คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนพิเศษ - เที่ยวเกาะกูด ตอนที่ห้า : ดำนํ้า
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ผมค่อยๆเอื้อมมือซ้ายไปหยิบมาเปิด
"ฮาลโหล" ผมถามเสียงยางๆค่อยๆเพราะยังงัวเงียเพิ่งตื่นนอน
"มิ้นเหรอ" เสียงหัวหน้าดังออกมาจากในมือถือ "นี่ 7 โมงแล้วนะครับ จะมีอาหารเช้าตอน 8 โมงนะครับ พอดีเห็นว่ายังไม่ตื่นเลยโทรมาปลุกนะ"
"อืมๆ ขอบคุณมากนะหัวหน้า" ผมบอกขอบคุณไปแล้วก็ปิดหูโทรศัพท์มือถือ และอ้าปากหาววอด
"เช้าแล้วเหรอเนี่ย" ผมพูดขณะที่อ้าปากหาวแล้วเมื่อหุบปากลง ผมก็เอาลิ้นเลียปากนิดนึง
แสงแดดจากหน้าต่างไม่ได้เข้าหน้าผม แต่มันมาส่องตรงตัวของผม ทำให้แสงมันไม่แยงตาผมนั่นเอง ผมค่อยๆมีสติเรื่อยๆเมื่อเริ่มรู้สึกว่าแขนขวาและขาขวาของผมขยับไม่ได้ ผมค่อยๆหันไปมองทางขวาอย่างสงสัยว่าทำไมมันขยับไม่ได้
จ๋านั่นเอง เธอยังคงนอนอยู่ข้างๆผมแล้วก็เธอก็คว้าแขนขวาของผมมากอดไว้กับตัวของเธอแน่น แล้วขาทั้ง 2 ข้างของเธอก็หนีบขาขวาของผมเอาไว้แน่น และหัวของเธอก็ซบกับหัวไหล่ของผม เส้นผมของเธอที่ไม่ได้รวบผมหางม้าไว้นั้นก็มาซบกับหัวไหล่ของผม
อ๋อ จ๋านั่นเอง ผมคิดในใจเบาๆแล้วก็เริ่มหลับตาเพื่อเตรียมนอนต่ออย่างเกียจคร้าน
!!
เฮ้ย !! จ๋ามานอนกอดเราอยู่เรอะ !!
สติของผมตื่นทันที 100 % เมื่อรู้ว่าจ๋ามานอนกอดผมอยู่ เธอดึงแขนขวาของผมไปกอดแน่นทำให้แขนขวาของผมไปแนบกับหน้าอกของเธอ
"จ๋า" ผมเอ่ยเรียกจ๋า เธอไม่ขยับ "จ๋า ตื่นๆ" ผมขยับแขนขวาเพื่อให้เธอรู้สึกตัว
แต่ปรากฎว่าทำให้แขนขวาของผมไปชนกับหน้าเธอของเธอมากขึ้น นิ่มๆดี เอ็ย มะช่าย
"หือ ?" จ๋าค่อยๆลืมตาขึ้นมาทีละน้อยๆ แล้วก็มองสอบตากับผมอย่างงัวเงีย
"มีอะไรเหรอคะ มิ้น" เธอถามผมค่อยๆ
"ดูเอาเองสิว่าเธอทำอะไรอะ " ผมบอกเธอเบาๆ
เธอมองมาที่แขนขวาของผมที่เธอดึงมากอดไว้แน่น
"ว้าย !" เธอร้องลั่นออกมาอย่างตกใจพลางรีบปล่อยแขนของผมออก "ขะ ขอโทษคะ มิ้น พอดีจ๋านอนกอดตุ๊กตาตลอดนะคะ ก็เลย “
เหอๆ เห็นฉันเป็นตุ๊กตาใช่ไหมเนี่ย
"ช่างเถอะจ๋า" ผมพยายามไม่คิดถึงตอนที่เธอดึงแขนของผมไปแนบกับหน้าอกของเธอ
ผมลุกขึ้นนึ่งและมองไปรอบๆ ปรากฎว่าฝนและซาระเธอกำลังนอนดูผมกับจ๋าอย่างตาแป๋ว
"เอ่อ" ผมถาม 2 สาวไปอย่างไม่แน่ใจ "เห็นอะไรรึเปล่าเมื่อกี้"
"ชัดแจ๋วเลยจ๊ะ" ฝนบอกออกมาและทำหน้าตาโต
"ถ้าเป็นซาระนะ ซาระก็จะกอดเหมือนกันแหละ" ซาระบอก "แต่ไม่ได้กอดแค่แขนนะ ซาระจะกอดมินจังทั้งตัวเลย"
"ทะ ทำไมอะ" ผมถามเธอไปอย่างอายๆ
"ก็แหม่ ตัวของมินจัง นิ๊มนิ่มอ่า" ซาระบอกออกมาอย่างหน้าตาเฉย "แถมตุ๊กตาบ้านซาระก็ตัวใหญ่พอๆกับมินจังด้วยแหละ"
เห็นแล้วเหมือนกัน ตุ๊กตาตัวเท่าควายเพียบเลยของเธอ
"ฟ้า แมว" ผมร้องเรียกอีก 2 สาวที่ยังคงนอนอยู่ "7 โมงแล้วนะ ตอน 8 โมงอาหารเช้าจะเสิร์ฟแล้วนะ"
แมวลุกขึ้นและเอามือขวาป้องปากตอนหาว ส่วนฟ้านั้นเธออ้าปากหาวออกมาเลย แล้วนั่นแหละที่ทำให้ผมสนใจ เพราะตรงปากของฟ้าและคางของฟ้าที่มีแต่คราบนํ้าลาย
อื้อหือ ผู้หญิงเหรอเนี่ย ผมยี้ปากเมื่อเห็นภาพนั้น
"มะ มีอะไรเหรอ มิ้น" ฟ้าถามผมอย่างสงสัย
"อ๋อ ไม่มีอะไร" ผมบอกกับฟ้าไปแต่เอานิ้วชี้ไปที่ปากของผม
