ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC WONKYU] INTO THE TALES

    ลำดับตอนที่ #2 : ►Cinderella l part 1 :: แรกพบสบ...ตา

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ย. 58




    © themy butter


    Cinderella

    Part I :: แรกพบสบ...ตา

     


                เสียงนกร้องยามเช้าช่างน่าภิรมย์ แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องมาที่ยอดต้นไม้กระทบกับน้ำค้างยามเช้ามันเป็นตัวส่องประกายได้เป็นอย่างดี สายลมเย็น ๆ ที่พัดมาทำให้หลายคนอยากนอนอืดอยู่บนเตียง ใครจะบ้าอยากลุกไปทำงานกันล่ะ นอกจากคนอย่างคยูฮยอนเท่านั้นแหละที่รับจ็อบส่งนมอุ่น ๆ ตอนเช้ามืด

     

                เช้า...มืด...

     

                เดี๋ยวนะ เหมือนเมื่อกี้จะเจอคำว่าแสงแดดด้วยหรือเปล่า(ให้เวลาย้อนไปอ่านสิบวินาที)

     

                ชิบหาย

     

                “สายแล้ววววววว” คนที่นอนหลับสบายเด้งตัวขึ้นมาอย่างแรงก่อนจะต้องหรี่ตาอีกครั้งเมื่อเจอแสงแดดเข้าที่หน้าเต็ม ๆ ให้ตายเถอะ บ้านของเขามันโดนคอนโดมาสร้างข้าง ๆ บดบังแสงแดดไปหมดแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมวันนี้เขาตื่นมาเจอแสงแดดได้ว่ะ

     

                โอ้ยยย...ทำไมเจ็บหลังขนาดนี้ว่ะ

     

                ไม่ดิ มากกว่าความเจ็บหลังคือความรู้สึกโหวง ๆ...

     

                ฟิ้ว ~

     

                ลมหนาวที่พัดมาทำเอาเขาหดขาเข้าหาตัวเอง เออ ก็อยากจะทำอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ทำไมการที่คยูฮยอนนอนหงายแล้วเห็นใบไม้สีเขียวเต็มไปหมดเลยอ่ะ พอมองทะลุไปก็เห็นทองฟ้าสีสดใสมีเมฆปุยเลยอยู่ เออบรรยากาศมันก็สวยดี มันน่าเดินชมสวนสัด ๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่มั้ย ทำไมห้องเขากลายเป็นแบบนี้ ไอเพื่อนตัวดีมันเข้ามาเปลี่ยนวอลเปเปอร์ห้องเขาอีกแล้วใช่มั้ย

     

                ว่าไปนั้น คยูฮยอนไม่ได้ติดต่อเพื่อนมาสามชาติและว๊าย

     

                แล้ว...มันคืออะไร

     

                ทำไมเขาถึงมานอนบนต้นไม้ได้ว่ะเนี่ยยยย?!

     

                “ย๊ากกกกก” เมื่อยืนยันโลเคชั่นของตัวเองตอนนี้ได้แล้วก็รู้ได้ต้องการสติ เพราะมันหลุดไปตั้งแต่รู้ว่าตัวเองนอนห้อยต่องแต่งอยู่บนต้นไม้แล้ว แถมตัวยังเปียกซกไปด้วยน้ำสนิม พูดถึงนี่กลิ่นก็ไล่มาเลย แม่งเอ๊ย เหม็นสัดอย่างกับตกบ่อขี้

     

                “ใจเย็น คยูมึงต้องตั้งสติ มึงวางถุงกาวลงเดี๋ยวนี้” พึมพำบอกกันตัวเองก่อนจะค่อย ๆ จัดการกับท่าของตัวเองตอนนี้ เพราะตกใจเลยทำให้ดิ้นเกือบตกต้นไม้ ตอนนี้เขาเหมือนตัวสล็อตไม่มีผิด

     

                คยูฮยอนค่อย ๆ ไต่ไปเรื่อย ๆ จนถึงต้นของมันแล้วค่อย ๆ ปืนลงมาโดยที่ยังอยู่ในท่าของตัวสล็อตหน้าโง่ ๆ ที่เคยอ่านเจอในวิชาวิทยาศาสตร์ของม.อะไรสักม.เนี่ยแหละ จำไม่ได้แล้ว ลงมาเอาเท้าแตะพื้นอย่างสวัสดิภาพ คยูฮยอนดมเนื้อตัวของตัวเองแล้วก็นึกสมเพท ไม่แน่ใจแล้วว่าไอที่ตัวเองโดนดูดลงมานี่มันน้ำสนิมหรือน้ำขี้กันแน่ แม่งอย่างเหม็นเลย

     

                ลมที่พัดเข้าหน้ามาแรง ๆ หนึ่งทีก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองทัศนียภาพตรงหน้าทำเอาเขาถึงกับอึ้ง พระเจ้า... นี่มันที่ไหนกันแน่ว่ะเนี่ย ทำไมมัน...

     

                ...ทำไมมันมีแต่ป่าว่ะ สัดเด้ย!!

     

                “นี่โดนส้วมดูดเพราะกบเวรนั่นจริง ๆ หรือว่ะ” ว่าแล้วก็สถบอย่างหัวเสียก่อนจึงผมฟู ๆ ของตัวเองแรง ๆ เออ ไม่ต้องพิสูจน์โดยการตบหน้าตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าแม่งเจ็บจริง นี่กูไม่ได้ฝัน ความเหม็นที่เสื้อคือหลักฐานชั้นดี

     

                รั้งห้ายยยยย T------T

     

                “เราไม่ใช่กบเวรสักหน่อย หยาบคายจริง ๆ เลย!

     

                เสียงเล็ก ๆ จากทางไหนก็ไม่รู้ทำเอาคนที่กำลังเบ้ปากในโชคชะตาสะดุ้งเฮือก ชิบหาย... นี่พาเขามาโผล่ในป่าไม่พอยังจะเอาผีป่ามาหลอกกันอีกหรอว่ะ โอ้ยยยย ทำไมโชคร้ายขนาดนี้ กูควรกัดลิ้นตายตรงนี้เลยมั้ย ร่างโปร่งที่ตอนนี้รู้สึกตัวเองกำลังหลอน เขาหันซ้ายหันขวาเพื่อหาต้นตอของเสียง แต่ถามว่าถ้าเจออะไรแล้วเขาจะทำอะไร ก็ต้องถามกลับเลยว่าจะอยู่ตรงนี้ต่อทำไมล่ะครับ ?

