ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Benoname...แค่รักครับ ทำไมต้องตั้งชื่อ? (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter:18th Suddenly...something’s change [ Complete ]

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 54


    Chapter:18th  Suddenly…something’s change

     

     

     

    เสียงอึกทึกดังออกมานอกบ้าน ...

    คงเดาไม่ยากสินะครับว่าไอ้พวกนั้นมันร่าเริงกันถึงขีดสุดขนาดไหน?

     

    ผมรีบเดินเข้าไปในบ้านด้วยแรงชักจูงจากเสียงเพลงเร้าใจภายใน  เปิดประตูบ้านก่อนจะสะบัดรองเท้าไปรวมกับกองรองเท้าผ้าใบของพวกเพื่อนๆผม...ส่อถึงความไร้ระเบียบเป็นอย่างยิ่งครับ 555+ ซึ่งถ้าเป็นที่บ้านผมคงโดนเฮียปองโบกกะบาลเรียงตามความเกรียนกันเลยที่เดียว (เห็นเฮียปองเป็นแบบนั้น! ความจริงเฮียระเบียบจัดมากครับ ยกเว้นตอนเฮียทำงานเร่งๆจนไม่มีเวลาเก็บเท่านั้นแหละ เหมือนตอนที่หาหนังสือให้พวกผมไง จำกันได้มั๊ยครับ?)

      

    กูมาแล้วววววว!” ผมตะโกนทันทีที่โพล่หน้าเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่พวกแมร่งก้งกันอย่างสนุกสนาน  ผมมองขวดของมึนเมาทั้งหลาย ทั้งเหล้า ทั้งเบียร์ ทั้งน้ำหวามผสมแอลกอฮอล์(พวกSPY ที่ดีกรีน้อยๆน่ะครับ)  ท่าทางงานนี้มีเช้าครับ...

     

    ช้าจริงมึง!! มานั่งเลยเร็วๆ...ไอ้ริทชงให้ไอ้คุณดิ๊!!” ไอ้กรีนตบที่นั่งข้างตัวมันก่อนหันไปสั่งไอ้ริทที่อยู่ใกล้ถังน้ำแข็งที่สุดให้ผสมให้ผม

     

     “เออๆ ไอ้เชี่ยนี่ใช้กูจริง สัด!!!” ปากไอ้ริทก็ด่าไอ้กรีนไป  มือก็เทโซดาไป  ผมฮาที่แมร่งด่าก่อนยื่นมือไปรับแก้วจากไอ้ริทมาจิบนิดหน่อยครับ  ไม่รีบร้อนคืนนี้ยังอีกยาวไกล!!!!

     

     “อย่าบ่นๆ!! เรามาสนุกกันนนนน”

     

     

    “ชนแก้วหน่อยโว้ยยยยย!” ผมยื่นแก้วตัวเองออกไปชนกับพวกมันก่อนกระดกเข้าปาก  ของเหลวเย็นจัดที่อยู่ในแก้ว พอไหลลงคอแล้วรู้สึกร้อนวาบ!

     

    “แล้วไอ้อัคอยู่ไหนวะมึง?” ไอ้ชาที่เคี้ยวทาโร่ทอดอยู่ข้างๆไอ้เอ็มที่ร้องเพลงพร้อมถือขวด SPY Classic อยู่ในมือ  ไอ้เอ็มมันคงเมาได้ที่เลยครับตอนนี้ -_-;; ดูจากหน้าแดงเถือกของมันแล้ว คงซัดไปครึ่งขวดได้ (ไอ้เอ็มคออ่อนมากครับ -_-;;) ดูเหมือนไอ้ชาจะเป็นคนเดียวในที่นี้ที่ยังมีสติครบถ้วน เพราะปกติมันจะไม่แดกเหล้าเวลาไอ้เอ็มได้กลิ่นแอลกอฮอล์(แค่ได้กลิ่นไอ้เอ็มก็เมาได้ครับ -_-;;)

     

    “เออ! เดี๋ยวกูไปดูมันก่อน” ผมพูดกับไอ้ชา ก่อนหันไปบอกไอ้กรีน “ไอ้กรีน กูให้ไอ้อัคมันนอนห้องมึงนะ” ไอ้กรีนที่ตอนนี้กำลังเมาได้ที่(ไอ้นี่ก็อีกตัวครับ!!! คออ่อนแล้วไม่เจียม -_-;;) กระดกเหล้าเข้าปาก ไม่มีสัญญาณตอบรับ แสดงว่า ได้! แต่ถึงมันไม่ให้ ผมก็จะให้ไอ้อัคนอนอยู่ดี เพราะยังไงคืนนี้พวกแมร่งก็คงนอนกันตรงนี้แหละครับ (ลืมไป!! อาจมีผมอีกคนที่นอนเมากองกับพวกมันตรงนี้แหละ 555+)