ฟ้าเอามือชี้ไปที่ปากของเธอบ้าง ผมพยักหน้า แต่ก็ไม่มองมาที่เธออีก และเธอก็พบว่าเธอนอนนํ้าลายไหลยืดออกมา
"อุ้ย" เธอเริ่มก้มหน้าไปอย่างอายๆ ส่วนผมนั้นลุกขึ้นและเตรียมเดินไปประตูห้องพัก "ขะ ขอบคุณนะมิ้น"
ผมหันไปยิ้มให้เธอเพื่อไม่ให้เธอเครียด
"จ้า"
ทางด้านจ๋านั้นลุกขึ้นนั่งแล้ว แล้วก็ก้มมามองที่มือตัวเองอย่างอายๆ
นี่เรา กอดแขนมิ้นจังด้วย เธอเริ่มเอาหน้าของเธอมาถูๆกับแขนของเธอ เราได้กอดแขนมิ้นจังด้วย
"ทำอะไรเหรอ จ๋า" แมวถามจ๋าด้วยความสงสัย
"วะ ว้าย" จ๋าเริ่มสะดุ้งตัวออกมาเบาๆ "ปะ เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้สึกคันๆนะ"
"ถ้าเป็นเรา เราจะใช้ทิชชู่นะ" ฟ้าเดินมาตอบพลางเอามือของเธอปาดตรงใต้ปากของเธอเพื่อเอาคราบนํ้าลายออกบ้าง ส่วนตัวของผมนั้นเดินออกจากห้องไปเข้าห้องนํ้าเรียบร้อยแล้ว
"งะ งั้นเหรอ" จ๋ารีบตอบแล้วก็หันหลังให้อย่างเอียงอาย ส่วนฝนนั้นมองไปที่จ๋าแล้วก็เริ่มทำหน้าตาจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย
----------------
หลังจากที่พวกผมผลัดกันเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันกันเสร็จแล้ว (ตอนแรกๆผมจะอาบนํ้าเปลี่ยนชุดเลย แต่ซาระบอกไม่ต้อง การมาเที่ยวกันเรายังออกมากินข้าวเช้าได้ทั้งๆที่ยังใช้ชุดนอน) และปรากฎว่าซาระพูดถูก เพราะกลุ่มผู้ชายทั้งแก๊งยังอยู่ในชุดนอนมารับประทานอาหารเช้ากัน และที่ผมโคตรฮาก็คือ ต้า เพราะมันใส่ชุดนอนลายหมีพูสีฟ้าทั้งตัวเลย
"ต้า" ผมถามมันอย่างตลกสุดขีดพลางชี้ไปยังชุดนอนของมันที่ยังมีรูปหัวหมีพูดเต็มไปหมด "นายใส่ชุดนี้นอนทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย"
"ก็ใช่นะสิ" ต้าบอกพลางยึดอกออกมาอย่างไร้ยางอาย พนักงานของโรมแรมเองก็ยังยิ้มและแอบหัวเราะใส่ต้าเลย
"นายไม่อายคนเขามั่งเหรอเนี่ย" ผมถามต้าอย่างเหลือเชื่อ เป็นผม ผมยังไม่กล้าใส่ออกมาเลยนะ หน้าตาโคตรเท่โคตรแมน ใส่ชุดนอนลายหมีพู เชื่อเขาเลย !
"จริง" เทรนบอก มันเองก็อายๆเหมือนกันที่เพื่อนมันกล้าใส่ชุดนี้ออกมา "มันใส่ชุดนี้นอนทั้งคืนจริงๆ พวกผมเองยังสงสัยเลยว่ามันจะหยิบขึ้นมาใส่เล่นๆ"
กลุ่มสาวๆนี่ก็เริ่มหัวเราะใส่ต้าเหมือนกัน
"แหม่ ต้า มั่นใจนะว่านายไม่มีรังสีเมฆม่วงนะ" จ๋าถามออกมาอย่างขำๆ
เธอเองก็มีเหมือนกันไม่ใช่เรอะ ชายคิดในใจไปหาจ๋า
"เปล่า" ต้าเดินมาหาผมทั้งๆที่ในยังถือจานใส่อาหารมาอยู่ "ผมใส่มาให้มิ้นดูยังไงหละ"
"มาให้ฉันดูทำไม" ผมถามต้าอย่างสงสัย
"ถ้ามิ้นชอบชุดนอนชุดนี้ เวลาไปเดทกันผมจะได้ซื้อให้มิ้นงาย"
"เหอๆ ไอ้ต้า ถ้าฉันจะไปเดทกับแกนะ ฉันไปเดทกับอีด่างข้างวัดยังจะดีกว่าเลย"
มันเพิ่งเอาส้อมจิ้มไส้กรอกขึ้นมา มันทำเป็นหล่นและทำปากอ้า
"แง้ คุณมิ้นอ่า ใจร้าย"
"โห ต้า" ฟ้าพูดออกมาอย่างตะลึง "นี่นายมาไม้นี้เลยเหรอเนี่ย ลงทุนไม่เบาเลยแฮะ"
"แน่นอน ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อคุณมิ้น"
แมวนั้นไม่ตอบอะไรเพิ่ม แต่เธอเงียบๆและจ้องไปทางต้าอย่างไม่ชอบใจ
แต่แทนที่ผมจะสนใจเรื่องนี้ ผมสนใจอาหารที่พนักงานรีสอร์ทเอามาเสิร์ฟมากกว่า
โอ้ว อาหารเช้าแบบอเมริกัน ไข่ดาว เบคอน ไส้กรอก แฮมและขนมปังปิ้งพร้อมโอวัณตีน ผมมองดูอาหารบนโต๊ะของผมอย่างตื่นเต้น เบคอนหน้าตาเป็นงี้เองเหรอ เพิ่งเคยเห็น หมํ่าหละคร้าบ อ้าม อาหย่อยอ่า