     

                “โอ๊ยยย กรรมอะไรของกูว่ะเนี่ย ไม่เอานะเว่ย ไม่หลอกดิ กลัวจริงนะเว่ย” สองมือกราบลงที่ตรงต้นไม้ใหญ่ เป็นการไหว้ขอขมาแทนผีป่าทุกตัวในที่นี้ บางทีการที่คยูฮยอนอยู่บนต้นไม้เมื่อกี้อาจจะเป็นการลบลู่ เออ แม่งเป็นไปได้

     

                “เราอยู่ตรงนี้ เจ้าตาถั่วหรือยังไง!

     

                เสียงแม่งยังพูดอยู่เลยอ่ะ สัดเด้ยยยย นี่เขาต้องโดนผีหลอกจริง ๆ หรือ ไม่เอานะโว้ย แค่นี้ก็กลัวจะตายแล้ว ว่าแล้วก็ไม่รอช้า จะอยู่ตรงนี้รอพ่อตัดริบบิ้นก็คิดว่าคงจะไปเจอกันอีกทีบนสวรรค์ดีกว่า เออไม่รอห่าอะไรทั้งนั้น วิ่งแล้วโว่ยยยยย

     

                “ไม่เอา ไม่หลอก ไม่เห็น ไม่นะ...นะ..นะโมตัสสะภัคคะวะโต...” บทสวดสมัยมัธยมถูกรื้อฟื้นขึ้นมาสวด แน่ละ ตั้งแต่จบม.ปลายเขาก็ไม่เคยสวดมนต์อีกเลยนอกจากเวลามีกิจกรรมทางศาสนาหรือจำเป็นต้องเข้าวัด(ซึ่งนั่นมันส่วนน้อย) เออ ถึงว่าทำไมกูโชคร้าย เพราะงี้นี่เอง

     

                ไม่ใช่เวลามาพิจารณาบาปบุญตัวเอง วิ่งดิ คยู วิ่งงงง

     

                ร่างโปร่งวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันทีไม่ต้องรอพ่อตัดริบบิ้น ใช่ขายาว ๆ ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เรื่องวิ่งนี่ถนัดมากบอกเลย เขาทำงานมาหลากหลายรูปแบบแล้วตั้งแต่ส่งนมตอนเช้ายันเด็กส่งยา...อะไร ยาคูลล์ไง มันทำให้เขาต้องมีสกิลวิ่งไว้เพื่อทำงานเสร็จทันเวลาไม่อย่างนั้นวันนั้นเขาจะทำงานโดยกลับบ้านมือเปล่า

     

                รู้สึกได้ว่ามีเสียงวิ่งตามหลังมาว่ะ ทำยังไงดี ออตอเค ทำไมต้องมาตามคยูฮยอนด้วย สัตว์ทั้งป่าก็มีให้หลอกมาหลอกเขาทำไม ทำไมมมม

     

                ไม่นานก็รู้สึกได้ถึงแสงสว่างวาบที่ด้านหลังก่อนจะเงาของอะไรบ้างอย่างวูบไปข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว คยูฮยอนจึงหันหลังกลับไปมองข้างหลังเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของตัวเอง แต่เดี๋ยว... ก็ไม่มีอะไรตามมานี่หว่า

     

                ผลั่ก

     

                “อั่ก!!!” เมื่อวิ่งไปมองหลังไปจนไม่ดูทาง ผลมันก็ออกมาแบบนี้แล... คยูฮยอนรู้สึกหน้าสั่นเมื่อตัวเองวิ่งไปชนอะไรสักอย่างที่เหมือนจะแข็ง เออ...แต่แม่งไม่แข็งว่ะ เอะ ยังไง

     

                 “หยุดวิ่งได้สักที” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหน้าคยูฮยอนที่ลูบหน้าผากตัวเองปอย ๆ ก่อนจะหันไปมองต้นเสียงก็ตกใจแหกปากลั่นป่าเมื่อพบว่าตรงหน้าเขาเป็นผู้ชายตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อยที่กำลังฉีกยิ้มมาให้

     

                “เฮ้ย!!!

     

                “อึ้งในความหล่อของเรางั้นสินะ”

     

                “ผีพูดได้!!!!

     

                ผลั่ก

     

                “เจ็บบบบบ” คราวนี้สิเจ็บจริง คยูฮยอนโดนมันโบกครับ ผีเดี๋ยวนี้พลังมันแกร่งกล้ากระเหี้ยมกระหือรือเกินไปแล้ว เดี๋ยวก่อนอย่าให้คยูฮยอนเจอกระเทียมสักต้น เขาจะเอามากิน!! หิวโว้ยยยยยย

     

                คนตัวสูงกว่าแหกปากลั่นป่าก่อนจะนั่งยอง ๆ กุมหัวตัวเองบอกให้อีกอีกรู้ว่าตอนนี้เจ็บมากขนาดไหน ก่อนจะตวัดตามองคนที่ยืนค้ำหัวตัวเองอยู่ จะว่าไปไอเตี้ยนี่หน้าตาก็ไม่ได้แย่ หน้าตาไม่เห็นเหมือนผีที่เห็นในลั้ลลาแลนด์เลย ว่าแล้ว หนังแม่งหลอกลวงประชาชน

     

                “เลิกแหกปากแล้วฟังเราสักทีเถอะเจ้าน่ะ -_-” คนตรงหน้าหรี่ตามองคยูฮยอนด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ก่อนจะลงมานั่งยอง ๆ ให้เสมอกับตัวของเขาที่กำลังนั่งกุมหัวอยู่ที่พื้น สายตากลม ๆ นั่นจ้องมาอย่างเหนื่อย ๆ ก็เออสิ วิ่งกันเป็นหนังอินเดียไม่เหนื่อยได้ยังไง

     

                “โอเค ไม่แหกปาก แต่บอกมาก่อนว่าฮูอาร์ยู ?”

