คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Chapter:16th A Little Thing You do [ Complete ]
Chapter:16th A Little Thing
You do
“ว่าไงไอ้คุณ!” ทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้าไปในโรงยิม(อันเป็นที่สิงสถิตของชมรมบาส) ทั้งรุ่นพี่ รุ่นเดียวกันก็วิ่งกรูเข้ามาทักทายเหมือนไม่ได้เจอหน้ากันมา 10 ปียังไงยังงั้น!!...ผมแค่ไม่ได้เข้ามาชมรมเลยตั้งแต่เป็นคณะกรรมการนักเรียน และเท่าที่นับดู มันยังไม่ถึงครึ่งเดือนเลยด้วยซ้ำ -_-;;
“ไม่เห็นหน้าเลยนะมึง...ไม่คิดจะมาชมรมบ้างไง?”เฮียเบนซ์เอ่ยถามเป็นคนแรก เฮียเบนซ์เป็นเพื่อนอีกคนของเฮียปอง(พี่ชายผมเอง)และเป็นพี่ในชมรมที่ผมสนิทที่สุดรองลงมาจากพี่พาส...
“วันนี้ผมก็มาให้เฮียเห็นหน้าแล้วไงครับ!!” พอพูดจบประโยคก็โดนโบกไปหนึ่งที่ถ้วน
“กวนตีนนะมึง!” ทุกคนหัวเราะครืน...
พวกเราคุยกันอยู่สักพักก่อนที่จะแยกย้ายกันไปซ้อม...ผมนั่งดูอยู่บนเก้าอี้ยาวข้างสนามมองการซ้อมของทุกคนในสนาม ที่ดูยังไงก็เหมือน ‘เล่น’ มากกว่า ‘ซ้อม’ แต่นี่แหละครับคือข้อดีของการที่โค้ช ประธานชมรม(หัวหน้าทีม) และผู้จัดการชมรม ไม่อยู่พร้อมๆกัน (ถึงแม้จะมีผมผู้ถูกจ้างวานมาให้ช่วยดูในฐานะตัวแทนประธานชมรมก็เถอะ)
“คุณ! ไม่มาเล่นเหรอวะ นานๆเข้าชมรมทีนะมึง”เสียงไอ้กรดังมาจากในสนาม...ผมส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่มีชุดเปลี่ยนว่ะ!”
“ไรว้า!! ไม่ใจเลย” ไอ้กรบ่น
“ถ้าเสื้อกูเลอะมึงซักให้กูมั้ยล่ะสัด!!” ผมตะโกนตอบไป
“งั้นไม่ต้องเล่น! เชิญมึงนั่งทำเสื้อสะอาดไปคนเดียวเหอะมึง” พูดจบมันก็หันไปสนใจวอร์มอัพต่อ...ผมนั่งมองทุกคนซ้อม รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากลงไปวิ่งในสนามสักรอบสองรอบ แต่ก็กลัวเหนื่อย(?)
ผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปลื่อย เรื่องละครก็เป็นไปได้ด้วยดี ตอนนี้แพทคงกำลังสุมหัวกับเพื่อนนั่งหาเรื่องที่จะแสดงกัน(เรื่องอลิซรู้สึกเธอจะล้มเลิกไปแล้วล่ะครับ -_-;; แพทเป็นคนค่อนข้างเปลี่ยนใจง่าย) แล้วคงวางคาแร็กเตอร์กันเลย ส่วนผมก็รอเขียนบทและช่วยงานจิปาถะ...ส่วนเรื่องแสดงก็ปล่อยเป็นหน้าที่คนอื่นไปเรื่องนี้ผมไม่ขอเอี่ยว
นั่งรอรับหน้าผอ.กับรองฯที่รอเท่าไหร่ก็ยังไม่มา(แต่ก็ดีแล้วล่ะครับที่ไม่มา)..ส่วนไอ้เบลที่(พี่พาส)บอกว่าจะเข้าชมรมก็ยังไม่โพล่หัวมาสักทีจนผมรากเริ่มจะงอกติดกับเก้าอี้! ผมมองหน้าปัดนาฬิกาอย่างเซงๆ ท้องก็เริ่มหิว!! เอาไงดีวะแมร่ง!
