คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อดีตที่หวนคืน
เปิดเทอมวันแรกชั่งเป็นอะไรที่แสนน่าเบื่อเหลือเกินแต่นอกเหนือจากนั้นคือความรู้สึกที่ได้เจอผู้คนมากมาย และนักเรียนหน้าใหม่ๆที่เข้ามา
“ออม… ไอ ออมสิน”เสียงเรียกจากข้างหลังทำให้ผมต้องชะงัก เมื่อได้เมื่อเห็นหน้าต้นทางของเสียงที่ผมเผลอใจรักแต่ก็หมดหวังเพราะเพื่อนคนนี้ได้ย้ายโรงเรียนไปก่อนที่จะได้บอกความรู้สึกภายในใจ
“เอ้า…เจมส์ ทำไมได้ย้ายมาหล่ะ” ด้วยความตกใจยังคงช็อคอยู่ยิ่งกว่าถูกรางวัลเลขท้าย3ตัวซ่ะอีก
“แม่มีปัญหานิดหน่อยอ่ะ เลยได้ย้าย”สีหน้าของเจมส์ไม่ค่อยดีเลยเปลี่ยนเรื่องคุยต่างๆนานา เพื่อเลี่ยงสิ่งที่เป็นทุกข์ ซึ่งเมื่อเจอหน้ากันก็มีบทสนทนาตามประสาเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน เป็นบทสนทนาที่เก็บไว้ข้างในเกือบ2ปีที่ไม่ได้ติดต่อหรือแม้กระทั่งคุยยังไม่ได้คุยกันเลย พอเจอกันครั้งนี้ก็คุยจนหายคิดถึง ซึ่งครั้งนี้เราก็เรียนสายเดียวกันไม่รู้ว่าโชคดีหรือพรหมลิขิตกันแน่แต่ก็ได้คิดอยู่คนเดียวก็ความรู้สึกนี้มันไม่เคยบอกใครเลยนี่
เรานั่งข้างกันเหมือนแต่ก่อน ก็เขินนิดหน่อยเพราะเป็นคนชวน ทั้งๆที่เพื่อนก็ชวนไปนั่งด้วยแต่ก็เลือกคนสำคัญก่อน ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดนะ แต่ปากมันไปก่อนที่จะคิด ใจมันถามก่อนจะไตร่ตรอง เราก็ยังคุยๆกันเรื่อยๆ เวลาถามเรื่องที่มันไม่เข้าใจพร้อมจะตอบทุกครั้งทุกคำถามถึงจะไม่รู้ก็ตามเถอะแต่ก็ไม่อยากให้ถามอยู่ฝ่ายเดียว ถึงจะผิดบ้าง ถูกบ้าง ดูโง่บ้าง อวดฉลาดบ้างแต่มันก็เป็นความสุขเล็กๆที่ได้คุยกัน
แต่คาบแรกก็เป็นคาบที่น่ากลัวสำหรับผมซ่ะแล้ว เมื่อครูที่ปรึกษาให้ทุกคนแนะนำตัวหน้าชั้นเรียน ซึ่งผม เป็นคนที่มีความหลังกับการไปอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย
“เอ่อ….คือ…ผะ ผะ ผม”ใบหน้าที่ขาวเริ่มซีดเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ไหล่เล็กๆสั่นเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ตากลมโตผลุบลงเพราะไม่กล้าสบตากับคนอื่น ปากบางสีแดงค่อยๆอ้าปากแนะนำตัว
“เออ…เอ่อ…สะ สะ สวัสดีครับ ผมชื่อออมสิน หรือเรียกว่าออมก็ได้ ยะ ยะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เสียงปรบมือก็ดังขึ้นแต่ใจยังเต้นไม่หยุด เพราะอดีตที่เลวร้ายเลยทำให้อุปสรรคต่ออนาคต ซึ่งชั่วโมงที่เลวร้ายก็ได้ผ่านเลยไป
เวลาพักเป็นอีกเวลาหนึ่งที่ได้พักผ่อนสมอง พวกเพื่อนๆผู้ชายที่ไปออกกำลังกายกันแล้วคาบบ่ายก็เหม็นเหงื่อ ส่วนผมชอบอยู่ห้องสมุดซึ่งเป็นอะไรที่สบายไม่ต้องออกไปร้อนข้างนอกไม่ใช่เพราะเป็นหนอนหนังสือหรอกนะ แต่ผมว่าห้องสมุดแอร์เย็นที่สุดในโรงเรียนแล้ว
“เออ ออมมึงเคยมีแฟนป่าวว่ะ”
“มะ ไม่อ่ะ ”
“เอาดีดี เคยมีป่าว”
“มะ ไม่มี มีแต่คนที่กูแอบชอบอ่ะ”
“ใครว่ะ? ไม่เห็นแนะนำให้กูรู้จักเลย”
“มึงก็รู้จักเค้าดี เค้าก็รู้จักมึงดีเหมือนกัน” ผมตัดบทจบด้วยการเดินหนีไปโดยการทิ้งบทจบไว้