ระหว่างที่พวกเรากินข้าวกันอยู่นั้น คนจากรีสอร์ทที่เป็นคนนำเที่ยวก็เดินมาหาพวกเรา
"ตอน 10 โมงเราจะเริ่มทัวร์ดำนํ้ากันนะครับ" คนจากรีสอร์ทบอก "ให้ใส่ชุดว่ายนํ้าเตรียมไว้เลยนะครับ อ้อ แต่ช่วยอาบนํ้าและถ่ายให้เรียบร้อยนะครับ ผมไม่ยอมให้มีการฉี่ใส่นํ้าทะเลนะครับ"
คนจากรีสอร์ทบอกข้อความสุดท้ายด้วยเสียงข้ามและค่อนข้างซีเรียส เห็นทีเราต้องทำตามที่เขาบอกแล้วมั้ง
"ชุดว่ายนํ้าเหรอครับ" ต้าเอ่ยปากออกมาทันที "อยากรู้จังเลย ว่าชุดว่ายนํ้าของมิ้นจะเป็นแบบไหน ขอแบบ Sexy ๆ นะครับ"
"เหอๆ ไม่มีทาง ถ้าฉันใส่ชุดแบบนั้นมานะ ฉันจะกล้ายอมเป็นแฟนแกเลยไอ้ต้า"
"จริงๆนะครับ" ไอ้ต้าตื่นเต้นมาก "งั้นผมจะรอคอบคำตอบนะครับ"
แต่ชุดว่ายนํ้าของพี่เฟิร์นเราก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นแบบไหน ผมเริ่มเสียวสันหลัง ชักเสียวๆยังไงไม่รู้วุ้ย
หลังจากที่พวกผมกินอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว ผมบอกให้สาวๆคนอื่นๆอาบนํ้าก่อน เพราะผมจะรีบไปดูชุดว่ายนํ้าของพี่เฟิร์นก่อนว่ามันเป็นยังไง
ผมมองซ้ายมองขวารอบห้องพัก เพื่อดูว่ามีใครแอบมองไหม ตอนนี้ฟ้าเดินเข้าไปอาบนํ้าก่อนคนอื่น ส่วนจ๋ากับแมวนั้นออกไปเดินเล่นเพื่อย่อยอาหาร ส่วนซาระนั้นกำลังเดินไปคุยกับเทรนอยู่ ฝนนั้นยืนอยู่ข้างนอกเพื่อรออาบเป็นคนต่อไป และเมื่อไม่มีใครแอบมองหรือกำลังมอง ผมล้วงไปในกระเป๋าเพื่อควานหาชุดว่ายนํ้าของพี่เฟิร์น เพราะตั้งแต่ผมเอาอุปกรณ์อาบนํ้าและเสื้อผ้าออกมา ก็ไม่พบชุดว่ายนํ้าเลย ผมเลยคิดว่าน่าจะอยู่ในสุด
พอผมหยิบล้วงเจอเนื้อผ้าที่เป็นยางๆและเหมือนกางเกงว่ายนํ้าแล้ว ผมเริ่มหยิบขึ้นมาดู
โอ้ว เวรแล้ว ทำไมมันมีอยู่ 2 ชิ้นฟะเนี่ย ! ชุดชั้นในหรือชุดว่ายนํ้าเนี่ย !!
"โห มิ้นจัง ทูพีชเลยเหรอ"
เสียงของฝนดังขึ้นข้างหลังผม ผมตัวสะดุ้งและหันไปมองข้างหลังด้วยความตกใจ
"ฝะ ฝน"
ฝนเดินมามองชุดว่ายนํ้าของพี่เฟิร์นที่ผมถือในมือ
"มิ้นกล้ามากเลยเนอะ" ฝนเอ่ยมาหาผมอย่างชื่นชม "ของฝนก็เป็นทูพีชเหมือนกัน แต่ตรงอกไม่ได้สั้นเหมือนมิ้นเลยนะนั่น"
"มะ ไม่ใช่ของเรานะฝน" ผมรีบบอกปฏิเสธไปอย่างลนลาน "คะ คือ มันเป็นของพี่เราอะ ใครจะไปรู้ว่าพี่เราเขาให้แบบนี้มา"
"แล้วทำไมมิ้นไม่เอาของมิ้นมาหละ"
"ก็... ก็ มันขาดนะจ๊ะ แหะๆ" ผมรีบตอบไปอย่างนั้น ใครจะบอกฝนหละว่าเพราะเราไม่ใช่ผู้หญิงอะ
"งั้น เดี๋ยวเราไปอาบนํ้าก่อนนะจ๊ะ" ฝนยิ้มหลับตาข้างนึงให้ผม
ผมมองดูฝนที่ค่อยๆเดินห่างจากตัวของผมออกประตูไปข้างนอกเพื่อไปอาบต่อจากฟ้า เพราะฟ้าเองก็เดินเข้ามาข้างในโดยที่ใส่เสื้อคลุมออกมาแล้ว
ผมหันกลับไปมองชุดว่ายนํ้าของพี่เฟิร์นแบบทูพีช 2 ชิ้นสีฟ้าอย่างเครียดๆ พลางนึกถึงคำพูดจากต้าที่ผมดันไปท้าบอกต้าอย่างนั้น
ซวยแย้วววววว
----------------------------
เรือสปีดโบ๊ดนำทางพวกเราออกจากที่พัก มุ่งไปยังทางออกจากปากทางเข้าเกาะที่เหมือนคลองเหมือนทางที่พวกเรามาที่นี่วันแรก แต่เรือพาเลี้ยวขวาออกไปทันทีที่พ้นระยะทางนํ้าตื้น ทำให้พวกเรามองเห็นรีสอร์ทที่อื่นๆที่มี่แขกนักท่องเที่ยวเริ่มมาเล่นนํ้าทะเลกัน พวกเขามองพวกผมด้วยความสนใจ อาจเป็นเพราะพวกเราเป็นนักท่องเที่ยวที่เด็กที่สุดก็ได้มั้ง ถ้าเป็นผมยามปกติผมคงจะพูดเรื่องนี้ขำๆกับฝนหรือชายแล้ว แต่ทว่า ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้น
