ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Brother Love รักครั้งนี้ให้พี่ชาย

    ลำดับตอนที่ #8 : ท่องเที่ยว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 134
      0
      28 เม.ย. 58

    “ขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ ไอ้เจโรมนั่งเลย”

                    เสียงของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งข้างๆฉันโดยไม่ต้องรอให้ใครอนุญาต จนทำให้ฉันต้องหันไปมองตามเสียงก่อนที่จะพบกับใบหน้าอันหล่อเหลาของพี่เอ็กซ์สันที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ฉันเองก็รู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ (กะแล้วว่าต้องมา)

    “นั่งขนาดนี้ไม่ต้องขอก็ได้ค่ะ”

                    ฉันตอบเขากลับไปอย่างไม่พอใจสักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าเขาคนนี้จะไม่รู้สึกรู้สาอะไร แถมยังยกมือขึ้นมายีหัวของฉันจนมันยุ่งเหยิงไปหมด

    “โอ๋ๆไม่งอนนะ”

                    เขาเอามือขึ้นมาหยิกแก้มของฉันที่กำลังนั่งทำแก้มป่องอยากไม่จริงจังนัก ก่อนที่จะหันไปสั่งอาหารโดยไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ก่อนจะหันกลับมาแนะนำเพื่อนของเขา

    “พิณนี่เจโรมเพื่อนพี่เอง เออไอ้โรมนี่น้องสาว “ที่รัก” ของกู”

                    เขาเน้นคำว่าที่รักไปยังพี่เดวิดที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับฉันอย่างจงใจ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำทำไม ส่วนฉันน่ะหรอ? ได้แต่นั่งทำหน้าเอือมๆใส่เขาก่อนจะหันไปไหว้เพื่อนของเขาแทน

    “สวัสดีค่ะ”

    “ไม่ต้องไหว้พี่ก็ได้ ดูพี่แก่เลยอ่ะ”

                    พี่เจโรมยกมือขึ้นมาห้ามฉันพร้อมกับพูดออกมาอย่างติดตลก แต่ขอบอกตรงๆเลยว่าหน้าพี่เขานิ่งจนไม่เข้ากับคำพูดของเขาเลยสักนิด

                    พวกเราทั้งสี่คนนั่งพูดคุยกันไปไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ก่อนที่จะลงมือทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า โดยมีเสียงพูดคุยของเราทั้งสี่คนที่บางทีอาจจะมีคำพูดเหน็บแนมของพี่เอ็กซ์สันบางดังเป็นระยะ ก่อนที่อาหารตรงหน้าจะหมดร่างหนาข้างๆฉันก็เอ่ยถามเรื่องของหวาน

    “ทานของหวานอะไรไหม สั่งได้เต็มที่มื้อนี้ไอ้โรมมันเลี้ยง”

                    เขาเอ่ยจบฉันก็หันหน้าไปมองหน้าบุคคลที่เขาบอกว่าจะเลี้ยงมื้อนี้เพื่อขอความเป็นจริง ก่อนที่คนตรงหน้าจะพยักหน้ารับเป็นการอนุญาต แต่เหมือนว่าจำใจซะมากกว่า -*-

    “เออ ไอ้โรมที่นี่มีเค้กใช่ปะ”

                    พี่เอ็กซ์สันเอ่ยถามเพื่อของเขาขึ้นก่อนที่ฉันและคนอื่นจะสั่งของหวาน แต่อยากจะบอกว่าได้ยินคำว่าเค้กแล้วหูผึ่งเลยจร้า (ก็คนมันชอบนี่นาทำไงได้อ่ะ)

    “ก็มีดิ ถามอะไรแปลกๆ”

    “งั้นแกสั่งช็อกหน้านิ่มกับโกโก้เย็นให้พิณชุดนึ่ง เดี๋ยวฉันโทรไปสั่งงานแป๊บ”

                    เขาพูดจบก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์ทันที ก่อนที่พี่เจโรมจะหันไปเรียกพนักงานแล้วสั่งตามที่เขาคนนั้นบอก และตามด้วยของหวานของแต่ละคน ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เขายังจำได้อยู่หรอเนี่ยว่าฉันชอบทานอะไร หลายคนบอกว่าเขาคนนี้เปลี่ยนไปแต่ทำไมสำหรับฉันเขายังคงเหมือนเดิม แม้บางทีอาจไม่เหมือนเดิมบ้างก็ตาม แต่เอ๊ะ! ถ้าจำไม่ผิดพี่เอ็กซ์สันชอบทานเครปเค้กนี่นา แต่ทำไมวันนี้ไม่สั่งนะ ไม่เป็นไรสั่งให้ก็ได้

