ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Benoname...แค่รักครับ ทำไมต้องตั้งชื่อ? (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #26 : Chapter:22nd Attentiveness [Complete]

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 54


    Chapter:22nd  Attentiveness

               

     

     

                            “คุณกินข้าวก่อน!!” ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นหน้าไอ้อัคเต็มสองตา ผมมองไปรอบๆตัวแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของตัวเอง...แล้วกูมาอยู่บ้านตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ฟะเนี่ย? แล้วที่สำคัญ ไอ้นี่มันมาอยู่ในห้องผมได้ไง!!!!!!!!!!!!  ผมมองหน้าอัคอย่างสงสัย  ก็จะไม่ให้สงสัยได้ไงล่ะครับ! ครั้งสุดท้ายที่ผมจำได้คือตัวเองยืนรอแพทกับเฮียปองอยู่ที่รถ  แล้วพอตอนนี้ผมกลับมานอนสบายแอร์เย็นฉ่ำอยู่ในห้องนอนตัวเองโดยมีประธานนักเรียนยืนถือถ้วยอะไรควันฉุยๆ กลิ่นหอมๆอยู่ตรงหน้า  ว่าแต่ในนั้นมันอะไรวะ? หอมชิบหาย

     

     

                “ไม่ต้องมาทำหน้างง...ลุกมากินข้าว!” อัคดึงผมแรงๆให้ลุกขึ้นมานั่ง...ไอ้ห่าได้ข่าวว่ากูไม่สบายกระชากกูซะแรง  ถึงกูจะผู้ชายแมนๆ แต่กรุณาถนอมกูบ้างอะไรบ้าง -_-;;;  ถึงผมจะยังปวดหัวตุบๆเหมือนมีคนมาตอกเสาเข็มพร้อมกันสิบต้นในหัวตัวเอง แต่ผมก็ยังคงมีสติและมีเรี่ยวแรงพอที่จะยกขาตัวเองเตะประธานนักเรียนได้!!  ไอ้ควายเกิดกระชากกูแล้วถ้วยเสือกตกขึ้นมาทำไง  กูเสียดายของกิน เอ้ย!! ถ้วยกระเบื้องของแม่กูนะ

     

     

                อัคไม่ว่าอะไร...แต่ก็ส่งสายตาดุๆมาให้ผมที่บังอาจทำร้ายประธานนักเรียนผู้ยิ่งใหญ่อย่างมัน  แต่มีหรือครับ คนอย่างนายคุณ กานคุณจะกลัว  รอให้ไอ้ชาได้ไอ้เอ็มเป็นเมียก่อนเหอะ หรือจะให้ไอ้ชาเป็นเมียดี? เห้ย!!!  ไม่ใช่ครับดูเหมือนเรื่องนี้จะเร็วเกินไป  เอาใหม่แก้ใหม่ๆ  เอาเป็น รอให้ไอ้กรีนเข้ารอบสุดท้ายเวทีประกวดทีฟฟานีก่อนเหอะครับ!!!!!!

     

     

                ผมมองอัคที่ยกถ้วยกระเบี้องสีเขียวอ่อนขึ้นมาคนๆเป่าๆ ควันแสดงถึงสิ่งที่อยู่ในถ้วยว่ามันคงร้อนพอควร(มันคงไม่เอาน้ำแข็งใสมใสมาให้ผมกินหรอกครับ! ถึงเป็นน้ำแข็งใสจริงมันคงไม่โง่พอมานั่งเป่าให้มันเย็นน้อยลงหรอกมั้งครับ!!!) พอไอ้คนเป่ามันคิดว่าไม่ร้อนแล้วก็จ่อช้อนมาที่ปากผม  ผมมองสิ่งที่อยู่ในช้อนด้วยหน้าบูดบึ้ง  มันให้ผมกินโจ๊กอีกแล้ว!!  ได้ข่าวว่ากูเพิ่งจะแดกไปเมื่อเช้า วิตามินB12 ยังไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดอยู่เลยครับตอนนี้ -_-;;

     

     

    “กูไม่เอาโจ๊กคนอร์” ผมบอก...ไอ้อัคหน้างออีกครั้ง    นั่นไงกูว่าแล้ว  สัด!! ให้กูแดกอะไรที่มันมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าวิตามิน B2 B12 ในซองโจ๊กจะได้มั๊ย???  คำนึงถึงกูบ้างอะไรบ้าง!  แต่ถึงจะบอกไปแบบนั้น  แต่กลิ่นโจ๊กมันก็ยั่วน้ำลายจนต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายออกมาจนแทบจะไหลออกมานอกปากอยู่แล้ว  ผมมองโจ๊กในถ้วยก่อนกลืนน้ำลายลงคอ  แถมท้องผมก็เริ่มส่งเสียงประท้วงเบาพอให้พ่อมันไม่ขายขี้หน้า!  หิวเชี่ยๆเลยครับเนี่ย!!!

