ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Benoname...แค่รักครับ ทำไมต้องตั้งชื่อ? (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter:12nd same same but difference & Beginning of theater

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 54


    Chapter:12nd same same but difference & Beginning of thearter

     

     

     

     

                “พ่อคร๊าบหวัดดีครับ แม่ครับหวัดดีครับ!!” ผมยืนส่งอัคสักพักก็ได้ฤกษ์เข้าบ้าน   พ่อกับแม่นั่งอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวีกำลังดูช่องCNN อยู่ ผมมองไปรอบๆเพื่อหาสมาชิกคนอื่นๆอีก ไอ้ตัวเล็กอยู่หน้าPc เล่นดอทเออยู่...ขาดหนึ่ง

     

     

                “เฮียปองอ่ะครับแม่?” แม่หันมามองหน้าผมก่อนคิดสักพัก

     

     

                “เห็นบอกว่าปรึกษาเรื่องละครเวทีประจำปีกันที่บ้านนิน่ะคุณ  ลูกมีอะไรกับพี่เค้าหรือเปล่า?”ผมส่ายศรีษะปฏิเสธ  แม่มองหน้าผมอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ  ผมเดินขึ้นบันได เปิดประตูห้องแล้ว โดดขึ้นเตียง!!!

     

     

                นอนได้พักนึงเริ่มรู้สึกว่าทนกลิ่นเน่าๆของตัวเองเริ่มไม่ไหว(ไม่เน่าได้ไงอ่ะครับ เหงื่อออกทั้งวัน) ผมเลยต้องเดินเข้าห้องน้ำจัดการโยนเสื้อผ้าตัวเองลงตระกร้า  เดินเข้าไปในอ่างอาบน้ำเปิดฝักบัว...สระผมด้วยแล้วกัน! เกาหัวไปพรางมองหายาสระผมไปพราง ว่าแต่ แมร่งหมดไปเมื่อวันก่อน ทำไมแม้แต่จะสระผมยังมีอุปสรรคเลยอ่ะครับ?...วันนี้เป็นอะไรของมันวะ สัด!!

     

     

                ผมเดินไปเปิดเคาท์เตอร์ใต้อ่างล้างมือ เพื่อหายาสระผม “อยู่ไหนหมดวะ?” แล้วในที่สุดผมก็เจอมัน  อยู่ซะซอกหลืบ ใครช่างใส่เข้าไปเนี่ยไม่คำนึงถึงความสะดวกของผู้ใช้เลย(ได้ข่าวว่าเป็นผมเอง)  กว่าตัวเองจะคว้าขวดออกมาได้เล่นเอาต้องมุดเข้าไปซะสุดตัว(แขนสั้นอ่ะครับทำไงได้?) แล้วไอ้ขวดอะไรต่อมิอะไรนี่มันอะไรเนี่ย? แล้วไฮเตอร์คัลเลอร์มันมาอยู่ในห้องน้ำผมได้ไง...งงกะชีวิตจริงๆตู -_-a!!

     

     

                “โป๊กกกกก!! โอ้ยยยยยยยย!!!!” ตอนคลานออกมาก็ดันดวงไม่ดีเอาหัวตัวเองไปโขกขอบตู้ซะงั้น...อะไรจะซวยขนาดครับ?  เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนผมเพิ่งเอาตัวเองไปวัดพื้นหน้าตึกศิลป์มา ตอนนี้ยังจะเอาหัวตัวเองไปปะลองความแข็งกับปูนอีก สักวันผมคงเอาหน้าตัวเองไปวัดกับไอ้กรีนว่าใครจะหนากว่ากัน 555+ (มีอารมณ์ขำ?)...ท่าทางสมองจะกระทบกระเทือนเล็กน้อยอ่ะครับสติสตังค์ไม่ค่อยดี อย่าถือสาเลย -_-;;

     

     

                “เป็นไรอ่ะเฮียคุณร้องไม?” เสียงไอ้ตัวเล็ก ดังมาจากหน้าประตูห้องน้ำ ตามด้วยเสียงเคาะ ก๊อก ก๊อก สองที ผมคลำหัวตัวเองก่อนตอบ “ไม่เป็นไร! มีไรกะเฮียป่าวตวง?” ผมวางขวดยาสระผม ครีมนวด(อันนี้ก็หมดครับ) แล้วก็ เออ..ไฮเตอร์คัลเลอร์ไว้บนขอบอ่างล้างมือ

     

     

                “ไม่มีครับเฮีย แม่ได้ยินเสียงเฮียร้องเลยให้ตวงขึ้นมาดู” ขนาดนั้น!! แม่ผมหูดีเกินไปหรือเปล่า ผมยืนยันว่าตัวเองรอ โอ้ย เบาๆเองนะ...ผมเปิดประตูออกไปดู(ผมห่อผ้าขนหนูปิดบังมังกรเรียบร้อยแล้ว อย่าคิดลึกล่ะ!!)

