ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [รามเกียรติ์] สัญญารัก [พระลักษณ์ x oc]

    ลำดับตอนที่ #27 : บทที่ 23

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.61K
      107
      17 มี.ค. 65






    "คุณ....ฉัตรสุดา-"


    "นี่เจ้า นางนาคี! มัวแต่ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมา!!"

          
         ไมยราพตะโกนขึ้นมาพร้อมกับพยายามจะให้หลุดจากก้อนมวลน้ำที่พันรอบตัวเขาอยู่ ตอนนี้ฉันทั้งต้องคอยควบคุมพลังนี้ให้จับไมยราพเอาไว้ ทั้งระวังหลัง ดูผู้หญิงคนนั้น นางนาคีที่พูดถึงคือเธอคนนี้เองสินะ ก็แปลว่าเป็นพวกเดียวกับไมยราพ

    ฉันจ้องมองเธออย่างหวาดระแวง เธอไม่ควรจะมีตัวตนอยู่ในเนื้อเรื่องรามเกียรต์สิ และอีกอย่างเลยก็คือ เธอเป็นคนส่งฉันมาที่นี่ ถึงรูปลักษณ์ภายนอกจะดูแตกต่างไปจากตอนแรกที่พบกันอยู่ก็เถอะ แต่ฉันมั้นใจว่าไม่ได้จำคนผิดแน่ๆ

    "ข้าก็ต้องคอยไปรายงานให้นายเหนือหัวของข้าทราบสิ ว่ายอดดวงใจของเขาเป็นเช่นไรบ้าง รวมถึง เรื่องที่ท่านทำกับนางด้วย"

    พูดจบสายตาของเธอก็มองมาที่ฉันพร้อมกับยิ้มกรุ่มกริม

    "เหาะ! ขี้ฟ้องซะจริงนะ แล้วไงในเมื่อนางมนุษย์นี่เป็นนักโทษของข้า ข้าจักทำอะไรมันก็ได้"
    "ใช่ๆ ที่ท่านพูดก็ถูก แต่ก็มิควรจักทำให้ของมีตำนิสิ ข้าอุสาเดิมพันกับนางไว้สูงนะ"
    "นั้นมันเรืองของเจ้ามิเกี่ยวกับข้า! เลิกพูดมากแล้วมาช่วยข้าซะ!!"

    ฉันที่ยืนฟังทั้งสองนพูดกันไปมาอย่างไม่เข้าใจ พวกเขาพูดเรื่องอะไรกัน แต่ฉันก็ไม่มีเวลามาคิด ฉันหันหัวไม้เท้าไปที่ผู้หญิงตรงหน้าอย่างเตรียมพร้อม 

    เธอมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่ยังคงยิ้มมุมปากอยู่เช่นเดิม 


    "ไม่ละ"

    "เอ๋?"

    "ข้ามีเรื่องสำคัญมากกว่านั้นที่ต้องทำ ท่านน่ะแก้ปัญหาเอาเองเถอะ!"

    "ที่เจ้า เลื่อมประภัส!!"



    เลื่อมประภัส?


    ไมยราพตะโกนเรียกชื่อหญิงตรงหน้าอย่างสุดเสียงที่เต็มไปด้วยแรงโทสะ ในขนะที่ฉันยังคงยืนมึนงงอยู่ อย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้มีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจเต็มไปหมด ผู้หญิงตรงหน้าฉัน ไม่ได้ชื่อฉัตรสุดาหรอ? หรือว่าฉันจะจำผิดจริงๆ?

    แต่ว่า ฉันมั่นใจว่าไม่ได้จำผิดแน่ นี่มันยังไงกันแน่เนี่ย เริ่มปวดหัวเเล้วนะ!

    "แทนที่จะมัวมาตะโกนโหวกแหวกโวยวาย ข้าว่าท่านน่าจะรีบดีกว่านะ เพราะปัญหาใหญ่ของท่านมานู่แล้ว"



         เมื่อสิ้นคำจู่ๆร่างของชายหนุ่มที่มีเกศาสีขาวเผือกกับหางวานรที่แสนคุ้นตาก็ได้มาปรากฎตัวต่อหน้า พร้อมกับของที่อยู่ในกำมือที่อุสาไปหามาจนเจอ

    "ไมยราพข้าได้มาแล้ว แมลงภูตที่มีกล่องดวงใจของเจ้า เตรียมตัวตายเอาไว้ซะ!"

