ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Don't Stop หยุดยังไง...เผลอใจรักนายซุปตาร์

    ลำดับตอนที่ #8 : My love come back to me please

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 57


    Zen Talk

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

    “ไอ้เจโรม น้องสาวไปไหนวะ...ไม่เจอกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว”

                    ลีจุนถามอย่างสงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมมาทำงาน ทั้งที่ทุกครั้งไม่ว่าเธอจะเจอปัญหาอะไรก็จะมาเฝ้าหาน้ำหาขนมมาให้ตลอด แต่อยู่ๆเธอก็หายไป

                    เจโรมตอบเสียงนิ่งๆพร้อมกับมองมาทางผมอย่างเจ้าเล่ห์ปนร้ายกาจ โอเค! ผมยอมรับว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะผม ก็ตั้งแต่วันที่เธอไปหาผมที่คอนโดฯเพื่อไปบอกว่าเธอขอยอมเป็นผู้แพ้ โดยไม่หวังแม้แต่จะเสมอกับผมเลยด้วยซ้ำทั้งที่ความจริงเราสองคนเสมอกัน นับเป็นครั้งที่สองที่ผมได้เห็นน้ำตาของผู้หญิงที่เข้มแข็งอย่างเธอ แต่ครั้งนี้มันหนักมากจนเหมือนกับว่าหัวใจผมกำลังถูกกัดกินอย่างเจ็บปวดด้วยน้ำใสๆที่ไหลอยู่บนแก้มของเธอคนที่ผม รักแต่ปากของผมมันหนักอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกทำได้เพียงกอดปลอบเธอ จนตอนนี้เธอหายไปจากชีวิตของผมได้หนึ่งอาทิตย์เต็มๆโดยไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับเธอแม้แต่นิดเดียว ยิ่งผมทำเป็นไม่สนใจภาพของเธอก็ยิ่งชัดเจนอยู่ในความคิดของผมตลอดจนผมเองยังหงุดหงิดกับการกระทำโง่ๆของผมที่ทำลงไปกับเธอผู้เป็นเจ้าของ หัวใจ ผม

                    ผมเดินออกจากห้องซ้อมทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลาเลยด้วยซ้ำไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมมุ่งตรงไปยังลานจอดรถ ผมเปิดประตูรถ BM สีดำกำลังจะเข้าไปนั่ง แต่ทว่า...

    Stop!

                    เสียงของคนที่ผมจำได้ขึ้นใจว่าเป็นใคร ใช่! มันคือเจโรมที่เรียกจนผมต้องปิดประตูรถแล้วหันไปมองหน้าของมันอย่างเซ็งๆ ผมรู้ว่ามันจะมาพูดกับผมเรื่องอะไร ใช่แล้ว! มันคือเรื่องของยัยแว่นน้องสาวคนละแม่ของมัน

    “แกจะมาพูดเรื่อง...”

    “เรื่องที่แกเองก็รู้อยู่แก่ใจ!

                    มันพูดแทรกขึ้นมาทันทีทั้งที่ผมยังพูดไม่ทันจบเลยด้วยซ้ำ ใช่! ผมรู้ว่ามันจะมาพูดกับผมเรื่องอะไรแต่ผมไม่อยากพูดกับมันถึงเรื่องนี้ตอนนี้ -*-

    “ฉันถามจริง แกรักน้องสาวฉันบ้างไหม”

    “...”

    “ฉันรู้ว่าแกรักเธอ เพราะไอ้เกมบ้านั่นใช่ไหมที่ทำให้แกไม่ยอมบอกเธอ”

    “แต่ว่าฉัน...”

    “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่แกจะได้บอกความในใจกับเธอ ก่อนที่เธอจะไม่อยู่ให้แกได้พูดออกไป!

