ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC WONKYU] INTO THE TALES

    ลำดับตอนที่ #1 : TALK + INTRO

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 88
      2
      7 พ.ค. 58

    ขอโม้หน่อย(เลื่อนรัวเพื่อskip)

    สวัสดีครับ  -w- ;;; ลั่นแรงมากเยย เราเชื่อว่าหลายคนสาปแช่งเราในใจอยู่ เปิดเรื่องใหม่อีกแล้วหรอ 555555555555 มาลั่นไว้เฉย ๆ อิ___อิ

    มันเกิดจากการเพลียอากาศร้อนดั่งนรกของประเทศไทย นั่งหาอะไรดูเพลิน ๆ อู้จากหน้าที่การงานหลาย ๆ อย่างแบบดับเบิ้ล ก็ไปเจอหนังเรื่อง cinderella ซึ่งตัวเองได้เสียตังค์เฉียดสองร้อยเข้าไปนั่งดูที่นั่งฮันนีมูนแถว A คนเดียวเรียบร้อยแล้วววว

    ก็เลยมานั่งคิด แล้วถ้าเราแต่งแบบนี้ล่ะ ? มันจะธรรมดาไปป่าวว่ะ ใคร ๆ เขาก็แต่งกันอ่ะ (ลั่นเป็นช็อตฟิคมาแล้วด้วยขอบอก)

    แล้วก็ลองแอดวานซ์จินตนาการตัวเองด้วยการคิดให้มันเป็นเนื้อเรื่องใหม่ ๆ เฮ้ย...แล้วถ้าเราลองเอาตัวละครเราเข้าไปเป็นส่วนเกินของไอนิทานพวกนี้ล่ะ ?

    คนอาจจะแต่งแนว ๆ นี้กันเยอะ พวกหลุดเข้าไปในนิทานและวุ่นวายเกิดการโซเดมาคอมรักกันตลอดไปยันโลกแตกอะไรงี้ แต่เราจะมาขายการดำเนินเรื่องที่แตกต่าง มันเกิดมาจากตรงที่เรานั่งดู Cinderella แล้วมีความรู้สึกต่างจากที่มันควรจะรู้สึกนิดหน่อย จากนั้นความปัญญาอ่อนก็บังเกิด

    มันผุดขึ้นมาเต็มไปหมด ถ้าเป็นอย่างนี้ล่ะ ? ถ้าฉากนี้มันเป็นอย่างนี้ ? แล้วถ้าตรงนี้มันต่างไปจากเดิมจะเป็นยังไง ?

    แค่คิดก็สนุกแล้วคุณ...แต่คนแต่งเนี่ยจะแต่งให้สนุกได้มั้ย อันนี้ไม่รับปาก 555555555

    เอาเป็นว่า ไม่บ่นมากไปอ่านกันเถอะ !

     

     





    INTRO

     

                ความรักมักเป็นดั่งเทพนิยาย

              ... จริงหรือ ?

     

     

                สีส้มของแสงอาทิตย์ยามเย็นแผ่ไปทั่วท้องฟ้าจนมันช่างน่าดูชมสำหรับเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยตึกรางบ้างช่อง ฝุ่นควัน และความวุ่นวาย มีเพียงบางเวลาเท่านั้นที่บรรยากาศมันจะน่าพิศมัยซึ่งแน่นอนว่ามันต้องเป็นเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและตก เวลาที่ท้องฟ้าถูกอาบไปด้วยสีส้มของแสงอาทิตย์

     

                ช่วงเวลาที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของแต่ละวัน

     

                ร่างโปร่งกำเครื่องมือในมือไว้แน่นก่อนจะทอดสายตาออกไปชื่นชมทัศนียภาพยามเย็นที่เขาหลงใหล เขาเคยคิดว่าเมืองหลวงแบบนี้มันช่างน่าเบื่อหน่ายซะเหลือเกิน บ่อยครั้งที่เขามักเซ็งบ่อย ๆ กับการจราจรที่น่าหงุดหงิดในแต่ละวัน แต่พอคิดว่ายามเย็นจะได้เห็นท้องฟ้าที่เป็นสีส้มสวยงามแบบนี้เขาก็หายหงุดหงิดเป็นปลิดทิ้ง