         หนุมานที่หลังจากรีบเหาะไปที่ภูเขาตรีภูตเพื่อตามหาแมลงภูตที่มีกล่องดวงใจของไมยราพ ในที่สุดเขาก็กลับมาพร้อมกับชูสิ่งที่ไปหามาที่อยู่ในกำมือ

    "นี่แก!! ไอ้ลิงเผือก!!"

    ไมยราพตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเกี่ยว และลุกลี้ลุกลน และด้วยความกลัวตายนั้นทำให้เขาปล่อยพลังออกมามากกว่าเดิมจนทำให้ก้อนมวลน้ำที่รัดรอบตัวเขาอยู่เริ่มจะเอาไม่อยู่แล้ว


    และในชั่วพริบตาเขาก็สามารถทำล้ายก้อนมวลน้ำหล่าวนั้นได้ในที่สุด พร้อมกับพุ่งตัวไปด้วยความเร็วจนมองแทบไม่ทัน เข้าใส่หนุมานเพื่อที่จะแยกแมลงภูตกลับมา หนุมานมิรอช้าเขากำมือแน่นจนบี้แมลงภูตในมือตายคามือ

    ไมราพร่างกายกระตุกพร้อมกับร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงไม่ล้มลงและหมายที่จะฆ่าหนุมานให้ได้ หนุมานที่เห็นว่าไมยราพนั้นอ่อนกำลังลงแล้ว เขารีบพุ่งตัวเข้าใส กระโดดขึ้นสูงก่อนที่จะหยิบตวัดตรีเพชรออกมาแล้วลงไปที่กลางอกของไมยราพอย่างจัง

    เสียงร้องทรมานของเขาดังสนันจะฉันเกิดอาการขวัญเสียขึ้นมา จนต้องยกมือขึ้นมาปิดหูอย่างไม่อาจทนฟังได้ 

    เสียงร้องของคนที่กำลังจะตาย มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน



    "ชินเอาไว้เสียเถิด เพราะอีกมินานเจ้าก็ต้องได้ยินมันอีกบ่อยๆ"


    เสียงพูดของผู้หญิงที่ดังขึ้นมาข้างๆหู เมื่อฉันหันกลับไปก็พบกับผู้หญิงคนนั้นที่มายืนอยู่ข้างหลังฉันอยู่ก่อนแล้ว

    "คุณ...เป็นใครกันแน่...ฉัตรสุดา....หรือ..เลื่อมประภัส?"
    "ตอนนี้คงมิเหมาะ เอาไว้เราค่อยคุยกันเมื่อข้าไปหาเจ้า แต่จำเอาไว้แค่ว่า อย่าจำข้าสลับกับฉัตรสุดาเด่ดขาด แต่ถ้าเจ้าอยากรู้ ก็ลองหาเอาเองดูสิ"
    "เดียวสิ!หมายความว่ายังไง-"
    "เอาไวพบกันไหมนะสาวน้อย ไปละ"
    "ด- เดียว!"

    พูดยังไม่ทันจบหญิงสาวคนนั้นก็มีน้ำมาห่อหุ่มร่างกายก่อนที่จะหายไป ฉันได้แต่ยืนอึ่ง และไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นคืออะไร แล้วตกลงว่าเธอคนนั้นชื่ออะไรกันแน่ ตอนนี้ฉันเริ่มจะปวดหัวไปหมดแล้ว อย่าจำสลับกันงั้นหรอ หมายความว่าไง ผู้หญิงที่ผลักฉันตกน้ำกับคนเมื่อกี้ไม่ใช่คนเดียวกันงั้นหรอ

    แต่คิดอะไรไปก็คิดไม่ออกยิ่งจะทำให้ปวดหัวเอาเสียปล่าว ร่างกายของฉันล้มลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าเสียงร้องที่แสนทรมานของไมยราพนั้นเงียบไปแล้ว เขาตายแล้วงั้นหรอ

    จบศึกไมยราพแล้วสินะ....

