คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
INTRO
เปรี้ยงงงงงงงงงงง!!!
“หายไปหรือ เจ้าหมายความว่ายังไง!!” เสียงเกรี้ยวกราดตลาดลั่นดังไปทั่วห้องโถงของปราสาทขนาดใหญ่แข่งกับเสียงสายฟ้า ทำเอาบรรดาทหารที่เข้ามารายงานต่างสะดุ้งกันพัลวัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงบรรยากาศด้านนอกที่มีเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้างตลอดเวลาแต่เชื่อเถอะว่ามันไม่น่ากลัวเท่าคนมีอำนาจตรงหน้าตอนนี้เลยสักนิด
“ขะ..ขออภัย...พวกเราตามไปแล้วแต่เพียงเสี้ยววินาทีสัมผัสของมันก็หายไปพะยะค่ะ...ตะ..แต่พวกข้าก็ได้สร้างความเจ็บปวดให้มันไม่ใช่น้อย” เสียงสั่นๆของนายทหารตรงหน้าบ่งบอกได้ถึงความกลัวที่มีต่อคนตรงหน้าได้ไม่น้อย ร่างกายในชุดของทหารมันสั่นเทาไปหมด น้ำเสียงสั่นๆรายงานและให้เหตุผลไปด้วยความกลัวและก้มหน้างุดเมื่อรู้สึกถึงสายตาพิโรธของคนตรงหน้า
สายตาที่พร้อมจะฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ
แต่คำพูดแก้ตัวนั่นกลับทำให้ผู้เป็นนายยิ่งพิโรธมากขึ้นไปอีกเท่าตัว
“เจ้ารู้ใช่มั้ยว่าการที่เจ้าปล่อยให้มันหนีไปได้มันส่งผลต่อข้ายังไง!!!”
เปรี้ยงงงงงง!!!!
“อ๊ากกกกกกกกกก...” หากคราวนี้ไม่ใช่เสียงสายฟ้าจากด้านนอก แต่เป็นพลังมหาศาลที่ประทะเข้าที่ร่างของนายทหารจนร่างกายนั่นกระเด็นไปกระทบกับกำแพงอย่างแรง เลือกจำนวนมากกระอักออกมาเพราะการประทะ
“ไร้น้ำยา น่าสมเพท...เอามันไปเก็บ ข้าไม่ต้องการทหารที่ไร้ความามารถ” สิ้นเสียงที่ไร้ซึ่งความปราณีต่อพวกทหารโง่เง่าที่ทำพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหล่าทหารที่มองดูความเป็นไปของเพื่อนทหารด้วยกันก็กรูเข้ามาลากร่างที่แทบจะไม่เหลือเค้าเดิม เลือดที่ท่วมร่างกายเป็นคำตอบได้อย่างดีว่าพวกเขาไม่ควรไปขัดคำสั่งคนมีอำนาจแม้จะสงสารเพื่อนที่ร่วมการฝึกมาด้วยกันก็ตาม
พวกเขารู้ดีว่าความหมายของคำว่า เก็บ คืออะไร...
“ใจเย็นสิท่าน ใช่ว่ามันจะหายจากโลกไปอยู่ภพอื่นสักหน่อย” เสียงทุ่มดังออกมาจากด้านหลังของม่านก่อนจะปรากฏร่างของใครอีกคนที่ยังคงยิ้มอารมณ์ดี แม้ว่าเจ้านายเหนือหัวของพวกเขาตอนนี้จะพิโรธจนแทบจะทำลายทุกสิ่งที่ขว้างหน้าอยู่แล้ว
“มันหายไป หายไปได้ยังไง!!!” เสียงเกรี้ยวกราดยังคงเต็มไปด้วยโทสะ ร่างที่เปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาลพยายามข่มอารมณ์และหลับตาแน่นเพื่อเพ่งสมาธิอยู่สักพัก ก่อนจะลืมตาขึ้นมา สายตาที่ก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยโทสะกับแทนที่ด้วยความสงสัย "ไม่มี... สัมผัสของมันหายไป"
“หมากตัวสำคัญหายไปแบบนี้ท่านก็แย่สิท่านจอมเวทชางมิน~”
“ข้าคือราชา!!!”