     

     

                “เดี้ยงแล้วยังจะเรื่องมาก...แล้วนี่กูก็แวะซื้อให้มึงที่หน้าปากซอยบ้างเหอะ...กูใส่ใจมากพอหวะ” ประโยคดูคุ้นๆเหมือนผมเคยได้ยินเมื่อไม่นานมานี้ -_-;; ผมมองหน้าไอ้อัคที่แมร่งยิ้ม...แต่จากน้ำเสียงนี่มันเหมือนประชดยังไงก็ไม่รู้สิครับ! หรือบางทีผมอาจคิดไปเอง -_-???  ด้วยความที่กลัวเสียฟอร์มทำให้ผมต้องดึงถ้วยกระเบื้องจากไอ้อัคมาไว้ในมือตัวเองแก้เขิน (แล้วผมเขินทำเชี่ยไรเนี่ย!!)  ไอ้อัคก็ว่าง่ายครับยอมปล่อยมือจากถ้วยดีๆ แล้วยืนมองผมจัดการกับโจ๊กเงียบๆ

     

     

                “งั้นเอามากูกินเอง” ผมคว้าถ้วยในมืออัคมาวางไวบนหน้าขาตัวเอง แล้วเริ่มตักเข้าปาก  อร่อยดีครับ! มันบอกว่าซื้อจากไหนนะ  หน้าปากซอยป่าวหว่า?? ทำไมผมไม่เคยรู้ล่ะว่ามีขาย?? วันหลังออกไปซื้อมากินมั่งดีกว่า!!!

     

     

     

                ผมไม่พูดอะไรต่อเพราะเริ่มเจียมสังขารตัวเองว่าไม่สบาย -_-;;  อัคเห็นผมกินโจ๊กก็ทำหน้าพอใจ เออ! กูไม่ใช่ลูกมึงนะ !  ไม่ต้องทำเหมือนพ่อกูขนาดนั้นก็ได้  ขนาดพ่อยังไม่เคยขู่บังคับให้กินเลยนะจะบอกให้!!! แล้วมึงเป็นใครไม่ทราบห๊ะ?? ไอ้ประธานนักเรียน!!!!!!

     

     

                ผมเอาช้อนเข้าปาก...อัคก็จ้อง...ผมยกน้ำดื่ม...อัคก็จ้อง...ผมเอามือขยี้ตา...อัคก็ยังจ้อง...-_-;; เอ่ม!! กูไม่ใช่หลินปิงจะได้ชินกับการถูกเฝ้าสังเกตการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง!!!!...ผมวางช้อนเพราะเริ่มอึดอัดและเริ่มอิ่มสายตาไอ้อัค  ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับกับการที่ถูกคนมาจ้องตอนกิน  -_-;;  กระเดือกไม่ลงจริงๆ ที่สำคัญกูกินไปไม่กี่คำเองนะ จ้องกูทำพ่องเหรอ!

     

     

                “ไมกินน้อยอ่ะ??  กินยังไม่หมดเลย!!!” พอเห็นผมหยุดกินไอ้คนจ้องก็เริ่มโวยวาย  ผมถอนหายใจ!!  มึงไม่เคยรู้ตัวอะไรเลยสินะ??  หน้าไอ้ประธานเริ่มบูด... ไอ้ควายกูผิดสินะที่แดกไม่ลงเพรามึงจ้องกูอยู่เนี่ย!!!!!  ผมจ้องหน้าไอ้อัคด้วยใบหน้าบูดบึ้ง(โมโหหิวครับ!)  ถ้าเป็นไปได้อยากจะลุกขึ้นโบกกะบาลทุยๆของมันซะจริงๆ  ให้กูตายเหอะ!

     

     

                “ก็มึงจ้องกูซะขนาดนั้น!!  ให้กูกระเดือกลงก็แปลกแล้ว!!!” ผมว่าอย่างขัดใจ  อัคเขี่ยในชามโจ๊กที่ผมส่งคืนให้ดู สีหน้าไม่พอใจนัก... มึงตรวจสอบหาวัตถุระเบิดในชามโจ๊กกูเหรอ?  มันคงมีให้มึงหรอกนะ -_-;;;  หลังจากที่มันสำรวจจนพอใจ  ปากมันก็เริ่มทำงาน

     

     