                    มันพูดแทรกผมเสร็จมันก็เดินขึ้นรถสีเพลิงสุดหรูของมันที่จอดอยู่ไม่ไกลออกตัวไป ผมเข้ามานั่งในรถแล้วย้อนคิดถึงสิ่งที่มันพูดออกมา

    ก่อนที่เธอจะไม่อยู่ให้แกได้พูดออกไป

                    คำพูดของมันทำให้ใจของผมหวิวๆ เหมือนกับว่าผมจะไม่มีวันได้เจอเธออีกแล้ว ที่เธอเป็นอย่างนี้ก็เพราะผม เธอทำทุกอย่างมากมายเพื่อผม แต่ผมตอบแทนเธอกลับไปด้วยความเจ็บปวดจนผมเห็นน้ำตาของเธอออกมาอย่างหนัก จนเธอถึงกลับทรุดลงต่อหน้าของผมอย่างไม่คาดคิด แต่ผมกลับไม่กล้าแม้แต่จะพูดความจริงที่อยู่ข้างใน ผมมันหน้า ตัวเมียมากเลยไหมที่ทำแบบนี้แม้แต่คำว่าขอโทษผมยังไม่กล้าพูดออกไป

    ณ คอนโดใกล้ตึก K

                    ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเธอ แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะกดออดเรียกเธอออกมาหาผม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่าไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเธอ ทั้งที่ผมตั้งใจมาเพื่อบอกว่าผม รักเธอ แต่ทว่า...

    “คุณมาหาใครหรอค่ะ”

                    เธอเปิดประตูออกมาอย่างตกใจเล็กน้อย แต่ก็ปรับสีหน้านิ่งอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าเราไม่เคยรู้จักกันมันเป็นคำถามที่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บมาก จนอยากวิ่งเข้าไปรื้อฟื้นความทรงจำระหว่างเราให้กลับคืนมา แต่ความกล้าของผมมันยังไม่มากพอที่จะให้ผมทำอย่างนั้น ผมได้แต่ยืนนิ่งไม่มีแม้แต่คำว่า ขอโทษที่ผมตั้งใจมาบอกเธอ

    “คุณค่ะ...”

    “อ่อ...ครับ”

    “คุณมาหาใครหรอค่ะ”

    “ผมมาหาเจ้าของห้องครับ”

    “ไว้มาวันหลังนะคะ พอดีเจ้าของห้องกำลังจะออกไปข้างนอก”

                    เธอพูดจบก็เดินสวนผมออกไปทันทีโดยไม่สนใจคนที่เธอทำเป็นแกล้งไม่รู้จักกันที่ยังยืนรอเธอเพื่อขอโทษเธอจากใจอยู่ตรงนี้ พอเธอเดินเข้าลิฟไปอย่างไม่สนใจคนอย่างผม ผมได้แต่โกรธตัวเองว่าทำไมถึงยอมปล่อยให้เธอเดินจากผมไปโดยไม่คิดแม้แต่จะรั้งเธอไว้ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่คิดจะทำอะไรเพื่อไม่ให้เธอต้องเดินจากไปอย่างนี้...

     

    งานเปิดตัวอัลบั้มใหม่ของ The Prince

                    การเปิดตัวอัลบั้มที่พวกเราทุกคนตั้งใจและทุ่มเทให้กับมันมาเป็นปี ทุกๆครั้งที่พวกเราได้ออกอัลบั้มใหม่พวกเราจะคอยมานั่งลุ้นผมตอบรับจากแฟนๆ และครั้งนี้ก็เหมือนกับทุกครั้งที่ได้เปิดตัวอัลบั้ม แต่สำหรับผมวันนี้มันชั่งต่างจากทุกครั้งโดยสิ้นเชิง เพราะครั้งนี้ผมทำเป็นตื่นเต้น ยิ้ม มีความสุข ทั้งที่ความเป็นจริงลึกๆของใจผมมันยังไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ ต้องบอกว่าโคม่าน่าจะเหมาะสำหรับผมในตอนนี้ แถมวันนี้ยังต้องไปยืนฝืนยิ้มอยู่บนเวทีอย่างช่วยไม่มีทางเลือก

    “ทำไมแกดูไม่ตื่นเต้นเลยวะ”

                    ลีจุนถามขึ้นหลังจากที่มันนั่งจ้องหน้าผมมาสักพัก ทั้งที่มันก็พอรู้ว่าทำไมผมถึงได้อยู่ในสภาพแบบนี้ แต่มันก็ยังกล้ามาถามผมอีกว่าทำไม