     

    ผมเปิดประตูออกมา ลมเย็นสบายพัดมาเบาๆทำให้ผมรู้สึกสดชื้นขึ้น รถมินิคูเปอร์สีน้ำเงินจอดอยู่ที่เดิม ผมชะเง้อมองหาคนขับแต่ไม่เห็นมีใครอยู่แถวนั้น!  ไปไหนของเขาเนี่ย?

     

    ผมเดินออกมาด้านนอกรั้วบ้านและเดินตรงไปยังรถคันเล็ก...

     

    “มานอนอะไรในนี้วะมึง...เข้าบ้าน!  เปิดประตูรถแล้วเรียกคนที่เอนเบาะนอนหลับในรถ  ถึงว่าทำไมแมร่งนาน ที่แท้มาแอบนอนนี่เองนะเมิง!

     

    “ขี้เกียจลุกแล้วอ่ะ! เหนื่อย” อัคพูดทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่...

     

    “แล้วเมื่อกี้ตอนขับรถ ไอ้คนไหนมันบอกว่าไม่เหนื่อยวะ?” ผมว่า   เท่าที่ผมจำได้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนมันยังเถียงกับผมอยู่เลยว่ามันไม่เหนื่อย แถมดื้อจะตามมาส่งผมให้ได้...แล้วไงตอนนี้มาขี้เกียจลุกวะ!

     

    “ตอนมึงเดินเข้าบ้าน กูเห็นมันวิ่งขึ้นแท็กซี่หนี้ไปแล้ว!” อัคลืมตา แล้วยิ้มหน้าบาน...

     

    “พลั่ว!!! โอ๊ย” อัคยกมือขี้นกุมหัว...

     

    “เจ็บนะมึง! ตบมาได้” สมน้ำหน้า  กวนตีนกูดีนักนะมึง!  ผมมองดูไอ้อัคโอดโอยอยู่นิดหน่อยก่อนฉุดมันออกจากรถ

     

    “กวนตีนดีนักนะเมิง! โดนซะบ้าง” ผมพูด ขณะมองมันปิดกระจกพร้อมล็อครถให้เรียบร้อย อัคหันมามองหน้าผมอย่างงอนๆ ก่อนเก็บกุญแจรถเข้ากระเป๋ากางเกง

     

    “ก็ไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือกันเลยนี่หว่า!  คนเหนื่อยๆอยู่” อัคบ่น...ผมอดขำไม่ได้กับท่าทางที่งุ่นง่านของประธานนักเรียนคนเก่ง เป็นครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกว่าเราสองคนสนิทกันมากกว่าแต่ก่อน...ซึ่งแต่ก่อนที่ว่ามันผ่านมาไม่นานนี้เอง

     

    “แล้วเมื่อกี้บอกว่าไม่เหนื่อยไง?” ผมถาม...อัคยักไหล่ก่อนตอบ

     

    “เมื่อกี้ไม่เหนื่อย...แต่ตอนนี้ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วงเลยแหละครับ มึง! พากูไปนอนซะทีเหอะ” ไอ้อัคพูด  หน้าตามันแสดงออกว่าอยากนอนจริงจัง...และผมก็ขี้เกียจเถียงกะมันจริงจัง

     

    “ก็เข้าบ้านสิครับ! ยื่นบ่นหน้าบ้านมึงคงจะได้นอน?” ผมพูดก่อนดันหลังให้มันเข้าประตูรั้ว... ไอ้อัคเดินโซเซเปิดประตูบ้านก่อนสลัดรองเท้าออกอย่างไม่สนใจว่ามันจะไปอยู่ส่วนไหนของโลก ไอ้ห่านี่น่าโดนโบกทำสันดาน!(ได้ข่าวว่าตอนผมเข้ามาก็ทำแบบเดียวกะมัน 5+)

     

    ผมเดินตามไอ้คนเหนื่อยเข้าบ้าน เห็นมันสลบอยู่บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น ท่าทางแมร่งจะเหนื่อยจริงๆครับ  นอนซะหมดสภาพผู้นำเลยนะเมิง  น่าถ่ายรูปไปประจาญ ลง facebook แล้ว Tag ให้คนรู้กันทั่วโลกเลยจริงๆ!!!! ให้ตายเหอะ!

