คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 0 แด่เธอผู้เปลี่ยนไป ในอีก 1 ชม.ต่อมา = =100เปอร์
ตะวันสีส้มคล้อยหลบลงกลีบเฆมและถูกกลืนหายไปที่หุบเขาลูกใหญ่ ลมที่เคยมีความร้อนปะปนตอนนี้กลายเป็นลมเย็นพัดผ่านบางๆ เสียงสัตว์ป่าที่เคยดังกังวาลร้องระงมเมื่อตอนกลางวันเริ่มพลัดเวียนเปลี่ยนเวรกันกับสัตว์ที่ออกหากินกลางคืน
รองเท้าบูชทรงทหารเลยถึงหัวเข่าสีดำเข็มเปราะเปื้อนไปด้วยโคลนและเศษเลือดคละคลุ้ง เสียงกระแทกส้นรองเท้าบนพื้นดังต๊อก ต๊อก ย่ำพื้นอิฐหมายจะไปทำความสะอาดที่บ่อน้ำ ก็ต้องหยุดเดิน เมื่อชงนมองไปที่ประตูทางเข้าบ้านที่ทำมาจากหินวางเรียงรายกันคล้ายปราสาท
ทำไมวันนี้เงียบจัง
รีไวล์ ชายแก่อายุ30 (ฉัวะ!//เสียงเชือดคอไรท์เตอร์)เอ่อ ชายหนุ่มอายุ 30 ก็ได้แต่ คิดในใจ หน้าที่เหมือนคนเหม็นฉี่ตลอดเวลา กับสายตาปลาตายคล้ายพระเอกการ์ตูนหัวสีเงินเรื่องหนึ่ง ผมแสกด้านข้าง กับท้ายทอยเกรียนๆน่าเอามือตบเล่น(แฟนเกิลล์ประชาทัน)เอ่อ ไม่ใช่ ท้ายทอยเกรียนที่สวยและมีเสน่ห์ ตัวสูง 160 cm ที่เป็นเอกลักษณ์ ความสูงที่สูงกว่าตอหม้อนิดหน่อยนั่นช่างโดดเด่น(พเดดอเดน่เดนืดื่ไกหอกหอดว//โดนอำนาจมืดตบหัวจนหน้ากระแทกคีย์บอรด์)
แต่กระนั้น รีไวล์ เลือกจะพ่นลมหายใจออกจมูกเบาๆแบบช่างมันแล้วหันไปที่บ่อน้ำต่อ ตักน้ำล้างรองเท้าบูธที่เปราะเปื้อนความสกปรกนานาให้สะอาดเอี่ยม จนมั่นใจว่าสะอาดแล้ว เค้าจึงสะบัดรองเท้าบูดที่เช็ดล้างจนสะอาดแล้ว เดินเข้าไปในบ้าน(ขอเรียกบ้านละกัน)
เมื่อก้าวเดินไปตามทางบันไดทางเดินไปแต่ละคั่น สายตาดังแมวเบื่อหน่ายอาหารเม็ดจับจ้องไปยังลำแสงที่กระทบผนังทางเดิน มีแสงไฟลอดมาทางห้องรวมกินข้าว และห้องที่เอาไว้ประชุมหลายๆอย่าง จะเรียกว่าห้องอเนกประสงค์ก็คงใช่
เมื่อเดินมาถึงห้องอาหารที่สังเกตเห็นแสงไฟตั้งแต่เมื่อเดินขึ้นบันไดมานั้น รีไวล์ผู้รักความสะอาดดุจบรีช20แรงมือ คลาบสลายหายผุยผงนั้นถึงกับเส้นเลือดปูดตื๊บบนศีรษะด้านซ้าย สายตาที่เหมือนจะขวางตั้งแต่ในท้องแม่นั้นขึงขวางหนักเข้าไปอีก เมื่อเห็นคราบกาแฟ คราบชา หกเลาะเทอะบนพื้นโต๊ะไม้อย่างสกปรก แถมแก้วยังวางเกลื่อนกลาดล้มกลิ้งแบบไม้มีใครสนใจจะเก็บอีกตะหาก ช่างสกปรกจนรีไวลือดจะขึงหน้าด้วยความไม่พอใจไม่ได้
ใครๆก็รู้ว่าเค้าเป็นคนรักสะอาด ปราศจากคราบสกปรก แค่เห็นขี้ฝุ่นเกาะขอบหน้าต่างนิดเดียวเค้าก็หงุดหงิดจะแย่อยู่แล้ว นี่เล่นสกปรกเรี่ยราดยิ่งกว่ากองขยะแบบนี้ เค้าอยู่เฉยไม่ได้แล้ว!!
ต้องอบรบสั่งสอนกันซะหน่อย !! พวกสกปรกนี่ บอกกี่ครั้งแล้ว!!
รีไวล์เดินกระแทกส้นเท้าเสียงดังด้วยความโกธร เค้าพุ่งทะยานตัวไปด้วยใบหน้าปลาตายที่มีเส้นเลือดปูดบนหัว ประตูแรกที่จะเปิดโครมไปหาก่อนคือ คนประเภทวิปริตที่ชื่อ ฮันซี่ คลั่งไททันยิ่งกว่าดาราเกาหลี เจ้าของแว่นตาและเสียงหื่นกระหายทุกคลั่งที่ออกรบและปะหน้ากับไททันทั้งหลาย จนบางที่ก็คิดว่ายัยนี่ถ้ากลายเป็นไททันไปด้วยคงวิปริตกว่าเดิมแน่
“โต๊ะกินข้าวสกปรกขนาดนี้ ทำไมเธอไม่ดูแลให้ดีวะ ฮัน!!!!!?????”
