ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    "MASCULINO ,, หอพัก(รัก!)อันตราย"

    ลำดับตอนที่ #2 : " MASCULINO ,, 1st Chapter "

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 55


     

     

    " MASCULINO ,, 1st Chapter "

     

            และแล้ววันย้ายเข้าโดมของผมก็มาถึง...

                วันนี้เป็นวันอาทิตย์ก่อนเปิดเทอม ผมมาถึงโรงเรียนโดยมีแม่มาส่งพร้อมกับมีสัมภาระเป็นกระเป๋าเป้หนึ่งใบและกระเป๋าเดินทางใบโตที่บรรจุเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่หน้าโรงเรียน มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่กำลังแบกสัมภาระของตัวเองเข้าโรงเรียน บางคนก็ขับรถเข้าไปที่หน้าหอเลย แต่แม่ผมต้องรีบไปส่งป้าต่อเลยส่งผมลงที่หน้าโรงเรียนนี่ และสายตาเกือบทุกคู่ก็จ้องมองมาทางนี้ซะด้วยสิ

                “เฟลิกซ์ พวกนั้นมองเราทำไม” ผมหันไปถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้าสวยเฉี่ยวล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีดำสนิทของลูกพี่ลูกน้องผมกำลังหงุดหงิดได้ที่เลย เป็นคนขี้หงุดหงิดจริงๆเลยนะเนี่ย

                จำวันที่มีแขกมาบ้านผมได้มั้ยล่ะ คนที่มาก็คือป้าเคท พี่สาวแท้ๆของแม่แล้วก็เฟลิกซ์ หรือเฟ หลานของสามีคุณป้า ถึงเราจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดแต่ผมกับเฟลิกซ์ก็สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เพิ่งจะมีมาห่างๆกันไปก็ตอนขึ้นม.ต้นเนี่ยล่ะ เพราะเฟย้ายมาเรียนที่โรงเรียนประจำอย่างมาสคูลิโนนี่ไง ปีนี้เฟก็อยู่เกรดสิบสองพอดี พอป้าเคทรู้ว่าผมย้ายมาเรียนที่เดียวกับเฟก็เลยถือโอกาสมากินข้าวด้วยกันซะเลย เฟสวยขึ้นเยอะเลยล่ะ แต่ก็ยังเป็นคนเย็นชาแต่ขี้หงุดหงิดเหมือนเดิม

                “ใครใช้ให้แกทำผมสีนี้วะไอ้เอล” ไม่พูดเปล่า เฟเอื้อมมือมากระตุกผมสีแพลตตินั่มบลอนด์ของผมแรงๆจนแทบจะหงายหลัง

                “โอ๊ย! ก็โรงเรียนไม่ได้ห้ามทำนี่ ทำไมจะทำสีนี้ไม่ได้ล่ะ” ผมเถียงพลางลูบหัวตัวเองป้อยๆ ใช่แล้ว โรงเรียนนี้ไม่ค่อยเคร่งเรื่องกฎระเบียบเท่าไหร่ ผมก็เลยไปย้อมผมตัวเองเป็นสีแพลตตินั่มบลอนด์ซะเลย

                “สีแม่งโคตรจะเด่น ย้อมทำห่าอะไรเนี่ย” เฟพูดพร้อมกับก้าวยาวๆลากกระเป๋าเข้าโรงเรียนไป ผมก็ได้แต่เดินตามต้อยๆ จะบอกว่าที่คนพวกนี้มองเพราะสีผมของผมสินะ

                “เราจะไปไหนกันเนี่ย” ผมถามเมื่อสามารถเดินตีคู่กับเฟได้ซะที เหนื่อยนะเนี่ย ไม่รู้ว่าผมขาสั้นหรือไอ้พี่คนสวยมันเดินเร็วกันแน่ =___=

                “ไปห้องทะเบียน ฉันจะไปดูว่าแกอยู่โดมไหน” พูดเสร็จเฟก็หันไปถลึงตาใส่นักเรียนกลุ่มนึงที่มองพวกเราด้วยสายตาเคลิ้มๆแปลกๆ ก็นะ.. เฟสวยซะขนาดนี้

