คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไดเรค-007
ชายหนุ่มและชายวัยกลางคนใส่สูทสีดำทยอยเดินออกจากรัฐสภา ตึกที่จะเรียกได้ว่าใหญ่และโอ่อ่าที่สุดในเมืองเลยก็ว่าได้ - แต่ในตอนนี้ดูมันจะเล็กลงไปถนัดตา เมื่อกองทัพสื่อมวลชน แห่เข้าไปที่ประตูเกือบครึ่งพันคน เมื่อชายหนุ่มแรกเดินออกมาจากประตู ที่ด้านบนเขียนว่า “ห้องประชุม - ห้ามเข้า” - กล้องกว่า 10 ตัวก็จับภาพทันที พร้อมกับนักข่าว 5 คนซึ่งได้แก่ ช่อง 3 5 7 9 และ 11 นำไมล์จ่อปากแทบจะทันที - คนที่เหลือก็ไม่พ้นชะตากรรม เพราะเมื่อออกจากประตูยังไม่ทันจะได้หายใจ ก็ถูกตีวงล้อมใช้ไมล์จ่อทันที
แต่ที่เห็นจะโดนเยอะที่สุด คงจะเป็น โชน ดร.มาโรล และซี ที่ถูกนักข่าวเกือบร้อยชีวิตแย่งกันถามคำถามอย่างไม่คิดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ถามแบบตอบไม่ได้เช่น “ข้อสรุปเป็นยังไงบ้างครับ” - “ทำไมคุณดูยิ้มแย้มจัง” - “จะดำเนินการต่อยังไงครับ”
หรือคำถามแบบที่โชนอยากจะฆ่าเอาให้ได้เช่น “ทำไมคุณโชนถึงดูซึมๆหล่ะครับ” - “คุณโชนแพ้โหวตเหรอครับ” แต่ไม่ว่าคำถามแบบไหน ทั้ง 3 คนก็ตอบไม่ได้นอกจากคำว่า “ยังบอกไม่ได้ครับ” หรือ “เป็นความลับครับ”
หลังจากใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการฝ่าด่านวงล้อมสื่อมวลชนออกมาได้ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้ว ซีกับมาโรลก็ได้นั่งปรึกษากันที่ริมระเบียงกันจนถึงดึก
“ขอบคุณเจ้าจริงๆน่ะซี ไม่งั้นแนวคิดปู่คงไม่ได้ทำจริงแน่”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ เรื่องง่ายๆแค่นี้ แค่ใช้เหตุผลนิดหน่อย ก็โอเคแล้วครับ”
“เจ้ายังไม่เปลี่ยนเลยนะ” มาโรลบอกพลางมองสายตาอันเฉียบคมแน่วแน่ของหลานชายอย่างเอ็นดูและไว้วางใจ
“เอ่อ ขอโทษที่เสียมารยาทครับ” ซีบอกกับมาโรลทันที
“ฮ่ะๆๆไม่เป็นไรหรอก”ชายแก่พูดแล้วจึงยิ้ม
“ว่าแต่ปู่เตรียมแนวคิดที่จะเสนอประธานาธิบดีในวันพรุ่งนี้ยังครับ เอ่อ คือผมหมายถึงแผนงานนะครับ”
“เตรียมไว้ตั้งนานแล้วละ การจะเสนอแนวคิดขึ้นมา ปู่ต้องเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว”มาโรลพูด ถึงแม้ที่จริงแล้วเขาจะยังไม่ได้ทำมันเลย แต่เขาก็ไม่อยากให้หลานไม่สบายใจ
“คุณปู่นะ เรื่องแค่นี้ก็ปิดบังไปได้ เวลาปู่พูดโกหกนะ ผมรู้หมดแหละ”
“ปิดบังอะไร ไม่ได้ปิดบังอะไรสักหน่อย” ถึงเขาจะปฏิเสธ แต่เหงื่อเม็ดใหญ่ก็เกาะหน้าผากอย่างช่วยไม่ได้
“คุณปู่อย่าปิดบังผมเลย เอามาเถอะ เดี๋ยวผมช่วยทำ นะๆ”ซีขอร้อง
“ก็ได้”มาโรลตอบตกลงพลางถอนหายใจ
แล้วมาโรลกับซีก็ทำงานกันไป พูดคุยกันไปตามประสาหลานกับปู่
ครอบครัวของผมก็มีแต่ปู่นี่แหละที่ผมสนิทที่สุด ย่าของผมพึ่งเสียไปไม่นาน ส่วนตายายก็ไปหาบ้างบางครั้ง ส่วนพ่อแม่เหรอ ท่านไปทำงานต่างประเทศที 2 สัปดาห์กลับมาไม่นานก็ไปอีก ไม่เคยเกิน 3 วันเลยด้วยซ้ำ
เวลา 7.00 น.
