ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 5
'นางเป็นว่าที่ชายาของข้าเองพระพี่ราม'
คำพูดนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉันตลอดเวลาจนถึงตอนนี้ก็ยังคงได้ยินมันอยู่
ทำไมพระลักษณ์ พระองค์ถึงทรงพูดแบบนั้นกันน่ะ ไม่เข้าใจเลย พูดแบบนั้นออกไปได้ยังไงกันนะ ว่าที่ชายาเนี่ยนะ
ชายา.....
"ที่เจ้าพูดหมายความว่าอย่างไรกัน ลักษณ์?"
ตัวฉันที่ยังคงนิ่งค้างกับคำพูดของบุรุษกายสีทองอยู่นั้น รู้สึกตัวอีกที พระลักษณ์ก็มาอยู่ข้างๆฉันตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ พระองค์กุมมือของฉันเอาไว้จนฉันยังแอบตกใจจนเกือบจะดึงมือออก แต่ฉันกลับไม่ทำแบบนั้น
"สุกัญญาเป็นว่าที่ชายาของข้า เพราะข้าเคยให้คำสัญญากับนางเอาไว้เจ้าคะพระพี่ราม"
"ห้ะ?"
ฉันรีบหันหน้ากลับไปมองพระลักษณ์แถบจะทันทีที่พระองค์พูดจบ อะไรนะ?! เคยสัญญากับฉันเอาไว้หรอ ตอนไหนอะ?
"เรื่องนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน?"
นั้นสิ ตั้งแต่เมื่อไร
"มันเป็นเรื่องตั้งแต่วัยเยาว์ข้าเคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะรับนางเป็นชายา แต่ว่าจักฟังความจากข้าฝ่ายเดียวก็คงมิถูก........"
พระลักษณ์บีบมือที่เราจับกันอยู่แน่นขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว พระองค์กำลังกังวลอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ ฉันคิดแบบนั้น สีหน้าของพระองค์ก็แสดงออกอย่างชัดเจน
รู้สึกไม่ชอบเลย ที่พระองค์ทำหน้าแบบนี้....
พระลักษณ์ทรงหันมาสบตากับฉันจนฉันแอบตกใจที่พระองค์หันมา เหมือนพระองค์รู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่
รู้ว่าฉันกำลังเป็นห่วงพระองค์......
"เรื่องในครานั้นเจ้าอาจจักจำเรื่องของเรามิได้สุกัญญา แต่ข้ายังจดจำมันได้ดี และข้าก็อยากจักรักษาสัญญานั้น"
มือหนาของพระลักษณ์ทรงยื่นมาสัมผัสกับมือบางของฉัน ที่ฉันเองก็มารู้ตัวอีกทีว่า ตัวเองนั้นได้เผลอจับกับท่อนเเขนของพระองค์ไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แต่แทนที่ฉันจะรีบชัดมือกลับ เพราะรู้ว่ากำลังทำเรื่องที่ไม่สมควร อย่างถึงเนื้อต้องตัวพระองค์ แต่ร่างกายกับไม่ยอมทำตามที่คิด
และมือของพระองค์เองก็กอบกุมมือของเราเข้าด้วยกันอย่างแน่นจนฉันไม่สามารถสลัดมือของพระองค์ออกได้
"ข้าอยากขอร้องพระพี่ราม ข้ารู้ดีว่ามันอาจจักเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่ข้าอยากจักให้สุกัญญาอยู่ที่นี่ในฐานะว่าที่ชายาของข้า"
พระลักษณ์ก้มลงคุกเข่าขอร้องพระราม ฉันที่อยู่ข้างๆพระองค์ก็เบิกตากว่างอย่างตกใจ ไม่คิดเลยว่าพระองค์จะกล้าขออะไรแบบนี้
ฉันอยากจะร้องเถียงกลับไปว่าไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้กับคนอย่างฉันก็ได้ เพราะขืนพระองค์ทำแบบนี้มันจะทำให้ฉันรู้สึกผิดกับพระองค์มาก
ที่พระองค์ทรงจดจำฉันได้ แต่ฉันกลับจำพระองค์ไม่ได้.....
'ข้าอยากให้เจ้ารับสิ่งนี้ไว้ เป็นเครื่องยืนยันว่าเจ้าจะกลับมาหาข้า และอยู่เคียงข้างข้า ตลอดไป.........'
"!!"
ภาพในความฝันผุดขึ้นมาจนฉันแอบสะดุ้งตกใจ ใบหน้าในวัยเด็กของพระลักษณ์ แหวนดอกหญ้า และคำพูดลงท้ายที่หายไป มันคืออะไร......