                “อ้าว ก็ไหนว่าตอนแรกฉันได้อยู่โดมตะวันออกเหมือนเฟไง ทำไมต้องมาดูอีกละ” ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ลางสังหรณ์บอกว่ามันต้องมีเรื่องยุ่งแน่ๆ

                “ตอนแรกน่ะใช่ แต่ปีนี้โดมตะวันออกกับโดมตะวันตกทำการซ่อมแซมตัวอาคารแล้วมันก็เสือกเสร็จล่าช้า ห้องไม่พอ ทีนี้แจ็กพ๊อตมันก็ตกอยู่ที่แก ขนาดปรับจากอยู่ห้องละสองคนเป็นสามคนแต่ก็มีแกเกินมาคนนึง แกก็เลยต้องไปอยู่โดมอื่น”

                “หมายความว่าไง ฉันต้องไปอยู่โดมอื่นจนกว่าโดมตะวันออกจะซ่อมเสร็จหรือว่าต้องย้ายไปอยู่โดมอื่นตลอดจนจบเลย” ผมไม่มีปัญหาหรอกนะว่าจะได้อยู่โดมไหน แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากอยู่โดมเดียวกับเฟ อย่างน้อยก็มีคนที่รู้จักอยู่ใกล้ๆ

                “ไม่รู้ อย่าเพิ่งถามมากไอ้หน้าขี้เซา ก้าวยาวๆดิวะ!

                แล้วผมก็แทบจะวิ่งตามเฟลิกซ์ทันทีที่มันพูดเสร็จ ดูหงุดหงิดมากแปลกๆแฮะ แล้วนี่มันจะรีบไปไล่ควายที่ไหนเนี่ย!

                 

                กว่าจะมาถึงอาคารอำนวยการได้ผมก็แทบจะเป็นลม เฟลิกซ์เดินเร็วมากกกกกกกกก สงสัยหงุดหงิดอะไรสักอย่างแน่ๆ ดูสายตาที่ใช้มองนักเรียนแต่ล่ะคนที่เดินผ่านสิ อย่างกับจะไปงาบหัวเค้า หรือว่าเฟมันลืมกินข้าวมา? โมโหหิวชัวร์แบบนี้ อืม.. ผมคงต้องพาเฟไปหาอะไรกินทันทีที่คุยธุระเสร็จ ไม่งั้นอาจมีอันตรายเกิดขึ้นกับนักเรียนคนอื่น –o-

                “รออยู่ตรงนี้สิบนาที ห้ามไปไหนนะไอ้เอล ถ้าฉันออกมาแล้วไม่เจอแกโดนดีแน่” ขู่ผมเสร็จเฟลิกซ์ก็หายเข้าไปในห้องทะเบียน ทิ้งให้ผมยืนอยู่ที่ระเบียงทางเดินด้านนอกกับกระเป๋ามัน

                ผมมองสำรวจด้านนอกตึกอย่างสนใจ สภาพแวดล้อมก็เหมือนรูปในเว็บ มีต้นไม้ร่มรื่น มีม้านั่งอยู่ประปราย แต่แน่นอนว่าทุกอย่างต้องมีกราฟิตี้จิ๊กโก๋สไตล์ประดับไว้แม้กระทั่งต้นไม้ -_- โต๊ะม้าหินก็มีรอยขีดเขียนอยู่เต็มแถมยังมีร่อยบิ่นตามขอบ เอาเถอะ... ผังอาคารของมาสคูลิโนนี่เรียบง่าย จุดศูนย์กลางของโรงเรียนคือสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่มีลู่วิ่งอยู่ขอบสนาม โดมทั้งสี่ก็ตั้งอยู่ตามทิศแต่ละทิศของสนาม แล้วก็มีอาคารเรียนต่างๆล้อมรอบอีกที ผมอยากจะด่าสถาปนิกที่ออกแบบผังโรงเรียนมาก มันง่ายดีก็จริงแต่รู้มั้ยว่าเดินย้ายอาคารเรียนทีผมอาจหมดแรงตายก่อนก็ได้ พื้นที่โดยรวมของโรงเรียนนี้นี่เกือบห้าสิบไร่นะครับ!!!

