คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ►Cinderella l part 1 :: แรกพบสบ...ตา
►Cinderella
Part
I :: แรกพบสบ...ตา
เสียงนกร้องยามเช้าช่างน่าภิรมย์ แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องมาที่ยอดต้นไม้กระทบกับน้ำค้างยามเช้ามันเป็นตัวส่องประกายได้เป็นอย่างดี สายลมเย็น ๆ ที่พัดมาทำให้หลายคนอยากนอนอืดอยู่บนเตียง ใครจะบ้าอยากลุกไปทำงานกันล่ะ นอกจากคนอย่างคยูฮยอนเท่านั้นแหละที่รับจ็อบส่งนมอุ่น ๆ ตอนเช้ามืด
เช้า...มืด...
เดี๋ยวนะ
เหมือนเมื่อกี้จะเจอคำว่าแสงแดดด้วยหรือเปล่า(ให้เวลาย้อนไปอ่านสิบวินาที)
ชิบหาย
“สายแล้ววววววว”
คนที่นอนหลับสบายเด้งตัวขึ้นมาอย่างแรงก่อนจะต้องหรี่ตาอีกครั้งเมื่อเจอแสงแดดเข้าที่หน้าเต็ม
ๆ ให้ตายเถอะ บ้านของเขามันโดนคอนโดมาสร้างข้าง ๆ
บดบังแสงแดดไปหมดแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมวันนี้เขาตื่นมาเจอแสงแดดได้ว่ะ
โอ้ยยย...ทำไมเจ็บหลังขนาดนี้ว่ะ
ไม่ดิ
มากกว่าความเจ็บหลังคือความรู้สึกโหวง ๆ...
ฟิ้ว ~
ลมหนาวที่พัดมาทำเอาเขาหดขาเข้าหาตัวเอง
เออ ก็อยากจะทำอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน
แต่ทำไมการที่คยูฮยอนนอนหงายแล้วเห็นใบไม้สีเขียวเต็มไปหมดเลยอ่ะ
พอมองทะลุไปก็เห็นทองฟ้าสีสดใสมีเมฆปุยเลยอยู่ เออบรรยากาศมันก็สวยดี
มันน่าเดินชมสวนสัด ๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่มั้ย ทำไมห้องเขากลายเป็นแบบนี้
ไอเพื่อนตัวดีมันเข้ามาเปลี่ยนวอลเปเปอร์ห้องเขาอีกแล้วใช่มั้ย
ว่าไปนั้น
คยูฮยอนไม่ได้ติดต่อเพื่อนมาสามชาติและว๊าย
แล้ว...มันคืออะไร
ทำไมเขาถึงมานอนบนต้นไม้ได้ว่ะเนี่ยยยย?!
“ย๊ากกกกก”
เมื่อยืนยันโลเคชั่นของตัวเองตอนนี้ได้แล้วก็รู้ได้ต้องการสติ เพราะมันหลุดไปตั้งแต่รู้ว่าตัวเองนอนห้อยต่องแต่งอยู่บนต้นไม้แล้ว
แถมตัวยังเปียกซกไปด้วยน้ำสนิม พูดถึงนี่กลิ่นก็ไล่มาเลย แม่งเอ๊ย
เหม็นสัดอย่างกับตกบ่อขี้
“ใจเย็น
คยูมึงต้องตั้งสติ มึงวางถุงกาวลงเดี๋ยวนี้” พึมพำบอกกันตัวเองก่อนจะค่อย ๆ
จัดการกับท่าของตัวเองตอนนี้ เพราะตกใจเลยทำให้ดิ้นเกือบตกต้นไม้
ตอนนี้เขาเหมือนตัวสล็อตไม่มีผิด
คยูฮยอนค่อย ๆ
ไต่ไปเรื่อย ๆ จนถึงต้นของมันแล้วค่อย ๆ
ปืนลงมาโดยที่ยังอยู่ในท่าของตัวสล็อตหน้าโง่ ๆ
ที่เคยอ่านเจอในวิชาวิทยาศาสตร์ของม.อะไรสักม.เนี่ยแหละ จำไม่ได้แล้ว
ลงมาเอาเท้าแตะพื้นอย่างสวัสดิภาพ คยูฮยอนดมเนื้อตัวของตัวเองแล้วก็นึกสมเพท
ไม่แน่ใจแล้วว่าไอที่ตัวเองโดนดูดลงมานี่มันน้ำสนิมหรือน้ำขี้กันแน่
แม่งอย่างเหม็นเลย
ลมที่พัดเข้าหน้ามาแรง
ๆ หนึ่งทีก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองทัศนียภาพตรงหน้าทำเอาเขาถึงกับอึ้ง พระเจ้า...
นี่มันที่ไหนกันแน่ว่ะเนี่ย ทำไมมัน...
...ทำไมมันมีแต่ป่าว่ะ
สัดเด้ย!!
“นี่โดนส้วมดูดเพราะกบเวรนั่นจริง
ๆ หรือว่ะ” ว่าแล้วก็สถบอย่างหัวเสียก่อนจึงผมฟู ๆ ของตัวเองแรง ๆ เออ
ไม่ต้องพิสูจน์โดยการตบหน้าตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าแม่งเจ็บจริง นี่กูไม่ได้ฝัน
ความเหม็นที่เสื้อคือหลักฐานชั้นดี
รั้งห้ายยยยย T------T
“เราไม่ใช่กบเวรสักหน่อย
หยาบคายจริง ๆ เลย!”
เสียงเล็ก ๆ
จากทางไหนก็ไม่รู้ทำเอาคนที่กำลังเบ้ปากในโชคชะตาสะดุ้งเฮือก ชิบหาย...
นี่พาเขามาโผล่ในป่าไม่พอยังจะเอาผีป่ามาหลอกกันอีกหรอว่ะ โอ้ยยยย
ทำไมโชคร้ายขนาดนี้ กูควรกัดลิ้นตายตรงนี้เลยมั้ย ร่างโปร่งที่ตอนนี้รู้สึกตัวเองกำลังหลอน
เขาหันซ้ายหันขวาเพื่อหาต้นตอของเสียง แต่ถามว่าถ้าเจออะไรแล้วเขาจะทำอะไร
ก็ต้องถามกลับเลยว่าจะอยู่ตรงนี้ต่อทำไมล่ะครับ ?