“ในเมื่อท่านยังไม่ได้พลังนั่นมาครอบครอง ท่านก็เป็นแค่จอมเวทที่ยึดปราสาทของราชาได้เท่านั้น”
“ถ้าคิดจะมายั่วโมโหให้ข้าอยากจะฆ่าเจ้าเหมือนทหารนั่น ก็ไปตามหามันมาให้ข้าไม่ดีกว่าหรือไง คังอิน!!” สายตาที่เต็มไปด้วยความโมโหถูกส่งมาให้คนที่ยังยิ้มกวน ๆ มาไม่เลิกรา การถูกพูดความจริงใส่ไม่ว่าใครก็ต้องโกรธเป็นธรรมดาแต่หากเพราะเจ้าของรอยยิ้มกวนอารมณ์ยังมีประโยชน์ต่อเขามากในภายภาคหน้าเขาจึงต้องสะกดอารมณ์ไว้ให้ไม่ลงไม้ลงมือ
“ไม่ใช่ธุระของข้าสักหน่อย ถ้าให้ข้าไปเปื้อนเลือดกับทหารพวกนั้นข้ายอมกินเจ้าเบอร์รี่พิศดาลนี่ยังจะดีกว่า” คังอินว่าพลางเด็ดเจ้าผลไม้ที่ว่าที่วางอยู่บนโต๊ะมาเข้าปาก แต่หากรสชาติฝาดร้อนทำเอาเขาต้องยี้หน้า ให้ตายเถอะต่อให้กินเข้าไปเท่าไหร่มันก็ยังชวนอ้วกได้ทุกทีสินะ
“มือไม่ยอมเปื้อนเลือดในขณะที่เข้าเป็นจอมเวทแห่งสงครามอย่างนั้นหรือคังอิน”
“นั่นมันแค่สมยานามที่พวกไร้ฝีมือตั้งให้ข้าสมัยเรียนเท่านั้น และอีกอย่างข้าไม่อยากให้มือข้าเปื้อนเลือดพวกชั้นต่ำ”
“หึ...แต่ดูจากเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อนขาว่ามันไม่ใช่แค่สมยานามหรอนะ” น้ำเสียงเย็นๆของผู้ที่ยึดบัลบัลลังราชาได้ถูกส่งมาให้คังอินที่ยืนเด็ดเจ้าผลไม้รสประหลาดโยนออกไปนอกหน้าต่างเล่นเพราะรู้สึกยี้กับมันเต็มทน
“ท่านก็พูดไป ข้าแค่ทำตามหน้าที่ที่ท่านมอบหมายมาให้ข้าเท่านั้น” จอมเวทที่ได้รับฉายาว่าเป็นจอมเวทแห่งสงครามยังคงพูดไปด้วยทีหน้ากวนๆที่เป็นที่เอกลักษณ์แต่หากมันกลับทำให้ผู้เป็นนายแสยะยิ้มและคิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อน
อาณาจักรที่สวยงามก่อนหน้านี้ ถูกทำลายภายในไม่ถึงห้านาทีด้วยฝีมือของคังอิน
ไม่ว่าจะสิ่งมีชีวิตหรือไม่มี ทุกอย่างล้วนถูกทำลายไม่เหลือซาก
“แล้วท่านจะทำยังไงต่อไปเล่า ในเมื่อเจ้านั่นหายไปแล้ว” คังอินหันมาถามด้วยสีหน้าจริงจังขึ้นมานิดหน่อย เมื่อสถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก เมื่อปล่อยให้หมากตัวสำคัญหายตัวไปการจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก
หึ...แต่จอมเวทระดับสูงอย่างชางมินไม่จนตรอกกับเรื่องแบบนี้หรอก
