ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic my hero academia] x oc

    ลำดับตอนที่ #11 : ห้องเรียน part 2

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 64








    สนามฝึก

    พวกเราทุกคนเปลี่ยนชุดมาลงสนาม ภายในชั้นครึกครืนแต่ละคนต่างหาเพื่อนอย่างเมคเฟรน ส่วนโทคิก็ยืนอยู่เพียงลําพัง คนหล่อมักโดดเดี่ยว 

    "ทดสอบอัตลักษณ์อย่างนั้นหรอ?" หลายๆคนพูดขึ้น

    "แล้วไม่มีพิธีปฐมนิเทศหรอคะ"อุรารากะถาม

    "ในชั้นเรียนฮีโร่เราไม่มีเวลาที่จะต้องไปทําเรื่องไรสาระแบบนั้น"

    "ยูเอมีชื่อเสียงเรื่องเป็นอิสระในการสอนซึ่งนั้นไม่ได้หมายความแค่กับยูเอแต่หมายถึงเหล่าอาจารย์ด้วย"ภายในห้องเงียบไม่มีใครโต้ตอบ ว่าแล้วอาจารย์ไอซาวะก็พูดต่อ 

    "พวกนายคงจะได้ทดสอบแบบนี้มาตั้งแต่ม.ต้น"โทรศัพท์ถูกยกขึ้นมาโชว์ อาจารย์แกก็พูดจี้จุดกระทรวงการศึกษาอย่างจัง ถ้าอาจารย์แกอยู่ไทยคงจะได้นั่งด่าลุง**อยู่กับวัยรุ่นแน่ท็อปฟอร์มไม่หยุดเลยวัยรุ่น 

    ผมเหม่อคิดถึงโลกก่อนอยู่สักพักเสียงดังของระเบิดดังขึ้นพร้อมคําที่เหมือนจะสาปแช่ง

      "ตายซะ!!"ลูกบอลถูกส่งออกไปไกลต่างจากตอนที่ไม่ได้ใช้อัตลักษณ์ 

    แต่ทําไมต้องใช้คําว่าตายด้วยป่าเถื่อนเป็นบ้า หลายๆคนในห้องก็คงจะคิดแบบเดียวกันกับผม 

    '705.2'เป็นเลขที่ถูกโชว์ขึ้นบนมือถือเอาจริงผมคิดไม่ออกเลยว่าจะใช้ทรายของตัวเองยังไงในการโยนบอลขึ้นไป คงต้องพึ่งแรงตัวเอง

    เสียงในชั้นเรียนดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจกับตัวเลขของบาคุโก 

    "น่าตื่นเต้นสุดๆ"

    "น่าสนุกจัง!" 

    ตามมาด้วยเสียงพูดสนใจอะไรต่างๆน่าๆแต่นั้นและเป็นต้นเหตุของความชิปหายเลยครับ ผมยืนกอดอกหน้าบึ้งทันทีไอ้พวกนี้ไม่มีคําพูดที่ดีกว่านี้แล้วรึไง 

    "น่าสนุกงั้นหรอ"

    "พวกนายอยากเป็นฮีโร่ด้วยทัศนะคติแบบนั้นภายในสามปีที่เรียนนะหรอ" นั้นไงพี่แกเอาแล้ว

    "งั้นถ้าใครได้คะแนนตํ่าที่สุดในการทดสอบนี้จะโดนไล่ออก"ทุกคนฉายสีหน้าซีดเซียวทันทีแม้กระทั่งตัวผม ในอนิเมะอีกฝ่ายพูดจริงและคิดจะทําจริงแต่เพราะมิโดริยะพิสูจน์ตัวเองได้เลยไม่ได้โดนไล่ออกแต่ถ้าผมเป็นคนสุดท้ายแล้วโดนไล่ออกแทนละ! 

    แค่คิดก็ขนลุกความพยายามที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่าหมดถ้าพลาดตรงนี้ เพราะงั้นต้องผ่านให้ได้ อยู่กลางๆห้องก็พอผมกํามือมือทั้งสองข้างขึ้นในใจก็ร้องสู้ๆ 



    การสอบเดิมพันเริ่มขึ้นแล้ว

    การทดสอบที่หนึ่ง - พุ่ง 50 เมตร 

    เอาจริงผมพึ่งสังเกตุว่าในชั้นของผมมีคนหนึ่งหายไป นั้นก็คือคนที่ควบคุมสัตว์ เพราะตัวตนของผมรึเปล่าอีกฝ่ายเลยหายไป..

    ถ้าแบบนั้นจริงผมคงรู้สึกแย่ไม่น้อย ที่ผมรู้ได้เพราะว่าไม่เห็นตัวของอีกฝ่ายหรือแม้กระทั่งเงาก็ยังไม่โผล่มาให้เห็นชั่งไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ

    จนตอนนี้ก็ถึงคิวของผมแล้ว

    "เตรียมตัว!ไป" ผมส่งทรายไปไว้ที่เท้าเมื่อออกตัววิ่ง บังคับให้มันพาผมลอยด้วยความเร็วสูงจนเข้าเส้นชัยภายในไม่กี่วิ

    5.12วินาที นั้นคือเวลาที่ผมทําได้

    ไม่ได้แย่ๆ 

    การทดสอบที่สอง - แรงบีบ 

    คราวนี้ทรายช่วยอะไรไม่ได้ต้องพึ่งแรงผมล้วนๆ

    โทคิออกแรงสุดขีด

    "60.9" ฮ่า..เอ่อก็โอเคร!

