ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มหาสงครามเผาผลาญเผ่าพันธุ์มฤตยู

    ลำดับตอนที่ #3 : การย่างก้าวของบางอย่าง

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 47


    บทที่ 3

    การย่างก้าวของบางอย่าง



        ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันที่วุ่นวายที่สุด และดูเหมือนอะไรอะไรรอบตัวก็อันตรายไปหมด ดังนั้นปวีณ กช แตง เจ จึงตัดสินใจที่จะไปอาศัยที่ODE.กันก่อน ร่วมไปถึงเชอรี่ด้วย ถึงแม้ปกติเธอจะอยู่คนเดียวอยู่แล้ว แต่ในกรณีนี้ดูจะอันตรายเกินไปหากเธอจะอยู่คนเดียว

        “นี่ พี่เรนแล้วบ้านพี่เป็นไงบ้างครับ โดนพวกUnlifeโจมตีรึเปล่า” กชถามเรน

        “เละเลยละ พี่เลยต้องอยู่ที่นี้ด้วยไง” เรนตอบกลับ



        เจซึ่งแยกตัวมาอยู่คนในห้องบัญชาการใหญ่ กำลังนั่งคิดถึงสิ่งที่ทำให้เธอสะดุ้งสุดตัวเมื่อเช้าในห้องเรียน สายตาคู่หนึ่งที่ทำให้เธอตกใจสุกขีดจนไม่อาจเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้ เธอมั่นใจว่าต้องมีอะไรบางอย่างมากกว่านั้นแน่นอน มากกว่าสายตาจากเพื่อน มากกว่าสายตาที่มองเพียงผิวเผิน แต่สายตาคู่นั้นกำลังเจาะเข้าไปในตัวเธอ และยิ่งไปกว่านั้น บางอย่างในตัวเธอกำงลังบอกเธอว่าไม่ได้มีสายตาเพียงคู่เดียวแน่นอนที่กำลังจ้องเธอและเพื่อนๆของเธออยู่



        ณ บ้านของเด็กชายคนที่อยู่กับเด็กแฝดที่โรงเรียน บ้านที่ว่างเปล่าเงียบเหงาเพราะมีเพียงเขาอยู่บ้านเพียงคนเดียว เขากำลังค้นหาข้อมูลบางอย่างจากระบบเก็บข้อมูลของเครือข่ายข้อมูลบางอย่าง



        ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นทางเข้าODE.เช่นกัน โดยที่บ้านสองชั้นหลังนี้ไม่ได้ตั้งห่างจากทางเข้าปกติเท่าใดนัก

        ที่ระเบียงบ้านชั้นสอง กชยืนพิงรั้วระเบียงแหงนหน้ามองฟ้า นึกถึงเทศการลอยกระทงเมือปีก่อนที่เขาต้องไปลอยกระทงกับเรน เพราะพ่อแม่ของเขาติดธุระที่สำนักงานODE.สาขาออสเตรเลีย ในขณะที่กชกำลังอยู่กับภาพอดีตนั้นเอง เรนก็เดินเข้ามาใกล้กชโดยที่กชไม่รู้สึกตัว

        “เหม่อมองอะไรอยู่จ๊ะกช” เรนถามกชด้วยเสียงอ่อนหวาน

        “กำลังมองหาความเป็นจริงของผมเองครับ” กชหันหน้ามาจ้องหน้าเรน เรนยิ้มรับคำตอบนั้นจากกช และเธอก็เดินไปอยู่ที่ระเบียง เท้าแขนกับราวระเบียงและมองไกลออกไป

        “ตัวเธอเองงั้นหรือ บางที่นะ ตัวเราเองก็ตอบไม่ได้ว่าตัวเรานะเป็นอะไร แต่เราก็จะรู้เองสักวันว่าตัวเรานะสามารถทำความจริงที่ไม่อาจเป็นความจริงให้เป็นจริงได้” เรนบอกกับกช

        “พี่เรน พี่คิดยังไงกับผม” กชถามเรน

        “เธอนะเป็นคนรับผิดชอบต่อหน้าที่ และ…” เรนหยุดไปเฉยๆ

        “และอะไรครับ” กชพยายามให้เรนพูดต่อ

        “อย่าไปสนใจเลย เอาเป็นว่าเธอเป็นคนดีมากคนหนึ่งละกัน” เรนบอกกับกช

        “พี่เรน” กชเข้ากอดเรน ตอนนี้ในใจเด็กชายร่างโตคนนี้มีความเหงาที่โดดเดี่ยวจากการจากไปของพ่อและแม่ ที่เขาจะต้องพากลับให้ได้



        “ว๊ากกกกกกก! ทำไมเป็นงี้วะ!” ปวีณตะโกนระบายอารมณ์ที่โมโหสุดขีดอยู่ต่อหน้าคอมพิวเตอร์ในห้องทดลองใหญ่

