ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Don't Stop หยุดยังไง...เผลอใจรักนายซุปตาร์

    ลำดับตอนที่ #4 : Take care

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 57


    Zen Talk

                    ผมรู้สึกตัวขึ้นมาก็ได้กลิ่นหอมของอะไรบางอย่างลอยมาจากห้องครัว จนทำให้ผมต้องลุกไปยังต้นทางของความหอมทั้งที่ยังคงปวดหัวอยู่บ้าง แต่พอเดินมาถึงก็ทำเอาผมอึ้งอย่างไม่อยากที่จะเชื่อสายตาของตัวเอง ผมเอามือขยี้ตาของตัวเองอย่างไม่เชื่อว่านั่นคือยัยแว่นตัวแสบ เพราะผมไม่เคยคิดเลยว่าคนอย่างเธอจะเข้ามาทำอาหารให้ผมทานถึงโดฯของผมเอง แต่จะว่าไปเวลาที่เธอทำอาหารอย่างนี้ดูน่ารักกว่าตอนที่เธอต่อปากต่อคำกับผมเป็นไหนๆ ผมไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าคนอย่างเธอจะทำให้คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าไม่มีหัวใจอย่างผมต้องมารู้สึกหวั่นไหวได้มากขนาดนี้ ต่อให้ผมหลงรักเธอผมก็ไม่มีทางที่จะยอมแพ้เธอในเกมนี้เด็ดขาด!

    “กลิ่นหอมขนาดนี้...ขอหอมคนทำได้ปะ”

                    เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปทำอาหารของเธอต่อ

    “ดีขึ้นแล้วหรือไง...ถึงได้มากวนกันแบบนี้”

    “ก็ยังปวดหัวอยู่นิดหน่อย”

    “ไปนั่งรอเลยเดี๋ยวเอาไปให้”

    “คร๊าบที่รัก ^^

                    ผมเดินกลับมานั่งรอที่โต๊ะอาหารด้วยรอยยิ้มที่เปรี่ยมสุข ทำไมใจของผมมันต้องหวิวด้วยเนี่ย ทั้งที่เธอไม่ได้มีอะไรที่ตรงสเป็กผมเลยสักอย่าง จะว่าไปตั้งแต่รู้จักกับเธอมายังไม่เคยเห็นเธอทำอาหารเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาทำอาหารแล้วงานนี้จะทำให้ผมดีขึ้นหรือตายอนาถกันแน่เนี่ย -*-

    “เสร็จแล้วค่ะ”

                    เธอเดินมาพร้อมกับถ้วยข้าวต้มด้วยรอยยิ้มและแววตาที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน(ขนาดอยู่ด้วยกับทุกวัน)

    “กินได้แน่หรอ”

                    ผมชี้ไปยังถ้วยข้าวต้มที่วางอยู่ข้างหน้า จนเธอทำหน้าหงิกใส่อย่างไม่พอใจสุดๆ

    “งั้นก็ไม่ต้องกิน L

    “โอ๋...อย่างอนน่า J

                    ผมดึงตัวเธอที่ยืนอยู่ข้างๆลงมานั่งที่ตักของผมแล้วกอดเอวเธอไว้ไม่ให้ลุกไปไหน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมต้องรู้สึกแปลกใจที่เธอทำเหมือนจะเดินออกไป มันเหมือนกับว่าเธอจะเดินจากผมไปอย่างไม่สนใจผม ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมต้องมามีความรู้สึกแบบนี้กับคนอย่างเธอด้วยเนี่ย ให้ตายเหอะ!

    “ปล่อยฉัน...กินๆไปเลยไป >///<

    “ปล่อยได้ไงนานทีเธอจะพลาดให้ฉัน”

    “ปล่อยนะ...นายนิสัยไม่ดีเลยนะ -///-”

    “ขอบคุณที่ชมครับ^^

    “น่าภูมิใจตรงไหนเนี่ย”

    “555+ ป้อนผมหน่อยนะครับ *-*”

    “กินเองไม่เป็นหรือไง -///-”

    “ถ้าไม่ยอมป้อน...ผมก็จะอยู่อย่างนี้แหละ”

    “นายนี่มันจริงๆเลยนะ -*-”