     

                “เอาล่ะ สู้!” ส่งเสียงร้องเรียกกำลังใจตัวเอง ก่อนจะวางเครื่องมือลงและจัดการใส่ถุงมือยางสีเขียวให้มือทั้งสองข้าง และล้วงเอามาร์คปิดปากขึ้นมาใส่ไว้ มือเรียวคว้าเครื่องมือมาไว้ในมืออีกครั้ง ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเดินไปยังห้องทำงานของตัวเอง

     

                ร่างโปร่งเดินเข้ามาในห้องทำงานเหมือนทุกวัน ทอดสายตามองไปสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตน... เขาไม่เคยรู้สึกดีที่มาเดินสายนี้ ไม่คิดเหมือนกันว่าชีวิตจะมาไกลได้ขนาดนี้ เขาหลับตาลงเพื่อทำสมาธิ ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นจ้องมองยังสิ่งตรงหน้าอย่างมุ่งมั่น มือกำเครื่องมือไว้แน่น ก่อนจะกลั้นหายใจและลงมือ...

     

    ขัดมัน

     

    “แม่งเอ๊ย ป้ายก็บอกเบ้อเริ่มว่า กรุณารักษาความสะอาด แล้วนี่อะไรว่ะ ขนาดขี้ยังไม่ลงโถกันเลยไอบัดซบ พวกเอ็งไม่ได้เรียนหนังสือกันแน่ ๆ ส้นตีนนนน” สบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะจับด้ามของแปรงขัดไว้มั่นและลงความเคียดแค้นไปกันการขัดพื้นห้องน้ำอย่างรุนแรงประหนึ่งแค้นกันมาแต่ชาติบางก่อน แหงล่ะ ก็เขาต้องเจออย่างนี้ทุกวันเลยนี่หว่า !

     

    โจว คยูฮยอน พนักงานทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะ อายุ 24 ปี อดีตนักศึกษามหาลัยชื่อเกือบจะดังติดแค่ว่าตอนนั้นยังไม่มีไมค์กับลำโพงใช้ (เล่นอะไร) ตกงานมาตั้งแต่เรียนจบและชีวิตเริ่มบัดซบขึ้นเรื่อย ๆ เพราะไม่มีอะไรจะแดก พ่อแม่ก็ไปทัวร์สวรรค์กันแบบฟอเรเวอร์ ญาติมิตรสหายก็พากันตีจาก เลยตัดสินใจทิ้งความรู้ที่เรียนมาก้าวเข้าสู้ชีวิตการหาเช้ากินค่ำอย่างเป็นทางการ

     

    ถามว่าเรียนจบมาได้ไงก็ต้องบอกเลยว่าดันทุรัง เงินเรียนก็ได้จากการกู้เรียนแถมตอนนี้ยังไม่มีการใช้หนี้อะไรทั้งนั้น ลำพังแค่ขัดส้วมประทังชีวิตยังไม่ค่อยจะพอ โทรศัพท์ที่ใช้ก็เป็นรุ่นปาหัวควายไม่แตกแต่แม่งน่าจะเจ็บมาก คยูฮยอนเคยทดลองมาแล้วตอนไปเข้าค่ายที่ต่างจังหวัดเกือบโดนขวิดแถมโทรศัพท์ไม่เป็นอะไรด้วย ยังอยู่ทับกระดาษมาจนถึงวันนี้

     

    จริง ๆ ตอนเรียนเพื่อนฝูงที่พอจะมีอยู่บ้างเตือนมาแล้วว่าคณะที่เรียนน่ะ คนตกงานกันมาเป็นล้านแล้วนะ แต่ด้วยความคิดมุ่งมั่นว่าถ้าใจรักก็ไม่มีอะไรมาหยุดได้หรอก แล้วตอนนี้เป็นยังไงชีวิตกูนี่หยุดเลย หยุดที่ความบัดซบนี่แหละ

