คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เป็นคนใช้บ้านอริเก่า&เกือบโดนข่มขืน
อะฮ้า~เช้าๆอากาศสดใสแบบนี้ นางเอกที่น่ารักอย่างฉันขออนุญาตแนะนำตัวละกันน้า ฉันชื่อใบไผ่ จริงๆเรียกว่าไผ่ก็ได้ แต่ว่า เพื่อนๆฉัน มันกลับเรียกชื่อสุดน่ารักของฉันว่า ‘นังหน่อ’
-*-โอ้วว ม่ายย ฉันก็พอเข้าใจนะว่าหน่อไม้มันคือไผ่อ่อน แต่ทำไมต้องมาเรียกฉันแบบนี้ด้วย แง~
“ไงยัยหน่อ”ยัยแก้มก้นเดินเลียบข้างฉันมา พร้อมกับทักด้วยน้ำเสียงสดใส ยัยตัวดีนี่หล่ะ ที่บังอาจเรียกฉันว่า ยัยหน่อ ฉันก็เลยเรียกมันว่าแก้มก้นซะเลย ที่จริงมันเองชื่อแก้มแหล่ะ
“ทำไมยัยก้น แปลกเนอะ เช้าๆแบบนี้ก็มาโรงเรียนกับเค้าด้วย คิดว่าแกจะมาตอนพระอาทิตย์อยู่กลางหัวแบบทุกวันซะอีก”
“นังหน่อบ้า เว่อร์ไปละ ฉันแค่มาสายนิดๆหน่อยๆไม่ถึงเที่ยงหรอกย่ะ”ว่าแล้วเราสองคนก็เดินเข้าไปในรั้วโรงเรียนด้วยกัน พลางกัดกันไปเล็กน้อยด้วยความรักใคร่ เรารักกันมากกก...ฮี่ๆ
ฉันและยัยก้นเดินเข้าไปในห้องท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของเพื่อนๆ หยุดโรงเรียนเพราะน้ำท่วมกันไปแค่อาทิตย์เดียว มันมีเรื่องเม้าท์ขนาดนี้เลยเหรอยะ ฉันไม่ชอบหรอกนะเสียงนักกระจิบแตกรังแบบนี้ พอดีฉันเป็นคนพูดน้อยซะด้วยสิ โฮะๆๆๆ (เชื่อเหรอ -.,-)
“ยัยหน่อ วันนี้เธอจะนั่งไหน”ยัยแก้มถามฉันพลางกวาดสายตาหาที่นั่งดีๆทั่วห้อง พอดีห้องฉันไม่ล็อคที่นั่งน่ะ ใครมาก่อนก็นั่งก่อน นั่งที่ไหนก็ได้ เยี่ยมสุดๆไปเลย
“นั่งนั่น”ฉันชี้ไปทางที่ๆมีผู้ชายหล่อๆนั่งอยู่ อย่ามองแบบนั้นสิ ไอ้นั่นมันเพื่อนสนิทฉันเอง เราสนิทกันมากกเลยล่ะ ฉันชอบแกล้งพวกผู้หญิงที่ชอบเล็งไอ้พีทเพื่อนฉัน ด้วยการแกล้งเป็นแฟนนายนั่น ตอนแรกมันก็งงๆอยู่ล่ะ ก็สมควร แต่ตอนหลังมันชักจำยอม เพราะมันรำคาญพวกผู้หญิงที่ตามจีบมันน่ะสิ จริงๆแล้วฉันต้องทำแบบนี้เพราะสงสารมันด้วย เพราะนังนี่มันชอบผู้ชายยยย อาฮ้า ฝันสลายกันไปเลยสิยัยพวกชะนีป่าทั้งหลาย แต่ไอ่พีทมันแอ๊บเนียนมาก มากจนไม่มีใครรู้ เก่งจังเพื่อนฉัน
ฉันมองไปตรงที่นั่งข้างๆไอ้พีทซึ่งกำลังชี้มือไปตรงที่ข้างๆมันอยู่ แล้วฉันก็เดินไปหามันทันที โดยไม่สนใจสายตาพวกผู้หญิงรอบข้างที่มองอย่างจิกกัด สนทำไมยะ นั่นมันเพื่อนฉันนี่ แต่หมอนี่เป็นเพื่อนที่ฉันเกลียดที่สุด เพราะมันชอบแกล้งฉัน แต่เราก็สนิทกันที่สุดนะ สนิทกว่ายัยก้นอีก แต่นายนี่ดีหน่อย ที่มันไม่เคยเรียกฉันว่า ‘นังหน่อ’ แบบคนอื่น ขอบใจมากเพื่อน!
“มาแต่เช้าเลยนะพีท ” ฉันทักมัน
“ฉันก็มาแบบนี้ประจำล่ะ เอากระเป๋ามาสิ”ฉันยื่นกระเป๋าให้มันวางข้างๆโต๊ะแล้วดึงแขนยัยก้นให้นั่งลงข้างๆฉันด้วย แหม ดูสิ ยัยนั่นทำหน้าแดงเชียว หมั่นไส้นัก แกคงจะไม่รู้ความลับของมัน อะโฮะๆ
“สวัสดี นักเรียนทุกคน!”เสียงแหลมๆอันเป็นสัญลักษณ์ของคุณครูสอนศิลปะดังขึ้น เพื่อดับเสียงเซ็งแซ่ของเพื่อนๆที่นั่งเม้าท์ กันอยู่ อืมม...ดีแฮะ ฉันไม่ชอบเสียงดังๆซะด้วย แต่อาจได้รำคาญเสียงยัยครูนี่แทน อ๊ะ แต่วิชาแรกมันศิลปะเหรอ ไม่ๆๆ วิชานี้ฉันง่อย ไม่ๆๆๆ ฉันนั่งสะบัดหัวอย่างบ้าคลั่งอยู่คนเดียว
‘หมับ!’มือหนึ่งกุมหัวฉันที่กำลังสะบัดๆๆจนแทบหลุด แต่ฉันเคือง ใครมันบังอาจจับหัวฉันวะ!!
ว่าแล้วฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมอง ไอ่นี่ๆเอง คู่กัดฉันตอน ป.2 ไอ้กีตาร์!! แกบังอาจจับหัวอันงามงดดุจขวัญ อุษามณีของฉัน ตายซ้า!!
พลัน ฉันเอื้อมมือไปปัดมือนายกีตาร์ก่อนตบหัวมันเข้าซักฉาด
‘เพี๊ยะ!!’
