ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคtwisted wonderland x oc ( To you...that I met in my dreams. แด่เธอ...ที่พบเจอในฝัน)

    ลำดับตอนที่ #7 : หอแรมแชตเกิล (แก่ไขเนื้อเรื่อง)

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 65



     

     

    "แน่ใจนะคะ ว่าจะไม่ไปหาหมอดูอาการหน่อยจริงๆน่ะ ผู้อำนวยการ?"

    "ผมไม่เป็นไรครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง ผมว่า อะแฮ่ม! กลับมาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าครับ"


     


     

         หลังจากที่ใช้เวลาเรียกสติผู้อำนวยการอยู่สักพัก ทั้งเขย่าตัวเขาสองสามทีกับตบหน้าเรียกสติทีนึง ในสุดเขาก็กลับมามีสติครบถ้วนอีกครั้ง


     

    "ถึงฉันจะไม่รู้ว่าทำไมมันถึงทำแบบนั้น แต่ฉันก็ต้องขอโทษแทนด้วยจริงๆค่ะ ถึงยังไงมันก็เป็นของๆฉัน"

    "ไม่เป็นไรครับ ผมพอจะเข้าใจเหตุผลที่มันเป็นแบบนั้นอยู่ ถึงจะไม่ได้พบเจออยู่บ่อยๆก็เถอะ"

    "การที่ของมันขยับไปเองนี้เป็นเรื่องปกติของที่นี้งั้นสินะ"

    "ครับ เป็นเรื่องปกติ แต่กลับอุปกรณ์เวทย์ที่ขยับของมันเองโดยที่เจ้าของไม่ได้ร่างคาถาเนี่ย ก็ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆหรอกน่ะครับ "


     

    "พอผมบอกว่าจะเอามันไปตรวจสอบก็เข้ามาทำร้า- เอ่อไม่ๆ เข้ามาโจมตีผมแบบนี้น่ะ ถ้าไม่ได้โดนคาถาสั่งไว้ว่าให้อยู่ไกล้เจ้าของตลอด ก็คงเป็นจิตวิญญาณที่อยู่ข้างในปากกานั้นละครับ ถึงได้ทำการป้องกันตัวเองเมื่อผมจะมาเอามันไปจากคุณ ก็เลยโจมตีใส่ผมแบบนั้น"


     


     

         เซียอาน่าตั้งใจฟังเรื่องที่ผู้อำนวยการเล่า ถึงจะมีบ้างบางเรื่องที่ไม่เข้าใจ และเกิดคำถามขึ้นมากมายในหัว แต่สิ่งนึงที่เธอรู้ก็คือทุกคำถามที่เธอสงสัยเกี่ยวกับเจ้าดาบปากกานี้ จะได้รับคำตอบจากคนๆเดียวกันกับคนที่ให้เธอมานั้นแหละ


     

    "แล้วคุณคิดที่จะอยากตรวจสอบมันอยู่ไหม?"

    "คงไม่แล้วละครับ ถึงแม้ว่าเจ้าของอย่างคุณจะอนุญาต มันก็คงไม่ยอมให้ใครจับได้ง่ายๆแน่ แต่! มันก็ทำให้ผมแน่ใจได้ข้อนึงแแล้วละครับ"

    "อะไรหรอคะ?"


     

    "ถึงแม้ว่าตัวคุณจะไม่มีเวทมนตร์ แต่ตัวของคุณต้องมีพลังอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในตัวแน่ๆครับ"


     


     

         ผู้อำนวยการตอบกลับมาด้วยความมั่นอกมั่นใจเต็มร้อย แต่กับตัวเด็กสาวนั้นได้แต่ยืนทำตาปริบๆ เพราะไม่เข้าใจว่ามันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ก็เพราะตัวเธอนั้นเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาๆคนนึง ใช้ชีวิตปกติมาตลอด จนมามีวันนี้แหละที่มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นกับเธอ


     


     

         และเหตุผลเดียวที่เธอยอมตกลงรับข้อเสนอ ให้ต้องมาเจอเรื่องแปลกๆนี้ก็มีอยู่แค่เรื่องเดียว.....


     


     

    "งั้น ที่คุณพูดก่อนหน้านี้ ที่ว่าโรงเรียนนี้รับแต่ผู้ที่มีเวทมนตร์กับมีความสามารถเข้ามาใช่ไหมคะ?"

    "ใช่ครับ ไนทเรเวนคอลเลจของเรานั้นจะรับนักเรียนที่มีความสามารถผ่านกระจกแห่งความมืด แล้วผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะเข้ามาที่นี้ได้ แต่กรณีของเจ้าทา- อะแฮ่ม ของทานุกิคุงนั้นเขาแอบลอบเข้ามาครับ"

    "แล้ว...อย่างฉัน"

    "อื่อ...ส่วนคุณยูเมะ มันอาจจะเกิดจากข้อผิดผลาดอะไรสักอย่าง แต่การที่คุณเข้ามาที่นี้ได้นั้นก็เป็นผู้ที่กระจกแห่งความมืดเลือกมาเหมือนกันครับ"


     


     

         ผู้อำนวยการพูดก่อนที่จะหันไปขอความเห็นกับกระจกแห่งความมืด ใบหน้าบนกระจกนั้นหันมามองที่เธอครู่นึงก่อนที่จะพยักหน้าตอบ 


     


     

         มือเรียวบางเลื่อนลงไปแตะที่กระเป๋ากางเกงสัมผัสถึงสิ่งที่เก็บเอาไว้อยู่ภายใน ภาพของหญิงสาวโปรงแสงก่อนที่มันจะกลายเป็นขวดเเก้วที่มีน้ำวิเศษอยู่ภายใน ริมฝีปากเมินเข้าหากันแน่น เมื่อสัมผัสได้ถึงของอีกชิ้นที่อยู่ในกระเป๋า


     

         รูปถ่ายที่ถูกเผาไปต่อหน้าต่อตากลับมาอีกครั้ง....


     


     

    "ผู้อำนวยการ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้อง"


     


     

         'ไม่เป็นไร ถ้ากำจัดสิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี้ได้สำเร็จ แล้วแค่ดื่มน้ำนี่ เรื่องพวกนี้ก็จะเป็นแค่ฝันไป แล้วพวกเราจะกลับบ้านไปด้วยกัน ใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น รูปถ่ายนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นอีกแล้ว'


     


     


     

         แล้วเรื่องแปลกๆพวกนี้ก็จะเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน....


     


     


     

    "ฉันขอทำงานที่นี้ได้ไหม?"


     


     


     

         เมื่อสิ้นคำพูดผู้อำนวยการก็นิ่งค้างไปเฉยเลย แบบติดสตั้น เพราะไม่คาดคิดกับคำตอบที่เด็กสาวพูด


     


     

    "เอ๋ะ? ทะ ทำงานหรอครับ"

    "ค่ะ ถ้าบอกว่าขอเข้าเรียนที่นี้ก็คงไม่ได้เพราะฉันไม่มีเวทมนตร์ แต่ถ้าทำงานละก็ ฉันว่าฉันทำได้แน่นอนค่ะ"

    "ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ แต่คุณเป็นผู้หญิง การที่คุณมาอยู่ที่นี้มันอาจจะ...ไม่สิเรื่องนั้นอาจจะไม่สำคัญเท่าไร"


     


     

         ผู้อำนวยการยกมือขึ้นมากุมคางเหมือนกับใช้ความคิดอะไรสักอย่างก่อนที่จะหันมามองเด็กสาว เซียอาน่าเองก็ยืนนิ่งรอฟังคำตอบของเขา


     


     

    "ผมขอถามคำถามนึง คุณอายุเท่าไรครับ?"

    "ปีนี้ 16 พอดีคะ"

    "งั้นก็พอดีกับเด็กปีหนึ่งเลยสินะ แต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย อืม...."


     


     


     


     


     

    "ไม่ได้ครับ"


     


     


     


     

         คราวนี้เป็นเซียอาน่าเองที่ถึงกับพูดไม่ออกไปไม่เป็น


     


     


     

    "ถึงแม้ว่าตัวตนของคุณจะมีสิ่งน่าสนใจอยู่ แต่มันก็คนละเรื่องกับที่ว่าผมจะรับคุณมาเข้าทำงานไหม ตัวคุณเองก็ยังเด็กอยู่ด้วย แล้วยิ่งคุณเป็นผู้หญิงคนเดียวที่นี้ด้วย"

    "แล้วการที่ฉันเป็นผู้หญิง มันมีปัญหาอะไรหรอคะ?"

    "มีสิครับ เพราะที่นี่เป็นโรงเรียนชายล้วน"


     

    เมื่อได้ฟังแบบนั้นเซียอาน่าก็ถึงกับไปไม่ถูกอยู่เหมือนกัน ก็ว่าอยู่ทำไมตอนที่ผู้อำนวยการกับคนอื่นๆเมื่อรู้ชื่อเธอถึงพูดว่า ชื่อเธอเหมือนเด็กผู้หญิง แล้วไหนจะตอนที่ฮู้ดคลุมหัวหลุด ทุกคนถึงทำท่าทางตกใจกันแบบนั้น


     


     

    "ถึงจะน่าเสียดายแต่ผมจำเป็นต้องส่งคุณกลับบ้านครับ"

    "เอ๋? จริงหรอ ทำได้ด้วยหรอ?"