“ปู่ครับ สูทผมไปไหนหละ” ผมตะโกนถามปู่ซึ่งกำลังโกนหนวดด้วยเครื่องโกนหนวดแบบใบมีด ซึ่งถือว่าเชยมากในปี 2148
“อยู่ในตู้เสื้อผ้าปู่มั้ง” เสียงอู้อี้ของปู่ตอบกลับมา
ผมจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าปู่ มันใหญ่และดูเก่ากว่าของผมมาก ไล่สายตาจากด้านขวามาเรื่อยๆ มีชุดสูทสีขาว กางเกงขาสั้น แล้วก็เสื้อมีลูกไม้เชยๆ เท่าที่ดูไม่เหมือนกับตู้เสื้อผ้าของคนในยุค 2148 เลย
ผมไล่หาไปจบไปถึงชุดลองสุดท้าย อะฮ้า อยู่นี่เอง แล้วจึงเดินไปเปลี่ยนที่แคปซูลเปลี่ยนชุด ผมเอาบาร์โค้ดชุดจ่อกับเครื่องแล้วใส่ชุดเข้าไปในช่อง แล้วเดินเข้าไปในแคปซูล - ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาแล้ว “เครื่องกำลังเปลี่ยนชุดให้คุณ กรุณาอย่าเปิดประตู”เสียงของเครื่องดังขึ้น - “ติ้งค์” ควันค่อยๆหายไป แล้วผมจึงเดินออกมามือเปล่าในชุดสูทสีดำเข้ารูป
ในกระเป๋ามีเครื่องมือไฮเทคทุกชนิดพอที่คุณจะนึกได้ เช่น ใบมีดโกนอัตโนมัติที่มีเซนเซอร์จับหนวดอัตโนมัติ - คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเท่านิ้วมือ (ถ้าเล็กกว่านี้เดี๋ยวมองไม่เห็นจอ) - บัตรประจำตัวซึ่งสแกนโดยบาโค้ดพิเศษ และอาหารติดตัวซึ่งเป็นผง และต้องนำไปละลายในน้ำร้อน แต่ออกมาอร่อยอย่าบอกใคร
“พร้อมยังเอ่ย หลาน”ปู่ตะโกนถาม ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก
“พร้อมแล้วครับ”ผมตะโกนตอบแล้ววิ่งลงไป
ปู่อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ถือกระเป๋าล็อคกุญแจอย่างดี ซึ่งในกระเป๋านี้คือ เอกสารเกี่ยวกับแนวคิดที่ผมช่วยปู่ทำเมื่อคืนนั่นเอง
“ใครมารับเราเหรอปู่”ผมถามปู่เมื่อเห็นไม่มีทีท่าจะเรียกแท็กซี่หรือขับรถออกไป แต่กลับเดินไปรอรถอยู่หน้าบ้าน
“ยานส่วนตัวของประธานาธิบ.....”ปู่พูดยังไม่จบ ก็อ้าปากค้างแล้วแหงนหน้ามองไปบนฟ้า ซึ่งมียานสีเงินลำใหญ่คาดสีฟ้ากำลังลงจอดอย่างเงียบกริบหน้าบ้านผม ประตูเปิดลงอย่างนุ่มนวล ควันสีแดงขาวค่อยๆหายไป มีชายใส่ชุดเหมือนนักบินลงมาต้อนรับ
“เชิญครับ”เขาพูด
ผมกับปู่ได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น ตะลึงกับสิ่งที่เห็น เพราะไม่คิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้แม้แต่จะเห็นมัน ยิ่งขึ้นยิ่งไม่เคยคิด เพราะมันคือ ไดเรค-007 ยานส่วนตัวล่าสุดของประธานาธิบดี มีเรดาห์จับทุกสิ่งรอบตัว 100 กิโลเมตร น้ำมันหลายพันลิตรสามารถบินรอบโลกได้ 5 รอบโดยไม่มีวันหมด ด้านในไม่ต้องพูดถึง มันคือคฤหาษถ์ยักษ์ชัดๆ พื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตรของมันแบ่งเป็น 3 ห้องใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละห้องประกอบด้วยห้องน้ำ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งบ่อจากุชชี่เล็กๆไว้ผ่อนคลายด้วย และที่สำคัญที่สุดคือระบบรักษาความปลอดภัยที่ว่ากันว่าแม้แต่จะโดนปืนยิงก็ไม่พัง เพราะมีแผ่นเหล็กกันกระสุนทั้งยาน
“เร็วสิครับ”นักบินหน้าตาเริ่มเร่งรีบ เมื่อเห็นชาวบ้านหลายคนรีบวิ่งมาดู เมื่อเห็นยานไดเรค-007 มาจอดแถวนี้
ผมกับปู่ยังไม่ขยับ เพราะยังลังเลที่จะขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่ นักบินเห็นดังนั้นจึงตัดสินใจอย่างที่ผมถึงกับตะลึง
“พัวะ!!”เสียงดังขึ้นอย่างแรง
ผมกระเด็นเข้าไปในห้อง ตามมาด้วยปู่ที่โดนเหมือนกัน แต่คงจะเบากว่า แล้วประตูยานจึงปิดลงทันที
นักบินคนเมื่อกี้หันมายิ้มให้ แล้วจึงพูดว่า “ขอโทษที่เสียมารยาท แต่ประธานาธิบดีเป็นคนบอกให้ทำ ถ้าคุณไม่ยอมขึ้น”
“ไม่เป็นไรหรอกๆ” ปู่บอกกับนักบิน
ก็จะเป็นไรได้ไง ปู่โดนแค่เบาๆนี่ ผมนี่โดนแทบจะกระเด็นถึงบ้านประธานาธิบดีแล้ว
“เป็นไรเป่าครับ ท่านซี” นักบินถามน้ำเสียงดูขี้เล่น
“ไม่เป็นไรๆ” ผมบอกแบบปู่
ความคิดเห็น