รีไวล์กลืนคำพูดและเงียบเสียงทันทีที่ถีบประตูไม้ห้องฮันซี่จนมันฟาดไปกระแทกอย่างแรงกับผนังห้องด้านในห้อง
สายตาปลาตายที่ยังคงเส้นคงวาแม้ว่าจะตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นยังคงเป็นปลาตายอยู่ ถ้าสังเกตุให้ดูนัยต์ตาของเขาขยายออกตามอารมณ์เล็กน้อย
ผมสยายยาวถึงกลางหลัง แสงไฟจากเทียนส่องให้สีผมที่เป็นสีน้ำตาล ใบหน้ากลมผิวสองสีไม่ถึงกับขาวจัด ดวงตากลมโตปลายหางตาชี้ขึ้นบ่นบอกลักษณะของความดื้อรั้นที่มีอยู่ในตัว ช่างรับกับดวงตาคู่เขียวมรกตที่มีประกายแสงจากเทียนกระทบแก้วตา ปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อยมีเลือดฝาดบางๆ รำตัวสูงเพรียว เสื้อหลวบโพลงจนไหลลู่ลงจนเห็นร่องอกขาว และกางเกงทหารบวกกับรองเท้าบูธที่สวมใสดูหลวมโครกจนเหมือนจะหลุด ระยะ 5 เมตรระหว่างรีไวล์กับสาวผมยาวตาคมตรงหน้ามันไม่ไกลนัก ที่จะทำให้สังเกตเห็นว่าดวงหน้าทั้งหมดที่บรรยายมาสวยขนาดใหน
รีไวล์จ้องมองภาพตรงหน้าโดยลืมว่ากำลังโกธรเรื่องอะไร และกำลังจะมาแหกออกใครเสียสนิท
เมื่อเห็นสาวข้างหน้าที่สูงกว่าเค้าที่ทำสีหน้าตะลึงค้างเช่นกันอย่างไม่เข้าใจ ท่าทางยืนเหมือนกับถอดเสื้อออกเพราะมือทั้งสองของเธอคนนั้นกำลังจับชายเสื้อถลกขึ้นจนเห็นพุงขาวหน่อยๆนั่น
ก่อนที่รีไวล์จะพูดอะไรต่อไป สาวผมยาวนัตย์ตากลมมรกตก็เอ่ยพูดขึ้นมาด้วยอาการตกใจ
“ห…ห…..หัวหน้า!?”
"หรือว่า....แก ......... ไอ้เด็กเหลือขอ"
22222222222222222222222222222222222222222ต่อ222222222222222222222222222222
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น สัก 1 ชม.ก่อนรีไวล์จะกลับมา
“ในที่สุดก็สำเร็จ”พันตรีฮันซี่ ยกยิ้มอย่างภูมิใจกับความพยายามของตนที่เป็นผลสำเร็จ หล่อนดึงแว่นตาที่สวมอยู่ถลกขึ้นคาดไว้บนศีรษะ ดวงตาเป็นประกายแวววับคล้ายกับเจอไททัน สิบตัววิ่งมาหาเธอพร้อมกัน ในมือถือขวดแก้ว หรือหลอดทดลองขนาดกลางอย่างระมัดระวัง ชุดทหารแห่งกองสำรวจมีสัญลักษณ์ปีกอิสรภาพปักอยู่ที่หัวไหล่และกลางหลัง ถึงจะเป็นหญิงสาวแต่ก็มีตำแหน่งสูงระดับพันตรี
เธอเขย่าขวดเบาๆหวังให้ของเหลวข้างในโครงเครงไปมา ดวงตาก็มองตามน้ำสีม่วงประกายสวย ที่โครงเครงไปตามไปด้วย เธอแทบอยากจะกระโดดลงไปเต้นแน่นอกนอกปราสาท แล้ชวนเหล่าไททันแสนน่ารักในสายตาเธอมาเต้นรำด้วยกัน (มันจะไม่เต้นสิฮันซี่ ….)
นี่แหละผลงานที่มนุษย์ชาติจะได้รับความรู้อีกอย่างหนึ่ง!!
“แต่ ถึงจะทำส่วนประกอบสำเร็จ แต่ซอนนี่ กับ บีน เค้า…”ยิ้มได้แปบเดียวก็กลับมาน้ำตาตก สองไททันยอดดวงใจคู่ล่าสุดของเค้าที่แสนจะรักดั่งดวงใจกลับตายไปเพราะใครไม่รู้มาฆ่า ดวงหน้าของพลตรีสาว ที่มีแววน่ารักของหญิงสาวหม่นหมองลง น้ำตาซึมคล้ายจะร้องไห้ ดั่งหัวใจแม่แตกสลาย อุสส่าห์ฟูมฟักรักดูแลพวกนายเหมือนลูกในไส้ เหตุใดถึงจากแม่ไป(เฮ่ยๆๆ)
“บีน ซอนนี่”รำพึงรำพันถึงไททันสองตนที่จับมาได้อย่างเอาเป็นเอาตาย กว่าจะจับมาได้เสียทหารไปกี่ราย พอจับมาได้ก็ผูกพันธ์กันดั่งญาติพี่น้อง คอยตามดูแลทุกเวลาด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข? มีความสุขทุกครั้งที่ได้หยอกล้อเล่นกัน เมื่อตอนที่บีนเล่นกับหล่อนด้วยการยื่นหน้ามางับเธอ ยิ่งนึกถึงความรักแล้วฮันซี่แทบจะล้มทั้งยืน
ฮันซี่วางหลอดแก้วไว้ในแท่นเสียบของมัน เงยหน้ามองกองเอกสารมากมายที่บันทึกทุกวิวัฒนาการของส่วนประกอบและไททัน แสงวาวของหลอดแก้วที่ต้องแดดแรงแสงแดดซึ่งสาดส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่างกระทบกับหลอดแก้วตัวอย่างของเธอทั้งหมด ตอนนี้เวลาประมาณสี่โมงเย็นได้ ถึงจะเย็นแต่แดดก็ยังแรง ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้สนใจสภาพฟ้าดินเท่าไหร่ วันวันๆนึงคลุกอยู่ในห้องทดลอง หรือถ้าจับไททันได้คราใด หล่อนก็จะไปกกอยู่ใกล้คอยเฝ้าเหมือนแม่นกหวงไข่ไม่ปาน
“พลตรีฮันซี่ครับ เอ่อ มีอะไรให้ผมช่วยทำความสะอาดมั้ยครับ?”เอเลนเคาะประตูไม้สีน้ำตาลก๊อกๆแล้วเอ่ยปากถาม ดวงตาสีเขียวกับใบหน้ามีเหงื่อกผุดเป็นหยดน้ำ จากการทำความสะอาดห้องตามคำบัญชาของผู้ใหญ่หน้าแอ๊บเด็กคนนั้น วันทั้งวันเอเลนแทบจะไม่ได้นั่งชมนกชมไม้สบายๆเลย
“ไม่ต้องหรอก เอเลน”ฮันซี่ตะโกนบอก เธอยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องทำต่อถึงแม้ส่วนประกอบจะสำเร็จแล้ว แต่ก็ยังมีอะไรอีกมากที่ต้องศึกษาและค้นคว้าเพิ่ม ในใจก็ครุ่นคิดเสียดาย ส่วนประกอบนี้ถ้าได้ลองกับไททันสักตัวคงจะดีไม่น้อย ถ้าอย่างนั้นมันอาจทำให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆที่น่าท้าทายสำหรับไททันก็เป็นได้
ไททัน จะว่าไปแล้วเอเลนก็เป็นนี่นะ
เอ๊ะ!! เดี๋ยวสิ ถ้าจะพูดว่าไม่มีไททันให้ทดลองมันก็ไม่ใช่นี่!!