     

    “มึงขึ้นไปนอนข้างบน!” ผมดึงแขนให้มันลุกขึ้นมา  แต่ไม่เป็นผลครับ ตัวมันใหญ่พอสมควร แถมมันยังขืนตัวไม่ยอมลุกจากโซฟาง่ายๆอีกต่างหาก...กูเหนื่อยนะไอ้เวร!

     

    “ลุกขึ้นมาเลยมึง กูหนักนะ!” ผมพยายามฉุดไอ้คนตัวโตต่อไป  แต่ก็ไม่เป็นผลครับ ก็มันไม่ให้ความร่วมมือผมเลยสักนิด แล้วผมจะไกสู้มันไหวได้ไงล่ะครับ!

     

    “ให้นอนตรงนี้เถอะนะครับ  ผมขี้เกียจลุกแล้ว” ปากก็พูดแต่ตาก็ยังปิดสนิทอยู่เหมือนเดิม

     

    “ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะมึง! ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้  ไปนอนข้างบนเลย    เฮ้ย!!!!” อยู่ๆไอ้คนตัวโต แถมแรงเยอะอย่างกะควายก็ฉุดผมลงไปนอนทับมันซะอย่างงั้น...ไอ้ห่า!!!!

     

    “ไอ้สัด!!! กูเจ็บ ฉุดลงมาได้นะเมิง” ผมว่าก่อนพยายามพลิกตัวลงจากตัวไอ้อัคที่นอนหลับตา แต่ปากแมร่งเสือกฉีกยิ้ม แถมยังรัดผมซะแน่น...ตอแหลมากอ่ะเมิง!!!

     

    “มึงอ่ะแหละ แรงน้อยเกินไป เลยล้มมาทับกู กูเลยเจ็บเลย!!!” ไอ้-วย  ตกลงกูผิดสินะ!! ไอ้สัดอัค

     

    “บิดามึงเหอะไอ้อัค!!!!  ไม่ใช่กูแรงน้อยเกินไป แต่เป็นเมิงที่เสือกแรงควาย หน้าด้านมาโทษกูอีกนะมึง!!!  ผมด่ามันไป...ไอ้ห่า อัครเดชแมร่งก็ไม่มีอาการทุกร้อนใดๆปรากฎให้เห็น  แถมยังรัดผมหน้าตาเฉย!!!  ไอ้ผมที่ขี้เกียจจะดิ้น เพราะรู้ว่าดิ้นไปมันก็คงไม่ยอมปล่อย (สารเลวเนอะครับ) รอให้แมร่งมันหนักแล้วปล่อยผมเองดีกว่า!! จะได้ไม่เปลืองพลังงาน 55+

     

    “ไอ้อัค! ขึ้นไปนอนข้างบน” ผมพยายามเจรจรา เพราะเห็นเวลาผ่านไปนานเกินไป (พึ่งตระหนักได้ว่าเปลืองเวลากินเหล้า) ผมเลยเสนอข้อต่อรอง เมื่อเห็นว่ามันกำลังจะหลับไปจริงๆ

     

    “อืม! นอนตรงนี้แหละ” มันงืมงำตอบผม ไอ้นี่แมร่งดื้อไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ  นึกจะเกรียนก็เกรียนขึ้นมาเฉยๆ  ถ้าผมไม่ถูกมันรัดไว้อย่างงี้นี่ผมคงโบกกะบาลมันไปสองสามทีแล้วแหละครับ  ข้อหาเกรียนเกินบรรยาย!

     

    “กูจะพูดครั้งสุดท้าย! ไปนอนข้างบน”ผมพูดเสียงเข้ม...คราวนี้ไอ้อัคลืมตาขึ้นจ้องตาผม  แววตาที่ผมรู้สึกว่าอ่อนโยนเหลือเกินจ้องมองมาที่ผม...มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย...ผมคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่รู้สึกว่า ในวงแขนมันอบอุ่นเหลือเกิน!

     

    “โกรธเหรอครับ?” อัคจ้องตาผม  และผมก็จ้องตามันกลับ ผมรู้สึกว่าเป็นเวลานานมากก่อนที่ผมจะตอบอะไรบ้างอย่าง ที่ผมเองก็จำไม่ได้ไป...