                    เธอจำใจต้องป้อนข้าวต้มผมทั้งที่เธอก็ยังนั่งอยู่บนตักของผม (ไม่ยอมปล่อย) ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงทำให้ผมมีความสุขและเป็นตัวของตัวเองได้มากขนาดนี้ ตอนแรกผมไม่คิดว่าเกมนี้จะทำให้เธอเปลี่ยนตัวเองจนน่าหลงใหลได้ขนาดนี้ จนผมอยากจะให้เกมนี้จบลงตั้งแต่วินาทีนี้เลยด้วยซ้ำ ผมไม่สนใจแล้วว่าผลของเกมนี้มันจะเป็นยังไง ผมพร้อมที่จะน้อมรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น

    ~~ 08:30 PM ~~

                    ให้ตายเหอะ! ขนาดผมไม่สบายก็ยังต้องยอมมางานวันเกิดของไอ้ลีจุนจนได้ แทนที่จะได้นอนพัก ขนาดผมยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาอ้างแต่ก็ยังแพ้ความดื้อดึงของเธอ จนต้องยอมมาไม่อย่างนั้นเธอจะโทรให้เจ้าของงานวันเกิดมารับ ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมจะต้องไม่ยอมให้ลีจุนมารับเธอด้วย ทั้งที่เราก็คบกับเพราะเกมเท่านั้นไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด ผมล่ะไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆว่าทำไมต้องยอมแบกสังขารมางานนี้เพื่อเธอด้วย พอเธอรู้ว่าความดื้อของเธอทำให้ผมยอมไปงานกับเธอก็กระโดดเข้ามากอดอย่างกับไปได้เหรียญทองโอลิมปิกมาอย่างนั้นแหละ

                    ผมเดินกอดเอวเธอเข้าไปในงานแต่ยังไม่ทันจะเข้าไปในบริเวณ Party ทุกสายตาก็ส่งมาอย่างไม่ได้นัดหมายมายังเราสองคน ก็คนมันหล่ออ่ะทำไงได้ (คิดแล้วยังอยากจะอวกเองเลย -*-)

    “คิดว่าน้องสาวจะไม่มาซะแล้ว”

                    เฮอะ! ไอ้ลีจุนไอ้เพื่อนเวร! เพื่อนเดินมาสภาพจะตายไม่ทักกันสักคำ แต่ดันเดินเข้ามาทักทายยัยแว่นนี่ ให้ตายเหอะ! เป็นเพื่อนกันจริงๆปะวะเนี่ย

    “ต้องมาอยู่แล้วพี่ชายสุดที่รักของอ้อทั้งคน ^^

    “ถามฉันบ้างไหม -*-”

                    ทำอย่างกับว่าผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้อย่างนั้นแหละ

    “อ้าว...แกไม่สบายทำไมไม่นอนพักวะ”

    เหอะ! ยืนอยู่ตั้งนานเพิ่งจะเป็นห่วงกันหรือไงนะ ไอ้เพื่อนบ้า -*-

    “พอดีว่าลิงดื้อจะมาวันเกิดแก”

    “ฉันไม่ใช่ลิงนะ! แล้วฉันก็ไม่ได้ขอร้องนายด้วย!

    “เถียงนักเดี๋ยวก็โดนแบบที่คอนโดฯหรอกสาวน้อย ^^

    “นายอย่าพูดออกมานะ >///<

                    555+ ผมน่ะมีไม้ตายไว้รับมือกับคนอย่างเธอเสมอโดยเฉพาะไอ้รอยแดงๆที่อยู่บนคอของเธอ เล่นกับใครไม่เล่นดันมาเล่นกับคนอย่างผมก็ต้องโดนอย่างนี้แหละ เธอมองผมอย่างเคืองๆโดยเฉพาะแววตาที่ดูไม่พอใจอย่างรุนแรงแต่แอบแฝงไปด้วยความน่ารักในดวงตาคู่นั้น ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะฟัดเธอตอนนี้เลยจริงๆ(เริ่มทนไม่ไหวแล้วนะ!)

    “พอๆเข้าไปด้านในกันดีกว่า”

    “ก็ดีเหมือนกันค่ะ L

                    เธอเดินสะบัดหน้าใส่ผมแล้วเดินตามเข้างานตามเจ้าของงานวันเกิดไป(น่ารักเป็นบ้า) ผมเดินตามทั้งสองคนเข้าไปในงาน ทั้งที่สภาพของผมจะตายอยู่แล้วแต่ก็ต้องทำเป็นว่าสบายดีไม่เป็นอะไร (ฝืนไว้ เดี๋ยวเสียฟอร์ม)

