ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อโลกหยุดหมุน

    ลำดับตอนที่ #4 : บ้านประธานาธิบดี

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 49


    ยานลงจอดอย่างเงียบสนิทด้วยฝีมือนักบินที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประเทศ พวกเรา ประกอบด้วยมาร์ติน ปู่ผมและผม เดินลงจากยานตรงไปยังลิฟต์สีทองด้านหน้าขนาดกว้างน่าจะมากกว่า 3 เมตร เมื่อเราเดินกันเข้าไป ประตูก็เปิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

    ยินดีต้อนรับสู่ลิฟต์สายโอเมก้าครับเสียงตอบรับอัตโนมัติที่ผมเริ่มจะชินกับมันแล้วดังขึ้นทันทีที่พวกเราย่างเท้าผ่านประตู

    ลิฟต์ในบ้านของผมประกอบด้วย 5 สายคือ โอเมก้า อะมิโน กลูโคส แวมป้า และอีเล็กทรอนีย์ครับมาร์ตินอธิบาย ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าเขาไม่มีชื่อตั้งกันหรือไง ถึงเอาชื่อเกลือแร่วิตามินพวกนี้มาตั้ง ยิ่ง 2 คำสุดท้ายยิ่งแล้วใหญ่ แวมป้า ชื่อปีศาจที่ไหนก็ไม่รู้

    ทำไมมีแค่ 5 สายล่ะครับ บ้านคุณน่าจะใหญ่กว่านั้น ปู่ถาม ปู่มักจะคิดเรื่องแบบนี้ได้เสมอแหละ

    ลิฟต์นี้เคลื่อนที่แนวนอนได้ครับ เลยไม่จำเป็นต้องมีเยอะ แล้วถ้าหากลิฟต์สวนกันยังมีอีกช่องให้หลบกันได้ด้วยครับ ผมล่ะเชื่อจริงๆเลย ลิฟต์หลบกันได้ นี่มันรถไฟเหรอไง

    และแล้วลิฟต์ก็ปิดลง ด้านในลิฟต์เป็นสีทองทั้งหมด มีขลิบเงินเป็นแนวตามมุม พื้นเป็นหินอ่อนขัดมันอย่างสวยงาม ดูแล้วคงลงทุนไปมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน

    เดี๋ยวพอลิฟต์ถึงที่ คงต้องขออนุญาตทั้งสองท่านให้เข้าไปในแคปซูลวาบด้วยนะครับ เพราะรถไฟความเร็วสูงกำลังอยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุงครับ

    บ้านคุณไกลกันขนาดนั้นเลยเหรอครับผมถามอย่างแปลกใจ

    5 กิโลเมตรครึ่งครับผมมาร์ตินตอบยิ้มๆ

    และแล้วลิฟต์ก็เปิดออกเผยให้เห็นห้องขนาดใหญ่คล้ายๆพิพิธภัณฑ์ซึ่งมีฝาผนังยุบเข้าไปด้านข้างเป็นจุดๆ ซึ่งถูกแทนที่ด้วยแคปซูลวาร์ปรุ่นใหม่ล่าสุด แวรร์-2000

    เชิญคนละที่เลยครับ ใช้เวลา9 วินาทีโดยประมาณ ไอเก้าวินาทีนี่มันประมาณตรงหนาย 

    ผมเดินเข้าไปในแคปซูลด้านขวาซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด(ยังหนุ่มๆอยู่ต้องอย่าเสียแรงมาก) ส่วนปู่ผู้เยาว์วัยเข้าไปในแคปซูลถัดจากผมไป 2 ที่ ส่วนมาร์ตินนั้นเข้าไปในแคปซูลใกล้สุดด้านซ้าย(ยังหนุ่มๆเหมือนผม)

    ระบบจะเริ่มทำการนับถอยหลังการวาร์ปในอีก 3 วินาที

    3....2....1....

    วาร์ป

    ชิ้งคคคค์..........

    แสงสีฟ้าฉายขึ้น(และลง)จากด้านบนและล่างของผม ตามด้วยควันกลุ่มใหญ่ ไม่นานเกิน 2 วินาทีควันก็เริ่มจาง เผยให้เห็นที่หมายแห่งใหม่ ห้องรับรอง

    ประตูเปิดออกโดยอัตโนมัติ

    เสียงแรกที่ดังขึ้นมาคือเสียงของมาร์ติน

    8.59 วินาทีเร็วไป 0.55 วินาที ความจริงต้องใช้เวลา 9.14 วินาทีต่างหากมาร์ตินพูดลอยๆ แล้วก็พูดประโยคนี้ลงไปบนนาฬิกา แล้วก็มีเสียงตอบมาแทบจะในทันที