"หลังจากจบงานนี้ เราไปเที่ยวกันที่โรงหนังกันดีไหมครับ" ต้าถามผมอย่างกวนๆและอารมณ์ดี "หรือ จะไปเล่นไอซ์สเก๊ตกันดีครับ"
"ไปเที่ยวสุสานเลยดีแมะ" ผมประชดถาม
"อ้าว คุณมิ้นนิยมสถานที่สยองขวัญด้วยเหรอครับ" ต้าถามผมอย่างแปลกๆ "ได้สิ จะไปสุสานคนจีนหรือสุสานของฝรั่งดีหละครับ"
เวร มันดันรับมุขตูด้วย
ตอนนี้เรือกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดดำนํ้าดูประการังจุดแรก และตอนนี้ผมซึ่งใส่ชุดว่ายนํ้าทูพีชและใส่เสื้อคลุมอาบนํ้า (ที่ขอยืมมาจากซาระ) และนั่งอยู่ที่นั่งท้ายสุดของเรือที่เดิม แต่ต้ากำลังยืนประจันหน้ากับผมอยู่
"ตกลงแล้วนี่มันเรื่องอะไรกันเหรอเนี่ย" แมนถามผมอย่างสงสัย
"ก็มิ้นจังนะสิ" จ๋าบอกอย่างเศร้าๆ "ดันไปสัญญากับต้าว่าถ้ามิ้นจังใส่ชุดว่ายนํ้าทูพีชมา จะยอมเป็นแฟนกับต้านะ"
"ก็ใครจะไปรู้เล่าว่าพี่ฉันให้ชุดว่ายนํ้าทูพีชม" ผมตอบไปอย่างเครียดๆ
"อย่าล้อเล่นสิครับ" ต้าบอกอย่างอารมณ์ดี "คุณมิ้นต้องเอามาแล้วแน่ๆเลย แล้วก็อยากเป็นแฟนกับผมเลยใช่ม้า"
ฮือ ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย
"มีสัญญาไหมต้า" ชายเดินมาถามต้า ซึ่งต้ามองชายอย่างงงๆ
"สัญญาอะไร" ต้าถามชายอย่างงสงสัย
"นายบอกว่า มิ้นสัญญากับนายใช่ไหมว่าหากมิ้นใช่ชุดว่ายนํ้าทูพีชมา มิ้นจะยอมเป็นแฟนกับนาย" ชายถามต้า ซึ่งเขายึดอกรับอย่างภูมิใจ "แต่ไหนหละสัญญา ถ้ามีหนังสือหรือกระดาษที่ลงรายละเอียด วันที่ และลายเซ็นยินยอมของนายทั้ง 2 คน มิ้นก็เป็นแฟนกับนายได้โดยไม่มีเงื่อนไข แต่ถ้า" ชายยิ้มออกมา "ถ้าไม่มีลายเซ็นตรงนี้ คุณมิ้นก็จะเป็นแฟนนายไม่ได้ เพราะถือว่าไม่มีหลักฐานยืนยันไง"
ต้าอ้าปากค้างและมองไปที่ชายราวกับอยากบอกว่า ใครใช้ให้แก เ_ ื อก
"จริงด้วย" แมวบอกออกมาอย่างยินดี "มิ้นจังกับกับชายก็ไม่ได้ทำสัญญากันนี่นา ถ้างั้น ทั้ง 2 คนก็เป็นแฟนกันไม่ได้สิเนี่ย"
"มะ ไม่จริ๊งงงงงง" ชายร้องออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ
ผมยิ้มให้ชายอย่างขอบคุณ เขาหลับตาข้างหนึ่งยิ้มให้ผมและชูนิ้วโป้งจากมือซ้ายให้ผม
หัวหน้าห้องนั้นมองเห็นพฤติกรรมมาโดยตลอด เขาเดินมาแทรกคั่นระหว่างชายกับผมทันที
"มันก็ไม่แปลกอยู่แล้วนี่นา" หัวหน้าห้องเดินมาบอกและแหล่ไปทางชายอย่างเจ้าเล่ห์ "จริงไหม ชาย"
"อะ อืม"
ผมมองชายทีและหัวหน้าทีอย่างเข้าไม่เข้าใจ
"ชาย นี่มันหมายความว่ายังไงเหรอ" ผมถามชาย "หัวหน้า นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย"
"ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาบอกครับ" หัวหน้าห้องบอกผมมาอย่างกวนๆ "ยังไม่ถึงเวลา"
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็เดินเอามือกอดคอชายแล้วก็ลากชายไปยังด้านหน้าของเรือ ฝนกับผมมองหน้ากันเองอย่างงงๆและไม่เข้าใจ
"นี่มันอะไรอะ" ฝนถามผม
"ไม่รู้เหมือนกัน"
เรือนำพวกผมไปยังจุดดำประการังจุดแรก มีความห่างจากชายฝั่งของเกาะกูดไม่มากนัก