“เอเลน!!”ฮันซี่ตาโตพร้อมตะโกนทันทีที่ปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้นมา เชื่อว่าแฟนฟิคที่รับชมขณะนี้คงพอเดาได้ว่าหล่อนคิดอะไร สองขายาวในรองเท้าทหารสีดำที่ยาวจนคลุมหัวเข่าก้าวอย่างรวดเร็วไปที่ประตูห้อง เปิดประตูไม้ผัวะก็ไม่พบเห็นเด็กที่ตนเรียก สอดส่ายสายตาซ้ายขวาก็ไม่เจอ นี่เธอเผลอตกในห้วงวามคิดนานจนเอเลนเดินไปไหนเสียแล้ว แต่ถึงกระนั่งคงไม่ไกลไปกว่าปราสาทนี้ ถ้าออกแรงตามหาสักหน่อยคงดี จะเรียกให้ใครไปตาม ทุกคนก็ยุ่งเรื่องทำความสะอาด การทำอาหาร หรือซักผ้าซักผ่อน ทำความสะอาดอาวุธ ดูแลม้าไปตามเรื่องตามราว
“ไม่เป็นไร ฉันจะไปหาเธอเอง”ฮันซี่ยิ้มมีเลศนัยคล้ายไททันวิปริตในตอนหนึ่ง หน้าตาเหมือนโอตาคุบ้าฟิกเกอร์การ์ตูนในดวงใจนั้นกำลังมีความสุข ดีจริงที่กองสำรวจได้เอเลนเข้ากองมา อย่างน้อยๆก็ทำให้เธอประสบความตั้งใจหลักได้ทันที
ฮันซี่หยิบหลอดแก้วบรรจุน้ำสีม่วงเทใส่แก้วกาแฟที่ก่อนหน้านั้นเธอเอามาใส่กาแฟจิบเพลินตอนทำงาน แน่นอนก่อนจะเทน้ำสีม่วงส่วนประกอบในการทดลองแสนสำคัญ เธอได้เทน้ำในแก้วออกและล้างจนสะอาดแล้ว
“เหอๆๆๆ ขอโทษนะเอเลน แต่นี่ เพื่อมนุษย์ชาติ เหอๆๆๆๆ”หัวเราะเหอๆประดุดเด็กสาวบ้าเนื้อนางนึง ก่อนจะถือแก้วกาแฟตัวปัญหา(ของเอเลน)ลงไปชั้นล่างของปราสาท เมื่อสอดส่องด้านบนแล้วไม่พบตัวผู้โชคร้ายไม่ทราบชะตากรรมของตน
…………………………………………………………………..
“เฮอะ! นายนี่สมกับเป็นเด็กใหม่จริงๆ ทำความสะอาดไม่ได้เรื่องแบบนี้คิดจะให้หัวหน้าภูมิใจได้ไง (วะ)”เสียงถากถางจากชายผู้พยายามจะเลียนแบบหัวหน้ารีไวล์อย่างเอาเป็นเอาตาย ทรงผม ดวงตาขวาง แม้กระทั่งวิธีพูดจาก็จะเลียนแบบ เพียงแต่เกิดมามีกรรมใบหน้าดันแก่ติดจรวดไปถึงไหนๆทั้งๆที่อายุน้อยกว่าหัวหน้าที่เทิดทูนเหลือกำลัง บางครั้งก็อยากให้ลองถามหัวหน้ารีไวล์บ้าง ว่าไปผ่าตัวเย็บร้อยไหมที่ไหน มา หน้าถึงเด้งขนาดนี้
“หยุดว่าเอเลนสักทีเหอะ !!แล้วก็นายจะทำตัวเลียนแบบหัวหน้าไปถึงไหนกัน มันไม่เหมาะสมสักนิด”เพตทร้า หญิงสาวผมทองดวงตาก็ยังประกายสีทอง ผิวขาว ยืนเท้าเอวมองไปที่ อารุโอ้ บุชซาค ด้วยแววตำหนิ
“เธอเป็นเมียฉันรึไงถึงมาดุว่ากันอย่างนี้น่ะ”เค้ายิ่มมุมปากแล้วหันไปมองเพตทร้า หญิงสาวสบตาดลับด้วยแววที่บ่งบอกว่าไม่เจียมเลยนะเอ็ง = =;;; เธอวางไม้ปัดฝุ่นก่อนจะหยิบผ้าขี้ริ้วข้างตัวเธอขึ้นมา
“ฉันเห็นว่าเก้าอี้ในห้องที่เอาไว้ประชุมนั่นสกปรก นายไปเช็ดซะ”เธอออกคำสั่งพลางยื่นผ้าขี้ริ้วให้แก่เขา
“ทำไมฉันต้องไปด้วย”ทำสายตานิ่งเลียนแบบหัวหน้าที่คลั่งไคล้อีกครั้ง
“ถ้านายไปทำ ฉันจะรายงานกับหัวหน้าว่า นายเป็นคนทำ แล้นายก็จะได้รับคำชม”เธอต่อรองพร้อมทั้งยื่นผ้าขี้ริ้วให้
ชายที่ชอบเลียนแบบหัวหน้าของตนครุ่นคิดไม่ถึงสองวิก็รับผ้าขี้ริ้วไว้ในมือ “อย่าลืมซะละ”หันมาย้ำคำเดิมก่อนจะเดินดุ่ยไปทางเป้าหมายนั้น “เด็กใหม่!!นายก็อย่าอู้ล่ะ!!ไม่งั้นชั้นจะฟ้อ--” ฉัวะ!!!