    ~ ~  ณ คอนโด  ~ ~

                    ผมทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเพลียๆ ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆว่าทำไมผมต้องยอมเธอด้วยเกมที่ผมคิดว่าจะชนะมันชักไม่แน่ใจแล้วซิ ถ้าเธอยังคงทำให้ผมรู้สึกดีๆกับเธอแบบนี้ ให้ตายเหอะ! เจ็บใจเป็นบ้าขนาดผมป่วยไม่สบายอย่างนี้ยังดี้ด้าอยู่ในงานอยู่ได้ ผมเดินออกมาจากงานเธอยังไม่คิดแม้แต่จะโทรมาถามผมเลยด้วยซ้ำ (แล้วจะโมหาทำไม - * -)

    TonAo Talk

                    ฉันพูดคุยกับทุกคนในงานอย่างสนุกสนาน เพราะทุกคนในงานเป็นกันเองสุดๆ ทั้งที่ฉันพึ่งจะมารู้จักกับพวกเขาเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะเมลิกกับเจโรมที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเสือยิ้มยากยังหลุดยิ้มออกมากับท่าทางโก๊ะๆของฉัน  แต่พอฉันหันไปมองยังที่นั่งของนายปีศาจก็เห็นแต่เก้าอี้โดยไร้ร่องรอยของเขา เอ๊ะ! มาก็มาด้วยกันแล้วหายไปไหนเนี่ยไม่คิดจะบอกกันสักคำเลยหรือไงนะ-*-

    “ทุกคนค่ะ อ้อขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”

                    ฉันยิ้มให้กับทุกคนแล้วเดินออกจากบริเวณงาน ฉันเดินเข้าไปในบ้านของลีจุนก็ไร้ซึ่งวี่แววของเขา หายไปไหนนะ! ยิ่งไม่สบายอยู่ด้วย ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเขาก็โทรไม่ติด เป็นอะไรไปนะถึงได้ปิดเครื่องจนติดต่อกันไม่ได้ขนาดนี้ จะออกไปไหนก็ไม่ยอมบอกกันสักคำทำไมจะต้องทำตัวให้เป็นห่วงอย่างนี้ด้วยเนี่ย!(เอ่อ...แล้วจะเดือดร้อนทำไม)

    “คืนนี้ต้นอ้อขอกลับก่อนนะคะ”

                    ฉันเดินเข้าไปบอกลาทุกคนในงานด้วยรอยยิ้มที่มองดูฝืนๆ

    “งั้นเดี๋ยวไปส่ง จะกลับพอดี”

                    เจโรมเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินนำฉันไปยังรถหรูสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลจากบริเวณงานมากนัก ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจุดประสงค์ของเขาจะไปส่งด้วยเหตุผลอะไร แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันสนใจที่สุดคือนายปีศาจไปอยู่ที่ไหน แล้วทำไมฉันต้องเป็นห่วงเขาถึงขนาดนี้ด้วยบ้าไปแล้วหรอยัยต้นอ้อ

    “จะไปคอนโดไอ้เซนหรอ”

                    เจโรมถามแล้วมองมาทางฉันอย่างยิ้มๆ(รู้มากเกินไปแล้วนะสุดหล่อ)

    “เบื่อคนรู้ทันเป็นบ้า”

    “ชอบมันเข้าแล้วหรือไง”

                    เขาหันมายิ้มให้ฉันอย่างเจ้าเล่ห์ เกลียดรอยยิ้มแบบนี้ชะมัด

    “ก็ไม่รู้สินะ”

    “ระวังหัวใจตัวเองดีๆละสาวน้อย”

                    ฉันเมินหน้าหนีเข้าสุดฤทธิ์ ขนาดรู้จักกันไม่นานยังอ่านความคิดของฉันออกถูกทุกอย่าง แล้วต่อไปถ้าฉันมีความลับอะไรฉันจะปิดเขาได้ไหมเนี่ย โอ๊ย!...อยากจะบ้า

    ~ ~  ณ คอนโด  ~ ~

                    พอรถมาจอดที่หน้าคอนโดของนายปีศาจเซนฉันก็รีบขึ้นลิฟไปยังห้องของเขาทันที ทำไมฉันจะต้องมารีบร้อนเพราะเขาด้วยเนี่ย! (เริ่มไม่ไว้ใจตัวเอง) พอฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องก็เห็นเขานอนอยู่บนโซฟา ฉันเดินเข้าไปจับตัวเขาถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะตัวเขาร้อนมากจนผิดปกติ