    ขอประทานโทษด้วยครับท่าน แคปซูลนับถอยหลังผิดพลาดไปหน่อย จะแก้ให้ครับ เสียงพูดผ่านนาฬิกาออกมา เป็นน้ำเสียงแห่งความหวั่นเกรงในอำนาจอย่างรุนแรง

    อืมมาร์ตินส่งเสียงในลำคอดูเคร่งขรึมมาก แล้วก็ยื่นมือไปปิด เห็นได้ชัดว่าเข้าเคร่งครัดเรื่องเวลามาก

    เอ้า ไปกันได้แล้วล่ะ จัดที่ไว้ให้เรียบร้อยแล้วมาร์ตินกลับมาอารมณ์ดีอีกครั้งแล้วผายมือไปทางประตูบานหนึ่ง ซึ่งมีข้อความที่ถูกฉายโดยเครื่องฉายด้านบนเขียนว่า ห้องรับรองพิเศษ

    ครับผม

    ครับ

    แล้วผมจะตามไปนะ ขอเวลาไปจัดการเรื่องเวลาเมื่อกี้สักครู่ เขาพูดพลางบ่นพึมพำเบาๆ

    ผมกับปู่เดินเข้าไปที่ประตูบานนั้น ประตูเปิดออกในทันที เผยให้เห็นห้องขนาดกลาง มีโซฟาสีครีมขนาดกระทัดลัดอยู่กลางห้องและโต๊ะกระจกซึ่งมีปลาถูกเลี้ยงเอาไว้อย่างสวยงาม ด้านข้างมีต้นไม้และรูปภาพประดับไว้อย่างพอเหมาะพอเจาะ

    หลังจากผมกับปู่นั่งกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประตูก็ปิดลง แล้วการสนทนาก็เริ่มขึ้น

    พร้อมมั้ยครับ ปู่

    พร้อมๆ

    แน่ใจนะ

    อืม น่า ไว้ใจปู่สิ

    แน่นอนครับ

    ผมยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อจะเสริมความมั่นใจให้ปู่ซะหน่อย แต่มาร์ตินกับเดินเข้ามาซะก่อน

    ไง เรียบร้อยดีมั้ยปู่ถามอย่างมั่นใจใน นิวส์ ปู่

    ฮ่าๆ แน่นอนๆ ไม่มีไรมาก ไม่ต้องกังวล

    งั้นจะเริ่มเลยมั้ยครับ เอ่อ เรื่องงาน

    แน่นอนเลยครับผม

    ปู่พูดแล้วยื่นมือไปจับมือมาร์ติน ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนถีบออกนอกวงยังไงก็ไม่รู้

    นี่คือเอกสารงานทั้งหมดครับปู่พูดแล้วหยิบเอกสารงานที่ผมช่วยทำเมื่อวานออกมาจากซองเอกสารดิจิตอล

    อ๊ะ อ๊ะ อย่าให้ผมเห็นรหัสสิมาร์ตินหยอกอย่างขี้เล่นเมื่อเหลือบตาไปเห็นรหัสในการเปิดซองที่ปู่พิมพ์ลงอย่างบรรจง

    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

    เสียงสัญญานสี่ครั้งเป็นการแจ้งว่ารหัสทั้งสี่ตัวถูกป้อนอย่างถูกต้อง และสามารถเปิดซองนำเอกสารออกมาได้

    นี่คือเอกสารทั้งหมดครับปู่พูดพลางยื่นให้มาร์ตินที่ทำหน้าระรื่นอยู่ด้านตรงข้าม

    ฉันไม่อ่านได้มั้ย สรุปให้ฟังหน่อยมาร์ตินต่อรอง

    อืมม.... ได้ครับ ได้เป็นประธานาธิบดียังขี้เกียจอีก ผมคิด

    สรุปง่ายๆก็คือ ผมต้องการคนในปี 2006 มาขับยานเข้าไปในใจกลางโลก ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกเขาสามารถทนต่อความร้อนได้นานที่สุด ถ้าไม่เทียบกับยุค 80 และต้องเป็นเด็กเพราะจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องค่าแรงหรือไม่มีปากเสียงกัน

    แค่นั้นใช่มั้ย

    ครับผมผมตอบให้แทนปู่

    งั้นก็เตรียมไทม์แมคได้เลย เตรียมระเบิดนิวเครียร์ให้เรียบร้อยด้วย

    เอ่อ คือผมไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนั้นนะครับ ก่อนจะรู้ว่าปล่อยไก่ตัวโตออกมา เพราะมาร์ตินกำลังพูดลงในวิทยุสื่อสารที่อยู่ต้ายปกเสื้อของท่าน ไม่ได้พูดกับเขาแต่อย่างใด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×