คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนพิเศษ วันวาเลนไทน์
ตอนพิเศษนี้ แต่งขึ้นเนื่องด้วยเดือนแห่งความรักในเดือน กุมภาพันธ์ และเพราะไม่ได้ทำการโหวดว่าจะเอาใครมาจิ้นมาหวานกับตัวเอกดี ดังนั้นไรท์จึงคิดว่าเอาตัวละครหนุ่มๆที่เกิดในเดือนนี้มาละกัน
ถึงจะช้าไปสักหน่อยก็เถอะ ชั่วโมงเดียวเอง
ตอนพิเศษนี้ไม่มีส่วนเกี่ยงข้องกับเนื้อเรื่องหลัก แต่งขึ้นเนื่องด้วยวันแห่งความรัก กับตัวละครที่เกิดในเดือนนี้ ซึ่งจะมีหนุ่มมาหวานกับตัวเอก 2คนเท่านั้นในตอนนี้ ขอบอกก่อนว่าตัวละครจะมีความ ooc มากตามแบบที่ไรท์คิดนะ
ซึ่งหนุ่มผู้โชคดีคนแรกนั้นก็คือ....
.
.
.
.
______________________________________________________________________________
"โอ๋! เซียจังนี่น่า หวัดดีจร้า!"
"รุ่นพี่เคเตอร์? บังเอิญจัง มาซื้อของเหมือนกันหรอ"
เซียอาน่าที่กำลังเดินดูของในร้านของแซม ระหว่างที่รอให้เจ้าของร้านนั้นเดินไปเอาของที่เธอสั่งมาให้ ก็ต้องหันไปตามต้นเสียงเรียกเมื่อมีคนเรียกตน ซึ่งคนๆนั้นก็คือรุ่นพี่ เคเตอร์ ผู้มีความเฟรนลี่สูง นั้นเอง
"ใช่ ก็ว่าจะมาซื้อ แผ่นฟิล์มมือถือไปเปลี่ยนหน่อยน่ะ พอดีไม่ทันระวังจนทำให้มือถือไปโดนขอบโต๊ะเข้า จนมันแตกน่ะ"
เคเตอร์พูดขึ้นพร้อมกับโชว์มือถือเครื่องโปรดของเขาให้เด็กสาวดู ที่หน้าจอมีรอยแตก
"งั้นหรอ แย่เลยนะนั้น แล้วมีอะไรเสียหายบ้างไหม?"
"ไม่ๆ แค่ฟิล์มแตกเฉยๆนะ แล้วเซียจังมาซื้ออะไรหรอ?"
"พวกของใช้ส่วนตัว กับทูน่ากระป๋องให้กริมม์นะ กริมม์น่ะกินเร็วมากเลย จนฉันจะไม่มีเงินมาซื้อให้อยู่แล้ว เงินเดือนแม่บ้านที่ได้จากผู้อำนวยการมันยังไม่พอเลย ดีนะที่ได้เงินจากงานพิเศษที่ มอสโต เล้าจ์ มาช่วยด้วย"
เคเตอร์มองรุ่นน้องสาวพูดยิ้มๆ ถึงแม้ปากจะบ่นนู่นนี้ไปเรื่อย แต่แววตานั้นก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรเลยอย่างที่พูด ออกจะสนุกกับชีวิตประจำวันแบบนี้เสียอีก
"งั้นหรอๆ ลำบากแย่เลยนะ แต่เซียจังเนี่ยขยันจริงๆนะนอกจากต้องเป็นแม่บ้านทำความสะอาจโรงเรียนแล้ว ยังไปทำงานพิเศษกับอาเชนกร๊อตโต้คุงอีกน่ะ"
"ก็เขาให้เงินดี แล้วงานบริการแบบนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไรด้วยก็เลยคิดว่าทำๆไปก็ดีจะได้ไม่ลำบากมากตอนที่อยู่ที่นี้"
หว่างที่กำลังพูดกันอยู่นั้นแซมก็ออกมาจากหลังร้านพร้อมกับถึงกระดาษใส่ของตามที่เซียอาน่าสั่ง เด็กสาวรับของมาพร้อมกับจ่ายเงินไปตามจำนวนราคา เคเตอร์ก็เลยสั่งแผ่นฟิล์มมือถือกับแซมไปด้วย ซึ่งของที่สั่งมีอย่างเดียวแซมจึงใช้เวลาไม่นานในการไปหยิบมันมาให้ เคเตอร์เมื่อได้ของก็จ่ายเงินก่อนที่จะเดินออกจากร้านไปพร้อมๆกันกับเด็กสาว
"เซียจัง!"