     

                “แอมไฟน์แท้งกิ้วทีเชอร์”

     

                “โอเค ซิสดาวน์พรีส... ถุ้ย!!!” ไม่ใช่แค่เสียงซาวน์เอฟเฟ็กแต่คยูฮยอนถุยออกมาจริง ๆ อยากถุยใส่หน้ามันด้วยซ้ำแต่ก็กลัวจะโดนด่าว่าสถุนเกินไป แม่งเล่นอะไรไม่รู้เรื่องหน้าสิ่วหน้าขวานมาต่อมุขส้นตีนอะไรไม่จักกาลเทศะ(โทษ)

     

                “เราชื่อดอร์ฟิน” คนตรงหน้าแนะนำตัวก่อนจะเปลี่ยนเป็นท่านั่งขัดสมาธิแบบเขา คยูฮยอนไล่สายตามองเสื้อที่อีกฝ่ายใส่ มันเป็นชุดที่ดูจะไม่เข้ายุคเข้าสมัยเสียเท่าไหร่ จะว่ายังไงดี เคยดูเรื่องพีเตอร์แพนด์ไหม ชุดเหมือนไอเด็กนั่นน่ะแหละ แต่ไม่ได้มีหมวกสีแดงบนหัวส่วนเสื้อก็เป็นสีดำขาว คนคนนี้ปล่อยผมสีอ่อนยาวประบ่าหยิก ๆ ของตัวเองออกมา ดวงตาสีฟ้าของเขาสวยชะมัด อย่างกับฝรั่ง

     

                “ชื่อกะแดะ”

     

                “ขอเอาเท้าแตะปากทีได้ป่ะ -_-” มันลุกขึ้นยืนแล้วครับ โอเค ขอโทษไม่เล่นก็ได้ บางทีทุกคนก็ควรเข้าใจว่าฟิคเรื่องนี้แม่งไม่มีสาระตัวละครกากกรังไปวัน ๆ ไม่ควรจริงจังอะไรกับเรื่องนี้อ่ะ แต่อย่าเลิกอ่านนะ อ่านต่อไปเหอะ ไรเตอร์เขาอยากดองเรื่องอื่น (แฮ่)

     

                “แล้วไง ชื่อดอร์ฟินแล้วยังไง ยังไงก็ผีใช่ป่ะล่ะ” ปากยังไม่เลิกแกว่งหาตีน คยูฮยอนเปลี่ยนท่านั่งขัดสมาธิมาเป็นนั่งชันเข่า แล้วถามอย่างจริงจัง นี่ เครียดสุดแล้ว เพราะไอนี่จู่ ๆ ก็โผล่มายังไงแม่งก็ผี แถมยังมาทำหน้าตาฝรั่งใส่อีก อย่างกับเด็กในเนิสเซอรี่ที่คยูฮยอนเคยไปรับจ็อบ เด็ก ๆ น่ะน่ารักจะตาย

     

                ...ลักไปฆ่า

     

                “ไม่ใช่ผี เราคือคนที่พาเจ้ามาที่นี่”

     

                “ชัดเลย มึงนี่เอง...” คยูฮยอนนี่ยืนขึ้นเลยเมื่อคนตรงหน้าที่นั่งขัดสมาธิคุยกับเขาดี ๆ บอกถึงตัวตนของตัวเอง อ้อ มึงนี่เองหรอที่พากูมาเผชิญชะตากรรมที่นี่ ขอสักดอกเถอะ... เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวรู้เลย... “ห๊อมหอมมมมมม”

     

                “ทำอะไรของเจ้าน่ะ เดินไปเด็ดดอกไม้มาดมทำไม”

     

                “ไม่เสือกดิ”

     

                “เสือกแปลว่าอะไร”

     

                “ช่างมันเหอะ” คยูฮยอนยอมนั่งลงแต่โดยดี เมื่อกี้ก็กะจะลุกไปโบกมันสักดอกแต่เห็นตายตาหวัด ๆ ของอีกคนก็ถึงกับเลี้ยวไปเด็ดดอกไม้ข้าง ๆ ตีนทันที สายตามันเหมือนเป็นสิ่งที่บอกว่า ถ้ามึงทำอะไรกูมีโบก

     

                ไม่ได้ป็อด แค่ไม่อยากมีเรื่องกลัวมีคนเสียน้ำตา

     

                “แล้วยังไง พามาแล้วไง อย่าบอกนะว่าโดนคำสาปแล้วคำทำนายบอกว่าต้องเอาคนของอีกโลกนึงมาทำภารกิจเพื่อแก้คำสาปน่ะ” คยูฮยอนพูดออกไปส่ง ๆ ถ้าเป็นจริงแม่งก็...

     

                “จะ...เจ้ารู้ได้ยังไง”

     

                ...ก็เหี้ยละ -_____-

     

                “ข้าเป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยของโลกเทพนิยายน่ะ แล้วเจ้าเดาผิดไปนิดหน่อยคำทำนายบอกว่าให้หาคนที่เจอคนแรกบนโลกมนุษย์น่ะ”

     

                เหยด

     

                “เดี๋ยว...เดี๋ยวนะ ผู้ดูแลความเรียบร้อยของโลกเทพนิยาย ?”

     

                “ใช่ คอยดูแลความเรียบร้อยให้เทพนิยายแต่ละเรื่องดำเนินไปตามแบบที่มันควรจะเป็นน่ะ”

     

                “ทุกเรื่องก็มีคนแต่งมั้ยล่ะมันมีเนื้อเรื่องของมันแล้ว จะบิดเบือนได้ยังไง”

     

                “ได้สิ บางทีระหว่างดำเนินเรื่องก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุบ้าง ซึ่งเราก็จะเป็นคนช่วยไม่ให้อุบัติเหตุนั่นบิดเบือนเรื่องเกินความจำเป็น”

     

                “ขอถามแบบโง่ ๆ หนึ่งคำถามเลยนะ”

     

                “ว่ามา”

     

                “ที่นี่ที่ไหน ? สงสัยนี่ยังฝันอยู่ อยากตื่นแล้วอ่ะ”

     

                ถ้าคยูฮยอนมองไม่ผิด เขาสังเกตเห็นแววตาแห่งความเหนื่อยหน่ายของเจ้าเด็กฝรั่งนี่ ทำไมอ่ะ ตอนนี้เขางงไปหมดแล้ว โลกแห่งเทพนิยายอะไร ใครมาบิดเบือนใครมากำหนดอะไร ไม่ใช่เกมไบโอช็อคที่จะกดหยุดเวลาแล้ววาร์ปไปหยิบของอีกที่นึงได้ นี่มันแฟนตาซีเกินไป ทุกวันที่ผ่านมาคยูฮยอนไม่เคยฝันอะไรนอกจากเรื่องเงิน เงิน เงิน

     

                เขาว่าวันนี้เขาคงเหนื่อยมากเกินไป ถึงฝันเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้

     

              “ที่นี่คือโลกแห่งเทพนิยายแล้วตอนนี้เรากำลังอยู่ในเรื่อง ซินเดอเรลล่า”

     

                “...”