     

    แม่งงงงง

     

    ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ไอคราบเวรนี่ก็ออกยากจังว่ะมึงเป็นญาติกับปลาหมึกหรือไง เสริมพลังหนึบเข้าไปหรอ แค่คราบปกติก็ก็เสียพลังจากไปกับพวกมึงมากแล้ว เดี๋ยวนี้หัดแอดวานซ์หรือ เดี๋ยวมึงเดี๋ยว

     

    “ไอเวร” พอลงมือขัดแรงไปหน่อยแปรงแม่งก็หลุดมือไปอยู่ตรงซอกชัดโครก เออ ดีชีวิตกูต้องมานั่งขัดขี้คนอื่นไม่พอ กูยังได้ใกล้ชิดกับส้วมระยะสิบมิล ไม่มีอะไรวีไอพีกว่านี้อีกแล้ว คยูฮยอนอยากจะสดุดีแด่ความเฮงซวย

     

    “....”

     

    เขร้

     

    “....”

     

    ไม่นะ

     

    “...”

     

    “..อ๊บ...”

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกก” คนเกลียดสิ่งมีชีวิตน่าขยะแขยงทุกชนิดบนโลกแหกปากลั่น ถึงกับถอยหลังและลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้นห้องน้ำ เจทแม่ม ! เมื่อกี้มันอะไรว่ะ ถ้าคยูฮยอนจำไม่ผิดไอสัตว์ตัวตะปุ่มตะป่ำ นั่นมันคือสิ่งมีชีวิตที่เขาเรียกว่ากบ

     

    แม่... น้องยอนเกลียด T----T

     

    “อ๊บ”

     

                “ไปไกล ๆ กูเลย ไอกบเวร อยู่ให้เหล่าดินสอดีดีไม่ชอบใช่มั้ย ซั๊ซซซซ” ต่อให้จะกลัวแค่ไหนแต่ปากก็ยังไม่ละทิ้งหน้าที่การงานของมัน คนกลัวกบรีบออกมาจากห้องน้ำทันทีก่อนจะถอยจนชิดขอบอ่างเพื่อความปลอดภัยกันมันกระโดดตามออกมา

     

    และมันก็จริง... แม่งกระโดดออกมาจากห้องส้วมนรกแล้ว แง้

     

    พนักงานทำความสะอาดดีแต่ปากแทบจะปีนขึ้นไปนั่งบนอ่างล้างหน้า นี่ถ้าไม่ติดว่ากลัวต้องเสียค่าซ่อมบำรุงทีหลังเนื่องจากน้ำหนักที่เกินขนาดอ่างล้างหน้าจะรับไหว คยูฮยอนบอกเลยว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างนึงเลยล่ะ คยูฮยอนไม่ไหวแล้วอ่ะ จะเป็นลม

     

    “อ๊บ”

     

    “ไม่ต้องมาส่งเสียงร้อง เอ็งจะไม่ได้รับการตอบกลับอะไรทั้งนั้น”

     

    “อ๊บ”

     

    “ยัง... ยังอีก ไปไกล ๆ กูเลยนะเว่ย”

     

    “อ๊บ”

     

    “ฮื่อ อีพ่ออีแม่ T-----T

     

    นึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่ขึ้นมาทันที คยูฮยอนยังจำได้ติดตา สาเหตุที่เขากลัวเจ้าสัตว์พวกนี้ก็เป็นเพราะพ่อแม่เขานั่นแหละ วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักและมันก็มีกบตัวนึงกระโดดเข้ามาในบ้านตอนแรกก็ไม่กลัวนะครับ แต่สองสามีภรรยาของบ้าน ดันจับกบและมาหย่อนใส่เสื้อของน้องยอนด้วยความหรรษา เท่านั้นแหละแหกปากลั่นบ้านแข่งกับเสียงฟ้าร้อง เขายังจำสัมผัสน่าขนลุกที่หลังได้จนถึงวันนี้ แหวะ

     