     

    “พาไปหน่อยดิ! จะไม่ดื้อให้เคืองแล้วครับ” อัคพูดก่อนค่อยๆคลายแขนออก  ผมพลิกตัวลงยืนบนพื้นก่อนที่อัคจะค่อยๆลุกขึ้น... ดูแล้วเหมือนอัคสดชื้นขึ้นกว่าเดิม นี่ผมก็คงรู้สึกไปเองอีกสินะครับ

     

    พวกเราเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้าน...ผมเป็นคนเดินนำพาอัคไปยังห้องไอ้กรีน...ผมเปิดประตูห้องในสุดก่อนจะเปิดไฟ และเปิดแอร์  อัคที่เดินตามเข้ามาล้มตัวลงนอนที่เตียงทันที... ผมเห็นแบบนั้นแล้วก็ไม่อยากจะกวน เพราะยังไงมันก็ขึ้นมานอนในที่ที่มันควรจะนอนแล้ว...เดี๋ยวจะหาว่าผมจู้จี้ ขี้บ่น(ทั้งที่ความจริงแล้วผมเป็นทั้งสองแบบแหละครับ 55+)

     

    “นอนดีๆนะเมิง...กูลงข้างล่างแล้ว” ผมบอก  ไอ้อัคอืออากลับมา  ผมเลยปิดไฟแล้วเดินลงไปด้านล่าง

     

    ผมกลับไปนั่งที่เดิมในวง  ไอ้กรีนเมาหลับไปแล้ว(ผมบอกแล้วครับว่ามันอ่อน) ส่วนไอ้เอ็มก็นั่งทะเลอะกะตุ๊กตาแอลโม่อยู่ โดยมีคนทั้งวงนั่งฮา... ไอ้นี่เมาแล้วชอบหาเรื่อง  ขนาดตุ๊กตามันอยู่เฉยๆแมร่งยังทะเลาะได้!!!

     

    “ไม่ห้ามมันเหรอวะ?” ผมถามไอ้คนไร้แอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ที่นั่งขำจะเป็นจะตายอยู่ในวง 

     

    “ห้ามทำไมวะ? กูกำลังถ่ายคลิปลงเฟชอยู่ แมร่งฮาชิบหาย มึงไม่อยู่ตั้งแต่ต้นนะเมิง ตอนแรกแมร่งทะเลาะกะหมอนอิง  เพื่อนมึงนี่เลอะเลือนหวะ!!!! 555+” เป็นไงครับ คำตอบไอ้ชา  แต่แมร่งอย่าลืมแท็กกูด้วยนะ  555­+

     

    “อย่างกะไม่ใช่เพื่อนเมิง”ผมย้อน  ไอ้ชาแมร่งก็หัวเราะหึ หึ แล้วทำเป็นไม่ได้ยิน!  ผมไม่สนใจกระดกเหล้าในแก้วจนหมด...แล้วลุกขึ้น  อยู่ๆผมก็หมดอารมณ์จะกินขึ้นมาซะดื้อๆ

     

    “เป็นไรวะ?” ไอ้ชาถามผม  มันทำหน้าประหลาดใจ เมื่อเห็นผมปฎิเสธการดื่มน้ำทำลายตับซะเฉยๆ  ผมหยิบปลาเส้นในจานมาเคี้ยวก่อนตอบมัน

     

    “ง่วงหวะ  หมดอารมณ์แดกด้วย” ผมว่า  ไอ้ชาทำหน้าเหมือนเห็นผีเมื่อได้ยินคำตอบผม

     

    “ง่วงก็ไปนอนปะ!!” ไอ้ชาไม่ได้ถามอะไรผมต่อ และไล่ผมไปนอน  ผมรู้ครับว่ามันสงสัย? แต่เพราะเป็นไอ้ชา มันเลยไม่ซักไซ้เหมือนไอ้กรีน(ที่แมร่งมีโรคเสือกเป็นโรคประจำตัว)  ผมเดินขึ้นไปชั้นสอง เปิดประตูห้องไอ้กรีนก่อนค่อยๆเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบหมอนสำรองออกมาจากตู้  ด้วยความที่พวกผมมักจะนอนค้างบ้านเพื่อนในกลุ่มกันอยู่บ่อยๆ ทำให้ในห้องนอนของแต่ละคนจะมีหมอนกับผ้าห่มสำรองเอาไว้เสมอ 

     

    ผมล้มตัวลงนอนบนพื้นข้างเตียง  แล้วหลับตาลง...