“โอ๊ยยย
กรรมอะไรของกูว่ะเนี่ย ไม่เอานะเว่ย ไม่หลอกดิ กลัวจริงนะเว่ย”
สองมือกราบลงที่ตรงต้นไม้ใหญ่ เป็นการไหว้ขอขมาแทนผีป่าทุกตัวในที่นี้
บางทีการที่คยูฮยอนอยู่บนต้นไม้เมื่อกี้อาจจะเป็นการลบลู่ เออ แม่งเป็นไปได้
“เราอยู่ตรงนี้ เจ้าตาถั่วหรือยังไง!”
เสียงแม่งยังพูดอยู่เลยอ่ะ
สัดเด้ยยยย นี่เขาต้องโดนผีหลอกจริง ๆ หรือ ไม่เอานะโว้ย แค่นี้ก็กลัวจะตายแล้ว
ว่าแล้วก็ไม่รอช้า
จะอยู่ตรงนี้รอพ่อตัดริบบิ้นก็คิดว่าคงจะไปเจอกันอีกทีบนสวรรค์ดีกว่า
เออไม่รอห่าอะไรทั้งนั้น วิ่งแล้วโว่ยยยยย
“ไม่เอา ไม่หลอก
ไม่เห็น ไม่นะ...นะ..นะโมตัสสะภัคคะวะโต...” บทสวดสมัยมัธยมถูกรื้อฟื้นขึ้นมาสวด
แน่ละ
ตั้งแต่จบม.ปลายเขาก็ไม่เคยสวดมนต์อีกเลยนอกจากเวลามีกิจกรรมทางศาสนาหรือจำเป็นต้องเข้าวัด(ซึ่งนั่นมันส่วนน้อย)
เออ ถึงว่าทำไมกูโชคร้าย เพราะงี้นี่เอง
ไม่ใช่เวลามาพิจารณาบาปบุญตัวเอง
วิ่งดิ คยู วิ่งงงง
ร่างโปร่งวิ่งออกมาจากตรงนั้นทันทีไม่ต้องรอพ่อตัดริบบิ้น
ใช่ขายาว ๆ ของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เรื่องวิ่งนี่ถนัดมากบอกเลย เขาทำงานมาหลากหลายรูปแบบแล้วตั้งแต่ส่งนมตอนเช้ายันเด็กส่งยา...อะไร
ยาคูลล์ไง
มันทำให้เขาต้องมีสกิลวิ่งไว้เพื่อทำงานเสร็จทันเวลาไม่อย่างนั้นวันนั้นเขาจะทำงานโดยกลับบ้านมือเปล่า
รู้สึกได้ว่ามีเสียงวิ่งตามหลังมาว่ะ
ทำยังไงดี ออตอเค ทำไมต้องมาตามคยูฮยอนด้วย สัตว์ทั้งป่าก็มีให้หลอกมาหลอกเขาทำไม
ทำไมมมม
ไม่นานก็รู้สึกได้ถึงแสงสว่างวาบที่ด้านหลังก่อนจะเงาของอะไรบ้างอย่างวูบไปข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
คยูฮยอนจึงหันหลังกลับไปมองข้างหลังเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของตัวเอง แต่เดี๋ยว...
ก็ไม่มีอะไรตามมานี่หว่า
ผลั่ก
“อั่ก!!!”
เมื่อวิ่งไปมองหลังไปจนไม่ดูทาง ผลมันก็ออกมาแบบนี้แล...
คยูฮยอนรู้สึกหน้าสั่นเมื่อตัวเองวิ่งไปชนอะไรสักอย่างที่เหมือนจะแข็ง
เออ...แต่แม่งไม่แข็งว่ะ เอะ ยังไง
“หยุดวิ่งได้สักที” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหน้าคยูฮยอนที่ลูบหน้าผากตัวเองปอย
ๆ ก่อนจะหันไปมองต้นเสียงก็ตกใจแหกปากลั่นป่าเมื่อพบว่าตรงหน้าเขาเป็นผู้ชายตัวเล็กกว่าเขานิดหน่อยที่กำลังฉีกยิ้มมาให้
“เฮ้ย!!!”
“อึ้งในความหล่อของเรางั้นสินะ”
“ผีพูดได้!!!!”
ผลั่ก
“เจ็บบบบบ”
คราวนี้สิเจ็บจริง คยูฮยอนโดนมันโบกครับ ผีเดี๋ยวนี้พลังมันแกร่งกล้ากระเหี้ยมกระหือรือเกินไปแล้ว
เดี๋ยวก่อนอย่าให้คยูฮยอนเจอกระเทียมสักต้น เขาจะเอามากิน!! หิวโว้ยยยยยย
คนตัวสูงกว่าแหกปากลั่นป่าก่อนจะนั่งยอง
ๆ กุมหัวตัวเองบอกให้อีกอีกรู้ว่าตอนนี้เจ็บมากขนาดไหน
ก่อนจะตวัดตามองคนที่ยืนค้ำหัวตัวเองอยู่ จะว่าไปไอเตี้ยนี่หน้าตาก็ไม่ได้แย่
หน้าตาไม่เห็นเหมือนผีที่เห็นในลั้ลลาแลนด์เลย ว่าแล้ว หนังแม่งหลอกลวงประชาชน
“เลิกแหกปากแล้วฟังเราสักทีเถอะเจ้าน่ะ
-_-” คนตรงหน้าหรี่ตามองคยูฮยอนด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
ก่อนจะลงมานั่งยอง ๆ ให้เสมอกับตัวของเขาที่กำลังนั่งกุมหัวอยู่ที่พื้น สายตากลม ๆ
นั่นจ้องมาอย่างเหนื่อย ๆ ก็เออสิ วิ่งกันเป็นหนังอินเดียไม่เหนื่อยได้ยังไง
“โอเค ไม่แหกปาก
แต่บอกมาก่อนว่าฮูอาร์ยู ?”
“แอมไฟน์แท้งกิ้วทีเชอร์”
“โอเค ซิสดาวน์พรีส...
ถุ้ย!!!”
