ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคtwisted wonderland x oc ( To you...that I met in my dreams. แด่เธอ...ที่พบเจอในฝัน)

    ลำดับตอนที่ #12 : ฮิเมะซึรุ อิจิมอนจิ

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 65







    "ดูท่าจะหนีพ้นแล้วนะ"


         น้ำเสียงหวานปนหอบเอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะหันกลับไปมองตามทางที่พวกตนวิ่งกันมา ดูเหมือนว่าพวกผีจะไม่ตามมาแล้ว ทั้งสี่คนจึงหยุดพัก แล้วนั่งลงเอาหลังพิงพนังหินที่มีอัญมณีมากมายหลากหลายสีที่โผล่ออกมาตามพนังให้เห็น


    "ตามตื้อไม่เลิกเลยข้าเหนื่อยแล้วนะ"
    "นายแค่เกาะไหลฉันแล้วเอาแต่กริ๊ดไม่ใช่หรอ"


    เซียอาน่ามองหางตาใส่เจ้าแมวที่ทำเป็นบ่น คนที่เหนื่อยน่ะมันเธอนะ กริมม์น่ะแค่เกาะไหล่เธอแล้วก็กรีดร้องทุกครั้งเวลาหันไปมองพวกผี จนบางทีแก้วหูเธอจะแตกอยู่แล้ว


    "ฮ่าๆ ใช่ กรีดร้องได้แสบแก้วหูสุดๆ"
    "ข้าไม่ได้กริ็ดสักหน่อย!"
    "ก็กริ๊ดอยู่เห็นๆ">>>3


    เด็กหนุ่มสาวทั้งสามพูดออกมาพร้อมกัน ก็เห็นๆกันอยู่ว่าตลอดเวลาที่วิ่งหนีกันมากริมม์เอาแต่กรีดร้อง ยิ่งอยู่บนไหล่ของเซียอาน่า แถมวิ่งอยู่ข้างหน้าเอซกับดิวซ์อีก ทั้งสามคนรู้เห็นได้ยินเต็มสองตาสองหูเลยว่ากริมม์นั้นกรีดร้องดังมากแค่ไหน


    "ขี้โกงนี่!พวกแกรุมข้าอ่ะ!!"


    กริมม์ทำท่าทางโกรธจนควันออกหู ก่อนจะกอดออกแล้วหันหลังให้เด็กทั้งสาม แต่พวกเขาก็รู้ว่ากริมม์ไม่ได้โกรธจริงจังหลอกแค่งอนที่เถียงไม่ได้ก็เท่านั้น ซึ่งท่าทางแบบนั้นและเพราะรู้อยู่แล้วแบบนั้นมันทำให้พวกเขาหัวเราะออกมา


    "ไม่เอาน่ากริมม์อย่าร้องไห้เลยนะ มานี่ม่ะ ลูบหัวน่าา"
    "ข้าไม่ได้ร้องสักหน่อย!"


    กริมม์ยังคงไม่ยอมหันมา เซียอาน่าที่ได้ยินเสียงสะอื้นก็คิดว่าตัวเองและเพื่อนๆอาจจะเล่นแรงเกินไปจึงเข้าไปอุ้มกริมม์ขึ้นมากอดและลูบหัว แต่กริมม์ก็ยืนยันว่ามันไม่ได้ร้องไห้ ตอนแรกเซียอาน่าก็จะไม่เชื่อจึงจะเข้ามาปลอบ แต่พอเห็นแววตาที่ไม่ได้ดูเศร้าอะไรเลยแถมไม่มีน้ำตาครอเบ้าอีก มันทำให้เธอเอะใจแปลกๆ


    "นายไม่ได้สะอื้น หรือร้องไห้หรอ?"
    "เรื่องแค่นี้ทำไมข้าต้องร้องด้วยเล่า!"


    กริมม์ยังยืนยันคำเดิม ซึ่งดูเหมือนจะจริงอย่างที่พูดด้วย ตอนนั้นเองที่เธอเริ่มรู้สึกแปลกๆ รู้สึกอึดอัดและรู้สึกขนลุก ราวกับมีอะไรมาไตร่ตามแขน แต่มันก็ไม่มีอะไร เอซที่เห็นท่าทางเธอแปลกๆไปเลยเอ่ยถาม


    "นี่? เป็นอะไรไปน่ะ?"
    "ปะ ปล่าวฉันแค่- ชู่!....ทุกคนเงียบก่อนนะ"


         เซียอาน่ากำลังจะหันมาตอบเอซว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร แต่จู่ๆเธอเหมือนจะได้ยินอะไรบางอย่าง เธอจึงบอกให้ทุกคนเงียบ แล้วเมื่อทุกคนเงียบบรรยากาศรอบๆนั้นก็เงียบสนิท แต่พวกเขากลับรู้สึกขนลุกแบบแปลกๆ ก่อนที่หูของพวกเขาจะได้ยินอะไรบางอย่างที่ฟังไม่ชัด ที่ดังออกมาจากส่วนลึกของความมืด...