"หือ?อะไรหร-"
แชะ!
ระหว่างที่กำลังเดินไปตามทางกันเงียบๆ เคเตอร์ก็ร้องเรียกเธอขึ้นมา แต่พอหันไปตามเสียงเคเตอร์ก็เอามือมาโอบไหล่เธอ ส่วนมืออีกข้างก็ยกกล้องมือถึอขึ้นมาถ่ายซึ่งภาพในมือถือนั้นก็ปรากฎขึ้น เป็นภาพเคเตอร์ที่หันมาขยิบตาให้กล้องในขนาะที่ตัวเซียอาน่าที่ทั้งถือของที่ซื้อมาแล้วก็โดนคนข้างๆโอบไหล่อยู่นั้นหันไปมองกล้องด้วยในหน้าเหวอนิดๆ เพราะตกใจไม่ทันได้ตั้งตัวเลย
"ฮ่าๆ ได้ใบหน้าตอนเหวอของเซียจังมาด้วยน่ารักมากเลย "
"จะถ่ายกันก็บอกกันหนอยสิ ว่าแต่เปลี่ยนแผ่นฟิล์มเเล้วหรอ ตอนไหนกัน?"
"หว่างที่เราเดินมาด้วยกันฉันก็ทำการเปลี่ยนไปแล้วละ ดังนั้นเพื่อทดสอบความคมชัด เลยให้เซียจังมาเป็นนางแบบคู่กับฉันไง"
เซียอาน่าอดแปลกใจไม่ได้ ที่เคเตอร์ทำการเปลี่ยนแผ่นฟิล์มหน้าจอมือถือไปแล้วหรอ ด้วยเวลาสั้นๆนี้เนี่ยนะ ถ้าเป็นที่โลกของเธอเวลาจะเปลี่ยนแผ่นฟิล์มมือถือแต่ละที ต้องไปที่ร้าน ไม่ก็ถ้าเปลี่ยนกันเองได้ก็ต้องใช้เวลาในการกระวางแล้วถูเพื่อไล่ลมไม่ให้หน้าจอมีอากาศค้างอยู่ข้างใน
'หรือเขาจะใช้เวทมนตร์ช่วยกันนะ?'
เซียอาน่ามองใบหน้าที่ยังคงยิ้มของเคเตอร์ที่กำลังดูรูปที่พึ่งถ่ายด้วยกันไป ใบหน้าที่ยิ้มแย้มหลังจากที่ถ่ายรูป มันซ้อนทับกับใครบางคนในความทรงจำของเธอ ที่อีกฝ่ายนั้นเวลาได้ถ่ายรูปด้วยกันก็จะมีความสุขทุกครั้ง จนในห้องนอนส่วตัวนั้นมีทั้งรูปที่ตั้งวางเอาไว้ กับที่เก็บใส่อัลบั้นเยอะแยะไปหมด
"เซียจัง หน้าฉันมีอะไรหรอ ทำไมถึงมองไม่วางตาแบบนั้นละ?"
เซียอาน่าสะดุ้งนิดนึงก่อนที่จะได้สติก็เห็นใบหน้าของเคเตอร์ที่มองมาด้วยความเป็นห่วง เพราะตั้งแต่เมื่อกี้นี้ที่รุ่นน้องสาวเอาแต่จ้องมองหน้าเขาโดยไม่พูดอะไร แต่แววตานั้นมันกลับดูเศ้รามาก จนเขาเองยังอดตกใจไม่ได้
ถึงแม้ว่าคำพูดที่เขาถามออกไปจะดูเหมือนถามแบบแหย่เล่น แต่ในใจนั้นก็อดเป็นห่วงไม่ได้เลยจริงๆ
"...เปล่าวหรอก...ก็แค่ รุ่นพี่เคเตอร์ชอบถ่ายรูปมากเลยสินะ"
"แน่นอน การถ่ายรูปน่ะทำให้เราได้เก็บภาพและช่วงเวลาเหล่านั้นเอาไว้ได้ตลอดกาล แถมการถ่ายรูปน่ะก็เพื่อถ่ายให้คนยิ้มแย้มกันใช่ไหมละ แล้วเพราะแบบนั้นจึงสามารถเก็บรอยยิ้มของพวกคนที่เราถ่ายไว้ได้ตลอดไปยังไงละ"
เคเตอร์พูดตอบ เซียอาน่าที่มองท่าทางของเขา แล้วฟังสิ่งที่เขาพูด ในใจมันรู้สึกว่า คำพูดที่พูดมานั้นถึงมันจะดูธรรมดาแต่มันเหมือนมีอะไรที่มากไปกว่าที่เขาพูด ซึ่งตัวเธอในตอนนี้ไม่อาจจะเข้าใจมันได้
พอๆกับที่เธอไม่อาจเข้าใจได้ว่า ทำไมเธอคนนั้นถึงมีความสุขทุกครั้งที่ได้ถ่ายรูป...