    นึกคาดโทษสองผัวเมียที่ตอนนี้ไปสบายอยู่บนสวรรค์แล้วเหมือนกัน ทำไมต้องสร้างปมไว้ให้ลูกชายตัวน้อยด้วยไม่เข้าใจ

     

    “อ๊บ” มันยังคงส่งเสียงร้องให้คยูฮยอนรู้สึกขนลุกชูชันไปยันร่องตูด

     

    ดวงตากลมยังมองสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ นี่เขาถอยมาจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกับอ่างล้างหน้าแล้วนะ อีกนิดเดียวคงฟีจเจอร์ริ่งเป็นผัวเมียแต่งกินกันได้แล้ว แต่ว่าคยูฮยอนคงไม่วิปริตพอจะทำอะไรแบบนั้นได้ ขอโทษที

     

    “เฮ้ย...ห้องนั้นมันเปิดตอนไหนว่ะ”

     

    ความควายเข้าแทรกโดยเฉียบพลัน คยูฮยอนมองไปยังเข้ากบตัวน้อยที่เขาชิงชังตอนนี้มันได้กระโดดเข้าไปในห้องส้วมห้องสุดท้ายซึ่งมันไม่เคยเปิดให้ใช้ ตั้งแต่คยูฮยอนมาทำงานนี้ก็จำได้ว่ามันเป็นห้องที่ชำรุดแถมยังไม่มีใครมาซ่อมอีก จนต้องปิดมันไว้เพื่อกันไม่ให้คนที่เขาไม่รู้อีโหน่อีเหน่เข้าไปรับเคราะห์กรรมในห้องนั้น

     

    คยูฮยอนจำได้ว่ามันปิดอยู่นี่หว่า

     

    “งงเลย” และแล้ว...ความอยากรู้เข้าแทรกในกายหยาบ คยูฮยอนค่อย ๆ ถอยออกมาจากอ่างล้างหน้าแล้วเดินไปที่ห้องนั้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

     

                ถึงจะรู้ว่าในห้องนั้นมันมีสิ่งมีชีวิตน่าขยะแขยงที่สุดในสามโลกยังไงคยูฮยอนก็ยังงงอยู่ดีว่าประตูแม่งเปิดตอนไหน ได้ยังไง ก็เขาอยู่ในนี้ตลอดแล้วเมื่อกี้ตอนเข้ามาแม่งก็ยังปิดอยู่เลย...

     

    รึเปล่าว่ะ ?

     

    ไม่รอช้ายายาว ๆ ค่อย ๆ ก้าวไปที่ห้องส้วมห้องสุดท้ายที่ถูกปิดตายมานาน หรือว่าช่างเขามาจัดการซ่อมสวมแล้วว่ะ... คยูฮยอนค่อย ๆ ก้าวเข้าไปในห้องสวมห้องนั้นอย่างอยากรู้อยากเห็น ใจนึงก็กลัว(กบ) หรอกนะ แต่คนที่ชีวิตผูกพันกับส้วมประหนึ่งญาติแบบเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าห้องสวมนี้มันมีความลับใช่มั้ย

     

    “ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่หว่า” พอเข้ามาแล้วก็พบเพียงส้วมเปล่า ๆ กับสนิมเต็มคอห่าน เห็นแล้วรู้สึกเหมือนอะไรสักอย่างเหลว ๆ เลยแหะ อี๋แหยะ =_=

     

    เขาคิดว่าตัวเองไม่สามารถทนอยู่ในห้องนี้ได้อีกต่อไป ต่อให้มันจะไม่เลวร้ายเหมือนห้องอื่นที่บางวันก็มีขี้เป็นก้อน ๆ ลอยอืดอยู่ในคอห่านซึ่งมันเป็นภาพที่คยูฮยอนชินตาแต่ไม่ชินใจสักกะที เห็นแล้วยังรู้สึกสะพรึงขนลุกชูชันทุกครั้ง เนี่ย แค่นึกถึงเขายังรู้สึกอยากอ้วกเลยอ่ะ =_=

     

    ทำงานต่อเถอะ... บอกกับตัวเองแบบนั้นก่อนจะกลับหลังหันและ...

