทำได้แค่ตอบไปว่าไม่ว่าง... อ้วนอยู่.

     

    ร่างอวบเกือบจะกลมกลิ้งได้ไหลได้ไปตามทางกำลังต่อแถวซื้อสมบัติสำคัญที่วันนี้สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องได้มันมาไว้ในมือให้ได้ ! เขารอมันมาสองปีเต็มเลยนะ ปีที่แล้วก็พลาดเพราะเขาดันได้ทุนไปแลกเปลี่ยนที่ฝรั่งเศสมารู้อีกทีก็ตอนไถ่ทวิตไปเจอซึ่งตอนนั้นได้แต่สูดพาสต้าเข้าปากอย่างคับแค้นใจ พี่อยากจะกลิ้งไปครายยยย

     

    วันนี้โจว คยูฮยอนต้องซื้อทาโกยากิชื่อดังที่ปีนึงจะมาขายที่นี่ครั้งนึงให้ได้ !

     

                นี่ก็ต่อแถวยาวไปจนเกือบจะถึงพารากอนอยู่แล้ว นี่เขาไม่คิดจะหาเต็นท์หาอะไรมากันแดดให้เลยใช่มั้ย คยูฮยอนรู้สึกผิวหนังที่เต็มไปด้วยชั้นไขมันมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของตัวเองกำลังละลายอ่ะ ร้อนจะตายห่าอยู่แล้วเว่ย ไอราคาทาโกยากินี่ก็ไม่ได้ถูก ๆ นะครับ ! เซอร์วิสลูกค้าหน่อยสิเว่ย

     

    แต่บ่นไปก็เท่านั้นแหละ เพราะยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมต่อจากเขาอีกนับร้อย

     

    ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่คนมาต่อคิวเยอะรอซื้อไอขนมญี่ปุ่นที่มีแต่แป้งก้อนกลม ๆ ใส่ปลาหมึกให้เขาชิ้นเท่าจิ๋มมดนี่เพราะติดใจในรสชาติความอร่อยของมันหรือรสชาติความอร่อยของพ่อค้าที่เป็นที่เลื่องลื่อว่าแซ่บเวอร์กันแน่

     

    แน่ล่ะ ที่คยูฮยอนมาต่อแถวก็เพราะพ่อค้าแซ่บส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนน่ะคยูฮยอนยกให้ทาโกยากิทั้งสี่ห้องหัวใจ

     

    ถึงคิวของคยูฮยอนแล้ว... คิดไม่ผิดที่ตื่นตั้งแต่ตีสี่มาต่อแถวรอตอนตีห้า

     

    นี่คยูฮยอนไม่ได้เห็นแก่กินนะ เชื่อเถอะ  ( ´`)

     

    "ค่ะ คิวต่อไปกี่กล่องคะ ?" เพราะคนมันเยอะจนไม่สามารถทำให้เป็นที่นั่งนั่งกินชิล ๆ ได้เลยต้องต่อคิวซื้อและใครจะไปเสาะหาที่กินที่ไหนก็ไป ใต้สะพานลอยสยามเป็นที่ที่คยูฮยอนเลือกไว้ในหัว เพราะมันไม่มีแดดแถมยังมีเพื่อนนั่งกินอย่างไอด่างที่นอนนิ่งอย่างสบายใจ

     

    บ้าและ

     

    "เอาสิบกล่องครับ"

     

    "คงเป็นครอบครัวใหญ่สินะคะ" คนรับออเดอร์ถามอย่างเป็นมิตรพร้อมกับจดลงในกระดาษและเงยหน้าขึ้นมามองคยูฮยอนขณะถามพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

     

    "เปล่าครับกินเอง"

     

    "..."

     

    "เร็วสิครับ มันร้อนนะ" อึ้งอะไรกันอ่ะ ก็แค่สิบกล่องเองมั้ย ? นี่ยังเกรงใจคนที่เขาต่อคิวรอเหมือนกันอยู่นะ ถ้าไม่เกรงใจนี่จะสั่งสักยี่สิบ

     

    "เอ่อ.. เดี๋ยวตามอีกคนมาช่วยทำดีกว่า ท่าจะทำไม่ทันซะแล้วล่ะ -_- เฮ้ ไปตามไอหล่อมาดิ"

     

    คยูฮยอนไม่ได้สนใจพนักงานที่หันไปสั่งลูกน้องอีกคนให้เข้าไปตามตัว ไอหล่อ ออกมา จะว่าไปเห็นว่าคนขายแซ่บไหนว่ะ ไม่เห็นจะเด็ดตรงไหน คยูฮยอนเห็นแค่ลุงชาวญี่ปุ่นที่ทีผ้าคาดหัวลายปลาหมึกเป็นคนทำทาโกยากิคนเดียว ไหนล่ะคนหล่อ ไหนล่ะพ่อค้าแซ่บ

     

    ไหนนนนน

     