    "น้องสุกัญญา!"
    "...พี่...หนุมาน"

    หนุมานวิ่งตรงเข้ามาหาฉันพร้อมกับมองสำรวจร่างกายฉัน ก่อนที่เขาจะขมัวคิ้ว พร้อมกับลูบที่แก้มแล้วไล้ลงไปถึงคำคอของฉัน

    "เจ้าไมยราพ มันทำน้องถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไอ้หน้าตัวเมียเอ่ย! มันตายง่ายเกินไป ข้าควรให้มันทรมานมากกว่านี้ให้สมกับความเลวที่มันทำกับพระองค์รามแล้วก็เจ้า!"

    หนุมานพูดพร้อมกับมองหันกลับไปที่ร่างของไมยราพ แต่ก่อนที่เขาจะไปทำอะไรกับร่างที่ไร้วิญญาณนั้น ก็มีร่างของสตรีนางนึงเข้ามาขวางเอาไว้

    "ช้าก่อนท่าน ได้โปรต"

    เป็นนางพิรากวนที่เข้ามาขวางเอาไว้ ข้างๆกันนั้นไวยวิกก็เดินมาอยู่ข้างๆมารดา 

    "ไมยราพนั้นก็สิ้นไปแล้ว ข้าขอร้องท่านอย่าได้ทำอะไรไปมากกว่านี้เลย ข้ารู้ว่าน้องชายของข้านั้นทำผิด แต่ได้โปรตหยุดเถิด แค่เห็นเขาสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาข้า ข้าก็รับมิไหวแล้ว"

    นางพูดพร้อมทั้งน้ำตา ต่อให้ไมยราพนั้นจะผิดเพียงใด แต่ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นน้องชายของนาง หัวใจของคนเป็นพี่ ที่ต้องเห็นน้องชายตายไปนั้นก็คงเจ็บมิน้อย

    ไวยวิกที่เห็นมารดาตนโศกเศร้าเช่นนั้นก็เข้ามาโอบปลอบโยนนาง ฉันมองภาพของพวกเขาที่อยู่ข้างร่างที่ไร้ลมหายใจของไมยราพแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดใจ ถ้าไมยราพไม่หลงผิดช่วยทศกัณฐ์ละก็ มันคงจบดีกว่านี้

    "พี่หนุมาน ข้าเองก็ขอร้องท่านด้วย"
    "สุกัญญา..."
    "ไมยราพนั้นก็ได้รับผลกรรมแล้ว เท่านั้นก็เพียงพอแล้วกับสิ่งที่เขาทำ"




              หนุมานนิ่งไปสักพักเหมือนใช้ความคิด   แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจ เขาเองก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำถึงขั้นจะเอาเรื่องกับคนตายไปแล้วหลอก  สุดท้ายเขาก็บอกว่าจะไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรแล้ว เพราะยังไงพระองค์รามกับฉันก็ยังปลอดภัยดี

    หนุมานปล่อยให้นางพิรากวนกับไวยวิกจัดการเรื่องศพของไมยราพ แล้วเข้ามาพูดคุยกับฉันถึงสิ่งที่คาใจ ในตอนแรกเขาเป็นกังวลใจแทบแย่ที่รู้ว่าฉันถูกจับตัวมาด้วย แต่พอมาถึงก็อดแปลกใจ ที่ฉันนั้นไม่เป็นอะไรมาก แล้วไหนจะเรื่องไม้เท้าแล้วก็พลังของฉันอีก

    ฉันก็ได้บอกเขาไปว่าฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมีพลังนี้ แต่มันอาจจะเป็นสัญชาตญาณก็ได้ เพราะฉันใช้พลังนี้ได้อย่างกับรู้ว่ามันควรใช้ยังไง ส่วนเรื่องไม้เท้านั้นหลังจากที่ไม่ได้สู้แล้วมันก็กลับไปเห็นจี้ห่อยคออันเล็กดังเดิม 

    หนุมานก็บอกว่าตอนที่เขาเห็นพลังน้ำนั้นครั้งแรกมันทำให้เขานึกถึงพลังของพวกนาคขึ้นมา เมื่อได้ยินเช่นนั้นฉันก็ขอให้เขาช่วยอธิบายเพิ่มเติมที เพราะไมยราพเองก็พูดเช่นนั้น และไม่แน่ว่าอาจจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับนางนาคีตนนั้นด้วยก็ได้