     

     

                “เฮียฝากไฮเตอร์ให้แม่หน่อยนะตวง  มันปนอยู่ในตู้เฮียอ่ะ” ตวงพยักหน้างึกๆงักๆ มันเป็นงึกๆงักๆ (อันหลังนี่ไม่เกี่ยวครับ อารมณ์มันพาไป ฮา...) อย่างเข้าใจ แต่ดูตาแบ๊วๆของมัน...เข้าใจจริงป่ะเนี่ยน้องกู?...ตวงเดินออกจากห้องผมไปโดยมีไฮเตอร์คัลเลอร์ชนิดผงอยู่ในมือ เห็นข้างหลังนึกว่าเด็กประถม ทั้งที่มันอยู่ม.2แล้วแท้ๆ...เห็นแล้วก็อยากแกล้งมันสักนิดสักหน่อยเพื่อความสะใจ(ปนความหมั่นเคี้ยว!!)ความจริงที่หมั่นไส้ที่มีไอ้ตวงคุณคนเดียวที่ได้เรียนโรงเรียนชายล้วนโรงเรียนดังที่สีกางเกงนักเรียนช่างดูสะดุดตา แต่มีผมกับเฮียปองที่ได้เรียนโรงเรียนรัฐบาลกางเกงผู้ใหญ่บ้าน  แล้วสาวคอนแวนต์ที่ไหนจะมาแลผมล่ะครับ?  แล้วตอนนี้ได้ข่าวว่ามีหญิงมาปลื้มมันด้วย(แอบsign in เมลล์มันมาเลยรู้ว่ามันเด็กเยอะ) เห็นแบ๊วๆอย่างงี้ก็เหอะ หึ หึ...

     

     

                หลังจากรำพึงรำพัน อาบน้ำ สระผม ขัดขี้ไคล(อย่างหลังนี่ต้องใช้เวลานานหน่อยเพราะมีเยอะ)เสร็จเรียบร้อยจนสะอาดหมดทุกซอกทุกมุม ผมก็เดินตัวปลิวออกจากห้องน้ำไปสิงสถิตอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที(เมื่อกี้ใครบอกเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด?)...เปิดเครื่อง เปิดหน้าจอ เปิดลำโพง แล้วเดินไปหยิบกล้องดิจิตอลในกระเป๋าสะพายออกมา...ไหลดูหน่อยสิ! ผมถ่ายภาพอะไรไว้บ้างเนี่ย?

     

     

                ผมเปิดดูภาพไปเรื่อยๆ...แรกๆมีแต่ภาพหน้าแพททั้งนั้นเลย-_-;; มาถ่ายไว้ตอนไหน? ดูไปยี่สิบกว่ารู้มีแต่แพทกะแฝด(จำได้มั้ย จูดิธ+เรเชล ไงครับ)  ถ่ายไว้กลัวลืมหน้าตัวเองหรือไงเนี่ย?...เลือนภาพมาสักพัก(ใหญ่ๆ) ผมก็เจอหน้าไอ้ชากะไอ้เอ็มจนได้ เลยเอาผมฮาแตกเพราะโพสมันเสื่อมมากกกกกกกกกกกกกกก!!!!...ไอ้ชาเอาไม้กลองยัดจมูกตัวเอง ส่วนไอ้เอ็มทำท่าแคะขี้มูกด้วยไม้กลอง พวกมึงอย่าเอาไม้กลองคู่นั้นมาใกล้กูเชียวนะ โสโครกกกก!....เลื่อนมาเรื่อยๆก็เจอรูปเสื่อมอีกมากมาย อย่าให้บรรยายเลยครับ จะอ้วกกก!