     

    “ว๊ากกกกกกกกกก” ไอ...ไอกบเวร

     

    แม่งยืนดักหน้าประตูอ่ะ ส้นตีนนนนนน คยูฮยอนขอร้องเพลงนี้ใส่เลย ในวันนี้แค่ฉันเห็นเธอ ความเข้มแข็งมันก็ละลายยยย ตั้งแต่เจอเธอยืนหน้าประตู ฮื่อฮือออออ T---T รู้ว่าเขากลัวแล้วยังทำตัวแบบนี้อีกหรอ อีกบจังไร

     

    และนั่นเป็นสาเหตุให้ตอนนี้ก้นคยูฮยอนมาแหมะอยู่ที่ขอบชักโครกสนิมนี่เรียบร้อยแล้ว...

     

    ให้ตายเถอะโรบิ้น ถ้าลุกตอนนี้นี่พี่แย่แน่อ่ะโรเบิร์ต

     

    ไอกบเวรมันเริ่มกระโดดเข้ามาใกล้เขาแล้ว อะไรว่ะ อย่างกับอ่านใจได้ว่าเขากลัวมัน ร่างโปร่งยกเท้าขึ้นมาเหนือพื้นเพื่อความปลอดภัย มือสองข้างส่งไปเท้าผนังห้องเพื่อให้ทรงตัวอยู่ เกิดเป็นคยูฮยอนแม่งลำบาก หน้าตาดีแล้วเสือกมากลัวกบอีก ฮ้อย

     

    “อ๊บ”

     

    “อย่าเข้ามานะโว้ยยยยยยยย” สติจะแตก ตั้งแต่เคยสัมผัสกบที่แผ่นหลังก็ไม่ได้เห็นมันในระยะใกล้ขนาดนี้มานาน คยูฮยอนส่งสายตากลัวขาดใจไปให้มันที่มาหยุดอยู่หน้าชักโครก ลังเลอยู่นานว่าจะกระโดดหรือไม่กระโดดดี ย้ำคิดย้ำทำ ไอห่า ทำไมมึงต้องทรมานกู อีกบใจทมิฬ

     

    “อ๊บ”

     

    “ถ้ากูรอดไปได้กูจะให้ป้าอึ่งมาจับมึงไปย่างเสียบไม้”

     

    “อ๊บ”

     

    “มึงหยุดตรงนั้น ห้ามกระโดดเด็ดขาด”

     

                “อ๊บ”

     

                “อย่านะ”

     

                “....”

     

                “เหี้ย!!!

     

                พรึ่บ

     

                ซ่า ๆ ๆ

     

                เสียงชักโครกดังขึ้นเมื่อมือที่คลำสะเปาะสะปะของคยูฮยอนดันไปโดนที่กดชักโครกเข้าเพราะความกลัวที่มีต่อเจ้ากบที่แม่งกระโดดขึ้นมาบนขาเขาแล้ว ดีออกกกกก คยูฮยอนจะเป็นลมแล้วครับ ไม่ไหวแล้วรู้สึกโลกหมุนติ้ว กบอ่ะแม่ กบมันอยู่ตรงขาน้องยอนอ่ะแม่!!!!

     

                ภาพตรงหน้าเริ่มหมุนติ้วจนน่าเวียนหัว คยูฮยอนมองเจ้ากบที่อยู่ตรงขาเป็นภาพวงเวียน และไม่นานเจ้ากบตัวนั่นมันก็กระโดดออกจากกขาเขาไปแล้วแต่ภาพที่หมุนติ้ว ๆ นี่ก็ยังไม่หายไป มือยื่นไปข้างหน้าเพื่อหมายจะคว้าประตูห้องน้ำเพื่อออกไปข้างนอก บางทีเขาอาจจะเมามวลสารในห้องนี้ก็เป็นได้

     

                แล้ว... ทำไมประตูมันไกลขนาดนั้นว่ะ ?

     

                เดี๋ยวดิ... มันไม่ได้ห่างออกไป...

     

                เขาโดนดูดลงไปในชักโครกสนิมนี่ต่างหาก...