ด้วยความพร่ำไม่รู้จบสุดท้ายก็กัดลิ้นตัวเองเลือดสาดอีกครั้ง เดินแล้วไม่มองทางจนสะดุดหินเซลงไป ฟันที่กำลังง้างออกเพราะพูดสั่งสอนเด็กใหม่อยู่นั้นถึงกับกระแทกกับลิ้นจนเลือดสาดทีเดียว
เพรตทร้ายกมือกุมขมับ ส่วนเอเลนที่ถูด่าว่าตั้งแต่ข้างตนก็ละสายหน้ามองด้วยวามตกใจรอบสอง
ถึงจะเคยเห็นมาครั้งนึงแล้ว แต่มันก็ยังไม่ชินเอาเสียเลยสิน่า
“อย่าถือสาเลยนะเอเลน”เธอหันมาพูดกับเอเลนด้วยสีหน้าแบบ ขอโทษแทนคนบ้าๆแบบนั้นด้วย
“ผมไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ”เอเลนเงยหน้า ละจากการขัดพื้นที่มีปื้นโคลนติดหนึบอยู่ เค้ารู้ดีว่านคนนั้นไม่มีพิษมีภัยอะไร ถึงจะชอบข่มเขาบ่อยๆก็เถอะ
“เค้าก็อย่างนี้ละนะ ชอบหัวหน้ารีไวล์มากๆจนเลียนแบบซะหมดทุกอย่าง นี่ถ้าเป็นผู้หญิงนะ มีหวัง หัวหน้าอยู่ไม่สุขแน่ๆ”เพรตทร้าสะบดก่อนถอนหายใจ เอาคางเกยบนมือที่กำลังกุมไม้ม๊อบอยู่ ดวงตาสีทองของเธอกลิ้งมองบนท้องฟ้าที่เริ่มอ่อนแรงแดดคล้ายกับว่าเย็นเต็มทีแล้ว
เอเลนมองเพตทร้าแล้วก็คิด สาวที่ยืนมองท้องฟ้ามีความน่ารักและตัวเล็กยิ่งกว่าหัวหน้าเสียอีก เธอช่างเข้าอกเข้าใจคนในทีมแม้แต่หัวหน้ารีไวล์เอง ใครมีลูกน้องดีๆแบบนี้คงปลื้มใจตาย
เมื่อหมดบทสนทนา เอเลนก็หันมาลงมือขัดพื้นพนังต่อ ถ้าทำตรงนี้เสร็จแล้วก็จะจบงานของวันนี้แล้ว ยังไงก็ต้องรีบลงมือก่อนจะมืดและก่อนหัวหน้าจะมา หัวหน้ายิ่งขีดเส้นตายเอาไว้ก่อนที่เขาจะกลับมา ถ้ามาแล้วงานไม่เรียบร้อย มีหวัง อดข้าวแหงเลยคืนนี้
“เอเลนนนนนนนนนนนนนน”เสียงโหยหวนของโอตาคุไททันนางหนึ่งลอยตามลมมา คนที่กำลังนั่งขัดพื้นอย่างเอาเป็นเอาตายถึงกับสะดุ้งตัวขึ้นมา เสียงที่ไม่ว่าอยู่หมื่นลี้ก็ยังไปถึง ช่างน่ากลัวยิ่งกว่าตอนโดนไททันแดรกลงกระเพาะเสียอีก
“เอเลนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”ยิ่งลากยาวก็ยิ่งสยอง เอเลนขนลุกล้ายสัมผัสสิ่งลึกลับ เพรตทร้าที่ยืนอยู่ข้างเช่นเดียวกัน
พลัน ร่างสาวโอตาคุก็กระโดดหวือมาตรงบริเวณที่ทั้งสองคนทำงานอยู่ ในมือถือแก้วกาแฟมีน้ำกาแฟอยู่ในแก้วเชิงจะหกไม่หกแหล่ แว่นตาที่เพิ่งถูกดึงลงมาจากการคาดผมไว้นั้นกลับมาเข้ารูปกับตาสองข้างเหมือนเดิม ยิ่งสะท้องแสงแดดที่ถึงแม้จะเย็นแล้วแต่ก็ยังมีแสงนั้นช่างน่าหวาดหวั่น ใบหน้ายิ้มระรื่นกับแก้มที่แดงเหมือนเจอของเล่นใหม่นั่นช่างน่าสะพรึง ทันทีที่เมื่อเห็นใบหน้าเช่นที่ว่ามานั้น เอเลนถึงกับอย่างวิ่งหนีเข้าห้องแล้วอ้างว่าปวดประจำเดือน(ห๊ะ??)