"จุดนี้คือจุดดำนํ้าจุดแรกนะครับ" คนจากรีสอร์ทบอก "ใครที่ว่ายนํ้าไม่เป็น เราจะมีเสื้อชูชีพให้ ซึ่งผมแนะนำนะครับ ใส่เสื้อชูชีพดีกว่านะครับ เพราะข้างล่างนี้มีเม่นทะเลด้วย และเพื่อกันไม่ให้ทุกท่านเผลอเอาเท้าไปเหยียบปะการัง ผมขอเลยนะครับ ห้ามจับ ห้ามแตะปะการังเด็ดขาด เอาเท้าไปแตะนิดเดียวก็ไม่ได้ ยํ้านะครับ ห้ามเด็ดขาดนะครับ ดูอย่างเดียว"
หลังจากนั้นเขาก็บอกคำเดียวว่า ห้ามๆๆๆๆ สงสัยนายคนนี้จะรักปะการังจริงๆวุ้ย
"เรือจะจอดให้พวกท่านประมาณ 15 นาที นะครับ แล้วหลังจากนั้นเราจะไปดูยังจุดดำนํ้าดูปะการังต่อ" เขาหยิบแว่นตาดำนํ้าตื้นมาใส่ "ทางรีสอร์ทมีแว่นตาดำนํ้าให้ยืมนะครับ เอาตรงสายเสียบไปตรงหัวนะครับ" เขาสาธิตให้พวกเราดู ซึ่งพวกเราบางคนเริ่มทำตาม "แล้วก็เวลาจะหายใจให้หายใจตรงท่ออากาศทางปากนะครับ"
เมื่อพวกผมพร้อมทุกอย่างแล้ว ผมถอดเสื้อคลุมอาบนํ้าของซาระออกแล้วก็พาดมันไว้ตรงเก้าอี้บนเรือ และก็เดินไปข้างหน้าเพื่อเตรียมลงนํ้า
"อู้ หุ่นคุณมิ้นนี่ดูยังไงก็ Sexy ทุกครั้งเลยนะครับนี่ *-*" ต้าร้องบอกผมอีกรอบเมื่อผมเดินผ่านหน้ามันไป แน่นอนครับว่าร่างกายของผมในตอนนี้เหลือแค่ชุดว่ายนํ้าทูพีชแค่ 2 ชิ้น แสงแดดส่องแสงจ้ามาโดนผิวของผมที่ไม่มีผ้าหรือชุดอะไรมาปิดบังมันทำให้ผมรู้สึกอายๆเขินๆสิ้นดี
อารมณ์ในการอยากดำนํ้าดูประการังของผมหมดเกือบวินาทีนั้นเลย
"มาเร็ว มินจัง" ซาระบอกผม เธอเดินออกไปและเอาขาขวาเหยียบกับขอบเรือและเอามือท้าวสะเอวรับแดด ราวกับว่าเธอกำลังจะถ่ายแบบโฆษณาชุดว่ายนํ้าซะอย่างนั้น ทำให้หนุ่มๆมองเธอกันอย่างตะลึง เพราะบนเรือนั้นมีแต่ผมกับซาระเท่านั้นที่ใส่ชุดว่ายนํ้าทูพีชแบบเล็กจิ๋วมา ส่วนสาวๆคนอื่นๆนั้นก็มีฝนคนเดียวที่ใส่ทูพีชมาเหมือนผมกับซาระ แต่ส่วนบนของเธอนั้นชุดจะใหญ่กว่าและยาวมาจนเกือบปิดสะดือ ซึ่งถ้าเทียบกันซึ่งๆหน้าแล้ว ผมกับซาระตอนนี้หุ่นดีกว่าเสียอีก
อ้า นี่ตูคิดอะไรอีกแล้วเนี่ย
แน่นอนว่าไม่เว้นแม้แต่ชายเองที่จ้องมองผมอย่างตะลึง ราวกับว่าเขาไม่ได้มองผมในฐานะนพอย่างนั้นแหละ และจ๋าเองก็มองผมอย่างตะลึงเหมือนกัน เอ จะว่าไปเพิ่งเคยเห็นจ๋ามองผมแบบนี้วุ้ย ปะ ช่างเถอะ รีบๆลงนํ้าดีกว่า
ผมเดินไปตรงขอบเรือ ลมทะเลพัดตีเข้าหาผมกับแสงแดดที่ส่องจ้าเข้ามาหาผม ผมได้ทาครีมกันแดดกับสาวๆบนห้องพักแล้ว ไม่ต้องกลัวเรื่องผิวไหม้
นํ้าทะเลใส่จนผมมองเห็นปะการังเลย แต่ที่จะดีกว่านี้คือต้องลงไป ผมสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วก็ค่อยๆหย่อนตัวลงไปในนํ้า
อุณหภูมิที่อุ่นเกือบเย็นของนํ้าทะเลเข้าสัมผัสกับร่างกายของผม ผมใช้เท้าตีนํ้าเพื่อดันตัวเองไม่ให้จม ผมคว้าเสื้อชูชีพที่ผมยังไม่ได้ใส่จากบนเรือมาใส่ในนํ้า ซึ่งมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย และเมื่อผมใส่เสื้อชูชีพเสร็จแล้ว ตัวของผมลอยอยู่ตรงผิวนํ้า ซึ่งข้อดีตรงนี้คือผมไม่ต้องดันตัวเองเพื่อประคองร่างไม่ให้จมลงทะเล ผมเอาแว่นตาดำนํ้าที่คาดกับหัวของผมนั้นมาใส่กับหน้าตัวเองและเอาปากอมกับท่อหายใจ และก้มตัวลงไปในนํ้าเพื่อดำนํ้าดูปะการัง
