ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Mission CrossDress Spy : ปฏิบัติการเดือด สายลับหน้าหวาน

    ลำดับตอนที่ #5 : Mission 5 : การต่อสู้ในสถานีโทรทัศน์

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 53


    "จะไปไหนจ๊ะสาวน้อย" ชายในชุดเจ้าหน้าที่ถามด้วยนํ้าเสียงกวนโอ้ย "มาคุยกับพวกพี่นิดนึงนะ"

    สาวน้อยงั้นเหรอ ผมเริ่มไม่พอใจขึ้นมาตะหงิดๆ

    "ดูๆ แล้วคงไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องกับหัวหน้าแน่" ชายคนที่ยังถือสติ๊กเกอร์ในมือบอกกับพรรคพวก "จับยัยนี่มาซักข้อมูลแล้วส่งไปขายดีกว่า"

    "ช่าย" พวกของมันคนหนึ่งแลบลิ้น "น่ารักแบบนี้คงขายได้ราคาดีแน่"

    "คำก็สาวน้อย สองคำก็น่ารัก" ผมเอ่ยออกมานํ้าเสียงโกรธแค้น "อยากตายกันใช่ไหม"

    "อุ้ย มีด่าด้วย น่ารักจังเลย" พวกของมันล้อเลียนผม

    "พอกันที"ผมเงยหน้าขึ้น "ตูเป็นผู้ชายนะโว้ยยยยย!!"

    "ผู้ชายงั้นเหรอ" คนที่ถือสติ๊กเกอร์มองผมด้วยสายตาตกตะลึง "ไม่จริงน่า น่ารักขนาดนี้เนี่ยนะ"

    ผวั๊ะ!!

    ผมวิ่งเข้าไปชกหน้าคนที่พูดทันทีราวกับว่าผมควบคุมความโกรธตนเองไม่อยู่ ผลก็คือ ตัวมันเซหงายหลังทันที

    "หนอย" คนที่โดนผมชกลุกขึ้นแล้วเอามือปาดเลือดกำเดาที่ไหลออกมาทันที "จับเธอไว้ให้ได้"

    คนอื่นๆ เริ่มวิ่งเข้ามารุมล้อมผมทันที ผมมองไปรอบๆ เพื่อเตรียมการรับมือ

    "ที่แขนเสื้อมีอาวุธอยู่" พ่อของผมรีบบอกผ่านชุดหูฟังในวิก "หยิบเอาออกมาใช้เลย"

    ผมล้วงมือเข้าไปในแขนเสื้อ แล้วก็พบว่า มันมีไม้อยู่ข้างในจริงๆ ซึ่งผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน และเมื่อผมดึงออกมา ปรากฎว่ามันคล้ายกับเส้นตลับเมตร ซึ่งเมื่อผมดึงออกมาแล้ว มันก็แข็งตัวทันที ผมจึงใช้มืออีกข้างจับเอาไว้ให้แน่นแล้วก็เหวี่ยงอาวุธของมันฟาดใส่พวกมันทันที

    ผวั๊ะ!!

    พวกของมันเซทันทีเมื่อโดนผมฟาด พวกของมันเริ่มเห็นว่าผมมีอาวุธ จึงทำให้แห่เข้ามากันมากขึ้น ผมหมุนตัวเอาอาวุธของมันเหวี่ยงฟาดไปที่คอของมันคนหนึ่ง จากนั้นก็ก้มหลบกำปั้มหมัดของมันคนหนึ่งที่พุ่งมาฟาดใส่ผม ผมอาศัยจังหวะนั้นเอาศอกแทงเข้าไปที่หน้าท้องของมัน และเมื่อมันเซออกไปเล็กน้อย ผมยกอาวุธของผมยกฟาดเสยคางของมัน จากนั้นก็ยกขึ้นแล้วก็ฟาดใส่มันอีกครั้งที่หน้าของมัน เจ้าตัวร้องออกมาดังลั่นด้วยความเจ็บปวด และเมื่อผมเงยหน้าขึ้น ก็พบว่ามีพวกของมันร่างยักษ์คนหนึ่งวิ่งมาทำท่าว่าจะคว้าตัวของผมเอาไว้ ผมรีบก้มลงแล้วก็ไถลตัวเองลอดใต้หว่างขาของมันไป และเมื่อผมรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมใช้อาวุธในมือฟาดใส่มันก่อนที่มันจะหันหลังกลับมา และเมื่อมันเซ ผมกระโดดขึ้นแล้วก็เตะไปที่หลังของมันจนมันร่วงล้มลงไปนอนกองกับพื้น ผมควงอาวุธที่อยู่ในมือหนึ่งรอบ แล้วก็มองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้นและระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา เพราะผมเองก็เริ่มติดใจอาวุธชิ้นนี้ซะแล้ว