         .....ไม่ได้.....อึอ..ได้....




     ! ! ! !


    ทั้งสี่หันสายตามองไปยังทิศทางที่เสียงนั้นดังขึ้นมา ทุกคนมีสีหน้าวิตกกังวล เด็กหนุ่มทั้งสองลุกขึ้นยืนก่อนที่จะมายืนด้านหน้าของเด็กสาวพร้อมกับหยิบปากกาเวทมนตร์ของตัวเองออกมาเตรียมพร้อม


    "ส เสียงอะไรน่ะ?"



         ....อัญ...มณี....อืออออ.....เป็น....ของ..ข้า....



    "เหมือนจะ...ค่อยๆ ไกล้เข้ามาแล้วนะ...."


    เอซเอ่ยออกมาเสียงสั่นเขากำปากกาในมือเอาไว้แน่น ดิวซ์เองก็เช่นกันเสียงนั้นมันไกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่พวกเขายังมองไม่เห็นมัน แต่ความกดดันก็เริ่มก่อตัวขึ้นในใจไปพร้อมกับความกลัว 

    ดิวซ์เดินมาบังหน้าเด็กสาวเอาไว้มือนึงจับปากกาเอาไว้แน่น อีกมือที่ว่างก็ยื่นมากันเธอเอาไว้ เอซที่อยู่หน้าสุดนั้นพยายามมองเข้าไปในความมืดนั้น เขาเห็นบางสิ่งบางอย่างมันกำลังไกล้เขามา แต่มันมืดมากเขามองมันไม่เห็น เซียอาน่าที่อยู่ข้างหลังกับกริมม์นั้นมองเข้าไปในความมืดอย่างระแวดระวัง 


    "กริมม์....ขอยืม..ไฟที่หูหน่อยนะ"


    เด็กสาวพูดเสียงเบาก่อนที่จะค่อยๆยกกริมม์ขึ้นสูงให้ไฟที่ใบหูของกริมม์ช่วยส่องสว่าง เมื่อได้แสงจากใบหูของกริมม์ช่วยในการมองเห็นมากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเขาได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่มีขนาดไหญ่ คลายออกมาจากเงามืด

    และเมื่อเจ้าสิ่งนั้นมาปรากฎตัวอยู่ในแสงสว่างมันก็ส่งเสียงร้องคำรามที่แสนน่าเกลียดน่ากลัวออกมา...




         อัญมณี...ของงงงงข้าาาาาาาาาาาาาาาา!!!




    "จ๊ากกกก!!โผล่ออกมาแล้ว!!"


    เสียงกรีดร้องของกริมม์เป็นตัวเรียกสติของทุกคนให้กลับมา เจ้าตัวประหลานนั้นยกพิกแอคพังๆในมือขึ้นก่อนที่จะฟาดลงมาที่เด็กทั้งสามคน


    "อัตราย!!"


    ตูม!!โครมมม!!!


    เอซตะโกนขึ้นบอกทุกคนก่อนที่จะกระโดดหลบ ดิวซ์หันกลับมาดึงตัวเซียอาน่าให้หลบไปพร้อมกัน แต่แรงลมและแรงปะทะที่เกือบจะโดนตัวพวกเขานั้น ทำให้ร่างของทั้งคู่นั้นกระเด็นไปแต่ไม่ไกลเท่าไร 


    "อะ..ดิวซ์คุง! เป็นอะไรรึปล่าว!?"
    "ไม่...ผมไม่เป็นไร ไอ้ตัวบ้านั้นมันอะไรกันเนี่ย!"
    "ทั้งสองคนปลอดภัยนะ!"
    "ห่วงข้าด้วยเซ่!!"


    เซียอาน่าลุกขึ้นมาก่อนที่จะเอ่ยถามเด็กหนุ่มคนข้างๆที่เขานั้นเอาตัวมารับแรงกระแทกตกพื้นแทนเธอ ดิวซ์ลูบหลังของตัวเองแต่เขาก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากพอทนได้ เอซที่หลบไปอีกทางนั้นหันมาถามทั้งสอง กริมม์ที่อยู่ในอ้อมกอดของเด็กสาวก็โวยวายว่าไม่คิดถามถึงมันบ้างหรอ มันกลัวจนจะร้องไห้แล้วเนี่ย!


    "ไม่เห็นรู้เลยว่าจะมีตัวพรรณ์นี้อยู่ด้วยอ่ะ!!"


         กริมม์กอดคอเด็กสาวเอาไว้แน่นแววตาเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า เซียอาน่าเองก็รู้สึกกลัวเช่นกันไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอสัตว์ประหลาดแบบนี้ แค่เรื่องสองวันที่เจอมานี้ เธอว่าเจอมาหนักแล้วนะแต่นี่ยังมีสัตว์ประหลาดโผล่ออกมาอีกหรอ...


         เห็นเค้ารางไม่ดีเลยว่า ชีวิตต่อจากนี้ของเธอต้องไม่สงบสุขแน่ๆ ถ้ารอดออกไปจากที่นี้ได้ละก็นะ


    "เจ้านั้น พูดถึงอัญมณีด้วย ระ หรือว่าจะเป็นอันที่เราตามหาน่ะ!?"