“เอ่อ พันตรีฮันซี่ คุณมีอะไรกับเอเลนหรอคะ?”เธอมมองพันตรีฮันซี่ทีมีรัศมีแปลกๆออกจากตัวตลอดเวลาอย่างหวาดหวั่น ถึงเธอจะไม่ใช่เอเลนคนที่ถูกเพรียกหาสยองๆแบบนั้นก็เถอะ ในฐานะที่เป็นคนในเหตุการณ์ก็อยากจะรู้อะไรอะไรบ้างเผื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ต่อจากนี้ไปถูก
เอเลนเองแทบจะขอบใจเพรตทร้าที่ถามแทนเขาในขณะนั้น ในตอนนี้เค้ากำลังอ้ำอึ้งและไม่รู้จะพูดอะไรออกไปกับคนตรงหน้าที่เพิ่งมาใหม่นี่ได้อีก ทั้งที่เป็นพันตรีและมีศักดิ์เป็นผู้บังคับบัญชาเค้าได้นั้นแต่ทำไมช่างทำตัวน่ากลัวยิ่งกว่าไททันประเภทวิปริตเป็นไหนๆ
“วันนี้ฉันเห็นว่าเธอเหนื่อยมามากทั้งวัน ฉันคิดว่าเธอควรพักผ่อน อ่ะ นี่กาแฟ”พูดจบพลางเดินก้าวไปหาเอเลนจนชิด ก่อนยื่นแก้วกาแฟที่มีสารประกอบอะไรสักอย่าง ที่คนเขียนยังมิเอ่ยนาม
“ไม่เป็นไรครับ คือ ผม”เอเลนปล่อยแปลงที่ใช้ขัดพื้นหลุดมือทันที มือที่อยู่ในถุงมือสีส้มนั่นสั่นด้วยความรู้สึกไม่ชอบมาพากล ทำไมอากาศก็ไม่ร้อนแล้ว เหงื่อถึงผุดขึ้นบนใบหน้ามากมายขนาดนี้
“เธออย่าปฏิเสธความหวังดีจากฉันเลยนะ เอเลน”เพราะมันเป็นความหวังดีจากคุณน่ะสิครับถึงอยาก ปฏิเสธเอเลนคิดในใจแต่ไม่กล้าพูดออกไป เพราะอย่างที่บอก ยังไงหล่อนก็เป็นคนที่มียศสูงและสามารถบังคับบัญชาเค้าได้
“วันนี้คุณตรีฮันซี่ใจดีจังนะคะ กับเอเลนเนี่ย”เพรตทร้าพูดชื่นชมโดยมีแววสงสัยเต็มเหนี่ยว ปกติพันตรีฮันซี่ไม่มาบริการอาหารน้ำอย่างนี้หรอก ถึงแม้เอเลนจะเป็นคนที่ฮันซี่สนใจในการแปลงร่างไททันก็ตาม
“ฉันก็ใจดีกับทุกคนนั่นแหละ เอ้า!!ดื่มเถอะน้า เอเลน!”เธอยื่นมือให้พร้อมทำเสียอ้อนน่ารัก
แต่เอเลนไม่คิดว่ามันน่ารักกลับกัน มันช่างน่ากลัวเกินกว่าจะบรรยายเป็นฟิคชั่น(ตอนนี้ก็บรรยายฟิคชั่นแล้วนะ เอเลน)
“เอิ่ม เอ่อ…….”เอเลนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะตอบปฏิเสธยังไงดี แต่กระนั้นด้วยความที่เป็นเด็กเคารพรักผู้ใหญ่(อายุ34)จึงดึงมือออกจากถุงมือยางที่เอาไว้ทำความสะอาดพื้นออกมา ก่อนจะยื่นมือออกไปรับแก้วกาแฟอย่างกล้าๆกลัวๆฮันซี่มองแก้วกาแฟที่อยู่ในมือเป้าหมายแล้วยิ้มหึๆ สุดท้ายแล้วก็สำเร็จดั่งตั้งใจไว้
“ไอ้เด็กใหม่!!แกทำตรงนี้ยังไม่สะอาดเลยนะเว้ย!!รีบมาเดี๋ยวนี้!!”เสียงเรียกเอเลนดังจากด้านบนของปราสาท เสียงนั้นไม่ใช่ใครนอกจากชายที่ชอบกัดลิ้นตัวเองจนเฉียดขาดเข้าทุกที่ เขายื่นตัวออกมาจากหน้าต่างที่เปิดออกได้ ก่อนจะทำหน้าโอหังพร้อมชี้ไม้ชี้มือบอกตำแหน่งที่เอเลนรับผิดชอบแล้วทำไม่สะอาดไปด้วย
ซึ่งไม่รู้ทำไม เอเลนแทบอยากกระโดดกอดขอบใจให้รู้แล้วรู้รอด ขอบใจอาการเบ่งกับนิสัยชอบดุว่าเค้าครั้งนี้มากจริงๆ
“โอเคครับ!!เอ่อ โทษน่ะครับ พอดีว่าผมต้องทำความสะอาดด้านบนให้เรียบร้อยก่อน ไม่งั้นมีหวังอดกินข้าวแน่ๆ”พูดพร้อมยื่นแก้วกาแฟให้ฮันซี่ ขณะที่เจ้าหล่อนทำหน้าเหวอๆ
เอเลนก้มโค้งขอโทษพันตรีฮันซี่อีกครั้ง ก่อนรีบใส่เกียร์หมาวิ่งขึ้นไปด้านบนอย่างเร็วพลัน
“เอ่อ ตรงนี้ก็ทำเสร็จแล้ว อาหารเย็นก็เป็นเวรด้วย ยังไงก็ขออนุญาตตรงนี้นะคะ”เพรตทร้าทำความเคารพก่อนจะรีบเดินตามเอเลนไปเช่นกัน ถึงหล่อนจะแน่ใจล้านเปอร์เซ็นว่าไม่ใช่เป้าหมาย แต่ถ้ายืนอยู่ใกล้ๆนานๆอาจจะโดนอะไรไปด้วยเลยรีบชิ่งไปด้วยคน
ปล่อยให้พันตรีฮันซี่ยืนถือแก้วกาแฟด้วยสีหน้าผิดหวังจนจะกลายเป็นสีหน้าน่ากลัว
……………………………………
“ได้พักซะที”เอเลนเดินหมดเรี่ยวแรงไปนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะเอนตัวพิงพนัก เขาถอนหายใจแรงไปหนึ่งที พร้อมหลับตาพริ้มด้วยวามเหนื่อยอ่อน
วันนี้ช่างเหนื่อยมากมาย ทำความสะอาดตั้งแต่เช้ายันเย็น จะได้หยุดแค่ตอนเที่ยง ทั้งถอนหญ้า ทำความสะอาดบ่อน้ำ เช็ดกระจก ขัดพื้นแล้วยังต้องมาเช็ดโต๊ะซ้ำตามที่ อารุโอ้บอก แต่อันหลังต้องขอบใจเค้าเหมือนกัน ที่ให้รอดพ้นจากพันตรีฮันซี่ได้ ถ้าขืนกินน้ำแปลกๆเข้าไป มีหวังได้กลายเป็นตัวอะไรแน่แท้ ถึงแม้หน้าตาจะเป็นกาแฟก็เหอะ ไว้ใจไม่ได้
