คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ไม่สบอารมณ์
ทั้งฉันและเจอาร์ต่างคนต่างก็ออกสเต็ปแดนซ์ใสกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยไม่สนใจเลยว่าจะมีสายตาของใครมองมาที่เรา แต่ฉันก็ต้องขอบคุณเจอาร์อยู่เหมือนกันนะที่คอยกันบรรดาหนุ่มๆที่ชอบทำเป็นเนียนมาใกล้เพื่อที่จะเข้ามาลวนลามฉัน แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะฉันมีไม้กันหมา อิอิ
ฉันมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มยั่วยวนที่ใครๆก็ต้องหลงใหลให้กับรอยยิ้มนี้ของฉันที่มาพร้อมกับเดรสสั้นสีแดงที่แอบมีเว้าช่วงไหล่ยิ่งทำให้วันนี้ฉันเซ็กซี่ข้นอีกเป็นเท่าตัว พร้อมกับเครื่องประดับที่เข้ากับชุดอย่างลงตัว ที่ตอนนี้มีมือของคนตรงหน้าวางอยู่ที่ตำแหน่งเอวคอดของฉัน แต่เหมือนกับว่าร่างกายของฉันจะไวกว่าความคิดเพราะว่าตอนนี้ฉันก็ตอบรับคนตรงหน้าด้วยการคล้องคอของเขาเช่นกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้ไว้ใจเขาทั้งที่เราเพิ่งจะเจอกัน แต่ตอนนี้ฉันรู้แค่ว่ามีเขาอยู่ตรงนี้ทำให้ฉันยิ้มได้ก็พอแล้ว
Xsan Talk
“เฮ้ย! นั่นน้องแกปะวะ”
เวกัสเอ่ยขึ้นอย่างเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนร่วมโต๊ะ แถมหน้ามันนี่โครตจะตกใจสุดๆ อย่างกับว่าโลกทั้งใบของมันจะระเบิดตรงหน้ามันอย่างนั้นแหละ แต่ถามว่าพวกผมคิดจะสนใจมันบ้างไหมขอตอบตรงนี้อย่างไม่เกรงใจเลยว่า...ไม่ครับ!!!
“มันก็มาประจำแกจะตกใจอะไรมากมาย”
เจโรมตอบออกไปโดยไม่สนใจเรื่องที่ได้ยิน แถมมันยังกระดกแก้วในมือทีเดียวหมดแก้วแล้วหันไปนัวเนียกับสาวแม่พันธ์วัวข้างๆมันต่อ
“อันนั้นรู้แล้ว แต่หมายถึงสาวน้อยของน้องแกเว้ย” เวกัสยังไม่ละความพยายามที่จะเรียกร้องความสนใจจากพวกผม
“หน้ามันหล่อไม่แพ้พี่มันจะมีสาวก็ไม่เห็นจะแปลก”เอากันเข้าไปไอ้นี่ก็ขอให้ได้หลงตัวเองเถอะ
“ถุย! ฉันหมายถึงว่าผู้หญิงที่เต้นกับน้องแกหน้าคุ้นๆเว้ย”
“คุ้นยังไงวะไหนขอฉันดูบ้างดิ”
บิลลี่ที่ทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นไปมองยังจุดโฟกัสเดียวกับก่อนจะอุทานออกมาจนสมาชิกในโต๊ะต้องพากันมาดูเพื่อความมั่นใจ
“แมร่งอย่างแจ่ม!! แถมเซ็กซี่สุดๆ แต่ทำไมหน้าคล้ายๆกับน้องสาววะ”
“ไหน เออว่ะใช่เลยน้องสาว เห็นทุกทีแต่งตัวใสๆแต่วันนี้เซ็กซี่สุดๆไปเลยว่ะ”
พอไอ้เจโรมที่มันรักยัยตัวเล็กมากยังพูดออกมาขนาดนี้จนผมทนไม่ไหวจนต้องเดินไปดูยังจุดโฟกัสเดียวกับพวกมัน แต่พอเห็นภาพตรงหน้าก็ทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ยากเลย ทำไมกันนะทำไมถึงมาอยู่ในสถานที่แบบนี้คนเดียว แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุดคืออยู่เพียงแค่ปลายจมูกของผมแต่ผมไม่รู้เลยว่าเธอมาอยู่ที่นี่ ทั้งที่ทุกครั้งเวลามาในที่แบบนี้หรือไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องโทรมาบอกผมก่อนทุกครั้ง แต่ทำไมครั้งนี้ผมถึงไม่ได้รับสายจากเธอเลยสักสายเดียว และที่สำคัญมานัวเนียกับผู้ชายคนอื่นในผับของผมเอง แถมไอ้ผู้ชายคนนั้นดันเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทนี่สิ แต่อย่างน้อยผู้ชายคนที่อยู่กับยัยตัวเล็กก็เป็นคนที่ผมรู้จักดีในระดับหนึ่งก็ยังดีกว่าที่น้องสาวจะอยู่กับใครก็ไม่รู้ แต่ว่าตอนนี้ไม่ว่าผู้ชายหน้าไหนผมก็ไม่สนใจแล้วทั้งนั้น