    ร่างอวบไม่ได้สนใจอีกต่อไป เขาตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเข้าสู่สังคมก้มหน้าทันทีเข้าทวิตเตอร์ไล่ดูข่าวสารไปเรื่อย ๆ วันนี้คนในทามไลน์ของเขามากพอสมควรที่มาเป็นหนึ่งในคนที่ต่อแถวรอซื้อทาโกยากิที่นี่ บอกเลยว่าเธอคือเพื่อนร่วมชะตากรรมนะเพื่อนรัก พี่อยากจะชวนเธอมานั่งจับเข่าทนความร้อนด้วยกันนะ เลิ้บ

     

    กรี๊ดดดดดดดด ไม่อยากแดกแล้วทากงทาโกะ กูจะแดกพ่อค้า ฮื่ออออออ #ทาโกะisthebestkiller’

             *แนบรูป*

     

    คยูฮยอนกดดูรูปที่แนบมาด้วย เห็นชื่อแท็กแล้วก็ขำ ... คยูฮยอนอยากจะถามคนคิดจริง ๆ ว่าตอนพิมพ์นี่คิดอะไรอยู่ เขารอเน็ตห้าจีของตัวเองที่ช้ายิ่งกว่ากระต่าย(ก็เต่ามันชนะมั้ย) ร่างอวบยู่ปากอย่างขัดใจกับความช้าของเน็ตตัวเอง และในขณะที่รูปขึ้นพอดีก็มีเสียงหนึ่งจากทางด้านในร้านดังขึ้นทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง

     

    "ทำไม่ทันหรอพี่แก้ว"

     

    มะ...แม่

                แม่...

    แม่โจ้วววว!!!!!!!!!!

     

    เขาใช้คอนเซ็บอะไรในการแต่งคอสตูมกันหรอ เฮลโหลววว... ร่างโปร่งยืนถือโทรศัพท์ค้างไว้อย่างนั้นไม่นานใบหน้าก็ก้มลงเพื่อเปรียบเทียบกับคนในจอ ไม่ผิดแน่ แม่งคนเดียวกัน กรี๊ดดดด แม่จ๋า คยูฮยอนเข้าใจว่ามันนี้อากาศมันร้อนนรก แค่การที่ให้คนหน้าตาโคตรจะดีเปลือยท่อนบนโชว์ผิวสีแทนและใส่แค่ผ้ากันเปื้อนผืนเดียว คยูฮยอนได้ยินผู้หญิงที่ต่อคิวหลังเขากรี๊ดมาด้วยอ่ะ บ่นเสียดายกันใหญ่ว่าจะใส่ผ้ากันเปื้อนทำไม เออนั่นดิจะใส่ทำไมอดเลย... เฮ้ยไม่ใช่ดิ แล้วใส่กางเกงยีนส์ซีด ๆ จาง ๆ นี่มันน่าแดกขนาดไหนใครจะรู้ โอ๊ย น้ำลายไหล ทำไมน่ากิน

     

    หมายถึงทาโกยากิต่างหากกกก

     

    "เออดิ ไปช่วยคุณทาเคชิเขาทำหน่อย น้องคนนี้สั่งเยอะน่ะ" อ่าวอีพี่แก้วหน้าม้า(เติมเอง)ดันชี้มาที่เขาอ่ะ อย่างนี้คยูฮยอนก็ดูเป็นคนตะกละแดกอะดิ ไม่นะ

     

    คยูฮยอนต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อกู้สถานการณ์...

     

    ว่าแล้วก็หยิบไอโฟนแปดในมือตัวเองขึ้นมา

     

    และ...

     

    "ฮัลโหลววววว ...หม่าม้าหรอ คยูซื้อทาโกะไปให้แล้วน้าาาา กำลังรอเขาทำอยู่ วันนี้คุณน้าบัวบานกันคุณย่าพิชัยมาบ้านเราด้วยใช่ไหม โอะ หลานบัวตูมก็มาด้วยหรอ โอเคครับบบบ รอกินทาโกะได้เลยน้า" ไอโฟนที่มันอยู่เฉย ๆ ในมือดี ๆ ก็โดนคยูฮยอนหยิบมาคุยด้วยเสียแล้ว นึกขอบคุณที่ไม่มีใครโทรมาหาเขาตอนนี้ ดีจังลบภาพลักษณ์ได้

     

    "อ่า... ขอโทษนะครับที่สั่งเยอะ พอดีญาติมาบ้านน่ะครับ" ว่าแล้วก็แสร้งทำวางสายก่อนจะทำเป็นขอโทษพ่อค้าแซ่บคนนั้นที่ยิ้มต้อนรับลูกค้าแบบละมุนละไมมั่ก  ๆ ไม่แดกแล้วทาก่งทาโกะ ฮื่ออออ

     

    "อ่าว แต่เมื่อกี้น้องบอกว่า..."