    เขาเล่าว่าพลังน้ำหรือวารีจะเป็นพลังส่วนมากที่พวกนาคจะใช้ ทั้งควบคุมน้ำได้ ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงได้ แต่พลังนั้นก็ขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญเพียรบารมี มันจะมีลถึงพลังที่ตนมี แล้วจากที่เขาเห็นมา มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้เลยว่ามันทำให้เขานึกถึงพวก*ตระกูลเอราปถ เหลือเกิน

    แต่เขาก็บอกว่าอย่าได้คิดอะไรมากถึงยังไงมันก็เป็นแค่ของสันนิษฐานของเขาเพียงเท่านั้น เขาไม่อยากให้ฉันคิดมากว่าตนเองนั้นไม่ใช่มนุษย์ มันอาจจะมีเหต์ลที่ฉันมีพลังนี้ก็เป็นได้ ไว้กลับไปที่ค่ายแล้วค่อยปรึกษาหารือกับทุกคนอีกทีก็ได้










           หลังจากที่เรื่องทุกอย่างจบลงแล้วถึงเวลาที่ต้องจากลา ไวยวิกก็ได้เป็นผู้ปกครองเมืองบาดาลนี้ต่อไป เราได้พูดคุยกันไวยวิกเองก็รู้สึกทั้งขอบคุณ และเสียใจที่จะต้องจากลากัน เขาบอกว่าฉันเป็นสหายที่ดีของเขา ถึงแม้ว่าเวลาที่ได้พบกันนั้นจะไม่ค่อยดีเท่าไร แต่เขาก็จะขอจดจำเอาไว้

    แล้วก่อนที่จะต้องจากกันเขาก็ได้เล่าเรื่องของนางนาคีตนนั้นเท่าที่เขารู้ให้ฟัง หลังจากที่เขาจำชื่อของนางได้แล้ว.....






    ซ่า!!


           เสียงของผิวน้ำสาดกระเซ็นอันเป็นผลมาจากที่ร่างของคนสามคนลอยขึ้นมาจากในทะเลหนุมานอุ้มร่างของพระองค์รามเอาไว้ในออมแขนทั้งสอง ส่วนฉันก็กอดคอขี้หลังเขาไป

    "น้องสุกัญญาขึ้นมาจากผิวน้ำแล้วเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"

    ".........."

    ไร้เสียงตอบจนหนุมานต้องหันกลับมามอง ก็เห็นว่าหญิงสาวนั้นกำลังทำหน้าเครียดเหมือนกับกำลังจบอยู่ในความคิดของตนเองจนไม่ได้ยินเสียงที่เขาเรียก ดังนั้นเขาจึงลดความเร็วที่เหาะอยู่ลงก่อนจะหันกลับไปเรียกนางอีกครั้ง

    "น้องสุกัญญา"
    "หะ ห้ะ? เมื่อกี้ท่านว่าไงนะ?"
    "เจ้าเป็นกระไรรึปล่าว ทำไมสีหน้าเคร่าเครียดยิ่งนัก?"


    สุกัญญาที่พึงรู้ตัวว่าตนเองนั้นทำสีหน้าเช่นไรจนทำให้คนตรงหน้าต้องเป็นห่วง เธอจึงสายหน้าพร้อมกับยิ้มน้อยๆส่งให้เขา

    "ข้าไม่เป็นไรหลอกขอท่านอย่าได้เป็นห่วง จากเรื่องที่พึ่งเจอมาเลยทำให้ข้ามีอะไรคิดมากไปหน่อยเพียงเท่านั้น"


    ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะพูดเช่นนั้นแต่ในใจของวานรเผือกนั้นกลับคิดว่ามันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นเป็นแน่ หญิงสาวที่ปกติจะยิ้มแย้ม แล้วมีเหตุผลอยู่ตลอดพอทำหน้าเครียดแล้วมันอดให้เขาเป็นห่วงไม่ได้ว่าเรื่องที่นางกำลังคิดอยู่นั้นคงใหญ่หลวงยิ่งนั้นเป็นแน่