นํ้าทะลเป็นสีนํ้าเงินสดใสเมื่อผมดำลงไป ปะการังหลากสีอยู่ข้างล่างจากผม ความสวยงามของมันนั้นมีมากเกินที่ผมจะบรรยายออกมาได้ เพราะมันสวยมาก สวยกว่าในทีวีที่ผมเคยเห็นเสียอีก ปะการังมันมีหลายแบบและหลายขนาด บางตัวเป็นคล้ายๆกิ่งไม้ บางตัวก็เป็นเหมือนก้อนหินที่มีหญ้าหลากสีมาปกคลุม มีความเย็นสบายถาเข้าโถมเข้ามาโดนผม มันทำให้ผมอยากถอดเสื้อชูชีพนี่ออกแล้วก็แหวกว่ายไปในทะเลด้วยกำลังของตนเอง ฝูงปลาจำนานมากกว่าโหลได้ว่ายเข้ามาล้อมรอบตัวของผม พวกมันว่ายเข้ามาหาผมและว่ายวนไปวนมาราวกับผมเป็นพระอาทิตย์และพวกมันเป็นดาวเคราะห์ ปลาพวกนี้มันมีสีเหลืองและมีลายสีเข้มๆ ตัวเล็กมาก
ผมเงยหน้าขึ้นเหนือนํ้าเพราะว่านํ้าทะเลมันทะลักเข้ามาในปากผมผ่านทางท่อหายใจ ผมเงยหน้าขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
"ว้าว เหลือเชื่อเลย"
"ใช่ม้า"
ฟ้าบอกกับผม เธออยู่ในชุดว่ายนํ้าวันพีชที่ดูไกลๆอาจเหมือนชุดว่ายนํ้าเด็กอนุบาลลอยอยู่ข้างซ้ายของผม เธอเอามือจับเชือกที่บนเรือโยนลงมาให้เพื่อให้พวกเราจับเชือกไปดูปะการังไป ส่วนทางข้างหน้าของผมนั้น ชายและต้าไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ เขาดำนํ้าไปในทะเลตัวเปล่าเลย
"แต่มิ้นนี่เหมือนนางเงือกเลยนะ" ฝนเอ่ยปากชมผม "ดูสิ ขนาดพวกปลายังเห็นด้วยเลย"
ผมก้มมองดูในนํ้า ปลาการ์ตูนยังคงว่ายล้อมรอบตัวของผมอยู่ แน่นอนว่าว่ายอยู่รอบๆตัวของฝนและฟ้าด้วย
"น่ารักดีนะ" ผมบอกกับปลาพลางยื่นมือที่อยู่ในนํ้าแบออกมาราวกับจะขอมือ (ครีบ) มา แต่มันเอาปากมารุมจิ๊กๆนิ้วของผม แฮะๆ จักจี๋ดีแฮะ
"ปลาการ์ตูนนะ" ฟ้าบอกพลางหยิบขนมปังที่อยู่ในมือของเธอมาให้ "อะ คนจากรีสอร์ทเอามาให้นะ ให้เป็นอาหารปลา"
"อืม" ผมรับขนมปังจากฟ้าที่เปียกไปทั้งก้อนมา แล้วยื่นให้ปลากินในนํ้า แต่ผมมองจากเหนือนํ้าแล้วมองไม่เห็น ผมเลยก้มหัวนํ้าไปดูใต้นํ้า ว้าว ปลามารุมกินขนมปังใหญ่เลย
ตอนนี้ต่างคนต่างดำนํ้าดูปะการังกันอย่างตัวใครตัวมัน ไม่เว้นแม้แต่ต้าที่สนใจดูปะการังมากกว่ามานั่งพูดจาลามากใส่ผมอีก ต่างคนต่างพูดคุยกันในสิ่งที่ตนเองดูกันอย่างสนุกสนาน และเมื่อเรือพาพวกเราไปยังเกาะเล็กๆอีกที่ที่เป็นจุดดำนํ้าจุดที่ 2 ผมไม่รอช้า คราวนี้ผมไม่ใช่เสื้อชูชีพ ผมหย่อนตัวลงนํ้าแล้วก็ว่ายนํ้าท่าผีเสื้อใต้นํ้า ฝูงปลาการ์ตูนว่ายมาล้อมรอบตัวของผม ผมหมุนตัวใต้นํ้าและว่ายไปพร้อมกับมันรอบๆเรืออย่างสนุกสนาน และเมื่อปอดผมต้องการอากาศ ผมก็ดันตัวเองไปยังเชือกที่เรือโยนเอามาให้และก็ไต่ไปยังเรือ จับที่ขอบเรือเพื่อให้ตัวเองพักหายใจ นอกจากนี้ในจุดดำนํ้าจุดที่สองผมยังเจอเม่นทะเลด้วย มีเพียบเลย ซึ่งถือว่าโชดดีมากที่เท้าผมไม่ไปโดน
พระอาทิตย์เริ่มเปลี่ยนทิศทางไปยังอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้า และตอนนี้คือเวลาบ่าย 2 แล้ว และนี่คือจุดดำนํ้าจุดสุดท้ายของวันนี้
"น่าเสียดายเนอะ" ซาระบอกกับผมขณะที่เธอนอนตัวหงายลอยตุ๊บป่องเพราะเธอใช้เสื้อชูชีพส่วนผมนั้นเกาะกับขอบเรืออยู่ "ที่ต้องกลับที่พักแล้ว"
"ใช่" ผมยิ้มตอบเธอ "ฉันชอบที่นี่นะ ราวกับว่าถ้าฉันมีครีบ ฉันก็จะอยากว่ายนํ้าเล่นกับปลา และชมปะการังสวยๆแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลย"
"แต่เธอเป็นมนุษย์นะ" เธอหัวเราะใส่ผมคิกคัก
เหอๆ และเป็นผู้ชายด้วยเจ๊
"ว่าแต่ ขอบคุณนะ ซาระ" ผมยิ้มบอกเธอ "ที่พาพวกเรามาเที่ยวแบบนี้"
"ไม่หรอก" ซาระตอบออกมาอย่างเขินๆ
"ซาระก็แค่...."