     

    "พอดีที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่นะครับ วุ่นวายม้ากมากกกกก" จัดการปิดปากไอพี่แก้วหน้าม้าด้วยการพูดแทรกก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้เชฟผิวแทน รู้อะไรมั้ยสีผิวอย่างนี้เขาไม่เรียกดำเขาเรียกแทนนน

     

    แทนให้รักกี่... ที่ให้รักแกนนนน(กัน)

     

    แอร้ย

     

    "อ่าครับ... ดูน้องจะยุ่ง ๆ จริงๆ” พ่อค้าแซ่บเดินไปที่เตาทาโกะยากิที่อยู่ตรงหน้าคยูฮยอนพอดีก่อนจะเอาแปรงทา ๆ ให้กระทะหลุมมันมัน โอ้โหยยยย แพ็คกระแทกหน้าอ่ะ ณ จุด ๆ นี้บอกได้เลยว่ายิ่งกว่าบัตรหกพัน พวกติ่งทั้งหลายเสียเป็นแสนแขนก็ไม่ได้จับ แต่คยูฮยอนเสียแค่ค่าทาโกะสิบกล่องเท่านั้นแพ็คก็แทบจะกระแทกหน้าแล้วค่า

     

    “แต่กล้องหน้ามันไม่ใช่ไมค์นะครับ เผื่อน้องจะเข้าใจผิด”

     

    เพล๊ง

     

     

    อะไรนะ... เมื่อกี้เสียงอะไรแตกหรอ

     

    คยูฮยอนเห็นไอเชฟแซ่บนี่มันหัวเราะด้วยอ่ะ งืดดดดดดด พอมองที่มือตัวเองที่ถือโทรศัพท์ไว้อยู่ก็พบว่าแม่งกลับหัวอยู่จริง ๆ ด้วย ชิบหายเอ๊ยยยย อายอ่ะ ได้ยินเสียงไอคนที่ต่อแถมข้างหลังแม่งหัวเราะเขาด้วยอ่ะ อายโอ๊ยอายยยย แม่ง เดี๋ยวกูกลิ้งใส่เลย ฮื่อออออ

     

    “อ่าวน้อง ทาโกะล่ะ”

     

    “เก็บไว้ให้แม่พี่กินเถอะ” ว่าแล้วก็สะบัดตูดออกจากแถมสละสิทธิ์ให้นังเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังตัวเองแล้วเดินออกมาทันที ให้ตาย

     

    โอ๊ยยยยยย อายอ่ะ ตอแหลไม่พอยังไปเล่นแม่พี่เขาอีก คยูฮยอนเอ๊ย แม่รู้ล่ะตีตายเลยที่ทำตัวน่าถีบแบบนี้ ฮื่อออออ щ(щ)

     

    ร่างอวบเดินกระชับกระเป๋าเป้ของตัวเองออกมาจากซุ้มที่คนรอต่อคิวกันยาวจนเกือบออกนอกถนนใหญ่ นึกเกลียดตัวเองขึ้นมาก็คราวนี้ ดูดิ คนเขายืนรอกันเป็นร้อยแต่ดูเขาดิ ได้คิวแล้วเสือกทำเรื่องหน้าขายหน้าแล้วเดินสะบัดตูดออกมานี่มันโง่ชัด ๆ ถ้าไปต่อแถวใหม่แม่งหมดแน่ ๆ อ่ะ แล้วดีไม่ดีเจอไอพี่หกห่อนั่นด้วย เจ๊ทแม่ม ไม่แดกแม่งแล้ว คยูฮยอนจะกลิ้งจะกลิ้งงงง

     

    คยูฮยอนสัญญาเลยว่าเขาจะไม่กินทาโกะไปหนึ่งวัน หึ๋ย (นานมาก)

     

     

    .

    .

     

     

     

    “แล้วมึงก็เดินสะบัดตูดออกมาแบบนั้นเนี่ยนะ”

     

    “เออ”

     

    “ควายยยยยยยยย คนเขารอต่อคิวเป็นร้อย มึงได้คิวแล้วเสือกไม่เอา”

     

    “แล้วมึงจะมาเดือดร้อนอะไรแทนไอคนเป็นร้อยคิวนั่นว่ะ ประสาทป่ะ”

     

    “ก็เพราะกูเป็นหนึ่งในร้อยคิวนั่นไงล่ะสัด!” ครับ...ชัดเจน

     

    น้ำลายมึงเนี่ยแหละเต็มหน้ากูเต็ม ๆ เลยหอกหัก!

     

    คยูฮยอนมองฮยอกแจที่ทำท่าฮึดฮัดใส่เขาหลังจากปล่อยให้น้ำลายเหม็น ๆ ของมันมาชโลมใบหน้าอันเรียบเนียนของคุณโจว เดี๋ยวมึงเดี๋ยว เล่นสกปรกหรอ ค่อยดูเหอะ กูจะเอารองเท้ามึงไปซ่อน! (น่ากลัวเนอะ)

     