“ยัยบ้า เธอกล้าตบหัวฉันเหรอ”หมอนั่นว่าพลางชี้หน้าตัวเองแล้วทำหน้าทะมึงถึง น่ากลัวตายล่ะ ชิ แต่ ถึงทำหน้าอย่างนั้น ทำไมมันหล่อนักวะ ผมสีน้ำตาลแดงที่เป็นธรรมชาติ ตาสีอำพัน หน้าเรียวๆ ผิวขาวๆ ตาเรียวทว่าไม่เล็ก และเฉียบคม จมูกโด่งเป็นเส้นตรง ปากบางสีแดงระเรื่อ หล่อ อ๊ากกกกส์ อะ...ฮ๊า!!นี่ฉันชมอริตัวเองอยู่เหรอ ม่ายยย แต่มันหล่อสุดตรีนเลยล่ะเชื่อม้ายยย
“แนะ ยัยบ้านี่ ตบหัวไม่พอยังจะมามองหน้าเรื่องฉันเหรอ”ฉันก็ยังคงมองนายนั่นอยู่ ฉันแพ้คนหล่อน้า อย่าทำตาระยิบระยับแบบนั้น เดี๋ยวฉันจะเผลอไปขืนใจนายเข้าให้ อ๊า~ อ่า เอาล่ะๆยัยไผ่ แกชักจะรั่ว ตั้งสติด่วน ...อะเค พร้อมแล้ว
“นายกีตาร์ นายมาจับหัวฉันก่อนไม่ใช่เหรอ รู้มั้ยว่าฉันน่ะหวงหัวแค่ไหน สมควรละที่นายโดนเบิ๊ด อยากมาจับหัวฉันเองนิ เดี๋ยวเหอะๆ เดี๋ยวเจอกันอีกรอบ”ฉันทำท่าวางหมัดขู่ มันจะน่ากลัวบ้างมั้ยวะ หรือมันจะดูขำขันเสียจริง เฮ้อออ
“เอ๊ะ ยัยนี่ เธอมารู้จักมักจี่กับฉันเมื่อไหร่ แล้วเธอเป็นใคร ทำไมรู้ชื่อฉัน”
“เง้ออ จำฉันไม่ได้หรือไง ไผ่อ่ะ ที่เป็นอริกับนายตอนป.2 ที่นายแย่งไม้บรรทัดฉันจนมันหักแล้วฉันก็พ่นน้ำลายใส่หน้านายไง”ฉันพูดเสร็จแล้วเพิ่งรู้ตัวว่าคนรอบข้างกำลังหัวเราะกับวีรกรรมสุดเดิ้นของฉัน อายชะมัด -///-
“อ๋อ ยัยใบไผ่ที่ทำให้ฉันตกคณิตเพราะลอกเธอ แล้วก็เป็นคนที่ทำให้ฉันต้องอดกินข้าวกลางวันเมนูที่อร่อยที่สุด เพราะเธอดันอ้วกใส่มัน ขอบคุณมากใบไผ่ ฉันจำเธอได้ล่ะ”
“ช่างนายเหอะน่า แต่วิชานี้ ฉันต๋ายแหน่ๆตายแน่ อ๊ากกก ม่ายๆๆๆ”แล้วฉันก็สะบัดหัวอีกรอบกับความเฮงซวยที่วิชาแรกได้เรียนวิชาศิลปะ แต่ฉันก็รีบหยุดทันทีที่เห็นเขาทำหน้าเหมือนกำลังจะบ้าตายแล้วจะเอื้อมมือมาบีบคอฉันอยู่มะรอมมะร่อ
“หยุดทำตัวปัญญาอ่อนซักทีเหอะน่ะ ผมเปียเธอมันปัดมาโดนต้นคอฉันนะ คิดว่าตัวเองเป็นพจมานหรือไงถึงเปียผมมาเรียนเนี่ย สะเหร่อชะมัด”
“อย่าบังอาจมายุ่งกับหัวงามๆที่ฉันนั่งหลังขดหลังแข็งเปียเองนะยะ เดี๋ยวปั๊ดเหน่วเลย”เชื้อเง้อง่ามือเตรียมจะสัมผัสหน้าหล่อๆอีกซักฉาด ไม่ใช่ตบนะ แค่อยากจะลูบไล้ๆ หื่นๆ
“หยุดบ่นซะทีเหอะยัยพจมานปัญญาอ่อน นี่มันวิชาโปรดฉัน ถ้าเธอยังส่งเสียงมารบกวนฉันอีก เย็นนี้ระวังตัวไว้”แล้วเค้าก็สะบัดหน้าไปเรียนวิชาโปรดต่อ หลังจากนั้น นังพีทก็กระตุกเสื้อฉันเบาๆ มีอะไรอีกล่ะ
“อะไรแก”ฉันเอียงหน้าไปถาม
“นังไผ่ นั่นเพื่อนแกเหรอ”
“บ้า อริเก่าฉัน”
“อ๊า น่าหม่ำชะมัด ฉันขอๆ”
“นังพีท เงียบด่วน ฉันจะหลับ โอนะๆ”ฉันทำตาปรือแล้วทำเครื่องหมายโอเค แล้วนังนั่นก็พยักหน้าตอบรับ
บ่ายนี้เรียนชีวะ อ๊า สวรรค์ของฉัน หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว ฉันก็เดินลั้นลาเข้าห้องเรียนคนเดียว ส่วนยัยก้นกับนังพีทน่ะเหรอ มันไปหาขนมกินต่อ จริงๆมันจะหนีนั่นแหละ พวกมันชอบศิลป์แล้วมาเรียนวิทย์ทามม้ายย สายวิทย์ที่โรงเรียนฉันมันมีวิชาเสริมอยู่เยอะเหมือนกันนะ เป็นพวกที่เกี่ยวกับกิจกรรมอะไรเทือกนั้น ฉันล่ะเบื่อ เอ๊ะ ทำไมในห้องมีคนนั่งอยู่คนเดียวล่ะ เอ๋ หัวแดงๆแบบนั้นมันนายกีตาร์นี่นา เดินเข้าไปทักหน่อยดีกว่า อริเก่าๆ
“ไง ไม่ไปทานข้าวเหรอ”ฉันเดินไปยืนข้างๆนายกีตาร์ที่ฟุบหลับอยู่
“กระเป๋าตังค์หาย ไปไกลๆไป รำคาญเธอ”นายนั่นเงยหน้าขึ้นมาเพื่อกวนประสาทฉันนิดหน่อย