"ลักษณ์เจ้าก็รู้มิใช่ฤาว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในคราศึกสงคราม ข้าก็เห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของเจ้า แต่แบบนี้ข้าคิดว่ามันมิถูกต้อง"
"เรื่องนั้นข้าทราบดีพระพี่แต่ถึงกระนั้นข้าก็มิอาจคืนคำที่เคยลั้นวาจาเอาไว้แล้วได้ดอก"
พระลักษณ์ยังคงพูดด้วยคำพูดที่จริงจังและหนักแน่น พระรามเองก็ไม่ต่างกันจ้องมองอย่างพิจารณาอย่างหนักจนฉันยังรู้สึกกดดันไปหมดเลย และไม่กล้าสบตากับพระองค์ ที่ทำได้ตอนนี้ก็แค่นั่งก้มหน้าและรับฟัง พร้อมกับกุมมือของพระลักษณ์เอาไว้
พระรามจ้องมากการกระทำของทั้งคู่อย่างพิจาราณา พระองค์ทรงรู้ดีว่าอนุชาของตนนั้นรอคอยสตรีนางนี้มากนานแค่ไหนกันแล้ว และการที่พระองค์จะไปขัดขวางก็ใช่เรื่อง แต่ในคราศึกสงครามเช่นนี้อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน ไม่มั่นคง และไม่ปลอดภัย
พระรามถอนหายใจออกมาก่อนที่จะทรงลุกจากพระที่นั่ง ก่อนที่จะตรงมาอยู่ตรงหน้าพระลักษณ์
พระองค์มีข้อแก้ต่าง หรือเหตุผลอีกมากมายที่จะไม่ให้สุกัญญษอยู่ที่นี่ก็ได้แต่พระองค์ก็เลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น
".......ก็ตามใจเจ้าเถิด ดูแลนางให้ดีๆ"
นั้นละคือเรื่องที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังคงเดินตามหลังพระลักษณ์ออกมาอย่างเงียบๆ ฉันคิดอะไรกับทำอะไรไม่ถูกแล้ว นี่มันยังไงกันแน่เนี่ย!!
ว่าที่ชายา.....อยู่ๆเราก็ได้ตำแหน่งนี้มาง่ายๆเลยงั้นหรอนี่มันยิ่งว่า เรื่องเล่าเจ้าหญิงดิสนีย์แล้วมั้ง!!
'นี่ฉันยังฝันอยู่จริงๆใช่ไหมใครก็ได้ช่วยตอบทีว่านี่จะเรียกว่าฝันดีหรือฝันร้ายกันแน่!!'
เชื่อเถอะว่าตอนนี้หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ ที่อยู่ๆตัวเองก็ดันหลุดมาในโลกรามเกียรติ์ที่ตัวเองชื่นชอบ แถมยังได้เป็นว่าที่ชายาของพระลักษณ์อีก ในส่วนข้อนี้อาจจะเป็นข้อดีก็ได้ แต่ว่าฉันยังไม่ลืมหรอกนะว่าในอนาคตต้องเจอกับอะไรบ้าง
ยักษ์ สงคราม ทศกัณฐ์ ฉากการตาย
ต่างๆน่าๆที่จะเกิดขึ้นฉันไม่อยากจะไปเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องของมันเลยมันเป็นแบบนั้นก็ดีอยู่แล้ว แต่เชื้อไหมลึกๆแล้วฉันไม่อยากให้ทศกัณฐ์ตายเลย ฉันรู้สึกสงสารเขาด้วยซ้ำ ทั้งเรื่องชาติภพก่อนที่เป็นแค่ 'นนทก' ยักษ์ที่คอยล้างท้าวให้เทวดา
พอมาในชาตินี้ในวาระสุดท้ายทศกัณฐ์ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่านางสีดาคือลูก
มันช่างเป็นฉากจบที่น่าเศร้า.....
และการที่ฉันมาอยู่ที่นี่เพื่ออะไรกันละ หรือเพียงเพื่อมาทำตามคำสัญญาที่ตัวฉันเคยให้ไว้กับพระลักษณ์งั้นหรอ
มันแค่นั้นจริงๆหรอ...
ตุบ!
"โอ้ย!?"
"สุกัญญา?!"
เพราะมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่ได้ดูทางจนฉันเดินไปชนแผ่นหลังของพระลักษณ์เข้าเต็มๆ ส่วนพระลักษณ์กลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลยที่ฉันเดินชนหลังพระองค์ พระองค์ยังหันกลับมาดึงแขนของฉันไม่ให้ล้มทันอีกด้วย ฉันเองที่กลัวจะล้มก็รีบยื่นมือไปจับไหล่ของพระองค์เอาไว้แน่น แต่ก็แค่ไม่นานฉันก็รีบผลักตัวเองออกมา
"ข ขออภัยเพคะพระลักษณ์!"