    วันนี้เป็นวันจันทร์คยูฮยอนลากสังขารของตัวเองเดินอืดมาโรงเรียนด้วยสภาพจิตใจที่ห่อเหี่ยวยิ่งกว่าตุ๊กตาตมลมหน้าโชว์รูมรถ เขายังไม่หายเจ็บช้ำเรื่องทาโกยากิที่ได้ลงทุนลงแรงตื่นเช้าโคตรในวันหยุด เท่านั้นไม่พอยังเสือกไม่ได้อะไรกลับมาสักอย่างเพราะดันไปทำอะไรขายหน้าเอาไว้ให้พ่อค้าประทับตีน(?) โอ้ยยยยย คิดแล้วอาย ถ้าได้เจอกันอีกคยูฮยอนสาบานได้เลยว่าพื้นตรงนั้นแม่งทรุดแน่ ๆ อ่ะ

     

    เพราะเขาจะมุดดินหนีเอง ฮื่อออออ

     

    เด็กสายศิลป์-ญี่ปุ่นตัวกลมถอนหายใจแรงก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียนริมหน้าต่างหลังห้องที่เป็นที่ประจำของตัวเองโดยมีฮยอกแจมาแย่งที่นั่งไอแห้งใส่แว่นอีกคนที่นั่งข้าง ๆ เขา อ้อ ฮยอกแจมันอยู่สายศิลป์-จีนน่ะ ที่มานั่งเหมือนอยู่ห้องเดียวกันแบบนี้เพราะแรงเสือกล้วน ๆ

     

    เพราะคยูฮยอนกลายเป็นทอร์กออฟเดอะทาวน์เมื่อวานนี้น่ะสิ

     

    รูปไอเด็กอ้วนคนหนึ่งที่ใส่เสื้อยืดสีขาวสกรีนลายเก๋ ๆ (ในความคิดเจ้าตัวว่า) UP TO ‘GU’ เอาไว้คู่กับกางเกงขาเท่าเข่าสีดำกับเป้หนังสีน้ำตาลที่มีตุ๊กตาหมูห้อยอยู่เป็นการอัพเลเวลความมุ้งมิ้งให้ตัวเอง ปรากฏในโลกโซเชียลทุกช่องทางแม้กระทั่งเพจรีวิวอาหารที่อยู่ ๆ ก็กลายเป็นเพจขี้เสือกเรื่องชาวบ้านขึ้นมาเฉย ๆ งงชิบหาย

     

    และแน่นอน...ต่อให้คยูฮยอนจะพลิกแพลงทแยงข้างยังไงนั่นมันก็ตัวกูชัด ๆ

     

    แถมชัดระดับ high quality ซะด้วย...

     

    สัด!!!

     

    แล้วมันจะไม่เป็นประเด็นอะไรเลยถ้าไอพ่อค้าแซ่บแม่งไม่เซฟรูปนี้ไปโพสลงไอจีตัวเองพร้อมแคปชั่นว่า น้องทาโกะกลับมารับผิดชอบสิบกล่องที่สั่งไว้เผื่อญาติ ๆ ด้วยนะครับ เป็นเด็กดีจริง ๆ :)’

     

    ฟ้าคคคคคค

     

    ภายในเวลาไม่ถึงสามนาทีการเป็นอยู่อย่างเงียบเหงาในโลกโซเชียลของคยูฮยอนก็ถูกขุดคุ้นทันที ไอพ่อค้านี่แม่งดังยิ่งกว่าพ่อขราวงซุปเปอร์จูเนียร์อีกแม่ง แค่หน้าเหมือนกันนิดหน่อยอย่าบังอาจมาเทียบเคียงกับม้าซีอปป้าของกูเด็ดขาด บอกเลยว่าเทียบไม่ติด

     

    นั่นแหละเป็นเหตุผลให้คยูฮยอนมาเรียนสภาพที่ยิ่งกว่าซอมบี้เพราะต้องโดนเสียงรบกวนจากการแจ้งเตือนโทรศัพท์ที่มีทั้งด่า ทั้งแรงเสียก ทั้งฝากร้าน โอ๊ย กว่าจะตั้งสติและวางถุงกาวหาปุ่มปิดแจ้งเตือนได้ก็ล่อเข้าไปตีสอง

     

    เจอมรสุมโซเชียลเมื่อคืนไม่พอ ตอนเช้าก็โดนนักเสือกตัวยงมาลากตัวตั้งแต่หน้าโรงเรียนแถมยังมานั่งข้างเขาประหนึ่งตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของห้องนี้

     

    นักเสือกมืออาชีพที่หาตัวจับง่ายเพราะอยู่แม่งทุกทีทุกเวลาที่มีเรื่องเกิดขึ้น อี ฮยอกแจ

     

    “แล้วทำไง มึงดังใหญ่แล้วนะอ้วน” ได้ยินคำว่าอ้วนนี่ทำเอาคนที่กำลังเอาช็อกโกแลตเข้าปากเพราะความเครียดถึงกับหันหน้าขวับ เดี๋ยวมึงเดี๋ยว เมื่อกี้มึงเรียกกูว่าอะไรนะ “มองเหี้ยไรอ้วน เลิกแดกได้แล้ว จะกลิ้งได้อยู่แล้วห่า”

     

    “เขาเรียกสมส่วน”

     

    “สมส่วนพ่อง”