“เหรอ ขอบคุณ เออ ว่าแต่นายเข้าโรงเรียนนี้มานานยังอะ จำได้ว่าตอนป.6นายย้ายออกไปเรียนอเมริกาไม่ใช่เหรอ”
“เฮ้อ ฉันเพิ่งมาเข้าปีนี้แหละ อยู่ห้องนี้มาตั้งแต่ต้นเทอมด้วย แต่ไม่ยักเห็นเธอนะ”
“เอ๊า เก๊าะฉันมันไม่เด่น ฉันก็ไม่เห็นนายเหมือนกันนะ”
“ก็ฉันโดดบ่อย วุ้ย รำคาญ ไปไกลๆไป”
“นายคงหิวใช่มั้ยล่ะถึงหงุดหงิด”
“ไม่เกี่ยวกับเธอ” ฉันทำได้แค่พยักหน้ารับรู้ แล้วจึงเดินออกจากห้องไปเพื่อ...ไปซื้อขนมให้เขาบ้าง เอาวะ อย่างน้อยก็เจอกันอีกครั้ง ผูกมิตรกันก็ยังดี
ผ่านไปซักพักฉันเดินกระเตงขนมขึ้นมาบนห้อง แล้วเดินเอาไปวางไว้ตรงหน้านายกีตาร์ แต่นายนั่นไม่ยักเงยหน้าขึ้นมาแฮะ ไม่ระวังตัวแบบนี้เดี๋ยวโดนข่มขืนซะเลย เอ๊ย! บ้า ฉันเป็นกลุสตรีนะยะ ฉันกระแทกขนมลงไปที่โต๊ะแรงๆ
‘ตึงๆๆ’
“เฮ้ย รำคาญน่ะ อะไรนักหนาฮะเธอ หรือเธอจะชอบฉัน มาป้วนเปี้ยนอยู่นั่นแหละ”นั่นไง กวนประสาทเหมือนเดิม
“ไอ่บ้า คนเค้าแสดงความมีน้ำใจหรอกย่ะ เดี๋ยวเหอะๆ เนี่ยอุตส่าห์ซื้อขนมมาให้ กินซะ ไม่ได้กินข้าวไม่ใช่เหรอ กินซะสิ ฉันซื้อมาตั้งเยอะ”
“อือ ขอบใจนะ แล้วเลิกมายุ่งกับฉันได้แล้ว ไปนั่งที่เธอไปนู่นไป”
“บ้า นู่นไหน ฉันนั่งหน้านายนี่ไง ฮุๆๆ”ฉันเดินไปนั่งที่ของตัวเองพลางร้องเพลงไปด้วย ก็อยากร้องจริงๆอ่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะกวนประสาทนะ แต่นายคนข้างหลังดันของขึ้นซะงั้น
“เฮ้ย!!”นายนั่นโวยวายพร้อมกับทุบโต๊ะดัง ปึง!!
“อ้าาา~” ฉันอ้าปากค้างตะลึงกับอารมณ์โมโหร้ายและเสียงของโต๊ะที่ถูกทุบเมื่อกี้
“ถ้าเธอไม่เงียบฉันจะจูบจริงๆด้วย ระวังไว้นะ ถ้าดังมากกว่านี้เธอจะเจอมากกว่านั้น”จูบเหรอ ทันทีที่เขาพูดจบฉันก็ทำปากจู๋รับจูบเขาแทบจะทันที ทุเรศว่ะ แต่ไม่เป็นไร เจ๊โชบบบ ทว่า มือหนาๆกลับดันหน้าฉันออกเมื่อปากจู๋ๆของฉันใกล้จะโดนแก้มขาวของเขาอยู่รอมร่อ อิถ่อ เป็นผู้ชายดันหวงตัว
แล้วเย็นนี้ก็จบไปได้ด้วยดี ฉันจะเดินเข้าบ้านแต่ต้องแวะที่ตู้จดหมายก่อน ที่จริงฉันก็ทำแบบนี้ทุกวันนั่นแหละ ฉันอยู่บ้านคนเดียว แม่ไปทำงานอเมริกา ส่วนพ่อ เสียไปนานแล้ว ทุกๆเดือน แม่ฉันจะส่งเงินมาให้ นั่นทำให้ฉันสบายไม่ต้องทำงานพิเศษแบบคนอื่นๆ โฮะๆๆ ฉันนี่มันช่างคุณหนูซะจริง ฉันค่อยๆสอดมือไปควานๆหาจดหมายในตู้ เฮ้ย มีจดหมายด้วย ไหนๆๆ ดูหน่อย ฉันค่อยๆแกะซองจดหมายออกดู
‘ว่าไงใบไผ่ลูกรัก
เดือนนี้แม่ขอไม่ส่งเงินให้ลูกนะจ๊ะ เพราะว่าแม่มีปัญหาด้านการเงินทางนั้นนิดหน่อย ยังไงหนูก็ลองหางานพิเศษทำเอานะลูก อย่าเพิ่งวีนซะล่ะ
รักนะจุ๊ฟๆ’
ทันทีที่อ่านจบ ฉันก็ยืนเอ๋อ นี่ฉันต้องไปหางานพิเศษทำหรืองาย ไม่นะ ฉันเป็นคุณหนู ทำงานไม่เป็นหรอก โอ้ พระเจ้าใจร้าย ตอนนี้ก็เหลือตังค์อยู่แค่ไม่กี่ร้อยแล้วด้วย ทั้งตัวมีแค่นี้แหละ สงสัยเย็นนี้คงได้ซดมาม่าแล้วล่ะมั้ง
แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เย็นนี้ฉันได้ซดมาม่าแล้วจึงออกไปเดินหางานทำแถวบ้าน ว่าแต่ มันจะมีเรอะ ฉันเดินไปเรื่อยๆแล้วไปหยุดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งเขียนไว้ว่า รับสมัครแม่บ้านทำความสะอาด ฉันจึงรีบกดกริ่งแล้วยืนรอหน้าบ้าน หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้ชายเดินเอื่อยๆออกมา ท่าทางจะง่วงนอนน่าดู แต่เขา หล่อออ เฮ้ย ทว่ามันก็หน้าคุ้นๆอยู่นา ฉันลองเพ่งเล็งดีๆ แล้วก็จำได้ว่า นายคนนี้คือ กีตาร์!!