ฉันตกใจมากที่เผลอไปถึงเนื้อถึงตัวกับพระองค์มากไปแบบนั้น ถึงยังไงพระลักษณ์ก็ยังคงเป็นองค์ชายแห่งอโยธยาอยู่ดี ส่วนฉันมันก็แค่คนธรรมดา
ฉันตกใจทำอะไรไม่ถูกสิ่งที่คิดได้คือต้องขอโทษ ฉันกำลังพนมมือกราบ แต่พระลักษณ์กลับเข้ามาจับไหลทั้งสองข้างของฉันเอาไว้เป็นเชิงห้าม
"มิต้องมากพีธีกับข้าขนาดนั้นก็ได้สุกัญญา ข้ามิถือ"
"แต่ว่าหม่อมฉันคิดว่ามันไม่สมควร..."
"จะมิสมควรกระไรกัน อย่าลืมสิว่าเจ้าคือว่าที่ชายาของข้าแล้วนะ"
"ระ เรื่องนั้นมัน เอ่อ...."
ทั้งคำพูด และที่สีหน้าที่ดูจริงจัง งของพระลักษณ์ในตอนนั้น มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ พระองค์คิดจริงจังขนาดนั้นเลยหรอหรือว่าแค่รักษาคำลั่นวาจาแค่นั้นกัน
"เอ็ะ?!"
อยู่ๆพระลักษณ์ก็ควงเอวบางของฉันให้เข้ามาไกล้ๆพระองค์จนตอนนี้หน้าของฉันซุกอยู่ที่อกของพระองค์เข้าเต็มๆ ฉันกำลังจะร้องถามว่าพระองค์กำลังทำอะไร แต่พระองค์กับชิงพูดก่อนโดยการกระซิบข้างๆหู
"จักเขินอายไปไยกันเล่าสุกัญญา ครั้งเราเป็นเด็ก มากกว่าจับมือเราก็ทำมากันแล้วหนา"
ห้ะ?
เฮือก!!อะไรน่าาาาาาาาาาาาาาา!!! O////O
"หึๆ ดูหน้าเจ้าสิแดงเป็นลูกตำลึงแล้วหนา ฮ่าๆ!"
พระลักษณ์มองหน้าของหญิงสาวข้างกายอย่างขบขันและหัวเราะออกมา นานมากแล้วที่พระองค์ไม่ได้เห็นใบหน้าที่น่ารัก และน่าเอ็นดูแบบนี้ การที่พระองค์ทำให้ใบหน้าที่ดูเงียบๆ บึ้งตื้งแลดูอึดอัดมาตลอดเวลาจนถึงเมื่อครู่ แสดงอาการเขินอายได้ขึ้นขนาดนี้มันก็ถือว่าเป็นรางวัลชีวิตของพระองค์ที่รักษาสัญญา และรอยคอยคนๆนี้มาตลอดก็แล้วกัน
"ม มะ มะ หมายความว่ายังไงกันเพคะ!!"
หญิงสาวผลักตัวเองออกมาจากพระองค์ด้วยความเขินอาย เพราะว่าตนเองนั้นจำไม่เห็นได้เลยว่าตอนเด็กๆเคยทำอะไรแบบนั้นด้วยหรอ
"อ อะไรที่มากกว่าจับมือ......."
"แล้วเจ้าคิดว่าเด็กอายุ 5 ขวบทำกระไรกันละ"
สำเร็จนางเขินใหญ่แล้ว พระลักษณ์ได้แต่คิดในใจและยิ้มให้กับความน่ารักและไร้เดียงสาของหญิงสาว ใบหน้าที่แดงแจ๋เพระความเขินอายนั้น ตัวสั่นเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ จนพระองค์แทบอดใจไม่ไหว
"แล้ว...เจ้าไม่อยากรู้หรือ ว่าตอนนั้นเราทำกระไรกันบ้าง"
"มะ-ไม่เห็น จ-จะอยากรู้เลย เพคะ...."
"จริงหรือ...แต่หน้าของเจ้ามันฟ้องนะว่าเจ้าอยากรู้หนา"
พระลักษณ์คิดที่อยากจะแกล้งหญิงสาวอีกสักหน่อย จึงยื่นหน้าเข้าไปไกล้ๆ ทางสุกัญญาเมื่อเห็นแบบนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก จะผลักก็ไม่กล้า นี้ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชายมาเล่นกับเธอแบบนี้ละก็เธอคงจะเอามือยันหน้าไปทีนึงแล้ว แตนี้มันไม่ใช่!