คิดแล้วก็ยืดมือทั้งสองข้าง เอานิ้วทั้งสองข้างมาประสานกันแล้วยืดเต็มแรงไปด้านหน้า หมุนคอไปมาราวกับจะทำให้คลายปวดเมื่อย ตั้งแต่เมื่อกี้เค้ารู้สึกกระหายน้ำ และอยากจะกินอะไรอุ่นๆที่ทำให้ตื่นตัวขึ้นหน่อย ร่างกายตอนนี้แทบอยากนอนพักผ่อน แต่ก็นั่นแหละ ยังไงก็ต้องอดทนรอกินข้าวพร้อมกันให้ได้ เพราะมันเป็นกฎอย่างหนึ่งเหมือนกัน ถ้าเผลอหลับไปคงโดนทำโทษแน่แท้ ยังจำได้เป็นอย่างดีถึงฝีเท้าที่กระทืบเค้าปางตาย เตะจนฟันหลุดด้วยท่าอรชรเกินชายนั่นเป็นอย่างดี(แซะอีก) เค้าไม่อยากจะโดนอีกเป็นซ้ำสองหรอกนะ
“ในกานี่ ปลอดภัยละนะ”เอเลนมองไปที่กากาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะ เค้ายื่นมือไปเตะกานั่นพบว่าร้อนใช้ได้อยู่ กากาแฟนี่ปกติบ่อยมากที่มันจะร้อน เพราะหลายคนใน ณ ที่นี้จะชอบกินกาแฟช่วงกลางวันกันบ่อย อย่างน้อยการจิบมันก็ช่วยลดอาการง่วงซึมช่วงบ่ายไปบ้าง จึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่จะมีกากาแฟวางเอาไว้บนโต๊ะ บางครั้งเหลือบ้างไม่เหลือบ้าง ถ้าโชคดีก็ร้อนอยู่ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอุ่น
เอเลนลุกขึ้นยืนก่อนจะค้นหาแก้วกาแฟมาหนึ่งใบเอาไว้ในมือ แล้ววางไว้โต๊ะ ก่อนจะหยิบด้ามกากาแฟ แล้วเทลงบนแก้วอย่างระมัดระวัง เค้าไม่อยากให้สกปรกอีก ไม่อยากทำความสะอาดอีกแล้ว
ควันร้อนพร้อมกลิ่นกาแฟลอยฟุ้งขึ้นมาบนอากาศ แค่กลิ่นก็ทำให้เอเลนตื่นขึ้นมานิดหน่อย เอ่อ หมายถึงร่างกายสดชื่นอ่ะนะ กลิ่นหมองเอกลักษณ์อย่างนี้ นี่แหละ เหมาะกับการคลายความง่วงงุนไปได้
ดื่มเข้าไปอึกแรกก็รับรู้ได้ถึงรสชาติที่เปลี่ยนจากเดิมนิดหน่อย แต่ก็เถอะ เอเลนก็ไม่ใส่ใจอะไรมากมายนัก เขาจิบไปนิดนึง ก่อนจะนั่งเก้าอี้เหมือนอย่างเดิม
จู่ๆก็เกิดอาการมวนท้องเฉยๆแถมบริเวณอกกลับแน่น ตึง และเจ็บอย่างไม่ทราบสาเหตุ เอเลนที่กำลังนั่งหลับตาพริ้มถึงกับสะดุ้งพรืด เอามือกุมอก สลับกับกุมท้อง หน้าซีด ทำไมจู่ๆถึงเกิดอาการแบบนี้ แถมบนหัวมีอาการคันๆ อีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!
“โอ๊ย ทำไมเราถึง โอ๊ยย!!”เค้าล้มลงก่อนจะนอนบิดตัวบนพื้น อาการปวดทั่วตัวยังรุมเร้าอยู่ไปทั่ว แถมมีอาการไข้ขึ้นสูง แล้วเวียนหัว เอเลนที่ไม่เข้าใจอาการป่วยของร่างกายถึงกับร้องโอดโอยไม่เป็นภาษา เค้าไม่สามารถคิดถึงอะไรซับซ้อนได้ตอนนี้ สิ่งที่คืดอยากให้มันหายสักที เพราะร่างกายเหมือนโดนค้อนทุบไปทั่ว
ก่อนที่เอเลนจะสลบเหมือบไป ภาพสุดท้ายที่เค้าเห็นนั่น คือเงารางๆ และแสงสะท้อนแว่นตาจนวิ้งวับนั่นเอง
…………………………………………………………………………………………………………………
“ใครกินแก้วกาแฟแล้ววางทิ้งไว้อย่างนี้กันนะ!!สกปรกไร้วินัยจริงๆ”ชายที่เรียนแบบหัวหน้ารีไวล์สะบดด้วยอารมณ์รักสะอาด เค้าทำหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เจอสภาพแบบนี้
“อย่าบ่นมากเลย นายน่ะมาทางนี้เลยมา”เพรตทร้ากวักมือเรียกให้ อารุโอ้มาช่วยยกของในห้องรัวหน่อย
“เชอะ! เดี๋ยวชั้นไปละกัน ก็กินกาแฟหน่อย” เค้าบรรจงเทน้ำกาแฟลงแก้ว พลางทำมือถือแก้วแบบหัวหน้า เอ่อ ขอนอกเรื่องสักนิด คือนายเป็นเด็กสามขวบชอบเลียนแบบผู้ใหญ่หรอคะ = =
“เฮ้!ฉันกินด้วยสิ” เอดด์ จิน ตะโกนบอกหลังจากก้าวเท้าเข้ามาในห้อง วันนี้เค้าทำความสะอาดคอกม้า กับตัดกิ่งไม้รกข้างปราสาทแทบทั้งวัน ปวดมือจะแย่
“หยิบแก้วเผื่อชั้นด้วยนะ” กุนเทอ ชิชุส พูดไล่ตามหลังมาติดๆ เค้าเองก็มีหน้าที่ออกลาดตะเวนรอบๆปราสาท พร้อมทั้งหาเสบียงอาหาร ผักผลไม้ตามป่าไปด้วย
“รสชาติแปลกไปนิดหน่อยแฮะ”อารุโอ้บ่นกับรสชาติกาแฟที่ผิดปกตินิดหน่อย แต่ก็ดื่มเข้าไปจนหมดแก้ว
ก่อนที่อารุโอ้จะพูดอะไรต่อ และก่อนที่สองคนนั่นจะดื่มตาม พลัน อารุโอ้ก็เกิดอาการมวนท้อง แน่นหน้าอกลมลง บิดตัวงอเสียเฉยๆ
“เฮ่ย อารุโอ้!!”เอดด์ จิน ตะโกนด้วยความตกใจก่อนจะวางแก้วกาแฟวางลงบนโต๊ะ กุนเทอ ชิซุส ก็เช่นเดียวกัน
พลันอารุโอ้ก็สลบเหมือบไปทันที และมีไข้สูงตาม
………………………………………………….
