ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มหาสงครามเผาผลาญเผ่าพันธุ์มฤตยู

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ และบทที่ 1 ก้าวแรกของศัตรู

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 47


    เหตุการณ์ ชื่อตัวละคร สถานที่ เป็นสิ่งสมมุติขึ้น จริงๆนะ

    มหาสงครามเผาผลาญเผ่าพันธุ์มฤตยู



    บทนำ

        นานมาแล้ว สิ่งที่เคยเป็นผู้ปกครองพื้นพิภพไม่ใช่มนุษย์ แต่กลับเป็นสัตว์เลื้อยคลานขนาดยัก หรือที่เรารู้จักกันในนาม ไดโนเสาร์ แต่แล้ววันหนึ่งวันหนึ่งสัตว์ที่เคยยิ่งใหญ่ก็ต้องถึงคราวดับสูญ นักวิทยาศาสตร์ต่างตั้งข้อสันนิษฐานไปต่างๆ แต่จนแล้วก็ไม่มีใครบอกได้ถูกต้อง แต่ด้วยเหตุนี้สมดุลแห่งชีวิตระหว่างมิติจึงสูญเสียไป มิติที่ขนานกับโลกนี้เกิดภัยครั้งใหญ่แบบที่ไม่เคยเกิด มิติที่มีชื่อว่าSeal Earth ผู้ที่อาศัยอยู่ ณ ที่นั้นคือสิ่งที่ไม่มีชีวิต แต่ก็มีชีวิตอีกรูปแบบที่เราไม่อาจอธิบาย และมันก็สามารถตายได้เช่นเดียวกับเรา สิ่งนั้นมันถูกเรียกว่าUnlife

        เหล่าUnlifeได้ส่งหนึ่งในผู้ที่สูงกว่าปกติมาที่นี้ เพราะในขณะนั้นสมดุลของชีวิตที่โลกเกิดความสมดุลแล้ว แต่ความสมดุลระหว่ามิติยังไม่สมบูรณ์ และเหล่าUnlifeก็เข้าสู่ยุคมืด ยุคที่เหล่าเผ่าพันธุ์ที่เคยรุ่งเรื่องที่สุดต้องตกต่ำถึงที่สุด และสิ่งหนึ่งที่จะพาให้เผ่าพันธุ์รอดพ้นวิกฤตไปได้คือผู้ที่สูงกว่าปกติอีกหนึ่ง ณ โลกแห่งนี้



    บทที่ 1

    ก้าวแรกของศัตรู



        พ.ศ. 2553(A.D. 2010)

        บนท้องฟ้าที่แสนสวยงาม ท้องฟ้าสีครามแสนสวยเหนือเมืองที่มีปราการสวยงาม ใจกลางของประเทศไทย เมืองหลวงที่ได้รับการป้องกันแน่นหนาที่สุด ณ เวลานั้น แต่อิสระของประชาชนไม่ได้ถูกกักไปด้วย เพราะเป็นเพียงเมืองหลวงเดียว ณ เวลานั้นที่ได้ชื่อว่าประชาชนได้รับอิสระมากที่สุด แต่ระเบียบก็ไม้ได้ลดหย่อนไปด้วย

        เมืองที่สงบสุขแสนสวยงาม แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่จะมาหยุดความสงบสุขนั้นก็คือ

        วัตถุขนาดยักสีขาวสามอันลอยลงจากฟากฟ้า สองลูกตกลงที่เพื่อนบ้านของเรา และหนึ่งในนั้นตกลงสู่อ่าวไทย แต่มิสไซขนาดยักโดนระบบย้อนอานุภาคจึงไม่เกิดการระเบิด

        หลังจากเหตุการณ์นั้นรัฐบาลสหรัฐได้ให้ข้อมูลไปว่าสิ่งแปลกปลอมที่มีรหัสตามที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเรียกว่าUnlifeได้เริ่มเคลื่อนไหว และนี้ก็เป็นอีกการแทรกแซงอย่างหนึ่งจากUnlife

