ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Benoname...แค่รักครับ ทำไมต้องตั้งชื่อ? (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter:Special Talk With...Auk...I never hate U

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 54


    Chapter:Special Talk With...Auk

    I never hate U

     

     

               

           มึงบอกกูทีว่ากูเมา มึงไม่เห็นภาพที่อยู่ตรงนั้น มึงบอกกูที ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า..จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในชีวิตของผม  ผมมองคุณที่เอาแต่จ้องภาพที่พี่สาวผมกับพี่นิเคอิกอดกันอยู่ในสวนหลังบ้าน  สีหน้าคุณดูแย่ลงกว่าตอนที่มันปฎิเสธผมว่ามันไม่เมาซะอีก!

     

     

                คุณจ้องภาพนั้นอยู่อย่างนั้น  ไหล่มันสั่นน้อยๆ  ปากที่อมชมพูก็ถูกฟันขบจนห้อเลือด จากที่เคยเป็นสีอมชมพู ก็กลายเป็นสีม่วงช้ำ มือสองข้างกำแน่น จนผมกลัวว่านิ้วเล็กๆนั่นจะหักเพราะแรงบีบของตัวเจ้าของ

     

     

                ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า... ไอ้ผู้ชายที่วันๆเอาแต่วิ่งเล่นบาสอยู่ในโรงยิม  คอยทำเสียงเอะอะโวยวายตรงระเบียงคอยทำลายการเรียนการสอนของอาจารย์ และ ทำลายสมาธิของเพื่อนร่วมชั้น  คนที่ผมเห็นแต่รอยยิ้มกวนๆทุกครั้งที่อยู่ในห้องกรรมการนักเรียน  คนที่คอยตะโกนสั่งเพื่อนๆให้ทำอย่างโน้น ทำอย่างนี้ ทุกครั้งที่มีกิจกรรมของโรงเรียน  คุณที่ผมคิดว่าเป็นเหมือนกระดาษสายรุ้งในงานวันเกิดที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน ร่าเริงและสดใสทุกครั้งที่เห็น

     

     

                แต่ตอนนี้...ตอนที่ผมกำลังมองคุณที่ยืนหันข้างให้ผมอยู่ในตอนนี้  สิ่งที่ผมได้เห็นไม่ใช่รอยยิ้มกวนตีน  ไม่ใช่สีหน้าที่สนุกสนาน ไม่ใช่แม้กระทั้งสีหน้าตอนโกรธ  ถ้าผมไม่เห็นกับตาผมคงไม่เชื่อแน่ๆว่าคนอย่างคุณ จะมีสีหน้าที่เจ็บปวดได้ขนานนี้...

     

     

                ในที่สุดผมก็ดึงคุณมากอด...ผมกดหน้าคุณไว้กับบ่าของผม  ผมไม่ต้องการให้เพื่อนคนนี้ของผมเห็นภาพที่ทำร้ายจิตใจ  ผมรู้สึกโกรธพี่สาวตัวเองขึ้นมา...ผมรู้ว่าพี่สาวผมคงไม่ได้ต้องการให้ใครมาเห็นภาพนี้! แต่ผมก็โกรธพี่ที่ทำร้ายคนอื่น ถึงพี่จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม...

     

     

                ไอ้อัคมึงบอกกูมา ว่ากูตาฝาด ภาพตรงนั้นมันไม่จริงเสียงแหบพร่าของคุณทำให้ผมตัดสินใจดึงตัวคุณเพื่อไปให้พ้นจากตรงนี้...ผมไม่ต้องการให้เพื่อนผมเห็น...สิ่งที่เขาไม่ต้องการเห็นอีกต่อไป!!

     

     

                ผมก้าวขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว  แต่ก็เหมือนยิ่งเร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งช้าเท่านั้น!! ผมรู้สึกถึงแรงต่อต้านเล็กๆจากมือที่จับอยู่  แต่ผมก็ไม่ใส่ใจ! เพราะเมื่อเท้าของคุณก้าวพ้นจากบันไดขันสุดท้าย  ผมก็เปิดประตูห้องแล้วผลักมันเข้าไป  ผมดึงร่างนั้นเบาๆเข้ามากอดอีกครั้ง  ผมไม่ชอบคุณตอนนี้เลย!!!!