    เซียอาน่าเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เธอนั้นรู้สึกเอะใจกับคำพูดของมันที่พูดถึงแต่อัญมณี ซึ่งถึงแม้บริเวํรอบๆตัวพวกเขานั้นจะมีอัญมณีที่อยู่ในพนังมากมายไปหมดก็ตาม แต่เจ้าตัวประหลาดนั้นดูจะไม่ได้สนใจพวกมันเท่าไร แถมตอนที่ฟาดพิคแอคลงมามันก็มีไปโดนอัญมณีพวกนั้นด้วย จนแตกละเอียดก็ยังมี แต่มันก็ไม่ได้ดูสนใจอะไร เป็นไปได้รึเปล่าว่าที่มันหมายถึงน่ะจะเป็นสิ่งที่พวกเธอตามหา


    ดวงตาสีฟ้าครามของเด็กสาวจ้องมองไปที่เจ้าตัวประหลาดนั้น มันยังคงพูดคำเดิมซ้ำๆ ของเหลวสีดำนั้นก็ไหล่ออกมาจากร่างกายของมันไม่หยุด ยิ่งจ้องมองมันความหวาดกลัวยิ่งมีมากขึ้น แต่เหลือสิ่งอื่นใด ในใจนั้นมันกำลังกู่ร้องสิ่งที่ตรงข้ามกับความรู้สึก.....

    เธอลุกขึ้นก่อนที่จะส่งมือไปดึงตัวดิวซ์ให้ลุกขึ้นตาม เอซรีบวิ่งหลบเจ้าตัวประหลานนั้นมาหาทั้งสาม ก่อนที่เขาจะหันไปร่ายเวทไฟโจมตีใส่เจ้าตัวประหลาดนั้น 

    เปลวไฟลุกโชนเผาร่างนั้น แต่เพียงไม่นานเพียงแค่มันสะบัดพิกแอคพังๆในมือให้เกิดลม ไฟที่เผาไหม้มันอยู่นั้นก็ดับไป แต่บางทีแค่เวทไฟไปโดนน้ำสีดำๆที่ไหลออกมาจากหัวของมัน มันก็ดับแล้ว ราวกับดูดกลืนเวทมนตร์เข้าไป


    "ไม่ไหวอ่ะ ไม่ระคายผิวมันเลยมั้ง!"


    เอซบ่นออกมาอย่างหัวเสียเมื่อเห็นว่าเวทไฟของเขานั้นใช้กับมันไม่ได้ผลเลย กลับกันเจ้านั้นยิ่งอาละวาดมากขึ้นไปอีก


    "เราถอยกันก่อนเถอะ! สู้ตัวๆเอาชนะมันไม่ได้หรอก!"
    "งั้นจะมั่วรออะไรละหนีกันเถอะ!"


    ดิวซ์พูดขึ้นเอซเองก็พยักหน้าเห็นด้วย แต่พวกเขาไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้เรื่องตามหาอัญมณีหลอกนะ เพียงแค่ต้องไปเตรีมแผนมารับมือกับเจ้านี่ก่อน กริมม์ที่เห็นด้วยอย่างแรงรีบเห็นด้วยก่อนที่จะบินหนีตามหลังเอซกับดิวซ์ไป




    "ทำอะไรอยู่ล่ะ!? รีบหนีเร็วเขาสิ!"


         เอซที่รู้สึกว่าข้างๆกายเขานั้นขาดคนไปคนนึง เขาจึงหันหลังกลับมา เขาเห็นว่าเด็กสาวผู้ไร้เวทมนตร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิมตรงหน้าเจ้าตัวประหลาดนั้น เขาเอ่ยร้องเรียกเธอด้วยความเร่งรีบและสงสัย ว่าทำไมเธอถึงไม่วิ่งตามมามัวเหม่ออะไรอยู่ หรือว่ากลัวจนก้าวขาไม่ออก 

    เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาจึงหันหลังจะวิ่งไปจับมือเธอเพื่อพาหนีออกไปพร้อมกัน แต่เขาก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กสาวพูด


    "ฉันต้องจัดการมัน"



         เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาอย่างแผ่วเบาแต่มันก็ดังพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองและหนึ่งปีศาจได้ยิน ดิวซ์และกริมม์ที่วิ่งนำไปก่อนนั้นหันหลังกลับมามอง พวกเขานั้นต่างสงสัย และไม่เข้าใจสิ่งที่เด็กสาวต้องการจะสื่อ

    "พูดอะไรของเธอน่ะ! เธอก็เห็นแล้วนิ เวทมนตร์ของฉันยังทำอะไรมันไม่ได้เลย! แล้วเธอที่ไม่มีเวทมนตร์จะไปทำอะไรได้ รีบหนีก่อนเถอะ! เรื่องอัญมณีนั้นเราไปคิดแผนกันก่อนแล้วค่อยกลับมา!"