ถึงจะไม่ได้เจอนานแต่ความรู้สึกในตอนนี้กับเมื่ออดีตความรู้สึกนั้นไม่แตกต่างกันเลย ไม่รู้ว่าคำตอบจะเป็นยังไงก็ตามแต่ความรู้สึกทั้งหมดที่เก็บไว้มันพร้อมที่จะบอกทุกเมื่อ ทุกครั้ง ความรู้สึกที่นานแสนนานมันจะสมกับการรอคอยหรือเปล่าก็ตาม แต่ทุดท้ายปากมันก็ไม่กล้า ความรู้สึกกลัว กลัวต่อคำตอบในอนาคตถึงจะไม่ได้บอกก็ตาม
การเป็นเพื่อนรักกลับกลายเป็นรักหมดหัวใจ วันเวลาที่ได้ใช้ร่วมกันมันช่างมีความสุขเหลือเกินถึงจะมีปากเสียงกันบ้าง แกล้งกันบ้าง ในวันที่ลำบากก็คอยช่วยเหลือกัน แต่ความทรงจำนั้นมันกลับเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ได้เลยทีเดียว
แต่วันที่ไม่อยากไม่มาถึงก็ได้มาเยือน มันเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตมันเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดหรือการกระทำแต่สิ่งที่ได้ยินนั้นมันกัดกล่อนหัวใจที่เบาะบางจนหมดสิ้น เพียงแค่คำพุดคำเดียวเท่านั้นเอง
เมฆดำมืดที่ปลกคลุม ทำให้ทั่วทั้ง โรงเรียนมืดมน เหล่านักเรียนที่ติดในโรงเรียนเปลี่ยมไปด้วยความกังวล เสียงฟ้าผ่าดังเหมือนความโกรธที่ประทุ อย่างไม่มีสาเหตุ ผู้คนมากหน้าหลายตาที่ไม่มีที่พักพิงหลบสายฝนที่ซัดสาดอย่างไม่รู้ตัว ต่างเปียกโชกด้วยน้ำฝน สายลมที่กระโชกเอาความหนาวเหน็บกระหน่ำพัดผ่านเรือนร่าง
เวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้คนเริ่มบางตาลง ในห้องเรียนมีเพียงแสงไฟสลัวๆสาดส่องพอให้เห็นเด็กผู้ชายสองคน แต่ในความคิดกลับไร้ซึ่งความหวาดกลัว มันเปี่ยมไปด้วยความเขินอายเพราะความคิดที่คิดเกินเลยไปถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆจนกลัวว่าอีกคนจะได้ยินเสียงหัวใจที่ดังแน่นคับไปในอก ใบหน้าหวานขึ้นสีน้อยๆ สายตาไม่อยู่สุขมองไปทั่วห้อง จนไปประสานสายตากับอีกดวงตาอีกคู่หนึ่งที่มองมาทำให้ในหัวขาวโพลนจนทำอะไรไม่ถูก
ริมฝีปากบางเผลอบอกความในใจที่เก็บเอาไว้มานาน ออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
“กูชอบมึง”เมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ใบหน้าที่เคยขึ้นสีก็เริ่มแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มือไม้ไม่อยู่สุขจนรู้สึกรำคาญ ไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ ทำได้เพียงชำเลืองเล็กน้อยเท่านั้น
“ขอโทษนะ”
เสียงแผ่วเบาจากอีกคน ทำให้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังหงอยลงอย่างทันตา นัยน์ตากลมโตมีหยาดน้ำตาคลอเล็กน้อย
“กูเป็นได้แค่เพื่อนกับมึงจริงๆ กูขอโทษ….”
“…..ทำไมกูดีไม่พอหรอ หรือเพราะกูเป็นผู้ชายมึงถึงไม่รักกู”
“กูขอโทษคือ…คือกูไม่ได้ชอบผู้ชาย”
“……”
“แต่เราเป็นเพื่อนกันได้นะ ”
รอบยิ้มแห้งๆ ของคนที่ได้ทำร้ายความคาดหวัง ทำให้ริมฝีปากบางเม้มแน่น ก่อนจะหันหลังจากมา เดินออกจากอาคารเรียนที่ฝนตกหนัก ซ่อนหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาให้หายไปกับสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาสู่ร่างกาย
ระยะเวลาหรือจะช่วยบรรเทาความเจ็บนี้ได้ ความรักทำไมถึงได้ทำร้ายเราให้เราเจ็บปวดได้ถึงขนาดนี้ เพียงแค่เราให้ใจไปแต่ไม่ได้ใจตอบกลับเท่านั้น คำพูด ความคิด ที่ว่าง่ายแต่ความรู้สึกมันไม่เลิกที่จะคิดไม่คิดว่ามันง่ายเลย……
ความคิดเห็น