ชายหนุ่มที่กำลังเดินลงไปยังชั้นล่างของผับไม่รู้เลยว่าเพื่อนของเขาเองนั่นแหละที่สั่งให้น้องชายของตัวเองเข้าไปหาน้องสาวตัวน้อยของพวกเขาเองเพื่อที่จะปกป้องไม่ให้ใครเข้ามายุ่มย่ามกับน้องสาว
เจโรมได้แต่นั่งยิ้มกรุ้มกริ่มจนทำให้เพื่อร่วมโต๊ะมองมาที่เขาอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป
"กลับบ้าน"
ผมพูดอย่างเย็นใจใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากที่เดินลงมายังจุดที่ตัวเล็กอยู่ แต่เหมือนว่าเจ้าตัวจะทำหูทวนลมทำเป็นไม่ได้ยิน ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นไอ้เจอาร์แทนและมันก็เหมือนจะรู้หน้าที่รีบยกมือขึ้นเหนือหัวพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ได้มีความเกรงกลัวผมเลยสักนิด
“น้องพิณกลับบ้านกัน”
ผมพูดซ้ำขึ้นมาอีกครั้งด้วยความอดทนที่ต่ำลงไปทุกที แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กตรงหน้าของผมรู้สึกกลัวขึ้นมาเลยสักนิด
“พิณเพลง!”
และความอดทนที่เหมือนกับเป็นเพียงได้บางๆก็ได้ขาดผึงลงไปจนบรรยากาศรอบข้างของผมเงียบสงักลงเยี่ยงป่าช้ายามวิกาลก็ไม่ปานแถมยังมีสายตาของลูกค้าและลูกน้องของผมมองมายังผมเป็นจุดเดียว แต่ตอนนี้ใครมันจะไปสนใจกันละ
ตัวเล็กหันมามองผมด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าไม่พอใจอย่างสุดๆ ก่อนที่จะหันกลับไปทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้นมา
“กลับก่อนนะคะสุดหล่อ จุ๊บ!”
ยัยตัวเล็กของผมหันไปหอมแก้มเจอาร์ก่อนจะมาเหวี่ยงใส่ผมแล้วเดินนำไปยังหน้าผับอย่าไม่สนใจหน้าไหนทั้งนั้น บอกตามตรงเลยนะว่ายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่กล้าจะมาทำกับผมอย่างนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย แถมไม่วายยังหันมาสั่งผมก่อนจะเดินออกไปอีก หน้าขายหน้าชะมัด
“ดุอยู่ได้ รีบตามมาให้เร็ว”
“เฮ้อ! ให้มันได้อย่างนี้สิ”
ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วจำใจเดินตามยัยตัวเล็กออกไปยังหน้าผับ โดยมีสายตาของลูกน้องผมมองมาอย่างล้อๆ โดยเฉพาะสายตาของไอ้เจอาร์ที่แซวผมเต็มๆ อย่าให้ได้ถึงตาของผมบ้างละกันพ่อจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู
-------------------------------------------------------------------- 50% -------------------------------------------------------
ระหว่างทางขับรถกลับบ้านในรถมีเพียงแต่ความเงียบที่ปกคลุมเราสองคนโดยไม่มีใครเอ่ยปากพูดออกมาเลยแม้แต่คำเดียว จนตอนนี้รถของผมก็เคลื่อนตัวมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของผมโดยที่รถก็ยังคงมีแต่ความเงียบเช่นเดิม
“น้อง...”
ปัง!!!