    “ทำไมต้องทำให้คนอื่นเป็นห่วงด้วยเนี่ย”

                    ฉันวางสำภาระของฉันทุกอย่างแล้วเดินไปหยิบกะละมังใส่น้ำพร้อมกับผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้เขาที่นอนซมไม่รู้เรื่อง ทำไมฉันจะต้องมาทำอะไรให้นายแบบนี้ด้วยเนี่ย ใจของฉันเต้นแรงขึ้นทุกวันทำไมคนอย่างเขาถึงได้มีอิทธิพลกับฉันถึงขนาดนี้ แล้วอาการแบบนี้มันคืออะไรกันแน่ T.T พอเดตัวเขาเสร็จฉันก็เอาน้ำไปเททิ้งพร้อมกับตากผ้าขนหนูไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดกระโปรงออกแล้วเดินมานั่งข้างๆเขาที่นอนป่วย (แต่น่ารักเป็นบ้า >.<) ฉันนั่งมองเขาโดยไม่ลุกไปไหนจนความสว่างเริ่มเข้ามาจนฉันสติหลุดล่องลอยไปกับความมืด...

    ~ ~  09:00 AM  ~ ~

    “ต้นอ้อ”

    “อ้าว...นายตื่นแล้วหรอ”

                    ฉันรู้สึกตัวขึ้นมาหลังจากที่เขาเอ่ยชื่อของฉัน เมื่อคืนไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเผลอหลับไปตอนไหน ฉันนี่มันแย่จริงๆเลย (โทษตัวเองเพื่อ)

    “ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้”

    “ฉันต้องเป็นฝ่ายถามนายมากกว่านะ ว่าทำไมถึงออกมาจากงานโดยไม่บอกฉัน...”

    “ก็ฉันเห็น...”

    “ยังไม่จบ ทำไมโทรมาหานายไม่ติด ปิดเครื่องทำไม แล้วห้องนอนก็มีมานอนอะไรตรงนี้แถมยังปล่อยให้ตัวเองไข้ขึ้นจนตัวร้อนเป็นไฟอีก นายนี่มันจริงๆเลยนะ”

                    ฉันปล่อยหมดทุกอย่าง(หายใจทางไหน) แล้วฉันจะมานั่งโมโหใส่เขาทำไมล่ะเนี่ย! ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องโมโหที่เขาออกจากงานไม่บอก โทรไปหาก็ไม่รับ นี่ฉันเป็นอะไรของฉันเนี่ย >.<  ไม่เข้าใจตัวเองโว้ย!

    “นายไปล้างหน้าได้แล้ว เดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้กิน”

                    ฉันเดินเข้าครัวเหมือนไม่ได้สนใจอะไร แต่ทำไมหัวใจของฉันจะต้องมีความรู้สึกแปลกๆแบบนี้ด้วยเนี่ย T.T แล้วทำไมฉันถึงต้องยอมมานั่งทำข้าวต้มให้เขาด้วยเนี่ยทั้งที่มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันเลยนะเนี่ย ต่อให้เราเป็นแฟน(หลลอกๆ) กันก็ตาม ทั้งที่ความจริงให้เขาโทรให้เพื่อนของเขามาซื้อมาให้ก็ได้ ไม่จำเป็นเลยที่ฉันต้องมาทำอะไรเพื่อเขาขนาดนี้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงยอมทำทั้งที่ไม่เคยแม้แต่จะคิดทำเลยสักครั้งหนึ่ง

    “ทำอะไร...น่ากินคนทำจัง”

                    เขาพูดพร้อมกับเดินเข้ามาสวมกอดฉันจากทางด้านหลังแล้วเอาหน้ามาคลอเคลียอยู่ที่ต้นคอของฉัน อย่าหวังเลยว่าฉันจะเคลิ้มตามนาย

    “หยุดเลยนะ...ไม่อย่างนั้นฉันจะกลับ”

    “โห...ที่รักใจร้าย”

                    เขาทำหน้ามู่ทู่แล้วเดินหันหลังกลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม อยากจะบ้าตายยิ่งนับวันเขายิ่งลามปามฉันมาขึ้นทุกวัน ทำไมเขาต้องทำให้หัวใจของฉันเต้นแปลกๆอย่างนี้ด้วนเนี่ย>.< รู้สึกนายจะมีอิทธิพลกับหัวใจของฉันมากเกินไปแล้วนะนายปีศาจ

    “เสร็จยัง...หิวแล้วนะ”

    “ใกล้เสร็จแล้ว”

                    จะมาเร่งกันทำไมเนี่ย นี่ก็ทำเร็วที่สุดแล้วนะ ฉันไม่ใช่แม่มดนะที่จะได้เสกของทุกอย่างมาให้นายได้ภายในพริบตา

    ติ๊ง...ต่อง...ติ๊ง...ต่อง...