     

     

                “ติ้งต่อง ติ้งต่อง!!” หน้าต่างโปรแกรมMSNเด้งขึ้นมา

     

     

    The Crocodile Junior say:

    ไอ้คุณพ้อยแบงค์ป่ะเพื่อน

    อย่าทัก say:

    ,ไม่เห็นหน้าเอ็มเหรอมึง

    The Crocodile Junior say:

    กุอ่านออกแต่ภาษาอังกฤษว่า โทษที

    อย่าทัก say:

    ,เหรออออ? งั้นมึงตอบกูมาได้ไงวะ

    The Crocodile Junior say:

    กูใช้เซ้นท์

     

                ผมมองความแถของไอ้กรีนผ่านหน้าโปรแกรม ทำมาเป็นกระแดะอ่านออกแต่ภาษาอังกฤษ แต่ทำไมอังกฤษอ.ประภาคราวที่แล้วมึงถึงตกวะ?  แถมไม่ตกธรรมดา...แมร่งยังเอาไข่มาแดกอีก สัดเหอะมึง!!!

     

    The Crocodile Junior say:

    มึงจะพ้อยแบงค์กะกูมั้ยเนี่ย?

    อย่าทัก say:

    ไม่วะ  กูเอารูปลงแล้วจะนอนเลย โครตเหนื่อยเลยวันนี้

    The Crocodile Junior say:

    ไรวะ!! กูยังไม่เห็นเหนื่อยเลย สำออยวะมึง

    อย่าทัก say:

    สัด! อย่ามาทำเป็นพูดดี ก็วันนี้มึงทำเชี่ยไรบ้างล่ะ กูทุกเรื่องเหอะ

    The Crocodile Junior say:

    ก็กูนั่งให้เป็นกำลังใจมึงไง กูเหนื่อยนะมึงไม่รู้เหรอ

    อย่าทัก say:

    ขอบใจสำหรับกำลังใจมึง แต่กูไม่ต้องการ!!

    The Crocodile Junior say:

    คว_ยเหอะมึง 555+

    อย่าทัก say:

    ขำตายห่าเหอะ!

     

                ผมเสียบสายUSBต่อเข้าPc รอโหลดรูป ไฟสีส้มๆก็กระพริบเตือนว่ามีข้อความตอบกลับมา ผมเปิดหน้าโปรแกรมที่คุยค้างกะไอ้กรีนไว้ขึ้นมา

     

    The Crocodile Junior say:

    เอารูปมาให้กูมั่งดิ

    อย่าทัก say:

    รอแปป! กูโหลดอยู่

    The Crocodile Junior say:

    อืมๆ

     

                รูปโหลดเสร็จแล้ว ผมจัดการคัดภาพของแพทออกแล้วส่งให้ไอ้กรีน มีอีกหลายภาพเหมือนกันที่ผมยังไม่ได้ดู  แต่ช่างมันก่อนเหอะ...วันหลังค่อยดูก็ได้!!

     

    The Crocodile Junior say:

    สัด!!! รูปนี้แมร่งเสื่อมวะมึง>>>>>>

     

                ผมมองตามลูกศรไป ก็เจอดิสเพลย์รูปไอ้เอ็มกะไอ้ชาจูบกัน แน่นอนครับว่ามุมกล้อง...แต่เห็นอย่างงี้ก็ขอบอกเลยว่า...แมร่งเนียนวะ 555+

     

    The Crocodile Junior say:

    เดี๋ยววันจันทร์กูจะอัดไปโปรยที่รร. ก๊ากกกกกก

    อย่าทัก say:

    สัด!! แกล้งมันแค่นั้นเหรอมึง 555+

    The Crocodile Junior say:

    ไอ้เลว!! ทำเป็นคนดี

    อย่าทัก say:

    555+

    The Crocodile Junior say:

    แล้วมึงเหอะไอ้คุณ  ถ่ายรูปกะจารย์น้ำด้วยเหรอวะ  ไม่มีเรียก!

    อย่าทัก say:

    จะเรียกมึงได้ไง วิ่งหางจุกตูดกลับบ้านไปแล้ว

     

                ผมด่ามันนิดนึง ผมมองรูปบนดิสเพลย์ที่เปลี่ยนจากรูปเสื่อมของไอ้ชากะไอ้เอ็ม เป็นรูปผมถ่ายคู่กะจารย์น้ำ...

     

    The Crocodile Junior say:

    หางจุกตูดมันใช้กะหมา ไอ้สัด!! อย่ามาเนียนด่ากู

    The Crocodile Junior say:

    ไอ้คุณ...

    อย่าทัก say:

    ไร?

    The Crocodile Junior say:

    กูรู้ว่ามึงรู้สึกไงนะโว้ย

     

                ผมขมวดคิ้ว งงกับประโยคของได้กรีนที่มันตอบกลับมา...รู้สึกยังไง?