“เธอ มาทำอะไรที่นี่”นายกีตาร์ว่าพลางขยี้ตา
“เฮ้ย บ้านนายอยู่แถวนี้เองเหรอ โห บ้านใหญ่ว่ะ”ฉันกวาดสายตามองบริเวณบ้านของเขาอย่างตกใจนิดหน่อย ไม่น่าเชื่อ บ้านเราอยู่ใกล้กันเหรอเนี่ย จริงๆแล้วบ้านฉันก็ใหญ่ไม่น้อยกว่าเขาหรอกนะยะ เชอะๆๆ (-3-)
“ยัยคนไม่มีมารยาท ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอเหรอ เธอถึงจะมาวะโว้ยกับฉันน่ะ”เขาจ้องหน้าอย่างไม่พอใจ
“เฮ้ยกีตาร์ นายอย่าทำหยิ่งไปหน่อยเลย เมื่อกลางวันฉันอุตส่าห์ซื้อขนมให้นายนะ” ดูเข้าสิ แค่ทวงบุญคุณแค่นี้ทำงง เชอะ
“อะไรกัน ทำไมน้องฉันต้องให้เธอไปเลี้ยงขนมด้วย เงินเขาออกจะมากมายก่ายกอง เงินเก็บมากกว่าฉันอีก” เอ่อ น้องเหรอ ฉันยืนเอ๋ออยู่หน้าบ้านเขา บ้าน่า นายนี่มีพี่ชายเหรอ
“เอ่อ ขอโทษค่ะ แล้วคุณเป็นใคร”
“ฉันเป็นพี่ชายฝาแฝดเขา” ดูสิ ทำหน้าหยิ่งซะด้วย หมั่นไส้ๆๆ
“เอ่อ แล้วไม่ทราบชื่ออะไรคะ”ทันทีที่ตั้งสติได้ ฉันก็ส่งยิ้มหวานจ๋อยไปให้เขา อ๊า ฉันแพ้คนหล่อ
“เธอจะมาเป็นภรรยาฉันหรือไงถึงต้องมารู้ชื่อกันเนี่ย ฉันยังไม่อยากรู้ชื่อเธอเลย จะไปไหนก็ไปไป๊” หึย ปากร้ายเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง ตอนนี้ฉันยืนมึน เมื่อกี้เขาไล่ฉันเหรอ แอบงอนนะ ฉันคิดพลางกัดริมฝีปากไปด้วย แถมบีบน้ำตาปริ่มๆ ฉันสำออยเมิ่กก
“เฮ้ย จะร้องไห้ทำไมเล่า เอาล่ะๆ ฉันชื่อพอส เธอล่ะ”
“ฮึกๆ ชื่อใบไผ่ค่ะ กระซิกๆ”ฉันว่าพลางจีบมือเช็ดน้ำตาจอมปลอม กระแดะชะมัด เฮ้ ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ยืนด่าตัวเองอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ -*-
“อือฮึ แล้วเธอมาที่นี่มีธุระอะไร”
“ฉันมาสมัครงานค่ะ”ฉันยืนก้มหน้างุดๆ เพื่อเรียกคะแนนสงสาร เผื่อเค้าจะรับฉันเข้าทำงานบ้างไง
“อุ๊ยตาย ยัยคุณหนูท้ายซอย ถังแตกแล้วเหรอยะ หล่อนถึงได้มาขอทำงานที่บ้านแฟนฉันน่ะ” เสียงผู้หญิง...เห๋? ฉันที่ก้มหน้าอยู่รีบเลยหน้าขึ้นไปดู อ๋อ ยัยเซไก่ ที่จริงยัยนั่นชื่อเซกิ ฉันหมั่นไส้เลยตั้งชื่อใหม่ให้มัน แต่มันอดตะลึงไม่ได้ นี่พอสเป็นแฟนกะยัยต้นตะเคียนนี่เหรอ?? คำถามมากมาย วนอยู่ในหัวฉันตีกันวุ่นไปหมด
“เซกิ ไม่เอาน่า อย่าไปว่าเค้า”นายพอสปรามต้นตะเคียนของเขา หมั่นไส้ รักกันจริงนะ มียืนกอดองกอดเอว เดี๋ยวเหอะ คนหล่อบนโลกนี้จะต้องเป็นของฉันทั้งหมด แกเจอฉันแน่ยัยเซไก่ อ๊า ทำไมฉันเลวแบบนี้ นั่นแฟนเค้านะๆๆ เฮ้อ เหนื่อย หยุดตีกันซะทีเหอะยัยนางฟ้าและซาตาน
“เอาล่ะ ใบไผ่ เธอจะมาทำงานบ้านที่นี่ใช่มั้ย ตกลงฉันรับเธอ”
“เอ่อ ทำไมง่ายนักล่ะ”ฉันถาม ก็จริงนะ ปกติเค้าต้องมีเอกสารอะไรเยอะแยะไม่ใช่เหรอ
“เดี๋ยวเธอจะรู้ เธอเริ่มมาทำงานที่นี่ตั้งแต่พรุ่งนี้ แล้วเธอก็ต้องมาประจำที่บ้านนี้ด้วย เราจะจ้างเธอมาเป้นแม่บ้านชั่วคราว เป็นเวลา 2 เดือน” หมายความว่าต้องนอนที่นี่งั้นสินะ ก็ได้ เพื่อเงิน และการได้มองคนหล่อทุกวัน ฮึๆ แค่สองเดือนเอง ว้า เสียดาย เอ่อใช่ พรุ่งนี้วันเสาร์นี่ ก็ต้องย้ายมาอยู่บ้านนี้แต่เช้างั้นสิ
เช้าวันเสาร์สุดนรก ฉันเดินกระเตงกระเป๋าใบเขื่องออกจากบ้าน ทำอย่างกับจะย้ายบ้านอย่างนั้นแหละ ฉันเดินลากกระเป๋าไปยืนรอหน้าบ้านเขาแล้วจึงกดกริ่ง ทันทีที่ฉันรัวกดเกือบครบแสนครั้ง ยัยป้าที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของบ้านก็มองหน้าฉัน มองทำไมยะ?
