ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อโลกหยุดหมุน

    ลำดับตอนที่ #2 : ไดเรค-007

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 49


    ชายหนุ่มและชายวัยกลางคนใส่สูทสีดำทยอยเดินออกจากรัฐสภา ตึกที่จะเรียกได้ว่าใหญ่และโอ่อ่าที่สุดในเมืองเลยก็ว่าได้ - แต่ในตอนนี้ดูมันจะเล็กลงไปถนัดตา เมื่อกองทัพสื่อมวลชน แห่เข้าไปที่ประตูเกือบครึ่งพันคน เมื่อชายหนุ่มแรกเดินออกมาจากประตู ที่ด้านบนเขียนว่า ห้องประชุม - ห้ามเข้า- กล้องกว่า 10 ตัวก็จับภาพทันที พร้อมกับนักข่าว 5 คนซึ่งได้แก่ ช่อง 3 5 7 9 และ 11 นำไมล์จ่อปากแทบจะทันที - คนที่เหลือก็ไม่พ้นชะตากรรม เพราะเมื่อออกจากประตูยังไม่ทันจะได้หายใจ ก็ถูกตีวงล้อมใช้ไมล์จ่อทันที

    แต่ที่เห็นจะโดนเยอะที่สุด คงจะเป็น โชน ดร.มาโรล และซี ที่ถูกนักข่าวเกือบร้อยชีวิตแย่งกันถามคำถามอย่างไม่คิดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคำถามที่ถามแบบตอบไม่ได้เช่น ข้อสรุปเป็นยังไงบ้างครับ- ทำไมคุณดูยิ้มแย้มจัง - จะดำเนินการต่อยังไงครับ

    หรือคำถามแบบที่โชนอยากจะฆ่าเอาให้ได้เช่น ทำไมคุณโชนถึงดูซึมๆหล่ะครับ-            คุณโชนแพ้โหวตเหรอครับแต่ไม่ว่าคำถามแบบไหน ทั้ง 3 คนก็ตอบไม่ได้นอกจากคำว่า ยังบอกไม่ได้ครับหรือ เป็นความลับครับ

                หลังจากใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการฝ่าด่านวงล้อมสื่อมวลชนออกมาได้ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพแล้ว ซีกับมาโรลก็ได้นั่งปรึกษากันที่ริมระเบียงกันจนถึงดึก   

    ขอบคุณเจ้าจริงๆน่ะซี ไม่งั้นแนวคิดปู่คงไม่ได้ทำจริงแน่

    ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ เรื่องง่ายๆแค่นี้ แค่ใช้เหตุผลนิดหน่อย ก็โอเคแล้วครับ                                                               

    เจ้ายังไม่เปลี่ยนเลยนะ มาโรลบอกพลางมองสายตาอันเฉียบคมแน่วแน่ของหลานชายอย่างเอ็นดูและไว้วางใจ

    เอ่อ ขอโทษที่เสียมารยาทครับ ซีบอกกับมาโรลทันที

    ฮ่ะๆๆไม่เป็นไรหรอกชายแก่พูดแล้วจึงยิ้ม

    ว่าแต่ปู่เตรียมแนวคิดที่จะเสนอประธานาธิบดีในวันพรุ่งนี้ยังครับ เอ่อ คือผมหมายถึงแผนงานนะครับ 

    เตรียมไว้ตั้งนานแล้วละ การจะเสนอแนวคิดขึ้นมา ปู่ต้องเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วมาโรลพูด ถึงแม้ที่จริงแล้วเขาจะยังไม่ได้ทำมันเลย แต่เขาก็ไม่อยากให้หลานไม่สบายใจ

    คุณปู่นะ เรื่องแค่นี้ก็ปิดบังไปได้ เวลาปู่พูดโกหกนะ ผมรู้หมดแหละ

    ปิดบังอะไร ไม่ได้ปิดบังอะไรสักหน่อย ถึงเขาจะปฏิเสธ แต่เหงื่อเม็ดใหญ่ก็เกาะหน้าผากอย่างช่วยไม่ได้

    คุณปู่อย่าปิดบังผมเลย เอามาเถอะ เดี๋ยวผมช่วยทำ นะๆซีขอร้อง

    ก็ได้มาโรลตอบตกลงพลางถอนหายใจ

    แล้วมาโรลกับซีก็ทำงานกันไป พูดคุยกันไปตามประสาหลานกับปู่

     

    ครอบครัวของผมก็มีแต่ปู่นี่แหละที่ผมสนิทที่สุด ย่าของผมพึ่งเสียไปไม่นาน ส่วนตายายก็ไปหาบ้างบางครั้ง ส่วนพ่อแม่เหรอ ท่านไปทำงานต่างประเทศที 2 สัปดาห์กลับมาไม่นานก็ไปอีก ไม่เคยเกิน 3 วันเลยด้วยซ้ำ

     

    เวลา 7.00 น.