"ฉันเคยมีคนรู้จักคนนึง เขาก็ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน เหมือนกับรุ่นพี่เคเตอร์เลย"
เคเตอร์หันไปมองรุ่นน้องสาวที่อยู่ๆก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา และนั้นก็เป็นอีกครั้งที่เขาเห็นดวงตาสีฟ้าครามดูมีความเศร้าหมอกอยู่ภายในนั้น แต่เธอก็ยังคงพูดถึงมันต่อ
"ทุกครั้งที่ฉันกับเขาได้ไปเที่ยวที่ไหน หรือได้ไปทำอะไรด้วยกัน เขาก็มักจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายด้วยตลอด ซึ่งฉันไม่เคยข้าใจเลยว่า เขาจะถ่ายไปทำไมตั้งเยอะตั้งแยะ จนมีคำพูดคำพูดนึงที่เขาพูดกับฉัน"
' แค่อยากถ่ายก็พอแล้ว ไม่ต้องมีกล้องแพงๆ ไม่ต้องไปที่สวยๆ เพราะทุกที่มันก็มีเรื่องราวของมัน อยู่ที่ว่าจะมองเห็นหรือเปล่า อย่ากลัวการที่จะเริ่มอะไรใหม่ๆ เริ่มเลย ผลเป็นยังไงมันดีหมดอยู่แล้ว'
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดนั้น เคเตอร์ก็ดูจะเงียบไปเล็กน้อย ส่วนเซียอาน่าเองหลังจากที่ได้ฟังคำพูดนั้น ตลอดมาเธอไม่เคยเข้าใจมันอยู่ดีว่า จะสื่อถึงอะไร
"ตั้งแต่ที่ได้ยินคำๆนั้น ฉันก็ไม่เคยเข้าใจมันเลย ว่าที่เขาพูดนั้นหมายถึงอะไร จนวันที่เราไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันอีกแล้ว"
"ไม่ได้ถ่ายด้วยกันอีกงั้นหรอ?"
เซียอาน่าพยักหน้าช้าๆเคเตอร์ที่มองดูอยู่นั้นไม่เข้าใจที่บอกว่าไม่ได้ถ่ายด้วยกันอีกแล้วนั้นหมายถึงอะไร แบบว่าเขาคนนั้นเลิกถ่ายรูปไป หรือเขาไม่ถ่ายรูปกับเด็กสาวแล้วกันแน่ แต่จากแววตาสีฟ้าครามที่ยังคงดูเศร้าหมองนั้น มันทำให้เขารู้ได้แค่ว่า มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีมากเท่าไรแน่ๆ
"จนถึงตอนนั้น ฉันก็ได้รู้ว่าที่เขาพูดนั้นหมายถึง ช่วงเวลาเหล่านั้นมันจะหายไปแต่รูปที่ถ่ายเอาไว้นั้นยังคงอยู่ แต่ถึงมันจะยังคงอยู่ แต่เราก็ต้องกาวออกมาจากมัน แล้วเริ่มที่จะถ่ายรูปใหม่ ภาพใหม่ๆ ความทรงจำใหม่ๆได้แล้ว"
เซียอาน่าหันกลับมาสบตากับเคเตอร์ตรงๆ ชายหนุ่มหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่รุ่นน้องสาวพูด มันก็ทำให้เขานั้นหยุดนิ่งค้างจมลงไปในความคิดของเขาอยู่ครู่นึ่งก่อนที่จะถูกดึงขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหวาดของคนข้างๆ
"ถึงแม้ว่าความหมายของการชอบถ่ายรูปของรุ่นพี่กับคนรู้จักของฉันจะต่างกัน แต่ช่วงเวลาที่ได้เก็บภาพเหล่านั้นไว้เป็นควมทรงจำก็ทำให้มีความสุขได้ใช่ไหมละ นั้นก็เป็นส่วนนึ่งที่ฉันพอจะเข้าใจนะ"
เคเตอร์ไม่รู้ว่าครบจะตอบรุ่นน้องสาวไปยังไงดี หลังจากที่ฟังเรื่องที่เธอเล่าให้ฟังนั้น มันก็ทำให้เขาคิดกับตัวเองว่า ที่เขาชอบการถ่ายรูปนั้นจริงๆแล้วมันเพื่ออะไรกันแน่ๆ เหตุผลที่แท้จริง ที่ไม่อาจบอกให้ใครรู้ได้...