                ผมยืนมองโน่นมองนี่แล้วก็หันไปเจออาคารเรียนอาคารหนึ่งที่ผนังด้านล่างถูกพ่นด้วยสีสเปรย์จนเป็นกราฟิตี้สวยงาม เฮ้ยๆ เจ๋งดีแฮะ ไปดูใกล้ๆดีกว่า

                ผมลืมไปซะสนิทว่าเฟลิกซ์สั่งว่าอย่าไปไหน ผมเดินไปยืนดูภาพพวกนั้นใกล้ๆแล้วก็ได้แต่อ้าปากค้าง มันพ่นเป็นคำว่า MASCULINO ในโทนสีน้ำเงินดำสวยงาม เจ๋งชะมัด! อยากทำได้แบบนี้จัง แล้วก็มีเสียงดังขึ้นเรียกความสนใจผมให้หันไปมอง นักเรียนกลุ่มนึงเล่นเดาะลูกฟุตบอลส่งให้กันอยู่ในวงประหนึ่งเล่นตะกร้อที่ริมทางเดิน นักเรียนที่นี่ดูไม่ค่อยเหมือนนักเลงเท่าไหร่แฮะ ก็ดูซ่าๆแสบๆเหมือนเพื่อนที่โรงเรียนเก่า แต่ผมก็รู้ดีว่าเด็กผู้ชายวัยผมกำลังเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อและเลือดร้อน ยิ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนมันเลยมีเรื่องได้ง่าย

    เฮ้ย! เตะมาให้หน่อย

    เด็กพวกนั้นตะโกนมาทางผมที่กำลังหันไปมองกราฟิตี้อีกรอบ ผมหันไปมองพวกเขางงๆแล้วก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรมาชนเท้า ลูกฟุตบอลนี่นา ให้เตะกลับไปให้ใช่มั้ย?

    แต่อนิจจานักเรียนคนนั้นไม่รู้เลยว่ากำลังใช้ให้คนที่ตกวิชาพละอย่างผมมาเตะฟุตบอลกลับไปให้ หนำซ้ำระยะทางก็ไกลพอสมควรยังอยู่ที่ทางเดิน คนตัวเล็กขาสั้นที่ไม่เจียมตัวว่าควรถือไปคืนก็ง้างขาออกแล้วเตะลูกฟุตบอลออกไปเต็มแรง ไอ้ตาน่ะโฟกัสไปที่นักเรียนพวกนั้นอยู่หรอก แต่ไอ้ขาที่เตะนี่สิมันโฟกัสไปทางคนที่กำลังเดินอยู่ตรงทางเดินนี่แทน

    ฟิ้ววววว

    เฮ้ยยยยย

    พลั่ก!!!

    เพล้ง!!!

    เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมเตะลูกฟุตบอลไปให้นักเรียนที่อยู่กลางวง แต่มันก็เป๋ไปทางนักเรียนคนที่ริมวงนั่นแทน นักเรียนคนนั้นคงตกใจที่มีลูกบอลจะพุ่งอัดหน้าเลยเอามือปัดมันไป แล้วแจ็กพอตก็ตกเป็นของนักเรียนร่างสูงที่กำลังเดินฟังเพลงอยู่ไม่ไกลนัก เจ้าลูกบอลนั่นลอยละลิ่วไปโดนมือส่งผลให้ไอพอดทัชเครื่องงามกระเด็นลงพื้นเป็นซากแอปเปิ้ลแทน..