ผมยังพูดไม่ทันจบยัยตัวเล็กก็เปิดประตูรถลงไปไม่พอแถมยังปิดซะรถผมนี่แทบพังกันเลยทีเดียว ทำไงล่ะครับทีนี้ตามสิครับรอช้าอยู่ทำไม
“พี่บอลครับผมฝากเอารถไปเก็บด้วยนะครับ”
ผมยื่นกุญแจรถให้กับคนขับรถของผมก่อนจะรีบวิ่งตามยัยตัวเล็กเธอเข้าไปแต่เหมือนกับว่าจะช้ากว่าเธอไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าว เพราะว่าตอนนี้เธอปิดประตูใส่หน้าผมเต็มๆแถมยังล็อกห้องอีก
“น้องพิณครับ เปิดประตูให้พี่หน่อยนะ”
ไม่ว่าผมจะพยายามเรียกเธอสักแค่ไหนก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆออกมาเลยแม้สักคำเดียว ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ขึ้นมาเป็นเท่าตัว ทั้งที่ความจริงผมควรเป็นคนที่โกรธเธอไม่ใช่หรอที่ไม่ทำตามสัญญาที่เคยบอกกับผมไว้ เพราะว่าถ้าเธอเกิดเป็นอะไรขึ้นมาผมคงไม่ให้อภัยตัวเองเป็นอันขาด แต่ตอนนี้ผมจะทำไงดีให้เธอให้อภัยกับผม
“พิณเพลง”
ผมกดเสียงต่ำอย่างเยือกเย็นเพื่อบ่งบอกให้เธอรู้ว่าตอนนี้ผมเริ่มจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว และตอนนี้เส้นความอดทนของผมก็ขาดผึงลงไปในที่สุด
ผมได้แต่กำหมันแน่นก่อนจะปล่อยใส่กำแพงไปหนึ่งที อย่าด่าว่าผมโง่ที่ไม่ยอมเอากุญแจมาเปิดประตูห้องเธอเข้าไปนะ เพราะว่าผมคิดจะทำอยู่เหมือนกันแต่ว่าผมรู้ว่าเวลานี้ป้าแม่บ้านแกนอนพักไปแล้ว แถมแกก็ยังมีอายุมากแล้วผมเลยไม่อยากไปรบกวน ผมเลยทำได้เพียงแค่ระบายมันลงไปกับกำแพง ก่อนจะเดินลงไปยังห้องนั่งเล่นชั้นล่างของบ้านก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบเพื่อดับอารมณ์ตัวเองที่ตอนนี้กำลังจะปรอทแดกออกมา
ผมสูบมันเข้าไปก่อนจะปล่อยออกมาช้าๆแล้วหลับตาลงอย่างข่มใจ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรผมเลยสักนิด ให้ตายสิถ้าใครมาเห็นผมในสภาพแบบนี้นะคงหัวเราะเยาะผมกันข้ามวันแน่เลย โดนเฉพาะพวกเพื่อนของผมนะมีล้อยังลูกบวชแน่แหละงานนี้
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ดึงผมออกมาจากภวังค์ ผมหยิบมันขึ้นมาโดยมี่ไม่ได้มองเลยว่าบนหน้าจอมือถือนั้นมันเป็นชื่อของใครที่โทรเข้ามาในเวลานี้
“ฮัลโหล”
“ทำไมเสียงแกอ่อยๆวะ”
ตอบกลับผมมาอย่านี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละก็ไอ้เวกัสเท่านั้นแหละ เพราะว่ามันเป็นคนที่เก็บความรู้สึกทุกอย่างจนบ้างครั้งมันก็มากเกินไปจนพวกผมเป็นห่วงมัน
“พอดียังเคลียร์กับยัยตัวเล็กไม่ลงตัวน่ะ”
“ทำไมวะน้องเค้าว๊ากใส่แกหรือไง”
“ป่าวแต่ตอนนี้ปิดห้องเงียบไม่คุยกับฉันเลย...ว่าแต่โทรมาป่านนี้มีอะไรด่วนปะ”
“ห่วงแกจนลืมไปละ แกไปนอนได้ละฉันเบื่อแก”
อ้าวอะไรของมันวะนึกจะโทรมาก็โทรนึกจะวางสายก็วางไปแถมมาบ่นว่าเบื่ออีก วันนี้มันวันอะไรกันวะเนี่ยมีแต่เรื่องที่ทำให้ผมเพลีย
ผมดับบุหรี่ในมือก่อนจะทิ้งตังลงนอนไปกับโซฟาอย่างเหนื่อยล้ากับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาในวันนี้ โดยเฉพาะเรื่องของยัยตัวเล็กที่หากปล่อยไว้นานกว่านี้คงมีหวังพังลงมากกว่าเดิมแน่ๆ ขนาดอธิบายทุกอย่างให้ฟังแล้วก็ยังไม่ยอมพูดคุยกับผมดีๆจนตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงอยู่แล้ว คืนนี้ราตรีสวัสดิ์นะครับทุกคน
(แกไม่คิดจะไปนอนที่เตียงนุ่มๆหรือไงกัน : ไรท์)
ครบร้อยเปอร์เซ็นแล้วนะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากๆจากใจเลยนะคะ
สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ
ไรท์เตอร์คนนี้พร้อมน้อมรับทุกคำติชมค่ะ
ยังสามารถดิชมผลงานนี้ได้เหมือนเดิมนะคะหรือจะติดต่อคุยหรือปรึกษาได้ทุกเรื่องได้ที่
ความคิดเห็น