“หิวอ่ะดิ!” เสียงทุ้มพร้อมสัมผัสเย็นๆตรงแก้มทำให้ผมต้องหันไปมองด้านหลัง...อัคยืนยิ้มก่อนเดินมานั่งข้างผม พร้อมส่งกล่องโออิชิสีเขียวกับถุงเลย์สีเหลืองมาให้...ผมรับมาวางไว้ข้างๆ อัคมองผมแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“มาไม!” ผมตบที่ว่างข้างตัวเป็นเชิงให้นั่งลง...อัคนั่งตามก่อนหยิบกล่องโออิชิขึ้นมาแกะหลอด...เจอะแล้วส่งให้ผม
ผมรับมาไว้ในมือแต่ก็ยังไม่ได้ดูดเข้าไป..อัคหยิบถุงเลย์ขึ้นมาเกาะก่อนเอาวางไว้ทีเดิม ผมมองดูท่าทางไม่รีบร้อนของท่านประธานนักเรียนอย่างหมั่นไส้...ไอ้นี่แมร่งกวนตีน!
“เบลฝากบอกว่าเข้าชมรมไม่ได้” ประโยคบอกเล่าของอัค ทำผมขมวดคิ้ว ก่อนล้วงโทรศัพท์มือถือตัวเองออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดโทรออก....
“ ตี๊ด~ ตี๊ด~!! ว่าไงมึง” เสียงไอ้เบลดังมาตามสาย...
“สัด! ไหนเจ๊พาสบอกว่ามึงจะมา” ผมตวาทใส่โทรศัพท์...เหมือนคนข้างๆผมจะหันมาสนใจผมนิดหน่อยผมขยิบปาก ‘โทษที’ มันยิ้มกลับมาแล้วพูดเบาๆ ‘ไม่เป็นไร’...อัคหันไปสนใจในสนามต่อ..
“กูยุ่ง!” คำตอบของไอ้เบลทำผมแทบจะวิ่งไปห้องกรรมการฯตอนนี้แล้วกระโดดถีบมันสักที...แต่ด้วยความขี้เกียจเลยนั่งด่ามันอย่างเดียวก็คงพอ
“แมร่งเหอะ! แล้วถ้าผอ. กะ รองฯ มากูจะทำไงวะ?”
“อ้าว! ก็กูให้อัคมันไปแทนแล้วไง? มันไม่อยู่กะมึงเหรอ?” ผมหันมองอัคที่หันมายิ้มให้ผมขำๆ... แล้วแมร่งไม่บอก?!?!?
“อยู่! แต่แมร่งไม่เห็นมันพูดไรแล้วกูจะรู้มั้ย?” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่อัค ที่พยายามกลั้นขำจนไหล่สั่น..
“เออ! อยู่ก็ดีแล้ว ฝากบอกมันด้วยว่าห้าโมงกลับมาทำงานด้วย ไอ้นีมส์มันจะกลับก่อน” ไอ้เบลพูดจบแล้ววางสายไป...ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงอย่างเดิม
“เบลฝากบอกว่า ห้าโมงเข้าไปทำงานด้วย นีมส์ขอกลับก่อน” อัคพยักหน้ารับทั้งที่ตายังจ้องการซ้อมของชมรมบาสในสนาม...
“...”
“...”
