คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เข้าพบประธานาธิบดีอย่างคาดไม่ถึง
“งั้นเราคงต้องเดินทางกันซักที ขอเชิญคุณที่ห้องพักเลยนะครับ”
“ห้องไหนเหรอครับ”ผมถามเมื่อมองไปเห็นประตูเป็น 10 บาน
“จำให้ดีนะครับ ตรงไปเรื่อยๆจนสุด เลี้ยวขวา ประตูที่ 3 ขวามือครับ”
ผมเดินไปกับปู่ ไม่นานก็ถึงห้องนั้นแล้ว ที่ประตูเขียนว่า “ห้ามเข้า” ผมรับรู้ถึงคนที่อยู่ด้านในแล้ว จึงเตือนปู่
“ปู่ครับ ดูเหมือนว่าจะมีคนอยู่ด้านในนะครับ”
“งั้นเหรอ ก็พวกนักบินไง”
“ผมหมายถึงอย่างอื่นนะครับ คิดว่าน่าจะเป็นคน” ผมเงยหน้ามองเพดานพลางใช้ความคิด ในใจไม่คิดว่าปู่จะเปิดประตูซะก่อน
“ฟิ้งค์..........”
ผมหันขวับทันที ปู่กดปุ่มสีเขียวข้างประตูจนได้ ตอนนี้บานประตูกำลังเลื่อนลงมาแล้ว - ผมเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นทันที - ส่วนปู่นั้นทำหน้าตาเฉย ยืนยิ้มราวกับกำลังมาสวนสนุก
“ไงหวัดดี”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมา
เมื่อประตูเลื่อนลง ผมจึงเห็นประธานาธิบดีนั่งอยู่บนเบาะ มีบอดี้การ์ดกว่า 10 นายอยู่รอบและหน้าประตูมีหน่วยคอมมานโด 3 นายประจำอยู่
ผมกับปู่ตกอยู่ในอาการค้างเช่นเดิม หน้าปู่ที่เมื่อกี้ยังยืนยิ้มอยู่กลายเป็นตื่นเต้นทันที เหงื่อแตกพลั่กราวกับไปวิ่งรอบโลกมา
“เอ้า เข้ามาสิ นั่งๆๆ”ประธานาธิบดีพูดอย่างเป็นกันเอง
“ครับท่านประธานาธิบดี” ปู่กับผมพูดพร้อมกัน
“เอาเครื่องดื่มไรมั้ย”
“ขอเป็นกาแฟแล้วกันครับท่านประนาธิบดี”ปู่ผมพูด
“ผมขอโค้กละกันครับท่านประธานาธิบดี”
ประธานาธิบดีหันไปพูดกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวเหมือนแม่ครัวประจำบ้านทั่วๆไป แล้วเธอจึงเดินไปทำเครื่องดื่ม - ไม่กี่นาทีต่อมา กาแฟ โค้ก และน้ำสีเขียวมีฟองซึ่งดูแล้วไม่น่าจะต่างจากน้ำเขียวธรรมดามากนัก ก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นมากลางโต๊ะดูราวกับเวทมนตร์
“เรียกผมว่ามาร์ตินแล้วกันนะ” มาร์ตินพูดพลางหยิบน้ำเขียวไปจากถาด ดูจากสีหน้าเขาคงคุ้นเคยกับการมีน้ำเลื่อนขึ้นมาจากโต๊ะอยู่บ่อยๆ
“ครับ ท่านมาร์ติน”ปู่ผมตอบรับ
“เฮ้ย ไม่ใช่ๆ มาร์ตินเฉยๆต่างหาก”มาร์ตินกล่าว
“เอ่อ จะดีเหรอครับ”ผมถาม
“ดีน่า”
“ครับ เอ่ออ.. มาร-ตีนน”ปู่ผมพูดอย่างไม่มั่นใจพลางมองหน้ามาร์ติน
“อืม ดี แต่ออกเสียงเร็วกว่านี้หน่อยน่าจะดีกว่านะ”มาร์ตินพูดพลางยิ้ม
“แล้วซีละ ไม่ทักทายกันบ้างละ”