    "ได้สิครับกระจกแห่งความมืดสามารถทำได้ครับ"

    "ถะ ถึงอย่างนั้น...."


     


     

         'ถ้าฉันกลับไป ฉันก็ไม่สามารถ ได้เธอกลับคืนมาสิ'


     


     


     

    "ฉันกลับไม่ได้...."


     


     

         น้ำเสียงของเซียอาน่านั้นสั่นเล็กน้อยมือบางยกขึ้นมากุมกันเอาไว้ ผู้อำนวยการหันมามองที่เด็กสาวอย่างแปลกใจ ท่าทางของเด็กสาวนั้นเหมือนกับว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่าง


     


     

         'หรือว่ามีปัญหากับที่บ้านรึปล่าวนะ'


     


     

         ด้วยความที่ตัวเขาเองก็ไม่ทราบได้ว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้นมันคืออะไร แต่ท่าทางของเด็กสาวนั้นดูเหมือนกำลังกลัว


     


     

    "ฉันกลับไปไม่ได้ ที่นั้น ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว"

    "ไม่เหลือใคร....คุณหมายถึง"


     


     

         มือบางกุมกันแน่นขึ้นเมื่อนึกถึงความเป็นจริง ถึงแม้ว่าตัวเธอจะมีคนรับไปเลี้ยงดูแล้วก็ตาม แต่ความเป็นจริงนั้นมันก็ไม่ได้ต่างไปจากสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด


     


     


     

    "ฉันเสียครอบครัวไปหมดแล้ว....."


     


     


     

         ผู้อำนวยการมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าครามใบหน้านั้นยามที่พูดดูนิ่งเรียบดูไร้อารมณ์ แต่แววตาที่สื่อออกมานั้นมันบอกเขาว่ามันไม่ใช่เรื่องโกหก เด็กสาวตรงหน้านั้นอาจจะผ่านอะไรมาเยอะกว่าที่เขาคิด และมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าที่เห็นภายนอก ถึงสามารถเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ดี


     


     

    "คุณอยู่ตัวคนเดียวหรอครับ"

    "....ใช่คะ"


     


     


     

         'ขอโทษนะคะคุณน้า คุณอา หนูจำเป็นต้องพูดแบบนั้นจริงๆ'


     


     

    เซียอาน่าเเอบขอโทษคุณน้ากับคุณอา หรือก็คือพ่อแม่แท้ๆของเจ้าสองแฝด ซีม่อนกับซีนอยในใจ ที่เธอต้องพูดแบบนั้นเพื่อพยายามหาข้ออ่างให้อยู่ที่นี้ต่อได้ เพื่อทำตามของเสนอที่ตกลงเอาไว้กับคนพวกนั้น เพราะถ้าเธอทำสำเร็จ เธอจะได้ครอบครัวของเธอคืนมา


     


     

     

         มือบางที่ยังคงกุมกันแน่นอยู่นั้นยิ่งแน่นขึ้นกว่าเดิม เมื่อนึกถึงเหตุผลจริงๆที่เธอต้องทำเพื่ออยู่ที่นี้ ยิ่งคิดในใจนั้นก็ยิ่งรู้สึกเศร้า ว่าถ้าเธอทำพลาดไป หรือปล่อยให้โอกาสในครั้งนี้หลุดมือไปละก็ ชาตินี้ทั้งชาติ เธอจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย


     


     

         'ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องนำเธอกลับมาให้ได้'


     

     


     

     


     

     

    "คุณยูเมะ"


     


     

    น้ำเสียงทุ้มของผู้อำนวยการดังขึ้นมาในระยะประชิด เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับร่างอันสูงใหญ่ของผู้อำนวยการมายืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีทองภายใต้หน้ากากจับจ้องมองลงมาที่เด็กสาว ก่อนที่มือหนาที่สวมถุงมือแล้วมีเครื่องประดับเหมือนกับกรงเล็บ จะยื่นมาสัมผัสที่ข้างแก้มข้างซ้าย


     


     

    "ร้องไห้อีกแล้วนะครับ"


     

     


     

     


     

     

         เซียอาน่าเบิกตากว้างอย่างตกใจพร้อมกับที่มือหนาของผู้อำนวยการจะค่อยๆปาดน้ำตาให้ออกไปจากใบหน้างาม ตัวเธอนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั้นกำลังร้องไห้อยู่


     


     

    "คะ คือ..ขอโทษค่ะ มันไหลออกมาเอง"

    "จะร้องออกมาก็ได้นะครับมันไม่ผิดหรอก ร้องออกมาให้หมดจะได้ไม่มีอะไรต้องหนักใจ ผมจะอยู่ข้างๆเอง"


     


     

         มือหนาย้ายจากข้างแก้วขึ้นไปวางบนหัวพร้อมกับลูบเบาๆเพื่อเป็นการปลอกใจ เซียอาน่านิ่งค้างไปชั่วครู่เมื่อได้ฟังสิ่งที่ผู้อำนวยการพูด บวกกับสัมผัสที่แสนอบอุ่นที่มีใครสักคนเข้ามาปลอบโยนแบบนี้


     


     

         'ไม่เป็นไรนะ ฉันจะอยู่ข้างๆเอง'

         ทั้งคำพูด และน้ำเสียงเหมือนกับในความทรงจำที่นานจนลืมเลือน ตั้งแต่ที่เสียเธอไป เซียอาน่าก็ใช้ชีวิตโดยการพึ่งตัวเองมาตลอด จนคุณน้ากับคุณอา มารับเธอไปเลี้ยง แต่ก่อนหน้านั้น ในทุกๆคืนที่ฝันร้าย ไม่มีอีกแล้วคนที่จะเข้ามาปลอบ ตอนที่เจ็บตัวจนได้แผล ไม่มีอีกแล้วคนที่จะอยู่ข้างๆ และปลอบใจ ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้น เธอเสียมันไปหมดแล้ว เธออยู่ตัวของเธอเองมานานมาก จนคิดว่าชีวิตนี้ ไม่ต้องการให้ใครมาปลอบใจ หรืออยู่เคียงข้างๆอีกแล้ว


     


     

    ใบหน้างามก้มล้งมองพื้น ริมฝีปากที่สั่นนั้นกำลังระงับอารมณ์ของตัวเองว่าอย่าร้องไห้ออกมานะ เพราะมันไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องร้องไห้ เพราะยังไง เธอก็อยู่แบบนี้มาตลอดนั้นแหละ...


     


     

    พรึบ...


     


     


     

    "ผะ ผู้อำนวยการ?"

    "ผมขอเสียมารยาท ผมคงปล่อยให้เด็กผู้น่าสงสารแบบคุณนั้น ต้องแบกรับอะไรเอาไว้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถึงมันจะไม่มากหรือช่วยอะไรเลย แต่ผมก็ขอแค่ได้กอดปลอบโยนคุณเถอะนะครับ"


     


     

         ศีรษะของเซียอาน่าถูกมือหนาของผู้อำนวยการดึงเข้าไปให้ชินกับอกของเขาจนได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ สิ่งที่เขาทำนั้นก็ไม่ได้ต่างไปจากผู้ใหญ่กำลังปลอบเด็กที่กำลังร้องไห้อยู่เลย เพียงแต่เด็กคนนี้นั้นดื้อไม่ยอมร้องออกมาก็แค่นั้น


     


     


     


     

         แต่เซียอาน่าก็ไม่ได้ขัดขืนเธอทำเพียงแค่ยืนนิ่งเอาหัวพิงองของเขาแล้วปล่อยให้มือหนานั้นลูบหัวเธอต่อไปเท่านั้น


     


     

         ถึงอยากร้องไห้อีก แต่มันก็ร้องไม่ออก


     


     


     


     


     


     


     


     


     


     

    "ดีขึ้นรึยังครับ?"


     


     

         เด็กสาวพยักหน้า แต่ผู้อำนวยการก็ยังแอบเห็นคราบน้ำตาบนหน้าอยู่บ้างก็ตาม แต่สีหน้าของเด็กสาวนั้นก็ถือได้ว่าดีกว่าก่อนหน้านี้เยอะแล้ว


     


     

    "เรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ผมว่าผมมีทางออกให้แล้วละ ถ้าคุณไม่อยากกลับ"


     


     

         เซียอาน่าเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเช็ดคลาบน้ำตาหัวเองออกอย่างลวกๆอีกครั้ง พร้อมกับจ้องมองผู้พูดด้วยแวตาแห่งความหวัง 


     

         แต่ไม่รู้ว่าคำตอบที่ได้รับนั้น จะให้ความหวังหรือความผิดหวังกันแน่.....


     


     

    "คุณทำความสะอาดเป็นไหมครับ?"


     


     


     


     


     

    [หอแรมแชตเกิล]

     


     

    "อย่างกับคฤหาสน์ผีสิงเลยแหะ..."


     


     

         เบื่องหน้านั้นคือสิ่งปลูกสร้างที่คล้ายกับคฤหาสน์ขนาดกลาง เซียอาน่ากับผู้อำนวยการยืนมองภาพเบื่องหน้าอยู่ที่หน้าประตูรั่วเหล็ก บรรยากาศรอบๆนั้นช่างมืดมน ต้นไม้ที่อยู่รอบๆก็แห้งเหี่ยวตายเรียบ มีหมอกจางๆและควันลงมาปกคลุม


     

         สภาพโดยรอบนั้นไม่ต่างจากคฤหาสน์ผีสิงอย่างที่เธอพูดเลยสักนิดเดียว


     


     

    "แต่ถ้าทำความสะอาจหน่อยก็พออยู่ได้นะครับ แต่ว่าถ้าคุณยูเมะคิดว่ามันน่ากลัวเกินไปผมว่า..."