ผมนั่งตามองไปยังทีมที่ซ้อมส่งลูกอยู่ในสนาม..ความสนใจของผมกลับไม่สนใจการซ้อมเลยสักนิด ผมกลับสนใจทุกปฏิกิริยาของคนที่นั่งข้างๆมากกว่า...เฮ้อ! กูท่าจะบ้า
ไม่มีบทสนทนาต่อเหมือนผมกับอัคต่างวุ่นอยู่กับโลกของตัวเอง...ผมนั่งดูดโออิชิไปคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่างหาสาระไม่ได้ ส่วนอัคก็เอาiphoneขึ้นมาเล่นเกมส์ไปกินเลย์ไป
“มึงไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย?” ผมหันไปสบตาอัค...สายตาห่วงใยกับน้ำเสียงอ่อนโยนทำให้ผมรู้ว่า...หมายถึงเรื่องอะไร
“ถ้ากูตอบว่ากูไม่เป็นไรแสดงว่ากูโกหก...” อัคขมวดคิ้ว
“แต่กูจะบอกมึงว่าไม่ต้องห่วงกูนักหรอก...ตอนนี้กูแค่รอให้ความรู้สึกของกูลดระดับลงมาอีกขั้นเท่านั้นแหละ”
“นานเท่าไหร่?”
“กูก็ตอบมึงไม่ได้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่...” เพราะกูยังไม่รู้เลยว่า...ความรู้สึกที่กูมีให้พี่อันอัน มันจะสามารถ เปลี่ยนจาก ‘รัก’ เป็นอย่างอื่นได้หรือเปล่า....
***
ทุกคนในชมรมเตรียมตัวกลับบ้าน...ผมช่วยพี่พีซ(ผู้จัดการทีมอีกคน)เก็บอุปกรณ์เรียบร้อยก็ชิ่งออกมาก่อน...ส่วนไอ้อัคก็ถูกไอ้เบลโทรตามตัวไปตั้งแต่สี่โมงสี่สิบ ผมก็เลยต้องช่วยพี่พีซเก็บลูกบาสคนเดียว -_- ชิ!!!
พอเก็บของเสร็จ...ผมก็คว้ากระเป๋าเดินออกมาจากโรงยิม เพื่อหาอะไรมาประทังท้องที่ร้องประท้วงให้ส่งอะไรลงไปให้มันย่อยแทนผนังกระเพาะผม...ทั้งที่เมื่อกี้เพิ่งกินของเซ่นจากไอ้อัคหมดไป..แต่เลย์ห่อละหกบาทมันจะไปช่วยอะไรได้ครับ?...
ตอนแรกกะจะไปเซเวนท์แล้วค่อยกลับไปกินข้าวที่บ้าน แต่พอเดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าเด็ดก็อดใจไม่ไหว เดินเลี้ยวตามกินหอมๆเข้าร้าน 555+
“เจ้าคุณ!! วันนี้กินไรดี” เสียงทักของป้าเจ้าของร้านดังทันทีที่ผมเจอเก้าอี้ว่างให้นั่ง(ร้านคนเยอะจริงๆครับ เบียดกันอย่างกับปลากระป๋อง)
“เอาบะหมี่โฟต้มยำ ไม่ใส่หมึกกรอบครับป้า!”
“รอแปป! เดี๋ยวป้าจัดให้” พูดจบแกก็หันกลับไปปรุงก๋วยเตี๋ยวต่อ...