แต่กับเด็กสาวตรงหน้า ใบหน้านั้นยังคงนิ่งอยู่ได้เมื่อพูดเรื่องนี้ แต่แววตาที่เศร้าหมองนั้นไม่ใช่เรื่องโกหกแน่ๆ เธอนั้นต้องผ่านอะไรมามากไม่ต่างกัน แต่ในทางกลับกันเธอยังคงใช้ชีวิตอย่างสื่อตรง ทั้งที่เธอยังเป็นแค่เด็กอยู่เลยเเท้ๆ
เคเตอร์ถอนหายใจ เขานับถือใจเด็กสาวคนนี้จริงๆ
"คนรู้จักของเซียจังเนี่ย เป็นคนที่สุดยอดไปเลยนะ"
"อืม เป็นคนที่สุดยอดมากจริงๆนั้นแหละ"
"แต่ สำหรับฉัน ฉันคิดว่าเซียจังเนี่ยสุดยอดกว่าอีก "
"ห้ะ? หมายความว่าไง?"
"ก็เซียจังนะสามารถเข้าใจความหมายของคำพูดนั้นได้ดีที่สุด ตอนที่ฉันได้ยินยังไม่เข้าใจเลย ขนาดเป็นคนชอบถ่ายรูปเหมือนกันนะเนี่ย"
"งะ งั้นหรอ ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า"
เคเตอร์มองใบหน้าที่หันหนีไปอย่างไม่ยอมรับ ซึ่งท่าทางนั้นมันดูน่ารักมากเลยจนเขาอดที่จะยิ้มไม่ได้
"จริงด้วยสิ รูปที่ถ่ายเมื่อกี้นี้น่ะ ฉันเอาลงมาจิคาเมะนะ!"
"เอ๋!? เดียวสิ! ไม่เอาอะ หน้าเหวอๆแบบนั้นน่าเกลียดจะตาย!"
"ใครบอกละน่ารักจะออก ถ้าเอาลงละก็ต้องได้ยอดไลย์เยอะแน่ๆ แฮชแท็กว่าอะไรดีนะ เดินไปซื้อของกับสาวงามประจำโรงเรียนดีไหม?"
"ไม่เอา! ลบไปเถอะรุ่นพี่เคเตอร์!"
"จ่างให้ก็ไม่ลบ รูปน่ารักๆที่ได้ถ่ายคู่กับเซียจังทั้งทีจะลบได้ไงละ!"
เซียอาน่าหน้าแดงอย่างเขินอานก่อนที่จะพยายามเข้าไปแย่งมือถือของเคเตอร์มาเพื่อจะลบรูป แต่ด้วยความสูงที่ต่างกันทำให้เอื่อมไม่ถึง ก่อนภาพที่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะเห็นนั้นก็คือ ทั้งคู่จะเล่นวิ่งไล่จับกันซะอย่างนั้น
___________________________________________________________________________________________________
หนุ่มผู้โชคดีคนที่สองก็คือ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"วันนี้คุณดูเหนื่อยๆนะครับเซียซัง"
อาซูลได้เดินมาถามพนักงานทำงานพิเศษสาวประจำ มอสโตร เล้าจ์ เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเด็กสาวดูเหนื่อนๆทั้งที่พึ่งเริ่มทำงานไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเอง ทั้งที่ปกติเป็นคนที่ขยัน และบริการดีจนมีลูกค้ามาเข้าเล้าจ์มากกว่าปกติ ตั้งแต่ที่รับเธอเข้ามาทำงานพิเศษ
"ฉันยังไหวอยู่นะ"
"แน่นะครับ หน้าคุณมีเหงื่อไหลออกเยอะกว่าปกติ แถมเสียงก็แอบแหบด้วย ไปทำอะไรมารึปล่าวครับถึงได้เป็นแบบนี้"
ยิ่งโดนถามคำถามมากขึ้นจนเซียอาน่าไม่รู้ว่าควรจะตอบไปว่ายังไงดีว่าเธอนั้นได้ออกไปสำรวจโรงเรียนเพื่อตามหาของเหลวสีดำ หลังจากที่มันก่อเรื่องเอาไว้มากมาย ถึงเธอจะทำลายมันไปแล้ว แต่มันก็ยังกลับมาได้อีก เธอจึงอยากจะรีบจัดการพวกมันให้หมดก่อนที่มันจะไปสิงใครอีก