     

     

                มึงไม่ต้องพูดแล้วไอ้คุณ ผมพูดกระชับร่างนั้นแน่นขึ้น

     

     

                มึงร้องออกมาเถอะ กูรู้ว่ามึงอยากร้อง เมื่อคนที่ผมกำลังปลอบอยู่ใกล้แค่นี้...ผมพูดเบาๆ  ไหล่ที่เคยหยุดนิ่งไหวน้อยๆ จนสั่นเทา  ผมกอดคุณไว้อย่างนั้น...

     

     

                ไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปากผม  ผมกลัวเหลือเกินว่าถ้าผมพูดอะไรออกไปจะเป็นการทำร้ายจิตใจคนในอ้อมกอดผมตอนนี้  ผมได้แต่ส่งคำปลอบโยนผ่านสัมผัสนี้...และผมก็หวังว่า ความรู้สึกผมจะส่งไปถึง!!

     

     

                กูจะอยู่เป็นเพื่อนมึง จนกว่ามึงจะหยุดร้องนี่คงเป็นคำพูดเดียวที่สื่อถึงความรู้สึกของผมได้โดยไม่ทำร้ายจิตใจ และเป็นเพียงความต้องการเดียวของผม...ผมจะไม่ทิ้งไปไหน ผมไม่สามารถทิ้งคุณไปตอนที่มันกำลังเจ็บปวด!!!!

     

     

                อัคกูไม่ดีใช่มั้ยที่ทำให้มึงลำบาก?ทั้งที่กำลังสะอื้นจนตัวโย แต่สมองคุณก็ยังสามารถคิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้!  ผมอยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก เพราะน้ำเสียงที่แหบแห้งนั่นที่ทำให้ผมได้แต่ส่ายหน้าปฎิเสธ...ผมยอมลำบากเพื่อให้คุณกลับมาเป็นกระดาษสายรุ้งเหมือนเดิม!!!!

     

     

    ***

     

     

     

                คุณเป็นเพื่อน ของเพื่อนและของเพื่อนผมอีกทีหนึ่ง  ความจริงผมกับคุณก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมายหรอกครับ แทบจะไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำถ้าไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยว...แต่ผมก็รู้สึกสนใจคุณทุกครั้งที่เห็นสีหน้ายุ่งๆของไอ้คุณ  คุณเป็นคนที่มีสีสันในชีวิตมากครับ..และผมก็รู้สึกสนุกทุกครั้งที่เห็นท่าทางนักเลงโตของมัน!  แถมด้วยรอยยิ้มจริงใจที่พอยิ้มที่ไรก็จะเห็นฟันครบทุกซี่

     

     

                ความจริงผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเพื่อนคนนี้ของผมมากมายอะไรนัก  เป็นเพราะผมต้องเอาเวลาเกือบทั้งหมดทุ่มกับการเรียนและงานในกรรมการนักเรียน เพราะผมไม่ต้องการให้ใครมาว่าผมได้ว่าทำงานไม่ได้เรื่อง ผมต้องการทำงานให้ดีที่สุด! ให้เป็นประธานนักเรียนอีกคนที่เป็นที่เชื่อมั่นของนักเรียน รวมถึงคณะอาจารย์  และเพื่อที่จะไม่ทำให้ใครผิดหวังที่ลงคะแนนเลือกผมเข้ามาทำงานในตำแหน่งหน้าที่ที่สำคัญนี้.. ผมไม่ชอบทำให้ใครผิดหวังเพราะมันทำให้ผมรู้สึกแย่กับตัวเอง

     

     

                ตอนที่ผมวางคุณลงบนเตียง ผมก็ถามตัวเองว่า..ทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย! แต่ก็ได้คำตอบว่าเป็นเพราะผมเป็นประธานนักเรียนที่ต้องทำหน้าทีคอยดูแลเพื่อนที่กำลังประสบปัญหาและกำลังลำบาก  และก็เป็นเพราะว่า พี่สาวผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาของคุณผมจึงต้องนั่งเป็นทุกข์เป็นร้อนกับเรื่องนี้..ผมไม่ได้สนใจอะไรคุณเป็นพิเศษ!! มันก็แค่บังเอิญผมประสบกับเหตุการณ์นี้ด้วยตัวเองและผมก็ไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปโดยไม่สนใจได้!!