     

    The Crocodile Junior say:

    จารย์น้ำกับพี่อัน...มันคนละคนกันนะมึง

    The Crocodile Junior say:

    กูแค่จะบอกมึงแค่นั้นแหละ

    อย่าทัก say:

    กูรู้...ขอบใจมึงแล้วกัน

    The Crocodile Junior say:

    เออ

     

                ผมออฟไลน์ ทันทีที่บอกลาไอ้กรีนเสร็จ  แต่ก็ยังนั่งจ้องจอมอนิเตอร์ มองรูปคู่ของผมกับอ.น้ำอยู่อย่างนั้น...จารย์น้ำกับพี่อัน...มันคนละคนกันนะมึงประโยคนี้ของไอ้กรีนลอยไปมาในหัวผมไม่หยุด... ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้... รู้ว่ามีพี่อันแค่คนเดียว... อ.น้ำไม่ใช่พี่อัน... ถึงหน้าตาจะคล้ายกันมาก...แต่ยังไงก็ไม่ใช่... ไม่ใช่คนเดียวกัน...

     

     

    ***

     

     

                “คุณ คุยกันหน่อยดิ๊!!” เสียงเฮียปองดังออกมาจากห้องตัวเอง ผมเลยจำใจต้องเดินเข้าไปในห้องนอนเฮียปอง...พอเดินเข้าไป ก็เห็นมีหนังสือเกลื่อนเต็มพื้นห้องไปหมด...อย่าบอกว่าจะให้เก็บนะเฮีย!!

     

     

                “หาที่นั่งดิ!! ยืนมองอยู่ได้” ผมลังเลนิดหน่อย ว่าจะหย่อนก้นตัวเองตรงไหนดี ก็มันรกไปหมดเหมือนกองอะไรสักอย่างมามันสุมๆกันไว้..ลำบากใจแฮะ

     

     

                “มีไรอ่ะเฮีย??” หลังจากตัดสินใจนั่งบนเตียง(ที่ดูมีพื้นที่ว่างที่สุดแล้ว) ผมก็ถามเฮียปองที่ยังง่วนอยู่กับการเปิดเว็บโป๊อย่างจริงจัง...ได้ข่าวว่าปีนี้เฮียจะเอ็นฯแล้วไม่ใช่เหรอ...เฮียจะเอามิยาบิไปสอบโอเน็ตหรือไงไม่ทราบ-_-;;

     

     

                “เลือกหนังสือบนพื้นแล้วไปเขียนบทให้เฮียหน่อย เร็วๆหน่อยล่ะ จะเริ่มซ้อมวันจันทร์หน้า” ผมมองหลังเฮียแบบงงๆ(ที่จริงแอบมองคลิปบนหน้าจอ 55+) เลือกหนังสือ...เขียนบท..เริ่มซ้อมวันจันทร์หน้า??  อะไรกันนี่???

     

     

                “เรียกแพทมาด้วยก็ได้ เห็นบอกว่าอยากช่วยเรื่องบท แต่ไม่รู้จะตื่นยัง?”ผมที่ยังไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของเฮีย...ว่าท่านต้องการสิ่งใด  ก็ได้แต่มึนตึบอยู่กับที่...จะให้ทำอะไรกรุณาบอกเป็นกิจลักษณะได้มั้ยครับ...ไม่ใช่พระพุทธเจ้าจะได้ตรัสรู้เองได้!!!

     

     

                “เดี๋ยวก่อนเฮีย!!!  จะทำไรกันเนี่ย?”  เฮียปองละความสนใจจากมิยาบิ มามองหน้าผมอย่างเซงๆ...เหมือนจะด่าว่า แค่นี้มึงไม่รู้เหรอ ยังไงยังงั้น

     

     

                “ละครเวทีของคณะกรรมการนักเรียนประจำปี” ตอบมาแค่นั้นก็หันไปสนใจมิยาบิต่อ... ละครเวทีฯประจำปี  แล้วมันเกี่ยว? กะผมตรงไหนไม่ทราบ...

     

     

                แล้วผมก็ถูกเฮียปองเฉดหัวออกมาจากห้องพร้อมหนังสือนิยายอีก1กองตามมาด้วย...แล้วที่นี้กูจะทำไงฟะ?...ผมเดินมาห้องนอนตัวเองอย่างเซงๆ โยนกองหนังสือลงบนเตียงอย่างจำใจ...เดินไปหยิบมือถือมาโทรหาตัวช่วย..