แต่จะให้บอกเหตุผลนี้ไปตรงๆก็คงไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องบอกอย่างอื่นไปแทน ซึ่งมันก็เห็นหนึ่งในขอเท็ดจริง ไม่ถือว่าโกหก แค่บอกไม่หมดแค่นั้นเอง
"ฉันก็ต้องทำความสะอาจทั่วโรงเรียน แล้วยังต้องมาทำงานพิเศษที่นี้อีก ก็ไม่เเปลกหรอกที่จะเหนื่อนบ้างน่ะ แต่ ฉันยังไหวอยู่นะ"
"ยังจะพูดแบบนั้นอีกหรอครับ ให้ตายเถอะคุณเนี่ย ทำไมชอบทำอะไรเกินกำลังตัวเองจริงๆ"
"พูดเหมือนเอซกับดิวซ์คุงเลยนะ ทำไมถึงมีแต่คนชอบพูดกับฉันแบบนี้จัง"
"ที่เขาพูดก็เพราะเขาเป็นห่วงคุณนะครับ"
"อ๋อ งั้นรุ่นพี่อาซูลจะบอกว่า ก็เป็นห่วงฉันด้วยสินะคะ"
"ก็ใช่ไงผมเป็นห่วง-"
อาซูลรีบเอามือขึ้นมาปิดปากหลังจากที่พึ่งรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป แต่กับผู้ที่ถูกพูดด้วยนั้นกลับมองมาที่เขาด้วยเครื่อวหมายคำถาม ว่าเขาปิดปากตัวเองทำไม
"เป็นอะไรรึเปล่าคะ? จะสำลักหรอ เดียวฉันไปเอาน้ำมาให้นะ"
"มะ ไม่ ไม่! ไม่ต้องครับ! ผมไม่ได้เป็นอะไร อีกอย่างคนที่ควรจะพักดื่มน้ำน่ะมันคุณมากกว่าไม่ใช่ผม"
"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันยังไหว"
"อย่าเถียงเจ้านายสิครับ ทีนี้เป็นเด็กดีเชื่อฟัง แล้วไปนั่งพักซะ"
"แต่-"
"ไม่มีแต่ครับ อย่างลืมที่ตกลงกันสิ ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมสั่ง ผมจะหักเงินเดือนคุณ"
เมื่อได้ยินแบบนั้นเซียอาน่าก็ทำหน้าเหมือนจะเถียงว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ! พร้อมกับเกาหัวอย่างไม่เข้าใจปกติมีแต่เจ้านายที่จะขยั้นขยอให้ลูกจ้างทำงานงกๆ อย่างผู้อำนวยการเป็นแบบอย่าง แต่กับอาซูลกลับสั่งแบบบังคับให้เธอไปพัก
"งั้นฉันขอเอาแก้วพวกนี้ไปล้างก่อนแล้วฉันก็จะไปนั่งพัก พอใจไหมคะเจ้านาย"
"แบบนั้นก็ได้ครับ แต่อย่าให้ผมเห็นว่าคุณทำอะไรนอกเหนือจากที่พูด ล้างเสร็จก็ไปพักได้แล้วครับคุณลูกจ้าง"
แล้วเมื่อเถียงอะไรไม่ได้เซียอาน่าทำตามที่อาซูลบอก แต่ก่อนจะพักก็ขอทำงานที่ค้างเอาไว้ให้เสร็จก่อนถึงจะไปพักละกัน เด็กสาวเอาเเก้วที่ลูกค้าดื่มเสร็จแล้วมาว่างไว้บนถาดในมือทั้งสองข้างก่อนที่จะเดินตรงกลับเข้าหลังครัวไป
ตั้งแต่ที่เด็กสาวไปพักจนตอนนี้ถึงเวลาที่เล้าจ์ปิดแล้วแต่ก็ยังคงไร้วี่แววของเด็กสาว อาซูลเมื่อจัดการธุระอะไรเสร็จแล้วก็เดินตรงไปที่ห้องพักของเขา เมื่อเปิดเข้าไปที่โฟซาหน้าโต็ะทำงานของเขานั้นมีร่างของเด็กสาวยึดเอาไปนอนแล้วเรียบร้อย แล้วที่โต็ะตัวเล็กก็มีแก้วน้ำ ที่น้ำในแก้วถูกดื่มไปจนหมดแล้ว