ไม่นานชามก๋วยเตี๋ยวควันฉุยก็มาตั้งตรงหน้าผม...ไม่รอช้าผมลงมือกินทันทีอย่างไม่รอช้า(หิวครับ หิว)...พอกินอิ่มก็จัดการสั่งซาลาเปาเห็ดหอมกับบ้านไปฝากพ่อ แม่แล้วก็ ตวง...ส่วนเฮียปอง ให้ไปหากินเอาเองเหอะครับ -_-
“ครื้น~ ครื้น~” เหมือนงานกำลังจะเข้า...พอเสียงมา น้ำก็หยดตามมา...ฝนตก!!ซะอย่างงั้น...ผมวิ่งหลบฝนเข้ามาในร้านกาแฟที่ใกล้ที่สุดก่อนที่ตัวเองจะเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนจนไม่เหลือพื้นที่แห้งบนร่างกาย -_-;;
“กรุ้งกริ้ง~ กรุ้งกริ้ง~” เสียงโมบายเมื่อผมเดินเข้าร้านทำให้คนในร้าน(ที่มีแค่นักเรียนรร.ผมไม่กี่คน กับพวกพี่ๆ พนักงานบริษัทอีกนิดหน่อย)หันมาสนใจผมก่อนที่จะกลับไปสนใจสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ต่อ...ผมมองสำรวจร้านเล็กน้อย ถือว่าเป็นร้านที่ดูดีทีเดียวในสายตาผม...สีสันสดใสทำให้รู้สึกร่าเริงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ...แต่ก็ดูสบายๆ ถ้าได้อะไรเย็นๆสักแก้วก็ยอดเลยหละครับ!
ผมมองดูเม็ดฝนที่ไหลตามกระจกหน้าร้านอย่างเซงๆ...แต่นั่งรอฝนหยุดอย่างเดียวก็เกรงใจเจ้าของร้านเลยลุกไปสั่งชามะนาวมาดื่มแก้เซงสักแก้ว =w=...แต่พอเห็นเค้กหน้าตาหน้ากิน(พอดีผมเป็นโรคแพ้ขนมอ่ะครับ ถ้าเห็นแล้วไม่ได้กินนี่เหมือนขาดใจ)ในตู้โชว์แล้วก็อดที่จะสั่งมากินเป็นไม่ได้...เลยจัดไปสักชิ้น...กะว่าถ้าอร่อยครั้งหน้าจะมากินใหม่ 555+
หลังจากเสียทรัพย์ไป50บาทถ้วน(รวมค่าก๋วยเตี๋ยวกับซาลาเปาเป็นเท่าไหร่กันแล้วเนี่ย?)แลกกับการได้ชีสเค้กหนึ่งชิ้นกับชามะนาวหนึ่งแก้วมาครบครองผมก็มานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ตรงเคาเตอร์หันหน้าออกไปทางถนนมองดูสภาพการจราจรที่ติดหนักอันเป็นเรื่องปกติของกรุงเทพมหานคร....ติดจริงอะไรจริง?!?!?!?
ผมหยิบเอาPSPขึ้นมาเล่นรอเวลาให้ฝนหยุดตกและรถหายติด(อันหลังนี่คงยาก)เพื่อที่จะได้กลับบ้านไปดอทกะพวกไอ้กรีน ไอ้ชา ไอ้เอ็ม
“...”
“น้องค่ะ...พี่ขอเก็บจานกับแก้วก่อนได้มั้ย?” พี่เจ้าของร้าน(หรือป่าว?)เข้ามาสะกิดหลังผมเบาๆ...
“ได้ครับพี่” ผมหันไปบอกอนุญาต...พี่เจ้าของร้าน(ผมติ๊ต่างเอาเองแล้วกันครับว่าพี่เค้าเป็นเจ้าของร้าน)ยิ้มให้ผมก่อนหยิบจานเค้กกับแก้วชามะนาว(ที่ผมดูดหมดไปเมื่อนานมาแล้ว)ไปเก็บ...ผมละสายตาจากPSPแล้วมองออกไปนอกร้าน...ฝนยังไม่หยุดตกแต่ก็เริ่มเบาลง...รถไม่ถึงกับโล่งแต่ก็ไม่ติดเท่าไหร่แล้ว...ฟ้าที่เปลี่ยนจากสีฟ้ากลายเป็นสีตุ่นๆ(อาจเป็นเพราะฝนตก)...ผมมองนาฬิกาตัวเอง...เวลาผ่านไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?
