ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Who's coming ป้องรัก พิทักษ์ใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 2 : SOMETHING WRONG

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 56


    บทที่ 2

     

                    “โอ้ย ร้อนก็ร้อน เมื่อยก็เมื่อย แล้วดูชุดสิ ทั้งหนาทั้งรัดขนาดนี้จะไปหายใจออกได้ยังไง ขอน้ำหน่อยได้มั้ย น้ำน่ะ” เสียงบ่นแว้ดๆ ของนางแบบคนหนึ่งดังไปทั่วสตูดิโอตั้งแต่ที่นายแบบคนหนึ่งที่ต้องถ่ายแบบคู่กับหล่อนชิ่งหนีกองถ่ายไปเมื่อสิบนาทีก่อน และทุกคนในกองถ่ายรู้ว่าหล่อนจ้องจะจับนายแบบที่ถ่ายคู่ด้วย ต่อหน้าก็อ่อนหวานหยดย้อยเป็นดอกไม้ขาวบริสุทธิ์ แต่ลับหลังกลับเป็นหนามแหลมที่พร้อมจะข่วนคนอื่นทุกเมื่อ

                    เช้าวันนี้มีแต่เรื่องยุ่งวุ่นวาย ทั้งนางแบบเรื่องมาก นายแบบที่เป็นตำรวจก็รีบชิ่งไปทำงานเนื่องจากได้รับรายงานเข้ามา ช่างถ่ายภาพเลยพลอยอารมณ์ไม่ดีไปด้วย บรรยากาศในกองงถ่ายทั้งอึมครึมและน่าอึดอัด สตาฟบางคนกำลังออกไปวิ่งหานายแบบคนใหม่ บางคนก็กำลังพยายามคุยกับนางแบบเพื่อให้ทำงานต่อ แต่แอนดี้ไม่ได้อยู่ในพวกใดทั้งนั้น เพราะตอนนี้เธอกำลังติดตามข่าวฆาตกรรมที่เพิ่งเกิดเมื่อไม่นานมานี้ผ่านทางวิทยุ ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสภาพศพ ผลการชันสูตร และที่สำคัญ มันเกิดไม่ห่างจากบ้านของเธอมากนัก

                    “แอนดี้ เป็นอะไรน่ะ หน้าเครียดเชียว” ดาร์ลีน โคเว็ทช์ ช่างแต่งหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมงานกับแอนดี้เดินมาแตะไหล่ พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ

                    แอนดี้ยิ้มให้ ส่ายหน้านิดๆ “เกิดเหตุฆาตกรรมใกล้ๆ บ้านฉันน่ะ น่ากลัวมาก ฆาตกรต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ ฉันกลัวว่ามันอาจจะยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ก็ได้” พูดจบก็เอามือลูบหน้า ปิดวิทยุที่ตอนนี้กลายเป็นช่วงพักข่าวไปแล้ว

                    “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันเชื่อว่าเดี๋ยวยังไงคุณแมดดิสันต้องจับได้อย่างแน่นอน ไม่แน่อาจจะเร็วๆ นี้ก็ได้นะ” ดาร์ลีนยิ้มพร้อมโอบไหล่เพื่อนรัก ร้อยตำรวจโทไทเนอร์ แมดดิสัน ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่ตอนนี้ชิ่งหนีการถ่ายแบบไปจุดเกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แอนดี้ยิ้มแล้วได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าตำรวจแมดดิสันคงจะจับฆาตกรรายนี้ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

                    ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่ ช่างถ่ายภาพก็เดินมาบอกให้แอนดี้กับดาร์ลีนไปแต่งหน้าทำผมให้นางแบบสาวผู้เรื่องมากอีกครั้ง หล่อนนั่งบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อยตามประสาคนที่เพิ่งดังแต่หยิ่งทระนง แอนดี้กับดาร์ลีนเงียบไม่ต่อปากต่อคำด้วย สุดท้ายหล่อนก็เงียบไปเองโดยปริยาย

                    งานถ่ายแบบเริ่มขึ้นอีกครั้ง และจบลงด้วยการเลี้ยงอาหารเย็นและพาไปดริ้งค์ต่อของอิสซาเบล ชาลิงตัน บอสของบริษัทหรือหัวหน้าของแอนดี้นั่นเอง แต่วันนี้แอนดี้ขอตัวกลับบ้านเนื่องจากสัญญากับมารดาเอาไว้แล้วว่าจะกลับไปทานอาหารเย็นที่บ้าน อิสซาเบลตามใจลูกน้องก่อนจะพาคนอื่นๆ ออกไป ดาร์ลีนเองก็ตามไปด้วย แอนดี้ออกจากบริษัททันทีที่เก็บของเสร็จ เธอแวะซื้อของที่ซูเปอร์มาเก็ตนิดหน่อย ก่อนจะเข้าบ้าน

                    โจนาธานกำลังนั่งดูข่าวจากโทรทัศน์ ส่วนเทรซี่เพิ่งจะวางกับข้าวจานสุดท้ายลงบนโต๊ะอาหารในห้องครัว แอนดี้ทักทายพ่อกับแม่เสร็จก็เดินขึ้นไปเก็บห้องบนห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาร่วมโต๊ะทานอาหารกับครอบครัว แอนดี้เดินไปเร่งเสียงโทรทัศน์ให้ดังขึ้น เพราะตอนนี้กำลังรายงานข่าวเรื่องฆาตกรรมที่ถูกลือกันไปทั่ว