    "ไม่เป็นไรค่ะ ก็จริงอยู่ที่มันดูน่ากลัวไปหน่อย แต่มันก็ดีกว่า ดูหรูกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย"

    "หรูหรอครับ? สำหรับผมนี้มันซอมซ่อ- เอ่อผมหมายถึง มันดูเก่ามากกว่าครับ ต้องขอโทษด้วยเพราะมีที่นี้ที่เดียวแล้วจริงๆที่ยังว่างอยู่ ที่พอจะให้คุณที่เป็นผู้หญิงแยกมาอาศัยอยู่ได้"

    ".....ฉันอยู่ได้ค่ะ"


     


     

         เซียอาน่าตอบไปแบบไม่คิดอะไรมากก่อนที่จะเปิดประตูรั่วแล้วเดินเข้าไป แต่ในใจนั้นอยากจะกระชากคอเสื้อผู้อำนวยการมาถามว่า...


     


     

          รู้ว่ามันซอมซ่อแต่ก็จะให้เด็กผู้หญิงมาอยู่ในที่แบบนี้อ่ะนะ!!


     

    แต่ยังดีที่เขามีเหตุผลมารองรับว่ามีแค่ที่นี้ที่เดี่ยวที่ยังว่างอยู่ เธอจึงต้องทำใจไม่คิดอะไรมาก ถึงยังไงที่นี้มันก็ดูดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้ตอนแรกจริงๆนั้นแหละ ตอนแรกเธอคิดว่าจะเป็นกระท่อมหลังเล็กๆ ไม่ก็เป็นแบบตึกห้องเช่าเก่าๆอะไรแบบนั้นซะอีก


     


     

    เมื่อเข้ามาด้านในสภาพทางเดินนั้นดูพุพัง มีใยแมงมุมขึ้นเต็มไปหมด พวกรูปภาพก็ขาด บ้างก็ตกลงมา และฝุ่นหนาเกาะอยู่ทุกซอกทุกมุม


     

    "งานช้างเลยนะเนี่ย...."


     

    เซียอาน่าพูดขึ้นมาเมื่อนึกถึงตอนที่ต้องทำความสะอาดที่นี้ และดูเหมือนจะต้องทำใหม่ทั้งหมดเลยด้วย


     

    "พออยู่ได้ใช่ไหมครับ"

    "ได้คะ แต่ก่อนที่จะได้พักผ่อน คงต้องทำความสะอาดยกใหม่หมดเลย"

    "น่าจะทีอุปรกณ์ทำความสะอาจอยู่ในตู้นะครับ"


     


     

         ผู้อำนวยการพูดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินนำหน้าเข้าไปยังห้องนั่งเล่น เซียอาน่ามองสำรวจไปรอบๆห้อง พวกของใช้ในห้องล้มเกะกะ พวกเฟอร์นิเจอร์ที่มีผ้าสีขาวคลุมปิดเอาไว้


     


     

    "ชั้นสองจะเป็นห้องพัก คุณยูเมะก็ไปเลือกเอานะครับว่าจะเอาห้องไหน"


     


     

    เด็กสาวพยักหน้า


     


     

    "ถ้างั้นผมต้องขอตัวกลับก่อน เดียวพรุ่งนี้เช้าผมจะมาชี้แจ้งรายละเอียจของงานที่เธอต้องทำให้นะครับ"

    "เข้าใจแล้วคะ"

    "อ่อ จริงด้วยสิ! ถึงนี้มันจะดึกแล้วก็เถอะ แต่หิวรึเปล่าครับ เมื่อกี้ระหว่างที่เดินมาด้วยกันเหมือนผมจะได้ยินเสียงท้องเธอร้องนะ"

    "อะ เอ่อ...ก็...คะ..ก็หิวนะ"


     


     

    เซียอาน่าเอามือกุมท้องพร้อมกับแก้วที่ขึ้นสีอย่างเขินอายที่ผู้อำนวยกายได้ยินเสียงท้องเธอร้องด้วย เพราะไม่รู้ว่าตั้งแต่หลุดมาที่นี้ นั้นเวลามันผ่านไปนานแค่ไหนกันแล้ว มื้อค่ำก็ยังไม่ได้กินอะไรลงท้องเลย มันก็เลยร้องขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่ามันจะดังถึงขนาดที่ผู้อำนวยการจะได้ยินขนาดนั้นหรอกนะ


     

    "ถ้างั้นเดียวผมจะไปหาอาหารมาให้ แต่เธอไม่ได้เคร่งครัดเรื่องห้ามกินมื้อดึกเหมือน เชนไฮท์คุงใช่ไหมครับ"

    "เอ่อ...ไม่ ฉันไม่ได้ต้องรักษาหุ่นขนาดนั้น ถ้าหิวก็กิน"

    "ถ้างั้นเดียวผมกลับมาพร้อมอาหารมาให้นะครับ ระหว่างนี้ก็จะพักผ่อนไปก่อนก็ได้ แล้วผมจะรีบกลับมา เพราะผมใจดียังไงละ"

    "...ขอบคุณค่ะ"


     

    เซียอาน่าโค้งหัวขอบคุณให้เล็กน้อย ก่อนที่ผู้อำนวยการจะยิ้มรับแล้วเดินออกไป


     


     


     

         เมื่อผู้อำนวยการออกไปแล้ว เซียอาน่าก็หันมามองสะภาพห้องรอบๆก่อนที่จะลองเดินไปเปิดไฟดู ปรากฎว่าไฟติด แล้วเมื่อเปิดไฟได้ก็ทำให้เห็นสภาพห้องได้ชัดมากขึ้น เซียอาน่าที่เห็นสะภาพห้องนั้นถึงกับเหงื่อตก


     

    "ก่อนอื่น ก็ต้องเริ่มทำความสะอาดก่อนจริงๆนั้นแหละ"


     


     


     


     


     


     


     


     


     

    ครืม....! ฟ่า!!


     


     


     


     


     

    "แย่ละสิฝนตกหรอเนี่ย"


     


     

         ในระหว่างที่เด็กสาวกำลังทำความสะอาดและจัดข้าวของอยู่นั้น จู่ๆข้างนอกหน้าต่างก็มีเสียงฟ่าๆดังขึ้น ก็ปรากฎว่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก พร้อมกับเสียงฟ้าร้อง เด็กสาวเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกใจไม่ดี ไม่ใช่ว่าเป็นพวกกลัวเสียงฟ้าร้องอะไรหรอกนะ แต่ที่เธอกลัวก็คือสิ่งที่จะตามมากับฝนมากกว่า


     


     

    ติ๋งๆ


     


     

    "หลังคารั่วด้วยหรอเนี่ย แบบนี้ต้องซ่อมทั้งหลังเลยมั่ง ก่อนอื่นมีอะไรมารองน้ำได้บ้างไหมนะ"


     


     

         เด็กสาวรีบวิ่งไปเปิดตามตู้ดูว่ามันพอมีอะไรใช้ได้บ้างที่จะมารองน้ำฝน แต่ขณะที่กำลังหาอยู่นั้นไฟในห้องก็เกิดติดๆดับๆ มือบางยกถังเก่าๆใบนึงขึ้นมาก่อนที่จะเอาไปวางตรงที่น้ำรั่ว แต่พอวางลงเท่านั้นละ....


     


     

    ปัก!


     


     

    "เวรละ ไฟดับ"


     


     

         มือบางยกขึ้นมาเกาหัวอย่างรำคาญใจ ที่ปัญหามันเยอะซะเหลือเกิน เซียอาน่าเดินไปค้นตู้เพื่อหาไม้ขีดกับตะเกียง เมื่อกี้ตอนที่จัดของอยู่เหมือนเธอจะเห็นไม้ขีดไฟอยู่กล่องนึงพอดี ส่วนตะเกียงมันก็วางอยู่ที่โต๊ะตัวเตี้ยนั้น


     

    ซึ่งมันควรที่จะมีปัญหาแค่ไฟดับ ถ้าไม่ใช่.....


     


     

    "...ล้อกันเล่นใช่ไหม..."


     


     

    ภายในกล่องไม้ขีด มีก้านไม้ขีดอยู่แค่สองก้านเท่านั้นเอง มือบางหยิบก้านไม้ขีดขึ้นมาก้านนึงก่อนที่จะทำการขุดมันกับกล่อง-


     


     

    แกร็ก!


     


     

         ก้านไม้ขีดหักคามือไปหนึ่งก้าน มือบางสั่นนิดๆเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเองที่กำลังจะระเบิดออกมา แต่ก็ต้องทำใจ และบอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไรๆ มันยังมีหวังอยู่อีกอัน มือบางหยิบก้านไม้ขีดอันสุดท้ายขึ้นมาก่อนที่จะเอาไปขุดกับกล่องอีกครั้ง


     


     

    พรึบ!


     


     

    ซึ่งครั้งนี้ความพยายามของเธอก็สำเร็จ แสงสว่าจุดเล็กๆปรากฎขึ้นสู่สายตา เด็กสาวยกยิ้มอย่างยินดีก่อนที่จะรีบเอาไปจุดต่อกับตะเกียง


     


     

    "อย่างน้อยก็...ขอให้ผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ก่อนละกันนะ"


     


     


     

    กุก กัก!