    *****

     

     

                ผมรู้สึกตัว...มีอะไรบางอย่างรอบตัวผมที่เปลี่ยนไป...ไม่รู้ผมหลับไปเมื่อไหร่...และผมก็ไม่รู้ว่า...คนที่นอนอยู่บนเตียง ย้ายที่ตัวเองลงมานอนข้างผมเมื่อไหร่เหมือนกัน?!?!?!?!?!?!?!?!

     

                ผมจ้องหน้าคนข้างตัวในความมืด...ลมหายใจสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าอัคกำลังหลับอยู่จริงๆ...ผมได้แต่ถอนหายใจ ไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวว่าเมื่อมันตื่นแล้วจะทำให้สถานการณ์ระหว่างเรากลายเป็นกระอักกระอวนใจ... ก็จะไม่ให้เป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ? ก็ไอ้การที่ผู้ชายคนนึ่งนอนหนุนแขนของเพื่อนผู้ชายอีกคนหนึ่งที่กำลังกอดเอวตัวเองอยู่มันเป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมเหลือเกิน...

     

                นอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ที่ผมมองหน้าอัคอยู่ในความมืด...สัมผัสถึงลมหายใจเข้าออกอุ่นๆที่ปะทะใบหน้า... ผมพยายามข่มตาให้หลับ แต่มันก็ไม่สามารถทำได้สักที ทั้งที่ความจริงผมไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง...

     

                “นอนไม่หลับเหรอ?” เสียงอัคดังขึ้นในความมืดทำให้ผมสะดุ้งน้อยๆ เพราะตกใจ คงเพราะผมยุกยิกเกินไปเลยทำให้มันตื่น...แต่แมร่งตื่นมาก็ดีและ ปล่อยกูไปซะที!!!!!

     

                “ตื่นก็ดีและ ปล่อยกูจะนอน แล้วมึงก็ขึ้นไปนอนบนเตียงซะ” ผมสั่ง ก่อนที่จะสะบัดตัวออกจากอัค

     

                “เฮ้ย! ไม่เอา ให้กูนอนเตียงแล้วมึงนอนพื้นเนี่ยนะ? สัด! เพื่อนกันเค้าไม่เอาเปรียบกันหรอก มึงนอนพื้นกูก็นอนพื้นดิ!! สบายคนเดียวกูไม่เอาหรอก” เอ๊! ไอ้นี่สบายไม่ชอบสินะ 

     

                “งั้นกูนอนเตียง” ผมบอก  แต่ก็ไม่วายที่ไอ้อัคมันจะโวยวาย เพราะเรื่องความไม่เท่าเทียมกัน ของสองฝ่าย ไอ้ห่า! แค่เรื่องนอนพื้นนอนเตียง ส้นตีนเหอะ!!! ไม่ใช่เรื่องสหประชาชาตินะเมิง

     

                “งั้นมานอนด้วยกันเลยมา”  แมร่งเรื่องมากนัก งั้นนอนด้วยกันบนเตียงนี่แหละครับ! ผมตัดรำคาญก่อนล้มตัวนอนบนเตียง ส่วนไอ้คนมากเรื่องก็คลานขึ้นมานอนข้างผม... ไม่ใช่ว่าเตียงมันจะเล็กอะไรมากมาย แต่ครับ! มันเล็กเกินไปสำหรับผู้ชายสองคน  พอไอ้ตัวดีขึ้นมานอนบนเตียงได้ก็เอาขาก่ายผมทันที...

     

                “ไอ้สัด! คิดว่าขามึงเบาเหรอ มาก่ายกูเนี่ย” นอกจากมันจะไม่เอาขอออกไปแล้ว มันยังเอาแขนมาก่ายผมอีกตั่งหาก  ไอ้เลว!!!!

     

                “ไอ้อัคกูอึดอัด!!” ผมผลักแขนผลักขา ไอ้อัคออกไป  แต่มันก็ยังพลิกกลับมาก่ายผมอีกเหมือนอยากจะแกล้ง  ผมก็ไม่ใช่คนที่มีความอดทนต่ำอะไร! แต่ขอสองอย่าง อย่ามาแกล้งตอนกูกำลังจะกิน กับ ตอนที่กูจะนอน!!!!!!!