                “แดกแต่หมูนะมึง!!” อัคบ่นมุบมิบ  กูแดกแต่หมูแล้วมันหนักหัวใครป่ะล่ะครับ!  -__-;;;  ผมเถียงไอ้อัคดังๆแต่ในใจ!  เกิดพูดออกไปแล้วมันเอาโจ๊กราดหัวผมทำไงล่ะ  ช่วงนี้อัคแมร่งอารมณ์แปรปรวนเหมือนช่วงประจำเดือนมา...ผมทำปากล้อเลียนประโยคที่อัคพูดยุบยิบ จนอัคหลุดขำออกมาเล็กน้อย! ทำเป็นเข้มนะมึง  แน่จริงมึงเข้มให้ตลอดรอดฝั่งดิวะ!!!  (เก่งแต่ในใจจริงๆเลยกู)

     

     

                “กินแบบนี้เมื่อไหร่จะหาย?” น้ำเสียงอ่อนโยนออกจากปากสีอ่อนคู่นั้น  ผมสัมผัสได้ถึงความห่วงใยผ่านทางน้ำเสียงของอัค  ประโยคสั้นๆแฝงไปด้วยความเป็นห่วง  ความกังวลมากมายที่แสดงผ่านสีหน้า  ไม่เคยมีครั้งไหนเลย...ที่ผมสามารถทำใจแข็งกับท่าทางแบบนี้ของอัค  และไม่มีครั้งไหนเลย...ที่ผมไม่รู้สึกถึงความห่วงใยที่อัคมีต่อผม...

     

     

                “เอามาเลย  กูจะกินต่อ!!!” ผมยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อขอถ้วยคืน  แต่อัคไม่ยอมส่งให้  ผมขมวดคิ้ว! กูยอมมึงดีๆแล้วนะ  ขอร้องอย่ากวนส้น__ ตอนนี้ได้มั้ยครับ?!?!?!?    อัคเห็นท่าทีขัดใจของผมและคงกลัวว่าผมจะพ้นคำอันไม่น่าพึงประสงค์ใส่มันก็รีบพูดทันที

     

     

                “กินหมูหมดแล้วจะกินไง  เดี๋ยวกูไปเอาอีกถุงมาให้  แต่ต้องกินให้หมดนะ!” อัคถามแล้วออกจากห้องไปด้วยความเร็วแสง  ได้ข่าวว่ามึงถามกูไม่ใช่เหรอ? กูยังไม่ได้ตอบมึงเลยนะรีบลุกไปไหน โจ๊กมันไม่เดินหายไปไหนหรอก รอกูตอบก่อนมึงจะตายหรือไงฟะ??  แต่ก็ดีแฮะ  ได้กินอีกเยอะๆ 555+

     

     

                รอไปรอมาเริ่มฟุ้งซ่านจะหลับก็ไม่ง่วง จะกินยาก็ยังไม่ได้กินข้าว(หลายคนถามว่าแล้วที่ผมกินเข้าไปเมื่อกี้คืออะไร?  มันคือหมูครับ  ไม่ใช่ข้าวซะหน่อย!)พอเริ่มไม่มีไรทำก็สำรวจเสื้อผ้าตัวเอง  พบว่ามันถูกถอดเหลือแต่เสื้อกล้ามกับกางเกงบล๊อกเซอร์ลายแองกี้เบิร์ด  คงไม่ต้องสงสัยว่าใครเป็นคนถอด...แต่เหม็นเหงื่อชะมัด!!  เอาไงดีวะกู  เหนียวตัวชิบหาย! จะอาบน้ำ  เดี๋ยวแมร่งไข้ขึ้น!  แต่เมื่อเช้ากูก็อาบน้ำนี่หว่า  งั้นอาบน้ำแล้วกัน!!!

     

     

                ผมตัดสินใจเสร็จก็เด้งตัวเองลุกจากเตียงไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้ข้างตู้เสื้อผ้า แล้วเดินไปทางห้องน้ำ  แต่ก่อนที่ผมจะก้าวเข้าประตูห้องน้ำไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น...ผมเดินไปคว้าiphone 4 ขึ้นมาดู!  ชื่อเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ปรากฎขึ้น!  ผมสับสนนิดหน่อย?  เครื่องนี้ไม่ใช่ของกูนี่หว่า? แล้วมันของใครวะ? ของเฮียปอง? แล้วมันมาอยู่ห้องกูได้ไง! หรือว่าของไอ้ตวง? ลืมไว้ห้องเฮียอีกแล้วสินะเนี่ย! ขี้ลืมจริงๆเลยหวะน้องกู =_=;;

     

     

                “หวัดดีครับ!!” ด้วยความมีมารยาทผมกรอกเสียงลงไปหลังจากตัดสินใจว่าจะรับสาย...ปลายสายเงียบไป  คงอึ้งเพราะอยู่ๆเสียงไอ้ตวงก็หล่อขึ้นซะงั้น 555+ (ล้อเล่นครับ!!)  ผมเลยย้ำอีกครั้ง “หวัดดีครับ” คราวนี้ปลายสายอึกอัก ก่อนที่จะตอบผมมาด้วยเสียงกล้าๆกลัวๆ

     

     

                “อัคหรือเปล่าคะ?...” เท่านั้นแหละครับ ผมก็รู้ทันทีว่าโทรศัพท์เป็นของใคร  เปลี่ยนมือถือตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย? ผมเอาไอโฟนห่างจากหูทันทีดูให้แน่ใจว่าเป็นใครที่โทรเข้ามาเพราะเมื่อกี้แค่มองผ่านๆไม่ได้สนใจว่าเป็นใคร แค่คิดว่าอาจเป็นสาวคอนแวนต์ในสังกัดไอ้ตวง เลยแกล้งรับเผื่อจะได้ซิวสาวคอนแวนต์น่ารักๆมาจากมันได้บ้าง อิอิ!