        รัฐบาลสหรัฐได้ยื่นมือเข้าช่วยในการเก็บกู้วัตถุระเบิดขนาดยักนั้นในทันที่ และในตอนนั้นเองที่รัฐบาลโลกดดยการนำของประเทศไทยได้เสนอให้ก่อตั้งองค์กรณ์อิสระให้คอยมาดูแเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยได้ให้ชื้อว่าODE.(Organization for Defender Earth)

        

        พ.ศ. 2569(A.D. 2026)

        เช้าวันหนึ่งเป็นเช้าที่ปกติตามเวลาทั่วไป เด็กสาวผมยาวเลยกลางหลังผิวสวย ดวงตาสวยงาม อยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องนอนของเธอ สิ่งหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเธอ ข้อมูลยั้วเยี้ยมากมาย ที่เป็นทั้งรหัสตัวเลข และข้อความ เด็กสาวนั่งหน้าตาเคลียดอยู่ตรงหน้าจอนั้น และแล้วข้อความหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนนั้น มันคือจดหมายบอกว่ามีการได้รับe-mail ซึ่งชื่อผู้รับคือ cartoonXXXX@____.com เด็กสาวเปิดดูข้อความซึ่งเธอได้รับ และ

        “อีกแล้วหรอ” เธอบ่นกับตัวเอง “เขียนเล่าเรื่องของเธออีกแล้ว”

        

    ในเช้าที่เป็นวันปกติของการเรียนหนังสือ เด็กนักเรียนชายคนหนึ่งวิ่งเข้าโรงเรียนทางประตูใหญ่ตามปกติ

        “มาสายไป” เด็กหนุ่มคนนั้นพูด และกำลังวิ่งไปยังอาคารเรียนที่ตั้งอยู่ด้านหน้า

        อาคารเรียนสีขาว ประกอบไปด้วยตึกต่างๆสิบสองตึกที่สูงเสียดฟ้าและมีทางเชื่อมที่เป็นแก้วและมีทางเลื่อนอยู่ข้างในมากมายที่เชื่อมระหว่างตึก

        เด็ดคนนั้นวิ่งไปที่ห้องเรียนทันที ชั้นเรียน ม. 5/16 อยู่ยังอาคารที่สามนับจากตึกที่อยู่ด้านหน้าเขาไปทางข้างหลัง เด็กหนุมเอากระเป๋าไปวางไว้ยังที่นั่งตนเองโดยที่เพื่อนโต๊ะข้างๆไม่ได้ให้ความสนใจมากนักจน

        “เฮ้ยกช” เด็กชายคนแรกเรียกเพื่อนของเขา กชเป็นคนที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มเพื่อนเพื่อนของเด็กชายคนแรก

        “มีอะไรปวีณ” กชหันมาถามเด็กชายคนแรกที่ตัวเล็กกว่าเขา ขนาดของเด็กชายนั้นประมาณครึ่งหนึ่งของกช และเด็กชายนั้นสวมแว่นด้วย

        “นี้” เด็กชายคนแรกโชว์หนังสือให้กชดูเล่มหนึ่ง “Physic Magazine Special” ดูเหมือว่าชื่อหนังสือเล่มนั้นไม่ได้สร้างความตกใจให้กักชคนเดียวแต่ทว่าหญิงสาวอีกสองคนที่นั้งโต๊ะเรียนอยู่ใกล้ๆก็กระเด้งพรวดขึ้นมาเด็กผู้หญิงคนแรกชื่อแตง เด็กสาวตัวเล็กสุดในกลุ่มพวกเขา  เด็กสาวอีกคน เจ เธอตัวสูงกว่าแตงและมีขนาดใกล้เคียงกับปวีณ

        “ขอละนะ” เจพูดขึ้น และแตงก็เอื้อมมือมาคว้าหนังสือแต่!