    ปู่ครับ สูทผมไปไหนหละ ผมตะโกนถามปู่ซึ่งกำลังโกนหนวดด้วยเครื่องโกนหนวดแบบใบมีด ซึ่งถือว่าเชยมากในปี 2148

    อยู่ในตู้เสื้อผ้าปู่มั้ง เสียงอู้อี้ของปู่ตอบกลับมา

    ผมจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าปู่ มันใหญ่และดูเก่ากว่าของผมมาก ไล่สายตาจากด้านขวามาเรื่อยๆ มีชุดสูทสีขาว กางเกงขาสั้น แล้วก็เสื้อมีลูกไม้เชยๆ เท่าที่ดูไม่เหมือนกับตู้เสื้อผ้าของคนในยุค 2148 เลย

    ผมไล่หาไปจบไปถึงชุดลองสุดท้าย อะฮ้า อยู่นี่เอง แล้วจึงเดินไปเปลี่ยนที่แคปซูลเปลี่ยนชุด ผมเอาบาร์โค้ดชุดจ่อกับเครื่องแล้วใส่ชุดเข้าไปในช่อง แล้วเดินเข้าไปในแคปซูล - ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาแล้ว เครื่องกำลังเปลี่ยนชุดให้คุณ กรุณาอย่าเปิดประตูเสียงของเครื่องดังขึ้น - ติ้งค์ควันค่อยๆหายไป แล้วผมจึงเดินออกมามือเปล่าในชุดสูทสีดำเข้ารูป

    ในกระเป๋ามีเครื่องมือไฮเทคทุกชนิดพอที่คุณจะนึกได้ เช่น ใบมีดโกนอัตโนมัติที่มีเซนเซอร์จับหนวดอัตโนมัติ - คอมพิวเตอร์พกพาขนาดเท่านิ้วมือ (ถ้าเล็กกว่านี้เดี๋ยวมองไม่เห็นจอ) - บัตรประจำตัวซึ่งสแกนโดยบาโค้ดพิเศษ และอาหารติดตัวซึ่งเป็นผง และต้องนำไปละลายในน้ำร้อน แต่ออกมาอร่อยอย่าบอกใคร

    พร้อมยังเอ่ย หลานปู่ตะโกนถาม ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก

    พร้อมแล้วครับผมตะโกนตอบแล้ววิ่งลงไป

    ปู่อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ถือกระเป๋าล็อคกุญแจอย่างดี ซึ่งในกระเป๋านี้คือ เอกสารเกี่ยวกับแนวคิดที่ผมช่วยปู่ทำเมื่อคืนนั่นเอง

    ใครมารับเราเหรอปู่ผมถามปู่เมื่อเห็นไม่มีทีท่าจะเรียกแท็กซี่หรือขับรถออกไป แต่กลับเดินไปรอรถอยู่หน้าบ้าน

    ยานส่วนตัวของประธานาธิบ.....ปู่พูดยังไม่จบ ก็อ้าปากค้างแล้วแหงนหน้ามองไปบนฟ้า ซึ่งมียานสีเงินลำใหญ่คาดสีฟ้ากำลังลงจอดอย่างเงียบกริบหน้าบ้านผม ประตูเปิดลงอย่างนุ่มนวล ควันสีแดงขาวค่อยๆหายไป มีชายใส่ชุดเหมือนนักบินลงมาต้อนรับ

    เชิญครับเขาพูด

    ผมกับปู่ได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น ตะลึงกับสิ่งที่เห็น เพราะไม่คิดว่าชาตินี้จะมีโอกาสได้แม้แต่จะเห็นมัน ยิ่งขึ้นยิ่งไม่เคยคิด เพราะมันคือ ไดเรค-007 ยานส่วนตัวล่าสุดของประธานาธิบดี มีเรดาห์จับทุกสิ่งรอบตัว 100 กิโลเมตร น้ำมันหลายพันลิตรสามารถบินรอบโลกได้ 5 รอบโดยไม่มีวันหมด ด้านในไม่ต้องพูดถึง มันคือคฤหาษถ์ยักษ์ชัดๆ พื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตรของมันแบ่งเป็น 3 ห้องใหญ่ๆ ซึ่งแต่ละห้องประกอบด้วยห้องน้ำ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งบ่อจากุชชี่เล็กๆไว้ผ่อนคลายด้วย และที่สำคัญที่สุดคือระบบรักษาความปลอดภัยที่ว่ากันว่าแม้แต่จะโดนปืนยิงก็ไม่พัง เพราะมีแผ่นเหล็กกันกระสุนทั้งยาน

    เร็วสิครับนักบินหน้าตาเริ่มเร่งรีบ เมื่อเห็นชาวบ้านหลายคนรีบวิ่งมาดู เมื่อเห็นยานไดเรค-007 มาจอดแถวนี้

    ผมกับปู่ยังไม่ขยับ เพราะยังลังเลที่จะขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่ นักบินเห็นดังนั้นจึงตัดสินใจอย่างที่ผมถึงกับตะลึง

    พัวะ!!”เสียงดังขึ้นอย่างแรง

    ผมกระเด็นเข้าไปในห้อง ตามมาด้วยปู่ที่โดนเหมือนกัน แต่คงจะเบากว่า แล้วประตูยานจึงปิดลงทันที

    นักบินคนเมื่อกี้หันมายิ้มให้ แล้วจึงพูดว่า ขอโทษที่เสียมารยาท แต่ประธานาธิบดีเป็นคนบอกให้ทำ ถ้าคุณไม่ยอมขึ้น

    ไม่เป็นไรหรอกๆ ปู่บอกกับนักบิน

    ก็จะเป็นไรได้ไง ปู่โดนแค่เบาๆนี่ ผมนี่โดนแทบจะกระเด็นถึงบ้านประธานาธิบดีแล้ว

    เป็นไรเป่าครับ ท่านซี นักบินถามน้ำเสียงดูขี้เล่น

    ไม่เป็นไรๆ ผมบอกแบบปู่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×