“ครื่น~ ครื่น~” ผมเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อเอาโทรศัพท์ออกมาดูอย่างไม่รีบร้อนเพราะเคยชินกับการที่มี sms เชิญชวนให้สมัครบริการGossip ต่างๆที่ผมไม่จำเป็นต้องรู้ว่าทำไมดาราคนนี้ต้องควงกับดาราคนโน้น? หรือ นักร้องคนนี้ไปเดินกับใครที่ไหนในห้างดัง? -__-;
‘ถึงบ้านยัง?’ ผมยิ้มให้กับข้อความที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ...ก่อนกดในรายการที่โทรออกเพื่อโทรไปหาเจ้าของข้อความ
“ดีครับคุณ!” เสียงนุ่มๆดังมาตามสาย...ว่าแต่มันรับเร็วชิบ!
“ไปต้องมาเป็นเสียงหวานเลยครับอัค...ผมฟังแล้วหมั่นไส้” อัคหัวเราะเบาๆกลับมา...จนผมสงสัยว่ามันไปอารมณ์ดีมาจากไหน?
“แล้วนี่อยู่ไหนครับ? ถึงบ้านยัง?”จากประโยคที่มันตอบกลับมาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวผมเองเป็นแฟนมันยังไงไม่รู้...หรือบางทีผมอาจคิดไปเอง?
“ยังไม่ได้กลับบ้านเลยครับ...อยู่ร้านxxxหน้ารร.เนี่ย”
“ทำไมไม่กลับบ้านอีก มันมืดแล้วนะมึง!!!” ไอ้อัคตะโกนใส่โทรศัพท์จนผมแทบเอาหูออกห่างโทรศัพท์ตัวเองแทบไม่ทัน... “ตะโกนมาทำไมวะ? แก้วหูกูแทบแตก” ผมพูดกลับหาปลายสาย พร่างเอามือที่ว่างอยู่แคะหูข้างที่แนบโทรศัพท์เมื่อกี้...
“รออยู่ที่ร้านนั่นแหละเดี๋ยวรับ”
“อ้าว! ยังไม่กลับบ้านอีกเหรออัค?”ผมถามกลับไป...ประธานนักเรียนโรงเรียนผมมีงานหนักขนาดนั้นเลยเหรอครับ เกือบสองทุ่มแล้วมันยังไม่กลับบ้านเนี่ย?
“ถ้ากลับแล้วจะรับคนไม่ยอมกลับบ้านไปส่งบ้านได้เหรอครับ” ผมหน้าหงิก...
“ไม่ใช่ว่าไม่ยอมกลับบ้านแต่มันกลับไม่ได้ต่างหากก็เมื่อกี้มันฝนตกก็เลยเข้ามาหลบในร้านรอให้ฝนหยุด” ว่าแต่....ทำไมผมต้องมาคอยแก้ตัวกับมันด้วยครับเนี่ย? บ้างที่ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกัน -_-a
“อ่าฮะ!! แล้วนี่เปียกฝนปะเนี่ย?” น้ำเสียงกลั้วหัวเราะของอัคทำผมหน้างอยิ่งกว่าเดิม...มันจะขำอะไรกันนักหนา???
“ก็นิดหน่อย” ผมค้อนให้N97 หนึ่งทีถ้วน...
“งั้นแค่นี้นะครับ...รออยู่ในร้านเดี๋ยวไปรับ” พูดจบก็ตัดสายทิ้งทันทีโดยไม่รอคำปฏิเสธของผมคนที่มันจะมารับว่าเต็มใจให้มันไปส่งมั้ย?...แต่ก็เท่านั้นแหละครับ วันนี้เสียตังค์ค่ากินไปเยอะขอกลับรถฟรี จะได้ไม่ต้องเสียค่าแท็กซี่ให้เปลืองงบประมาณในกระเป๋าตังค์ ^ ^
“พี่ครับเอาพายบูลเบอรี่ใส่กล่องให้ผมชิ้นนึ่งครับ ^-^” แล้วผมก็ได้กล่องพายบูลเบอรี่มาไว้ในมือ...มินิคูเปอร์สีน้ำเงินวิ่งมาจอดหน้าร้าน ก่อนที่คนขับจะวิ่งลงมาจากรถ...แล้วมันลงมาทำเพื่อ?