ไม่ใช่แค่เสียงซาวน์เอฟเฟ็กแต่คยูฮยอนถุยออกมาจริง ๆ อยากถุยใส่หน้ามันด้วยซ้ำแต่ก็กลัวจะโดนด่าว่าสถุนเกินไป
แม่งเล่นอะไรไม่รู้เรื่องหน้าสิ่วหน้าขวานมาต่อมุขส้นตีนอะไรไม่จักกาลเทศะ(โทษ)
“เราชื่อดอร์ฟิน” คนตรงหน้าแนะนำตัวก่อนจะเปลี่ยนเป็นท่านั่งขัดสมาธิแบบเขา
คยูฮยอนไล่สายตามองเสื้อที่อีกฝ่ายใส่
มันเป็นชุดที่ดูจะไม่เข้ายุคเข้าสมัยเสียเท่าไหร่ จะว่ายังไงดี
เคยดูเรื่องพีเตอร์แพนด์ไหม ชุดเหมือนไอเด็กนั่นน่ะแหละ แต่ไม่ได้มีหมวกสีแดงบนหัวส่วนเสื้อก็เป็นสีดำขาว
คนคนนี้ปล่อยผมสีอ่อนยาวประบ่าหยิก ๆ ของตัวเองออกมา ดวงตาสีฟ้าของเขาสวยชะมัด
อย่างกับฝรั่ง
“ชื่อกะแดะ”
“ขอเอาเท้าแตะปากทีได้ป่ะ
-_-”
มันลุกขึ้นยืนแล้วครับ โอเค ขอโทษไม่เล่นก็ได้ บางทีทุกคนก็ควรเข้าใจว่าฟิคเรื่องนี้แม่งไม่มีสาระตัวละครกากกรังไปวัน
ๆ ไม่ควรจริงจังอะไรกับเรื่องนี้อ่ะ แต่อย่าเลิกอ่านนะ อ่านต่อไปเหอะ
ไรเตอร์เขาอยากดองเรื่องอื่น (แฮ่)
“แล้วไง
ชื่อดอร์ฟินแล้วยังไง ยังไงก็ผีใช่ป่ะล่ะ” ปากยังไม่เลิกแกว่งหาตีน
คยูฮยอนเปลี่ยนท่านั่งขัดสมาธิมาเป็นนั่งชันเข่า แล้วถามอย่างจริงจัง นี่
เครียดสุดแล้ว เพราะไอนี่จู่ ๆ ก็โผล่มายังไงแม่งก็ผี แถมยังมาทำหน้าตาฝรั่งใส่อีก
อย่างกับเด็กในเนิสเซอรี่ที่คยูฮยอนเคยไปรับจ็อบ เด็ก ๆ น่ะน่ารักจะตาย
...ลักไปฆ่า
“ไม่ใช่ผี
เราคือคนที่พาเจ้ามาที่นี่”
“ชัดเลย
มึงนี่เอง...” คยูฮยอนนี่ยืนขึ้นเลยเมื่อคนตรงหน้าที่นั่งขัดสมาธิคุยกับเขาดี ๆ
บอกถึงตัวตนของตัวเอง อ้อ มึงนี่เองหรอที่พากูมาเผชิญชะตากรรมที่นี่
ขอสักดอกเถอะ... เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวรู้เลย... “ห๊อมหอมมมมมม”
“ทำอะไรของเจ้าน่ะ
เดินไปเด็ดดอกไม้มาดมทำไม”
“ไม่เสือกดิ”
“เสือกแปลว่าอะไร”
“ช่างมันเหอะ”
คยูฮยอนยอมนั่งลงแต่โดยดี เมื่อกี้ก็กะจะลุกไปโบกมันสักดอกแต่เห็นตายตาหวัด ๆ ของอีกคนก็ถึงกับเลี้ยวไปเด็ดดอกไม้ข้าง
ๆ ตีนทันที สายตามันเหมือนเป็นสิ่งที่บอกว่า ‘ถ้ามึงทำอะไรกูมีโบก’
ไม่ได้ป็อด
แค่ไม่อยากมีเรื่องกลัวมีคนเสียน้ำตา
“แล้วยังไง พามาแล้วไง
อย่าบอกนะว่าโดนคำสาปแล้วคำทำนายบอกว่าต้องเอาคนของอีกโลกนึงมาทำภารกิจเพื่อแก้คำสาปน่ะ”
คยูฮยอนพูดออกไปส่ง ๆ ถ้าเป็นจริงแม่งก็...
“จะ...เจ้ารู้ได้ยังไง”
...ก็เหี้ยละ -_____-
“ข้าเป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยของโลกเทพนิยายน่ะ
แล้วเจ้าเดาผิดไปนิดหน่อยคำทำนายบอกว่าให้หาคนที่เจอคนแรกบนโลกมนุษย์น่ะ”
เหยด
“เดี๋ยว...เดี๋ยวนะ
ผู้ดูแลความเรียบร้อยของโลกเทพนิยาย ?”
“ใช่
คอยดูแลความเรียบร้อยให้เทพนิยายแต่ละเรื่องดำเนินไปตามแบบที่มันควรจะเป็นน่ะ”
“ทุกเรื่องก็มีคนแต่งมั้ยล่ะมันมีเนื้อเรื่องของมันแล้ว
จะบิดเบือนได้ยังไง”
“ได้สิ
บางทีระหว่างดำเนินเรื่องก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุบ้าง ซึ่งเราก็จะเป็นคนช่วยไม่ให้อุบัติเหตุนั่นบิดเบือนเรื่องเกินความจำเป็น”
“ขอถามแบบโง่ ๆ
หนึ่งคำถามเลยนะ”
“ว่ามา”
“ที่นี่ที่ไหน ?
สงสัยนี่ยังฝันอยู่ อยากตื่นแล้วอ่ะ”
ถ้าคยูฮยอนมองไม่ผิด
เขาสังเกตเห็นแววตาแห่งความเหนื่อยหน่ายของเจ้าเด็กฝรั่งนี่ ทำไมอ่ะ
ตอนนี้เขางงไปหมดแล้ว โลกแห่งเทพนิยายอะไร ใครมาบิดเบือนใครมากำหนดอะไร
ไม่ใช่เกมไบโอช็อคที่จะกดหยุดเวลาแล้ววาร์ปไปหยิบของอีกที่นึงได้ นี่มันแฟนตาซีเกินไป
ทุกวันที่ผ่านมาคยูฮยอนไม่เคยฝันอะไรนอกจากเรื่องเงิน เงิน เงิน
เขาว่าวันนี้เขาคงเหนื่อยมากเกินไป
ถึงฝันเป็นเรื่องเป็นราวได้ขนาดนี้
“ที่นี่คือโลกแห่งเทพนิยายแล้วตอนนี้เรากำลังอยู่ในเรื่อง
ซินเดอเรลล่า”
“...”