                    ใครมากดออดกันตั้งแต่เช้าเนี่ย

    “เซน...ไปเปิดปประตูหน่อย”

    “ไป!

    “นี่นาย! ไปเปิดประตู!

    “...”

    “ถ้านายไม่ไปเปิด...ฉันจะไม่มาหานายอีก!

    “โถ่โว๊ย!

                    เขาสบถออกมาอย่างไม่พอใจแต่ก็ยอมเดินไปเปิดประตู พอแขกเดินเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะฉันไม่คิดว่าหนุ่มๆวง The Prince ทั้งสามคนจะมากันตั้งแต่เช้าขนาดนี้ (แถวบ้านเรียกสาย)

    “ทำไมไม่บอกก่อนคะว่าจะมา จะได้ทำอะไรเผื่อ”

                    ฉันทักพวกเขาพร้อมกับเอาถ้วยข้าวต้มไปตั้งลงบนโต๊ะอาหาร

    พอดีมากันกะทันหันน่ะ”

                    เจโรมพูดด้วยใบหน้านิ่งๆเหมือนทุกครั้งที่เอ่ยปากพูดออกมา (จะเก๊กทำไม)

    “งั้นรอแป๊บนะคะ เดี๋ยวทำกับข้าวเพิ่ม”

    “เดี๋ยวพี่ขอเป็นลูกมือนะ J

                    พี่ลีจุนพูดพร้อมกับเดินมาหาฉันในห้องครัวที่ไม่ห่างจากโซฟาที่พวกเขานั่งอยู่สักเท่าไหร่ จะช่วยทำหรือชช่วยป่วนกันแน่ -*- (ทำได้เพียงคิดในใจ) ฉันและพี่ลีจุนช่วยกันทำอาหารอย่างมีความสุขที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ J

                    พอทำอาหารเสร็จเรียบร้อยฉันกับพี่ลีจุนก็ช่วยกันจัดโต๊ะอาหาร นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้โชว์ฝีมือการทำอาหารด้วยตัวเองเต็มๆ  ไม่อยากจะเชื่อเลยเหมือนกันว่าฉันจะมีความสุขได้จากการทำอาหาร

    “ทุกคนค่ะ มากินข้าวกัน”

                    ฉันเดินมาตามหนุ่มๆถึงที่ หลังจากช่วยกันจัดโต๊ะอาหารกับพี่ลีจุนเสร็จ เมลิกและเจโรมเดินไปยังโต๊ะอาหารทันทีที่ฉันพูดจบ ยกเว้นนายปีศาจเซน(มีปัญหาตลอด) ที่ไม่ยอมลุกไปร่วมโต๊ะอาหาร แถมยังทำเป็นไม่สนใจอีกด้วย ฉันเลยนั่งลงข้างๆและหันหลังไปจ้องเขาอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของเขา

    “ไปกินข้าว...จะได้กินยา”

    “ไม่กินL

    “เซนค่ะ...ไปทานข้าวนะ”

    “ผมไม่หิวL

    “ไม่หิวก็ต้องกิน จะได้หายไวๆ”

    “ผม-ไม่-กิน”

                    เขาพูดจบก็สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง แล้วทำไมคนที่ต้องมานั่งง้อเขาจะต้องมาเป็นฉันด้วยล่ะเนี่ย ยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ(แล้วง้อเพื่อ -*-)

    “ถ้าไม่กินฉันกลับ”

    “กินก็ได้ L

                    สุดท้ายก็ต้องงัดไม้ตายถึงจะยอมลุกไปกินข้าวได้(หน้าหงิกสุดๆ) ไม่เข้าใจเลยว่ามางอนกันเรื่องอะไรทั้งที่ฉันก็มานอนเฝ้าเขาทั้งคืนเช้าขึ้นมาก็ทำอาหารให้ทาน ทั้งที่ฉันก็ไม่เคยทำให้ใครมาก่อนแม้แต่พี่ต้นสน(พี่ชาย) ฉันเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารข้างๆเขาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยกับการกระทำแบบเด็กๆของเขา