     

                “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

     

                ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นว่ะเนี่ยยยยย!!!!

     

     

    .

    .

     

     

    “เหนื่อยหน่อยนะคะ”

     

    “ครับ กลับบ้านดีดีนะครับ”

     

    ร่างสูงในชุดพนักงานเงินเดือนบอกลาเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่อยู่แผนกเดียวกัน นึกถึงสายตาหวานเยิ้มที่หล่อนมองตาละห้อยมาตอนแยกกันเมื่อกี้แล้วรู้สึกขนลุกชูชันไปหมด เอาเถอะ... เขาก็เข้าใจนะว่าตัวเองหน้าตาดีในระดับนึง แต่ตอนนี้เขายังไม่คิดจะมีใครหรอก ลำพังแค่เงินเดือนที่ได้ยังไม่พอจะยาไส้

     

    ชเว ซีวอน พนักงานบริษัทส่งออกกางเกงในชื่อดังที่เพิ่งเข้ามาบรรจุได้เพียง 2 ปี อายุอานามก็ปาเข้าไป 26 ปีแล้ว ซีวอนคิดว่าการเข้ามาทำงานแผนกบัญชีของบริษัทชื่อดังด้วยเกรดเฉลี่ยค่อนข้างหน้าตาดี ถึงจะไม่ได้ขนาดเกียรตินิยม แต่ซีวอนคิดว่าเขาก็หัวดีพอสมควร และในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาเขาเต็มที่ให้บริษัทและทำงานดีมาตลอด

     

    แต่นี่อะไรอ่ะ เงินเดือนเท่าแมวดมนี่มันอะไร

     

    แค่คิดว่าสิ้นเดือนต้องจ่ายค่าอะไรบ้างก็รู้สึกอยากยกตีนที่เดิน  ๆ อยู่นี่ขึ้นมาก่ายหน้าผากแล้ว เงินเดือนที่ได้มาหักค่าโน้นนี่นั่นแล้วมันก็เหลือไว้เพลิดเพลินกับชีวิตไม่เท่าไหร่ ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับชีวิตมนุษย์เงินเดือน เอาเถอะ ถ้าหาที่ใหม่เขาก็คิดว่ามันคงเป็นไปได้ยาก

     

    ทน ๆ ไปก่อนรึกันเขามักคิดกับตัวเองอย่างนี้บ่อย ๆ

     

    แต่ตอนนี้... ชเวทนไม่ไหวแล้วครับ

     

    “แถวนี้มีห้องน้ำมั้ยว่ะเนี่ย” ตามนั้นล่ะครับ…

     

    เหตุเกิดจากเมื่อตอนกลางวันมีการนัดปาร์ตี้สังสรรค์เล็ก ๆ ระหว่างทานข้าวเที่ยง คือการสั่งข้าวเหนียวส้มตำปูปลาร้าอะไรเถือก ๆ นี้มาจกกันตามประสาพนักงานบริษัท ซีวอนที่ตีเนียนไปแดกฟรีกับพวกผู้หญิง ก็อิดออดจะกินไม่ได้เลยต้องจกข้าวเหนียวส้มตำไปกับเขาด้วย แล้วยังไง... ผลลัพธ์มันก็ออกมาแบบนี้

     

    และสวรรค์ก็ยังไม่ทอดทิ้งเขาเมื่อพระเจ้าประทานห้องน้ำสาธารณะมาให้

     

    ร่างสูงรีบใส่เกียร์หมาพุ่งเข้าใส่ทันที จะว่าไปนี่มันก็เป็นทางที่เขาเดินผ่านเพื่อไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านประจำ เขามักจะเห็นพนักงานทำความสะอาดเวลานี้เสมอ แต่วันนี้ไม่มีแหะ เออ...ดีเหมือนกันเวลามีเสียงปู๊ดป๊าดจะได้ไม่ต้องมานั่งระแวง

     

    ปัง... เปิดประตูเข้าไปห้องแรก

     

    อืม... งูมานอนอะไรในห้องน้ำว่ะ

     