        “เสียใจนะสาวๆ ฉันขอก่อนละกัน” กชคว้าหนังสือจากมือปวีณไปได้ก่อนที่แตงจะเอื้อมมาถึง

        “ไม่เป็นสุภาพบุรุษซะเลย” เจบอก

        “เออใช่ แล้วเชอรี่ละ ยังไม่มาโรงเรียนอีกเหรอ” ปวีณถามเพื่อนในกลุ่ม  

    “นอนไม่ตื่นมั้ง อยู่อพาตเมนต์หลังโรงเรียนแค่เนี้ยคงหลับเพลิน”กชตอบกลับ

        เชอรี่มีลักษณะใกล้เคียงกับเจ ความสูงของทั้งสองใกล้เคียงกัน

        พวกเขาทั้งห้าคนเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของ ODE (Organization for Defender Earth) องค์กรอิสระที่ถูก่อตั้งขึ้น เพื่อป้องกันเหล่า Unlife ศัตรูที่ยังไม่สามารถอธิบายตัวตนที่แท้จริงได้ แม่ว่าข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้จะมากมายก็ตาม

    และเรื่องที่พวกเขาเป็นคนของODE.นั้นก็เป็นความลับด้วย



    ปิ๊บ

        “คลายยย เมล์มาตั้งแต่เช้านะ” กชบนพลางหยิบมือถือขึ้นมาดู “เฮ้ย เชอรี่เมล์มาละ”

        “ว่ายังไงหรือจะ” แตงถาม

        “ODE สำนักงานใหญ่ ด่วน” สิ้นเสียงกชอีกสามคนที่เหลือถึงกับงงไปชั่วขณะ

        “ด่วน หมายถึงตอนนี้หรอ” ปวีณถาม

        “ต่อให้ตอนนี้แล้วจะไปยังไงละ” เจถามขึ้น

        

        บึ้ม !

        เสียงระเบิดดังขึ้น ทางเชื่อมระหว่างตึกที่เป็นทางเลื่อนแก้วหักกลาง และ

        โครม

        มันตกไปทับทางเชื่อมอีอันที่อยู่ต่ำลงไป

        สิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดบินผ่านเหนือหัวขึ้นไป และบินโฉบลงมา พร้อมกับเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของเด็กนักเรียนกว่า6000คน ตอนนี้มันยืนอยู่บนพื้นแล้ว เด็กนักเรียนวิ่งหนีไม่เป็นท่า แต่สิ่งนั้นดูเหมือนเพียงแค่ต้องการทำให้ตกใจเท่านั้น

        “ถ้าจะไปก็ต้องตอนนี้” ปวีณพูดขึ้น “อาศัยช่วงชุลมุนหนีออกไปนี้แหละ”

        พวกเขาทั้งห้าออกจากโรงเรียนทันที โดยที่ยังไม่รู้ว่าการกระทำของพวกเขานั้นโดนเพื่อนในห้องอีกกลุ่มหนึ่งคอยจับตาอยู่

        

        ที่บริเวณใต้ทางด่วน แห่งหนึ่งที่ไม่ห่างจากโรงเรียนแห่งนั้นมากนัก มีทางเข้าศูนย์ ODE ซ้อนอยู่ ทั้งสี่คนเข้ามาถึงศูนย์บัญชาการ ODE แล้ว

        “โอ้พระเจ้าจอร์จ มันเยินมาก” ปวีณพูดขึ้น

        “อย่าแยกกันนะ” เจเตือนขึ้นมา

        แอ๊ด

        เสียงประตูห้องทดลองห้องหนึ่งเปิดขึ้น แตงตกใจกับเสียงพร้อมกับหันไปมองทางต้นเสียง

        “ไอ้ประตูบ้าทำเอาตกใจเลย” แตงพูดขึ้น

        “ห้องนี้ก่อนเลย” เจบอกทุกคน

        ทุกคนเดินเข้าห้องนั้น เป็นห้องสำหรับทดลองการเดินทางข้ามมิติ ทั้งสามคนตอนนี้อยู่ในห้องทดลองนั้นแล้ว

        กึ๊ก

        ทุกคนหันไปทางประตู สิ่งที่ทุกคนเห็นเป็นร่างของเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ยืนอยู่ตรงหน้าประตู เธอคือ

        “เชอรี่”ทุกคนร้องออกมาพร้อมกัน

        แขนขวาของเชอรี่มีแผลขนาดใหญ่มองดูก็รู้ว่าเกิดจากของมีคมบางอย่าง เลือดสีแดงสดจากบาดแผลนั้นไหลอาบแขนขวาของเธอ แขนเสื้อนักเรียนข้างขวานั้นขาดไปแล้ว ส่วนเลือดสีแดงก็อาบอยู่บนเสื้อนักเรียนสีขาว ในมือซ้ายกำปืนแน่น แต่กลับสั้นแสดงให้เห็นว่าไม่ถนัดมือซ้าย หรือแขนซ้ายได้รับบาดเจ็บ