    เอซพูดยาวและมุ่งตรงเข้าไปเพื่อที่จะไปจับมือของเด็กสาวให้หันหลังกลับมาวิ่งตามเขา แต่ยังไม่ทันจะเข้าไปถึงตัว เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นก็ยกพิกแอคในมือขึ้นแล้วฟาดลงมา ทำให้พื้นดินสั่นไหว และเศษหินยักษ์จากบนเพดานนั้นก็ถล่มลงมา


    "เซีย!!"


    เศษหินก้องใหญ่ตกลงมา และข้างใต้นั้นก็เป็นจุดที่เด็กสาวยืนอยู่ เอซร้องเรียกเธออยากตกใจ เขาพยายามจะยื่นมือเข้าไปเพื่อจะดึงเธอออกมาแต่มันก็ช้าเกินไป....มันถล่มลงมาปิดทางไม่ให้เขาเข้าไปหาเธอได้ ตอนนี้ในสายตาเขานั้นมองไม่เห็นเธออีกแล้ว






    ฉิง!!

    หินก้อนใหญ่ที่ตกลงมาถึงตัวเด็กสาว มันนั้นได้ขาดออกเป็นสองท่อน วัตถุขนาดเล็กลอยไปในอากาศด้วยความเร็ว มันส่องประกายสีขาวออกมา เซียอาน่าจ้องมองไปที่เจ้าสิ่งนั้น ก่อนที่มือเรียวบางจะยืนออกไปจับมัน

    ฉับพลันก็มีแสงสว่างจ้าเกิดขึ้น กลีบดอกไม้สีชมพูมากมายนั้นเข้ามาลายล้อมที่ตัวเด็กสาวก่อนจะปรากฎเป็นดาบคาตานะสีขาวอยู่ที่มือของเธอ ดวงตาสีฟ้านั้นเบิกกว้างด้วยความแปลกใจ เธอไม่คิดว่าดาบปากกาของเธอจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นดาบจริงได้ด้วย แถมรูปร่างของมันยังเปลี่ยนไปอีกจากตอนแรกที่เป็นเหมือนพวกดาบแฟนตาซี ตอนนี้กลับกลายเป็นดาบคาตานะของจริงไปซะแล้ว แถมน้ำหนักนี้ที่เธอถืออยู่นั้นมันก็มีน้ำหนักพอตัว ทำให้รู้ว่ามันเป็นของจริงแน่ๆ และก็ชื่อที่มีการสลักอยู่ที่ใบดาบไกล้กับโกร่งดาบนั้นอีก


         ฮิเมะซึรุ อิจิมอนจิ.....ชื่อนี้มัน..อะไรกันเนี่ย!?


         และเมื่อกี้ถ้าตาของเธอไม่ฝาดเหมือนเธอจะเห็นแววตาของใครบางคนที่ไม่ใช่แววตาของเธอสะท้อนออกมาจากใบดาบด้วย มันเป็นแววตาที่ไม่คุ้นเคยเลย


    "อะไร...กันเนี่ย..."





         ไม่ยกให้หรอก......ไม่ยกอัญมณีให้หรอก!!!!





    โครมมมม!!!




         เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นคลุ้มคลั่งขึ้นมา มันพุ่งเข้าใส่เด็กสาว เซียอาน่าที่เห็นแบบนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง นี้มันต่างจากตอนที่เธอแข่งเคนโด้ ต่างกับตอนที่ไปจัดการพวกเด็กเกเรที่มาแกล้งญาติของเธอ นี้มันปีศาจของจริง

         เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับยกพิกแอคในมือขึ้นและฟาดลงมาที่ตัวเด็กสาวตรงๆ และไวตามสัญชาตญาณเธอยกดาบนั้นขึ้นมารับเอาไว้ก่อนที่จะเหวี่ยงวิถีของมันให้ไปด้านข้างได้อย่างฉิวเฉียด  แต่ก็แลกมาด้วยมันเฉียดประโปรงของเธอจนขาด และโดนขาของเธอจนเป็นแผลเป็นทางยาว


    "อ็ากกกกก!!"


    ความเจ็บที่เข้าปะทะเข้ามานั้นทำให้เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เจ็บจนน้ำตาจะไหลออกมา และมันก็เป็นเครื่องยืนยันให้เธอได้ด้วยว่าที่กำลังเจออยู่ ณ ตอนนี้มันไม่ใช่ความฝัน ถือแม้ว่าเธอจะอยากให้มันเป็นอย่างนั้นมากแค่ไหนก็ตาม มือเรียวบางนั้นกุมที่ขาข้างซ้ายของเธอที่มีเลือดค่อยๆไหลออกมาเป็นทางยาวดูน่ากลัว


         'เจ็บ...เจ็บมากเลย....หนูเจ็บ....ช่วยด้วย.....==='



