ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Benoname...แค่รักครับ ทำไมต้องตั้งชื่อ? (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter:14th if I’m a girl … I will …

    • อัปเดตล่าสุด 23 เม.ย. 54


    Chapter:14th  if I’m a girl … I will …

     

     

     

     

                “ไอ้คุณเมื่อวานมึงไปไหนมา?” พอมาถึงปากแมร่งก็เริ่มเห่า...จะมีใครล่ะครับ!!!ก็ไอ้หน่วยข่าวกรองตัวพ่อ สังกัดหน่วย สทร. (เสือกทุกเรื่อง) -_-;; ขึ้นตรงต่อ อสมท. (องค์การเสือกไม่เลือกที่)อย่างไอ้กรีนคนเดียวเท่านั้น!!!!

     

     

                “ไปไหน?” ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กินโจ๊กหมูในชามต่อไป...ส่วนไอ้กรีนก็นั่งลงตรงข้ามผม...ทำไมจะไม่รู้ล่ะครับว่าเรื่องอะไร...แต่กูไม่อยากบอกมึง  มีไรมะ??

     

     

                “ไปซื้อเองไป ชามละ20 อย่างกนักเลย” ผมว่า ก่อนตักโจ๊กหอมๆเข้าปาก...โอ้!! ความสุขของคุณ 555+

     

     

                “ไอ้สัด!! กูไม่ได้อยากแดกโจ๊ก!!!...เมื่อวานไอ้ไปร์ห้องศิลป์คำนวณเห็นมึงเดินกะไอ้ประธานที่สยาม...พวกมึงไปทำไรกันวะ?” -_-;; ไอ้กรีนยื่นหน้าเข้ามา...ผมแทบจะเอาโจ๊กร้อนๆในชามสาดหน้ามัน เผื่อความร้อนมันจะช่วยละลายความด้านและความอยากรู้อยากเห็น(เสือก)ของไอ้กรีนได้บ้าง...แต่อย่าเลยครับ ผมเสียดายตังค์ค่าโจ๊ก (เมื่อวานหมดไปหลายพัน ถ้าใช้ไม่ดีเดือนนี้ผมได้กินแกลบกินลำแทนข้าวแน่ครับ)

     

     

                “ไปซื้อของ”ผมตอบปัดๆไปเพราะความรำคาญ...แต่ไอ้กรีนก็ยังไม่เลิกครับ มันยังเซ้าซี้ถามต่อ

     

     

                “ซื้อไรวะ?”

     

     

                “ซื้อไม้!!” ผมตอบ...ไอ้กรีนทำหน้างง...ผมกวาดโจ๊กในชามเข้าปากจนหมด...อิ่มว่ะ!! ขอบคุณป้าร้านโจ๊กที่ตักแถมพิเศษให้ผมนะครับ(เรื่องนี้ห้ามบอกไอ้กรีนเด็ดขาดนะครับ อุ๊บ! เอาไว้เลย)

     

     

                “ซื้อไม้มาทำไมวะ?” ไอ้กรีนถามต่อตามที่ผมคาดไว้ครับ...ทีนี้ก็เสร็จโจรอย่างไอ้คุณคนนี้สิครับ  หึหึ!!

     

     

                “ก็ซื้อไม้มาตีหัวพ่อมึงไง!!!”ผมคว้ากระเป๋าหนังข้างตัววิ่งหนีมันทันที(ในมือก็มีชามโจ๊กอยู่ด้วย โรงเรียนผมพอกินเสร็จแล้วต้องเอาจาน-ชาม(ฯลฯ) ไปเก็บในรางครับเพื่อความเป็นระเบียบ)...ไอ้กรีนที่นั่งอึ้งอยู่ ลุกวิ่งตามผมมาพร้อมตะโกนด่าลั่นโรงอาหาร

     

     

    ไอ้เชี่ยคุณ!! กลับมาให้กูเตะซะดีๆ” ผมหันกลับไปชูนิ้วกลางใส่มัน...กลับให้โง่เหรอมึง!!! ไอ้ห่านี่พูดไรไม่คิด  555+

     

     

    “คุณณัฐกิตติ์...หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้เลย!!” ไอ้กรีนหยุดกึก...ผมหันไปมองด้านหลัง