“ถ้าสัมผัสนั่นหายไปแล้วในโลกนี้ เจ้าว่ามันจะไปอยู่ไหนได้กันเล่า” จากสายตาพิโรธตอนแรกกลับเปลี่ยนเป็นสายตาเจ้าเล่ห์ทันใด ลองมาคิดดูดีดีถ้าสัมผัสของ มัน ไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้วก็มีอยู่ที่เดียวที่จะเป็นที่ให้เหยื่อไปหาที่ซุกหัวหนีล่ะนะ
“หรือว่าจะ...แต่ท่านไม่คิดบ้างหรือว่ามันจะใช้เวทบิดเบือนสัมผัสให้เราหาไม่เจอ”
“ต้องหนีเราแถมยังต้องต่อสู้ไปด้วยอีก เจ้าคิดว่ามันจะเหลือพลังมาใช้เวทบิดเบือนที่ต้องใช้พลังจำนวนมากหรือไง แค่รักษาตัวเองข้าว่าก็น่าจะอ่อนแรงเต็มทีแล้ว”
“แต่ใช่ว่ามันจะเป็นพวกกระจอกซะเมื่อไหร่ ”
“หึ... ข้ารู้ขีดจำกัดของเจ้านั่นดี” ชางมินว่าพลางแสยะยิ้ม นึกถึงใบหน้าสุดท้ายที่มองเขามาด้วยความเกรี้ยวโกรธนั่นมันทำให้เขารู้สึกดีไม่น้อย ไหนจะเลือดที่ไหลซึมลงมาที่มุมปากนั่นแล้วมันทำให้เขาอยากจะฝากความเจ็บปวดไว้อีกไม่ไหวแล้ว สภาพครั้งสุดท้ายที่เจอก็ร่อแร่เต็มที แถมนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วการตามล่าและการปะทะที่ไม่สิ้นสุด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอ่อนแรงขนาดไหน
“ดูท่านจะมีความสุขเหลือเกินนะ ท่าทางโมโหจนจัดการทหารไปนายนึงเมื่อกี้มันหายไปไหนกัน”
“แน่นอนสิ ยิ่งหนีไปอยู่ในโลกนั้นก็ยิ่งตามง่ายขึ้นไปอีก”
“จะให้ข้าส่งทหารไปเลยไหมล่ะท่านอนาคตราชา”
“หึ ล้อข้าเข้าไปเถอะ เมื่อข้าได้เป็นราชาเมื่อไหร่ข้าจะใช้งานเจ้าให้สมกับอำนาจที่ข้ามีเลยทีเดียว ส่งคนของเจ้าไป ข้าอยากรู้นักว่าถ้าอยู่ในโลกแบบนั้นยังคิดจะสู้จะหนีอีกมั้ย” คิดไปก็เริ่มสนุก หึ...เอาสิกับโลกแบบนั่นเจ้าจะต่อสู้โดยใช้พลังควบคุมหลายๆอย่างเอาไว้ได้อย่างไร ให้ข้าได้เห็นหน่อยเถอะ
กับโลกมนุษย์ที่ไม่มีเวทมนต์มีแต่มนุษย์ที่แสนอ่อนแอ เจ้าจะสู้และขัดขืนยังไงข้าอยากจะเห็นเสียจริง
“เห็นท่านยิ้มแบบนี้ทีไรข้าอยากจะกระโดดถีบท่านให้เหมือนตอนสมัยเรียนสักทีเสียจริง”
“อย่าพูดมากคังอิน รีบไปทำงานของเจ้าได้แล้ว”
“รับทราบพะยะค่ะ ท่านอนาคตราชาแห่งโลกเวทมนต์”
TO BE CONTINUE…
NEXT ; CHAPTER 1:: BEGIN...
ลาก่อย... (กระโดดหมุนตัวรอบบ้าน)
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
ความคิดเห็น