        “เป็นอะไรของแกวะไอ้ปวีณ” กชถาม ซึ่งเขาอยู่ที่นี่เพื่อคำนวณหาเวลาที่มีความเป็นไปได้ว่ามิติของUnlifeจะเชื่อมกับโลก

        “ก็ตามหลักทฤษฎีแล้วมันหน้าจะหาพวกคุณแม่เจอแล้วนี่นา แต่ทำไมมันกลับจับสัญญาณอะไรไม่ได้เลยละ” ปวีณตอบกลับ

        กชนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร แต่ในความเงียบของกชนั้นแฝงไปด้วยความกัลวล ซึ่งปวีณก็รู้สึกถึงความกัลวลของกช แต่เขาไม่อาจบอกได้ว่าเป็นอะไร



        เช้ารุ่งขึ้นที่โรงเรียนซึ่งเด็กชายฝาแฝดเดินเข้ามาในห้องและจัตรงไปคุยกับเพื่อนของเขาคนที่เดินมาหาเขาเมื่อวานนี้ แต่เด็กชายคนนั้นกลับยืนคุยกับเด็กผู้หญิงอีกคนในห้องเรียนที่เกือบว่างเปล่า เพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่และครอบครัวหนีไปอยู่ที่อื่นกันแล้ว

        ทั้งเด็กชายคนนั้นและเด็กผู้หญิงที่ยืนคุยอยู่ โดยที่เด็กชายผมตั้งหน้าเข้มคนนั้นยืนพิงขอบหน้าต่างชื่อของเขาคือ

        “แชร์เรื่องเมื่อวานมันเป็นยังไง พอดีว่านอนซมเพราะพิษไข้อยู่นะ” เด็กผู้หญิงผมสั้นที่คอหน้าตาเข้มคนนั้นถามแชร์ ชื่อของเธอคือ

        “แพ็ต บางที่เรื่องราวมันก็ไม่ได้บอกกันง่ายๆนะ” แชร์ตอบ และเขากลับหลังหันหน้าออกหน้าต่างและยืนมือออกไปรับลมที่พัดแปรปรวนอยู่ข้างนอก และพูด “เรื่องราวมันสับสนราวกับสายลมที่พัดกระทบมือของฉันอยู่ตอนนี้ไงละ” แชร์ชักมือกลับเข้าหาตัว “ฉันถึงบอกเธอไม่ได้”

        เด็กชายฝาแฝด ซึ่งทั้งสองสวมแว่นเหมือนกัน และมีสีหน้ากวนประสาทพอควรแต่ในส่วนลึกนั้นก็แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น คนพี่นั้นชื่อพิชน์ และคนน้องชื่อ พัชน์

        ทั้งสองเดินเข้าไปหาแชร์และแพ็ต แม้ว่าสีหน้าของแชร์และแพ็ตจะจะแสดงการกัลวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้สถานะการณ์ตึงเครียดตาม



        ที่ห้องเรียนของพวก เจ แตง เชอรี่ ปวีณ กช ก็ไม่ได้สุขสันต์ไปกว่ากันสักเท่าไร และยิ่งทุกคนต้องระวังสายตาลึกลับที่จ้องมองพวกเขาอีก

        “ฮ่าๆๆๆ” เสียงเด็กสาวผมสีน้ำตาล ใบหน้ายิ้มแย้มดังจนทั้งห้องได้ยิน

        “เฮ้ยอัลฟ์ จะหัวเราะอะไรขนานนั้นวะแก” เด็กผู้หญิงผมยาวผิวคล้ำอีกคนพูดเตือน

        “เออๆ ขอโทษที่ติ่ง” อัลฟ์ตอบกลับไป

        “นี่ๆ รู้สึกไหมว่าพวกเจวันนี้ดูไม่ค่อยร่าเริงเลยนะ” เด็กผู้หญิงผมสั้นหน้าตากลมพูดขึ้น

        “พลอย แล้วมันทำให้เธอได้เกรดสี่ไหม” เด็กผู้ชายตัวสูงผิวดำที่เดินผ่านมาพูดขึ้น

        “ฉันไม่ได้ถามแก่สักหน่อยไอ้คัมภีร์” พลอยตอบกลับ

        “โหแย่จริงๆ นี่เธอว่า pretty boy cherry boy* อย่างฉันได้ไงนะ?” คัมภีร์ตอบกลับ(* หมายถึงเด็กนารัก รักเรียน นิสัยดี)



        “เจ เมื่อคืนนี้เจ๊นั่งคิดอะไรคนเดียวในห้องบัญชาการนะ” ปวีณถามเจ

        “ก็นั่งคิดไปเรื่อยๆนะ !” เจตอบกลับ แต่แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเธอรู้สึกถึงสายตาที่จ้องเธอ แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่สายตาคู่เดียวกับที่จ้องเธอเมื่อวาน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×