     

     

    และสุดท้าย...ผมก็รอดจากการโดนไอ้กรีนเตะอย่างหวุดหวิดด้วยความช่วยเหลือของอ.อรนุช ที่เผอิญผ่านมาได้ยิน น้องตะเข้น้อยคลานออกจากปากไอ้กรีนพอดี  555+...ถึงคราวจะซวยว่ะเพื่อน!!!...ผมยืนมองไอ้กรีนโดนอ.อรนุชดึงหูร้องโอดโอย อย่างสนุกสนานปานได้ดูละครลิงประกิจ โดยมีไอ้กรีนเป็นนักแสดงนำและมีอ.อรนุชเป็นผู้ควบคุมการแสดง...

     

     

    ไอ้กรีนส่งสายตาอาฆาตมาให้ผมประมาณว่า ถ้ากูหลุดออกไปมึงเจอแน่!!!’ ... กูกลัวมึงตายล่ะไอ้กรีน 555+... พอยืนดูแล้วหัวเราะพอเป็นพิธี(?)... ผมก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ไอ้กรีน...จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้จองเวรซึ่งกันและกันเลย...จงมีความสุขกายสุขใจ หลุดพ้นจากมือของอ.อรนุชในเร็ววันเถิดมึงไอ้กรีน  สาธุ ก๊ากกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

     

    *** 

     

     

     

    กว่าอ.อรนุชจะปล่อยได้กรีนออกจากห้องวิชาการได้ก็ตอนเพลงโรงเรียนดังขึ้นให้นักเรียนทุกคนไปเข้าแถวหน้าเสาธง...และผมก็หลบเลี่ยงด้วยการเอาไอ้เอ็มกับไอ้ชามาคั่นกลางระหว่างตัวผมเองกะไอ้กรีน...เพื่อความปล่อยภัยและสวัสดิภาพของก้นผม...ไอ้กรีนก็ได้แต่ยืนฟึดฟัด เหมือนช้างพังตกมัน หึหึ!!  ฝันไปเหอะว่าเท้ามึงจะได้สัมผัสก้นนุ่มๆของกู!!!

     

     

    ผมนั่งฟังอ.อารยานั่งพูดถึงดินฟ้าอากาศ...สายน้ำ สายลม แสงแดด...และเริ่มเข้าสู่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ฉบับงงๆ ที่ไม่รู้แกไปอ่านเจอมาจากไหน (จนผมสงสัยว่าแกคิดขึ้นมาเองรึป่าว?)...ใครก็ได้เอาแกไปเก็บทีเหอะครับ ผมขอร้อง -_-;;

     

     

    พออาจารย์บ่นถึงหลักธรรมและเริ่มเล่าเรื่องอะไรก็ไม่รู้ที่ผมไม่ใส่ใจ...คนที่ผมอยู่ด้วยในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาก็เดินขึ้นมาพูดอะไรบางอย่างกับอ.อารยา...อ.พยักหน้าเข้าใจแล้วส่งไมค์ให้ไอ้อัค...ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดไอ้อัคก็เอาอ.ไปเก็บ!!!!

     

     

    อัคถือไมค์ไว้ในมือ แล้วเริ่มมอง...จนสายตามาหยุดอยู่ที่ผม...

     

     

    และผมคงรู้สึกไปเอง...เหมือนอัคอยากมองผมเพียงคนเดียว...จากคนนับพัน ที่นั่งอยู่รอบๆตัวผม...

     

     

    อัคมองผมจนมันเริ่มพูด...แต่ทำไม? ผมยังรู้สึกได้ถึงสายตาคู่นั้น

     

     

    “ขอโทษที่มาขัดจังหวะการรับฟังความรู้ของอาจารย์อารยานะครับ” ผมหยุดคิดเรื่องของอัคและตั้งใจฟังที่มันพูด  ถึงมันจะขอโทษขอโพยเรื่องขัดจังหวะการรับความรู้จากอ.อารยา(แบบมึนๆ)แต่ผมว่านักเรียนกว่าค่อนโรงเรียนคงดีใจไม่น้อยที่ไอ้อัคแยกอ.อารยาออกจากไมค์โครโฟนได้สำเร็จ....ขอบคุณมึงมาวะ เหอะๆ!!