     

                WHAT THE FU*KKKKKKKKK

     

                อยากจะร้องเป็นเพลงโฮลี่ฟัคกิ้งชิท อิสอะไดโนซอร์ แต่เรื่องนี้มันไม่มีไดโนซอร์มันแฟนตาซีล้วน ๆ นี่คืออาร๊ายยยยย บอกทีว่าตอนนี้ที่จะบอกได้คือเขาโดนกบล่อมาให้โดนส้วมดูดและมาปรากฏตัวอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายหรรษาแล้วตอนนี้เรากำลังอยู่ในเรื่องซินเดอเรลล่ากัน หน้าที่ของเราคือการทำให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์เพราะไม่แน่ระหว่างเรื่องรองเท้าแก้วนางซินอาจจะไม่หลุดออกจากเท้าก็ได้ อย่างนั้นหรอ ?

     

                “เราโดนคำสาปของกฎของการเป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยของเทพนิยายน่ะ และเรื่องที่เรารับผิดชอบคือเรื่องซินเดอเรลล่า”สีหน้าของผู้ชายตัวเล็กตรงหน้าดูเศร้าเล็กน้อย ซึ่งมันไม่ได้ทำให้คยูฮยอนสงสารนักหรอกนะ ชีวิตพนักงานขัดส้วมของเขายังพีคกว่าอีกอ่ะ นี่ยิ่งกว่าคำสาปอีกนะบอกเลย

     

                “หมายความว่า... เทพนิยายอีกหลาย ๆ เรื่องยังมีผู้คุมคนอื่นอีกหรอ”

               

                “ใช่”

     

                “งั้นก็ให้เพื่อนนายช่วยคุมให้สิ”

     

                “ได้ที่ไหนกันล่ะ เรื่องของใครของมัน รับผิดชอบกันเอง ถ้ามารับผิดชอบแทนกันก็ถือว่าผิดกฎนะ”

     

                ว้อททททททท

     

                “แล้วนายโดนสาปยังไง ดูไม่เห็นเหมือนคนโดนสาปเลย นายก็ยังดูดีนี่ ถึงจะเตี้ยไปหน่อยก็โอเคนะ”

     

                “เราสามารถกลับเป็นร่างคนได้วันละสามนาทีน่ะ”

     

                “อ่าวแล้วปกติเป็นอะไร...เฮ้ย!!!” พูดยังไม่ทันจบ คนตรงหน้าที่นั่งตัวขาวผมทองตาสีฟ้าอยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นควันไปแล้ว เฮ้ย แบบนี้มันจะแฟนตาซีไป หายตัวได้ด้วยหรอออ ไหนบอกไม่ใช่ผีไง “เฮ้ ดอร์สั้น!!

     

                “ดอร์ฟินเว่ย! มองมาข้างล่างสิ”

     

                “ไหนว่ะ...เหี้ย!

     

                “กบไม่ใช่เหี้ย”

     

                มันไม่ได้ทำให้คยูฮยอนรู้สึกภิรมย์มากกว่าเท่าไหร่นักหรอก ห่า

     

                คยูฮยอนตกใจกบตรงหน้าจนถลาไปกอดต้นไม้แถวนั้นแน่น บอกแล้วไงว่าคยูฮยอนกลัวกบ แล้วยิ่งมาโดนจ้องหน้าแบบนี้ คิดว่าขนที่อยู่บนตัวของคยูฮยอนลุกไปกี่เส้นแล้ว เจ็ทแม่ม! มันไม่ได้มีความขรุขระจนน่าเกลียดก็จริง แต่แม่งมันมากอ่ะ เป็นมะเมือกเลย ไม่ไหวแล้ว แม่!!

     

                “เป็นโลมาดอร์ฟินอยู่ดี ๆ ไม่ชอบหรือไง ฉันชอบร่างเก่านายมากกว่านะโว่ยยย”

     

                “อย่างกับเราอยากจะอยู่ในร่างนี้นักแหละ บอกแล้วไงว่าโดนสาปน่ะ -_-

     

                “เฮ้... อย่าเข้ามาใกล้นะเว่ย ไม่งั้นเจอตีน”

     

                “ถ้าเจ้าฆ่าเราเจ้าไม่ได้กลับไปแน่ ๆ บอกเลย”

     

                กบเวรรรรร T----T

     

                “แล้วต้องทำยังไง นี่ก็เข้าไกลไม่ได้เหมือนกัน ไม่งั้นตายห่าตรงนั้นแน่ ๆ ” ยังคงเกาะต้นไม้อยู่แทบจะปีนขึ้นไปอีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่าปีนเป็นก็ไม่อยู่แม่งแล้วตรงนี้ ยัง...กบเวรนั่นยังกระโดดเข้ามาใกล้เขาอีก นี่รู้ว่าเขากลัวก็แกล้งกันสินะ

     

                “เราต้องดูแลให้เรื่องซินเดอเรลล่าไม่ถูกบิดเบือนมากไปกว่าที่มันควรเป็นในขณะที่เรายังโดนคำสาปอยู่  ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่ามันอีกนานแค่ไหน แต่คงไม่ตลอดไปหรอก”

     

                “ก็ดีแล้ว การรอคอยเป็นสิ่งที่ดีนะ ฝึกสมาธิได้ด้วย ลองดู”

     

                “สัญญามาก่อนว่าจะช่วยเรา”

     

                “อะไร ? ทำไมต้องสัญญา”

               

                “เราต้องหาคนมาช่วยงานระหว่างที่โดนสาปและเจ้าคือคนคนนั้น ...ไม่อย่างนั้นเจ้าก็ไม่ได้กลับบ้าน”

     

                “หูย...คิดว่ากลัวหรอ”

     

                “งั้นจะไปกระโดดหาละนะ”

     

                “โอเค อยากให้ทำอะไรบอกพี่มา”

     

                นั่น...พลาดแล้ว กบเปรตนี่มันจะกระโดดขู่เขา ใครไม่ตอบตกลงก็คือคนไม่กลัวกบ ซึ่งไม่ใช่คยูฮยอน ร่างโปร่งยังคงเกาะโคนต้นไม้เป็นปลิงไม่ยอมไปหาเจ้ากบตัวน้อยที่ก่อนหน้านี้เป็นเด็กเตี้ยหน้าฝรั่งน่าตาน่ารักหน้าหยิก ตอนนี้กลายเป็นตัวน่าลักน่าถีบไปเสียแล้ว

     

                “เจ้าสัญญาแล้วนะ”

               

                “เออ”

     

                “ผิดคำสัญญาตกนรกนะ”

     

                “เออออ นี่ก็ตกมาทั้งชีวิตแล้ว”

     