    “วันนี้ต้นอ้อมา --

                    เจโรมเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าของผมนิ่งๆ แต่แววตาของมันมีสารพัดคำด่าที่เจ็บปวดกว่าการที่มันพูดออกมาเป็นหลายร้อยเท่า ถ้าจะจ้องกันขนาดนี้ด่าตูเหอะ สบายใจกว่าเยอะเลย

    “จะทำอะไรก็รีบทำ เพราะมันอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะยืนให้แกพูดทุกอย่าง”

                    ไม่จบ! มันปล่อยประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินไปเตรียมตัว เหอะ! ครั้งสุดท้ายอย่างนั้นหรอ? ตลกเป็นบ้า -*-ขนาดผมไปหาเธอถึงคอนโดฯก่อนที่จะมาทำงานนี้ทั้งที่ผมยืนประชันหน้ากับเธอ เธอยังทำเป็นไม่สนใจผมเลยด้วยซ้ำ แล้วครั้งนี้มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าผมพูดอย่างที่ผมตั้งใจไว้ เพราะเธอไม่คิดที่จะฟังคำใดๆจากปากผู้ชายอย่างผมอีกต่อไปแล้ว

    TonAo

                    ฉันไม่คิดเลยว่าการที่ฉันตัดสินใจมางานนี้และการที่ฉันไม่ไปทำงานเป็นผู้จัดการอีกแล้ว ก็ไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเลยสักนิด แถมภาพความทรงจำทุกอย่างมันยิ่งชัดเจนมากขึ้น และยิ่งตอนที่ฉันเปิดประตูห้องออกมาเจอกับเขาที่ยืนอยู่ข้างหน้าห้อง ในจิตใจลึกๆของฉันอยากจะกระโดดกอดคอของเขาอย่างคิดถึงเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องทำเป็นวางมาดนิ่งทำเป็นเหมือนกับว่าเราไม่เคยพบเจอหรือรู้จักกันมาก่อน

    “เอาหละพวกเราพร้อมไหม!

    “พร้อม!

    “งั้นเรามาพบกับหนุ่มหล่อบอยแบนไทย ที่มาพร้อมกับเพลงในอัลบั้มใหม่”

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

    “ไปเต้นจนหัวใจหลุดกัน The Prince กันเลยจ้า...”

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”

                    เสียงดนตรีดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดเพื่อต้อนรับพวกเขาอย่างคึกคัก ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากจะมางานนี้สักเท่าไหร่หรอก แต่พวกพี่ๆดันตื้อให้ฉันมางานนี้ให้ได้จนฉันใจอ่อนต้องยอมมางานนี้ โอเค! ยอมรับก็ได้ว่าฉันยังไม่พร้อมที่จะมาเจอของเขาในสภาพจิตใจที่เป็นอยู่อย่างนี้

                    ฉันมองทุกคนบนเวทีที่เต้นกันอย่างเท่ โดยเฉพาะเขาที่ไม่ว่าจะมองยังไงเขาก็ยังดูดีสำหรับฉันเสมอ แล้วยิ่งเขามาในชุดจัดเต็มสีดำมันก็ยิ่งทำให้เขาดูลึกลับน่าค้นหา แต่คนอย่างฉันคงไม่สิทธิ์มากพ่อที่จะได้มีโอกาสเข้าไปค้นมันอีกต่อไปแล้ว ทั้งที่ความจริงฉันไม่ควรแม้แต่จะมายืนอยู่ตรงนี้ให้เจ็บปวดเลยด้วยซ้ำ ฉันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ยอมเดินออกไปจากจุดนี้สักทีเหมือนกับความคิด

                    ทำไมยิ่งมองหน้าของเขาฉันก็ยิ่งอยากจะเข้าไปกอดเขาโดยไม่ปล่อยให้เขาจากฉันไปไหนอีก แต่ฉันก็ทำอย่างที่ต้องการไม่ได้ ฉันทำได้เพียงมองเขาทั้งความเจ็บปวดอยู่ตรงนี้ก็มากเกินพอสำหรับคนอย่างฉันแล้ว ผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดดเด่นจนให้เขาหันมาสนใจ ฉันก็แค่บังเอิญได้เข้ามาช่วยลูกพี่ลูกน้องในการดูแลพวกเขาและรู้ความจริงว่ามีพี่ชายต่างแม่ของฉันอยู่ร่วมวงเดียวกับเขาก็เท่านั้นเอง ถึงแม่ว่าเราจะได้ผูกพันธุ์กันเพราะเกมที่เขาตั้งขึ้นมา แต่ตอนนี้ฉันได้ปิดฉากเกมระหว่างเราลงไปแล้วพร้อมกับความเจ็บปวดที่ฉันได้รับจากเกมของเขาอย่างแสนสาหัส