     

     

                ผมนั่งมองหน้าคุณ.. ตาโตๆนั่นกำลังปิดสนิท ขอบตาแดงกล่ำ  ปลายจมูกก็แดงไม่แพ้กัน  ผมจัดการเอาผ้าขนหนูผืนเล็กในห้องน้ำชุบน้ำอุ่นที่เปิดรองไว้ในอ่างล้างหน้าบิดหมาดๆ แล้วกับมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คุณที่กำลังนอนหลับอยู่  ผมเช็ดเบาๆเพื่อที่จะไม่เป็นการปลุกคุณให้ตื่นขึ้นมา  ผมอยากให้คุณหลับอยู่อย่างนี้สักพักเผื่ออะไรๆจะดีขึ้นบ้าง  ผมหวังไว้แค่นั้น!!!

     

     

    ***

     

     

               

                เมื่อผมเห็นประตูห้องน้ำปิดสนิทผมก็เปิดประตูห้องนอน เดินลงบันไดไปด้านล่าง เพื่อดูเหล่าทหารผ่านศึกที่คงนอนตายกันเกลื่อนเต็มห้องนั่งเล่นบ้านผมไปแล้ว..

     

     

                จนมาถึงห้องนั่งเล่น  สภาพสนามรบไม่ต่างอะไรจากที่ผมคิดไว้มากนัก  แต่ก็ดีหน่อยที่ไม่มีกองอ้วกของใครบนพื้น เพราะไม่งั้นคงต้องทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่แน่ๆเลยล่ะครับ ผมสำรวจไปรอบๆ  มีแต่เพื่อนของผมกับกลุ่มเพื่อนของคุณเท่านั้นที่นอนกองกันอยู่ในห้อง  พี่ชายผมคงขึ้นไปนอนที่ห้องตั้งแต่เมื่อคืน  ส่วนพี่นิคงกลับไปนอนที่บ้านตัวเอง และคงเอาพี่ปองไปด้วย

     

     

                ขึ้นไปดูคุณก่อนดีกว่า แต่ก่อนที่ผมจะเดินขึ้นไปดูคุณที่กำลังอยู่ในห้องผม  ผมเดินไปเปิดตู้แช่แข็งเอาถุงเจลสีฟ้าใสๆ ออกมาอันนึ่ง  เพราะตอนที่ตื่นนอนเต็มตา  ผมเห็นตาคุณบวมมาก จนผมคิดถึงปลาทองในตู้เลี้ยงปลาที่บ้านคุณย่า  แถมไม่โปนธรรมดา ขอบตายังช้ำมากด้วย ผมต้องห้ามตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมาต่อหน้าคุณ...ผมดูเป็นคนดีใช่มั้ยครับ! แต่ขอยอมรับความจริงว่าผมหัวเราะเสียงดังๆในใจไปตั้งนานแล้ว! รู้แล้วเหยียบไว้นะครับ..ยังไงผมก็อยากรักษาภาพพจน์เด็กดีต่อไป  เพื่อเป็นการไถ่โทษที่หัวเราะเยาะเพื่อนในใจผมควรเอาเจลนี่ประคบตาให้ตาคุณจะได้หายบวมซะที..และเป็นการดีที่ผมไม่ต้องกลั่นหัวเราะตอนเห็นตาปลาทองของคุณอีกครั้ง 555+

     

     

                ก๊อก ก๊อก!!” ผมเคาะประตูห้องตัวเอง  ก่อนตัดสินใจเปิดเข้าไปด้านใน 

     