                “ดี! งั้นมาให้พรเจ้ากัน” ถ้าหน้ายิ้มตรงหน้าเป็นหน้าคนมันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ คยูฮยอนก็จะยิ้มกลับไปตามประสาคนเกาหลีใช่ดี แต่นี่มันคือกบยิ้มอ่ะ คุณคิดภาพดิว่ามันน่าขยะแขยงแค่ไหน แค่เป็นคยูฮยอนก็ขนลุกขู่ชันแล้ว ขอร้องเลย .... ร้องไห้เนี่ยแหละ ฮื่อออ

     

                “ยักษ์จินนี่ก็ไม่ใช่อย่ามาตอแหล ไม่หลงกล”

     

                “นี่ ... เลิกสะดีดสะดิ้งแล้วมานี่เดี๋ยวนี้ เจ้านี่น่ารำคาญชะมัดเลย! ทำไมเราต้องเจอเจ้าคนแรกที่โลกมนุษย์ด้วยเนี่ย” อ่าวมาทำหน้าหงุดหงิดใส่อีก คิดว่าอยากมามากดิที่นี่อ่ะ คยูฮยอนแม่งเกิดขึ้นมาใต้ดาวเคราะห์ร้าย อยากสดุดี พ่อแม่ที่อยู่บนสวรรค์กรุณารับรู้ ตอนนี้ลูกชายกำลังลำบากยิ่งกว่าตอนทำงานอีกนะรู้ยัง ถ้าตอนนั้นพ่อแม่ไม่เอากบใส่หลัง เขาคิดว่าเขาคงร่วมภารกิจกับคุณดอร์สั้นง่ายขึ้น

     

                “ทำไมต้องให้พร”

     

                “ได้ง่ายต่อการทำภารกิจ”

     

                “แล้วใช้กลับบ้านได้ไหม”

     

                “ได้ แต่ข้าไม่ให้กลับเราล็อกตัวเลือกกลับโลกมนุษย์ไว้แล้ว”

     

                สาดดดดดดดดดดดด

     

                คยูฮยอนหน้าหงิกทันทีที่ได้ยังอย่างนั้น แม่งเอ้ย เกิดมาชีวิตโคตรแฟนตาซี เขาค่อย ๆ ดึ๊บมาอยู่ตรงหน้ากบดอร์สั้นแต่ก็ยังไม่ถึงกลับเข้าไปใกล้ขนาดนั้น ยังไงเขาก็ยังรู้สึกขยะแขยงอยู่ดีน่ะแหละ ฮื่อ

     

                “ยื่นมือมา”

     

                “จะทำอะไร จับมือทักทายไม่ต้องนะ รู้จักกันแล้ว นี่ชื่อคยูสุดหล่อ”

     

                “เลิกพูดจาเพ้อเจอสักทีเถอะ แล้วยื่นมือมา ไม่อย่างนั้นเรากระโดดใส่หน้าเจ้าแน่” คิดแล้วก็เสียวตูด... คยูฮยอนรีบหลับหูหลับตายื่นมือไปข้างหน้าทันที เอาเถอะ what will be will be คยูฮยอนจะสู้ คยูฮยอนอยากกลับบ้าน คิดถึงบ้านเชื้อราขึ้นของเขาจะแย่แล้ว

     

                “หลับตาไว้ก็ได้ เรากลัวเจ้าจะเป็นลมไปซะก่อน”       

     

                “ทำไมต้อง...”

     

                “หน้าเจ้าเหมือนมีอะไรติดนะข้าดูให้ไหม”

     

                “จ้า หลับตาละจ้า”

     

                เป็นคำที่ดูเหมือนห่วงใยแต่แม่งคือคำขู่ คยูฮยอนรีบหลับตาปี๋ทันทีและไม่นานแสงบางอย่างก็สว่างวาบขึ้นขนาดคนที่หลับตาอยู่ยังรู้สึกได้ ไม่นานนักคยูฮยอนก็รู้สึกถึงบางอย่างที่มือที่ยื่นออกไปก่อนจะตามมาด้วยความรู้สึกนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปาก

     

                อืม...อะไรว่ะ ทำไมมันนิ่ม ๆ

     

                ตาค่อย ๆ ลืมขึ้นมาเพื่อหาคำตอบ ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพบคำตอบน้ำอยู่ตรงหน้า ไอสัด... เข้าที่หน้าเลย เต็ม ๆ หน้ากูเลยเต็ม ๆ ปากกูด้วย ร้องไห้... ตอนนี้น้ำตาคยูฮยอนไหลออกมาแล้ว พร้อมกับสติที่หายไป

     

                คยูฮยอนโดนกบจูบ

     

                ไอสาดดดดด กูไม่ใช่เจ้าหญิงมั้ยล่ะ ทำไมกบต้องจูบ นี่แก้คำสาปให้กลับไปเป็นคนไม่ได้หรอกนะ ให้พรแถวบ้านเอ็งทำงี้หรอ แค่บอกพรแล้วสาธุก็จบแล้วมั้ยล่ะ ทำไมแบบนี้ทำไมมมมม

     

                พังบอกเลยว่าพัง... พอกันทีคยูฮยอนจะไม่ยอมนั่งอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว!

     

                เพราะเขาจะเป็นลมแล้วครับ คร่อก!

     

     

    .

    .

     

     

     

                ตื่นมาอีกทีก็มืดค่ำเสียแล้ว ทำไมรู้น่ะหรอ

     

                คยูฮยอนเพิ่งตบยุงที่หน้าตัวเองไปเมื่อกี้นี้เอง

     

                ร่างโปร่งงัวเงียขึ้นมาหลังจากตื่นรอบที่สองของวัน นี่เป็นลมหรือซ้อมตาย จำได้ว่าตื่นมาตอนเช้าและวิ่งหนีผีในป่าไม่ถึงชั่วโมง ทำไมหลับไปนานขนาดนี้ คยูฮยอนนี่มันตัวนอนกินบ้านกินเมืองจริง ๆ เลย แต่ก็ดีนะ ไม่ได้นอนนาน ๆ แบบนี้นานแล้ว ฟินอ่ะ -____-b

     

                “ตื่นสักที”

     

                “เหี้ย!

     

                “บอกแล้วว่ากบไม่ใช่เหี้ย -_-

     

                อื้อหือ ขนาดเป็นกบยังแสดงสีหน้าออกมาได้ดีขนาดนี้ คยูฮยอนนึกถึงหน้าเบื่อหน่ายของมันตอนเป็นคนออกทันที จำได้ว่าที่สลบไปเพราะมันโดนมันจูบนั่นแหละ นี่ไม่ได้ช็อกเพราะโดนจูบหรอก แต่ช็อกเพราะระยะระหว่างเรามันใกล้กันเกินไป บางทีเราควรจะห่างกันสักพักไหมเผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้น

     

                “นายจูบฉัน”

     

                “เขาเรียกว่าให้พร เราให้พรเจ้าไปสามข้อ จะขออะไรก็ได้ยกเว้นกลับบ้าน ใช้มันให้ดีล่ะ”

     

                “แถวบ้านนายให้พรกันแบบนี้หรือไง”

     

                “เออ!