    “เรื่องเพลงและอัลบั้มใหม่เราก็พอรู้มาบ้าง พี่ว่าเรามาล้วงลึกเรื่องที่สาวๆทั้งประเทศอยากรู้จากหนุ่มๆกันดีกว่า...”

    “กรี๊ดดดด”

    “ใจเย็นค่ะสาวๆใจเย็น งั้นพี่ว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า เรามาเริ่มจากหนุ่มที่ทำให้สาวๆค่อนประเทศต้องอกหักกันก่อนดีกว่าค่ะ”

     “กรี๊ด”

    “เซนคะ...ความรักกับหวานใจเป็นยังไงบ้างคะ”

                    ฉันอยากขอบคุณพิธีกรสาวมากเลยที่ถามคำถามเขาจนเข่าของฉันแทบทรุดได้ขนาดนี้ ความจริงฉันอยากเดินออกห่างไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดแต่ก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะฉันมีความรู้สึกว่าเขามองมาทางฉันจนขาของฉันมันก้าวไม่ออกจนน้ำตาอยากจะไหลออกมา แต่ทำได้เพียงฝืนมันเอาไว้ไม้เขารับรู้

    “ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ครับ”

                    เพียงแค่เขาเอ่ยออกมาแค่นั้นทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ก็พากันเงียบอย่างไม่ได้นัดหมายไม่เว้นแม่แต่ฉันที่ยืนนิ่งจนน้ำตาคลอ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันต้องรู้สึกเจ็บจนอยากจะร้องไห้ขนาดนี้

                    ฉันยังคงจ้องมองเข้าไปในแววตาของเขาที่ไม่เหมือนกับที่ฉันเคยได้สัมผัสมัน แต่มันเป็นแววตาแสนเศร้าอย่างที่ฉันไม่คิดว่าจะได้เห็นจากเขา ฉันไม่รู้หรอกว่ามันจะออกมาจากความรู้สึกของเขาจริงๆหรือมันเป็นเพียงแค่การแสดงของเขา ที่ทำขึ้นเพื่อทำให้ฉันรู้สึกเจ็บจนจุกได้ขนาดนี้ จนน้ำตาที่เอ่ออยู่ล้นออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    “เกิดอะไรขึ้นกับหนุ่มหล่อของสาวน้อยใหญ่ของไทยกันค่ะเนี่ย”

    “ทุกอย่ามันเกิดขึ้นเพราะผม...ผมผิดกับเธอมากมากจนเธอเดินออกจากชีวิตของผมไป”

    “ชั่งเป็นผู้หญิงที่กล้ามากๆเลยนะเนี่ยที่บังอาจมาทิ้งสุดหล่อของเราได้”

    “ไม่ใช่ว่าเธอกล้าหรอกครับ แต่เธอไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่ผมเคยเจอมา ผมอยากที่จะรั้งเธอไว้ทั้งที่ทุกอย่างมันเกิดมาจากความผิดของผม แม้วันนี้เธอจะมาอยู่ในงานนี้ แต่เธอก็ยังคงทำเหมือนว่าเราไม่เคยรู้จักกัน”

                    พอกันที! ต่อให้ฉันต้องโดนยิงตายเพื่อที่จะก้าวขาออกจากตรงนี้ฉันก็ยอมตายยังดีกว่าที่มายืนเจ็บปวดอยู่อย่างนี้ ฉันยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มอย่างลวกๆก่อนจะหันหลังให้กับเขาเพื่อให้พ้นจากคามเจ็บปวดที่กำลังจะเพิ่มทวีคูณจนฉันแทบจะทนไม่ไหวอีกแล้ว แต่ทว่า...