     


     


     

         ดวงตาสีฟ้าครามหันกลับไปตามต้นเสียงเมื่อกี้หูของเธอได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้นมาในห้องนั่งเล่นนี้ เด็กสาวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนที่จะส่องไฟในตะเกียงหันไปมองรอบๆ บรรยากาศที่มืดครึ่ง พร้อมกัยเสียงฟ้าฝนข้างนอกนั้นทำให้บรรยากาศในนี้นั้นดูน่ากลัวไปเลย


     

    เซียอาน่าพยายามส่องไฟมองไปรอบๆ แล้วคิดกับตัวเองว่ามันคงไม่มีอะไรหรอก อีกอย่างเธอไม่ใช่คนกลัวผี หรือเรื่องลึกลับอะไรพวกนั้นด้วย เพราะงั้นเธอถึงไม่กลัวที่จะเดินไปดูว่าเสียงที่ได้ยินนั้นน่ะเป็นเสียงของอะไร


     

    "หือ? นั้นมัน..."


     

    เมื่อลองเดินตามหาที่มาของเสียงไปเรื่องๆ สายตาของเธอก็หันไปเห็นอะไรบางอย่างที่ส่องสว่างอยู่ในความมืดสองจุด


     


     

         'นั้นมันอะไรน่ะ ดวงไฟหรอ? ไกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วด้วย'


     


     

    ขาบางก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวเมื่อเห็นว่าดวงไฟนั้นกำลังไกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความเร็ว จนเด็กสาวตัดสินใจที่จะหันหลังออกตัววิ่ง 


     

    แต่ก็ยังช้าไปอยู่ดี....


     


     


     

    "ฟุน๊าาาา!!!"


     


     


     


     

    ปัก!!  โครม!

         ร่างของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงก่อนที่มันจะปะทะเข้าหน้าของเธอเต็มๆดังปัก! ก่อนที่ร่างของเธอจะล้มลงไปนอนกับพื้น


     


     

    "อือ!? อื้ม!!"


     

    มือบางยกขึ้นมาพยายามดึงสิ่งที่มันเกาะติดอยู่ที่หน้าของเธอออกไป แต่เจ้าสิ่งที่เกาะอยู่นั้นก็เกาะแน่นไม่ยอมเปล่อเลย แล้วยิ่งเธอดึงมันก็ยิงเกาะแน่นขึ้น จนแทบหายใจไม่ออก ขนที่หนาและนุ่มปิดใบหน้าของเธอจนมิด พร้อมกับสัมผัสที่เปียกแฉะตามไรขน


     


     

    "คิดว่าแกจะกำจัดข้าได้เหรอ ข้าไม่ยอมหรอก!!"


     


     

         'เสียงแบบนี้ กริมม์หรอ!?'


     


     

    "ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องเข้าเรียนที่นี้ แล้วกลายเป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ให้ได้เลย!!"

    "ออกไอ!อันอายใอไอออก!!"(ออกไป! ฉันหายใจไม่ออก!!)


     


     

         เซียอาน่ารีบลุกขึ้นมานั่งกับพื้นก่อนที่จะพยายามแกะกริมม์ที่เกาะอยู่ที่หน้าเธอนั้นให้อออกไป จนในที่สุดเธอก็สามารถดึงกริมม์ออกไปจากหน้าของเธอได้สำเร็จ 


     


     

    "ทำบ้าอะไรเนี่ย! ฉันเกือบขาดอากาศหายใจตายแล้วรู้ไหม!"

    "เรื่องของแกสิ! ข้าไม่ยอมให้มาชุบมือเปิบหรอกนะ ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องได้เข้าเรียนที่นี้ให้ได้!"


     


     

    เจ้าแมวปีศาจโวยวายทั้งๆที่ยังถูกเด็กสาวใช้มือทั้งสองข้างจับมันเอาไว้อยู่ เซียอาน่ามองมันอย่างรำคาญใจกับสิ่งที่มันพร่ามไม่หยุด ถ้าจำไม่ผิดตอนที่เจอหน้ากันในห้องโลงศพนั้น ก็เห็นเอาแต่พูดว่าจะเป็นจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่บ้างละ จะเข้าเรียนที่นี้บ้างละ


     


     

    "ใจเย็นก่อนกริมม์หุบปากแล้วมาคุยกัน"


     


     

         เมื่อสิ้นคำกริมม์ก็มีท่าทางนิ่งไปพักนึงเมื่อได้ยินคำที่เด็กสาวพูด เซียอาน่าก็แปลกใจเหมือนกันที่กริมม์ยอมเชื่อฟังง่ายขนาดนั้นเลย แต่ในใจของเจ้าปีศาจแมวนั้น คำพูดของเด็กสาวทำให้มันนึกถึงก่อนหน้านี้ที่โดนเด็กสาวตะคอกใส่ ก็เลยทำให้มันนั้นหุบปากเงียบไปอย่างว่าง่าย


     


     

    "เอาละฟังนะ เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราก่อนหน้านี้ฉันอยากให้เรามาสงบศึกกันก่อน ถึงฉันจะไม่รู้ว่าทำไมนายถึงอยากเข้าเรียนที่นี้นัก แต่ว่าตอนนี้นายอาจจะถูกไล่ออกไปอีกก็ได้ถ้าเกิดโดนเจอตัว หรือไปก่อเรื่องขึ้นอีก"

    "หา!?ข้าเนี่ยนะก่อเรื่อง เจ้าโง่หน้ากาก กับกระจกนั้นตาไม่ถึงเองต่างหากละที่ไม่เลือกข้า!"


     

    แต่เงียบได้ไม่ถึงนาทีกริมม์ก็กลับมาโวยวายอีกครั้งจนเด็กสาวอยากจะกุมขมับ และดูท่าทางแล้วกริมม์คงจะไม่ยอมหยุดง่ายๆด้วย


     

    "ข้าน่ะไม่เหมือนกับมนุษย์โง่ๆที่ไร้เวทมนตร์แบบแกหรอก!"


     


     

         'เตะแมวเนี่ยติดคุกไหม?*'


     


     

         หางคิ้วของเด็กสาวกระตุกเมื่อกริมม์ด่าเธอว่าโง่ ที่ด่าว่าเธอไร้เวทมนตร์นั้นน่ะไม่เท่าไรหรอก เพราะมันคือเรื่องจริง แต่ที่รับไม่ได้คือมาด่าว่าเธอโง่เนี่ยนะ เกรดสอบเธอไม่เคยได้ต่ำกว่า B+ มาก่อนเลยนะ!


     


     

    " เพื่อเป้าหมายของการเป็นจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ ข้าก็ต้องเข้าเรียนที่นี้ให้ได้ ถึงแม้จะถูกไล่ออกไปอีกกี่ครั้งข้าก็จะแอบกลับเข้ามา เพื่อมาเรียนที่นี้ให้ได้!"


     


     


     


     

         'ไม่ว่ายังไงหนูก็อยากเรียนเค้นโด ต่อให้จะห้ามยังไงหนูก็จะเรียน เพื่อปกป้องคนสำคัญของหนู'


     


     


     

         กริมม์พูดขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่มุ่งมั่น คำพูดของกริมม์ทำให้ตัวเธอนั้นนึกถึงตัวเองในสมัยเด็ก ตอนที่เธอนั้นอยากเรียนเคนโด้ ตอนนั้นเธอทะเลอะกับที่บ้านยกใหญ่ เพราะที่บ้านนั้นมีทำเนียมที่สืบทอบกันมา ว่าลูกสาวต้องเรียนรู้การร่ายรำบูชา แต่เธอนั้นกลับเลือกต่างออกไป ที่จะไปเรียนดาบไม้เคนโด้


     


     

         เหตุผลของกริมม์ที่อยากจะเข้าเรียนที่นี่นั้นคืออะไรกันแน่นั้นเธอไม่อาจรู้ได้ แต่เธอมีความรุ้สึกว่าความตั้งใจนั้นมันคล้ายกับเธอ


     


     

    "ฉันเข้าใจความรู้สึกนั้นนะ"

    "ฟุน๊า!?"


     


     

    มือเรียวบางยืนไปลูบหัวของกริมม์เบาๆจนเจ้าแมวปีศาจยังอดตกใจสะดุ้งกับสัมผัสนี้ไม่ได้ แล้วไหนจะรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนที่มอบมาให้ ทำให้ลบเหลือใบหน้ายามโกรธตอนที่ตะคอกใส่มันได้จบปริทิ้ง


     

    เซียอาน่าลูปหัวของกริมม์เบาๆก่อนที่จะรู้สึกได้ว่าขนที่ตัวของกริมม์ยังเปียกอยู่เลย ดวงตาสีฟ้าครามมองไปรอบๆในความมืดเพื่อหาผ้า แต่ก็หาไม่เจอ แต่ถึงจะเจอผ้ามันก็สกปรกเกินไป ดังนั้นจึงไม่มีทางเลือก เธออุ้มกริมม์มาไว้บนตักก่อนที่จะเอาแขนเสื้อคลุมมาเช็ดตัวให้


     

    "ฟุน๊า!? ทำอะไรของแกเนี่ย!?"

    "เอาเหอะน่า..."