     

     

                “ติ๊ดดดดด  ติ๊ดดดดด”

     

     

                “ว่าไงคุณ?” เสียงใสๆดังมาตามสาย

     

     

                “เฮียบอกให้โทรมาหาแพทเรื่องบทละครเวที”ผมบอกจุดประสงค์ทันทีโดยไม่พูดพล่ามอะไรทั้งสิ้น...ตอนนี้ผมกำลังต้องการตัวช่วยด่วน!!!

     

     

                “เหรอ!! แล้วได้เรื่องยังอ่ะ??” ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า? เสียงแพทฟังดูตื่นเต้นยังไงชอบกล

     

     

                “ยังไงอ่ะ!” ผมตอบอย่างเซงๆ ตาก็มองที่กองหนังสือบนเตียงแล้วถอนหายใจ...งานงอกใช่มั้ยเนี่ยกู!!

     

     

                “ช่วยเลือกเอาป่าว?” ผมช่างใจเล็กน้อย  แต่ก็ไม่มีทางให้เลือกมากนัก...ถือว่าถึงคราวซวยของคนเล่นแล้วกันเนอะ!!(<<ไร้ความรับผิดชอบมาก)

     

     

                “ก็เอาดิ!...” ผมตอบแล้วเดินไปหยิบหนังสือบนเตียงก่อนไล่ชื่อให้แพทฟัง

     

     

                “โรมิโอ&จูเลียต” ผมย่นหน้าผาก...นิยายอมตะของเช็คเปียร์ที่ใครๆก็รู้จัก

     

     

                “ไม่เอาอ่ะ! เมื่อปีที่แล้วเพิ่งแสดงไปเอง จำไม่ได้เหรอ? ที่พี่นิเป็นโรมิโอ แล้วพี่ปองเป็นจูเลียตอ่ะ” ผมย้อนภาพไปเมื่อปีที่แล้ว เป็นเรื่องที่หือฮากันมากที่เดียว....ก๊ากกกกกก!!!  เฮียปองใส่วิกผมยาวสีดำ  ทาลิปสติกสีแดง กับขนตาเช้งกะเดะ!!!  555+ เสียดายไม่มีภาพถ่ายตอนนั้น(เฮียฉีกทิ้งทุกรูปอ่ะครับ เซงๆ)...คิดแล้วผมยังขำไม่หาย 555+

     

     

                “อืมๆๆ! แล้วสังข์ทองล่ะ” ผมหยิบหนังสืออีกเล่มขึ้นมา...

     

     

                “คุณจะเอาถ่านมาทาตัวเป็นเงาะป่าหรือไง? สงสารคนเล่นอย่าเลย” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับปลายสาย...ตอนทาคงสนุก แต่ตอนล้างนี่สิ!

     

     

                “สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด”

     

     

                “จะขายขนมครกกันหรือไงล่ะ?” แสดงว่าไม่ผ่าน

     

     

                “ข้างหลังภาพ”

     

     

                “จะเล่นแข่งกะบี้ เดอะสตาร์เหรอคุณ” อืมก็จริง

     

     

                “แม่นาคพระโขนง”

     

     

                “จะเล่นแข่งกะอาร์ อีกคน?” อืมๆ

     

     

                “ปลาร้าเดอะมิวสิกเคิล” เรื่องนี้มาได้ไงวะ?

     

     

                “...” ผมวางหนังสือเล่มนั้นลงทันที...คงไม่ผ่านอย่างแรง สินะ!!!

     

     

                ผมมองหลังสือที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่เล่มให้เลือก...เจ้าชายกบ...คงไม่ไหว ใครจะทนจูบกับสัตว์ตัวเขียวๆได้...ปีเตอร์แพน...แล้วผมจะหาผงพิกซี่มาจากไหน?...อาละดินกับตะเกียงวิเศษ...ผมคงไม่มีปัญญาเช่า พรมวิเศษ(มันชื่อนี่ปะเนี่ย?) ที่ดรีมเวอร์มาใช้แน่...แล้วผมก็สะดุดตากับนิทานเรื่องหนึ่งเข้า...เรื่องนี้แล้วกัน!!!

     

     

                “อลิสในดินแดนมหัศจรรย์” ผมรอลุ้นคำตอบจากปลายสาย...ขอให้ผ่านทีเถอะครับ เพราะถ้าไม่ผ่านนี่งานเข้ายิ่งกว่าเดิม...ไม่รู้จะเอาปัญญาที่ไหนไปหาเรื่องให้เธอเลือกแล้ว?