     

     

                “ไม่ใช่ครับ!  รอแปปนะครับ” ผมบอกปลายสายก่อนที่จะเปิดประตูเพื่อจะเรียกเจ้าของเครื่องให้มารับโทรศัพท์  แต่พอเปิดประตูออกมาไอ้อัคก็เดินขึ้นมาแล้ว  ผมเลยรีบเดินไปหามันแล้วยัดโทรศัพท์ใส่มือ “โทรศัพท์หวะ!” ผมว่า  อัคทำหน้างงๆก่อนที่จะยกiphone 4 ขึ้นแนบหู   “หวัดดีครับ!!

     

     

                “ครับ!! เมื่อกี้อัคลงไปข้างล่างน่ะ” ผมยืนพิงขอบประตูดูมันคุยโทรศัพท์  อัคเลิกคิ้วเหมือนถามว่าผมมีอะไร !!  ผมทำท่าลูบท้องตัวเองแล้วทำปากบอกว่า หิว ไม่ได้ตั้งใจจะกวนมันนะครับ แต่ผมแค่  หมั่นไส้ก็เท่านั้นเอง!!!  ไอ้นี่ก็อีกตัวฮาเร็มแมนตัวพ่อ  ดูจากวันก่อนสิครับ!!  ผู้หญิงที่ผมมองจากข้างหลังแล้วน่ารักสัดๆ (วันนั้นเค้าหันหน้าไปคุยกะไอ้อัคในรถทำให้ผมเองเห็นหน้าไม่ชัด แต่ดูจากเบื้องหลังของเธอแล้ว น่ารักชัวร์ครับ!)  พูดแล้วอารมณ์เสียหวะ  เพราะแมร่งแหละทำกูไม่สบาย (เหวี่ยงไปเรื่อย)

     

     

                “อ๋อ!!  คุณรับครับ  ตอนนี้อยู่บ้านคุณน่ะ  พิมพ์มีอะไรหรือเปล่า?” อัคคุยโทรศัพท์ทั้งที่ตายังมองผมอยู่  ผมหลุดออกจากความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองแล้วมาสนใจคนโทรศัพท์ที่จู่ๆก็มีชื่อผมในบทสนทนา  ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ไอ้อัคหันมาสนใจผมแล้วทำปากว่า  แปป!  เดี๋ยวกูลงไปเอาให้ ผมตอบกลับมันแบบไม่มีเสียง ไม่เป็นไร  ผมเดินไปที่บันไดเพื่อจะลงชั้นล่างไปเอาโจ๊กที่คาดว่าคงอยู่ในครัว  แต่อัคก็เดินมาคว้าข้อมือผมไว้!  ผมมองหน้าอัคอย่างไม่เข้าใจ  แต่อัคทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วยังคงคุยโทรศัพท์ต่อหน้าตาเฉย  กวนตีนกูจริงนะ!  ผมสะบัดบ๊อบใส่มันอย่างเคืองๆ  ไอ้อัคที่กำลังคุยโทรศัพท์กับพิมพ์อยู่หลุดขำออกมาทำให้ปลายสายคงสงสัย มันเลยต้องปฎิเสธว่าไม่มีอะไร ทั้งที่หน้ามันยังคงอมยิ้มกลั้นขำซึ่งตรงข้ามกับคำปฎิเสธของมันจริงๆ  -_-;;

     

     

                “คงไม่ไปครับ  วันนี้คุณไม่สบาย อัคคงต้องอยู่เป็นเพื่อนเพราะไม่มีใครอยู่บ้านเลย” ผมมองหน้าชายที่สนทนากับสาวคอนแวนต์แฟนเก่ามันทั้งที่มือมันยังจับข้อมือผมเอาไว้หลวมๆ ผมไม่ว่าอะไร  ไม่ดิ้น ไม่ขัด เพราะขี้เกียจ  แถมตอนนี้ยังไม่มีแรงไปสู้กับมันด้วย  ก็เลยยอมให้มันจับมืออยู่อย่างงั้น  แต่ก็ยังมีฟึดฟัดบ้างตามประสาคนขี้รำคาญ  อัคก็ไม่พูดอะไรยังคงนิ่งคุยโทรศัพท์อย่างใจเย็นหน้าตาดูมีความสุข อมยิ้มตลอดการสนทนาจนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้  ไหนบอกว่าเพื่อนไงฟะ!  กูจะฟ้องเพื่อนมึง(ที่เป็นแฟนพิมพ์)ว่ามึงจะตีท้ายครัวเขา  ไอ้เลว!! (ไอ้ข่าวว่าไม่นานมานี้ผมเป็นคนยุให้มันแย่งพิมพ์กลับมา)