    รู้ว่าเอ่ยเรียกถึง เธอคนนั้น ไปก็ไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้ความเจ็บที่เข้ามาเล่นงานเธอนั้นทำเอาเธอแทบไม่มีสติ มันน่ากลัว และไร้กำลัง ต่อให้มีวาวุธอยู่ในมือแต่ถ้าความกลัวมันมีมากกว่าก็แทบจะไร้ประโยชน์ ทำได้แค่ร้องไห้เป็นเด็กร้องของความช่วยเหลือ

    มือเรียวบางนั้นกำเข้าหากันแน่นทั้งด้วยความเจ็บและความเจ็บใจที่ไม่อาจทำอะไรได้เลย ต่อให้ในใจนั้นจะกู่ร้องว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นถ้าเธอสามารถจัดการมันได้ละก็ มันจะเป็นตัวนำไปสู่สิ่งที่เธอนั้นปราฎนามากที่สุด

    เจ้าสัตว์ประหลาดนั้นจ้องมองมาที่เด็กสาวพร้อมกับยืนมือสีดำขนาดใหญ่เข้ามา จับร่างของเธอเอาไว้ ร่างเล็กๆพยายามขัดขืน พยายามทุบมือนั้นให้ปล่อยแต่ก็ไร้ประโยชน์ ใบหน้าที่เป็นขวดแก้วแตกนั้นไกล้เข้ามา ก่อนที่มันนั้นจะแยกออกจากกันจนเป็นรูปปาก ของเหลวสีดำมากมายทะลักไหลออกมาเต็มไปหมดก่อนที่มันจะจับตัวเด็กสาวแล้วกินเข้าไป.....










    มืดมิด....





    นั้นคือความรู้สึกที่เธอรู้สึกได้ตอนนี้ เธอไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความมืด ร่างกายนั้นโดยโอบรัดไปด้วยของเหลวสีดำมันจับมัดและตรึงเธอเอาไว้ในความมืดมิด

         ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นมัวหมองลงเรื่อยๆ


    'เราจะตายหรอ' นั้นคือความคิดเดียวที่เข้ามาในหัวตอนนี้ เธอไม่เห็นหนทางใดเลยที่จะรอดออกไป ในใจนั้นมันกลัวไปหมด อยากร้องไห้ออกมาก็ร้องไม่ออก เสียงก็เปล่งออกมาไม่ได้ ความรู้สึกที่ถูกตรึงเอาไว้ในความมืดมิดแบบนี้ ราวกับว่าเธอคุ้นเคยกับมันมาก่อน เพราะงั้นเลยไม่พยายามขัดขืน เพราะรู้ว่าทำไปก็ปล่าวประโยชน์


         รู้สึกสมเพชตัวเองชะมัด พูดเอาไว้สะดิบดีว่าจะทำทุกอย่างเพื่อ "เธอ" แต่ดูตอนนี้สิ....


    ราวกับได้ยินเสียงของตัวเองที่กำลังต่อว่าตัวเธออยู่ ใช่ เธอนี้มันน่าสมเพชจริงๆ พวกผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 คงคิดผิดแล้วละที่ให้เธอมาจัดการกับเจ้านี้ ขนาดพึ่งเจอเธอยังมีสภาพแบบนี้ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเจอแบบนี้อีกจะเป็นยังไง แต่กว่าจะถึงตอนนั้นเธอจะตายก่อนรึปล่าวกันนะ



         เธออาจจะ...ตายตอนนี้เลยก็ได้-





        'เลิกงอแงเป็นเด็กแล้วลุกขึ้นมาซะ'



    ฉิง!!


    ของเหลวสีดำที่ตรึงร่างของเธออยู้นั้นถูกตัดจนขาด ทำให้ร่างของเด็กสาวนั้นถูกปล่อยเป็นอิสระ กลับมาหายใจได้สะดวกขึ้นอีกครั้ง เสียงที่ตามหลอกหลอนในหูก็หายไปแล้ว ก่อนที่ร่างของเธอนั้นจะถูกใครบางคนโอบเอาไว้

    ดวงตาสีฟ้านั้นกลับมามีแววตาสว่างใสอีกครั้ง สัมผัสที่แสนอบอุ่นและอ่อนโยนที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยนี้ กลีบดอกไม้สีชมพูมากมายปรากฎขึ้นอีกครั้งรอบๆตัวเธอก่อนที่ภาพตรงหน้าจะปรากฎร่างผู้ชายคนนึงขึ้นมา


    "ถ้าเจ้าเป็นอะไรไปละก็ นายท่านจะต้องเสียใจมากแน่"


         นัตย์ตาสองสีที่ข้างขวานั้นเป็นสีเขียวข้างซ้ายนั้นเป็นสีฟ้าแววตาคมหางชี้จ้องมองลงมาที่เด็กสาวในมือ ที่ตนนั้นคุ้นเคยกับใบหน้านี้เป็นอย่างดี เพราะมันให้ความรู้สึกที่เหมือนกัน แต่ก็แตกต่างกันเช่นกัน....