     

    “กูพูดความจริง”

     

    “มึงเลิกหลอกตัวเองได้และ ต่อให้กูมองมึงจากตึกสามสิบแปดชั้นกูก็รู้ว่ามึงอ้วน”

     

    “หยาบคายมาก มึงมันใจทมิฬ”

     

    “เชี่ย... กูกลับห้องแล้วนะ คาบแรกแม่งเจอเหล่าซือกูต้องไปจับจองที่ทางหลับ” ฮยอกแจลุกขึ้นสะพายกระเป๋าและหยิบเอาขนมในมือที่คยูฮยอนกำลังกัดเข้าปากไปทิ้งถังขยะอย่างไม่ไยดี ไอบ้า นั่นมันช็อกโกแลตของสวิสเลยนะเว่ยยยย

     

    “จะไปหลับหรือไปไหนก็เรื่องของมึงดิ ทิ้งขนมกูทำไม” งอนครับจุดนี้ ด่าเขาอ้วนได้ แต่มาทิ้งขนมเขาแบบนี้คยูฮยอนไม่ยอมมม

     

    “เลิกแดกได้แล้ว คาบสองคาบสุดท้ายมึงต้องมายื่นใบสมัครที่ชุมนุมกู”

     

    “มึงคิดว่าหน้าอย่างกูจะเตะบอลเป็นหรือไงสัด” ไอนี่แม่งได้เล่นเป็นตัวจริงอยู่ชมรมฟุตบอลตั้งแต่ม.ต้นแล้วครับ แล้วมันยังจะลากคยูฮยอนไปด้วย บอกเลยว่าให้กินพิซซ่าสิบถาดยังง่ายกว่าไปวิ่งไล่เตะลูกกลม ๆ นั่นเกือบเก้าสิบนาที

     

    “ถึงตอนนั้นกูเชื่อว่าเขาจะเอามึงเป็นลูกบอลเอง ไม่ต้องห่วงมึงมีประโยชน์แน่ ๆ เพื่อน”

     

    “...” ดอก

     

    “กูไปนะ เลิกแดกได้แล้วตอนเที่ยงเจอกัน”

     

    โบกมือลาแล้วเดินออกไปจากห้องทำให้ไอแว่นได้ฤกษ์กลับมานั่งที่เดิม มันรีบเดินกอดกระเป๋าเข้ามานั่งและหยิบหนังสือขึ้นมาเตรียมเรียนทันที โหย มึงกระตือรือร้นจะเรียนมากมั้ยล่ะ นี่ขนาดกูก็เป็นนักเรียนใหม่กูยังไม่ความกระตือรือร้นไม่เท่าขี้เล็กมึงเลย

     

    ครับ... คยูฮยอนคือนักเรียนใหม่ของสายศิลป์-ญี่ปุ่นหลังจากที่ไปแลกเปลี่ยนที่เมืองฝรั่งมาเนินนานหนึ่งปี ทำให้เรียนช้ากว่าฮยอกแจไปปีนึงตอนนี้เลยกลายเป็นคนไร้ชมรมเหมือนผีไร้บ้าน แถมยังต้องมานั่งหลังสุดทั้ง ๆ ที่ตัวเองสายตาสั้นอีก บัดซบสัด

     

    ถามถึงเพื่อนในห้องที่สนิทอยู่ตอนนี้

     

    ท้องฟ้านอกหน้าต่างเขานับเป็นเพื่อนได้หรือเปล่า ?

     

     

    .

    .

     

     

     

    และแล้ว... เวลานี้มันก็มาถึง

     

    คาบชมรมที่มีเวลาให้เด็กนักเรียนได้จัสรีเล็กซ์เหมือนพี่หวังก็อตเจ็ดนั่นได้ถึงเวลาของมันแล้ว คยูฮยอนมองกระดาษที่ให้กรอกว่าประสงค์จะสมัครเข้าชมรมอะไรในมือ ตอนนี้ถูกเติมเต็มทุกช่องแล้วยกเว้นชื่อชมรม มันว่างเปล่าเหมือนหัวสมองของเขานั่นแหละ เอาไงดีว่ะ... ขืนเข้าชมรมฟุตบอลแม่งได้เป็นลูกบอลให้คนในทีมเตะเล่นเหมือนที่ฮยอกแจแม่งบอกแน่ ๆ

     

    ไอเขาที่สิ้นคิดขนาดจะเข้าชมรมห้องสมุดเพื่อไปหลับก็หมดโอกาสเสียแล้วเพราะมันเต็ม ฮื่อออ

     

    แถมชมรมที่คิดว่ามันเหมาะกับตัวเองแม่งก็ใช่จะว่าง ทำไมคนเราต้องสนใจอะไร ๆ ที่มันสบาย ๆ แบบเขาด้วยว่ะ เกิดมาหนึ่งชีวิตหัดลำบากกันบ้างเถอะ โอ๊ย จะบ้าตายถ้าหาชมรมไม่ได้โดน มผ. แน่นอน คยูฮยอนไม่อยากมานั่งมีปัญหากับห้องทะเบียน พรีสสส

     

    เดินลัดเลาะไปทางชั้นล่างของอาคารเรียนเพราะหลีกเลี่ยงเพื่อตัวแห้งของตัวเอง เขาทั้งไม่รับสายมันที่โทรจิกมามากกว่ายี่สิบสายแล้ว กรี๊ดดดด บ้านมึงเป็นเจ้าของเครือข่ายหรือไงอีฮยอกแจ สายกูจะไหม้ละไอเวร ไข่นี่สั่นไปหมดแล้วมึงเลิกโทรได้แล้วววว

     

    “...”