     

     

                “ไว้พรุ่งนี้อัคไปนะ  วันนี้ไม่ได้จริงๆครับ  คุณไม่สบายมาก”  ผมมองหน้าไอ้อัคเอือมๆ  กูแค่เป็นหวัด เป็นไข้  ไม่ได้เป็นมะเร็ง -_-;;;   ผมมองหน้าอัคที่หันมายักคิ้วให้!  กวนตีนนะมึง  ตอแหลได้โล่อีกตะหาก!“ครับๆ  แค่นี้ครับ หวัดดีครับพิมพ์” บอกลากับอดีตแฟนสาวเสร็จ  มันก็เก็บiphone 4 เข้ากระเป๋ากางเกงนักเรียน แล้วหันมาทำหน้ากวนตีนใส่ผมต่อ 

     

     

                “โทษทีหวะนึกว่าของตวง”ถ้าไม่ติดว่าตัวเองเสียมารยาทกับมันก่อน ผมคงเอาเท้าลูบหน้ามันไปแล้วแน่ๆ  แต่ยังพอสำเหนียกตัวเองแล้วยั้งเท้าไว้ทันไม่ให้ทำผิดเพิ่มอีกกระทง  ก็ได้แต่แสร้งทำหน้าเศร้าเสียใจซะสมควรได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง  อัคได้แต่ขำเพราะคงรู้ว่าผมไม่ได้รู้สึกผิดอะไรกับการที่รับโทรศัพท์ของมันโดยพลการ  แต่ว่า! คิดไปคิดมาแล้วเรื่องนี้ผมไม่ผิดนะ  คนที่ผิดคือมันต่างหากที่ว่างโทรศัพท์เอาไว้ใกล้ผมทั้งที่รู้ว่าถ้ามันดังขึ้นเมื่อไหร่ผมคงรับแน่ๆ (ไอ้หน้าด้าน!!)

     

     

                “จะกินข้างบนหรือกินข้างล่าง??” 

     

     

                “ข้างล่างหวะ  กูไม่ชอบเอาไรมากินบนห้องนอน” ผมว่า  อัคพยักหน้าแล้วเดินนำผมลงไป  

     

     

                พูดอย่างงั้น ไม่กลัวพิมพ์เค้าเสียใจเหรอวะ?  ผมเดินตามอัคลงมาถึงชั้นล่างก็เริ่มเปิดปากเพราะทนอัดอั้นไม่ไหว!!  บางทีที่พิมพ์โทรมาเพราะต้องการใครไปอยู่เป็นเพื่อนก็ได้  แต่อัคมันกลับปฎิเสธหน้าตาเฉย!  มันดูใจร้ายเกินไปหรือเปล่า ??

     

     

                ยังไง? อัคหยุดเดินแล้วหน้ามามองหน้าผมพร้อมทั้งทำหน้าที่แสดงออกแกล้งสงสัยเสียเต็มประดา -_-;;  กวนตีนกูกันเข้าไป  ถ้าไม่เห็นว่าพอมีความดีอยู่บ้างกูจะไฮคิกมึงให้กระเด็นออกจากบ้านกู!!!

     

     

                อย่ามากวนตีน  กูรู้ว่ามึงรู้ว่ากูหมายถึงอะไร!” อัคมองตาผมและผมก็ไม่ชอบหลบสายตาใคร  แต่ใครจะรู้ว่าการที่ต้องยืนจ้องตาผู้ชายคนนี้มันยากเย็นขนาดไหน?  ไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมอยากหลบตาใครเท่าครั้งนี้มาก่อน  สายตาคมที่มองตาผมเหมือนต้องการค้นอะไรสักอย่าง...ไม่รู้ว่าสิ่งที่อัคต้องการคืออะไร? แต่เท่าที่ผมคิดได้ในต้องนี้  คือ ต้องหยุดความคิดฟุ้งซ้านในหัวของผมให้ได้ซะก่อน

     

     

                ไม่รู้ว่าเราสองคนยืนจ้องตากันนานเท่าไหร่แล้ว...“เฮ้อ!  กินข้าวเหอะจะได้กินยา”  ในที่สุด อัคก็เป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาก่อน แบบนี้ถือว่าเป็นการยอมแพ้ได้หรือเปล่าครับ?