                    หลังจากที่ฉันทำทุกอย่างเรียบร้อยฉันก็ขอตัวกลับมาที่คอนโดฯก่อน  พอเปิดประตูห้องก็ถึงกับไปต่อไม่ถูกเมื่อพี่ชายและคุณเพื่อนที่รักนั่งจ้องมองมาทางฉันเป็นสายตาเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย โดยเฉพาะสายตาของพี่ต้นสนที่เต็มไปด้วยคำถามคำตำหนิต่างๆ ฉันว่าที่นัดกันมาขนาดนี้ต้องเป็นงานแถลงข่าวแน่นอน ไม่งั้นทั้งพี่และเพื่อนของฉันถึงได้มารวมตัวกันเฉพาะกิจอย่างนี้ งานนี้มีตายแน่ต้นอ้อ T.T

    “มากันนานแล้วหรอ”

                    ฉันเดินยิ้มๆเข้าไปนั่งยังโซฟาฝั่งตรงข้ามกับพี่ชายของฉัน ทำไมวันนี้มันชั่งซวยอะไรขนาดนี้วะเนี่ย

    “อธิบายมา”

                    เปิดประเด็นการสนทนาด้วยลีน่า สาวน้อยน่ารักแต่ว่าคำแต่ละคำของเธอเล่นเอาคนที่ถูกเค้นหาคำตอบจุกจนกระอักเลือดไปตามๆกัน(มีแค่ฉันคนเดียวนาทีนี้

    “เรื่องอะไร”

                    ฉันทำเป็นนั่งไม่สะทกสะท้านกับคำถามของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย แต่ไอ้ข้างในนี้ซิอยากจะร้องออกมาเต็มที  เริ่มไม่ไหวกับสายตาที่แสนกดดันของทั้งพี่ต้นสนและเพื่อนรักทั้งสามต้นอ้ออยากจะร้อง T.T

    “อย่ามาไก๋...แล้วนี้อะไร”

                    พี่ต้นสนพูดพร้อมกับโยนหนังสือ Gossip ที่มีข่าวของฉันกับนายปีศาจขึ้นเด่นชัดอยู่หน้าปกที่มาพร้อมกับแววตาดุดันจนหน้ากลัวซึ่งผิดกับบุคลิกที่ดูตี๋ๆขาวๆใส่กางเกงยีนส์เสื้อยืดทับด้วยเสื้อแจ็กเจตหนังสีดำที่ทำให้เขาดูเท่แต่ไม่ใช่กับฉันตอนนี้

    “ตกลงมันยังไง?”

                    อิลสาวหวานซ้อนเปรี้ยวที่หักอกนักร้องหนุ่มประจะคณะมาแล้วถามขึ้นอย่างเอาเรื่อง ถ้าฉันไม่ตอบวันนี้คงตายคามือแน่ๆ ใครก็ได้ช่วยฉันที T.T

    “ก็อย่างในข่าวนั่นแหละ”

                    แค่เกมเข้าใจไหม โอ๊ย! ไม่อยากปิดบังนะแต่แค่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี

    “กำลังเล่นอะไร”

                    เสียงมานิ่งๆแต่จี้ใจกันสุดๆแบบนี้ก็มีอยู่แค่คนเดียวคืออัน สาวมั่นที่ทำให้หนุ่มๆต้องเหลียวหลังมุกครั้งที่เธอเดินผ่าน และฉันไม่เคยปิดบังยัยนี้ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว T.T

    “ไม่มีอะไรจริงๆ”

    “โกหก!

    เฮ้อ...ก็ได้

                    นี่ฉันจะต้องเล่าทุกอย่างตามความจริงแล้วใช่ไหม

                    ฉันไม่รู้จะหาวิธีไหนมาเพื่อพูดอธิบายเพื่อบอกปัดเรื่องราวทุกอย่าง แต่สุดท้ายฉันก็ต้องเล่าเหตุการณ์ทุกอย่าง อย่างเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป ถึงแม้ว่าฉันจะทำใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้บ้างแต่ฉันก็ไม่คิดว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้แต่ก็ดีเหมือนกันเรื่องมันจะได้จบๆลงไปสักทีจะได้ไม่มีอะไรคลั่งค้างอยู่ในใจอีกต่อไป มีสิ่งหนึ่งที่ฉันยังคงไม่กล้าพอที่จะบอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองเพรามันเป็นเพียงแค่เกมจึงไม่สมควรที่จะมีความรู้สึกแบบนี้กับศัตรู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×