    อุ๊บส์..... ผมไม่ได้ทำนะ นักเรียนคนนั้นปัดมันไปโดนต่างหาก =[]=;

    ร่างสูงเจ้าของไอพอดที่แตกกระจายอยู่บนพื้นก้มมองซากมันอยู่บนพื้น ผมสีน้ำตาลแดงของเขายาวปรกหน้าจนผมไม่รู้ว่าเค้ามีสีหน้าเป็นอย่างไร แต่พอร่างสูงนั้นเงยหน้าขึ้นมาผมก็พบดวงตาคมเรียวสีฟ้าชวนนึกถึงสุนัขจิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์  ดวงหน้าหล่อเหลาแต่แฝงไปด้วยประกายชั่วร้ายนิดๆหันไปมองนักเรียนคนที่ปัดลูกบอลไปโดนพร้อมกับมีรังสีอำมหิตที่มองไม่เห็นแต่รู้สึกได้พุ่งออกมา

    ความรู้สึกซวยมหาซวยนี่มันอะไรกัน..............

    เค้ามองเลยมาทางผมอยู่แวบนึงแล้วก็กลับไปมองนักฟุตบอลผู้โชคร้ายตามเดิมพร้อมกับย่างสามขุมเข้ามาหาราวกับยมทูตก็ไม่ปาน

                “ผะ...ผมขอโทษครับรุ่นพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆครับ ผมขอโทษๆ

    นักเรียนคนที่ปัดลูกฟุตบอลไปรีบวิ่งไปหาผู้ชายที่เหมือนจิ้งจอกคนนั้นพร้อมกับโค้งหัวแทบทิ่มพื้น คนอื่นๆที่เล่นบอลด้วยก็พากันมองไปทางเขาเป็นตาเดียวแถมยังมีสีหน้าหวาดๆ ถ้าผมมองไม่ผิดเหมือนจะเนื้อตัวสั่นด้วยนะนั่น อะไรจะกลัวขนาดนั้น

    ผมนึกขึ้นได้ว่าผมควรจะไปหาเฟลิกซ์ (‘ ‘;)

    มึงรู้มั้ยว่าไอพอดเครื่องนี้มันสำคัญกับกูมากแค่ไหน...

    เสียงเย็นๆดังมาจากด้านหลังผม เอ.. เมื่อกี้ผมเดินมาจากอาคารไหนนะ หน้าตามันเหมือนๆกันหมดเลยแฮะ แถมไม่มีชื่ออาคารบอกด้วย ย๊ากกก ทำไมขี้ลืมอย่างนี้นะ!

    ระ..รู้ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆครับรุ่นพี่! ก็เด็กที่เหมือนตุ๊กตาผมขาวนั่นมันเตะมาทางผมผมก็เลยตกใจปัดออก

    ตาขวายังไม่หยุดกระตุกเลยแฮะ TOT อาคารไหนเนี่ย ซ้ายหรือขวานะ

    เด็กตุ๊กตาหัวขาวงั้นหรอ...

    อาคารซ้ายล่ะมั้ง ลองเดินเข้าไปดูดีกว่า!!

    ใช่ครับๆๆ ไอ้เด็กหัวขาวคนนั้น... อ้าว!! หายไปไหนแล้ววะเนี่ย!!

     

    เกือบซวยแล้วมั้ยล่ะมิคาเอล =_=;

    ผมเดินเข้ามาในอาคารนี้อย่างรวดเร็วเพื่อหลบนักเรียนน่ากลัวคนนั้น =o= ผมยู่ปากเมื่อพบว่าอาคารที่เดินเข้ามามันไม่ใช่อาคารอะไรนั่นที่เฟลิกซ์อยู่ อาคารนี้เหมือนจะเป็นอาคารเรียน ดูเหมือนพวกภารโรงจะอู้งานนะ พรุ่งนี้จะเปิดเทอมแล้วแต่ก็ยังมีเศษขยะอยู่บนพื้นประปราย แถมยังมีซากโต๊ะเก้าอี้ที่พังแล้วสุมๆกันอยู่ตรงทางเดินอีก ผมเบิกตาอย่างแปลกใจเมื่อพบว่าผนังของอาคารเรียนทั้งหมดถูกพ่นสีสเปรย์จนกลายเป็นกราฟิตี้ที่บอกได้คำเดียวว่าเทพมากจริงๆ สวยพอๆกับชื่อโรงเรียนเมื่อกี้เลย มันเป็นข้อความบ้างรูปภาพบ้างสลับกันไป ชวนให้นึกถึงวัยรุ่นอเมริกาที่ชอบร้องแร็พฮิพฮอพอะไรเทือกนั้นเลย กว่าจะรู้ตัวผมก็เดินมองผนังอาคารขึ้นมาเรื่อยๆจนขึ้นมาถึงชั้นไหนของอาคารแล้วก็ไม่รู้ ผมควรจะรีบลงไปสินะ

    แกร๊ง...