     

                จ้ะ -_- คยูฮยอนจนใจจะเถียงแล้วเหมือนกัน รู้สึกว่าตัวเองเริ่มบ้าแล้วที่มานั่งเถียงกับกบ ไม่แน่นะ ภาพป่าทั้งหลายแหล่อาจจะเป็นแค่จินตนาการ จริง ๆ อาจจะนั่งเป็นคนบ้าพูดอยู่คนเดียวอยู่ในสวนสาธารณะที่เขาทำงานอยู่ก็ได้ แต่ความเจ็บที่ใบหน้าเพราะตบยุงเมื่อกี้มันยังคงอยู่ อืม...ถ้าไม่ฝันลึกมากก็คงเมาบุหรี่คนแถวนั้น หรือไม่เขาก็คงโดนโปะกัญชาระหว่างทางทำให้สร้างภาพหลอนได้ขนาดนี้

     

                เขาสำรวจตัวเองอีกครั้งเพราะรู้สึกถึงอะไรแปร๊บ ๆ ที่มือ พอยกมันขึ้นมาดูก็พบว่ามีลวดลายอะไรบางอยู่อยู่บนหลังมือ มันคล้าย ๆ กับใบโคฟเวอร์แต่ว่ามีแค่สามแฉก แหม เขาว่ากับว่าคนเจอใบโคฟเวอร์สี่ใบจะโชคดี แต่นี้คยูฮยอนเจอสามใบนี่จะเป็นไง

     

                “ที่มือเจ้าคือพรสามข้อที่เราให้ไป”

     

                “เห?”

     

                “รอยจะหายทุกครั้งที่เจ้าขอ ให้มันให้ดีล่ะ”

     

                “อ่า...โอเค”

     

                “เข้าใจที่เราพูดใช่มั้ย ภารกิจของเจ้าคือต้องเป็นคนทำให้เทพนิยายเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างที่ควรเป็นจนจบเรื่อง”

     

                “โจทย์ยากไปไหมล่ะ จนจบเลยหรอ”

     

                “เจ้าจะทิ้งมันไว้กลางทางหรือยังไง บ้าหรือเปล่า”

     

                “ทำ...ถูก...แล้วววววที่เธอเลือกเขา แล้วทิ้ง ฉันไว้ตรงกลางทาง...” เพลงนี่มาเลย แต่พอเจอสายตาคนอ่านแล้วเลิกร้องก็ได้ ทำไมต้องทำหน้าเอือมกันด้วยอ่ะ นี่ฟิคคลายเครียด อย่ามองแบบนั้น เค้าเขินนะ

     

                “เข้าใจใช่ไหม จนจบนะคยูฮยอน อย่าทำเป็นเล่น”

     

                “เอออออ รู้แล้วน่า”

     

                “ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้านนะ”

     

                “โด่...ทำเป็นขู่”

     

                “เข้าใจไหม”

     

                “คับ .____.” เห็นอีกฝ่ายทำท่าจะโดดก็เพลียใจ คยูฮยอนมองไปรอบตัวตอนนี้ก็พบว่ามันมืดบัดซบ มีเพียงแสงสว่างโร่จากอีกทางเท่านั้นแหละที่ทำให้เขามองเห็นทางแถวนี้ จะว่าไปเขาอยู่ในเสื้อเน่า ๆ นี่มาทั้งวันแล้วหรอว่ะ อะไรจะดับเบิ้ลเน่าขนาดนี้

     

                “ว่าแต่มีเสื้อให้เปลี่ยนไหม ไม่ดิ อยากอาบน้ำอ่ะ” เมื่อขออีกอย่างก็เพิ่มอีกอย่างไปด้วยเลยหรือกัน ยังไงถ้ามีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนก็คงมีอ่างอาบน้ำใช่ไหม ถ้าเป็นเรื่องซินเดอเรลล่าจริงยังงันก็น่าจะมีบ่อมีอะไรให้ลงไปอาบ อบ นวดบ้าง ตอนนี้ตัวเขาเหม็นเน่ามากแถมเหม็นหัวไปหมดแล้ว

     

                “มีนะ”

     

                “ไหนอ่ะ”

     

                “นั่นไง”

     

                “นั่นไหน”

     

                “บ้านซินเดอเรลล่า”

     

                “...”

     

     

    .

    .

     

     

     

     

                ครับ ไอกบดอร์สั้นมันชี้ทางสว่างมาที่บ้านนางซิน ซึ่งมันก็เป็นหนทางเดียวที่มีในตอนนี้

     

                แผนของเราก็คือ...ขโมย

     

                ใช่ขโมย...แปลยาว ๆ ก็คือการเอาของของคนอื่นมาโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของซึ่งมันผิดศีลข้อสองที่ว่า อทินนาทานา เวรมณีสิกขาปะทังสะมาทิยามิ ต่อให้คยูฮยอนไม่มีจะกินขนาดไหนเขาก็ไม่คิดคิดจะฝ่าฝืนศีลข้อนี้ แต่ตอนนี้เขากำลังทำมัน

     

                เกร๊สสสสส

     

                “ห้องของพ่อซินเดอเรลล่าอยู่ทางซ้ายมือที่เปิดไฟอยู่”

     

                “นายจะให้ฉันใส่เสื้อผ้าของคนอายุหกสิบเนี่ยนะ”

     

                “นายมีทางเลือกด้วยหรอ”

     

                “ไม่มีจ้า” ไม่มีก็บอกว่าไม่มีแล้วก้มหน้าก้มตายอมรับไป คยูฮยอนมองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่เหมือนในหนังที่เขาแอบดูตอนไปทำงานที่โรงหนังเมื่อไม่นานมานี้ มันเหมือนกันเป๊ะ ๆ เลย หน้าใหญ่บักเอ๊ก ข้างหนึ่งเป็นส่วน อีกข้างคือพวกกสิกรรมของหมูหมากาไก่ทั้งหลายที่ถูกเลี้ยงไว้

     

                ดูจากสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่ควรไปทางสวนเพราะมีคนที่เขากำลังจะไปขโมยเสื้อมาใส่กำลังนั่งจิบชาล่อยุงกันอยู่ คิดได้ยังไงว่ะเนี่ยจิบชากันตอนเอ่อ...กี่ทุ่มแล้วว่ะ ช่างมันเหอะ เอาเป็นว่ายุงแม่งเยอะมาก นี่ตบไปหลายแปะแล้ว ผิดศีลข้อหนึ่งไปอย่างแรงกล้าว่าข้อหนึ่งห้ามฆ่าสัตว์ถ้ายุงกัดเราก็ตบ เออ... ก็ไม่ผิดนี่หว่า (แปะ)

     

                ทางเดียวที่คยูฮยอนมีคือ...คอกหมู

     

                เกร๊สสสส

     

                “นายจะไปด้วยกันไหม”

     

                “ไม่ละ ในนั้นมีแมวอ้วนของแม่เลี้ยงอยู่ ถ้ายังไม่อยากตายเพราะโดนมันกัด”

     

                “เออดี”

     

                ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยคยูฮยอนก็กลายเป็นเป็นแมวย่องเบาในร่างคน เขาค่อย ๆ เดินเลียบไปตามเงามืดเพื่อไม่ให้คนในบ้านสนใจ รู้สึกว่าตอนนี้ยังมีพวกป้า ๆ คนครัวและคนใช้อยู่นี่นะ ไม่รู้ตอนนี้กลับบ้านหลับช่องกันไปหมดหรือยัง แต่คยูฮยอนคิดว่าเขาไม่ควรทำให้ตัวเองชิบหายด้วยการเดินไปเคาะประตูบ้านแล้วพูดว่า ฮาย เราขอเข้าไปอาบน้ำบ้านเธอหน่อยสิไลล่าอันนั้นก็ดูจะฮาร์ดคอร์เกินไป

     

                แต่เดี๋ยวนะ...ตอนนี้แม่เลี้ยงใจร้ายมันยังไม่เข้ามาอยู่ไม่ใช่หรอว่ะ แล้วแมวมันจะมากินกบได้ยังไง

     

                และตามคาด...หันไปอีกที ดอร์ฟินก็หายไปซะแล้ว ไอดอร์สั้นเอ้ย!!

     

                คิดคำนวณเพื่อร่วมทางที่เป็นศูนย์ก็ละเหี่ยใจ คนที่เป็นแอดไวเซอร์คนเดียวได้หายตัวไปแล้ว เจ็ทแม่ม รู้สึกถูกทิ้งไว้กลางทาง ขอร้องเพลงอีกรอบได้ไหมรู้สึกดราม่าสุด ๆ ฮื่ออออ (อย่า) โอเคไม่ร้องก็ได้ บางทีเราก็ควรเข้าสาระของเรื่องกันได้สักที (มีด้วย ?)

     

                คยูฮยอนเปิดรั้วไม้เตี้ย ๆ เข้ามาในที่เลี้ยงปศุสัตว์ทั้งหมาย ตอนนี้เขาต้องเผชิญกับเป็ดและไก่ที่อยู่ในเล้าซึ่งมันดีมากที่มันไม่ส่งเสียงดังโวยวายหรือพูดได้เหมือนในการ์ตูน เขารีบยิ้มแห้ง ๆ ให้สัตว์พวกนั้นทั้งหลายหวังว่ามันจะเข้าใจว่าแค่มาขโมยน้ำอาบและเสื้อใส่เท่านั้นเอง เสร็จแล้วจะรีบไปจริง ๆ

     

                “รู้สึกว่าจะมีทางลงไปครัวแล้วก็ขึ้นไปข้างบน...ใช่ป่าวว่ะ” ถ้าจำไม่ผิดที่เคยดูมาคือมันจะมีชั้นใต้ดินที่เป็นที่นอนของซินเดอเรลล่าตอนอึ๋ม(ตอนโต) จำได้ว่านางตื่นมาพร้อมกับในหน้าเลอะถ่านทุกวัน มันเชื่อมต่อกันหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ ต้องลอง

     

                กริ๊ก...

     

                ร่างโป่งเปิดประตูที่พ้นมาจากคอกหมูประมาณสิบเมตร รู้สึกยิ้มกริ่มได้ที่ประตูมันไม่ได้ล็อคนี่ถ้าเขาเป็นโจรจริง ๆ บ้านนี่แม่งโดนปล้นไปแล้วนะเนี่ย โธ่...นางซิน

     

                ตอนนี้บนโต๊ะวางเปล่าไม่มีอะไรเหลือเลย แต่คยูฮยอนได้กลิ่นของอะไรสักอย่างนะ มองไปที่เตาถ่านก็เจอหม้อที่ตั้งไว้อยู่ ไม่รอช้าหรอกว่าในหม้อนั้นมันมีอะไรคยูฮยอนรีบเดินเข้าไปเปิดมันทันที อย่าสงสัยว่าไม่ร้อนหรอ คยูฮยอนไม่โง่ครับ เขาฉวยผ้าขี้ริ้วมาใช้ตอนเปิดเรียบร้อย

     

                “สตูว์!!!” เหยดเป็ด เข้ามาก็เจอสตูว์เลย คงต้มไว้ให้พวกคุณ ๆ เขากินตอนเช้า บอกเลยว่าเสร็จโจรแน่ ๆ เดี๋ยวรู้เลย ขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะจ้ะนะ

     

                คยูฮยอนปิดหม้อไว้อย่างเดิมก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตูเบา ๆ แล้วย่องขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปยังชั้นหนึ่งของบ้าน นึกดีใจที่แอบหัวหน้าไปยืนดูซินเดอเรลล่าวันนั้น ต่อให้ความทรงจำมันจะเลือนลางแต่ก็โอเคแหละ อย่างน้อยเขาก็ไม่เสียเวลาไปเสี่ยงปีนหน้าต่าง ซึ่งแม่งคงไม่ง่ายเหมือนในหนังหรอกใช่ไหม

     

              “ลาเวนเดอร์ฟ้า ดิลลี่ ดิลลี่ ลาเวนเดอร์เขียว...เธอนักฉันแล้ว ดิลลี่ ดิลลี่ รักเธอผู้เดียว~

     

                โอ้มายโกสสสสสส เพลงนี้มันมาแล้ว

     

                เพลงที่มันค่อนข้างจะติดหูเพราะความไม่มีอะไรของมันนั่นแหละ ทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้นบ้านชั้นหนึ่ง(คยูฮยอนมีมารยาทครับถอดรองเท้าแล้วถือเรียบร้อย)คยูฮยอนค่อย ๆ ย่องไปตามเสียงร้องเพลงซึ่งถ้าในช่วงนี้น่าจะยังเป็นเสียงของแม่นางซินนะ ทำไมคยูฮยอนต้องเดินไปทางนั้นด้วยน่ะหรอ ก็เพราะว่าถ้าจำไม่ผิดบันไดมันจะอยู่แถว ๆ นั้นยังไงล่ะ

     

              ลาเวนเดอร์เขียว ดิลลี่ ดิลลี่ ลาเวนเดอร์ฟ้า...หากเป็นราชา ดิลลี่ ดิลลี่ รักเธอเรื่อยมา...”