     

    เธอไม่สนใจเสียงประท้วงกับอาการดิ้นของกริมม์ เธอจับกริมม์ให้นั่งลงที่ตักดีๆก่อนที่จะเช็ดตัวของมันต่อไป กริมม์ที่เถียงสู้เด็กสาวไม่ได้ ก็ยอมนั่งอยู่เฉยๆให้เธอเช็ดตัวให้ ดวงตาสีฟ้าแอบลอบมองใบหน้าของเด็กสาว มันรู้สึกคุ้นเคยกับสัมผัสที่เด็กสาวมอบให้ แต่มันก็ไม่แน่ใจว่าเคยได้รับสัมผัมแบบนี้จากที่ไหนมาก่อน


     

    ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนแท้ๆ 


     


     


     


     


     


     


     


     


     


     

    "กริมม์จุดไฟให้หน่อย"

    "หา!? ทำไมข้าต้องทำละ!? พลังไฟอันน่าภูมิใจของข้าน่ะมันมีค่ามากกว่าจะมาจุดไฟตะเกียงกระจอกๆนี้น่ะ!"

    "แล้วมันเพระใครกันละที่เป็นคนทำให้มันดับน่ะ อ่อ แล้วก็ถอยมาจากตรงนั้นด้วยไม่งั้นเดียวน้ำฝนจะ-"


     


     

    ติ๋ง


     


     

    "ฟุน๊า!! น้ำฝนหยกใส่หัวข้าอ่าาา!"

    "ก็ถึงได้จะเตือนไง"


     


     


     

         หลังจากที่ทำการสงบศึกกับกริมม์ได้ในที่สุดตอนนี้เธอกำลังขอให้กริมม์ช่วยจุดไฟในตะเกียงให้หน่อย เพราะตอนที่เขาโผล่มากระโจมใส่หน้าเธอนั้น ทำให้เธอล้มแล้วตะเกียงก็ตกจนไฟข้างในดับไป


     

         ดีแค่ไหนแล้วที่มันไม่ลุกเผาพื้นไม้ของหอนี้น่ะ 


     


     

    "จุดไฟซะอย่าให้ต้องพูดซ้ำ ฉันจะได้ไปหาอะไรมารองน้ำฝน"

    "ใบหูไฟที่น่าภายภูมิใจของข้า นี้! แล้วแกไม่คิดที่จะทำอะไรกับรอบรั่วนั้นบ้างรึไง!"

    "ก็กำลังหาอะไรมารองอยู่นี้ไง แต่ถ้าจะซ่อมละก็คงต้องเอาไว้พรุ่งนี้ก่อนละ"


     

    กริมม์ลูบใบหูติดไฟของมันเบาๆ ก่อนที่ในที่สุดมันก็ยอมจุดไฟในตะเกี่ยงให้ จากห้องที่มืดก็สามารถมองเห็นอะไรได้มากขึ้น เพราะเมื่อกี้ถึงจะมีแสงจากใบหนูของกริมม์แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเลย แต่ตอนนี้มีไฟในตะเกี่ยงอีกครั้งแล้วก็ทำให้การมองเห็นกว้างขึ้น


     


     

    "เป็นเพราะแกไม่มีเวทมนต์สินะ ถึงไม่มีปัญญาซ่อมรอยรั่วนั้นได้น่ะ"

    "ใช่ ฉันไม่มีเวทมนตร์ แต่อย่างน้อยฉันก็รู้ว่าควรต้องทำอะไรบ้างละ อีกอย่างนะกริมม์ เลิกเรียกฉันว่า แก สักทีฉันมีชื่อนะ เซียอาน่า ยูเมะ ตอนที่อยู่หอกระจกก็น่าจะได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ"

    "แล้วทำไมข้าต้องสนเรื่องนั้นด้วย! ข้าอยากจะเรียกอะไรก็เรื่องของข้าสิ!"

    "เฮ้อ!....เบื่อจะเถียงกับนายแล้ว มานี้ มาช่วยหาอะไรมารองน้ำฝนหน่อย"

    "แกก็ทำเอ-!"


     


     

    "ถ้าไม่ช่วย ก็อดมื้อค่ำ"


     


     

         น้ำเสียงหวานตอบกลับมาอย่างนิ่งเงียบ และเด็ดขาด จนกริมม์ยังต้องรีบลุกขึ้นมายืนแข็งถื่อรอรับฟัง เพราะเสียงที่เด็ดขาดนั้นดูจะเอาจริงแน่ๆ ถ้ามันยังทำตัวมีปัญหากับเด็กสาวอยู่แบบนี้


     

         หนึ่งเด็กสาวกับแมวปีศาจต่างเดินออกไปที่ทางเดินก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้านกันไปหาอะไรมารองน้ำฝน เซียอาน่าถือตะเกียงในมือก่อนที่จะส่องไฟมองไปรอบๆ กับตามพื้นเพื่อเช็คดูว่ามีอะไรมาใช้ได้บ้าง กับพรุ่งนี้เธต้องทำความสะอาจอะไรบ้าง ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าต้องทำคนเดียงคงใช้เวลาเป็นอาทิตร์ แต่ตอนนี้มีกริมม์มาอยู่ด้วยแล้วมันคงง่ายขึ้นเยอะถ้าช่วยกันทำ


     


     

    "ฮิฮิฮิฮิฮิฮิ----!"


     


     

    "กริมม์...ตลกมากไหม เลิกเล่นแล้วไปหาของมา"


     


     

         เซียอาน่าตอบกับไปพร้อมกับมองหาขอไปด้วย ก่อนที่จะมีเสียงเหมือนกับอะไรตกดัง ตึง! เมื่อหันไปก็พบว่าเป็นกรอบรูปนั้นเองที่ตกลงมา


     


     

    "กริมม์!ถ้าไม่ช่วยก็อย่ามาทำลายข้าวของได้ไหม ถ้ายังไม่เลิก นายอดมื้อค่ำจริงๆด้วย"


     


     

         เซียอาน่าพูดออกไปด้วยความหงุดหงิดที่เจ้าแมวปีศาจนั้นนอกจากจะไม่ช่วยเธอแล้วยังจะมากวนเธออีก และเธอก็พูดจริงด้วยว่าถ้าเขายังไม่หยุด ถ้าผู้อำนวยการเอาอาหารมาให้ เธอจะไม่เหลือแบ่งให้มันกินเลย ข้าวสักเม็ดก็จะไม่ให้


     

    หลังจากที่พูดไปก็เหมือกับว่าเสียงรอบๆจะเงียบไป สงสันกริมม์คงล้มเลิกที่จะเเกล้งเธอแล้ว เธอจึงหันกลับไปมองหาขอต่อ แต่ไม่ทันไรก็มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรมาบินผ่านหลังเธอไป แต่พอหันกลับมาก็ไม่พบใคร ก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่มาจิ้มๆที่ไหล่


     


     


     

    จิ้มๆ


     


     


     

    "กริมม์!ถ้ายังไม่หยุดฉันจ-!"


     


     


     


     


     

    "บู!"


     


     


     


     

         ดวงตาสีฟ้าครามเบิกตากว้างอย่างตกใจ ก่อนที่ร่างกายนั้นจะนิ่งค้างไปเอง พร้อมๆกับภาพที่เห็นตรงหน้านั้น ร่างทั้งสามร่างสีขาวเหมือนกับผ้าปูโต็ะที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้าเธอ


     


     


     

    "ไม่ได้มีแขกมาที่นี้นานมากแล้วนะเนี่ย...."


     

    "เด็กผู้หญิงหรอ? ในโรงเรียนนี้น่ะนะ....?"


     

    "ฮิฮิฮิฮิฮิฮิ เพื่อน นายหลอกเธอแรงไปรึเปล่า ดูสินิ่งไปแล้ว"


     


     


     


     


     


     

    "เฮ้ยแก! ยัยมนุษย์ พูดอยู่กับใครน่ะ บอกให้ข้าคนนี้ไปหาอะไรมารองน้ำฝนแต่แกกับมาแอบคุยอยู่กับ-!"


     


     


     

    ตุบ! โครม!!


     


     

         นอกจากเสียงพูดของกริมม์ที่ลอยมาแต่ไกลแต่เสียงของเขาก็เงียบไปพร้อมกับเสียงของถังที่ตกลงพื้นเสียงดีงเรียกให้สายตาสามครู่หันไปมองเขา ก่อนที่ร่างสีขาวทั้งสามนั้นจะยกยิ้มอย่างเจ้าเลห์ขึ้นมา


     


     

    "ว้าว---มีแขกมาเพิ่มด้วยละ"

    "คราวนี้เป็นเจ้าแมวปีศาจหรอเนี่ย"

    "ฮิฮิฮิฮิ จะได้มีเพื่อเพิ่มแล้วสินะ"


     


     


     


     


     

    "ย...ยัยมนุษย์"


     


     

    "ผีหลอกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!"