    ผมที่กำลังจะก้าวลงบันไดชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงนึงดังขึ้นเรียกความสนใจจากผมซะก่อน มันเป็นเสียงเหมือนคนโยนกระป๋องอะไรสักอย่างลงพื้นก่อนจะเป็นเสียงสบถเบาๆ

    ใคร?

    ผมแหงนหน้าขึ้นไปด้านบนตรงชานบันไดที่เชื่อมกับชั้นที่ผมอยู่ เห็นเงาแวบๆเป็นร่างผอมๆ ผีรึเปล่าน่ะ =_=; ถึงผมจะไม่ใช่คนกลัวผีและนี่ก็กลางวันแสกๆแต่บรรยากาศอาคารเรียนที่ไม่มีคนอย่างนี้มันก็ยังน่ากลัวอยู่นิดๆนะ

    ด้วยความอยากรู้ ผมย่องขึ้นไปชั้นบนเงียบๆ แล้วก็เห็นด้านหลังของใครบางคนกำลังยืนอยู่หน้าผนังอาคาร บนพื้นใกล้ๆตัวเขามีกระป๋องสีสเปรย์กลิ้งอยู่หลายใบ เสียงเมื่อกี้คงเป็นเสียงที่คนคนนี้ทิ้งกระป๋องลงพื้นล่ะมั้ง

    ไอ้บ้าเอ๊ย... มึงออกไปจากหัวกูจะได้มั้ยวะ!

    ร่างผอมๆที่ผมเห็นแต่ด้านหลังพูดเสียงดังก่อนจะเตะกระป๋องสเปรย์อัดเข้ากับกำแพง จังหวะที่เขาขยับตัวนั่นเองผมถึงได้เห็นภาพที่เขาเพิ่งจะสเปรย์เสร็จไป มันเป็นตัวอักษรอาร์ตๆเรียงกันว่า F-E-L-I-X

    เฟลิกซ์? เฟลิกซ์ไหน พี่ผมรึเปล่า?

    ไอ้ห่าเฟลิกซ์ โธ่เว้ย ทำไมกูต้องชอบคนอย่างมึงด้วยวะ!!! ถ้าคนอื่นรู้เข้า... แม่ง กูจะบ้า

    ผู้ชายคนนั้นตะโกนอย่างอารมณ์เสียก่อนจะคว้าขวดสเปรย์บนพื้นขึ้นมาพ่นทับคำว่าเฟลิกซ์บนผนังจนมันถูกลบแทนที่ด้วยสีดำๆแทน ผมยืนมองอย่างเสียดายเพราะเมื่อกี้เขาพ่นไว้ซะสวยเลย ตอนนี้เหลือแต่สีดำเป็นแถบแทน ฟังจากที่เขาพูดเมื่อกี้คงเป็นชื่อคนที่เขาแอบชอบสินะ แต่คงจะชอบคนที่บอกใครไม่ได้ไม่งั้นคงไม่อารมณ์บูดอย่างนี้ แล้วก็คงไม่ใช่เฟหรอก เย็นชาอย่างนั้นใครมันจะไปชอบ -..-

    เอ๊ะ จะว่าไปต้องไปหามันนี่!

    ผมรีบวิ่งลงบันไดทันที เสียงฝีเท้าของผมดังจนผู้ชายคนนั้นได้ยิน ผมได้ยินเสียงเรียกผมด้วย แต่ผมไม่สนใจจะหันกลับไปคุยหรอกนะ มีหวังได้โดนเฟมันฆ่าตายเอาตั้งแต่ย้ายมาเรียนวันแรกแน่ๆ

    “เฮ้ย! กลับมานี่นะไอ้เด็กเวร ไปไหนแล้ววะ!!!