    “งั้นแค่นี้แหละ”

    “ครับ”

                    พนักงานโค้งนิดๆให้กับพี่เจโรมก่อนจะเดินหันกลับไป ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อฉันเรียกเขาไว้ก่อน

    “เดี๋ยวค่ะเอาเครปเค้กกับคาปูชิโน่เย็นด้วยค่ะ”

    “ครับ”

                    พอพนักงานเดินออกไปสายตาของฉันก็ต้องสะดุดทันทีเมื่อสายตาของพี่เจโรมจ้องมายังฉันอย่างจับผิด ถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาอาจจะมองว่านิ่งๆแต่สายตาของพี่เขาเนี่ยแพรวพราวกว่าพี่เอ็กซ์สันที่ฉันรู้จักเยอะเลย ถึงว่าทำไมถึงได้อยู่กลุ่มเดียวกันได้ แต่เอ๊ะ! หรือว่าเขาจะเป็นหุ้นส่วนที่ผับด้วยนะ ฉันได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ เพราะว่าพนักงานนำของหวานมาเสิร์ฟพอดี (อดรู้เลย)

     “ขออนุญาตเสิร์ฟนะครับ”

                    พนักงานวางของหวานที่เขาถือมาเสิร์ฟจนครบก่อนจะโค้งให้ แล้วดินออกไปพร้อมกับที่พี่เอ็กซ์สันที่เดินกลับมายังโต๊ะพอดี

    “ไอ้โรมแกสั่งหรอวะ”

                    เขาพูดขึ้นหลังจากที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆฉันพร้อมกับชี้ไปยังเครปเค้กและคาปูชิโน่เย็นที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างสงสัย

    “ป่าวว่ะ น้องสุด ที่รักของแกสั่งให้น่ะ”

                    พี่เจโรมตอบเขากลับมาด้วยใบหน้าที่นิ่ง แต่ครั้งนี้แปลกอยู่อย่าง คือเขานิ่งทั้งใบหน้าและดวงตาเลย เฮ้อ! นี่คนหรือหุ่นยนต์วะเนี่ย



    ______________________ 50% _____________________________________

    “จำได้ด้วยหรอ”

                    เขาหันมาถามฉันพร้อมกับรอยยิ้มที่เดาไม่ออก แต่ฉันก็ทำเป็นไม่สนใจก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานของหวานสุดโปรดที่วางอยู่ตรงหน้า เรานั่งคุยกันไปสักพักพร้อมกับพูดคุยกันบ้าง แขวะกันบ้างก่อนที่ต่างคนจะต่างแยกย้ายกันไป

                    ฉันเดินเหยียบย่ำผืนทรายขาวที่ละเอียดจนนุ่มเท้าอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับคลื่นลูกเล็กที่ซัดเข้าฝั่งมากระทบกับเท้าของฉันอย่างแผ่วเบา จนทำให้ฉันอดที่จะก้าวลงไปให้ลึกกว่าเดิมไม่ได้

                    ฉันมองไปยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไร้ซึ่งจุดหมายปลายทาง ที่กำลังมีเกลียวคลื่นซัดมาพร้อมกับลมทะเล และเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องมากระทบกับผืนน้ำทะเลที่มีเกลียวคลื่นจนกลายเป็นภาพอันสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์กับธรรมชาติที่ไร้ซึ่งผู้คนคอยควบคุม บวกกับน้ำทะเลใสที่มองเห็นบรรดาสัตว์น้ำแหวกว่ายกันตามวิถีชีวิตของมัน

    “อย่าไปลึกนะพิณ”

                    เสียงของพี่เดวิดตะโกนมาที่ฉัน แต่ตัวเขาเองไม่เดินลงมาแตะน้ำทะเลเลยสักนิด อ้อ! จะถามถึงพี่เอ็กซ์สันใช่ไหม เจ้านั้นน่ะเขาไปทำธุระกับเพื่อนของเขาตั้งแต่เราแยกย้ายกันที่ห้องอาหารของโรงแรมแล้ว เลยทำให้ตอนนี้เหลือแค่ฉันกับพี่เดวิดเท่านั้น