     

                “เพราะจังเลยค่ะแม่”

     

                เสียงเล็ก ๆ ที่ชมแม่นั่นน่าจะเป็นนางซินหรือหนูน้อยไลล่า ครับ ชมกันต่อไปร้องกันต่อไป อย่าหันมาสนใจคยูฮยอน อย่าหันมาสนใจ  ไม่รักไม่ต้องมาแคร์ไม่ต้องมาดีกับช้านนนน~ พอ เรื่องนี้มันจะร้องเพลงเยอะเกินไปแล้ว ไม่ใช่ฟิคมิวสิคเคิล

     

                และมันก็ผ่านไปได้ด้วยดีโดยเขาไม่ได้ขอพรให้ช่วยกับเรื่องนี้ คยูฮยอนย่องขึ้นมาข้างบนได้ก็รีบจ้ำไปยังห้องเป้าหมายทันที จะรอช้าอยู่ไย เขาต้องรีบอาบน้ำทำเวลาแล้วรีบชิ่งออกจากบ้านให้เร็วที่สุด เอ้า ไฟต์โต๊ะ!

     

                “แฮ่ก แฮ่ก”

     

                เข้ามาในห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูได้โดยสวัสดิภาพ แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมห้องน้ำมันเปียกแบบนี้วะเนี่ย พ่อนางซินเพิ่งอาบน้ำหรอวะ ? แต่เมื่อกี้ตอนที่เห็นข้างล่างยังนั่งจิบชาทั้งเสื้อชุดสูตรจัดเต็มอยู่เลยนี่หว่า เออ หรือว่าเขาใส่ชุดสูตรนอนกันว่ะ

     

                แต่ช่างงงงงมันเถอะครับ อาบน้ำกันเถอะ แฮ่!

     

                จัดการล็อคประตูให้เรียบร้อยแล้วปลดเปลื้องผ้าสกปรกทั้งตัวออกแล้วเปิดฝักตัวให้แรงสุดแล้วกางแขนรับน้ำด้วยหน้าฟิน ๆ เหมือนโฆษณาครีมอาบน้ำ แม่งเอ้ย ไม่เคยรู้สึกดีที่ได้อาบน้ำขนาดนี้ ที่จริงด้านหลังนี่ก็มีอาบให้แช่นะ แต่คยูฮยอนต้องทำเวลาเขาจะมามัวแต่แช่น้ำฟิน ๆ ไม่ได้หรอก อาบน้ำพอให้หายเหม็นก็พอ

     

                “อื้อ...”

     

                “...” เฮ่ย...เดี๋ยว

     

                “อืมมมม”

     

                “...”

     

                เสียงอาร๊ายยยยยย

     

                คยูฮยอนหันหลังขวับทันที ตอนนี้หัวของเขาเต็มไปด้วยฟองสบู่ เสียงมันมาจากหลังม่านที่มีอ่างอาบน้ำนั่น ไม่ผิดแน่ ๆ ... คยูฮยอนได้ยินเสียงมาจากทางนั้น ตั้งแต่คิดว่าไอกบดอร์สั้นเป็นผีแต่มันเสือกเป็นกบที่เป็นคนได้สามนาทีคยูฮยอนก็คิดว่าเขาน่าจะแกร่งกับเรื่องผีสางพอสมควร แล้วนี่อะไร เขามาเจออะไรอีกแล้วเนี่ย ไม่ใช่ว่าคราวนี้จะมาเจอคนที่อยู่ในร่างกบได้สามนาทีนะ (เพ้อเจ้อ)

     

                เสียงแม่งมาอย่าง fifty shades of gray นี่หลุดเข้ามาผิดเรื่องรึเปล่าว่ะ

     

                คยูฮยอนคว้าผ้าเช็ดตัวที่วางไว้อยู่บนอ่างล้างหน้ามาพันเอวไว้ลวก ๆ ขาขาวค่อย ๆ ก้าวไปเรื่อย ๆ จึงถึงม่านที่ปิดอ่างอาบน้ำไว้อยู่ฟองบนหัวมันเริ่มไหลลงมาเรื่อย ๆ แต่โชคดีว่ามันยังไม่เข้าตา เสียงครางแม่งหายไปแล้วอ่ะ แค่สิ่งที่คยูฮยอนรู้สึกได้คือเงาตะคุ้ม ๆ หลังม่าน เจ็ทแม่ม... เอาแล้วไงล่ะ สิ่งนี้คืออะไร เปิดม่านทีเดี๋ยวรู้เลย

     

                เอาล่ะนะ

     

     

                วัน...

     

     

             เดือน...

     

     

                ปี...!!!

     

     

              พรึ่บ

     

     

                “...”

     

                “...”

     

                ทันทีที่ม่านเปิดออก ความจริงก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น... คยูฮยอนได้สบตากับดวงตาคู่หนึ่งที่มองเขามาตาปริบ ๆ ... ร่างของใครบางคนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกับผิวสีแทนกำลังแช่น้ำอยู่อย่างสบายใจ ตอนนี้หันมามองเขาตาโตเหมือนเจอผี ใช่ว่าคยูฮยอนไม่ตกใจเหมือนกันเสียเมื่อไหร่ แต่ไมได้ตกใจใบหน้าหล่อเหลากับสภาพตอนนี้ที่เหมือนดาราหนังโป๊หรอกนะ ที่คยูฮยอนตกใจน่ะ...

     

                อ่างอาบน้ำนี่มันไม่ได้เต็มไปด้วยฟองเหมือนในหนังนะโว่ยยยย ไม่ดิ ประเด็นมันอยู่ที่ทำไมเขาต้องมองต่ำด้วย!

     

                “อ๊ากกกกกกกกก!

     

                และเสียงประสานนี่ก็เป็นสัญญาณที่เรียกคนทั้งบ้านมารวมกันโดยไม่ได้นัดหมาย...

     

                ชิบหายแล้ว -_____-

               

               

    TO BE CONTINUED…

     

    กากกกกกกชิบหายยยยย

    55555555555555555555555

    ฟิคคลายเครียดเนอะ ถ้ามันมีแต่น้ำไปก็ขออภัย เราเครียดอะต้องการหาที่พึ่งทางใจ

    อิ___อิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×