“เอ่อ ครับมาร์ติน”ผมพูดอย่างประหม่า
“จะเป็นเกียรติมาก ถ้าพวกคุณจะนั่งลง”มาร์ตินพูดอย่างอารมณ์ดี
ผมกับปู่นั่งลงแทบจะในทันที มาร์ตินหัวเราะคิกคัก
“อย่าเห็นว่าผมเป็นประธานาธิบดีสิ เห็นว่าผมเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน”มาร์ติน บอก
“เอ่อ....... ครับ”ปู่ตอบตกลงแทบจะในทันที ในขณะที่ผมยังคิดความหมายของคำๆนั้นไม่ออก แต่ก็ตอบตกลงไป
ตอนนี้ผมพึ่งคิดออกว่ายังไม่ได้หยิบน้ำที่วางไว้บนโต๊ะเลย จึงเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาซด - ปู่มองผมสีหน้าไม่สู้ดีนัก ผมรีบวางแก้วลงทันที จนน้ำกระเฉาะเกือบหก
“สงสัยจะตื่นเต้นที่ได้พบท่านประธานาธิบดีโดยกะทันหันสิท่า”มาร์ตินพูดโดยเน้นเสียงตรงคำว่าท่านประธานาธิบดีเป็นพิเศษ
ผมกับปู่ยังเงียบ มาร์ตินสีหน้าเริ่มคลายอารมณ์ลงแล้ว หลังจากไม่มีใครเล่นด้วย แล้วจึงหันมาบอกกับปู่อย่างเป็นการเป็นงาน
“คุณมาโรล หวังว่าคุณคงเตรียมเอกสารมาแล้วนะ”
“ครับแน่นอน ผมเอามาใส่ไว้ใน... อุ๊บส!”
บอดี้การ์ดมาร์ตินคนหนึ่งเอื้อมมือมาปิดปากเขาทันที
“หน้าต่างมีหู ประตูมีตา”เขากล่าวอย่างมีเลศนัย
“งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับ ท่านมาร์ติน” เขาพูดแล้วบอดี้การ์ดทั้งหมดก็เดินออกไปพร้อมกับหน่วยคอมมานโด
“คุณซดกาแฟไปก่อนแล้วกันนะ เพื่อจะหายตื่นเต้นบ้าง ผมขอตัวแปป”เขาพูดพลางวางแก้วไว้บนถาดอย่างเดิม แล้วเดินออกไป
ปู่ผมพึ่งจะรู้สึกตัวขึ้นมา แล้วจึงยื่นมือมาหยิบกาแฟอย่างปลดปล่อย หลังจากมาร์ตินเดินออกไปจากห้อง - ปู่ถอนหายใจแล้วซดกาแฟหมดถ้วยด้วยสีหน้าสดใส แล้วจึงวางแก้วลงบนถาด - “ซีเอ้ย ไม่คิดว่าจะเจอท่านตอนนี้เลย ตกใจจริงๆ” - ไม่ต้องบอกผมก็รู้แล้ว ตั้งแต่เข้ามาปู่ดูพูดน้อยขึ้นเยอะ - แต่ผมก็ดีใจนะ ที่ปู่ดูสดใสขึ้น เมื่อคิดแล้วก็อดถอนหายใจอย่างโล่งอกไม่ได้
“เป็นไงบ้างเอ่ย พักซะนานเชียว” เสียงมาร์ตินดังขึ้นมา
“ครับมาร์ติน ดีขึ้นเยอะเลย”ผมบอกมาร์ติน
“แล้วมาโรลละ ว่าไง”มาร์ตินบอก เขาดูสดใสขึ้นมากกว่าเดิมซะอีก
“ครับ โอเคแล้วครับ มาร์ติน”ปู่ผมพูดขึ้นหลังรวบรวมความกล้า(สังเกตจากการถอนหายใจรอบใหญ่ แล้วพึมพัมกับตัวเองว่า “เป็นไงเป็นกันวะ”)
“เอาละ จะถึงบ้านผมแล้ว คงต้องไปคุยเรื่องงานที่บ้านแล้วละ”
“ได้อยู่แล้วครับ”ผมพูด เพราะคิดว่าการคุยงานบนยานนี้คงไม่น่าพิศมัยนัก
“งั้นก็เตรียมตัว อีก 10 นาทีก็ถึงแล้วละ”มาร์ตินพูดพลางเดินออกไป “แล้วเจอกัน”
ความคิดเห็น