     

     

    อัคเริ่มประกาศข่าวสารต่างๆที่ทางโรงเรียนต้องการแจ้งกับเหล่านักเรียน...เช้าวันจันทร์เรื่องก็เยอะอย่างนี้แหละครับ...ผมนั่งฟังไปเรื่อยๆ ความจริงก็ฟังมั่งไม่ฟังมั่ง เพราะข่าวแมร่งโครตหน้าเบื่อเลย!! 

     

     

    ผมนั่งเล่นOX กับไอ้เอ็มจนพื้นสนามเป็นลายพร้อย...เล่นไปเล่นมาก็เริ่มเบื่อเพราะไม่มีใครแพ้ใครชนะซะที เสมอกันตลอด อย่างงี้มันจะไปสนุกอะไรล่ะครับจริงมั้ย พวกผมเลยหันมานั่งคุยกันเรื่องนักร้องเกาหลีแทน!!!

     

     

    นั่งคุยไปคุยมาก็ต้องเลิกคุย เพราะไอ้กรีนกับไอ้ชาทำท่าจะตีกัน เพราะหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ระหว่าง ซอฮยอนของไอ้ชา กับ โซฮี ของไอ้กรีนใครน่ารักกว่ากัน!!! ทะเลาะกันด้วยเรื่องมีสาระมากอ่ะครับ(ประชด) -_-;; ผมกับไอ้เอ็มก็เลยต้องทำหน้าที่เป็นตำรวจปราบจลาจลย่อยๆซะอย่างงั้น!...เจริญเถอะเพื่อนกู!!

     

     

    “เรื่องสุดท้ายครับ...ตอนเย็นให้คณะกรรมการนักเรียนทุกคนเข้าประชุมด้วยนะครับ” พออัคประกาศเรื่องสุดท้ายจบ(ผมหันมาฟังทันพอดี)ก็เดินลงจากเวที แล้วอ.อารยาก็มาประกาศปล่อยแถวแทน...และแกปล่อยได้มั่วมากอ่ะครับเหอะๆ  -_-;;  น้องม.1 ม.2 เรียนตึกสามแต่แกให้ขึ้นบันไดฝั่งสวัสดิการซึ่งมันอยู่ใต้ถุนตึก สี่ (ตึกมันเชื่อมกันครับ)... น้องม.3เรียนตึก สี่ ปีกขวา แต่แกให้ขึ้นบันไดฝั่งบอร์ดรวมซึ่งอยู่ปีกซ้ายตึก สาม -_-;;; แล้วน้องมันจะไม่ชนกันตายตรงกลางเหรอครับ!!!!!!!!!!?...และที่สำคัญผมเรียนปีกขวาตึกแปด แต่แกให้ขึ้นบันไดปีกซ้ายฝั่งโรงอาหาร  ซึ่งมันไกลกันคนล่ะโยชน์...ฝันไปเถอะว่าจะมีใครขึ้นตามที่แกสั่งน่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

    พวกผมเดินมาอย่างเซงอารมณ์  เกิดอาการอึนจากคำสั่งปล่อยแถว(เมาๆ)ของอ.อารยา...ผมหยิบกระเป๋าที่ว่างไว้ตรงที่ประจำหน้าตึกแปดมาถือเตรียมจะเดินขึ้นตึก..

     

     

    “คุณ!!” เสียงเล็กๆของแพทดังตามหลังมาทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง...แพทวิ่งถือกระเป๋านักเรียน ถุงผ้าสีดำของโรงเรียน และ เออ!! ถุงใบโตๆที่ใส่อะไรมาก็ไม่รู้

     

     

    “สายเหรอ?!” ผมถามเมื่อแพทวิ่งมาหยุดตรงหน้า...แพทยืนหอบแล้วพยักหน้า ผมเห็นเหงื่อที่ไหลตามขมับ แพทหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากระโปรงแล้วซับเหงื่อจนมันแห้ง

     

     

    ผมยืนรอจนแพทเช็ดหน้าจนเสร็จ...แพทวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ

     

     

    “หนักอ่ะ!” แค่นั้นแหล่ะครับ ผมก็รู้ชะตากรรมของตัวเอง...