"ชายจมนํ้า !!"
แมวร้องกรี๊ดออกมา ผมรีบหันไปมองด้วยความตกใจ ตำแหน่งที่ชายน่าจะดำนํ้าลอยตัวอยู่นั้นหายไปแล้ว
"เฮ้ย ได้ไงอะ" ผมรีบมองแหงนหน้าไปบนเรือเพื่อถามสาเหตุ เพราะจุดดำนํ้าทั้ง 2 จุดชายเขาก็ว่ายนํ้าได้อย่างโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนะ
"ไม่รู้สิ" แมวรีบถามอย่างกลัว คนอื่นๆที่อยู่บนเรือและกำลังดำนํ้าเล่นอยู่เริ่มลงนํ้าและมองหาชาย
คนจากรีสอร์ทคนนึงเริ่มกระโดดจากเรือดำนํ้าไปอีกฝั่ง ส่วนตัวของผมนั้นผมเอาแว่นตาดำนํ้าใส่ตาทันที แล้วก็ดำนํ้าเพื่อตามหาชาย
นั่นไง ผมมองไปยังใต้ท้องเรือ ตรงจุดที่สมอเรือลงจอดพอดี ข้างล่างที่ชายกำลังนอนอยู่ใต้นํ้านั้นเป็นก้อนหิน เหล่าฝูงปลาและเม่นทะเลต่างว่ายมาดูด้วยความสงสัย และจุดที่ชายนอนอยู่นั้นไม่ได้อยู่กับปะการังหรือเม่นทะเลตัวไหนเลย นับว่าโชคดีมาก เพราะเท่าที่ผมดูระดับความลึกตอนนี้ ชายน่าจะจมไปที่ความลึกประมาณ 1 เมตรกว่าๆ ถ้าชายเผลอกลิ้งตัวหรือนํ้าพัดไปลงจากก้อนหินละก็ ความลึกข้างล่างก็น่าจะลึกว่า 3 เมตรด้วย
ผมดันตัวเองพุ่งตัวไปในนํ้า หัวของผมตอนนี้อยู่ตํ่ากว่าเท้าของผม ความดันเข้าโจมตีหูของผมจนผมรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วหู มันเจ็บแสบราวกับว่าหูมันจะหลุดออกมา ผมอ้าปากออกมาแต่สิ่งที่เข้าไปในปากคือนํ้าทะเลแทน แต่ตอนนี้ไม่สำคัญเท่าชาย
ต้องช่วยเขาก่อน !!
ผมเอามือช้อนตัวร่างของชายที่ยังสลบอยู่ใต้นํ้าแล้วก็ใช้เท้าถีบกับก้อนหินที่ชายนอนอยู่ดีดตัวพุ่งไป และขึ้นไปเหนือนํ้า ร่างของชายนั้นค่อนข้างหนัก แต่เมื่ออยู่ในนํ้าที่มีสภาพเหมือนลอยอยู่ในอวกาศ ผมเลยสามารถพาตัวชายขึ้นมาได้ง่ายๆ
และเมื่อหัวของผมขึ้นมาเหนือนํ้า ผมสูดหายใจเข้าปอดทันทีด้วยความโหยหาอากาศ แรงดันนํ้าที่เข้าโจมตีหูของผมนั้นเล่นทำให้หูของผมอื้อไปชั่วขณะ ผมจับร่างของชายให้แขนของเขาพาดหลังของผม แมนและหัวหน้าห้องว่ายมาหาผมและลากตัวของชายขึ้นไปบนเรือ
ผมปีนบันไดของเรือขึ้นตามไป ตอนนี้คนอื่นๆกำลังยืนมุงดูชายอยู่ ส่วนคนของรีสอร์ทและคนขับเรือที่ลงไปหานั้นยังไม่ขึ้นมา หัวหน้าห้องเลยบอกให้เทรนไปตาม ซึ่งเทรนก็คว้าเสื้อชูชีพและลงทะเลไปทันที
"ชายเป็นไงบ้าง" ฟ้าถามผมอย่างกลัวๆ
ร่างของผมที่ตอนนี้มีนํ้าหยดติ้งๆเริ่มคุกเข่าข้างๆร่างของชายที่ยังคงนอนอยู่บนพื้นเรือ ผมเอานิ้วไปอังจมูกของเขา เขาไม่หายใจ !