     


     


     

         ทั้งเสียงกรีดร้องของกริมม์ดังขึ้นก่อนที่จะวิ่งมาหลบหลังของเด็กสาว เจ้าผีสามตัวเมื่อเห็นแบบนั้นยิ้งชอบใจ และตั้งใจที่จะหลอกให้กลัวมากกว่านี้


    "ฮิฮิฮิฮิฮิ กลัวละสิ"


     

    ผีตัวนึงพูดพร้อมกับยิ้มขำๆ และทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ เซียอาน่ารีบก้มหลบทันควันพร้อมกับดึงตัวกริมม์ให้หลบลงมาด้วย


    เอาตามตรงผีพวดนี้มันไม่ได้หน้าตาหน้ากลัวเลยสักนิดเดียวถ้าเทียบกับตำนานผีที่โลกเก่าของเธอ แต่ขึ้นชื่อว่าผีที่ไม่มีอะไรเป็นหลักฐานยื่นยันเป็นรูปธรรมได้ว่ามันจะไม่ทำร้ายเรา ดังนั้นระวังตัวไว้ก่อนเป็นการดีที่สุด


    เซียอาน่าเป็นคนไม่กลัวผี แต่ถ้ามันสามารถทำร้ายเธอได้ก็กลัวเหมือนกัน

     

    "น่ารำคาญจริงๆเลยเจ้าพวกผีผ้าลอยได้พวกนี้เนี่ย!"


    อดไม่ได้ที่เธอจะบ่น ร่างบางออกตัววิ่งกลับไปตั้งหลักก่อนพร้อมกับอุ้มกริมม์ที่กลัวจนแข็งค้างไปแล้วไปด้วย 


    เมื่อพวกผีเห็นว่าเด็กสาววิ่งหนีไปพวกมันก็หัวเราะชอบใจคิดว่าเด็กสาวคงกลัวเลยวิ่งหนี พวกมันจึงลอยตามเธอไป


    "มันตามมาแล้วววว!!"


    กริมม์ที่พอได้สติแต่ก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อเห็นผีไล่ตามหลังมา เซียอาน่าพยายามจะวิ่งกลับไปที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้งเพราะยังไงตรงนั้นมันก็สว่างกว่าทางเดินตรงนี้เป็นไหนๆ 


    ทั้งที่คิดแบบนั้นก็ไม่วายมีผีมาโผล่ดักหน้า เจ้าผีตรงนั้นพุ่งตรงมาหาเธอ เซียอาน่าที่ไม่รู้ว่าครบจะทำยังไงเลยหยิบกรอบรูปที่ตกพื้นอยู่มาปาใส่


    แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเมื่อกรอบรูปที่ปาออกไปนั้นมันดันทะลุผ่านร่างของผีไป

     

    "ฮิฮิฮิ ของในโลกมนุษย์น่ะสัมผัมตัวพวกเราไม่ได้หรอก~"


    "ไปให้พ้นนะเจ้าผีบ้า!!"


    โครม!!


         กริมม์ที่อยู่ข้างๆนั้นพ้นไฟใส่ เมื่อเจ้าผีนั้นจะพุ่งเข้ามาใส่เด็กสาว และดูเหมือนว่าไฟนั้นจะได้ผลด้วย เจ้าผีนั้นร้อนไฟก่อนที่จะหนีไป


    "ขอใจนะกริมม์"

    "ของกล้วยๆ"


    กริมม์ยกยิ้มอย่างถูมิใจ แต่มันก็ต้องร้องเสียงหลงและพ้นไฟมั่วไปทั่ว เมื่อมีผีตนนึงโผล่มาจากข้างหลังของมัน เซียอาน่าเห็นท่าไม่ดีรีบดึงกริมม์มาอุ้มไว้อีกครั้งก่อนที่จะรีบวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่น แต่ก็ไม่วายมีผีโผลมาดักหน้าอีกแล้ว


    ผีตนนั้นพุ่งตรงเข้ามาใส่ เมื่อไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้ว และผีตนนั้นก็ไกล้เข้ามาเรื่อยๆ จู่ๆร่างกายของเซียอาน่าก็ขยับไปตามสัญชาตญาณ


    "ไปให้พ้น!!"


         อัก! โครม!!


    เรียวขาข้างขวายกขึ้นตะหวัดไปข้างหน้า เป็นจังหวะพอดีที่ผีตนนั้นพุ่งเข้ามาถึงตัว แทนที่ผีจะหลอกทะลุผ่านร่างเด็กสาวไป กลับกายเป็นถูกเรียวขาสวยเตะเข้าที่ใบหน้า จนร่างของมันหมุนไปตามแรงเตะกระเด็ดไปกระแทกกับกำแพง เข้าอย่างจัง


    ท่ามกลางสายตาที่แสนจะตกใจและตะลึงของผีอีกสองตน กับกริมม์ร่วมถึงเซียอาน่าด้วย.....


     


     

    "สายันสวัสดิ์ครับบบ!คุณยูเมะ ผมนำอาหารแล้วก็พวกของใช้เล็กๆน้อยๆมาให้ครับ!"


     


     

         ร่างของผู้อำนวยการเปิดประตูโผล่เข้ามาด้วยใบหน้าลั่ลลา พร้อมกับในมือที่มีถุงใส่อาหาร กับถุงกระดาษอีกใบเข้ามา ในคราแรกเขาคิดว่าจะได้เห็นภาพเด็กสาวที่กำลังทำความสะอาจหอโกโรโกโสนี้อย่างตั้งอดตั้งใจเสียอีก แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า



    "ยังเจ็บอยู่ไหม? ขอโทษอีกครั้งนึงจริงๆนะ"

    "ไม่เป็นไร มันก็นานแล้วนะที่ไม่ได้ถูกสัมผัสตัว ถึงจะเจ็บไปหน่อยก็เถอะ"

    "ขอโทษจริงๆค่ะ"


         ภาพที่เด็กสาวกำลังพูดคุยกับผีตนนึงอยู่ พร้อมกับลูบแก้มของมันไปด้วยใบหน้าสำนึกผิด แต่ผีตนนั้นก็ดูเหมือนจะไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร ดูเหมือนจะยิ้มอยู่ซะด้วย แต่ก็แอบมีน้ำตาเล็ดรอดออกมาจากหางตา รู้สึกดีที่ถูกสัมผัสแต่มันก็เจ็บ


    "นี่ หนูเซียจะให้ผ้าพวกนี้ไปไว้ที่ไหนดีละ?"

    "อ้ะ เอาไว้ที่ห้องเก็บของก็ก่อนได้นะคะ เดียวค่อยเอาไปซักพรุ่งนี้"


         เด็กสาวที่หันไปพูดคุยกับผีอีกตนที่กำลังใช้เวทมนตร์ของมันในการควบคุมผ้าสีขาวใบลอยขึ้น ก่อนที่มันจะนำผ้าเหล่านั้นไปเก็บในห้องเก็บของ


    "นี่ๆ ฉันเอาแผ่นไม้ไปตอกบนหลังคาให้แล้วนะ น่าจะกันน้ำฝนให้ผ่านคืนนี้ไปได้"

    "ขอบคุณนะ"
     

         เด็กสาวหันกลับไปยิ้มให้ผีตนนีงที่ลอยทะลุลงมาจากเพดาล ก่อนที่เธอจะหยิบไม้กวดมากวาดพื้นต่อ


     

         ผู้อำนวยการมองภาพทุกอย่างทุกคำพูดด้วยความไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผีพวกนี้มาจากไหน แล้วไหนถึงดูสนิทสนมกับเด็กสาวได้เร็วขนาดนั้น


    "นี่ผมพลาดอะไรไปรึเปล่าครับเนี่ย?"


    "อ้ะ? ผู้อำนวยการ! มาแล้วหรอคะ?"


         แล้วเหมือนเด็กสาวจะสังเกตเห็นเขาเข้าพอดี จึงละมือจากการกวาดพื้นหันมาหาเขาแทน แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรกันกริมม์ที่พึงจะไปเช็ดหน้าต่างชั้นบนก็ลอยตัวลงมา และนั้นทำให้มันเข้าปะทะกับผู้อำนวจการพอดิบพอดี


    "เจ้าทานุกินั้นนิน่า!? ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้!"

    "ฟูน๊า!? เจ้าหน้ากากนั้น"


         กริมม์รีบบินไปหลบหลังเด็กสาวทันที ผู้อำนวยการนั้นถามยกใหญ่เลยว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นก่อนที่เขาจะมา ซึ่งคนที่ต้องเป็นคนอธิบายมันก็คือเซียอาน่าเอง เธอก็เล่าความจริงที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง แล้วเมื่อผู้อำนวยได้ฟังก็รู้สึกแปลกใจไม่ใช่น้อย


    "ไม่ใช่แค่ทานุกิคุงที่เป็นปีศาจ แต่คุณยังสามารถกำราบผีได้อีกหรอครับเนี่ย ไม่ใช่ว่าจะเห็นกันง่ายๆนะ"


    จากที่ฟังมา ดูเหมือนเด็กสาวนั้นจะมีความสามารถในการควบคุมเจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อยนั้นได้ดี และไหนจะยังสามารถสามารถจัดการกับผีได้แบบตัวปล่าวโดยที่ไม่ต้องใช่เวทมนตร์อีก ซั้งนั้นช่างเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย


         ดูเหมือนเธอจะมีอะไรที่พิเศษอยู่ในตัวมากกว่าเด็กสาวที่ไร้เวทมนต์ซะแล้ว

        

    "คือว่าผู้อำนวยการคะ ฉันมีเรื่องอยากจะขอ ขอให้กริมม์อยู่ที่นี้กับฉันได้ไหมคะ?"