“มาทำอะไรยะนังหนู”ยัยป้านั่นถามพร้อมกับเอามืออวบๆสางหัวฟูๆของตนเอง คงจะเพิ่งตื่นสินะ
“เอ่อ มาทำงานน่ะค่ะ คุณพอสให้ฉันย้ายมาประจำที่นี่ 2 เดือน”
“ไม่รับจ้ะ”ยัยป้าหัวฟูนั่นยิ้มหน้าตาย น่าเกลียดมากกก นายพอสสุดหล่อนั่นอนุญาตแล้วไม่ใช่รึไง
“เอ๊ะ แต่คุณพอสเค้ารับหนูเข้าทำงานแล้วนี่คะ”
“ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอจ๊ะ บอกว่าไม่รับไง”
“ฟังรู้เรื่องค่ะ แต่คุณพอสเค้าอนุญาตให้มาทำงานที่บ้านนี้แล้ว หนูว่าคุณป้ามากกว่าที่พูดไม่รู้เรื่อง...คนแก่ก็เงี้ยแหละ...”ฉันกระซิบประโยคหลังกับตัวเอง
“อะไรนะเธอ!!ว่าฉันแก่เหรอห๊ะ นี่ๆ แหกรูม่านตาของเธอออกดูเดี๋ยวนี้ว่าหน้าฉันเต่งตึงขนาดไหน เธอนี่ปากไม่ดีเลยนะ ตาก็ไม่ดีด้วย เอ๊ะ หรืออิจฉาฉันกันแน่ยะ” ฉันจำเป็นต้องอิจฉาหน้าที่เต็มไปด้วยกระ ฝ้า และริ้วรอยของคุณป้าเหรอ
“ขอโทษนะคะ คุณป้าจะหาเรื่องหนูเหรอ”
“อ๊ายย ยัยนี่ เธอต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ ยัยเด็กไม่มีมารยาท #$&^#!+?
.”
“อะไรกันครับคุณแม่..”อ๊ะ พระเจ้าช่วย นายพอสเดินออกมาแล้ว ตอนเพิ่งตื่นยังเซ็กซี่ขนาดนี้ เซ็กซี่เหมือนพี่เรนเลยย
“ลูก ยัยนี่มันเป็นใคร เป้นลูกเต้าเหล่าใครถึงได้มาก้าวร้าวใส่แม่ ดูซิ การศึกษาระดับไหนล่ะเนี่ย ฉอดๆๆๆ”
“คุณแม่ครับ หยุดก่อน ผมอนุญาตให้เธอมาทำงานที่นี่เองแหละ” ยัยป้านี่กับลูกเค้ามันคนละขั้วกันจริงๆเลย ลูกน่ะดั่งเทพบุตร แต่ดูยัยป้านี่สิเหมือนกับ...
“ไม่ได้นะ แม่ไม่อนุญาต ทำไมลูกไม่ขอแม่ก่อน” ยัยป้าทำตาถมึงถึงใส่เทพบุตรของฉัน
“เรามีสิทธิ์เลือกเหรอครับคุณแม่ แม่บ้านตั้งกี่คนที่เค้าต้องลาออกเพราะทนอยู่กับเราไม่ได้น่ะ เพราะคุณแม่ทั้งนั้นเลยนะครับ” หืมม เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด มิน่าล่ะถึงได้รับง่ายนัก
“เชอะ!”ยัยป้านั่นค้อนลูกชายสุดหล่อของตัวเองก่อนจะเดินเข้าบ้านไป แล้วฉันจะทนได้มั้ยเนี่ย
“เข้ามาสิ ไผ่”เขาว่าแล้วเปิดประตูให้ฉัน
“ขอบใจ พอส นายเรียนอยู่ชั้นเดียวกับฉันใช่มั้ย” ฉันเดินเข้าบ้านแล้วถามไปด้วย
“เธอต้องรู้เหรอ ? ”เขาพูดเหมือนจะด่าฉันว่า...เสือก...ด่าตรงๆเลยดีกว่ามา
“...”ฉันเงียบไป โดนผู้ชายหลอกด่าแล้วมันพูดไม่ออกแฮะ
“ฉันเรียนฉันเดียวกับเธอนั่นแหละ”ฉันไม่ได้ขอร้องให้นายตอบเลยนะ
“เดี๋ยวเธอเอาเสื้อผ้าไปเก็บแล้วจัดห้องซะ ฉันให้เวลาเธอชั่วโมงครึ่ง แล้วออกมาทำงานบ้านด้วย”
ฉันเดินหิ้วกระเป๋าใบเขื่องที่ฉันแทบจะยัดบ้านใส่เข้าไปด้วย เข้าไปในห้องนอนที่เล็กกว่ารูหนู โอ๊ยยย ห้องน้ำบ้านฉันยังใหญ่กว่านี้เลยอ้ะ พูดจริงๆนะ แล้วฉันก็จัดของเสร็จภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง หลับก่อนดีกว่า คร่อก!
‘ซ่าาา!!’ เอิ้ววว!!ใครมาสาดน้ำใส่ฉันนน ฉันค่อยๆปรือตาขึ้นมาดูทั้งๆที่ตัวเองก็สะดุ้งสุดตัวอยู่แล้ว แต่ทำเป้นใจเย็นไปงั้น ยัยป้ามหาภัยนี่นา กล้าดียังไงมาสาดน้ำใส่ฉันห๊ะ!!
“นี่ป้า!!”ฉันเรียกป้านั่นด้วยน้ำเสียงโมโหจัด
“อะไรยะ ยัยขี้ข้า ฉันเป็นคนจ้างเธอแล้วเธอมาเรียกฉันว่าป้าเหรอ ไม่มีสัมมาคารวะเลย เด็กทุเรศ” ยัยนี่ทำปากเหยียดฉัน หึยย หมั่นไส้
“ขอโทษค่ะคุณนาย คุณนายทำแบบนี้กับแม่บ้านทุกคนเลยรึปล่าว ถ้าเป็นอย่างนั้น เป็นใครก็อยู่ได้ไม่นานหรอกค่ะ เค้าคงทนนิสัยแบบคุณนายไม่ได้”ฉันว่าพลางยิ้มเชียดเฉือนแกมเยาะเย้ย แอบสะใจเล็กๆเมื่อเห็นยัยป้าทำหน้าอึ้งๆ คงไม่มีใครเคยเถียงป้าแบบนี้ล่ะสิ
“อย่ามาสั่งสอนฉันนะยะ ฉันให้เวลา 3 นาทีสำหรับการเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วรีบออกไปรับงานด่วน”
“3 นาทีเหรอ ถ้าเป็นคุณนายจะเปลี่ยนทันมั้ยคะ รวมถึงสระผมด้วย หนูคิดว่าน้ำที่คุณนายเอามาสาดจะไม่สะอาดเท่าไหร่ เอ หรือคุณนายจะเอาตัวแช่ลงไปด้วยล่ะคะ มันถึงได้เหม็นสาบขนาดนี้...ฮึๆๆ”ฉันแอบยิ้มเล็กน้อย ด้วยสะใจในคำด่าของตัวเอง
“กรี๊ดดดดด!!!!ยัยบ้า เธอไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้อย่างสงบสุขแน่ ”
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่” นายพอสเดินเข้ามาในห้องแล้วถามแม่ของตน
“นังนี่มันเถียงแม่อ่ะลูก นี่ยัยเด็กทุเรศ เธอเงยหน้าขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย ไม่ต้องมาก้มหน้า” แล้วฉันก็เงยหน้าขึ้นมาตามที่ยัยคุณนายฮุขี้นั่นสั่ง แต่นายพอสทำไมทำหน้าตกใจขนาดนั้น
“ยัยไผ่!!เธอมาทำอะไรที่บ้านฉัน O_O”ห๊ะ นายเป็นคนรับฉันเข้ามาเองไม่ใช่เหรอ
“นายพอส ความจำเสื่อมเหรอ”
“เฮ้ย ฉันกีตาร์นะ จำไม่ได้หรือไง!!”