     

     

    “ส่งมาเดี๋ยวถือให้” แพทฉีกยิ้มพอใจ..แล้วส่งถุงผ้าใบใหญ่ให้ผม...ผมรับมาและรู้ว่าตัวเองคิดผิดจริงๆที่รับมันมาถือ!!!!!!...ผมมองแขนเล็กๆของแพทและประเมินน้ำหนักของถุง  นึกสงสัย??  เธอถือมาได้ยังไงเพราะถุงแมร่งหนักโครต!! ผมมองเข้าไปในถุงมีแต่หนังสือทั้งนั้น...แต่ละเล่มก็หนาขนาดสารานุกรมไทย!!!!

     

     

    “จะย้ายบ้านเหรอ? ขนไรมาเยอะแยะ!!!!?” ผมถาม

     

     

    “ย้ายบ้านไปอยู่กับที่รักมั้ง!!!...หนังสือรวมนิทานทั้งนั้น...แพทเอามาเพื่อคุณเลยนะ!!” แพททำแก้มพองเหมือนทุกครั้งที่มีคนถามอะไรจนทำให้เธอเคือง...แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าแพทเอามาทำไม...ในเมื่อเราตกลงกันแล้ว!!!???

     

     

    “ก็ใช้เรื่องอลิสไม่ใช่เหรอ...แล้วเอามาทำไมอีกอ่ะ?”

     

     

    “คุณอย่าลืมนะว่าเราตกลงกันแค่สองคน...แล้วคนอื่นอีกล่ะ  เราต้องรับฟังความเห็นของคนอื่นด้วยนะ!!!!” แพทอธิบาย...จริงอย่างที่แพทว่า...เราต้องฟังความเห็นของคนอื่นด้วย!!!

     

     

    “ไอ้คุณ...แพท!!!! ขึ้นห้องได้แล้ว คาบแรกอังกฤษเสริมอ.ประภานะมึง” เสียงไอ้ชาตะโกนเรียกผมกับแพท...ผมกับแพทเลยเดินตามไอ้กรีน ไอ้เอ็ม ไอ้ชา ที่รีบแจ้น!!! ขึ้นห้องไปก่อน...ไม่เลยคิดจะรอกูเลยนะพวกมึง!!!

     

     

    “คุณ...แพทมีคำถามจะถามคุณล่ะ?”

     

     

    “อะไรอ่ะ?” ผมหันไปถามแพท

     

     

    “เมื่อเช้าแพททำแบบทดสอบ  ความเบี่ยงเบนทางเพศมา” แพทเกร่นนำ -_-;; นั่นไงล่ะครับ...งานเข้าโดยไม่รู้ตัว...แพทจะเอาคำถามแบบไหนมาถามผมเนี่ย??...หวั่นใจจังครับ

     

     

    “คงไม่ใช่คำถามอะไรประหลาดๆหลอกนะ?” ผมย่นคิ้ว...เกิดผมตอบคำถามผิดพลาดขึ้นมา...

     

     

    “ไม่ใช่ๆ!!!... อย่าระแวงอะไรมากได้มั้ย!!!” แพทยืนท้าวเอวมองหน้าผมแบบหาเรื่อง...ผมกลัวแล้วครับ  T-T;;

     

     

    “สมมติว่าคุณเป็นผู้หญิงนะ!!

     

     

    “แล้วทำไมต้องเป็นผู้หญิง??” ผมถามทันควัน...แพทหันมามองหน้าผมแบบเอาเรื่อง

     

     

    “ไม่ได้ยินว่าสมมติหรือไง?  แค่สมมติ!!!” ผมพยักหน้างึกๆ  กลัวแพทจะโกรธจนงับหัวผมเข้า...ผมก็ได้แต่สงบปากสงบคำ รอฟังคำถามของเธออย่างเจียมตัว...

     

     

    แพททำหน้าพอใจก่อนถามต่อ...ผมลุ้นระทึก ว่าคำถามต่อไปมันคืออะไร?...แพทก็ไม่ปล่อยให้ผมลุ้นอยู่นาน...