     

     

                “ไอ้อัค...กูไม่เป็นไรจริงๆนะ เชื่อกูดิ!!!

     

     

    ***

     

     

                คุณกานคุณเชิญรับยาที่ช่อง 2 ค่ะ”  ผมเพิ่งตระหนักได้ว่า ไม่น่าพูดออกไปเลยว่าตัวเองไม่เป็นไร  -_-;;;  เพราะเมื่อประโยคนั้นหลุดออกจากปาก  ท่านประธานก็ลากตัวผมขึ้นรถบึ่งมาโรงพยาบาลทันทีโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว  ไอ้จะขัดขืนก็ไม่ทันเพราะมัวแต่ตกใจจนเอ๋อ  สมองไม่ทำการขึ้นมาซะงั้น -_-;;; 

     

     

                ผมนั่งอยู่ที่โซฟาเฉยๆโดยที่คุณประธานเด้งตัวขึ้นเหมือนติดสปริงเมื่อได้ยินชื่อผม ไอ้ประธานขี้บริการเดินกลับมาพร้อมถุงยาในมือ  ผมชูนิ้วกลางใส่ไอ้อัคที่ทำตาเหมือนจะเย้ยแบบกวนตี_จนไม่น่าให้อภัย  ไอ้อัคขำกับรางวัลที่ผมให้ไป!!  คงจะมีแต่มันคนเดียวเท่านั้นแหละที่ชอบใจกับการด่าซึ่งๆหน้าของผมเนี่ยแหละ!!!

     

     

                “ไม่เป็นไร แต่ได้ยามาถุงใหญ่  แล้วถ้าเป็นไรขึ้นมานี่คงต้องผ่าตัดเลยสินะ??”  อัคพูดขึ้นมาเมื่อนั่งตรงโซฟาที่ว่างข้างผม  สีหน้ายิ้มแย้ม  แต่ประโยคที่หลุดออกจากปากชั่งเชือดเฉือนดีแท้!!!!!!   ผมคว้าถุงยาในมืออัคมาดูว่ามีอะไรบ้าง  อัคมันก็ยอมให้ดีๆ

     

     

                “ก็แค่พาราฯ  ทำไมแมร่งแพงจังวะ???” ผมพึมพร่ำกับตัวเองเมื่อเห็นประเภทยาที่ไม่คุ้มกับราคาเอาเสียเลย!!!  ผมเตรียมลุกจากโซฟา  แต่อัคกลับดึงแขนให้ผมนั่งลงที่เดิม  ผมขมวดคิ้ว  ถามอัคด้วยสีหน้าว่ามีอะไร??  อัคยื่น Iphone ให้ผมดู  ผมมองรูปผู้หญิงที่ชูสองนิ้วสู้กล้อง  ยิ้มปากฉีกเกือบถึงรูหู  ตากลมๆ  ผิวขาวๆ  น่ารักชิบหายเลยครับ!!!! 

     

     

                ไอ้อัคแทบกระชาก Iphone ออกจากหน้าผมเมื่อผมทำท่าจะกิน Iphone มันเข้าไป!!!  แถมยังทำหน้าบูดใส่ผมเมื่อทำการเก็บ Iphone ของตัวเองเข้ากระเป๋ากางเกงนักเรียนเรียบร้อย!!  ไอ้ห่านิ!!!  กูยังดูไม่อิ่มเลยนะโว้ย!!!!

     

     

                “สนใจหรือไงวะ!!  แทบจะกลืน Iphone กู” ไอ้อัคถามแกมประชด  ผมก็ได้แต่ทำหน้าแปลกใจ!!!  เพราะมันเป็นคนที่ยื่นรูปผู้หญิงคนนั้นให้ผมดูเองแท้ๆ แต่กลับมาเคืองที่ผมทำท่าจะชอบ(ความจริงชอบไปแล้วครับ 55+)  เธอคนนั้นที่อยู่ในรูป!!  เข้าใจยากนะมึงเนี่ย!!!

     

     

                “ใครวะ?? น่ารักอ่ะ” ความน่ารักชนะทุกอย่างครับเวลานี้  ด้วยแรงดึงดูดใจของผิวขาวอมชมพู  555+

     

                “ถ้าบอกว่าเพื่อน  จะเชื่อกูปะล่ะ??”  อัคถามผมกลับมา  ผมก็ได้แต่เลิกคิ้วแปลกใจ  อยู่ๆคนที่ควรจะได้คำตอบอย่างผมต้องกลายเป็นฝ่ายตอบคำถามซะอย่างงั้น...ผมมองหน้าอัค  “เพื่อนมึงน่ารักเยอะเนอะ  แนะนำให้กูรู้จักสักคนสองคนดิ!” ผมกระเซ้ากลับ  อัคยิ้มๆ “อย่างงี้มันขึ้นอยู่กับหน้าตาหวะ 555  

     

     

                “ไอ้เชี่ย!! ไม่คุยกะมึงแล้วกวนตีนกู” ไอ้ห่า!  ต้องให้กูเหวี่ยงสินะ  ผมอารมณ์เสียแล้วเดินหนีออกมา  ไอ้อัคได้แต่เดินตามมาข้างหลัง โดยที่ยังหัวเราะร่าเริ่งบ่งบอกถึงอารมณ์รื่นเริงบันเทิงใจ!!!  เดี๋ยวพ่อยิงทิ้งเลย!!!!