“นะ..นายกีตาร์”ฉันยืนอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง ไม่ได้เว่อร์หรอกนะ แต่นายนั่นมันไม่ได้ใส่เสื้อ ฉันทำเป็นปิดตาไปอย่างนั้นแหละ จริงๆแล้วชอบบบ
“ปิดตาทำไมยัยบ้า ฉันรู้ว่าเธออยากดู เธอน่ะหื่นจะตาย” แล้วฉันก็เอามือออก พบว่ายัยป้ามหาภัยได้หายไปแล้ว
“แล้วแม่นายหายไปไหนแล้วอ่า”ฉันมองตามอย่างเงอะๆงะๆ
“จะสนทำไม แม่ฉันเพิ่งเดินออกไปเมื่อกี้”
“แล้วนายก็...ก็...ไปใส่เสื้อสิ” ฉันยืนมองอย่างโลมเลีย (อ๊ายย นังแป้งหื่นน แต่ชอบจริงๆนะผู้ชายหุ่นดีถอดเสื้อเนี่ย)
“สายตาน่ากลัวนะเธอเนี่ย”มือหนาของเขาเอื้อมมาบีบจมูกฉันแล้วสั่นไปสั่นมา
“ไปใส่เสื้อซะที ฉันจะอาบน้ำ”
“เชิญ” เขาผายมือเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ
“จะยืนดูฉันอาบน้ำเหรอ?”
“อือฮึ”
“ด๊ายย”ฉันว่าพลางถอดเสื้อเชิร์ตตัวนอก จนเหลือแค่เสื้อกล้าม
“เธอจะเอาจริงๆเหรอเนี่ย”เขาว่าพลางค่อยๆยืนเบี่ยงหันหลังให้
“ไม่ได้จะเอา แค่จะถอด จะออกไปได้ยัง”
“ไม่ออก ถ้าเธออยากถอดก็ถอดไป”
“อือ” ฉันค่อยๆถลกชายเสื้อกล้ามขึ้นเตรียมจะถอด แต่ไม่ถอดจริงหรอก ใครจะไปกล้า
“เฮ้ยๆๆ พอแล้วๆๆ ออกไปก็ได้” เขาเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดออกแล้วจ๊ะเอ๋กับใครบางคน ‘พอส’
“พวกนายทำอะไรกัน”เขาถามแล้วสอดส่ายสายตาเข้ามาในห้องแล้วมาหยุดอยู่ที่ฉันที่เหลือแต่เสื้อกล้ามตัวบาง
“เอ่อ...”
“จะทำอะไรก็อย่าประเจิดประเจ้อกันนักล่ะ” ทันทีที่พูดจบ เขาก็เดินผลุนผลันออกไปจากห้อง ส่วนฉันกับนายกีตาร์ก็ได้แต่มองหน้ากันอย่างงงๆ
“พี่นายเค้าคิดอะไรอ่ะ”
“เรื่องอย่างว่านั่นแหละ”
“ฮึ้ยย ลามก”ฉันทำหน้าแหย
“เอ่อ ว่าแต่ ฉันจะแยกนายกับพี่นายออกได้ยังไง พวกนายเป็นแฝดกันนี่นา”
“อ๋อ ตาฉันกับพี่มันคนละสีกันนะ เธอลองมองตาฉันสิ” ฉันจ้องเข้าไปในดวงตาคมของเขา
“ตานาย สีน้ำตาลอ่อน แล้วพี่นายล่ะ”
“พี่พอสตาสีเทา”
“แปลก..”
“อือ แปลก เธอไปอาบน้ำเถอะ ฉันจะออกไปแล้ว”ว่าแล้วเขาก็เดินออกไป
เมื่ออาบน้ำเสร็จออกมา ฉันก็เจองานบ้านขนาดเขื่องโถมเข้าใส่ โดยมีนายกีตาร์ช่วยเหลือนิดๆหน่อยๆ แต่พี่ชายเขาเนี่ยสิ ฮึ่ม...คิดว่าจะเป็นคนดีมีน้ำใจ แต่เปล่าเลย เขากลับมองฉันทำงานบ้านงกๆด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่คิดจะเป้นคนดีแบบน้องนายบ้างหรือไง
“ไผ่ เดี๋ยวเธอช่วยไปล้างจานที่ห้องครัวด้วย แล้วช่วยเก็บกวาดด้วยนะ” นายพอส
“ไผ่ เธอไปขัดห้องน้ำแล้วรีบๆรีดผ้าที่เหลือในตระกร้าด้วยนะ ฉันจะใส่ไปงานคืนนี้” นี่ก็นายพอส พอฉันขัดห้องน้ำออกมาก็ต้องรีบมารีดผ้าทั้งหลายที่นอนตายอยู่ในตะกร้า แล้วจึงเดินไปทำธุระในห้องน้ำ เห๋ เมื่อกี้ฉันเพิ่งขัดไปไม่ใช่เหรอ ทำไมรอยโคลนมันเปื้อนอย่างเง้~ ไม่เป้นไร ฉันขัดใหม่ได้ กรอซซ์ ฉันขัดๆถูห้องน้ำอย่างโกรธแค้นจัด
“ใบไผ่!!”