     

    กลิ่นอะไรบางอย่างที่คุ้นเคยในโสตประสาทไล่มาตามแรงลมที่โชยมา แม่โจ้... กลิ่นนี้มัน...

     

    “เค้กช็อกโกแลต” ของโปรดเลย เหยดเด้

     

    ปล่อยให้จมูกทำหน้าที่นำทางไปหาเค้กช็อกโกแลตแสนหอมต่อไป ณ วินาทีนี้คยูฮยอนไม่สนห่าอะไรแล้ว ใครกันที่ทำขนมได้กลิ่นน่าฟัดขนาดนี้ แม่งเอ๊ย น้ำลายจะไหลทำไมกลิ่นมันหอมหวนยวนใจแบบนี้ คยูฮยอนสัญญากับตัวเองเลยว่าจะเอากลิ่นหอม ๆ นี่เข้าปากสักคำ

     

    คำเดียวจริง ๆ นะ -.,-

     

    ตามกลิ่นมาได้ไม่นานขาก็พาตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องที่มีป้ายว่า ‘HOME ECONOMICS’ แหม... ไปอยู่เมืองนอกเมืองนามาตั้งนานขอยืนนึกศัพท์แปปนะ...

     

    อืม...home แปลว่าบ้าน eco นี่มันเหมือนอีโก้ป่าวว่ะ แบบเสียงแม่งออกคล้าย ๆ กัน...

     

    ถุ้ย เลิกมั่ว เดี๋ยวมึงก็โดนด่าหรอก คยูฮยอนจะแปลให้อย่างสวย ๆ อย่างเด็กนอกเลยว่า home economics แปลว่า คหกรรม ครัช

     

    หน่อว หล่ออ่ะ

     

    ว่าแต่... นี่น่ะหรอห้องคหกรรม ?

     

    ประตูที่เป็นสีดำมะเมื่อมดูสกปรกจนไม่แน่ใจว่านี่เป็นห้องทำอาหาร แล้วดูสิ ไอตัวที่ไต่ไปมาที่ประตูนั่นมันปีเตอร์ไม่ใช่หรอ ม่ายก็อดดดดด

     

                เขาไปแลกเปลี่ยนตอนกำลังขึ้นม.4และตึกเรียนม.ต้นกับม.ปลายก็แยกกันประหนึ่งคนละโรงเรียน ตอนนี้แม่งเหมือนเข้าโรงเรียนใหม่ทั้ง ๆ ที่ยังใช่ชื่อโรงเรียนเดิมไม่มีผิด

     

    ถึงสถาพมันจะน่าโละทิ้งมากกว่าเป็นห้องคหกรรมแต่คยูฮยอนก็ยังอยากยืนยันจะสู้เพื่อเค้กช็อกโกแลตที่อยู่ข้างในนั่น

     

                เอาว่ะ!!

     

                เอี๊ยด...

     

    ประตูหนึ่งในสองข้างถูกเปิดเข้าไปข้างใน...คยูฮยอนรู้สึกเหมือนมีแสงเข้ามา มันสว่างจ้าเกินไปและไม่นานสายตาเขาก็สามารถปรับโฟกัส คยูฮยอนได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายด้วย ไม่แน่นะพวกที่อยู่ข้างในแม่งอาจกำลังเล่นระเบิดแสงกันอยู่ก็ได้

     

    โอเค เขาไม่ควรตะกละแดกไปมากกว่านี้ เขาควรจะกลับบ้านได้แล้ว

     

    แต่...

     

    “เห๊ย นั่นมันสมาชิกคนที่ห้า ฮีชอลมึงดูดิ!!

     

    “เหยด อย่างที่มึงพูดจริง ๆ ด้วยว่ะทึก วันนี้แม่งมีคนมาจริง ๆ ”

     

    “เห็นไหมบอกแล้วลางสังหรณ์กูถูกต้องเสมอ”

     

    “ผมไม่อยากเอาอนาคตชมรมมาตัดสินเพราะพี่กินปลาแล้วก้างติดคอหรอกนะครับ”


    “โถ่ รยออุค ใครคนไหนมันจะกินปลาติดคอเป็นบ้างถ้านั่นไม่ใช่ลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง”

     

    “แถวบ้านกูเรียกโง่”

     

    “แถวคอนโดผมเรียกควาย”

     

    “หยุดเลยไอพวกเชี่ยยยย”

     