“วิ่งลงมาไมวะ? ไม่ให้กูวิ่งไป” อัคขยี้หัวตัวเองนิดนึงก่อนส่งยิ้มให้ผม...
“กูกลัวมึงเปียก” ด้วยคำตอบที่ไม่คาดคิดทำให้ผมอึ้ง...ด้วยเหตุผลบ้าๆกับรอยยิ้มน่ารักๆของอัคทำให้ผมเขินอย่างไม่มีสาเหตุ...ดูท่าผมคงจะบ้ากว่ามันซะแล้วแหละครับ!
“แล้วซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย?” อัคสำรวจของให้มือผม...การที่อัคทักทำให้ผมนึกขึ้นได้...ผมยื่นถุงในมือให้อัค...
“ซื้อมาให้” อัคที่ตอนแรกรับถุงพายบูลเบอรี่ไปอย่างงงก็ยิ้มบางๆออกมา “ขอบคุณครับ”อัคกล่าวขอบคุณเบาๆให้ผมได้ยิน...ทำไมผมเขินอีกแล้วล่ะครับ? -///-
“กลับบ้านเหอะ...ง่วงแล้ว” ผมว่า ความจริงก็ไม่ได้ง่วงอะไรมากมายหรอกครับ...ก็แค่เขิน!
“งั้นกลับกันเลยนะ”อัคว่า ก่อนเอาเสื้อแจ็กเก็ตกางออกแล้วเอาคลุมหัวผมและหัวตัวเองเอาไว้ แล้วหันมายิ้มให้ผม “เอาคลุมไว้ เดี๋ยวเป็นหวัดแล้วจะยุ่ง” ก่อนที่ผมและอัคจะก้าวออกจากชานหน้าร้านไปเหมือนในฉากหนังรักหวานซึ้ง....แต่ทำไม?
การที่ผมเดินไปพร้อมกลับอัคทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก...แล้วทำไมผมต้องรู้สึกเหมือนกับว่า ที่ตรงนี้เป็นที่สำหรับผม...ที่ที่ผมมีอัคอยู่ข้างๆ
ความอบอุ่นที่มีอัคอยู่ใกล้ๆและหัวใจของผมที่เต้นแรงเหมือนกับจะระเบิดออกมาจากอก...แต่ผมคิดไปเองหรือเปล่า?ผมรู้สึกถึงจังหวะที่เร็วไม่แพ้กันดังอยู่ใกล้ๆ...เหมือนมันจะดังมากจากคนข้างๆผมอย่างไงอย่างงั้น!!!!!
Talk!!!
เอามาต่อให้จนจบแล้วนะคะทุกคน แต่จะมาอีกทีเมื่อไหร่เราก็ยังไม่อาจจะระบุได้...ตอนนี้กำลังวุ่นวายกับชีวิตในมหาวิทยาลัยอยู่ค่ะ หนักทั้งกิจกรรมและเรื่องเรียน...ตอนนี้รับน้องและสอบMid เทอมเสร็จเรียบร้อยแล้วและผลคะแนนออกมาเป็นบางตัว แต่เท่าที่ดูแล้วหน้าเศร้าใจซะเหลือเกินY-Y ตอนนี้เลยพยายามจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้นกว่าเดิม...ขอโทษนะคะที่เหตุผลส่วนตัวเยอะมากจนทำให้อัพนิยายช้าไปด้วย...และก็ขอขอบคุณReader ทุกคนที่ยังคอยComment ให้กำลังใจเรา ทั้งที่เราอู้งานอย่างหนัก....
Ps. Thanks for comment
ความคิดเห็น