     

                ประตูห้องน้ำที่ยังปิดสนิทอยู่ทำให้ผมรู้ว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำยังไม่เสร็จธุระ  ทำให้ผมต้องวางเจลเย็นๆในมือไว้บนโต๊ะ  แล้วเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่เอาไว้เช็ดเหงื่อออกมาวางไว้กับถุงเจลบนโต๊ะ  เดินไปหยิบปากกาเขียนลงในกระดาษโน๊ตก่อนเอามันไปวางรวมกันไว้บนโต๊ะ

     

     

    เอาเจลมาให้  ประคบตาซะจะได้หายช้ำ แค่นี้คุณคงรู้แล้ว  ผมตัดสินใจไม่รอจนคุณออกมาจากห้องน้ำ ผมสละห้องให้คุณเพื่อที่จะได้ทำธุระส่วนตัวของตัวเองได้สะดวกกว่าถ้าผมไม่อยู่ในห้อง

     

     

    เมื่อจัดการล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเรียบร้อย(ผมไปจัดการที่ห้องน้ำในห้องนอนพ่อกับแม่น่ะครับ ส่วนแปรงสีฟันก็แกะใหม่เพราะอันที่ผมใช่อยู่ตอนนี้ก็สำควรเปลี่ยนแล้วเหมือนกัน)  ผมเดินลงมาชั้นล่างอีกครั้ง  เดินเข้าไปในห้องครัว เพราะท้องผมประท้วงเพราะถึงเวลาต้องส่งอาหารลงไปแล้ว 

     

     

    ผมหยิบแก้วกระเบื้องที่ตัวเองใช้ประจำ จัดการเสียบปลั๊กกาน้ำร้อน  เปิดตู้ด้านบนหยิบกล่องช็อกโกแลตสำเร็จรูปที่มักจะดื่มทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนลงมา  เปิดกล่องแล้วดึงซองด้านในออกมา2ซอง  ของผมหนึ่งซอง และอีกซองหนึ่งของคุณ

     

     

    อัค!!  ทำอะไรแต่เช้ากันเนี่ย? พี่อันเดินเข้ามาในห้องครัว พี่สาวผมดูอารมณ์ดีในเช้านี้  เป็นเพราะเรื่องเมื่อคืนรึเปล่า?ที่ทำให้พี่ผมดูมีความสุขขนาดนั้น...ตรงข้ามกับคนที่อยู่ในห้องนอนผมลิบลับ!

     

     

    ก็มาหาอะไรกินแก้หิวนิดหน่อยน่ะ!..พี่อันจะเอาอะไรมั้ยเดี๋ยวทำให้ผมยิ้มตอบพี่สาวตัวเอง...อ่อนใจนิดหน่อยเมื่อคิดถึงคุณ  แต่ผมก็ดีใจกับพี่สาวตัวเองที่เห็นพี่มีความสุข...และก็ดีใจที่พี่อันสมหวังในความรัก...ถึงจะทำให้ใครอีกคนต้องเจ็บปวด

     

     

    ไม่ล่ะ! เดี๋ยวพาสจะมาทำข้าวต้มกุ้งให้ทุกคนทานกัน พี่คงรอทานฝีมือพาสดีกว่าผมพยักหน้ารับ 

     

     

    ฟู่~”เสียงไอน้ำในกาไฟฟ้าดังบอกว่าผมควรกลับมาสนใจมันได้แล้ว  ผมเติมน้ำลงในแก้วที่มีผงช็อกโกแลตนอนรออยู่  เติมน้ำผึ้งลงไปนิดเพื่อเพิ่มความหวานให้น้ำสีน้ำตาลเข้มในแก้ว  ค่อยๆคนให้เข้ากัน  ผมเดินไปเปิดประตูตู้เย็นหยิบเอาเดนนิสในตู้ออกมาอุ่นไมโครเวฟ ทานเป็นอาหารเช้า 

     

     

    มาอยู่นี่กันเองเหรอ? เราหาตั้งนานพี่พาสเดินนำเข้ามาในครัว  ส่วนคนที่เดินตามหลังมาคือคนที่ผมยังไม่อยากให้เขามาอยู่ในบ้านของผม ตอนที่คุณกำลังมีปัญหาและกำลังอยู่ชั้นสองของบ้านหลังนี้! ผมยังไม่อยากให้คุณเผชิญหน้ากับ...เขาสองคน!

