ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฝึกเรียนฮิรางานะกับป่านคุง

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 - ตัวอักษรฮิรางานะ แถมอักษร ชะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.92K
      3
      17 ธ.ค. 51

    เป็นไงกันบ้างครับ 2 แถวตัวอักษร ท่องจำกันได้รึยัง ? นี่ยังถือว่าเรียนช้ากว่าผม 3 เท่าเลยนะครับ ของผมนี่ 2 ชม. วันเดียวตัวฮิรางานะหมดเลยอะ - - * ยังไงก็อย่าลืมฝึกท่องการบ้านที่ผมจะให้หลังจบบทเรียนนะครับ ถ้าใครอยากรู้ว่าถูกไม่ถูกยังไงก็ออนเอมมาเช็ดคำตอบกับผมเหมือนลูกชิ้นได้นะครับ

    My MSN - patiwesh@hotmail.com

    เอาละครับ วันนี้เราจะมาเริ่มกันในบทที่ 3 นะครับ

    อย่าลืมสมุดปากกานะครับ แต่ละคนมีวิธีท่องจำไม่เหมือนกัน



    และนับจากนี้บทต่อไปเราจะมาทวนก่อนเริ่มขึ้นแถวตัวอักษรใหม่นะครับ

    และก่อนจากครับผม การบ้าน อย่าลืมลองหัดอ่านดูนะครับ ถ้าดูแล้วสามารถอ่านได้หมดโดยไม่ต้องเปิดกลับไปดูนี่ถือว่าเยี่ยมแล้วครับ

    ไม่จำเป็๋นต้องท่องนะครับ แค่ลองอ่านเฉยๆ ความหมายข้างหลังแค่ให้รู้ว่ามันแปลว่าอะไรครับ




    เดี๋ยวเราจะมาคัดตัวอักษรตัวแถว ทะ นะครับผม


    เรียนแบบนี้แหละครับ ทุกวัน วันละชั่วโมงมานั่งหัดคัด (หรือใครความจำดีจัดก็จัดไป 15 นาทีจำได้) เราจะได้เรียนไปกันแบบเรื่อยๆแล้วหละครับ ^^

    ของฝากจากญี่ปุ่น - ราเมง

    "ราเมง" เป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น ถ้าฝั่งตะวันตกยกให้แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารจานด่วน ที่ญี่ปุ่นก็ต้องยกให้ราเมงเป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าแฮมเบอร์เกอร์ ที่ญี่ปุ่นจึงมาร้านราเมงพุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด พอ ๆ กับร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเราเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแห่งก็มักจะมีสูตรน้ำซุปที่เป็นสุดยอดเคล็ดลับของแต่ละร้าน
    การจะทำราเมงให้อร่อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องใช้เวลาเคี่ยวน้ำซุปจากกระดูกเป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือบางแห่งอาจนานถึง 8 ชม. เลยทีเดียว เพราะรสชายหลักของราเมงนั้นจะแตกต่างกันก็ตรงน้ำซุปนี่แหละ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าน้ำซุปของราเมงนั้นจะอร่อย หวาน กลมกล่อมแค่ไหน และทำไมนั่งกินราเมงแล้วถึงไม่มีเครื่องปรุงเหมือนไปนั่งโซ้ยก๋วยเตี๋ยวเหมือนบ้านเรา ที่ต้องใส่พริงหนึ่งช้อน น้ำส้มสายชูสองช้อน น้ำตาลครึ่งช้อน เรียกได้ว่าถ้ากินราเมงก็ไม่ต้องปรุงเพิ่มแต่อย่างใด หากเผลอไปปรุงเข้าอาจจะโดนเจ้าของร้านค้อนให้ได้ เพราะฉะนั้นอย่างที่ได้กล่าวข้างต้นไปแล้วว่าน้ำซุปของแต่ละร้านจะมีรสชาดแตกต่างกัน มีทั้งน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกไก่ , กระดูกหมู, ปลาซาดีน หรือ (niboshi) นอกจากนั้นยังมีน้ำซุปที่ปรุปจากสาหร่ายนานาชนิด น้ำซุปจากผักต่าง ๆ เช่น หัวผักกาด ขิง กระเทียม ต้นหอม และเห็ด

    นี่แค่ส่วนหนึ่ง ใครสนใจเชิญที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=viphavan&month=06-2007&date=08&group=11&gblog=21 นะครับ


    ที่ผมชอบราเมงอีกอย่างก็คือ ชามใหญ่มากครับ กินแล้วอร่อยแบบอิ่มไปเลย (ไม่เหมือนก๊วยเตี๋ยวเรือแบบรังสิต ชามกระต๋อย 15 บาท 20 บาท ต้องกินที 4 - 5 ชามถึงจะอิ่ม - - * หมดไปมากกว่าราเองอีก)







    ส่วนอันนี้ร้านราเมงที่ญี่ปุ่นร้านเล็กๆครับ อันนี้มิโสะราเมง


    ส่วนอันนี้ร้านราเมงที่ญี่ปุ่นร้านเล็กๆครับ อันนี้มิโสะราเมง

    ปล.1 ลงแค่ 2 รูปพอแล้ว แค่นี้ก็ยั่วนํ้าย่อยในท้องมามากพอละ

    ปล2 เช็ดปากด้วยนะครับ ใครทนไม่ไหวเชิญมาม่าครับ

    ปล.3 อย่าว่าแต่คนอ่านเลย คนเอามาโพสเองยังอยากกินละ  - - *

    แล้วเจอกับบทเรียนตัวอักษร ทะ วันพรุ่งนี้ตอนบ่ายนะครับ ^^ แล้วอย่าลืมการบ้านน้า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×