     

     

    “ถ้าคุณเป็นผู้หญิง...คุณจะเลือกคบคนแบบไหนเป็นแฟน?” แพทวางกระเป๋าลงบนโต๊ะนักเรียนของตัวเอง...ผมวางถุงหนังสือไว้บนพื้นข้างโต๊ะแพท...

     

     

    “ถ้าเราเป็นผู้หญิงเหรอ?” ผมทวนคำถาม...แพทพยักหน้าหงึกๆ

     

     

    “ถ้าเราเป็นผู้หญิง...เราก็เลือกคบคนแบบเราเป็นแฟนดิ 555+” ผมหัวเราะลั่น...แพททำหน้าเบ้เหมือนเบื่อแกมหมั่นไส้...

     

     

    “เอาแบบจริงจัง!!” แพทพูด...ผมเลยหยุดหัวเราะแล้วตั้งท่าคิดใหม่...คนแบบไหนที่ผมอยากจะคบเป็นแฟน??...คนแบบไหนกันนะ?....

     

     

               

    ***  

     

     

     

                พอเรียนคาบสี่เสร็จ พวกผมก็พากันยกโขยงกันจากห้องชีวะไปโรงอาหาร...ผมเดินวนไปวนมาอย่างไม่รู้จะกินอะไรดี!!! เดินไปเดินมาหลายรอบเลยตัดสินใจกินก๋วยเตี๋ยวร้านประจำของไอ้กรีน(ที่มันกินเฉพาะวันอังคารกับพฤหัส)...แต่ทำไมแถวแมร่งยาวอย่างกะหางว่าว???...

     

     

    ด้วยความไม่รู้ว่าจะกินอะไร+ความหลวมตัวมาต่อแถว -_-;; ผมเลยปล่อยเลยตามเลยยืนต่อไปอย่างงี้แหละเดี๋ยวก็ได้กินเอง...

     

     

    แถวเริ่มเคลื่อนไปเรื่อยๆจนด้านหน้าเหลืออีกแค่ 5 คน...ผมจ้องบะหมี่ชามสุดท้ายที่เหลืออยู่...ใครแมร่งกล้าแย่งกูจะกัดหูให้ขาดเลย...และเหมือนพลังอาฆาตของผมจะส่งไปถึงทุกคนยกเว้นไอ้คนเด็กเวรข้างหน้าผมคนเดียวเท่านั้น....

     

     

    “บะหมี่เย็นตาโฟป้า...ไม่เอาผักบุ้ง หมึกกรอบ แล้วก็ลูกชิ้นกุ้ง!!” ไอ้เด็กเวรเรื่องมากนี่เสือกอยากกินบะหมี่ชามสุดท้ายที่ผมเพิ่งเลงเอาไว้แต่แรก แถมแมร่งยังเรื่องมากไม่เอานู่นไม่เอานี่...อย่างงี้มึงแดกอย่างอื่นไปเลยไป  เอาชามนั้นมาให้กู!!!

     

     

    ความจริงก็อยากแย่งแมร่งอยู่หรอกครับ -_-;; !!...แต่ถ้าผมแย่งไอ้เกรียนนี่คงจะเป็นการรังแกเด็ก และผมอาจถูกตราหน้าได้...

     

     

    “ป้าผมเอา เส้นหมี่ต้มยำ ใส่ทุกอย่าง” และไม่ถึงสามนาที(เร็วกว่ามาม่าคัพอีก) ชามก๋วยเตี๋ยวหอมๆก็มาอยู่ในมือผม...แต่แมร่งก็ยังหมดรมณ์อยู่ดี  ยืนต่อตั้งนานไม่ได้กินของที่อยากกิน!!!... ผมหยิบตะเกียบกับช้อนจุ่มน้ำร้อน(ที่ผมไม่เห็นว่ามันจะร้อนจนช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ตรงไหน?) แล้วเดินไปนั่งรวมกลุ่มกับพวกไอ้กรีน

     

     

    “คุณ!!” ทำไมวันนี้มีแต่คนเรียกทั้งวันเลยวะกู!!!