        “ทุกคน” เชอรี่พูดเสียงแผ่วเบาแฝงไปด้วยความเจ็บปวดในน้ำเสียง ก่อนที่จะล้มลง โชคดีที่แตงกับเจวิ่งเข้ามาพยุงไว้ทัน



        ในห้องพยาบาล เชอรี่นอนบนเตียงมีแตงคอยรักษาพยาบาลอยู่ ในขณะเดียวกันเจ กช  และพริ้นท์ ช่วยกันกู้ระบบอยู่ทุกอย่างใน ODE ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่มือหนึ่งอย่างเชอรี่ที่คอยจัดการเรื่องคอมพิวเตอร์ต้องบาดเจ็บไม่สามารถมาจัดการเรื่องนี้ได้ หลังจากทั้งสามกู้ระบบได้แล้วก็กลับมาที่ห้องพยาบาล

        “ทำไมทำอะไรช้าจัง” เจต่อว่าปวีณกับกชที่เดินเข้ามาในห้องพยาบาล

        “ก็คนมันไม่เก่งเหมือนเจ๊นี้” กชตอบกลับ

        ซึ่งเป็นจังหวะที่ทั้งสามก้าวเข้าห้องพยาบาลแต่แล้ว

        “เฮ้ย!” ปวีณร้องเสียงหลงออกมาเมื่อก้าวเข้ามาในห้องพยาบาล

        “ออกไปก่อนเลย ให้เชอรี่เขาใส่เสื้อก่อน” แตงตวาดกลับ ชายหนุ่มทั้งสองรีบวิ่งออกมาแถบไม่ทัน

        “เห็นปะ” กชถามปวีณ

        “นี่แก่เป็นสุภาพบุรุษป่าว ฉันไม่บ้าขนาดไปมองอะไรแบบนั้นหรอก” ปวีณตอบกลับ



        ตอนนี้เชอรี่เปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นเสื้อสีขาวลัดรูป ทำให้นี้เป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นรูปร่างที่สวยสมส่วน ของเชอรี่อย่างเด่นชัด

        “พวกมันบุกมาโดยที่พวกเราไม่ทันตั้งตัว” เชอรี่เล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟัง “ทุกคนใน ODE ไม่รวมพวกเราและเด็กอย่างพวกที่คอยช่วย ODE อยู่ หายตัวไปหมด”

        “พ่อ แม่พวกเราด้วยหรอ” แตงถาม

        “ใช่” เชอรี่ตอบกลับ

        “ชั้น จะไปตรวจสภาพเมืองก่อนแล้วกัน เพราะเวลาอย่างนี้มีแต่พวกเราที่จะคุ้มครองโลกได้ และเพื่อได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม” เจบอกทุกคน แล้วเดินออกไป สำหรับการเก็บข้อมูลวางแผนแล้ว ในกลุ่มนี้ต้องยกให้เจ

        “แม่คะ พ่อคะ” เจเดิน ไปร้องให้ไปตลอดทางจนถึงห้องคอมพิวเตอร์

        

        “ตกลงว่านี้มันเกิดอะไรขึ้นละ” แตงถามขึ้น

        “Unlifeจ๊ะ มันเริ่มโจมตีเราแล้วละ” เชอรี่ตอบกลับ

        “แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่พวกเราละ” ปวีณถาม

        “ทุกคนหายไป ฉันก็บอกไม่ได้ว่าทำไม แต่ไม่สมารถสืบหาสัญญาณได้เลย มันเหมือนกับ…..” เชอรี่หยุดไป ก่อนที่จะเริ่มพูดอีกครั้ง ”ทุกคนไม่มีตัวตนเลยละ”

        “แล้วจะเอาไง” กชถาม

        “ถ้าUnlifeเป็นสิ่งที่มาจากต่างมิติจริงนะ บางที่การที่พวกมันจะมาโผล่ที่นี่กันหมดอาจทำให้เสียสมดุลระหว่างมิติก็ได้ ใช่มะกช ปวีณ” แตงถามเพื่อนเพื่อหาแนวร่วม