อาซูลมองก่อนที่เดินเข้าไปพร้อมกับถอดหมวกกับเสื้อคลุมตัวนอกของเขาออก ก่อนที่จะตรงไปหยิบแก้วที่โต็ะตัวเล็กขึ้นมา
"ดูเหมือนยานอนหลับจะได้ผลดีนะครับเนี่ย"
อาซูลยืนยิ้มกับผลงานของตัวเองที่เขาสามารถทำให้เด็กสาวที่ชอบทำอะไรเกินตัว นั้นสามารถมานั่งพักแล้วนอนหลับพักผ่อนได้สำเร็จ
เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่เซียอาน่าไปพัก เขาก็ให้เจคนำเครื่องดื่มนี้ใส่ยานอนหลับไปให้เด็กสาวดื่มแล้วเมื่อยาออกฤทธิ์ เจคก็ย้ายร่างของเด็กสาวมาที่ห้องนี้ของเขา เพราะถ้าให้เธอหลับในห้องพักพนักงานคนอื่นๆคนเดียวมันคงไม่ดีเท่าไร เพราะงั้นเลยให้มาที่ห้องเขาที่ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเขาพนักงานคนไหนก็ไม่เข้ามาแน่
"คนที่ชอบทำอะไรเกินตัวแบบคุณ ควรได้พักผ่อนบ้างครับ"
มือหนาที่สวมใส่ถุงมือขาว ยื่นไปปัดผมที่ลงมาบดบังออกไปให้พ้นจากใบหน้างาม ถึงยามหลับใบหน้านั้นก็ยังคงไม่ลดความสวยลงไปเลยออกจะดูไร้เดียงสาด้วยซ้ำ
ทั้งๆที่เป็นคนไร้เวทมนตร์ เป็นได้แค่คนอ่อนแอ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเธอคนนี้ คือคนที่ช่วยเขา และก็หัวหน้าหออีกทั้งสองคนด้วย ตอนที่จิตใจของเขาจมลงสู่ความสิ้นหวัง รอบกายนั้นมีแต่สีดำ เสียงพูดดูถูกจากวันวานที่เคยได้รับมานั้นมันทรามานมาก
แต่ในตอนที่เขานั้นหวาดกลัวต่อเสียงพวกนั้น ก็มีมือที่แสนอบอุ่นมาโอบกอดเขาเอาไว้ มันเป็นความอบอุ่นที่เขานั้นไม่เคยสัมผัสมากก่อน เขาคิดมาเสอมว่านอกจากเจคกับฟลอย์แล้ว ในโลกนี้คงไม่มีใครเข้าใจเขา ทุกคนเอาแต่ดูถูกและกั่นแกล้ง ปลาหมึดอ้วนตัวเล็กแบบเขา
แต่กับเธอคนนี้....มันต่างออกไป
มันต่างจากที่เขาได้รับจากเจคกับฟลอย์ เด็กสาวคนนี้เข้าใจความรู้สึกส่วนลึกของของจิตใจของเขาที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงมาก่อน
'พูดเหมือนเอซกับดิวซ์คุงเลยนะ ทำไมถึงมีแต่คนชอบพูดกับฉันแบบนี้จัง'
'ที่เขาพูดก็เพราะเขาเป็นห่วงคุณนะครับ'
'อ๋อ งั้นรุ่นพี่อาซูลจะบอกว่า ก็เป็นห่วงฉันด้วยสินะคะ'
"ผมเป็นห่วงคุณ มากเลย"
___________________________________________________________________________________________
_____
มาช้าดีกว่าไม่มาละนะ ไม่รู้ว่าแต่งดีพอไหมมาลองๆแต่งดูก่อน
เคเตอร์เกิด 4 กุมภาพันธ์
อาซูลเกิด 24 กุมภาพันธ์
จะมีใครสนใจอยากวาดแฟนอาร์มาให้บ้างไหมน่าาาา
ความคิดเห็น