“ขาาาา” ฉันวิ่งหน้าตาตื่นมาหานายพอสเจ้าของเสียง
“เสื้อผ้าที่เธอรีดทำไมมันยับแบบนี้ รีดใหม่!!” แล้วเขาก็เหวี่ยงเสื้อเชิร์ตสีขาวสะอาดใส่หน้าฉัน ไอ้บ้า ฉันเป็นคนใช้บ้านนายหรือไงยะ(นังหน่อยังไม่รู้ตัว)ฉันโกรธจนเลือดมันเดือดปุดๆ หึยย ฉันรีดเสื้อเรียบร้อยแล้ว นายก็มาทำให้ยับแบบนี้ ระวังไว้ให้ดี ฉันจะบุกถึงห้อง
“เธอไปเช็ดตู้โชว์ในห้องรับแขกด้วย” นายพอส
“ไปเช็ดโซฟาซะสิ ฉันไม่ได้ใช้งานเธอฟรีๆนะ” และนายพอส นายนี่นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังจะสั่งๆๆๆให้ฉันทำงานทุกอย่างที่ฉันไม่เคยทำ
“พอส นายจะให้ฉันรีดชุดไหน” ฉันถือชุดทักซิโดออกมาสองชุดเพื่อให้เขาเลือก สีขาวกับสีดำ
“รีดสองตัวนั่นแหละ คืนนี้กีตาร์ก็ไปด้วย” จากนั้นฉันก็เดินต๊อกๆไปรีดผ้าให้เขา อูยย เกือบทำไหม้แน่ะ
หลังจากฉันเอาเสื้อผ้าไปเก็บในห้องเขาได้ไม่นาน นายพอสและกีตาร์ก็เดินออกมาพร้อมกัน กีตาร์ในชุดสีดำ ดูดีแบบเจ้าชายเพลย์บอย พอสในชุดสีขาว ดูหล่อดั่งเทพบุตร ที่จริงนายนี่น่าจะเป็นซาตานซะมากกว่า เชอะๆๆ
“ไปเอารองเท้ามาสิไผ่” ฉันเดินก้มหน้าก้มตาไปหยิบรองเท้าสีขาวและสีดำที่ขัดไว้แล้ว มาวางแทบจะเกยเท้าของเขาทั้งสอง แต่ดูนายกีตาร์จะขำๆนะ
“เมี๊ยวว~”นังแมวอ้วนสีขาวขนปุยร้องเสียงดังก่อนจะเดินมาหาเจ้านายมัน และฉันคงจะไม่เดือดถ้ามันแค่เดินมาเฉยๆ แต่นี่มันเอาเท้าเปื้อนโคลนมาเหยียบร้องเท้าที่ฉันเป้นคนขัดเองกับมือ มิหนำซ้ำ เป็นรองเท้าสีขาว!! ฉันเดาว่านายนั่นต้องใช้ฉันให้ไปขัดรองเท้าอีกแน่ๆ
“ไผ่ เอาปลาทูออกไปที”พอสพูดก่อนจะเดินหิ้วรองเท้าไปที่ชั้นเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดรองเท้า งั้นสรุปว่านังแมวนี่ชื่อปลาทูงั้นสิ เอ๊ะ เดี๋ยว เมื่อกี้เขาทำอะไร จะขัดรองเท้าเองงั้นเหรอ
“พอส”ฉันเรียกชื่อเขาแล้วนั่งยองๆใกล้ๆ
“หืม”ใบหน้าคมเงยขึ้นมามองฉัน อ๊ายย หล่ออ ตาสีเทานั่นทำให้หัวใจของฉันจะขาดรอนๆ อ๊าาา ไม่ไหวลิ้ววว
“เอ่อ รองเท้านั่นเดี๋ยวฉันเช็ดเองก็ได้” ฉันเอื้อมมือไป หมายจะคว้ารองเท้าของเขามาขัดซะเอง
“ไม่ต้องหรอก ฉันรู้สึกว่าวันนี้ฉันจะแกล้งเธอมากเกินไป”
“แกล้งฉัน?”ฉันนั่งงงแล้วชี้หน้าตัวเอง
“อือฮึ ฉันทำผ้าที่เธอรีดแล้วยับ เอาปลาทูไปจุ่มบ่อโคลนแล้วไปปล่อยที่ห้องน้ำ” เขาพูดไปเช็ครองเท้าไป แต่ฉันเคือง..
“นายพอส!!”
“ไผ่ อย่ามาขึ้นเสียงกับฉัน ถึงฉันจะทำผิด แต่ฉันเป็นเจ้านายเธอ จำเอาไว้ด้วย”
“ก็ได้ แค่อยากรู้ว่านายแกล้งฉันทำไม”
“ฉันไม่ชอบให้เรื่องบัดสีเกิดขึ้นที่บ้านฉัน”
“บัดสี?”
“ถูก ฉันเห็นเธอกับกีตาร์อยู่ในห้องด้วยกันเมื่อเช้า แถมเธอยังแต่งตัววาบหวิวด้วย จะให้ฉันคิดยังไง” เขาพูดเสียงเรียบ ทว่ามันเยือกเย็นน่ากลัวๆ
“พี่พอส ผมแค่เข้าไปห้ามแม่ไม่ไห้ดุยัยนั่น แล้วยัยนั่นกำลังจะอาบน้ำก็เท่านั้นเอง” กีตาร์ตะโกนมาแก้ตัวให้ฉันจากอะฝากหนึ่งที่เขายืนจัดหูกระต่ายอยู่
“อย่างนั้นเหรอ?”
“ว่าแต่พี่เหอะ พาผู้หญิงเขาบ้านมันไม่บัดสีหรือไง”
“พาเข้าบ้าน แต่ฉันไม่ได้มีอะไรกันในนี้นี่”
“อ๋อเหรอ วันนั้นเห็นยัยอามิออดอ้อนพี่อยู่เลย ชวนจะขึ้นเตียงยิกๆ”
“ก็ใช่ ฉันถึงพาไปโรงแรมไง”
“นายเป็นผุ้ชายแบบนี้เหรอพอส??”เอาแล้วไง ฉันเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องของคนอื่นอีกแล้ว
“ไม่ใช่เรื่องของเธอนะ ฉันไปล่ะ ไปกันเถอะกีตาร์”
รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำคันงามแล่นทะยานออกไปจากคฤหาสอย่างรวดเร็ว เอ ว่าแต่ ยัยป้ามหาภัยนั่นอยู่ไหนนะ ตั้งแต่เช้าก็ไม่เห็นกันเลย
“เฮ้อ ไปนอนดีกว่า” ฉันปิดปากหาวหวอดๆพร้อมกับเดินไปที่ห้องนอน
‘กุกกักๆ’ ฉันที่กำลังเคลิ้มหลับ สะดุ้งตื่นเพราะเสียงอะไรบางอย่างที่คาดว่าน่าจะอยู่หน้าประตู แต่เวลาผ่านไปค่อนข้างนาน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอนดีกว่า คร่อก!