         ไม่ใช่แค่ผู้อำนวยการที่มองมาที่เด็กสาวด้วยความสงสัย แต่กริมม์เองก็มองกลับมาด้วยเช่นกัน ว่าเด็กสาวนั้นตั้งใจที่จะทำอะไร


     

    "ฉันที่ไม่มีเวทมนตร์ ถ้ามีกริมม์ที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้มาอยู่ข้างๆละก็ มันคงจะอะไรๆง่ายขึ้นเยอะเลยละคะ"

    "แน่ใจหรอครับ แต่เขาเป็นปีศาจนะ"

    "แต่ก็เป็นปีศาจที่ช่วยฉันไว้นะคะ"
     

    ผู้อำนวยการเมื่อฟังแบบนั้นพร้องกับมองไปที่กริมม์ที่ยังคงแอบอยู่ที่หลังของเด็กสาว แต่มันก็ไม่ได้แอบเพราะกลัวหรืออายอะไร แต่ที่มันยังคงเงียบปากไม่พูดแซกอะไรเพราะมันเองก็อึ่งกับสิ่งที่เด็กสาวพึ่งพูดอออกมาอยู่ เด็กสาวเองก็ยิ้มน้อยๆส่งไปให้เป็นการขอบคุณกริมม์ที่เมื่อกี้เขาพยายามช่วยเธอ


     

    แววตาสีทองมองไล่ไปตามทางเดิน เขาสัมผัสได้ถึงไอพลังเวทมนตร์ไฟของกริมม์ที่ยังหลงเหลืออยู่มาก และแค่มองดูก็รู้แล้วว่ารอยไหม้ตามพื้นนั้นต้องเกิดจากเวทย์ไฟแน่ๆ แต่หนึ่งในไอพลังเวทย์ไฟของกริมม์นั้น มันยังมีอีกพลังนึงปนอยู่ด้วย


     

    ก่อนที่สายตาของผู้อำนวยการจะหันไปเห็นสิ่งที่อยู่เอวของเด็กสาว ดาบปากกสีขาวเรืองแสงเล็กๆก่อนที่มันจะหายไป

     


     

        


    "ทั้งที่คุณกับทานุกิคุงไม่ได้เป็นคู่หูหรือเพื่อนกันแท้ๆ......ช่างใจดีดังเลยนะครับ"

    "ใจดีไม่เท่าคุณหรอกค่ะ ฉันก็แค่เห็นว่ามันไม่น่ามีปัญหาอะไร ถึงยังไงที่นี้ก็เป็นโรงเรียนเวทมนตร์ กริมม์เองก็ใช้เวทมนตร์ได้ต่างจากฉัน อีกอย่าง ถ้ามีกริมม์อยู่ด้วยเขาคงช่วยฉันทำงานได้เยอะเลย จริงไหมคะผู้อำนวยการ"


     


     

         เซียอาน่ายกยิ้มย้อนกลับไปให้ผู้อำนวยการ เขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไรมันก็จริงอยู่ในสิ่งที่เด็กสาวพูด ความสามารถของกริมม์นั้นถึงจะไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่อะไร แต่มันก็ไม่บ่อยนักหนอกที่จะมีปีศาจมาสนใจเรียนรู้


     

    ส่วนตัวเด็กสาวที่ไร้เวทมนตร์นั้นเองก็มีพลังบางอย่างที่ถูกซ่อนเอาไว้ที่แม้แต่กระจกแห่งความมืดก็มิอาจรู้ได้

    ตัวตนตองสองคนนี้นั้นเป็นที่น่าจับตามองมากพอกันว่าที่ตัวตนกับพลังที่แท้จริงนั้นจะเป็นยังไง


     


     

    "ที่เธอพูดมันก็ถูกครับ อืม...ก็ได้ครับ เขาจะอยู่ที่นี้กับเธอก็ได้"

    "จริงหรอ!!"

    "ครับ แต่ว่าไม่ได้อยู่ในฐานะนักเรียนหรอกนะ เธอเองก็ต้องอยู่ช่วยคุณยูเมะเขาทำงานในโรงเรียนนี้"

    "หา!?ได้ไงอ่ะ ข้าอุส่าร์ช่วยไล่ผีไปให้ การตอบแทนควรที่จะให้ข้าได้เข้าเรียนสิ!"

    "คงทำแบบนั้นไม่ได้หลอกครับ เพราะเธอพึ่งจะก่อวีรกรรมเอาไว้ที่หอกระจกแล้วจู่ๆผมจะให้เธอเข้าเรียนแบบนั้น คนอื่นเขาจะว่ายังไง ที่ผมให้ได้ในตอนนี้มากสุดก็...."

    "ก็...?"


     


     

     

    "ตำแหน่ง แม่บ้าน คู่กับคุณยูเมะเขานั้นแหละครับ"


     


     


     

    "หาาาาา!!?"


     


     

         หลังจากที่กริมม์กับผู้อำนวยการถกเถียงกันสักพักจนในที่สุดคนที่เป็นคนจบศึกฝีปากนั้นก็ไม่พ้นเซียอาน่าอยู่ดี เธอได้พูดห้ามกริมม์ด้วยเสียงนิ่งติดรำคาญจนมันยอมเงียบปากไป แม้แต่ผู้อำนวยการเองยังแอบสะดุ้งไม่ได้เลย และเขายังมีบอกอีกว่า


     

    ดูเหมือนนอกจากพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวแล้ว ตัวของเซียอาน่าเองยังมีความสามารถควรคุมสัตว์วิเศษได้ด้วยสินะ เพราะสามารถทำให้กริมม์เชื่องได้ด้วย และแน่นอนว่าเมื่อพูดแบบนั้นเสียงโวยวายของกริมม์ที่บอกว่า ข้าไม่ใช่สัตว์เลี้ยงนะเฟ้ย! ก็ดังขึ้นตามมา


     


     

     

     

    "งั้นเอาไว้พรุ่งนี้ผมจะมาชี้แจ้งงานให้นะครับ"

    "ค่ะ ขอบคุณที่เป็นธุระให้นะคะผู้อำนวยการ"

    "ไม่เป็นไรครับการช่วยเหลือเหล่าเด็กๆที่กำลังลำบากเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่ดีอยู่แล้วครับ"


     

         เซียอาน่าแอบยิ้มแห้งๆกับการยอตัวเองของผู้อำนวยการ 


     


     

    หลังจากที่เธอกับกริมม์กินอาหารที่ผู้อำนวยการนำมาให้แล้วเสร็จเธอก็ได้เดินมาส่งเขาที่หน้าประตู แต่ก่อนที่เขาจะเดินจากไป ก็เหมือนกับว่าเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พร้อมกับยืนถุงอีกอันมาให้


     

    "ของใช้ส่วนตัว แล้วก็ ของที่คุณต้องใช้พรุ่งนี้ครับ"

    "ขอบคุณ...ค่ะ"


     

         มือบางที่กำลังจะยืนไปรับถุงนั้นหยุดชะงับไปแวบนึงเมื่อเธอเห็นรอยยิ้มกลุ่มกลิ่มของผู้อำนวยการที่มันดูไม่น่าไว้ใจสุดๆ แต่สุดท้ายเธอก็รับถุงนั้นมาก่อนที่จะก้มมองลงไปในถุง


     


     

    ของที่อยู่ข้างในก็จะมีพวกแปรงสีฟันยาสีฟันสบู่ ผ้าขนหนู แล้วก็.....


     


     

    "ฉันต้องใช้มันจริงหรอคะ"

    "แน่นอนครับ แล้วพรุ่งนี้ผมจะรอดู"


     


     

         ผู้อำนวยกายยกนิ้วให้ก่อนที่จะยื่นมือไปดึงหมวกขึ้นโค้งน้อยๆเป็นการบอกลาก่อนที่จะเดินจากไป แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวเสียงเรียกของเด็กสาวก็ดังขึ้น


     


     

    "ผู้อำนวยการ!"


     


     

         เขาหันกลับไปตามต้นเสียงเด็กสามที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูหอพักมองกลับมาที่เขา เธอโค้งหัวให้เขาก่อนที่จะเอ่ยคำพูดออกมา


     

    "ขอบคุณ ที่ช่วยเหลือฉันนะคะ ขอบคุณจริงๆ"


     


     

         รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กสาวนั้นแสดงถึงความจริงใจ และขอบคุณจากใจริง แววตาสีทองจ้อมมองมัน สบเข้ากับดวงตาสีฟ้าคราม ที่ดูมีความหวังและดูสดใสมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ขึ้นมานิดนึง เมื่อเห็นแบบนั้นมุมปากของชายหนุ่มก็ยกยิ้มขึ้นมา


     

    "ไม่มีปัญหาครับ เพราะผมใจดียังไงละ"


     



     

    [ห้องนอน]


     

    "ฮัดชิ่ว! ในนี้ฝุ่นเยอะชะมัด!"