    คยูฮยอนยืนมองร่างของคนสามคนที่ยืนเถียงอะไรกันเสียงดัง มองไปที่มุมห้องก็มีโซฟาสีแดงเป็นกำมะหยี่ตัวใหญ่มีขนคนโผล่มาด้วยล่ะ

     

    ที่เขายังไม่ตัดสินใจเดินออกไปจากห้องนี้ก็เพราะตกใจในความหรูหราของมัน เชื่อไหมล่ะคุณ หน้าห้องแม่งทุเรศบัดซบมาก แต่เข้ามานี่อย่างกับบ้านเศรษฐี เชี่ยยย นี่เขาเดินผ่านประตูวิเศษณ์ของไอหุ่นยนต์ตัวฟ้ามาหรือเปล่าว่ะ ความเย็นของแอร์นี่เข้าปะทะที่หน้าทันทีแถมยังมีกลิ่นของเค้กช็อกโกแลตลอยฟุ้งไปทั่ว มันทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

     

                คยูฮยอนสูดดมกลิ่นหน้ากินเข้าจมูกเต็มปวดก่อนจะสะดุ้งเมื่อคนสามคนที่ยืนเถียงอะไรกันบางอย่างและชี้มาที่เขาตอนแรกเดินรี่กันเข้ามาหาเขาและจ้องหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย กูตกใจ โดยเฉพาะมึง..เอ่อ..คนที่เขาคิดว่าน่าจะชื่อทึกหรือถึกอะไรนี่เอาหน้าเข้ามาใกล้ เชี่ย ตีนกามึงน่าสะพรึงมาก ขอร้องอย่ายิ้ม กลัว...

     

                “อืม...ส่วนสูงใช้ได้ น้ำหนักเกินเกณฑ์ หน้าตาขาวใสแต่มีหลุมหน่อย ๆ แต่นั่นไม่สำคัญเท่าในสิ่งที่อยู่ในมือ...โอเค พี่เห็นว่าน้องมีความตั้งใจที่จะเข้าชมรมของเรา ถึงแม้เราจะต้องคัดกรองกันรอบแล้วรอบเล่า แต่เห็นความตั้งใจของน้องแล้วพี่จะตัดปัจจัยแวดล้อมออกไป ยินดีต้อนรับเข้าสู่ชมรมเรานะเด็กใหม่”

     

                “ห้ะ ? เดี๋ยวนะครับ คือผม...”

     

                “มาเอาเอกสารมาเดี๋ยวผมไปจัดการให้” น่าน.. ไม่ว่าเปล่าคนตัวเล็ก ๆ ที่เสียงใส ๆ กว่าใครรู้สึกจะชื่ออะไรอุค ๆ อุด ๆ เนี่ยแหละ เดินเข้ามาหยิบเอกสารในมือเขาไปหน้าตาเฉย แถมยิ้มออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นทุกช่องมันถูกกรอกหมดแล้วยกเว้นชื่อชมรม เห้ย พวกมึงเดี๋ยวดิเดี๋ยววว

     

                “ดีนะน้องมาทันพอดี พี่ว่าจะปิดรับสมัครอยู่แล้วเชียว โชคดีของน้องจริง ๆ ” ไอพี่หน้าสวยชื่ออะไรงอน ๆ ชอล ๆ ชอลไชป่าวว่ะ (ช่างแม่งเหอะ) ที่ตอนแรกเถียงกับไอพี่ถึก(พี่แกชื่อนี้ป่าวว่ะ) เดินเข้ามาตบบ่าเหมือนจะแสดงความยินดีด้วย

     

                อีพวกตอแหลลลล ต่อให้ดูยังไงก็รู้ว่าชมรมแม่งจะถูกยุบถ้าสมาชิกครบห้าคน กูไม่ใช่เคะโง่นะ กูได้ยินนนนน ไม่เชื่อมึงย้อนกลับไปอ่านข้างบนเลยสัดดด

     

                “คือผมแค่บังเอิญเข้ามา...”

     

                “น่าน้อง...พี่เข้าใจว่าเราอาจจะอึ้งกับห้องชมรมของเราบ้าง มีแต่คนแย่งชิงอยากจะเข้ามาเป็นหนึ่งในห้าคนของชมรมเราทั้งนั้น แต่น่าเสียดายโดนพวกพี่เขี่ยไปหมดละ นี่น้องเป็นกรณีพิเศษเลยนะ หน่วยก้านดี กล้ามเป็นมัด” ยัง... ยังตอแหลไม่เลิก

     

                จะบอกว่ากูอ้วนก็บอกไม่ต้องมาทำเป็นบีบแขนกูแล้วบอกว่ามันเป็นกล้าม ฟ้าคคคค

     

                “คือผมแค่บังเอิญเข้ามาเพราะได้กลิ่นเค้กน่ะครับ ไม่ได้คิดจะมาเข้าชมรมนี้เลยนะ” เหมือนประโยคนี้เป็นตัวทำลายรอยยิ้มของทุกคน บรรยากาศแสนปิติยินดีเมื่อกี้หายไปหมดสิ้น แม่โจ้ว... ทำไมบรรยากาศมันเย็นฮวบแบบนี้ว่ะ