    “ผมขอโทษกับเรื่องทุกอย่าง คุณไม่ใช่ผู้แพ้แต่มันเสมอกันมาตั้งแต่เริ่ม ผมขอโทษที่ผมไม่คิดที่จะพูดความจริงออกไปเหมือนที่คุณบอกกับผม ผมทำให้คุณต้องร้องไห้เสียน้ำตาเพราะการกระทำเลวๆของผม...

    Sorry. My Love, Come back to me please

    “...”

                    ขอโทษฉันงั้นหรอ? ขอให้ฉันกลับไปหาเขางั้นหรอ?

                    เขาพูดขณะที่ฉันกำลังจะก้าวขาเดินออกไปทั้งน้ำตา แต่เช้าของฉันก็ต้องหยุดลงเพราะประโยคที่เขาพูดออกมาจนทุกคนพากันเงียบและมองมาทางฉันเป็นสายตาเดียวกัน ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดออกมามันเป็นความจริงมากน้อยสักแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่เป็นความจริงก็ขอร้องอย่ามาทำเป็นให้ความหวังกับคนอย่างฉัน  ฉันเจ็บปวดเพราะคนอย่างเขามามากเกินพอแล้ว อย่าให้ฉันต้องกลับไปจมปักอยู่กับความเจ็บปวดที่เขามอบมันให้กับฉันอีกต่อไปเลย แค่นี้มันมากมายเกินพอสำหรับฉันแล้ว จนในที่สุดฉันก็ทรุดลงกับพื้นตรงหน้าเขาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายจนหยุดมันไม่ได้อีกต่อไป

    “ต้นอ้อ!

                    ในเวลานี้ฉันไม่รู้หรอกว่าเสียงนั้นมันเป็นของใคร แต่หลังจากเสียงนั้นดังขึ้นไม่นานฉันก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาที่มันยิ่งทำให้ฉันปล่อยออกมาอย่างหมดอาย เพราะตอนนี้ความเจ็บปวดของฉันมันมีมากกว่าความอาย

    “ผมขอโทษ...”

                    เขาพูดขอโทษพร้อมกับอ้อมกอดของเขาที่มันแน่นขึ้นจนฉันรู้สึกปลอดภัยแต่ข้างในมันยังคงเจ็บปวดและทรมานอยู่ดี เขาทำให้ฉันไม่กล้าพอที่จะให้อภัยเขา ไม่กล้าพอที่จะเปิดใจรับเขาเข้ามาอีกครั้ง เพราะครั้งก่อนเขายังตอบแทนความรักของฉันด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส โอเค! ฉันยอมรับว่านั่นมันคือเกมที่อาจทำลงไปเพราะไม่อยากเสียศักดิ์ศรีในฐานะที่เขาเป็นคนที่สร้างเกมนี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่ในครั้งนี้มันไม่มีคำว่าเกมที่จะเอามาเป็นกรอบอีกต่อไป และฉันเองก็ไม่มั่นใจในตัวเขาว่าครั้งนี้เขาจะหลอกลวงเพื่อให้ฉันรักและตอบแทนความรักนั้นด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเหมือนกับในครั้งนี้ไหม

    ...ขอโทษที่ฉันกลายเป็นคนอ่อนแอและไม่กล้าพอที่ฉันจะเปิดใจรับมัน...

     

    Zen Talk

                    ผมไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรมาเข้าสิงผมที่ทำให้ผมสารภาพทุกอย่างผ่านสื่อออกไป เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินจากผมไปและถ้าเธอเดินจากผมไปในวันนี้มันก็คงไม่มีโอกาสที่ผมจะสารภาพทุกอย่างกับเธออีกต่อไป

    Sorry. My Love, Come back to me please

     

                     ผมขอโทษเธอพร้อมกับขอร้องให้เธอกลับมาหาผม ขณะที่เธอกำลังจะเดินจากผมไปอีกครั้งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมถึงอยากที่จะรั้งเธอไว้ ไม่อยากให้เธอเดินกลับออกไปจากชีวิตของผมอีก โอเค! ผมยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่าผมรักเธอตั้งแต่วันแรกที่เราได้เริ่มเกมกัน แต่มันยังคงมีอีกหนึ่งอย่างที่เรียกว่า เกมมันเป็นสิ่งที่บอกให้ผมต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้นทั้งที่ในความเป็นจริงผมแพ้เธอตั้งแต่ต้น