     

    ผมวิ่งออกจากอาคารเรียนนั่นวิ่งไปเข้าตึกข้างๆทันที อาคารนี้จริงๆด้วย! ว่าแต่เฟอยู่ไหนล่ะเนี่ย

    ขอโทษนะฮะ เห็นพี่ผมมั้ย เอ่อ.. เฟลิกซ์น่ะฮะผมถามนักเรียนที่เดินออกมาจากห้องทะเบียนพอดี สงสัยล่ะสิว่าทำไมผมไม่โทรหามัน มือถือผมเงินหมดน่ะ...

    อะ...อ๋อ เฟลิกซ์หรอ ยัง..ยังคุยกับอาจารย์นักเรียนในห้องนั้นอยู่เลย

    “อ้อ ขอบใจนะ” ผมส่งยิ้มขอบคุณไปให้ แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่ออยู่ดีๆนักเรียนคนนั้นก็หน้าแดงแปร๊ดก่อนจะวิ่งออกไปอย่างเร็วประหนึ่งแข่งกรีฑาก็ไม่ปาน มันกลัวผมรึไง -__-

    โชคดีชะมัดที่เหมือนจะมีคนมาติดต่อเรื่องโดมเยอะ เฟเลยออกมาช้า ผมนึกว่าตัวเองจะโดนบ่นซะแล้ว ปรากฏว่าผมต้องไปอยู่โดมใต้ล่ะ และผมก็เดาถูกจริงๆที่ว่าเฟมันโมโหหิว พอออกมาก็บ่นนู่นด่านี่สารพัดแล้วตบท้ายด้วยคำว่า กูหิว

    “เดี๋ยวแดกก่อนแล้วค่อยเข้าโดม”

    “อ้าว ทำไมไม่เอาของไปเก็บก่อนแล้วลงมากินล่ะ” ผมถาม จะให้ลากกระเป๋าไปด้วยเนี่ยนะ เกะกะตาย

    “กูก็อยากเอาไปเก็บก่อนเหมือนกัน แต่กูนัดกับหมาอีกสามตัวคุยเรื่องโดมนิดหน่อย กูเลยตกลงกันว่าให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารด้านหน้าโรงเรียน”

    หมาที่ไหนจะคุยงานได้วะ ผมเดาว่าต้องเป็นคนที่เฟไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเท่าไหร่สามคน

    “กินไปคุยงานไปว่างั้น”

    “เออ กระเป๋าน่ะเอาเข้าไปเก็บไว้ด้านในห้องทะเบียนก่อน กูเพิ่งฝากเจ้าหน้าที่ไว้ แล้วก็เดินตามมาติดๆด้วยล่ะ มึงยิ่งโง่ๆไม่รู้ว่าตัวเองหวิดจะโดนฉุดหลายรอบแล้ว”

    “อะไรฉุดอะไรนะ?” ผมที่กำลังก้มลงหยิบกระเป๋าเลยได้ยินประโยคหลังไม่ชัดถาม แต่หน้าของเฟลิกซ์แทบจะพ่นไฟใส่ได้อยู่แล้ว

    “ช่างแม่งเหอะ! อ้อ เจอหมาสามตัวนั้นแล้วก็อย่าไปหลงพวกมันล่ะ กูไม่อยากเห็นน้องกูโดนหมาคาบไปแดก”

                อืม... ดูท่าเฟลิกซ์จะไม่ชอบคนสามคนนี้จริงๆ ลางสังหรณ์แปลกๆมันมาอีกแล้วแฮะ ให้ตายเถอะ ผมรู้สึกว่าการมาอยู่โรงเรียนนี้มันจะมีเรื่องไม่ดีๆตามมาเป็นพรวนเลยแฮะ

    แค่วันนี้วันแรกผมก็เป็นต้นเหตุทำให้ไอพอดพังไปหนึ่งเครื่องแล้วก็รู้เรื่องชาวบ้านโดยไม่ตั้งใจเรื่องนึงแล้วล่ะ.....

     

     

    Supercell
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×