     

     

    ไอ้อัคเดินถือชามก๋วยเตี๋ยวเดินมาหาผม...เอ๋!! มันกินร้านเดียวกับผมเลย โครตบังเอิญ...

     

     

    “กินไรวะ?”ปากก็ถาม ตาก็ชำเลืองมองก๋วยเตี๋ยวในชามอัคไปด้วย...

     

     

    “บะหมี่ต้มยำ!” อัคตอบผม... “แล้วคุณอ่ะ?” อัคถามต่อ...ผมทำหน้าเซงๆก่อนตอบมันไป

     

     

    “เส้นหมี่ต้มยำ...ความจริงตอนแรกก็จะกินบะหมี่...แต่แมร่งมีไอ้เด็กเรื่องมากตัดหน้าไปก่อน โครตเสียอารมณ์เลย!!!” ผมบ่นให้คนตรงหน้าฟังเพื่อระบายความเจ็บใจที่ถูกได้เด็กเกรียนตัดหน้า!!

     

     

    “แลกกะกูมั้ย? ยังไม่ได้กิน ยังไม่ได้ปรุง” ผมมองหน้าอัคตาโต...

     

     

    “เฮ้ย!! ไม่เอา...มึงกินเหอะ” ผมปฏิเสธ...แต่มีหรือครับไอ้อัคมันจะยอม

     

     

    “ก็มึงอยากกินบะหมี่ไม่ใช่เหรอ...มึงเอาของกูไปดิ”

     

     

    “แต่มันของมึง!!” ผมว่า...ไอ้อัคขมวดคิ้ว  มันว่างชามก๋วยเตี๋ยวในมือลงบนโต๊ะที่ว่างอยู่ แล้วหันมามองหน้าผม

     

     

    “กูขอแลกกะมึง ไม่ได้ให้มึงกินฟรี...แล้วก็เอาเส้นหมี่ของมึงมาให้กูได้แล้ว กูต้องรีบไปทำงานต่อ” ผมชั่งใจ แล้วก็ตัดสินใจส่งชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเองให้ไอ้อัค...มันยื่นมือมารับชามไปแล้วส่งยิ้มให้ผม....

     

     

    “กินให้หมดล่ะ...กูอุตส่าห์เสียสละบะหมี่ให้มึงเลยนะ ^-^” ผมอยากตอกหน้ามันกลับไปว่า กูไม่ได้ขอ ... แต่มันคงเนรคุณเกินไปหน่อย!! ... มันทำท่าจะเดินไป ถ้าผมไม่หยุดมันไว้ก่อน

     

     

    “ขอบใจว่ะ!!!

     

     

    “ไม่เป็นไร!!!...เจอกันประชุมตอนเย็นครับ”

     

     

    ผมมองตามแผ่นหลังนั้นไปจนสุดทาง...ผมนึกถึงคำถามของแพท ถ้าคุณเป็นผู้หญิง คุณจะเลือกคบคนแบบไหนเป็นแฟน? ... ตอนนี้ผมนึกออกคนนึ่งแล้วล่ะครับ...

     

     

    ถ้าผมเป็นผู้หญิง...ผมคงเลือกที่จะรักอัค...

     

    ถ้าผมเป็นผู้หญิง...ผมคงเลือกรักคนแบบมัน...

     

     

    “คิดบ้าไรเนี่ยกู!!!!!?” ผมไล่ความคิดนี้ออกจากสมอง...แต่ยิ่งห้าม...มันก็ยิ่งคิด  แต่ผมไม่เข้าใจ...ไอ้อาการใจสั่นนี่มันเกิดจากอะไร...คงไม่ใช่อาการ หวั่นไหว หรอกใช่มั้ยครับ?

     

     

    “ไอ้คุณ!!~ ซื้อไรของมึงเนี่ย นานชิบหาย!!!!!!????” ผมมองไอ้กรีนที่ในมือถือแก้วน้ำไว้อย่างงงๆ

     

     

    “มึงเป็นไรของมึงเนี่ย...เมาไฟลัมหรือไง?”

     

     

    ถ้าผมเมาไฟลัมจริงๆก็คงดีสิครับ...

     

     

     

     

     

     

     

    To  Be  Continued

     

    Edit  21 April 2011

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×