         ชายปริศนาที่ปรากฎตัวขึ้นนั้น นอกจากแววตาสองสีแล้วผมของเขาเป็นสีทองอ่อนสั้นละต้นคอ สวมใส่เครื่องแต่งกายกิโมโนแบบญี่ปุ่นสีน้ำเงิน มีผ้าคลุมที่มีขนสีฟ้าอ่อนคลุมไหล่เอาไว้ ใบหน้าคมคายนั้นดูนิ่งและเย็นชาราวกับน้ำแข็ง แต่ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นได้เช่นกันอย่างหน้าประหลาก และที่เด่นที่สุดก็คือ ชายคนนี้มีเขาที่หัว เป็นเขาแหลวสีทองยาวตรง แต่มันมีอยู่แค่ข้างเดียวคือข้างขวา


    "คุณ...."


    ดวงตาสีฟ้าครามที่จะปิดลงอยู่แล้วนั้นเบิดกว้างขึ้นมาอย่างตกใจ เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้มาพบกับคนๆนี้ ใบหน้าแบบนี้ ถึงแม้ว่าในความทรงจำของเธอเขาจะดูแกกว่านี้ก็ตาม แต่ใบหน้าแบบนี้นั้นเธอไม่มีวันลืม




    "คุณอา"


    เซียอาน่าไม่อยากอยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ผู้ชายคนนี้หน้าตา สีผม และน้ำเสียงนั้นเหมือนคุณอาของเธอมากๆ แต่พอมองดูดีๆแล้วชายคนนี้ดูเด็กกว่าเยอะ แถมบนหัวยังมีเขาอีก และสีของดวงตาก็ไม่เหมือนกัน ชายคนนี้มีตาสองสี แต่คุณอาจริงๆของเธอนั้นมีตาสีเหลืองอำพัน แบบเดียวกับญาติผู้น้องของเธอ 


    "ต้องขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่ข้าไม่ใช่อาของเจ้า"


    ชายตรงหน้านั้นตอบกลับมาหน้านิ่งๆ เขานั้นไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไรที่เธอจะบอกว่าเขาหน้าตาเหมือนผู้ชายคนนั้น เพราะเธอไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้กับเขา


    "ฮิเมะซึรุ อิจิมอนจิ นั้นคือนามของข้า"


    น้ำเสียงเข้มตอบกลับมา แล้วเมื่อได้ยินแบบนั้นสายตาของเธอก็ก้มไปมองที่มือของเขาอีกข้างที่กำลังถือดาบอยู่ ชื่อที่สลักอยู่ที่ใบดาบนั้นเป็นชื่อเดียวกันกับชายคนนี้


    "คุณ...คือดาบเล่นนั้นหรอ?"


    เอ่ยออกไปอย่างไม่เชื่อในความคิดของตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ไม่ตอบใช่หรือปฎิเสธ แต่ความรู้สึกของเธอบอกว่าที่เธอคิดนั้นมันคือความจริงแน่ๆ ชายตรงหน้านั้นคือดาบ


    จากตอนแรกที่มันเป็นแค่ปากกาที่มีรูปร่างเป็นดาบ ต่อมามันก็ลอยได้ราวกับมีชีวิต จากนั้นมันก็กลายเป็นดาบคาตานะจริงๆ และตอนนี้มันยังกลายเป็นคนได้อีก แถมเป็นคนที่หน้าตาเหมือนคุณอาของเธอตอนหนุ่มๆซะด้วย



    "ข้ารู้ว่าเจ้ามีแต่คำถามเต็มหัวไปหมด แต่ตอนนี้เราไม่มีเวลา"


    เขาเอ่ยขึ้นก่อนที่จะมองไปข้างหน้า เด็กสาวมองตามก่อนที่จะเห็นว่าในความมืดข้างหน้านั้นมีบางสิ่งกำลังไกล้เข้ามา


    "ข้าอาจจะปรากฎตัวมาช่วยเจ้าแบบนี้ไม่ได้บ่อยๆ ทั้งตอนนี้ และต่อจากนี้เจ้าต้องลงมือเอง"
    "ยะ..ยังไงละ ฉันควรทำยังไง"


    ที่เขาพูดนั้นมันก็ดูง่ายสิ แต่เธอนั้นไม่รู้อะไรเลย ถึงความรู้สึกในใจนั้นมันจะบอกว่าเป้าหมายของเธอนั้นอยู่ตรงหน้าแล้วก็ตาม แต่จะให้เธอทำยังไง


    "เจ้าต้องใช้ข้า"
    "ชะ ใช้คุณ?"


    ไม่พูดปล่าวฮิเมะซึรุยืนดาบในมือของตัวเองส่งมาให้เธอ เซียอาน่ามีท่าทางลังเลที่จะจับมัน แต่พอเห็นสายตาคมคู่นั้นที่จ้องมองมา มันไม่ได้รู้สึกกดดัน เเต่เป็นสายตาที่สือว่าจะคอยอยู่ข้างๆและจะคอยปกป้อง เมื่อรู้สึกได้แบบนั้น เธอจึงยื่นมือไปจับดาบอีกครั้ง


    "อย่ากลัว จับข้าให้มั่น และเชื่อในพลังของตัวเอง เหมือนที่นายท่านเชื่อในตัวเจ้า"


         'นายท่าน?'