"แย่แล้ว" ผมอุทานออกมาอย่างตกใจ "เขากินนํ้าเข้าไป เราต้องผายปอดแล้วตอนนี้"
ผมเงยหน้าไปมองหัวหน้าอย่างต้องการความช่วยเหลือ
"หัวหน้า" ผมบอก "ช่วยที"
แทนที่เขาจะบอกว่าตกลงหรือพยักหน้า เขากลับถอยหลังช้าๆ
"โทษทีนะ" หัวหน้าห้องบอก "ฉันผายปอดไม่เป็น และมันจะเหมือนเป็นเกย์อะดิ"
เวร เจริญจริงพวกนี้ แม้แต่ไอ้ต้าด้วย
ผมหันไปมองข้างหลังที่เป็นสาวๆ เธอก็ส่ายหัวอย่างเอียงอายและเครียด
ใบหน้าของนายที่ตอนนี้เหมือนนอนหลับ เวรแล้ว ชายเคยบอกเรานี่หว่า ว่าถ้าสมองขาดออกชิเจนเกิน 4 นาทีตายแน่ เทรนที่ออกไปตามหาเจ้าหน้าที่รีสอร์ทก็ยังไม่กลับมา
ช่วยไม่ได้
ผมรีบถอดหน้ากากดำนํ้าออก แล้วก็จับปากของชายอ้าขึ้นเพื่อดูสิ่งแปลกปลอมในปาก แต่ก็ไม่มี
ชาย
ผมเอามือซ้ายบีบจมูกเขา สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ก้มลง เอาปากประกบกับปากของชายทันที ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกๆคน โดยเฉพาะสาวๆและต้ากับหัวหน้าห้อง
"มิ้น" ฝนร้องออกมาพลางเอามือปิดปาก หน้าของเธอเริ่มแดงจัด
ผมเอาปากประกบกับปากของชายและเป่าลมเข้าไปในปากของชาย ผมถอนปากของผมออกมาจากปากของชายและเอามือซ้ายที่บีบจมูกออกเพื่อให้ลมออกมาจากทางจมูก ไม่ได้ผล ผมหายใจเอาลมเข้าปากและเอาปากประกบกับปากของชายอีกครั้งและเป่าลมเข้าปากของชายทันที
เมื่อผมลอง 2 ครั้ง ชายเขายังไม่ได้สติแถมยังไม่หายใจอีก ผมเริ่มเงยหน้ามองพวกเราอย่างกลัวๆและเครียดๆ
"อีกที" ฟ้าบอกผม ดูเหมือนเธอกำลังจะร้องไห้ "ได้โปรดมิ้น ช่วยชายอีกทีนะ"
ผมก้มลงไปมองดูชายที่ยังคงไม่หายใจ ผมสูดลมหายใจเข้าไปในตัวให้มากกว่าทุกครั้ง และก้มลงเป่าลมใส่ปากของชายและเอามือซ้ายบีบจมูกด้วย
เมื่อผมถอยหายใจออกมา หน้าอกของชายเริ่มขยับตัว
"ได้ผลแล้ว" ผมร้องออกมาอย่างดีใจ คนอื่นๆเริ่มมองดูชายอย่างโล่งอก
ผมก้มลงเป่าลมใส่ปากของชายอีกที งวดนี้ชายเขาสำลักและพ่นนํ้าทะเลใส่หน้าของผม
อื้อหือ เต็มๆเลย
เขาสำลักออกมาอีกครั้งและเริ่มลืมตาขึ้น
"อะ อ้าว มิ้น" เขาเอ่ยถามผมอย่างเพลียๆ "เกิดอะไรขึ้น"
"ชาย" ผมเอ่ยออกมาอย่างดีใจและโล่งอก "นายจมนํ้านะสิ"
"คุณมิ้นเขาเลยผายปอดให้นายไง" หัวหน้าห้องบอกมาทางชายอย่างกวนๆ "โดย เม้า ทู เม้า"
"หะ หา"
ชายเริ่มมองมาที่ผมแล้วก็เริ่มหน้าแดง เขาส่ายหัวอย่างรวดเร็วทันที
ส่วนตัวของผมนั้นผมไม่คิดมาก เพราะผมโล่งอกที่ชายเขาไม่เป็นอะไร ตอนนั้นเอง เทรนพาคนจากรีสอร์ทมาพอดี ซึ่งเขาอุ้มชายไปนอนบนที่นั่งบนเรือทันที
"เดี๋ยวพี่จะพากลับรีสอร์ทเลยละกันนะ" เขาบอก "เพื่อนเราจะได้กลับไปพักผ่อนด้วย"
"ขอบคุณมากครับ" ต้าบอกขอบคุณ เขานั่งอยู่ข้างๆชายที่กำลังนอนอยู่"
"แต่ว่านะ" จ๋าบอกกับผม "มิ้นจังกล้าหาญมากเลย เป็นจ๋าเอง จ๋าคงไม่กล้าหรอกนะ"
"ใช่ๆ" ฝนพูดออกมาอย่างยินดี "ก็เล่นไปจูบกับชายแบบนั้นนี่นา"
"ผายปอดๆ ไม่ใช่จูบ" ผมรีบแก้ต่างกับฝนอย่างขยะแขยง เพราะถ้าผมดันชอบ ผมก็คงเป็นพวกเกย์หละสิเนี่ย
"แหม่ มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ" ฝนถามผมอย่างสนุกสนาน
"นี่เธอ ฉันเป่าลมใส่ปากของชายนะ ไม่ใช่ดูด "
"คริคริ"
ส่วนทางด้านต้านั้นเริ่มมองมาที่ชายอย่างอิจฉา
"เฮ้ย ชาย" ต้าเริ่มแอบกระซิบถามที่ข้างหูชายเบาๆ "เป็นไงบ้างวะ รสชาติจูบกับมิ้นอะ บอกเรามั่งดิ "
"ไม่รู้ดิ" ชายเริ่มหันไปมองข้างเรืออย่างไม่สนใจ ลำตัวของเรือสั่นเมื่อคนขับเรือสตาร์ทเครื่องยนต์เรือเพื่อหันหัวเรือกลับที่พัก
"แหม่ เดี๋ยวเราแกล้งจมนํ้าบ้างดีกว่า เนอะ อิจฉาแกจริงจิ๊ง ไอ้ชาย"
ความคิดเห็น