     


     

              กริมม์ที่นั่งอยู่ที่เตียงจามขึ้นมาเสียงดังเพราะแม้แต่ในห้องนี้ก็มีฝุ่นเยอะมาก ถึงแม้เซียอาน่าจะจักของให้เข้าที่ กับปัดฝุ่นออกไปบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นของพวกนี้ก็ต้องเอาไปซักใหม่หมดอยู่ดี แต่ทั้งหมดนั้นคงต้องเริ่มทำพรุ่งนี้


     

    เซียอาน่าหลังจากที่ไปอาบน้ำแล้วถอดชุดพิธีการออก แต่เพราะเธอไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนเธอจึงต้องใส่เสื้อในตัวเติม กับเสื้อเชิดสีดำตัวในตัวเดียวนอน จะให้ใส่กางเกงผ้าขายาวนอนแบบนั้นด้วยมันไม้สบาย อีกอย่างที่นี้ก็มีแต่เธอกับกริมม์ แต่งตัวน้อยชิ้นแค่นี้ไม่น่ามีปัญหาหรอก


     


     

    เซียอาน่าเดินถือเสื้อคลุ่ฝมไปที่หน้ากระจกบานใหญ่บานเดียวในห้องมือบางสางผมสักทีสองทีพอเป็นพิธี ก่อนที่จะหันไปหยิบของบางสิ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง


     

    ขวดแก้วสีใส่ที่มีน้ำวิเศษจากบ่อเลเธเธอวางเอาไว้ที่หน้ากระจก แต่กับรูปถ่ายที่ถูกเผานั้นเซียอาน่ายังคิดไม่ออกมาว่าควรจะเก็บมันไว้ที่ไหนดี เพราะถ้าจะให้พกติดตัวไปไหนมาไหมแบบเมื่อก่อนก็คงจะไม่ได้แล้ว


     

    มือบางยืนไปหยิบหนังสือเก่าๆมาเล่มนึงก่อนที่จะเปิดหน้ากลางแล่ววางรูปถ่ายแนบลงไป ตอนนี้คงต้องเก็บเอาไว้ในนี้ก่อน เอาไว้ค่อยมีเวลาเธอค่อยหาอะไรมาใส่มันเก็บเอาไว้


     


     


     

    "รูปถ่ายนั้น สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?"


     


     

         เซียอาน่าหันกลับไปตามต้นเสียงก่อนที่จะพบว่ากริมม์กำลังมองมาที่เธออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว มันจ้องมองไปที่สมุดที่เธอพึ่งจะแนบรูปถ่ายลงไป เด็กสาวไม่แน่ใจว่าที่กริมม์ถามแบบนั้นเพราะมันสงสัยหรือว่าอะไร แต่คำตอนที่เธอตอบมันได้นั้นก็มีอยู่แค่คำตอบเดียว


     

    "ใช่ มันสำคัญกับฉันมาก"


     


     


     

         'เพราะมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับเธอ ที่ฉันเหลือกอยู่'


     


     

         แน่นอนว่าเธอไม่ได้พูดประโยชท์ท้ายนั้นออกไปให้กริมม์ฟัง เพราะถึงเล่าไปมันก็คงไม่เข้าใจ และก็คงจะถามต่อไปเรื่อยๆด้วยซึ่งเธอก็ขี้เกี่ยจจะตอบ


     


     


     

    "นายอาจจะไม่เข้าใจมันนะ แต่ ถ้านายมีคนคำสัญ คนที่รักมากที่สุด รักมากจนสามารถตายแทนเขาได้ แต่ถ้าวันนึงเขาหายไป แล้วมีของของเขาอยู่อันเดียว ของสิ่งเดียวที่ยังทำให้จำเขาได้ ถ้าวันนึงมันถูกทำลายไป นายจะรู้สึกยังไงละ"

    "ไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะ!"

    "...งั้นถ้ามีใครมาเหยียบทูน่ากระป๋องของนายจนเละ นายจะโกรธไหม?"

    "แน่นอนว่าต้องโกรธสิ!!"


     

    "นั้นแหละ ตอนนั้นฉันเองก็รู้สึกแบบนั้น"


     


     

    กริมม์มองรอยยิ้มเศร้าๆบนใบหน้าของเด็กสาว เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังปกติดีอยู่เลย แต่พอมาพูดถึงเรื่องนี้กลับทำตัวแปลกไป


     


     

         'เอาคืนมานะ!!'


     

         'หุบปาก!! แกไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่ามาพูดนะ!'


     


     

    กริมม์นั้นไม่เข้าใจจริงๆนั้นแหละว่าทำไมเด็กสาวถึงได้มีท่าทางแปลกไป ซึ่งอาการเหล่านั้นจากที่มันเจอมากับตัว ทุกๆครั้งมันจะเกี่ยวกับรูปถ่ายนั้น


     

    แ่ล้วจากคำพูดของเด็กสาวนั้นมันก็มีความหมายได้อย่างเดียวว่า รูปถ่ายนั้นมีความสำคัญต่อจิตใจของเด็กสาวมากๆ และตัวมันเอง ก็พึ่งจะทำลายของชิ้นสำคัญนั้นของเด็กสาวไป


     


     


     


     

    "ฉันขอโทษนะกริมม์"


     


     


     

    กริมม์ที่กำลังจมกับความคิดของตัวเองอยู่นั้น เงยหน้าขึ้นมาสบเข้ากับใบหน้าของเด็กสาวด้วยความไม่เข้าใจ


     

    "น่ะ นี่แก ขอโทษข้าเรื่องอะไร?"

    "ตอนนั้นที่ตะคอกนายไปฉันขอโทษ"


     


     

         ตอนนั้นงั้นหรอ กริมม์คิดถ้าเป็นเวลาปกติกริมม์คงจะย้อนกลับไปว่าสวมควรแล้วที่เด็กสาวต้องมาขอโทษที่มาตะคอดใส่มัน แต่เวลานี้เมื่อได้รู้ว่ารูปถ่ายใบนั้นที่ตัวมันพึ่งจะเผาไป มันมีผลต่อความรู้สึกของเด็กสาวมากขนาดไหน


     

         เด็กสาวที่ออกหน้าแทนเขา เด็กสามที่มอบความรู้สึกที่แสนอบอุ่นที่ตนเองก็ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน


     


     

    มันเป็นคนทำลายมันเอง


     


     

    "ที่ฉันขอโทษเพราะฉันรู้ตัวว่าตัวเองนั้นทำผิดไป ถึงนายจะไม่สนใจ หรือคิดอะไร ฉันก็แค่อยากบอกให้นายรู้เอาไว้เท่านั้น"


     


     

         เซียอาน่าพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไรเพราะถึงยังไงเธอก็ได้พูดสิ่งที่ติดค้างในใจออกไปแล้ว ว่าอย่างน้อยๆก็ได้ขอโทษ


     


     

    "รีบเข้านอนเถอะเดียวพรุ่งนี้เราต้องรีบตื่นเช้านะกริมม์"


     


     

         เซียอาน่าปิดไฟในห้องก่อนที่จะเดินมานอนที่เตียง แล้วอาจด้วยความเหนื่อล้าที่สะสมมาทั้งวันทำให้เวลาไม่ถึงนาทีเด็กสาวก็หลับไปแล้ว กริมม์มองไปที่ใบหน้ายามหลับของเด็กสาวมันสังเกตุเห็นว่า เปลือกตาที่ปิดสนิทนั้นเหมื่อกับมีน้ำตาคลออยู่ด้วย


     


     


     


     


     


     


     


     


     

    พลึบ!!!

         'นี่แก!กล้าดียังไงมาผลักข้า!กับอีแค่รูปถ่าย ทำไมถึงต้อง-'


     


     

         'หุบปาก! แกไม่รู้อะไรเลยอย่ามาพูดนะ!!'


     


     

          แปะ...แปะ...


     


     

         กริมม์ยื่นอุ้มเท้าหน้าไปปาดน้ำตาที่เปลือตานั้นออก ก่อนที่จะจ้องมองมันนิ่งๆ ที่อุ้มเท้าที่มีน้ำตาของเด็กสาวอยู่ กริมม์ยกขึ้นมาเลียไปทีนึง นอกจากรสชาติเค็มนิดๆที่ปลายลิ้นแล้ว มันก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ถูกส่งผ่านมาด้วย


     


     


     


     

         'ของสิ่งเดียวที่ยังทำให้จำเขาได้ ถ้าวันนึงมันถูกทำลายไป นายจะรู้สึกยังไงละ'


     


     


     

    ภาพรูปถ่ายที่ถูกเผาจนเกือบจะมอดไหม้ด้วยเปลิวไฟสีฟ้าของมันเอง พร้อมกับร่างของเด็กสาวที่ก้มลงกอดรูปถ่ายนั้นเอาไว้แนบอกพร้อมกับน้ำตาสใส่ที่ไหลลงมาอาบแก้ม....


     


     

    กริมม์ล้มต้มลงนอนที่ข้างๆหัวของเด็กสาวก่อนที่จะหลับตาลงสู่ห้วงนิทราไปอีกคน โดยพูดทิ้งท้ายคำๆนึงเอาไว้ ต่อให้เด็กสาวจะไม่ได้ยินก็ตาม แต่มันก็พูดออกไปแล้วจากความรู้สึกจริงๆ...


     


     


     


     

    "ขอโทษ...."


     

     

    ____________________________________________________________________________________________________

     


     วาดโดยไรท์เอง

    อยากรู้ว่ามีใครจิ้นเซียกับผอ.บ้างไหม เพราะไรท์ก็เป็นหนึ่งในนั้น^///^

     


     

    ถ้าใครอยากส่งแฟนอารต์มาให้สามารถส่งมาได้ทางแฟนเพจที่หน้านิยายได้เลยนะค่ะ ถือว่าช่วยคนแต่งด้วยให้มีภาพประกอบ

     

    ช่วงนี้อาจจะไม่ได้มาลงบ่อยๆ เพราะไรท์ต้องรีบทำงานส่งอาจารย์ งานที่วิลัยมันเยอะมาก

     

    ถ้าเจอคำผิดต้องขอโทษด้วยคะ

     



    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×