    ถึงกับหน้าซีดเมื่อเจอสิ่งปฏิกูลที่ลอยอืดอยู่ในคอห่าน ซีวอนขอเรียกมันว่างูเหลืองรึกัน... ไม่ได้พิมพ์ผิด แม่งเหลืองจริง ๆ ไอห่า นี่ก่อนมาปลดทุกข์ที่นี่มึงไปแดกอะไรมา แล้วไม่กดส้วมด้วยนี่มึงคิดอะไรอยู่ คิดจะฆ่าคนทางอ้อมให้มั้ย ไอฆาตกร

     

    ห้องนี้... ขอผ่าน

     

    ปัง...

     

    อืม... คราวนี้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่เอ็งควรอยู่ให้มันเป็นที่เป็นทางหน่อยมั้ย ?

     

    ร่างสูงทอดสายตามองไปยังก้อนเจดีย์ปลายแหลมที่มันไม่ได้อยู่กะร่องกะหลีบ อาจจะเป็นเพราะห้องนี้โถส้วมเป็นแบบนั่งยอง แต่เอ็งก็ควรกะระยะให้มันลงได้มั้ยล่ะ สายตาเอียงหรอ ตัดแว่นหน่อยมั้ย ? นึกสงสารพนักงานทำความสะอาดของที่นี่ขึ้นมา ทนทำงานได้นี่สุดยอดมาก ซีวอนขอนับถือความถึกและจิตใจที่เข้มแข็ง (อาเมน)

     

    ไม่รอช้า ซีวอนรีบปิดประตูเสียงดังและผละออกไปทันที

     

    ปัง...

     

    แม่เจ้า... อนาคอนด้า

     

    มือรีบยกขึ้นมาปิดจมูกโด่ง ๆ ของตัวเองทันที อะไรว่ะเนี่ย การไล่สีไล่โทนแบบนี้คืออะไร เอิร์ธโทนมากมั้ยอ่ะ ก่อนหน้านี้ไปกินอะไรมาทำไมมันทั้งหนาทั้งอวบขนาดนั้น คนแถวนี้เขาไม่คิดจะราดจะกดส้วมกันบ้างเลยใช่ไหม ทำไมนิสัยเสียแบบนี้ นี่น้ำตาซึมแล้วนะ จะร้องไห้แล้ว ซีวอนคิดถึงบ้านคิดถึงครอบครัว ชีวิตเงินเดือนน้อยไม่พอนี่กะจะให้เขาอายุสั้นอีกใช่ไหม ไม่ไหวแล้วนะ ซีวอนจะไม่ทนแล้ว

     

    *เบะปาก*

     

    ไม่ต้องรอให้ยืนร้องไห้เป็นเด็กสามขวบ เขารีบผละออกจากห้องนั้นและปล่อยให้อนาคอนด้ามันนอนอยู่ในนั้นอย่างสงบต่อไป

     

    “ห้องสุดท้าย ถ้าเจออะไรอีกกูยอมขี้ใส่กางเกง” ปฏิญาณกับตัวเองไว้มั่นก่อนจะก้าวไปที่ห้องสุดท้ายและเปิดประตูไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

     

    “คุณพระ...”

     

    นี่มัน....

     

    จีซัสไครรรรรรรรรรรรรรรส์ TwwwT

     

                ทันทีที่เปิดเข้ามาในห้องสุดท้ายซีวอนก็รีบพุ่งเข้าไปจับจองที่นั่งทันที รู้สึกเหมือนตัวเองเจอโอเอซิสท่ามกลางทะเลทรายที่แสนแห้งแล้งและโหยร้าย แถมห้องนี้ยังดูสะอาดสะอ้านเหมือนไม่เคยมีใครเข้ามาใช้บริการ ถึงโถส้วมจะมีร่องรอยสนิมอยู่บ้างแต่ก็นับว่าสะเทือนใจน้อยที่สุดแล้วล่ะ

     