WHAT THE FU*KKKKKKKKK
อยากจะร้องเป็นเพลงโฮลี่ฟัคกิ้งชิท
อิสอะไดโนซอร์ แต่เรื่องนี้มันไม่มีไดโนซอร์มันแฟนตาซีล้วน ๆ นี่คืออาร๊ายยยยย
บอกทีว่าตอนนี้ที่จะบอกได้คือเขาโดนกบล่อมาให้โดนส้วมดูดและมาปรากฏตัวอยู่ในโลกแห่งเทพนิยายหรรษาแล้วตอนนี้เรากำลังอยู่ในเรื่องซินเดอเรลล่ากัน
หน้าที่ของเราคือการทำให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์เพราะไม่แน่ระหว่างเรื่องรองเท้าแก้วนางซินอาจจะไม่หลุดออกจากเท้าก็ได้
อย่างนั้นหรอ ?
“เราโดนคำสาปของกฎของการเป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยของเทพนิยายน่ะ
และเรื่องที่เรารับผิดชอบคือเรื่องซินเดอเรลล่า”สีหน้าของผู้ชายตัวเล็กตรงหน้าดูเศร้าเล็กน้อย
ซึ่งมันไม่ได้ทำให้คยูฮยอนสงสารนักหรอกนะ
ชีวิตพนักงานขัดส้วมของเขายังพีคกว่าอีกอ่ะ นี่ยิ่งกว่าคำสาปอีกนะบอกเลย
“หมายความว่า...
เทพนิยายอีกหลาย ๆ เรื่องยังมีผู้คุมคนอื่นอีกหรอ”
“ใช่”
“งั้นก็ให้เพื่อนนายช่วยคุมให้สิ”
“ได้ที่ไหนกันล่ะ
เรื่องของใครของมัน รับผิดชอบกันเอง ถ้ามารับผิดชอบแทนกันก็ถือว่าผิดกฎนะ”
ว้อททททททท
“แล้วนายโดนสาปยังไง
ดูไม่เห็นเหมือนคนโดนสาปเลย นายก็ยังดูดีนี่ ถึงจะเตี้ยไปหน่อยก็โอเคนะ”
“เราสามารถกลับเป็นร่างคนได้วันละสามนาทีน่ะ”
“อ่าวแล้วปกติเป็นอะไร...เฮ้ย!!!” พูดยังไม่ทันจบ
คนตรงหน้าที่นั่งตัวขาวผมทองตาสีฟ้าอยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นควันไปแล้ว เฮ้ย
แบบนี้มันจะแฟนตาซีไป หายตัวได้ด้วยหรอออ ไหนบอกไม่ใช่ผีไง “เฮ้ ดอร์สั้น!!”
“ดอร์ฟินเว่ย! มองมาข้างล่างสิ”
“ไหนว่ะ...เหี้ย!”
“กบไม่ใช่เหี้ย”
มันไม่ได้ทำให้คยูฮยอนรู้สึกภิรมย์มากกว่าเท่าไหร่นักหรอก
ห่า
คยูฮยอนตกใจกบตรงหน้าจนถลาไปกอดต้นไม้แถวนั้นแน่น
บอกแล้วไงว่าคยูฮยอนกลัวกบ แล้วยิ่งมาโดนจ้องหน้าแบบนี้
คิดว่าขนที่อยู่บนตัวของคยูฮยอนลุกไปกี่เส้นแล้ว เจ็ทแม่ม! มันไม่ได้มีความขรุขระจนน่าเกลียดก็จริง
แต่แม่งมันมากอ่ะ เป็นมะเมือกเลย ไม่ไหวแล้ว แม่!!
“เป็นโลมาดอร์ฟินอยู่ดี
ๆ ไม่ชอบหรือไง ฉันชอบร่างเก่านายมากกว่านะโว่ยยย”
“อย่างกับเราอยากจะอยู่ในร่างนี้นักแหละ
บอกแล้วไงว่าโดนสาปน่ะ -_-”
“เฮ้...
อย่าเข้ามาใกล้นะเว่ย ไม่งั้นเจอตีน”
“ถ้าเจ้าฆ่าเราเจ้าไม่ได้กลับไปแน่
ๆ บอกเลย”
กบเวรรรรร T----T
“แล้วต้องทำยังไง
นี่ก็เข้าไกลไม่ได้เหมือนกัน ไม่งั้นตายห่าตรงนั้นแน่ ๆ ”
ยังคงเกาะต้นไม้อยู่แทบจะปีนขึ้นไปอีกครั้ง
ถ้าไม่ติดว่าปีนเป็นก็ไม่อยู่แม่งแล้วตรงนี้ ยัง...กบเวรนั่นยังกระโดดเข้ามาใกล้เขาอีก
นี่รู้ว่าเขากลัวก็แกล้งกันสินะ
“เราต้องดูแลให้เรื่องซินเดอเรลล่าไม่ถูกบิดเบือนมากไปกว่าที่มันควรเป็นในขณะที่เรายังโดนคำสาปอยู่ ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่ามันอีกนานแค่ไหน
แต่คงไม่ตลอดไปหรอก”
“ก็ดีแล้ว
การรอคอยเป็นสิ่งที่ดีนะ ฝึกสมาธิได้ด้วย ลองดู”
“สัญญามาก่อนว่าจะช่วยเรา”
“อะไร ? ทำไมต้องสัญญา”
“เราต้องหาคนมาช่วยงานระหว่างที่โดนสาปและเจ้าคือคนคนนั้น
...ไม่อย่างนั้นเจ้าก็ไม่ได้กลับบ้าน”
“หูย...คิดว่ากลัวหรอ”
“งั้นจะไปกระโดดหาละนะ”
“โอเค อยากให้ทำอะไรบอกพี่มา”
นั่น...พลาดแล้ว
กบเปรตนี่มันจะกระโดดขู่เขา ใครไม่ตอบตกลงก็คือคนไม่กลัวกบ ซึ่งไม่ใช่คยูฮยอน
ร่างโปร่งยังคงเกาะโคนต้นไม้เป็นปลิงไม่ยอมไปหาเจ้ากบตัวน้อยที่ก่อนหน้านี้เป็นเด็กเตี้ยหน้าฝรั่งน่าตาน่ารักหน้าหยิก
ตอนนี้กลายเป็นตัวน่าลักน่าถีบไปเสียแล้ว
“เจ้าสัญญาแล้วนะ”
“เออ”
“ผิดคำสัญญาตกนรกนะ”
“เออออ
นี่ก็ตกมาทั้งชีวิตแล้ว”
“ดี! งั้นมาให้พรเจ้ากัน” ถ้าหน้ายิ้มตรงหน้าเป็นหน้าคนมันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ
คยูฮยอนก็จะยิ้มกลับไปตามประสาคนเกาหลีใช่ดี แต่นี่มันคือกบยิ้มอ่ะ
คุณคิดภาพดิว่ามันน่าขยะแขยงแค่ไหน แค่เป็นคยูฮยอนก็ขนลุกขู่ชันแล้ว ขอร้องเลย
.... ร้องไห้เนี่ยแหละ ฮื่อออ
“ยักษ์จินนี่ก็ไม่ใช่อย่ามาตอแหล
ไม่หลงกล”
“นี่ ... เลิกสะดีดสะดิ้งแล้วมานี่เดี๋ยวนี้
เจ้านี่น่ารำคาญชะมัดเลย! ทำไมเราต้องเจอเจ้าคนแรกที่โลกมนุษย์ด้วยเนี่ย”
อ่าวมาทำหน้าหงุดหงิดใส่อีก คิดว่าอยากมามากดิที่นี่อ่ะ คยูฮยอนแม่งเกิดขึ้นมาใต้ดาวเคราะห์ร้าย
อยากสดุดี พ่อแม่ที่อยู่บนสวรรค์กรุณารับรู้ ตอนนี้ลูกชายกำลังลำบากยิ่งกว่าตอนทำงานอีกนะรู้ยัง
ถ้าตอนนั้นพ่อแม่ไม่เอากบใส่หลัง เขาคิดว่าเขาคงร่วมภารกิจกับคุณดอร์สั้นง่ายขึ้น
“ทำไมต้องให้พร”
“ได้ง่ายต่อการทำภารกิจ”
“แล้วใช้กลับบ้านได้ไหม”
“ได้
แต่ข้าไม่ให้กลับเราล็อกตัวเลือกกลับโลกมนุษย์ไว้แล้ว”
สาดดดดดดดดดดดด
คยูฮยอนหน้าหงิกทันทีที่ได้ยังอย่างนั้น
แม่งเอ้ย เกิดมาชีวิตโคตรแฟนตาซี เขาค่อย ๆ
ดึ๊บมาอยู่ตรงหน้ากบดอร์สั้นแต่ก็ยังไม่ถึงกลับเข้าไปใกล้ขนาดนั้น
ยังไงเขาก็ยังรู้สึกขยะแขยงอยู่ดีน่ะแหละ ฮื่อ
“ยื่นมือมา”
“จะทำอะไร
จับมือทักทายไม่ต้องนะ รู้จักกันแล้ว นี่ชื่อคยูสุดหล่อ”
“เลิกพูดจาเพ้อเจอสักทีเถอะ
แล้วยื่นมือมา ไม่อย่างนั้นเรากระโดดใส่หน้าเจ้าแน่” คิดแล้วก็เสียวตูด...
คยูฮยอนรีบหลับหูหลับตายื่นมือไปข้างหน้าทันที เอาเถอะ what will be will be คยูฮยอนจะสู้ คยูฮยอนอยากกลับบ้าน คิดถึงบ้านเชื้อราขึ้นของเขาจะแย่แล้ว
“หลับตาไว้ก็ได้
เรากลัวเจ้าจะเป็นลมไปซะก่อน”
“ทำไมต้อง...”
“หน้าเจ้าเหมือนมีอะไรติดนะข้าดูให้ไหม”
“จ้า หลับตาละจ้า”
เป็นคำที่ดูเหมือนห่วงใยแต่แม่งคือคำขู่
คยูฮยอนรีบหลับตาปี๋ทันทีและไม่นานแสงบางอย่างก็สว่างวาบขึ้นขนาดคนที่หลับตาอยู่ยังรู้สึกได้
ไม่นานนักคยูฮยอนก็รู้สึกถึงบางอย่างที่มือที่ยื่นออกไปก่อนจะตามมาด้วยความรู้สึกนุ่มหยุ่นที่ริมฝีปาก
อืม...อะไรว่ะ
ทำไมมันนิ่ม ๆ
ตาค่อย ๆ
ลืมขึ้นมาเพื่อหาคำตอบ ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อพบคำตอบน้ำอยู่ตรงหน้า ไอสัด... เข้าที่หน้าเลย เต็ม ๆ หน้ากูเลยเต็ม ๆ
ปากกูด้วย ร้องไห้... ตอนนี้น้ำตาคยูฮยอนไหลออกมาแล้ว พร้อมกับสติที่หายไป
คยูฮยอนโดนกบจูบ
ไอสาดดดดด กูไม่ใช่เจ้าหญิงมั้ยล่ะ
ทำไมกบต้องจูบ นี่แก้คำสาปให้กลับไปเป็นคนไม่ได้หรอกนะ ให้พรแถวบ้านเอ็งทำงี้หรอ
แค่บอกพรแล้วสาธุก็จบแล้วมั้ยล่ะ ทำไมแบบนี้ทำไมมมมม
พังบอกเลยว่าพัง...
พอกันทีคยูฮยอนจะไม่ยอมนั่งอยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้ว!
เพราะเขาจะเป็นลมแล้วครับ
คร่อก!
.
.
ตื่นมาอีกทีก็มืดค่ำเสียแล้ว
ทำไมรู้น่ะหรอ
คยูฮยอนเพิ่งตบยุงที่หน้าตัวเองไปเมื่อกี้นี้เอง
ร่างโปร่งงัวเงียขึ้นมาหลังจากตื่นรอบที่สองของวัน
นี่เป็นลมหรือซ้อมตาย จำได้ว่าตื่นมาตอนเช้าและวิ่งหนีผีในป่าไม่ถึงชั่วโมง
ทำไมหลับไปนานขนาดนี้ คยูฮยอนนี่มันตัวนอนกินบ้านกินเมืองจริง ๆ เลย แต่ก็ดีนะ
ไม่ได้นอนนาน ๆ แบบนี้นานแล้ว ฟินอ่ะ -____-b
“ตื่นสักที”
“เหี้ย!”
“บอกแล้วว่ากบไม่ใช่เหี้ย
-_-”
อื้อหือ
ขนาดเป็นกบยังแสดงสีหน้าออกมาได้ดีขนาดนี้
คยูฮยอนนึกถึงหน้าเบื่อหน่ายของมันตอนเป็นคนออกทันที
จำได้ว่าที่สลบไปเพราะมันโดนมันจูบนั่นแหละ นี่ไม่ได้ช็อกเพราะโดนจูบหรอก
แต่ช็อกเพราะระยะระหว่างเรามันใกล้กันเกินไป บางทีเราควรจะห่างกันสักพักไหมเผื่ออะไร
ๆ จะดีขึ้น
“นายจูบฉัน”
“เขาเรียกว่าให้พร
เราให้พรเจ้าไปสามข้อ จะขออะไรก็ได้ยกเว้นกลับบ้าน ใช้มันให้ดีล่ะ”
“แถวบ้านนายให้พรกันแบบนี้หรือไง”
“เออ!”