    "เจ้ากังวลเรื่องพลังของเจ้า หรือเรื่องกระไรที่มากกว่านั้นกัน"
    "คือ คือข้า"
    "เจ้ามิจำเป็นต้องเครียดไป พวกเราจักอยู่ข้างเจ้าเสมอ จักมิให้เหตุการเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องพลังของเจ้านั้น มันต้องมีทางออก และมันก็ต้องมีเหตุผลของมันที่เป็นเช่นนั้น"
    ".....ข้าก็หวังเช่นนั้น"


    หนุมานคงไม่รู้ ว่านอกจากสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันยังมีอีกเรื่องที่ทำให้หญิงสาวนั้นอดคิดมากไม่ได้ แต่เรื่องนั้นจะให้พูดออกไปตรงๆมันก็คงยากที่จะมีใครเชื่อได้ ทำได้เพียงแค่ต้องคิดแล้วหาคำตอบเอาเพียงคนเดียวเท่านั้น

    เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงทำสีหน้าไม่สู้ดีอยู่วานรเผือกจึงได้คิดหาเรื่องคุย เพื่อให้หญิงสาวเลิกทำหน้าเช่นนั้น ก่อนที่เขาจะยกยิ้มกวนๆอย่างที่ชอบทำขึ้นมาซะเสียดื้อๆ แล้วหันกลับไปพูดคุยกับนางต่อ

    "อืม นี่ๆน้องสุกัญญา"
    "หือ? อะไรหรอ"
    "แล้วเรื่องของเจ้า กับพระองลักษณ์ เป็นอย่างไร้บางหรือ"
    "หะ? ห้ะ!? หมายความว่าไงน่ะ!"

     ได้ผลใบหน้าของหญิงสาวเริ่มแดงขึ้นอย่างเขินอายแล้ว แบบนี้ยิ่งต้องขยี้ให้หนัก หนุมานได้กล่าวไว้ในใจ

    "แหมๆ อย่างทำเป็นมิรู้หนาน้องสุกัญญา ข้าเห็นนะ ว่าเจ้ากับพระองค์น่ะสนิทสนมกันมากขนาดไหน"
    "พี่หนุมาน ท่าน เลิกพูดเถอะน่า!"
    "เขินหรือ?"
    "ปล่าว! แต่แค่มันไม่ควรมั้ง พระองค์รามก็อยู่ตรงนี้น่ะ"
    "พระองค์รามหรือ เจ้าคงมิรู้สินะ"
    "รู้? รู้อะไร?"


    หนุมานยิ้มกวนๆก่อนที่จะหันกลับมาตอบ




    "พระองค์รามน่ะนะ อยากจักอุ้มหลานจักแย่แล้วละ"

    ____________________________________________________________________


    Happy new year
     สุขสันต์วันปีใหม่นะทุกคน



    เจอคำผิดต้องขอโทษด้วย





    *ตระกูลเอราปถ

    พญานาคในตระกูลเอราปถ หรือตระกูลสีทอง ถือเป็นพญานาคชั้นสูง ส่วนใหญ่ถือกำเนิดแบบอัณฑชะ คือกำเนิดจากฟองไข่ เชื่อว่าอาศัยอยู่ในเมืองบาดาล ลึกลงไปจากใต้ดินถึง 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร บากพวกอาศัยอยู่ในถ้ำ ลึกถึง 50 โยชน์ หรือ 800 กิโลเมตร เชื่อว่าเป็นพญานาคตระกูลที่พบได้มากที่สุด เป็นพญานาคที่มีลักษณะโดดเด่น สวยงามไม่แพ้ตระกูลวิรูปักข์ มีลำตัวเขียวมรกตจงกลนี เกล็ดมรกตสีไพลมณีรัตนชาติ มีลักษณะออกไปทางงูใหญ่ มักขึ้นมาบนโลกมนุษย์บ่อยครั้ง จึงทำให้เกิดตำนานรักมากมายระหว่างพญานาคตระกูลนี้กับมนุษย์ แม้จะถือกำเนิดจากฟองไข่ แต่หากมีการบำเพ็ญเพียรบารมี จนมีอานุภาพแก่กล้า ก็สามารถถูกจัดให้เป็นพญานาคในชนชั้นปกครองได้เช่นเดียวกัน



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×