     

     

                “เอาเรื่องนี้แหละ!!” เหมือนยกภูเขาออกจากอก...เสียงตอบตกลงอย่างกระตือรือร้นของแพททำให้ผมโล่งใจไปเปราะหนึ่ง...อย่างน้อยเราก็ได้บทสรุปซะที!!

     

     

                “แล้วจะเริ่มทำกันวันไหนอ่ะ?”เสียงแพทดังออกมาจากโทรศัพท์...

     

     

                “พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียนแล้วกัน...เฮียบอกว่าให้บทเสร็จวันจันทร์หน้าเพราะจะเริ่มซ้อมกัน...แต่เราได้เรื่องที่จะเล่นแล้ว  เรื่องบทช่วยกันเขียนสักสามสี่วันก็คงเสร็จ” แพทงืมงำอย่างเข้าใจเราคุยกันสักพักเรื่องแผนงานก่อนวางสาย...อย่างน้อยงานก็เสร็จไปแล้วก้าวนึง  ผมมองหนังสือเล่มในมืออย่างช่างใจ พอจะรู้มาคร่าวๆว่าเป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ แล้วบังเอิญเห็นเจ้ากระต่ายที่ท่าทางเร่งรีบวิ่งผ่านไป..แล้วด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลยตามคุณกระต่ายไป...ดูแล้วเรื่องมันน่าเบื่อไปหรือเปล่า?  แต่ช่างมันเหอะ ค่อยปรึกษากับแพทพรุ่งนี้แล้วกัน  ตอนนี้ของไปหาอะไรกินปะทังชีวิตก่อน นี่ก็11โมงกว่าแล้ว ยังไม่ได้กินอะไรเลย เพราะเพิ่งตื่น -_-;; (หลายคนว่าผมนอนกินบ้านกินเมือง) พอจะเดินลงไปหาอะไรกินข้างล่างก็งานเข้า เจอเฮียเรียกเข้าไปเรื่องละครเวที...ทำเอาตอนนี้ผมหิวไส้แทบขาด!!!

     

     

                “เพียงแค่ใครสักคนที่อยู่บนดาวเคราะห์นี้ เพียงแค่ใครสักคน~!!” ผมมองหน้าจอ N97 mini ในมือก่อนกดรับสาย

     

     

                “มีไร?” ผมถามเสียงห้วนอย่างเคืองๆ...กูยังไม่หายเคืองมึงเรื่องเมื่อคืนนะไอ้ อัค

     

     

                “ไม่มีไร...แค่โทรมาทวงสัญญา” เสียงกวนอวัยวะเบื้องต่ำตอบกลับมาทำเอาผมต้องขมวดคิ้วเป็นรอบที่สิบของวันนี้...กูไปสัญญาอะไรกะมึงไม่ทราบ?

     

     

                “...” <<<คิดว่าตัวเองไปสัญญาอะไรไว้

     

     

                “ไปกินสุกี้กัน” ...มันเฉลยทำเอาผมถึงบางอ้อ..ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง -_-;;

     

     

                “ก็ได้...กี่โมงอ่ะ” ผมมองนาฬิกา 11.48 ...

     

     

                “ตอนนี้แหละ...จอดรถอยู่หน้าบ้านแล้ว!!”ประโยคบอกเล่าของไอ้อัค ทำเอาผมตกใจรีบมองออกไปหน้าบ้าน...รถมินิฯสีน้ำเงินคุ้นตาจอดอยู่หน้าบ้าน!!!

     

     

                “รอกู 5 นาทีเดี๋ยวออกไป” ผมรีบวิ่งขึ้นบันไดทีละสองขั้น เข้าห้องเปลี่ยนชุด หยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์มือถือ

     

     

                “คุณจะไปไหนลูก” แม่ถามผมที่วิ่งลงบันได

     

     

                “ไปกับเพื่อนครับ” ผมยัดเท้าตัวเองลงรองเท้าผ้าใบ ก่อนหันไปกอดเอวแม่

     

     

                “แล้วคุณจะรีบกลับบ้านครับ” แม่ขยี้หัวผมเบาๆ “อย่ากลับมืดล่ะ” ผมหยักหน้าก่อนเดินออกจากประตูบ้าน

     

     

                “คุณไปก่อนนะครับแม่”


     

    To Be Continued

     

    Edit  12 April 2011

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×