จ้ะ -_- คยูฮยอนจนใจจะเถียงแล้วเหมือนกัน
รู้สึกว่าตัวเองเริ่มบ้าแล้วที่มานั่งเถียงกับกบ ไม่แน่นะ
ภาพป่าทั้งหลายแหล่อาจจะเป็นแค่จินตนาการ จริง ๆ อาจจะนั่งเป็นคนบ้าพูดอยู่คนเดียวอยู่ในสวนสาธารณะที่เขาทำงานอยู่ก็ได้
แต่ความเจ็บที่ใบหน้าเพราะตบยุงเมื่อกี้มันยังคงอยู่
อืม...ถ้าไม่ฝันลึกมากก็คงเมาบุหรี่คนแถวนั้น หรือไม่เขาก็คงโดนโปะกัญชาระหว่างทางทำให้สร้างภาพหลอนได้ขนาดนี้
เขาสำรวจตัวเองอีกครั้งเพราะรู้สึกถึงอะไรแปร๊บ
ๆ ที่มือ พอยกมันขึ้นมาดูก็พบว่ามีลวดลายอะไรบางอยู่อยู่บนหลังมือ มันคล้าย ๆ
กับใบโคฟเวอร์แต่ว่ามีแค่สามแฉก แหม เขาว่ากับว่าคนเจอใบโคฟเวอร์สี่ใบจะโชคดี
แต่นี้คยูฮยอนเจอสามใบนี่จะเป็นไง
“ที่มือเจ้าคือพรสามข้อที่เราให้ไป”
“เห?”
“รอยจะหายทุกครั้งที่เจ้าขอ
ให้มันให้ดีล่ะ”
“อ่า...โอเค”
“เข้าใจที่เราพูดใช่มั้ย
ภารกิจของเจ้าคือต้องเป็นคนทำให้เทพนิยายเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างที่ควรเป็นจนจบเรื่อง”
“โจทย์ยากไปไหมล่ะ
จนจบเลยหรอ”
“เจ้าจะทิ้งมันไว้กลางทางหรือยังไง
บ้าหรือเปล่า”
“ทำ...ถูก...แล้วววววที่เธอเลือกเขา
แล้วทิ้ง ฉันไว้ตรงกลางทาง...” เพลงนี่มาเลย แต่พอเจอสายตาคนอ่านแล้วเลิกร้องก็ได้
ทำไมต้องทำหน้าเอือมกันด้วยอ่ะ นี่ฟิคคลายเครียด อย่ามองแบบนั้น เค้าเขินนะ
“เข้าใจใช่ไหม
จนจบนะคยูฮยอน อย่าทำเป็นเล่น”
“เอออออ
รู้แล้วน่า”
“ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้านนะ”
“โด่...ทำเป็นขู่”
“เข้าใจไหม”
“คับ .____.”
เห็นอีกฝ่ายทำท่าจะโดดก็เพลียใจ คยูฮยอนมองไปรอบตัวตอนนี้ก็พบว่ามันมืดบัดซบ
มีเพียงแสงสว่างโร่จากอีกทางเท่านั้นแหละที่ทำให้เขามองเห็นทางแถวนี้
จะว่าไปเขาอยู่ในเสื้อเน่า ๆ นี่มาทั้งวันแล้วหรอว่ะ อะไรจะดับเบิ้ลเน่าขนาดนี้
“ว่าแต่มีเสื้อให้เปลี่ยนไหม
ไม่ดิ อยากอาบน้ำอ่ะ” เมื่อขออีกอย่างก็เพิ่มอีกอย่างไปด้วยเลยหรือกัน
ยังไงถ้ามีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนก็คงมีอ่างอาบน้ำใช่ไหม
ถ้าเป็นเรื่องซินเดอเรลล่าจริงยังงันก็น่าจะมีบ่อมีอะไรให้ลงไปอาบ อบ นวดบ้าง ตอนนี้ตัวเขาเหม็นเน่ามากแถมเหม็นหัวไปหมดแล้ว
“มีนะ”
“ไหนอ่ะ”
“นั่นไง”
“นั่นไหน”
“บ้านซินเดอเรลล่า”
“...”
.
.
ครับ
ไอกบดอร์สั้นมันชี้ทางสว่างมาที่บ้านนางซิน ซึ่งมันก็เป็นหนทางเดียวที่มีในตอนนี้
แผนของเราก็คือ...ขโมย
ใช่ขโมย...แปลยาว ๆ
ก็คือการเอาของของคนอื่นมาโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของซึ่งมันผิดศีลข้อสองที่ว่า
อทินนาทานา
เวรมณีสิกขาปะทังสะมาทิยามิ
ต่อให้คยูฮยอนไม่มีจะกินขนาดไหนเขาก็ไม่คิดคิดจะฝ่าฝืนศีลข้อนี้
แต่ตอนนี้เขากำลังทำมัน
เกร๊สสสสส
“ห้องของพ่อซินเดอเรลล่าอยู่ทางซ้ายมือที่เปิดไฟอยู่”
“นายจะให้ฉันใส่เสื้อผ้าของคนอายุหกสิบเนี่ยนะ”
“นายมีทางเลือกด้วยหรอ”
“ไม่มีจ้า”
ไม่มีก็บอกว่าไม่มีแล้วก้มหน้าก้มตายอมรับไป
คยูฮยอนมองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่เหมือนในหนังที่เขาแอบดูตอนไปทำงานที่โรงหนังเมื่อไม่นานมานี้
มันเหมือนกันเป๊ะ ๆ เลย หน้าใหญ่บักเอ๊ก ข้างหนึ่งเป็นส่วน
อีกข้างคือพวกกสิกรรมของหมูหมากาไก่ทั้งหลายที่ถูกเลี้ยงไว้
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้เขาไม่ควรไปทางสวนเพราะมีคนที่เขากำลังจะไปขโมยเสื้อมาใส่กำลังนั่งจิบชาล่อยุงกันอยู่
คิดได้ยังไงว่ะเนี่ยจิบชากันตอนเอ่อ...กี่ทุ่มแล้วว่ะ ช่างมันเหอะ
เอาเป็นว่ายุงแม่งเยอะมาก นี่ตบไปหลายแปะแล้ว
ผิดศีลข้อหนึ่งไปอย่างแรงกล้าว่าข้อหนึ่งห้ามฆ่าสัตว์ถ้ายุงกัดเราก็ตบ เออ...