เปลือกตาก็เปิดอ้าออกเบาๆ สิ่งแรกที่เห็นคืนเพดานที่ก่อด้วยหิน ดวงตายังคงรับแสงไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่ถึงกระนั้นแค่กระพริบตาเบาๆสองสามทีก็ลืมตาได้ปกติ ในตอนนี้สมองยังไม่ทำงานเท่าไหร่ แต่ในไม่กี่วิต่อมามันก็เรียบเรียงเรื่องราวได้ในทันที
“เรา เราอยู่ที่ไหน”เปล่งเสียงบางเบาไปอย่างทรมาน เหมือนลำคอถูกบีบอัดจนเสียงแหบพร่า ตอนนี้ร่างกายรับรูได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นริ้วเข้ามาเมื่อรู้สึกตัวในทันที แต่ก็ยังน้อยกว่าตอนที่เค้าไปนอนชักดิ้นชักงอในตอนแรกมากกว่านัก
พอพยายามลุกขึ้นร่างกายก็ปวดแปล๊บไปหมด แถมยังรู้สึกหนักๆ แปลกที่บริเวณหน้าอกอีกด้วย
เอเลนลุกขึ้นนั่งได้แล้ว แม้ดวงตาจะเบลออยู่ พลันมือก็คลำจับหน้าอกตัวเองที่รู้สึกหนักๆก่อน
เอ เหมือนจะมีอะไรก้อนขึ้นอยู่ นิ่มๆพอดีมือ
มีสองก้อนด้วยสิ
“เฮ่ยยยยย!!!!!!”เอเลนลุกพรวด ก่อนที่จะมึนเซนั่งลงไปในทันที ร่างกายอ่อนแอลงผิดหูผิดตามาก แค่ยืนก็จะทรงตัวไม่อยู่ แต่ที่แน่ๆดวงตาที่เบลอๆเห็นได้ชัดแจ๋วเหมือนเดิมแล้ว มือทั้งสองข้างที่เริ่มมีแรงปะป่ายไปที่ทรวงอกอีกครั้ง
เนื้องอก!!!!สองก้อน!!!!
เอเลนแทบอยากเป็นลมรอบสอง ที่ผ่านมาสิบห้าปีนั้น แทบจะไม่ได้ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เคล้านารียิ่งไม่ได้ใหญ่(มิคาสะคุมตลอด)จะเป็นไปได้ไงกันเล่า!!
เหงื่อเริ่มผุดขึ้นมาที่ใบหน้าและลำตัวอีกครั้ง ไม่ใช่เหนื่อยแต่เพราะไม่เข้าใจตัวเองและสับสน เค้าจะทำยังไงดีกับร่างกายที่มีก้อนสองก้อนแสนนุ่มนิ่มนี้ จะว่าไปพอจับจับดูมันก็รู้สึกดี
เอเลนพยุงตัวขึ้นยืนอีกครั้งอย่างเบาๆ สังเกตได้ว่าศีรษะที่คันอย่างแรงก่อนล้มพับไปนั้น หายคันแล้ว แต่เหมือนมีอะไรมาเคลียคลอบ่าและหลังตัวเองแทน
“อ่ะ อะไรกัน ทะ ทะ ทำไมเส้นผมเรา!?”เอเลนจับเส้นผมที่ยาวขึ้นมามองแล้วตกใจ แถมตกใจหนักกว่าเดิมเมื่อก้มลงเห็นร่องอกตัวเอง เสื้อที่ใส่ลู่ลงมาเนื่องจากร่างกายคนที่เคยใส่พอดีตัวเล็กลงกว่าเดิมนิดหน่อย แถมยังหน่มหน๊มโผล่มาเป็นก้อนแปะที่หน้าอกอีก ไหนจะสะโพกพายกว่าเดิมอีก เอเลนถลกชายเสื้อดูเอวของตัวเองที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งมากกว่าเดิม แถมกางเกงยังจะหลวมโพลกไปกว่าเดิมอีกด้วย!!!!!
นี่มันอารายก๊านนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!(เสียงกรีดร้องภายในในเอเลน คูณสอง)
“ปึง!!!!!!!!!!!!!!!”
จู่ๆประตูห้องก็กระแทกกับพนังห้องด้านใหนอยากแรง ถ้าพิจารณาดูแล้วที่แรงขนาดนี้น่าจะมาจากแรงถีบมหาศาลมากว่า เอเลนที่กำลังช็อคกับร่างที่เปลี่ยนไปเป็นสาว หันไปตามเสียงดังสนั่นหวั่นไหวนั้น
พลันก็ปรากฏใบหน้าขวางโลกโผล่พรวด พร้อมตะโกนต่อว่าปาวๆ
“โต๊ะกินข้าวสกปรกขนาดนี้ ทำไมเธอไม่ดูแลให้ดีวะ ฮัน!!!!!?????”
จู่ๆเสียงตะโกนก็หยุดลง บุคคลมาใหม่ที่สังเกตดีๆตัวเตี้ยกว่าเค้ามากกำลังนิ่งค้างอยู่ ใบหน้านิ่งได้ตลอดศกฉายแววตกใจเล็กน้อยก่อนจะกลับเป็นอย่างเดิม เกินยากเดาว่าในใจมีอะไรอยู่ ก่อนที่รีไวล์จะพูดเอ่ยอะไรออกไป เอเลนก็เรียกชื่อหัวหน้าด้วยเสียงแหบพร่าแอบเจือสั่นๆออกไป
“ห……….. .. .ห….. … … ..หัวหน้า?!”