    การทดสอบยังคงดําเนินต่อไปเรื่อยๆ



    เมื่อทดสอบเสร็จทุกคนต่างก็มาไล่ดูอับดับของตัวเอง 

    อับดับ 14 คาเอะดะ โทคิ 

    ทันทีที่ได้อ่านก็พลันโล่งใจ รอดแล้วแต่สีหน้ามิโดริยะในตอนนี้กลับกังวลเพราะอีกฝ่ายคิดว่าตัวเองกําลังจะโดนไล่ออกเข้าไปปลอบดีไหมแต่เดียวอีกสักพักอาจารย์แกก็เฉลยอยู่ดี…อ่าให้ตายเถอะส่วนบาคุโกหมอนั้นก็กลายเป็นหมาบ้าไปตั้งแต่เห็นมิโดริยะใช้อัตลักษณ์ 

    บอกเลยโคตรน่ากลัวหน้าทีเหมือนพร้อมจะฆ่าใครสักคนเนี่ยและที่น่าสยองขวัญเหมือนเห็นภาพยัยแม่มดกับบาคุโกซ้อนทับกันเลยแหะ…

    ถ้ามีคนประเภทนี้อยู่สองคนในชีวิตผม ผมขอตายดีกว่า 

    "เรื่องทีบอกว่าจะไล่ออกนั้นล้อเล่น เพื่อให้พวกนายใช้อันลักษณ์ที่มีอยู่ทั้งหมดออกมาจึงโกหก"อาจารย์ไอซาวะกล่าวด้วยร้อยยิ้มสยองขวัญ คนแถวนี้เขาเป็นอะไรกันไปหมดยิ้มน่ากลัวกันทั้งนั้น แต่คําแถของอาจารย์โคตรงี่เง่าเมษาหน้าโง่มันผ่านมาแล้วนะรู้ไหม?

    ทุกคนในห้องตาค้างทันทีที่ได้ยิน เพราะว่าเชื่อจริงๆว่าจะโดนไล่ออกยิ่งมิโดริยะก็ยิ่งเห็นชัดถึงความกังวล ยาโอโรสึจึงกล่าวเธอคงเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ตกใจอะไร 

    "ดูก็รู้ว่าโกหก ดูออกง่ายขนาดนั้น" ก็คงมีแค่เธอคนเดียวนั้นและดูออกยัยแม่คนเก่ง 

    "เอาละกลับห้องไปอ่านหลักสูตรสะ"แล้าอาจาร์ยไอซาวะก็เดินจากไปทันที 

    แล้วคลาสเรียนวันนี้ก็จบลงแค่นี้



    ตอนแรกผมนึกว่าพวกเราจะเรียนต่อจนถึงเย็นแต่กลับแค่ทดสอบเสร็จก็สามารถกลับบ้านได้เลยไม่ใช่แค่คลาสของผมเท่านั้น คลาสธรรมดาก็ด้วย

    ไม่เหมือนไทยเลยแม้แต่น้อยที่เรียนเปิดภาคเรียนก็ยังเรียนเหมือนปกติ กดดันเด็กจนเครียดผมเคยผ่านมาหมดแล้วความเครียดที่จะต้องสอบเข้ามหาลัย ความเครียกภายในใต้เศรษฐกิจที่ยํ้าแย่เพราะเอาทหารมาบริหารประเทศ โคตรเวร คิดแล้วก็หงุดหงิดหัวเสียเปล่าๆแต่ตอนนี้ก็หลุดออกมาจากประเทศบ้าๆนั้นแล้ว 

    โทคิเดินออกจากโรงเรียนมาเรื่อยๆก็เห็นกลุ่มของอีดะที่กําลังคุยกัน เข้าไปทักดีไหมนะ แต่เพื่อนของตัวหลักก็มีแค่สองคนมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่จําเป็นต้องมีคนที่สามเพิ่มหรอกว่าไหมแค่เป็นเพื่อนร่วมชั้นก็คงพอ ไม่อยากเข้าไปผูกพันธ์ถ้าผมต้องไปจากร่างนี้เมื่อไรก็จะมีแต่เสียใจเปล่าๆ พวกเราก็แค่ตัวละครที่ถูกสร้างขึ้น 

    ผมจึงทําเพียงเดินตามเหล่าตัวหลักห่างๆ 















    สงสารน้องคงจะไม่ใช่ทุกคนที่จะไว้ใจตัวละครในเมะใช่ไหมคะในตอนสุดท้ายทุกคนก็ทราบดีว่าพวกตัวละครที่เราชอบจะไม่มีตอนต่อไปแล้วน้องโทคิที่คิดแบบนั้นได้ก็คงที่จะกังวลว่าในตอนสุดท้ายของเรื่องราวนี้เขาอาจจะต้องเสูญเสียทุกคนที่สนิทและรักเหมือนตัวเองในโลกที่แล้วทีสูญเสียแม่ไป ❤️ เป็นกําลังใจให้น้องคาอยๆเปิดใจไปด้วยกันเถอะค่ะ????



    **รู้สึกแปลกตรงไหนบอกได้นะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×