     

     

                “กินไรมั๊ยคุณ???”  ไอ้คนอารมณ์ดีส่งเสียงถามมาจากด้านหลังเมื่อเดินผ่านcafe’ร้านดัง ผมหันไปมองแล้วค้อนมันหนึ่งทีถ้วนด้วยความหมั่นไส้หน้าตาระรื่นที่ยังคงยิ้มและหัวเราะเหมือนเมายา!!!  อัคไม่ถามผมอีก แต่กลับฉุดผมเข้าไปภายในร้าน  ไอ้เชี่ย!! ไม่ต้องถามกูก็ได้มั้ง  เปลืองแรงกูค้อนชิบหาย!!!!!

     

     

                “พี่ครับ  เอาโกโก้ร้อน ม็อคค่าเย็น แล้วก็เค้กส้มนมสด  กับ เดนนิส 2 ชิ้นครับ”  พอเดินไปที่เคาเตอร์คุณประธานฯสั่งเป็นชุดแบบไม่มีการหยุดคิดรายการ เครื่องดื่มและขนมใดๆทั้งสิ้นเหมือนเตรียมมาจากบ้านว่าจะสั่งอะไรบ้างเมื่อเข้ามาถึงในร้าน  และทำสำคัญ มันไม่เปิดโอกาสให้ผมสั่งอะไรใดๆทั้งสิ้นโดยการตัดบทผลักผมให้เดินไปทางโซฟาที่ทางร้านจัดเอาไว้สำหรับนั่งดื่มเครื่องดื่ม และทานขนมของร้านได้อย่างสบายและสงบ

     

     

                เมื่อนั่งลงบนโซฟาด้านในเรียบร้อย ผมก็มองหน้าไอ้ประธานฯที่ยังคงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วหยิบ iphone ขึ้นมาเล่น    ผมก็ไม่ได้พูดอะไร  ได้แต่เคืองตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรที่แสดงถึงการปฏิเสธอย่างเด็ดขาดได้เลย  สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่การทำสีหน้าไม่พอใจและแสดงถึงอารมณ์หงุดหงิดเท่านั้น! 

     

     

                ไม่นานนัก  แก้วกระเบื้องที่มีควันฉุยๆของโกโก้ร้อนโฉยไปมาเหนือแก้ว แก้วพลาสติกที่มีหยดน้ำเกาะอยู่ภายนอก พร้อมกับจานกระเบื้องสีขาวสองจานที่มีเค้กนมสดท๊อปปิ้งด้วยชิ้นส้มเชื่อมสีสวย ส่วนอีกจานก็เป็นจานเดนนิส 2 ชิ้น ที่ไม่ต้องเดาผมก็รู้ว่าคงเป็นของอัค

     

                อัคไม่ได้สนใจอะไรนอกจาก iphone ในมือ  ผมเลยทำเป็นไม่สนใจมัน คว้าแก้วม็อคค่าเย็นทำท่าจะดูด  อัครีบเด้งตัวมาคว้าแก้วม็อคค่าเย็นในมือผมทันที!  ไอ้สัด!! ไหนไม่สนใจไง  ทำไมมึงเด้งตัวได้เร็วนัก!!!

     

     

                “ของมึงอันนี้!!  อัคเลื่อนแล้วกระเบื้องมาให้ผม  ผมมองแต่ก็ไม่แตะแก้วนั้นเลยยังยื้อแก้วม็อคค่าต่อไป  ไอ้อัคก็ไม่ยอมครับ ออกแรงรั้งแก้วม็อคค่าไว้! ไม่ได้แรงจนถึงกระชาก แต่ก็ไม่ได้เบาถึงขนาดที่ว่าผมจะดึงมาเข้าปากได้ -_-;;

     

     

                “กูอยากแดกอันนี้!” ผมว่า  “เป็นไข้กินของเย็นๆได้ไง?” อัคถามเสียงเข้ม  ผมยอมปล่อยมือจากแก้วม็อคค่า แล้วเอามือกอดอก มองไอ้คนที่เอาแก้วม็อคค่าของผม(?)ไปไว้ในมือได้สำเร็จตรงข้าม

     

     

                “แค่นี้ยอมให้กูแดกก็ไม่ได้!” ผมว่า  อัคถอนหายใจออกมา ก่อนวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะเหมือนเดิม  “กูยอมมึงได้ ถ้าตอนนี้มึงสบายดี!  แต่ถ้ากูยอมมึงตอนนี้  แล้วมึงแย่ลง กูยอมไม่ได้!” เสียงอ่อนโยนของอัคทำให้ผมคลายความโกรธลง  และคิดถึงสิ่งที่อัคพูด  มันก็จริง! 