                “อ๊บ” สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงสิ่งมีชีวิตดังขึ้นจากพื้นห้องน้ำ ซีวอนที่กำลังนั่งขี้ไปเล่นโทรศัพท์ไปถึงกับเกือบยืนขึ้น ถ้าไม่ติดว่าขี้ยังติดตูดอยู่เขาก็คงทำแบบนั้น

     

                “กบ ? เข้ามาได้ไงว่ะ” ซีวอนไม่ใช่พวกกลัวอะไรแบบนี้ เขาแมนพอจะมองว่ามันเป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่น่ารักอย่างนึงบนโลก ดูผิวหนังที่ยืดหยุ่นและขรุขระนั่นสิ ลูบไปคงมันส์มือน่าดูเลย

     

                “มานี่มา” เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าไปเมื่อเจออะไรที่มันน่าสนใจกว่า บางทีเขาก็ควรจะทำอะไรนอกจากเล่นโทรศัพท์เสียบ้าง มือยื่นลงแตะที่พื้นเพื่อให้เจ้ากบมันกระโดดขึ้นมาบนมือของเขา

     

                และมันก็ขึ้นมาจริง โอ้อเมซิ่งอินเดอะฟล็อก

     

                งับ!

     

                ... แล้ว.... กัดกูทำไม

     

                แม่เจ้า กบมันกัดอะ ผมโดนกบกัดดดดดดดดด

     

                “เจ็บบบบบบบบบบบ” ไม่น่าเชื่อ ! เกิดมาทั้งชีวิตเพิ่งรู้ว่ากบแม่งกัดได้ด้วย มึงจะแอดวานซ์โตไปเป็นหมาหรือไง กระโดดอยู่ดีดีไม่ชอบใช่มั้ย

     

                ว่าแล้วก็สะบัดมือด้วยความเจ็บอย่างลืมตัวจนเจ้ากบลอยลิ่วจากมือเขาไปนอนแหมะอยู่ที่พื้นอย่างน่าอนาถ แต่มันยังไม่ตายนะครับ แม่งลุกขึ้นมานั่งมองหน้าเขาแล้ว

     

                ซ่า ๆ ๆ

     

                ว่าแต่... เสียงชักโครกดังได้ยังไงว่ะ

     

                ซีวอนมองที่มืออีกข้างของตัวเองที่ตอนนี้มันไปแหมะอยู่ตรงที่กดชักโครกตอนไหนก็ไม่รู้ คงเป็นตอนที่ตกใจที่โดนกบกัดล่ะมั้งมือมันเลยปัดป่ายไปทั่ว ซีวอนไหวไหล่อย่างไม่สนใจอีกต่อไปก่อนจะยื่นมือไปเมื่อจะคว้าสายฉีดตูด

     

                เอ๊ะ... ไหนล่ะ

     

                ว่าแต่... ทำไมรู้สึกหมุนติ้วแบบนี้ว่ะ!!!

     

                “อะไรว่ะเนี่ย ?!” โพลงออกมาจากตกใจเมื่อรู้สึกถึงแรงดูดที่ตูดอย่างรุนแรง ภาพตรงหน้าเริ่มหมุนติ้ว ๆ ประหนึ่งเล่นเฮอร์ริเคนในสวนสนุก ประตูห้องน้ำกับเจ้ากบตัวปัญหามันกลายเป็นภาพที่เริ่มไกลไปทุกที และไม่นานทุกอย่างก็สว่างวาบ

     

                นี่มันเกิดอะไรขึ้นว่ะเนี่ยยยยยยยย

     

                ไม่ดิ ที่สำคัญกว่านั้น....

     

                “กูยังไม่ได้ล้างตูดเลยนะเว่ยยยยยย”

     

     

     

    TO BE CONTINUE…

    ฟิคบ้าอัลไลลลลลลล

    ลั่นอ่ะบอกเลย ออกมาแนวนี้ได้ไงไม่รู้ 555555555555

    คือชื่อเรื่องไม่ออกเลยเอาตรง ๆ มันเลยรึกัน

    ใครมีชื่ออื่นมาเสนอบอกได้เลยเน้

    ไปแยะ บัย

    #วอนคยูอทดท

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×