     

                “เหอะ...เห็นมั้ยล่ะอีถึกกูบอกแล้ว.. ไม่มีใครอยากเข้าชมรมเราหรอก” ดราม่าตัวที่หนึ่งเริ่มขึ้น

     

                “ใช่...พี่ทึกแม่งมั่ว...ก็หน้าห้องชมรมเรามันทั้งสกปรกแถมมีปีเตอร์ด้วย ใครมันจะไปอยากเข้า” ตามมาด้วยกำลังเสริม

     

                “กูขอโทษว่ะ สงสัย...เราต้องปิดชมรมกันแล้วว่ะ” และ ผ่างงง...ตัวหลักออกมาแล้ว

     

                “เอาจริงหรอว่ะ”

     

                “ไม่นะพี่ แม่ผมอยากให้ผมได้ไปเป็นเชฟที่ฝรั่งเศสนี่มันเป็นความฝันของผมเลยนะ”

     

                “ทำไงได้ว่ะ ในเมื่อสมาชิกมันไม่ครบนี่หว่า ฝันของพวกเราคงต้องหยุดไว้แค่นี้”

     

                “โชคชะตาแม่งเล่นตลก”

     

                “บัดซบเอ๊ย”

     

                “ฮื่อออออ แม่..ผมขอโทษ”

     

                “...”

     

                ละครดราม่าถูกฉายขึ้นมาเป็นฉาก ๆ คนที่ชื่ออูฐ(หรืออุคเนี่ยแหละ)ลงไปนั่งน้ำตาไหลคร่ำครวญถึงมารดาแถมยังร้องเพลงค่าน้ำนมออกมาอีก เออ แม่งร้องเพราะมากกูแนะนำให้มึงไปเป็นนักร้องนะ

     

                ส่วนมึงไอชอนไช(หรืออะไรชอล ๆสักอย่าง)มันนี่ตอนนี้ในหัวมีหมวกบาน ๆ สีแดงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กำลังก้มหน้าก้มตาปิดหมวกดราม่าอยู่หน้ากระจก(ทำไมต้องหน้ากระจกว่ะ) บอกเลยสีหน้ามึงให้มากแนะนำให้มึงไปเป็นดารารับรองรุ้งริ้ง

     

                ส่วนที่แก่ที่สุดแนะนำให้ไปขายมาม่าซะนะ แม่งลงไปทรุดกับพื้นแล้วทุบ ๆ อย่างเจ็บใจ...แต่ไม่เจ็บมือ เพราะแม่งเอาผ้าเช็ดหน้ามาพันมือไว้ ฟรัด

     

                คยูฮยอนมองฉากดราม่าตรงหน้าแล้วถอนหายใจแรง แม่งเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ทำไมพวกเขาถึงพร้อมใจกันดราม่าจนคยูฮยอนรู้สึกอยากถีบมากกว่าสงสาร ร่างอวบขมวดคิ้วยุ่งกับตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมา เขาไม่ควรเห็นแก่กินแล้วเข้ามาในห้องนี้ตั้งแกแต่แรก เอาล่ะ เมื่อถึงเวลาก็ควรไปได้แล้ว

     

                ลาก่อน

     

                “เอะอะอะไรกันหรอ...” เสียงงึมงำเหมือนคนพึงตื่นดังมาจากตรงโซฟาสีแดงที่คยูฮยอนก็เห็นแหละว่ามันมีคนนอนอยู่แต่มัวแต่สนใจกับพวกคนสามหน่อตรงหน้าจนไม่ได้สนใจไอขายาว ๆ ที่มันเกินโซฟามาอีกต่อไป

     

                เสียงทุ้มของคนบนโซฟาดังขึ้นอีกรอบเพราะเสียงหาว ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจทั้งยังหันหลัง ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะหันหน้าหมายจะเดินมาทางนี้ คงเป็นเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายล่ะมั้งเลยทำให้ตื่น

     

                และแม่งจะไม่ทำให้คยูฮยอนอยากกลิ้งหายตัวไปจากโลกนี้เลยถ้าใบหน้าหล่อเหลาที่หันมาทางนี้ตอนกำลังเดินมานั้นไม่ใช่... เชี่ย ต่อให้ใบหน้านั้นมีแว่นประดับอยู่ก็เถอะแต่คยูฮยอนกลับจำมันได้ขึ้นใจ

     

                “อ่าว น้องทาโกะนี่นา”

     

                ….

     

                …

     

                ..

     

    ไอพี่หกห่อ

     (())

     

     

    TBC

    โอ๊ยยยความลั่น

    นั่นแหละคะ แต่งมาสักพักแล้วและได้ฤกษ์มาลง

    ไม่รู้แก้เครียดหรือเครียดกว่าเดิม เอาเป็นว่ายังแต่งไม่จบมีสิทธิ์ดอง

    แอร้

           

    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×