ก็ไม่ผิดนี่หว่า (แปะ)
ทางเดียวที่คยูฮยอนมีคือ...คอกหมู
เกร๊สสสส
“นายจะไปด้วยกันไหม”
“ไม่ละ
ในนั้นมีแมวอ้วนของแม่เลี้ยงอยู่ ถ้ายังไม่อยากตายเพราะโดนมันกัด”
“เออดี”
ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยคยูฮยอนก็กลายเป็นเป็นแมวย่องเบาในร่างคน
เขาค่อย ๆ เดินเลียบไปตามเงามืดเพื่อไม่ให้คนในบ้านสนใจ
รู้สึกว่าตอนนี้ยังมีพวกป้า ๆ คนครัวและคนใช้อยู่นี่นะ
ไม่รู้ตอนนี้กลับบ้านหลับช่องกันไปหมดหรือยัง
แต่คยูฮยอนคิดว่าเขาไม่ควรทำให้ตัวเองชิบหายด้วยการเดินไปเคาะประตูบ้านแล้วพูดว่า ‘ฮาย เราขอเข้าไปอาบน้ำบ้านเธอหน่อยสิไลล่า’ อันนั้นก็ดูจะฮาร์ดคอร์เกินไป
แต่เดี๋ยวนะ...ตอนนี้แม่เลี้ยงใจร้ายมันยังไม่เข้ามาอยู่ไม่ใช่หรอว่ะ
แล้วแมวมันจะมากินกบได้ยังไง
และตามคาด...หันไปอีกที
ดอร์ฟินก็หายไปซะแล้ว ไอดอร์สั้นเอ้ย!!
คิดคำนวณเพื่อร่วมทางที่เป็นศูนย์ก็ละเหี่ยใจ
คนที่เป็นแอดไวเซอร์คนเดียวได้หายตัวไปแล้ว เจ็ทแม่ม รู้สึกถูกทิ้งไว้กลางทาง
ขอร้องเพลงอีกรอบได้ไหมรู้สึกดราม่าสุด ๆ ฮื่ออออ (อย่า) โอเคไม่ร้องก็ได้
บางทีเราก็ควรเข้าสาระของเรื่องกันได้สักที (มีด้วย ?)
คยูฮยอนเปิดรั้วไม้เตี้ย
ๆ เข้ามาในที่เลี้ยงปศุสัตว์ทั้งหมาย
ตอนนี้เขาต้องเผชิญกับเป็ดและไก่ที่อยู่ในเล้าซึ่งมันดีมากที่มันไม่ส่งเสียงดังโวยวายหรือพูดได้เหมือนในการ์ตูน
เขารีบยิ้มแห้ง ๆ ให้สัตว์พวกนั้นทั้งหลายหวังว่ามันจะเข้าใจว่าแค่มาขโมยน้ำอาบและเสื้อใส่เท่านั้นเอง
เสร็จแล้วจะรีบไปจริง ๆ
“รู้สึกว่าจะมีทางลงไปครัวแล้วก็ขึ้นไปข้างบน...ใช่ป่าวว่ะ”
ถ้าจำไม่ผิดที่เคยดูมาคือมันจะมีชั้นใต้ดินที่เป็นที่นอนของซินเดอเรลล่าตอนอึ๋ม(ตอนโต)
จำได้ว่านางตื่นมาพร้อมกับในหน้าเลอะถ่านทุกวัน มันเชื่อมต่อกันหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ
ต้องลอง
กริ๊ก...
ร่างโป่งเปิดประตูที่พ้นมาจากคอกหมูประมาณสิบเมตร
รู้สึกยิ้มกริ่มได้ที่ประตูมันไม่ได้ล็อคนี่ถ้าเขาเป็นโจรจริง ๆ
บ้านนี่แม่งโดนปล้นไปแล้วนะเนี่ย โธ่...นางซิน
ตอนนี้บนโต๊ะวางเปล่าไม่มีอะไรเหลือเลย
แต่คยูฮยอนได้กลิ่นของอะไรสักอย่างนะ มองไปที่เตาถ่านก็เจอหม้อที่ตั้งไว้อยู่
ไม่รอช้าหรอกว่าในหม้อนั้นมันมีอะไรคยูฮยอนรีบเดินเข้าไปเปิดมันทันที
อย่าสงสัยว่าไม่ร้อนหรอ คยูฮยอนไม่โง่ครับ เขาฉวยผ้าขี้ริ้วมาใช้ตอนเปิดเรียบร้อย
“สตูว์!!!” เหยดเป็ด
เข้ามาก็เจอสตูว์เลย คงต้มไว้ให้พวกคุณ ๆ เขากินตอนเช้า บอกเลยว่าเสร็จโจรแน่ ๆ
เดี๋ยวรู้เลย ขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะจ้ะนะ
คยูฮยอนปิดหม้อไว้อย่างเดิมก่อนจะค่อย
ๆ เปิดประตูเบา ๆ แล้วย่องขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปยังชั้นหนึ่งของบ้าน
นึกดีใจที่แอบหัวหน้าไปยืนดูซินเดอเรลล่าวันนั้น
ต่อให้ความทรงจำมันจะเลือนลางแต่ก็โอเคแหละ
อย่างน้อยเขาก็ไม่เสียเวลาไปเสี่ยงปีนหน้าต่าง ซึ่งแม่งคงไม่ง่ายเหมือนในหนังหรอกใช่ไหม
“ลาเวนเดอร์ฟ้า
ดิลลี่ ดิลลี่ ลาเวนเดอร์เขียว...เธอนักฉันแล้ว
ดิลลี่ ดิลลี่ รักเธอผู้เดียว~”
โอ้มายโกสสสสสส
เพลงนี้มันมาแล้ว
เพลงที่มันค่อนข้างจะติดหูเพราะความไม่มีอะไรของมันนั่นแหละ
ทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้นบ้านชั้นหนึ่ง(คยูฮยอนมีมารยาทครับถอดรองเท้าแล้วถือเรียบร้อย)คยูฮยอนค่อย
ๆ ย่องไปตามเสียงร้องเพลงซึ่งถ้าในช่วงนี้น่าจะยังเป็นเสียงของแม่นางซินนะ
ทำไมคยูฮยอนต้องเดินไปทางนั้นด้วยน่ะหรอ ก็เพราะว่าถ้าจำไม่ผิดบันไดมันจะอยู่แถว ๆ
นั้นยังไงล่ะ
“ลาเวนเดอร์เขียว
ดิลลี่ ดิลลี่ ลาเวนเดอร์ฟ้า...หากเป็นราชา
ดิลลี่ ดิลลี่ รักเธอเรื่อยมา...”