    ถึงจะสงสัยในคำพูดของเขาว่า "นายท่าน" ที่พูดถึงนั้นเป็นใคร แต่เธอก็ไม่ได้ถามเขาออกไป เขายื่นมือมากุมมือของเธอที่จับดาบเอาไว้อยู่อย่างอ่อนโยนจ้องมองลงมาที่ดวงตาของเธอโดยตรง


    "ข้าเคยสาบานไปแล้วว่าจะปกป้องเจ้า เพราะงั้นเจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้ง ใช้ข้า ตัดสิ่งที่สมควรจะตัดตรงหน้าเจ้าซะ ยูเมะ"


    เขาเอ่ยชื่อนามสกุลของเธอออกมา ไม่ใช่เพราะความห่างเหิน แต่เขาถนัดเรียกแบบนี้มากกว่าชื่อจริงของเธอ แต่เขาก็ไม่คิดจะบอกเด็กสาวไปหลอก 

    แววตาของเด็กสาวนั้นดูกลับมามั่นคงอีกครั้งเมื่อได้ยินคำสาบานของเขา ความกลัวในแววตานั้นหายไปบ้างแล้วแต่ก็ยังมีอยู่ เขาพอเข้าใจได้ เธอไม่ได้เกิดมาต้องสู้รบแบบ 'พวกเขา' เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาที่ใช้ชีวิตธรรมดามาตลอด แต่จู่ๆก็ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

    แต่กับเขาที่ผ่านเรื่องราวมามากมายเรื่องที่เกิดขึ้นนี้นั้นยังไม่ถึงครึ่งกับที่เขา และนายท่านเจอมา หน้าที่ของเขานั้นก็คือปกป้องเด็กสาวตรงหน้า เขาถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสิ่งนั้น จะไม่ยอมให้เป็นอะไรไป จะอยู่ข้างๆและจะไม่จากไปไหน


         จะทำในสิ่งที่ "ท่านผู้นั้น" ทำไม่ได้อีกแล้ว...


         ร่างกายของฮิเมะซึรุส่องแสงออกมาก่อนที่ร่างกายของเขานั้นจะกลายเป็นกลีบดอกไม้สีชมพูแล้วหายเข้าไปในดาบคาตานะในมือของเด็กสาว 

    ความรู้สึกที่รู้ว่าถูกปกป้องอยู่นั้นทำให้เธอไม่กลัว จับดาบในมือแน่นขึ้น ถึงจะยังมีเรื่องที่คาใจอยู่ในหัวเต็มไปหมด แต่ตอนนี้เธอจะไม่สนใจมันไปก่อน เอาไว้รอดไปจากตรงนี้ได้เมื่อไร ไปถามเอาความจริงอีกก็คงไม่สาย



         เมื่อลืมตาขึ้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ใช่ความมืดเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป...



    อัญมณีสีรุ้งแสนสวยปรากฎอยู่ตรงหน้า แต่มันกลับมีออกร่าสีดำปลกคลุมเอาไว้อยู่ พร้อมกับของเหลวสีดำ แต่มันอยู่ในมือของร่างๆนึงที่เธอคุ้นเคย



    "เธอ....."



    ตรงหน้าปรากฎร่างของเด็กผู้หญิงคนนึงที่ดูอายุราวๆ 10 ขวบ เธอสวมใส่ชุดคล้ายมิโกะ แต่ฮากามะของเธอนั้นเป็นมีกรมท่า ผมสีดำยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าขาวเนียนริมฝีปากยกยิ้มแต่บริเวณดวงตานั้นมันมืดจนมองไม่เห็นใบหน้า


    'ของฉัน...'


         เสียงที่ดังออกมาจากริมฝีปากคู่นั้นดังก้องในใจจนร่างกายนั้นรู้สึกชาแต่มือยังคงจับดาบในมือเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย


    'มันเป็นของฉัน เซีย...จะมาแย่งไปอีกแล้วงั้นหรอ'


    "พูดเรื่องอะไรน่ะ....."


    เด็กผู้หญิงคนนั้นยกอัญมณีสีรุ้งในมือขึ้นมากอดกุมมันเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นแววตาแต่เธอก็รู้สึกว่าเด็กคนนั้นกำลังจับจ้องมองมาที่เธออยู่ แต่เรื่องที่เธอพูดนั้นเธอไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่กันแน่


    'ลืมไปแล้วงั้นหรอ...หึ...ไม่แปลกใจเลยก็ตอนนั้นเธอยังเด็กมากนิน่า'



    พรึบ!!



         จากที่รอบๆตัวนั้นมีแต่ความมืดก็ปรากฎสิ่งของมากมายขึ้นมาอยู่รอบๆตัวเธอ เซียอาน่าหันไม่มองพวกมันด้วยความไม่เข้าใจ แต่พอมองดูดีๆแล้วสิ่งของมากมายที่อยู่รอบๆตัวเธอนั้นต่างเป็นของในความทนงจำของเธอทั้งนั้นเลย

         ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตา ของเล่น เสื้อผ้า หรือแม้แต่...