     

     

    พาสๆ เรามาทำข้าวต้มกันเถอะ เดี๋ยวน้องๆตื่นมาจะได้ทานกันพี่อันฉุดมือพี่พาสไปทางตู้เย็น รื้อของสดในตู้ออกมา... และก็เหลือแต่ผมกับพี่นิสองคน 

     

     

    ผมสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ  พี่นิยืนพิงขอบประตูมองพี่สาวสองคนที่กำลังรื้อค้นครัวอย่างสนุกสนาน!   ผมจะผิดไหมถ้าผมรู้สึกโกรธ...ทั้งที้เขาสองคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย!

     

     

     

     

    ***

     

     

    คุณมึงมาอยู่ไรแถวนี้วะ? มึงสตาฟสวัสดิการไม่ใช่เหรอมึง?” คุณจ้องผมที่ยืนอยู่ข้างไอ้พลู ในสายตามีแต่คำถาม...แต่ผมทำเป็นไม่สนใจ! ไม่ใช่ว่าผมโกรธคุณ หรือ มีความรู้สึกอะไรทำนองนั้นหรอกนะครับ...แต่ผมกำลังพยายามไม่เห็นมันสำคัญเกินไป!! 

    ผมกลับนั่งคิดเกี่ยวกับความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณ  ข้อสรุปที่ผมได้ก็คือผมคงรู้สึกผิดแทนพี่อันอันที่ทำให้คุณเจ็บปวด แล้วก็คงรู้สึกว่าตัวเองต้องชดใช้ที่ทำให้คุณเสียใจ...และผมคงผูกติดกับความรู้สึกแบบนี้เกินไปจนทำให้.. ผมใส่ใจมันมากเกินไป!!

     

     

    พลูกับคุณคุยกันต่อ2-3ประโยคก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง  ความจริงผมก็อยากจะเข้าไปช่วยคุณถือไอ้ลังบ้าๆนั่นอยู่หรอกครับ!!  แต่ผมก็อดนึกถึงเรื่องในร้านอาหารญี่ปุ่นไม่ได้! เลยตัดสินใจให้เขาถือของเขาเอง  เดี๋ยวกลายเป็นว่าผมไปยุ่งไม่เข้าเรื่องอีก ให้เขาตัดสินใจเองคงดีกว่า

     

     

    งั้นเดี๋ยวกูกับไอ้อัคไปขนมาแล้วกัน  มึงก็เดินดีๆล่ะ ผมมองสองคนคุยกันเงียบๆ และข้อสรุปก็คือผมต้องไปช่วยขนน้ำกับพลูที่ห้องกรรมการนักเรียน  คุณเดินไปที่โต๊ะหินที่มีลังวางอยู่ ก่อนยกมือโบกไล่พวกผมไป!!

     

     

    ชึบ!!”  คุณมองผมงง...แต่ผมก็ไม่สนใจเดินนำไปก่อน  ท่าทางผมคงใจแข็งกับคนๆนี้ไม่ได้นานจริงๆ แค่ผมเห็นมือคุณเป็นรอยแดงๆ ผมก็...อดช่วยไม่ได้!