                    ผมจ้องมองเธอที่ทำเป็นไม่สนใจผมอย่างปวดร้าว จนเธอทรุดลงนั่งกับพื้นพร้อมกับน้ำตาของเธอที่ไหลออกมามากมายโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ จนผมต้องรีบวิ่งเข้าไปกอดทันทีที่เธอทรุดลง ผมพูดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่า ขอโทษและกอดเธอไว้ให้แน่นยิ่งขึ้นเพียงเท่านั้น ผมกอดเธอด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งตกใจ เป็นห่วง อยากขอโทษ เพราะจุดเริ่มต้นของความรู้สึกต่างๆเหล่านี้มันเกิดขึ้นมาเพราะผม!

    “ผมขอโทษ...ขอโอกาสให้ผมสักครั้งได้ไหม”

    “นายมันคนนิสัยไม่ดี!

                    เธอตอบโต้ผมออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ยังคงหลั่งรินออกมา อย่างไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดลงง่ายๆ

    “ขอโอกาสให้คนนิสัยไม่ดีคนนี้...ได้แก้ตัวสักครั้งได้ไหม”

                    ผมเอามือของผมจับคางของเธอให้มองมาสบตาผม ก่อนจะค่อยๆแนบริมฝีปากลงบนริมีปากสีชมพูดูอวบอิ่มจนน่าลิ้มลองอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน มันเป็นริมฝีปากที่ผมอยากจะลิ้มลองอีกครั้งหลังจากที่เธอเข้ามาจูบผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมค่อยๆบดปากเข้าไปอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้ผมมีเธออยู่ในอ้อมกอดแม้จะมาพร้อมกับน้ำตา แต่ต่อจากนี้ไปผมไม่มีวันที่จะปล่อยให้เธอหายไปจากชีวิตของผมอีกครั้งเด็ดขาด ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่แสนลำบากแค่ไหนผมก็จะไม่มีวันปล่อยมือจากเธออีก

     

    TonAo Talk

    “พอได้แล้ว...ฉันหาย...ฮื้อ...”

                    เขาไม่ฟังฉันเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังกดริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากของฉันอย่างร้อนแรงอีกครั้ง จนตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวของฉันล่องลอยจนไม่รู้สึกอายอะไร เขาทำเหมือนกับว่าที่ตรงนี้มีเราอยู่แค่สองคน และไม่สนใจว่าใครจะมองเราด้วยสายตาแบบไหน ขอแค่ตอนนี้มีเพียงเขาอยู่ข้างฉันแบบนี้ตลอดไป
    “พอแล้ว...น้องฉันบุบสลายพอแล้ว”

                    พี่เจโรมถามขัดจังหวะของเราสองคนขึ้น หลังจากที่เราสองคนสร้างบทสวีทกันมานาน จนฉันต้องผลักร่างของเขาออกห่างจากฉันเล็กน้อย พร้อมกับสายตาของเขาที่มองไปยังพี่เจโรมอย่างหงุดหงิด แต่โดนตอกกลับมาด้วยสายตาที่ดุเอาเรื่องจนเขาต้องยอมหยุด ก่อนจะพยุงฉันให้ยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปยังเวทีที่พี่ๆทุกคนนั่งเรียงกันอยู่ ฉันนั่งลงข้างๆระหว่างเขากับพี่เจโรมอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ -*-

    “เอาหละ! เอ่อ...พี่ว่าเรามาเข้าเรื่องนี้กันดีกว่านะคะ เอ่อ...ก่อนที่จะรู้สึกร้อนผ่าวกันมากกว่านี้นะคะ”

                    อยากจะขอบคุณพี่สาวพิธีกรที่ปิดฉากความอายของฉันลง และเปลี่ยนประเด็นการสนทนา แต่แขนขแงเขาก็ยังคงเกาะเอวแน่นอยู่ตลอดเวลา วันนี้เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดหลังจากวันที่ฉันเดินเข้าไปเพื่อปิดฉากเกมของเขาลง และนอนซมอย่างเจ็บปวดมาแสนเนิ่นนานแม้จะเป็นเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็ตาม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×