        “ก็ใช่ เพราะก่อนหน้านี้ที่เราพบร่างของUnlife ตอนนั้นเราคำนวณอายุของมันออกมาได้ว่ามันอยู่ในช่วงที่มิติเสียสมดุล แต่เดียว! ตอนนี้อะไรที่ทำให้พวกมันต้องมาอยู่ที่นี่ละ” ปวีณถามขึ้น

        “ไอ้เรื่องนั้นนะฉันไม่รู้หรอก แต่ช่วยคุณเรนก่อนดีกว่า” เสียงของเจดังมาจากทางประตู โดยที่เธอพยุงหญิงสาววัย22ปีมาด้วย เธอคือเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกคนของODE. เธอคือหญิงสาวผมยาวลงมาถึงคอ ใบหน้าสวยสดใส แต่ทว่าตอนนี้ใบหน้าเธอกลับถูกกลบไปด้วยเลือด เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็ขาดในหลายจุด

        กชรีบวิ่งเข้ารับเธอจากเจทันที และพาเธอนอนเตียง โดยที่แตงไปนำยาและอุปกรณ์ประถมพยาบาลมารักษาเธอ

        กชนั่งอยู่ข้างเตียงเธอและกุมมือเธอไว้ กชจ้องหน้าคนที่เขานับถือเป็นเสมือนพี่สาว ความร้อนลนเกิดขึ้นในใจเขา โดยที่แตงรักษาแผลของเรน

        “มันเกิดอะไรขึ้นนะเจ” ปวีณถาม

        “ฉันเห็นคุณเรนนอนอยู่ในห้องอาวุธตอนขากลับ และก็ท่าทางว่าพวกUnlifeจะโจมตีมั่วซั้วจับอะไรไม่ได้เลย” เจตอบ

        สักพักหนึ่งเรนก็สามารถลืมตาขึ้นได้

        “พี่เรน!” กชเรียกชื่อเธอด้วยความดีใจ

        “เรียกซะเสียงดังขนาดนั้นเดี๋ยวพี่ก็ช๊อคตายหรอก” เรนหยอกกลับ

        “โถ พี่เรนนะทำเอาผมตกใจเลยนะ นึกว่าจะหายไปเหมือนกับพวกคุณพ่อคุณแม่ซะแล้ว” กชบอก

        “เฮ้ยๆ ไอ้กช รู้สึกว่าตอนรู้ว่าพ่อแม่หายไปแกยังไม่ตกใจขนาดนี้เลยนะ แล้วตรงนี้ละ” ปวีณพูดและชี้ไปที่เชอรี่ “มีเพื่อนแกตรงนี้อีกคนนะ หันมาสนใจเจ้าหล่อนมั่งก็ได้”

        “อึ้ง” คำจำกัดความสั้นๆง่ายๆที่สามารถอธิบายอาการของกชในตอนนั้นได้

         “นั้นสิจ๊ะ พี่ไม่เป็นอะไรหรอก ไปดูแลเพื่อนของเธอเถอะจ๊ะ” เรนบอกกับกช

        “เฮ้ยพวกเรา กชหูแดงด้วยละ” ปวีณชี้ชวนให้เพื่อนดูไปที่หูของกช

        “ทำไมละ” กชตอบกลับ

        “พวกเธอกลับไปโรงเรียนเถอะจะ บางที่ตอนนี้ที่นั้นอาจกำลังวุ่นวายอยู่ก็ได้ ไต้องเป็นห่วงฉันหรอก” เรนบอกกับทุกคน

        “ครับ/คะ” ทุกคนตอบรับพร้อมกัน

        ทุกเดินออกจากห้อง และทิ้งให้เรนนอนอยู่ที่นั้นคนเดียว

        “ทำไมมันถึงโจมตีไม่เลือกแบบนั้นละ?” เรนพูดขึ้นหลังจากที่แน่ใจว่าทุกคนออกไปจากODE.หมดแล้ว



        “เออนี้ แล้วเจ๊กะใส่ไอ้ชุดนี้เขาโรงเรียนจริงงะ” ปวีณถามเชอรี่ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน    

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×