เอเลนเรียกคนตรงหน้าด้วยวามตะลึงงันหลายๆอย่าง ทั้งๆที่มือทั้งสองข้างยังคงดึงเสื้อดูช่วงเอวตัวเองค้างอยู่ ไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และสับสนกับตัวเองเป็นอย่างมาก
ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกหัวหน้า รีไวล์ก็รีบประมวนแมมเมอร์รี่ของตนเองทันที หญิงสาวตาสีเขียวตรงหน้า สีผมสีน้ำตาลนั้น ช่างคลับคล้ายคลับคลาเสียจริง แต่นอกจากเพรตทร้า กับ ฮันแล้วก็ไม่มีผู้หญิงในในทีมสำรวจเลยนิหน่า แล้วสาวสวยตรงหน้านี่มันใครกัน ฟังจากน้ำเสียงแล้วก็เหมือนไอ้เด็กเหลือขอจริงๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ก็มันเป็นผู้ชายนี่หว่า สาวตรงหน้าก๊อกใหญ่ซะขนาดนั้น จะใช่ได้ไง แต่ว่าดวงตาสีเขียวนั่น……. . .ยังไงก็เอเลน!!
หรือว่า……. . . . .เป็นฝีมือฮันจิ !!
เอเลน…… . .. . .
เป็นผู้หญิง!!!!(บทจะเข้าใจง่ายก็ง่ายซะ!!)
“หรือว่าแก….. . . . .. . . . .. ไอ้เด็กเหลือขอ!!”
…………………………………………………………ณ ห้องปฐมพยาบาลในปราสาท.. . . . . . . . .. . ………………… . . . . . . . . .
“อูยยยยยยยย”อารุโอ้ ร้องครางเมื่อรับรู้ได้ถึงอาการปวดไปทั่วตัวเหมือนโดนทุบจนกระดูกแทบหัก ดวงตาเค้าเปิดขึ้นแล้วหลังจากหลับไปเมื่อหลานาทีก่อน
“เอ่อ นาย เอิ่ม เธอ เป็นไงบ้าง”หญิงสาวเรียกด้วยน้ำเสียงแหยงๆ อารุโอ้หันมองตามเสียงนั่น เห็นเป็นเพรตทร้านั่งอยู่ข้างๆ
“ก็ มีปวดอยู่บ้าง แต่ก็ดีกว่าตอนนั้น”ตอนนี้ถึงจะมีปวดตามร่างกายอยู่ ก็ถือว่าโอเคแล้วละนะ
“ฉันเป็นอะไรไม่รู้ พอกินกาฟก็เป็นแบบนี้ ว่าแต่เธอ เป็นพาฉันมาหรอ เพรตทร้า”อารุโอ้ซึ้งใจหญิงสาวเหลือจะกล่าว
“เปล่า ไม่ใช่ สองคนนั่นเค้าพามา”
“เอ้าหรอ แล้วมันไปใหนซะละ”
“เอ่อ คือ สองคนนั้น เค้าไปอ้วกหน่ะ”
“อ้วก ?เพราะกาแฟหรอ”
“เอ่อ ไม่หรอกสองคนนั้นยังไม่ได้กินน่ะ คือแบบว่ายังไงดี ฉัน …. . … .เอ่อ นาย เธอ ….’’
เพรตทร้ารู้สึกกระอักกระอ่วนพูดอย่างหนัก หล่อนเหมือนคนไม่สบายอยากอาเจียนยังไงไม่รู้
“อึกอักอยู่ได้ มีอะไรของเธอเนี่ย”อารุโอ้ถามอย่างสงสัย คนยิ่งป่วยๆ หนักหน้าอกยังไงไม่รู้อยู่
เพรตทร้าเลือกที่จะไม่ตอบ และไม่สบตาคนที่พูดด้วยอยู่ เธอหันหน้าหนีก่อนจะไปเห็นกระจกบานกลางวางอยู่เธอจึงเดินไปหยิบมา ก่อนจะส่งให้อารุโอ้ที่กำลัง งงๆ
อารุโอ้มองหน้าเพรตทร้าด้วยความสงสัย ก่อนที่จะรับมาอย่างว่าง่าย มีอะไรหนักหนา ไม่ยอมบอกกัน
“ฉันขอตัวไปเตรียมอาหารก่อนนะ”เพรตทร้าพูดจบก็เอามือกุมปากแล้วรีบวิ่งออกนอกห้องไป ปล่อยให้อารุโอ้นั่งบนเตียงมือซ้ายถืกระจกมองตามอย่างงงๆ
“อะไรของเขา”อารุดโอ้พูดแล้วหยักไหล่แบบไม่สนใจ ก่อนจะหันมองไปที่กระจกในมือ
ก่อนเพรตทร้าจะวิ่งถึงห้องน้ำ จู่ๆก็แววเสียงประหลาดลอยออกมาจากห้องปฐมพยาบาล
อารุโอ้เป็นสตรีเพศสมบูรณ์แบบ!!!!!
เพรตทร้ารู้สึกสงสารหัวหน้ารีไวล์ขึ้นมาจับใจ เหมือนมีอะไรน่ากลัวกำลังคืบคลานเข้ามา!!
########ไรท์เตอร์ ########
ยังไม่ได้แก้ตรงที่ผิดคะ ขอบคุณมากจริงนะคะที่ช่วยบอกจุดให้ เดี๋บวว่างจะย้อนกลับมาแก้ ไม่แน่ใจกับอันที่ลงอันล่าสุดเท่าไหร่ สายตาเริ่มเบลอ แถมคีย์บอดโน๊ดบุ๊คไม่ค่อยความร่วมมือ ตัว ค ควายต้องกดย้ำๆถึงไป
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนนะคะ เจอกันตอนหน้าคะ เม้นเยอะๆน้าาาาาาาาา
เ
ความคิดเห็น