     

                “กูติดหมอนข้าง!” อัคงืมงำ ติดหมอนข้างกะบิดามึงสิครับ!  กูไม่ใช่หมอนข้างโว้ย!!!

     

                “งั้นมึงเอาหมอนข้างไอ้กรีนไป แล้วปล่อยกูซะ” ผมควานหาหมอนข้างบนเตียงอย่างอยากลำบากเพราะมีแขนขาไอ้อัครัดไว้อยู่...อัคไม่ใช่คนตัวใหญ่ครับ  แต่แมร่งแรงเยอะชิบหาย!!!

     

                “ไม่เอา! กอดมึงนี่แหละอุ่นดี” ผมดิ้น  แต่ไอ้อัคก็ไม่ยอมปล่อย จนผมเองขี้เกียจจะดิ้นต่อ ก็แมร่งดิ้นเท่าไหร่ไอ้นี่ยิ่งกอดแน่นขึ้นเท่านั้น!  ในที่สุดผมก็ยอมให้มันกอดโดยดี  ไอ้อัคที่เห็นผมไม่ดิ้นอีกต่อไปก็ยอมผ่อนแรงลงเรื่อยๆ  ทำให้ผมนอนสบายขึ้น...ไม่มีใครพูดอะไร  มีแต่เสียงลมหายใจของผมกับมันที่ยังคงดังเบาๆ...แผ่นหลังของผมสัมผัสกับอกกว้างที่ขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เข้ากับจังหวะลมหายใจของอัคที่แผ่วเบา....

     

                You make me feel like I'm living a teenage dream the way you turn me on เสียงเพลงที่ผมจำได้ว่าเป็นเสียงเรียกเข้าของไอโฟนของคนที่นอนข้างๆผมดังขึ้น

     

              can't sleep, lets run away and don't ever look back, don't ever look back.อัคไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปรับแต่อย่างใด จนผมทนไม่ไหว

     

                “ไอ้อัคโทรศัพท์ ไปรับ!!” ผมว่า

     

                My heart stops when you look at me, just one touch, Now baby I believe ’

     

                “ไม่เอาจะนอน!” อัคกระซิบตอบผม

     

                This is real, so take a chance and don't ever look back, don't ever look back. ’

     

                “บางทีอาจมีเรื่องด่วนนะ” ถ้าไม่เรื่องด่วนจริงๆก็คงไม่โทรมาตอนนี้หรอกครับ เพราะถ้าเป็นผมจะไม่โทรมารบกวนเวลาพักผ่อนของใครเพราะเรื่องไร้สาระแน่

     

                “รอเค้าโทรมาอีกรอบก่อนแล้วค่อยรับ” ไอ้อัคตอบ...ถ้าคนโทรมารู้ว่ามันเป็นแบบนี้คงเสียใจมากแน่ๆ... สงสารคนที่โทรหามันจริงๆ

     

                ไม่ช้าเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกรอบ... “ถ้าไม่สำคัญจริงๆ พ่อจะด่าให้ยับ”  ไอ้อัคถอนหายใจเฮือกก่อนลุกจากเตียงเพื่อไปรับโทรศัพท์

     

                ผมหัวเราะคิก เพราะท่าทางหงุดหงิดของมันก่อนมองมันเดินไปคว้าไอโฟนบนโต๊ะ...

     

                “ฮัลโหลใครครับ?” อัครับโทรศัพท์เสียงเรียบ ท่าทางมันจะหงุดหงิดจริงๆครับ 555+ ช่วยไม่ได้มึงเสือกสำคัญนี่หว่า

     

                “ใจเย็นๆนะครับพิมพ์  ไม่ต้องร้องไห้” เสียงไอ้อัคดูตกใจ และบทสนทนาก็ทำให้ผมตกใจไปด้วย 

     

                 “พิมพ์อยู่ไหนครับ?  อยู่ที่บ้านหรือเปล่า?” อัคถามปลายสาย

     

                “ครับ ใจเย็นๆแล้วนอนก่อนนะครับ  เดี๋ยวพรุ่งนี้อัคไปหา”

     

                “ไม่ต้องกังวลนะครับ  พิมพ์ยังมีอัคนะ” ไม่ต้องถามว่าคนปลายสายสำคัญแค่ไหน...คำพูด น้ำเสียง ท่าทาง  ทุกอย่างที่รวมกันเป็นอัครเดช บอกคุณได้ว่า เธอ สำคัญ  จริงๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×