แสงสว่างจากด้านนอกสะท้อนเข้ามายังเปลือกตาฉัน ฉันค่อยๆกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่แสงก่อนจะเห็นเงาตะคุ่มสีดำแอบย่องเข้ามาในห้องนอนฉัน มือหนาของมนุษย์ผู้นั้นปิดปากฉันไว้
“อุ๊บ!! อ๊า อ่อยเอี๋ยวอี๊อ๊ะ”ฉันดิ้นพล่านแล้วเอามือทั้งจิกทั้งข่วนเขาอย่างเมามัน
“จุ๊ๆๆ อยู่นิ่งๆสิจ๊ะคนสวย” เขากระชับมือเข้ามาแน่นขึ้น อื๊ออ ฉุนน้ำหอมชะมัด เขาค่อยๆประคองคางฉันเข้ามาใกล้หน้าเขาก่อนจะโน้มหน้าเข้ามา จมูกของเราชนกันก่อนจะตามด้วยริมฝีปาก เขาบดขยี้อย่างนิ่มนวลก่อนจะเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นแล้วค่อยๆสอดลิ้นเข้ามา
‘หงับ!’ฉันกัดลิ้นเขาอย่างแรง อย่าคิดว่าฉันจะยอมนะ ฉันยอมแค่ผู้ชายหล่อเท่านั้นแหละย่ะ หมอนี่เป็นใครก็ไม่รู้ ไอ้ผีบ้าโรคจิต
“โอ๊ยยย” นายคนตรงหน้ารีบเอาหน้าออกห่างฉันทันที ซึ่งฉันเองก็ไม่รอช้า มือสองข้างผลัดกับตบหน้าของเขาอย่างเมามันส์ก่อนจะจิกผมนุ่มแล้วเอาหัวฟาดกับกำแพงซักสองสามที ก่อนจะตุ๊ยท้องอีกห้า แล้วตบหน้าอีกสิบเป็นรายการสุดท้าย ฮ้า มันส์มือชะมัด ฉันรีบวิ่งไปเปิดไฟแล้วหันควับกลับมาดูไอ้โรคจิตที่พยายามจะลวนลามฉันเมื่อกี้นี้ ปากบางแดงระเรื่อนอนอ้าปากพะงาบๆอยู่ เส้นผมซอยรากไทรสีดำสนิท ยุ่งเหยิงเพราะฝีมือของฉัน ใบหน้าขาวผ่องแดงเถือกด้วยแรงตบ ดวงตาคมสีเทาเบิกค้าง เขาหล่ออ อ๊าาา ฉันประทุษร้ายคนหล่อไปแล้ว ขอโทษค่ะขอโทษ เขาจะตายมั้ย ช็อคตายไปหรือยัง!! ฉันรีบเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วเขี่ยหน้าหล่อของเค้าดู
“เอ่อ คุณคะ ตายไปรึยัง”
“ทะ...เธอ เธอเป็นใคร???”เขาเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นหน้าฉัน
“ฉันเป็นแม่บ้านใหม่ของที่นี่ค่ะ ชื่อไผ่”
“แล้วเธอเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง”
“ห้องคุณ?!? O_O”
“ถูก”
“อ้าว ถ้าเป็นห้องคุณ คุณอยู่คนเดียวแล้วคุณคิดจะข่มขืนใครในห้องนี้ล่ะคะ”
“โธ่เอ๊ยย ฉันก็คิดว่าเป็นแฟนฉันน่ะสิ”
“เหรอคะ เอ่อว่าแต่เจ็บมากมั้ยคะ ฉันช่วยทำแผลให้มั้ย?”
“ไผ่ ฉันขอจ้างเธอ 500 ไม่ต้องทำแผลให้ฉันจะได้มั้ย” เขาพูดทันทีที่เห็นฉันเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาเรียบร้อยแล้ว
“ทำไมล่ะคะ”
“ฉันกลัวหน้าหล่อๆของฉันจะบวมเป็นศพเน่า ขอร้องเหอะ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องเมื่อกี้แล้วกลับห้องเธอไปซะ”
“ก็ได้ค่ะ เงินล่ะคะ” เค็ม
“อ่ะนี่”เขายื่นแบงค์สีม่วงมาให้ฉัน มีตังค์แล้วว้อยย
หลังจากได้เงิน ฉันก็เดินลั้นลาออกมาจากห้องแล้วมาจ๊ะเอ๋กับนายซาตานรูปหล่อของฉันพอดี
“พอส..”
“ทำไมยังนอน มันจะตีสองแล้วนะ” เขาว่าแล้วทำสายตาดุมาที่ฉัน
“เอ่อ...ก็นอนไม่หลับอ่ะ แต่เดี๋ยวจะไปนอนแล้ว ไปล่ะนะ ฮิๆ” แล้วฉันก็เดินออกมาจากตรงนั้นที่นายพอสยืนอยู่ก่อนจะได้ยินเสียงตะโกนตามหลังมา
“พรุ่งนี้ให้เธอเตรียมอาหารเช้าให้เสร็จก่อน 8 โมง ถ้าไม่ทัน เก็บกระเป๋าออกจากบ้านฉันได้เลย” อะไรนะ เก็บกระเป๋าออกจากบ้านฉันได้เลย จะไล่กันออกหรือไง
“นี่นาย จะไล่ฉันออก หึ ทำอย่างกับแม่บ้านมันหาง่ายอย่างนั้นแหละ”
“ง่ายสิ ในเมื่อพี่กามอสกลับมาแล้ว อะไรๆมันก็ง่ายทั้งนั้นล่ะ”
“กามอสไหน”
“ก็คนที่เธอเดินออกมาจากห้องเขาเมื่อกี้นี่ล่ะ”
“นายเห็น?”
“ไปนอนได้แล้ว หรือเธออยากจะนอนกับฉัน”
“ฮึ้ยย นายบ้า” ฉันเดินสะลึมสะลือเข้าห้องนอนตัวเอง เฮ้อ หวังว่าคงไม่เข้าห้องผิดอีกหรอกนะ
ความคิดเห็น