    "พ่อ..แม่....."



    ข้างหลังของเธอปรากฎร่างของชายหญิงคู่นึง ซึ่งพวกท่านนั้นได้จากเธอไปนานแล้ว พ่อแม่แท้ๆของเธอนั้นเอง ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างน้ำตาก็ไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ อยากจะพุ่งเข้าไปหาแต่ก็ทำไม่ได้ ในใจก็ร้องเตือนอยู่ว่าพวกท่านไม่น่าจะมาอยู่ที่นี้ได้เลย พวกท่านจากเธอไปนานแล้ว


    'แม้แต่พ่อกับแม่ เซียก็แย่งไปจากฉัน ยังต้องการอะไรอีก'


    "ไม่ใช่!!"


    เซียอาน่าหันกลับมาตะคอกใส่ร่างของเด็กสาวคนนั้นว่าที่เธอพูดนั้นมันไม่จริง เรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อแม่แท้ๆของเธอจนพวกท่านจากไปนั้น เซียอาน่าพยายามบอกกับตัวเองมาตลอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของเธอ


    'ไม่ใช่งั้นหรอ แล้วการที่พวกท่านต้องพาเธอออกไปวันนั้นจนทำให้พวกท่านต้องตาย มันไม่ใช่ความผิดเธอหรอ'






         วันนั้น....




         วันที่ครอบครัวของเธอออกไปเที่ยวด้วยกัน เพราะเธอสามารถสอบได้ที่หนึ่งของชั้นปี เธอจึงขอรางวัลกับพ่อแม่ว่าให้พาเธอไปเที่ยว เพราะครอบครัวของเธอไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้ว

    วันนั้นเป็นวันที่เธอมีความสุขมากๆ ที่ได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวที่ไม่ได้มีให้กันบ่อยๆ เพราะพวกท่านยุ่งกับงานเอามากๆ แต่พวกท่านก็ยอมลางานมาเพื่อพาเธอไปเที่ยว แต่ในวันนั้น..

    ตอนขากลับมีฝนตกหนักถนนมันก็ลื่น จังหวะนึงเธอเรียกพ่อกับแม่ให้หันมาดูเธอที่สามารถตอบคำถามปริศนาที่แสนยากได้สำเร็จ พวกท่านหันมายิ้มยินดีให้เธอ จังหวะนั้นเองที่หน้าต่างรถด้านหน้าก็มีไฟสว่างจ้าเกิดขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยแรกปะทะเข้าอย่างแรงจนรถหมุน เศษกระจกมากมายนั้นแตกละเอียด หูของเธอตอนนั้นอื้อไปหมดได้ยินแต่เสียงวิ้งๆ

    ร่างของเธอนั้นถูกสวมกอดเอาไว้แน่นในอ้อมกอดของคนที่นั่งข้างๆ แต่ดวงตาสีฟ้าของเธอนั้นมองเห็นร่างของพ่อกับแม่ที่กระแทกกับตัวรถ อย่างแรง จนมีเลือดไหลออกมาจากหัว ก่อนที่ภาพทุกอย่างมันจะดับไป......



    'มันเป็นเพราะเธอ ถ้าวันนั้นเธอไม่บอกให้พ่อกับแม่พาออกไปละก็ พวกท่านก็คงไม่
    ตาย '




    'มันเป็นเพราะเธอ เธอแย่งพวกเขาไปจากฉัน'





    'ตั้งแต่ที่เธอเกิดมา เธอแย่งทุกอย่างไปจากฉัน!!!!'






    _______________________________________________________


    ฮิเมะซึรุ อิจิมอนจิ




    (บทนี้ต้องรบกวนท่านเคนชินมาเล่นหน่อยนะคะ ที่รักค่าาา)

     
    ตัดจบได้ละครไทยมากๆ555


    มีตัวละคร oc เพิ่มขึ้นมาคงไม่ออกทะเลมากเกินไปจนไม่สนุกกันหลอกนะ 


    เรื่องนี้และอีกสองสามเรื่องที่ไรท์จะแต่งมันเป็นจักวาลเดียวกัน การที่จะมีตัวละครจากเรื่องอื่นโผล่มาหรือถูกพูดถึงมันจึงเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันจะเป็นจุดเชื่อมโยงเข้าหากัน เป็นเหตุการณ์ต่อๆกัน


    ตอนนี้นางเอกยังเวล 1. เอง อย่าว่าน้องอ่อนแอเลยนะ 
    ถ้าเป็นเราไปอยู่ในเหตุการ์แบบนั้นก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ก็คงจะกลัวเหมือนกันแหละ
    จะให้มาถึงเทพเลยมันก็ยังไงอยู่ ค่อยๆฝึกฝีมือกันไปเนอะ 
    มีพวกกริมม์ เอซและดิวซ์อยู่ด้วยไม่น่าเป็นไรหรอก....มั้ง

    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×