     

     

    คุณเดินตามผมมาเงียบๆ  ไม่มีการยื้อยุดฉุดกระชากกล่องในมือผมไปถือเอง เกินคาดหมายเล็กน้อย ตอนแรกผมนึกว่าคุณจะทำเก่งซะอีก!  แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นผมคงไม่ขัดใจเขาหรอก  ในเมื่ออยากถือ ก็ให้ถือครับ ผมไม่ขัดใจใคร(โดยไม่จำเป็น)อยู่แล้ว

     

     

    ผมวางลังน้ำไว้ในเต๊นท์สวัสดิการ เจอกลุ่มเพื่อนๆของคุณนั่งอยู่ กรีนทักผมเป็นคนแรก และผมก็ทักกลับไป และทุกๆคนก็เริ่มทักผมจนผมต้องรีบเดินออกมาเพราะไม่งั้นคงมีติดลมคุยกันอีกยาว 

     

     

    ไอ้คุณมึงอย่ามาอู้!!  งานแมร่งเยอะแยะ ไอ้นี่เสือกยืนเฉย!!  มาช่วยพวกกูเลย ผมหันกลับไปมองตามเสียง  แอบเห็นตัวยุ่งสะดุดขาตัวเอง จนเกือบล้ม แล้วใครจะอดขำได้ล่ะครับ!

     

     

    ไอ้อัค! กูหามึงอยู่เลย ผมหันไปมองหน้านัท  ที่วิ่งมาพร้อมของพะลุงพะลัง

     

     

    มีไรวะ? นัท

     

     

    มึงช่วยงานฝ่ายโสตทีดิวะ! คนไม่พอ และผมก็กลายร่างเป็นช่างภาพประจำงานโดยไม่ได้ตั้งใจ  ของทุกอย่างที่ไอ้นัทขนมา อยู่บนตัวผมเกือบทั้งหมด  ทั้งกล้อง ทั้งกระเป๋า ทั้งขาตั้งกล้อง 

     

     

    บรรยากาศของงานดูสนุกขึ้นมากเพราะเสียงกลองและเสียงเชียร์ของบรรดาน้องๆและผู้ปกครอง  ผมก็สนุกไปด้วยภาพที่ผมเห็นผ่านเลนท์กล้อง อากาศก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ  ผมว่าอีกสักพักผมคงต้องเข้าไปหลบอยู่ในร่มสักนิด ก่อนที่ตัวเองจะหน้ามืดไปซะก่อน

     

     

                อ่ะ!!”  ผมหันไปมองที่มาของเสียงข้างตัว  ก็เจอมือที่ยื่นแก้วน้ำมาให้ผม

     

     

                มึงโกรธกูเหรอ?” ผมสะอึกเล็กน้อยกับคำถามนี้  ผมโกรธคุณเหรอ...คำตอบคือ ไม่! ผมไม่ได้โกรธ แต่...

     

     

                ผมไม่ได้โกรธโกรธมาก

     

     

                ไม่โกรธก็รับน้ำไปดิ! ยืนมองทำไมผมมองคุณนิ่ง! และน้ำแก้วนั้นก็มาอยู่ในมือผมโดยไม่ทันตั้งตัว  ผมมองคุณอย่างอึ้งๆ  กับวิธีมีน้ำใจแกมบังคับเมื่อกี้

     

     

    เอาคืนไปเถอะผมไม่อยากเป็นหนี้คุณผมยื่นน้ำแก้วนั้นส่งคืนให้ แต่คนให้กลับถอยไปสองก้าวแล้วเอามือไปหลบไว้ข้างหลัง แบบนี้มันน่านัก!

     

     

    กรี๊ดดดด!!” เสียงกรี๊ดเตือนสติผมให้กลับไปสนใจเกมส์ข้างหน้า  ผมเริ่มถ่ายรูปต่อโดยไม่สนใจคนข้างๆ ที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม  ทั้งที่ผมคิดว่าจะไม่สนใจ...แท้ๆ แต่ทำไม  ผมถึงไม่มีสมาธิถ่ายรูปเลยนะ

     

     

                ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรบางอย่างมาอยู่บนหัวผม ก่อนจะได้ยินประโยคที่ว่า

     

     

    ใส่ซะแล้วหายโกรธได้แล้ว!!”  ผมจับหมวกผ้าที่อยู่บนหัว  เจอแบบนี้ถ้าไม่ใจอ่อนก็บ้าแล้วล่ะครับ!

     

     

     

    To Be Continued

     

    Edit 31 March 2011

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

               

     

     

     

                 

     

     

                      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×