"พ-พระลักษณ์อย่านะเพคะมันไม่--"
จุ๊บ
"เฮือก!!!"
ริมฝีปากของพระลักษณ์ประทับลงบนเส้นผมสีโอรถของเธออย่างแผ่ว อ่อนโยน และเต็มไปด้วยความคนึงหาอย่างยากที่จะห้ามใจตัวเองได้
ทางฝั่งหญิงสาวก็นิ่งค้างเป็นหินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ยังคงเถียงกับตัวเองในใจว่า มันไม่ถูกต้อง มันไม่สมควรเลย สักนิดเดียว! เราพึ่งเจอกันสองวันเองไม่ใช่หรอ!!
แต่แล้วความคิดที่เถียงกับตัวเองก็หยุดลงเหมือนภาพของความฝันนั้นกลับมาอีกครั้ง จนทำให้สุกัญญาลืมอาการเขินอายของตัวเองไปหมดสิ้ง มือบางจับเข้าที่ชายเสื้อของพระลักษณ์เบาๆเป็นการเรียก ทำให้พระองค์ละสายตาจากเกศาสีโอรสหันมาสบตากับนางตรงๆ
".......ที่พระองค์เคยตรัสกับหม่อมฉันเอาไว้ คำสัญญา...กับ..."
พระลักษณ์เงียบและตั้งใจฟังสิ่งที่หญิงสาวจะพูด พร้อมกับความหวังในใจของพระองค์
"แหวนดอกหญ้า....."
แววตาของพระลักษณ์เบิกกว่างอย่างไม่ทันรู้ตัว พระองค์ยังมีความหวังอยู่ว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นยังจดจำเรื่องของพระองค์ได้
"เจ้าจำได้แล้วหรือสุกัญญา?"
"อะ...เอ่อ อาจจะ....แต่ไม่ทั้งหมดเพคะ"
เหมือนกับว่ามีใครบางคนมาเป่าเทียนแห่งความหวังของพระองค์ดับไปต่อหน้าต่อตา จากสีหน้าที่ดูมีความหวังดูเศร้าลงมาในทันที แต่มันก็แค่เพียงชั่วพริบตา พระลักษณ์ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะยิ้มรับ
"ไม่เป็นไร เท่านี้ก็ดีมากแล้ว ดีเสียกว่าไม่มีอันใดเลย แต่ข้าไม่คิดเลยนะว่าเจ้าจะจำเรื่องแหวนนั้นได้"
" หม่อมฉันขอถามอะไรพระองค์สักอย่างได้ไหมเพคะ"
"อันใดหรือ?"
"ที่พระองทรงตรัสกับหม่อมฉันในครานั้น ที่พระองค์ทรงให้แหวดดอกหญ้า พระองค์ทรงตรัสว่ากระไรต่อหรือเพคะ
เมื่อฟังมาจนถึงตรงนี้ ใบหน้าของพระลักษมณ์ก็ประดับไปด้วยรอยยิ้ม และมันยิ่งทำให้สุกัญญาสงสัยเข้าไปอีก
"งั้นที่ข้าจักบอกเจ้าว่า ที่ขอให้เจ้ามาเป็นว่าที่ชายาของข้าต่อหน้าพระพี่ราม คือสิ่งที่ข้าเคยลั่นวาจาเอาไว้กับเจ้า เจ้าจัดเชื่อหรือไม่ สุกัญญา"
ข้าอยากให้เจ้ารับสิ่งนี้ไว้ เป็นเครื่องยืนยันว่าเจ้าจะกลับมาหาข้า และอยู่เคียงข้างข้า ตลอดไป มาเป็นชายาของข้าได้หรือไม่สุกัญญา
________________________________________________________
หวังว่าจะฟินกันนะ^^
ช่วงนี้ไรท์ยังฝึกงานอยู่เลยยุ่งๆ และอีกสาเหตุนึงก็คือ ไรท์ติดนิยายเรื่องนึงอยู่ และวันที่18 ไรท์ก็จะไปงานหนังสือไปซื้อนิยายเรื่องนั้นด้วย เป็นเรื่องเกียวกับพญานาค นิยายY
มีใครดูทันบ้างมะ ไม่ใช่คนแสดงนะ แต่เป็นตัวละครพระลักษมณ์ข้างหลังอะตัวเหลืองๆ ไรท์ดูทัน ตอนเด็กๆไรท์ชอบดูมากกกกกกกก ยังซื้อแผ่นหนังเก็บเอาไว้อยู่เลย55555 แต่พระลักษมณ์แบบนี้มันก็หล่อละลายใจดีนะ ดูหน้าท้องนั้นสิ คิคิ ^////^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น