                    บนหน้าจอขึ้นหน้าของร้อยตำรวจโทไทเนอร์ แมดดิสันกำลังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสันนิษฐานของคนร้ายและความคืบหน้าในการสืบสวน ยิ่งแอนดี้ได้มาฟังว่าคนร้ายอาจจะเป็นโรคจิตและมีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นฆาตกรรมต่อเนื่องด้วย ลมก็แทบจับบนโต๊ะทานอาหารเดี๋ยวนั้น เทรซี่เองก็อึ้งไปเหมือนกัน ส่วนโจนาธานยังคงเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่สนใจอะไรเป็นพิเศษ

                    “วันนี้อลิเซียไม่กลับบ้านเรอะ” โจนาธานเปลี่ยนบรรยากาศบนโต๊ะด้วยการยกเรื่องของลูกสาวคนเล็กขึ้นมาพูด

                    แอนดี้ส่ายหน้าพร้อมกับตอบ “วันนี้น้องงานยุ่งค่ะ ลูกค้าโทรมาเร่งงาน กำหนดส่งพรุ่งนี้ เลยต้องอยู่ทำที่ออฟฟิซโต้รุ่ง แย่จริงๆ เลย” เธอถอนหายใจด้วยความสงสารน้องสาว แต่ก็โตๆ กันแล้ว ต่างคนก็ต่างมีงางนที่ต้องรับผิดชอบ ยิ่งน้องสาวของเธอเป็นวิศวกรด้วยยิ่งแล้วใหญ่ งานท่วมท้นจนแทบจะไม่มีเวลาหายใจด้วยซ้ำ

                    “วันนี้แม่รู้สึกว่าเจ้ารู้คกี้มันแปลกๆ นะ เอาแต่ดมนู่นดมนี่ไปทั่วบ้าน บางครั้งก็เห่าแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็เดินวนไปวนมาอีก มันอาจจะไม่สบายก็ได้นะลูก” เทรซี่หันมาขอความเห็นลูกสาว

                    “คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งคะ เมื่อเช้าก็เห็นปกติดี ส่งจานมาสิคะ เดี๋ยวหนูเอาไปล้างให้” แอนดี้วางจานซ้อนกันก่อนจะเดินเอาไปล้างที่ซิงค์

                    แอนดี้เกือบทำจานหล่นจากมือ เมื่อจู่ๆ รู้คกี้ก็เห่าพรวดพราดขึ้นมา ก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นสอง เห่าอีกสักพักนึงก่อนจะหยุดไป มันเดินลงมาอีกครั้งแล้วเดินไปนอนในห้องนั่งเล่น แอนดี้เองก็ชักเริ่มแปลกใจเหมือนกัน ปกติรู้คกี้ไม่เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่ามันได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า อาจจะเป็นแมวข้างบ้านก็ได้ เพราะเพื่อนบ้านของเธอเลี้ยงแมวเอาไว้ตั้งสี่ห้าตัว ถ้ามันจะได้ยินเสียงแมวร้องก็คงไม่แปลก

     

                    ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน ถึงฝุ่นจะเครอะมากก็เถอะ แต่ที่นี่แหละเหมาะสุดแล้ว ใช่ ไม่มีที่ไหนเหมาะไปกว่าที่นี่อีกแล้ว เราต้องอยู่ได้ เราต้องอยู่รอด

                โชคดีที่ออกไปซื้ออาหารมาตุนเอาไว้ได้ ไม่งั้นคงต้องอดไปหลายมื้อแน่ เพราะตั้งใจว่าจะไม่ออกไปไหนอีกสองวัน โถฉี่ก็เตรียมไว้แล้ว ไม่น่ามีปัญหา ตอนแรกก็ลืมซื้อน้ำมา แต่โชคยังเข้าข้างที่ไปหยิบน้ำมาได้โดยไม่มีใครเห็น ขาดอาหารหลายมื้อไม่เป็นไร แต่ขาดน้ำนี่สิจะอยู่ไม่ได้ เราจำได้ แม่เคยสอนเอาไว้

                ส่วนพวกตำรวจหน้าโง่ทั้งหลาย ปล่อยให้มันวิ่งวุ่นกันไปก่อน ไม่ต้องรีบร้อนไปไหนตอนนี้ ตำรวจไม่มีทางจับได้แน่ เรามันอัจฉริยะตัวจริง ใครๆ ก็พูดแบบนั้น ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไง ขอแค่เรารู้ว่าตัวเราเป็นยังไงก็พอ และเราก็รู้ตัวเองดีด้วย

                เรารู้ว่ายัยผู้หญิงคนนั้นมันผิด ถึงแม้จะรัก แต่ทุกอย่างที่หล่อนทำมันผิดหมด ไม่มีถูกสักอย่าง พระเจ้าต้องไม่พอใจแน่ ไม่เป็นไร เราจะทำตามความประสงค์ของพระเจ้าเอง เรารู้ว่าพระเจ้าคิดยังไง และเราจะตอบสนอง ไม่สิ เราตอบสนองคำสั่งของพระองค์แล้ว

                สี่ทุ่มแล้ว ได้เวลานอนตามที่แม่บอกแล้ว ยาล่ะ จำได้ว่าพกติดตัวมาด้วย อ้อ ลืมไปว่าหมดไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว ช่างมันเถอะ ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย จะกินไปทำไม นอนเลยดีกว่า พรุ่งนี้กะว่าจะตื่นสายสักนิด คงไม่มีใครมาที่นี่หรอก ใช่ ไม่มีทางที่ใครจะมาพบแน่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×