“เพราะจังเลยค่ะแม่”
เสียงเล็ก ๆ
ที่ชมแม่นั่นน่าจะเป็นนางซินหรือหนูน้อยไลล่า ครับ ชมกันต่อไปร้องกันต่อไป อย่าหันมาสนใจคยูฮยอน
อย่าหันมาสนใจ
ไม่รักไม่ต้องมาแคร์ไม่ต้องมาดีกับช้านนนน~ พอ
เรื่องนี้มันจะร้องเพลงเยอะเกินไปแล้ว ไม่ใช่ฟิคมิวสิคเคิล
และมันก็ผ่านไปได้ด้วยดีโดยเขาไม่ได้ขอพรให้ช่วยกับเรื่องนี้
คยูฮยอนย่องขึ้นมาข้างบนได้ก็รีบจ้ำไปยังห้องเป้าหมายทันที จะรอช้าอยู่ไย
เขาต้องรีบอาบน้ำทำเวลาแล้วรีบชิ่งออกจากบ้านให้เร็วที่สุด เอ้า ไฟต์โต๊ะ!
“แฮ่ก แฮ่ก”
เข้ามาในห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูได้โดยสวัสดิภาพ
แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมห้องน้ำมันเปียกแบบนี้วะเนี่ย พ่อนางซินเพิ่งอาบน้ำหรอวะ ?
แต่เมื่อกี้ตอนที่เห็นข้างล่างยังนั่งจิบชาทั้งเสื้อชุดสูตรจัดเต็มอยู่เลยนี่หว่า
เออ หรือว่าเขาใส่ชุดสูตรนอนกันว่ะ
แต่ช่างงงงงมันเถอะครับ
อาบน้ำกันเถอะ แฮ่!
จัดการล็อคประตูให้เรียบร้อยแล้วปลดเปลื้องผ้าสกปรกทั้งตัวออกแล้วเปิดฝักตัวให้แรงสุดแล้วกางแขนรับน้ำด้วยหน้าฟิน
ๆ เหมือนโฆษณาครีมอาบน้ำ แม่งเอ้ย ไม่เคยรู้สึกดีที่ได้อาบน้ำขนาดนี้
ที่จริงด้านหลังนี่ก็มีอาบให้แช่นะ แต่คยูฮยอนต้องทำเวลาเขาจะมามัวแต่แช่น้ำฟิน ๆ
ไม่ได้หรอก อาบน้ำพอให้หายเหม็นก็พอ
“อื้อ...”
“...”
เฮ่ย...เดี๋ยว
“อืมมมม”
“...”
เสียงอาร๊ายยยยยย
คยูฮยอนหันหลังขวับทันที
ตอนนี้หัวของเขาเต็มไปด้วยฟองสบู่ เสียงมันมาจากหลังม่านที่มีอ่างอาบน้ำนั่น
ไม่ผิดแน่ ๆ ... คยูฮยอนได้ยินเสียงมาจากทางนั้น
ตั้งแต่คิดว่าไอกบดอร์สั้นเป็นผีแต่มันเสือกเป็นกบที่เป็นคนได้สามนาทีคยูฮยอนก็คิดว่าเขาน่าจะแกร่งกับเรื่องผีสางพอสมควร
แล้วนี่อะไร เขามาเจออะไรอีกแล้วเนี่ย
ไม่ใช่ว่าคราวนี้จะมาเจอคนที่อยู่ในร่างกบได้สามนาทีนะ (เพ้อเจ้อ)
เสียงแม่งมาอย่าง fifty shades of gray นี่หลุดเข้ามาผิดเรื่องรึเปล่าว่ะ
คยูฮยอนคว้าผ้าเช็ดตัวที่วางไว้อยู่บนอ่างล้างหน้ามาพันเอวไว้ลวก
ๆ ขาขาวค่อย ๆ ก้าวไปเรื่อย ๆ จึงถึงม่านที่ปิดอ่างอาบน้ำไว้อยู่ฟองบนหัวมันเริ่มไหลลงมาเรื่อย
ๆ แต่โชคดีว่ามันยังไม่เข้าตา เสียงครางแม่งหายไปแล้วอ่ะ
แค่สิ่งที่คยูฮยอนรู้สึกได้คือเงาตะคุ้ม ๆ หลังม่าน เจ็ทแม่ม... เอาแล้วไงล่ะ
สิ่งนี้คืออะไร เปิดม่านทีเดี๋ยวรู้เลย
เอาล่ะนะ
วัน...
เดือน...
ปี...!!!
พรึ่บ
“...”
“...”
ทันทีที่ม่านเปิดออก
ความจริงก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น... คยูฮยอนได้สบตากับดวงตาคู่หนึ่งที่มองเขามาตาปริบ
ๆ ... ร่างของใครบางคนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกับผิวสีแทนกำลังแช่น้ำอยู่อย่างสบายใจ
ตอนนี้หันมามองเขาตาโตเหมือนเจอผี ใช่ว่าคยูฮยอนไม่ตกใจเหมือนกันเสียเมื่อไหร่ แต่ไมได้ตกใจใบหน้าหล่อเหลากับสภาพตอนนี้ที่เหมือนดาราหนังโป๊หรอกนะ
ที่คยูฮยอนตกใจน่ะ...
อ่างอาบน้ำนี่มันไม่ได้เต็มไปด้วยฟองเหมือนในหนังนะโว่ยยยย
ไม่ดิ ประเด็นมันอยู่ที่ทำไมเขาต้องมองต่ำด้วย!
“อ๊ากกกกกกกกก!”
และเสียงประสานนี่ก็เป็นสัญญาณที่เรียกคนทั้งบ้านมารวมกันโดยไม่ได้นัดหมาย...
ชิบหายแล้ว -_____-
TO BE CONTINUED…
กากกกกกกชิบหายยยยย
55555555555555555555555
ฟิคคลายเครียดเนอะ
ถ้ามันมีแต่น้ำไปก็ขออภัย เราเครียดอะต้องการหาที่พึ่งทางใจ
อิ___อิ
ความคิดเห็น