     

     

                “เค้กส้ม  กินวิตามินซีบ้างจะได้หายเร็วๆ” อัคยิ้ม  แล้วเลื่อนจานเค้กมาตรงหน้าผม

     

     

                ผมมองหน้าอัคก่อนที่จะหยิบส้อมมาเพื่อจัดการเค้กข้างหน้า  คำแรกก็รู้สึกถึงความอร่อยนุ่มลิ้น  ของแพงมันเป็นแบบนี้เองครับ 555+  อัคที่รู้ว่าผมหยุดงอแงแล้ว(?) ก็เริ่มยิ้มออก หยิบส้อมมาจัดการกับเดนนิสตรงหน้าเหมือนกัน  ส่วนผมที่ได้กินของอร่อยก็เริ่มอารมณ์ดี ทั้งที่เค้กส้มนมสดนี่ทำให้ผมเริ่มเจ็บคอนิดหน่อยก็เถอะ(มันเย็นนี่ครับ!!!)

     

     

                “อร่อยมั๊ย???”  อัควางแก้วม็อคค่าลง  ผมพยักหน้ายิ้มๆ  “ชิมได้ป่ะ??” อัคถามต่อก่อนใช้ส้อมในจานเค้กส้มของผมตัดเค้กเข้าปาก  ผมเห็นแบบนั้นรีบโว้ยวายทันที

     

     

                “เฮ้ย!!!  เดี๋ยวมึงติดหวัดกูทำไง” ผมว่า  อัคก็ทำหน้าซื่อไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังดูดส้อมผมอีก  มึงไม่ติดหวัดกูให้รู้ไป!!

     

     

                “ไม่ติดหรอก!  ถึงติดก็ไม่เป็นไร  หวัดจากมึงกูยินดีเป็นน่า 555  เชื่อมันเลยครับ!  คนดีๆที่ไหนเขาอยากเป็นหวัดกัน  ถึงผมกับมันจะสนิทกันแล้ว  แต่ก็ไม่จำเป็นที่มึงจะมาเป็นหวัดร่วมสาบาญกับกูหรอกนะ -_-;;;

     

     

                “สัด!  รักกูขนาดนี้   ไม่เป็นแฟนกับกูเลยล่ะ???”  ด้วยอารมณ์ชั่ววูบทำให้ผมประชดออกไป  และรู้ตัวว่าไม่ควรพูดอีกทีก็เมื่อ คนฟังค้างไปกับประโยคของผม  และเมื่อคิดได้ว่าประโยคที่ตัวเองพูดมันน่าตะลึงแค่ไหน!  ถ้าผมตกใจตอนนี้มันจะช้าไปไหมครับ????

     

     

                “เพิ่งรู้เหรอว่ากูรักมึงขนาดนี้?  รู้ไว้ก็ดีแล้วว่ากูรักมึงมากแค่ไหน!!! 

     

     

     

    To  Be  Continued.

     

    Talk

    กะว่าจะมาลงตอนวันเกิดตัวเองสักหน่อย แต่กลายเป็นว่าแต่งไม่ทัน 555 +  ตอนต่อไปยังไม่มีกำหนดค่ะ !  แจ้งไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะว่าจะสอบMid แล้ว  แต่กยังไม่ได้อ่านหนังสืออีกตามเคย  แถมตอนนี้ยังโดดๆ เล่นๆ หลับๆ อีกต่างหาก ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็เถอะ แต่เวลาว่างช่วงนี้ก็ไม่ค่อยจะมี เพราะเพิ่งผ่านรับน้อง (มหาลัยนี้กิจกรรมรับน้องนานมาก)  และนี่ก็พึ่งผ่านพิธีพระราชทานปริญญาบัติ  ไปค่ะ!!  ตอนนี้เหนื่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลย  ขอพักไว้สักแปป(อาจจะยาวๆๆ)  แล้วจะกลับมาพร้อมตอนต่อไปนะคะ ^-^

    Ps.ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ยังคงติดตามผลงานเรื่องนี้อยู่นะคะ ^-^

    Ps.Commetn A.จะตามมาค่ะ!!!

    Ps. (สุดท้าย)  ถ้าพิมพ์ผิดเยอะ  ขอประทานโทษด้วยเพราะตอนนี้ง่วงจากงานวันเกิดมากค่ะ!!!!

     

               

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×