    “พี่เดวิดไปเล่นน้ำด้วยกันนะคะ”

                    หลังจากที่ฉันเล่นน้ำทะเลอยู่คนเดียวสักพักก็เดินขึ้นไปชวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงผ้าใบใกล้ๆกับจุดที่ฉันกำลังเล่นน้ำอยู่อย่างสบายใจ พร้อมกับแววตาที่อ้อนวอนอย่างสุดๆ

                    ว่าทุกวันเขาดูดีแล้วนะวันนี้เขาดูมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก เมื่อเขาอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นสามส่วนสีครีม ที่มาพร้อมกับเสื้อกล้ามสีขาวที่ถูกทับด้วยเสื้อเชิทแขนยาวสีขาวที่ไม่ได้ติดกระดุกแม้แต่เม็ดเดียว แต่ว่าพับแขนเสื้อขึ้นไปถึงศอกอย่างไม่เรียนร้อยเท่าไหร่ แล้วเมื่อบวกกับแว่นสีชาของเขาเข้าไป ยิ่งทำให้ดูน่าหลงใหลอย่างไม่มีใครอาจปฏิเสธได้ (พอๆกลับมาสู่ปัจจุบันได้แล้ว)

    “ไม่เอาอ่ะ ดูพิณเล่นสนุกกว่า”

    “แต่พิณไม่อยากเล่นคนเดียวนี่คะ”

                    ฉันพูดพร้อมกับทำหน้าจ๋อยลงไปทันทีอย่างน่าสงสาร ก่อนที่คนตรงหน้าจะส่ายหน้าเบาๆอย่างใจอ่อน เพราะไม่สามารถทนต่อการกระทำของฉันได้

    “ไปก็ไป เรานี่จริงๆเลยนะ”

    :)

                    ฉันยิ้มร่าก่อนจะจับมือของพี่เดวิดและเดินนำลงไปทะเลอย่างมีความสุข เราทั้งคู่เล่นน้ำกันไปอย่างเพลิดเพลินจนเวลาได้ล่วงเลยมาแสนเนิ่นนาน พร้อมกับพระอาทิตย์ที่เคลื่อนตัวลงมาเกือบถึงกับผืนน้ำทะเล ทำให้เกิดภาพที่สวยงามอย่างเป็นธรรมขาติอันน่าหลงใหล ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจนทำให้ฉันต้องละจากภาพอันงดงามที่อยู่เบื้องหน้า (คือแบบยืนแช่น้ำอยู่อ่ะนะ ^^)

    “พิณขึ้นมาได้แล้ว”

                    เสียงเรียกแสนเย็นเฉียบได้ส่งมาให้ฉันพร้อมกับใบหน้าของพี่เอ็กซ์สันที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดทั้งสิ้น จนฉันต้องทำหน้ามุ่ยเดินขึ้นไปหาเขาโดยมีพี่เดวิดเดินตามฉันขึ้นมาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ที่จริงมันก็ควรจะเลิกเล่นแล้วจริงๆนั่นแหละ

    “คลุมไว้แล้วรีบไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้”

                    เขาเอาผ้าขนหนูที่เขาเอามาด้วยคลุมมาบนไหล่ของฉันก่อนจะจับมือฉันเดินกลับไปยังโรงแรม จนเราทั้งคู่มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องของฉัน

    “ไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่รอที่ห้องอาหาร รีบลงมาล่ะ”

                    เขาสั่งฉันหน้านิ่งแต่น้ำเสียงเขาอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งแต่ก็มีความเด็ดขาดอยู่ในตัวของประโยคนั้น ฉันจึงทำได้เพียงแต่พยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย

                    ฉันใช้เวลาในการอาบน้ำแต่งตัวไม่นานมากนักก่อนจะลงมาหาเขาที่ตอนนี้กำลังนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ ฉันหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตัดสินใจเดินไปนั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกับเขา โดยไม่ขออนุญาตใดๆ แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าทำไมบรรยากาศตอนนี้มันชั่งดูอึดอัดแปลกๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×