    พวกของมันอีกสามคนเริ่มกรูเข้ามาหาผมมากขึ้น ผมรีบกระโดดหลบพวกมันไปข้างๆ และกระโดดขึ้นไต่ตามผนังข้างๆ แล้วจากนั้นก็ใช้อาวุธฟาดใส่พวกของมัน และเมื่อมันล้มลง ผมก็หันหน้าเผชิญหน้ากับอีกคนหนึ่งที่กำลังวิ่งเข้ามาทางผม ผมวิ่งเข้าไป แล้วพุ่งหมัดเข้าไปหามันทันที แล้วก็ใช้อาวุธของแทงไปที่หน้าของมันราวกับเป็นหอก มันร้องออกมาดังลั่นกว่าเก่า และเมื่อผมเห็นอีกคนวิ่งเข้ามาใกล้ตัวผม ผมยกอาวุธของผมหมุนกลางอากาศรอบหนึ่งก่อนที่จะทุ่มแรงทั้งหมดฟาดใส่ทีตัวของมัน จนมันร่วงล้มไปนอนกองกับพื้นทั้งหมด และเมื่อผมมองไปรอบๆ จนแน่ใจแล้วว่าพวกของมันล้มไปหมดทุกคนแล้ว ผมรีบวิ่งไปที่ลิฟต์แล้วเปิดประตูลิฟต์ เข้าไปในนั้นทันที

    พวกของมันคนหนึ่งเมื่อเห็นว่าผมหนีไปทางลิฟต์แล้ว มันรีบหยิบว็อคกี้ท็อกกี้ขึ้นมาทันที

    "จับผู้เข้าประกวดคนที่สิบสี่ให้ได้ มันเป็นสายลับ"

    ระหว่างนั้นผมซึ่งกำลังกดลิฟต์ลงไปยังชั้นที่จัดงานประกวดอยู่ เนื่องจากลิฟต์ตัวนี้ลงไปสุดแค่ชั้นนี้ พ่อผมรีบติดต่อมาหาผมทันที

    "พ่อเตรียมรถและคนของพ่อเอาไว้แล้ว รีบหนีออกมาทันทีเลยนะ" พ่อของผมบอก

    "เข้าใจแล้วครับ" ผมบอกและเตรียมตัวออกวิ่งทันทีเมื่อลิฟต์ลงถึงชั้นล่างสุดแล้ว ผมไม่รอช้าเลยที่จะวิ่งออกไป แต่ทว่า กลับเจอคนของมันดักรอเอาไว้อยู่แล้ว

    "จะหนีไปไหนจ๊ะ" พวกของมันคนหนึ่งล้อเลียนผม ณ ขณะนี้ทั้งซ้ายและขวาหน้าลิฟต์ มันมารุมล้อมดักทางผมเอาไว้หมด ไม่มีช่องทางที่จะให้ผมสามารถหนีออกไปได้เลยแม้แต่น้อย

    ผมไม่กล้าที่จะถามพ่อ เพราะถ้าผมคุยกับพ่อ พวกมันจะรู้ทันทีว่าผมมีวิทยุสื่อสารติดตัวเอาไว้อยู่ ผมมองหาช่องทางในการหลบหนี และก็มีอยู่ทางเดียวที่พวกมันไม่ได้อยู่กันอย่างหนาแน่น นั่นก็คือทางเข้าห้องถ่ายที่กำลังจัดงานประกวดอยู่นั่นเอง

    "จับเธอมาซะ" คนที่ถือสติ๊กเกอร์นั้นวิ่งลงมาจากบันไดแล้วออกคำสั่งทันที

    พวกมันเริ่มกรูเข้ามาหาผมมากขึ้นเรื่อยๆ ผมรีบวิ่งไปข้างหน้า เอาอาวุธของผมฟาดไปที่หน้าของพวกมัน จากนั้นก็กระโดดเหยียบหัวของมันแล้วข้ามหัวอีกคน แล้ววิ่งไปทางเข้าห้องถ่ายทันที

    ระหว่างนั้น ที่ห้องถ่ายทำรายการ ซึ่งยังมีการถ่ายทอดสดอยู่

    "ยอดเยี่ยมมากค่ะ ผู้สมัครหมายเลขสามสิบสาม คุณเบลค่า การแสดงเมื่อสักครู่นี้เล่นทำเอากรรมการของเราให้คะแนนกันแทบไม่ทันเลยค่า" พิธีกรสาวบรรยายหลังจากที่ผู้สมัครเข้าประกวดโค้งให้กับช่างกล้องและกรรมการในห้องส่ง ก่อนที่จะเดินกลับไปหลังเวที

    "เธอคนนั้นเก่งจริงๆ เลยนะ" ผู้สมัครคนอื่นๆ ที่ขึ้นเวทีประกวดไปแล้วพูดคุยหลังจากที่ เดินลงมาจากเวทีแล้ว "ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้ ไร้ที่ติจริงๆ"

    "มันแน่อยู่แล้ว" ผู้สมัครเข้าประกวดที่ชื่อ เบล ยิ้มร่าออกมา ทำให้คนที่สนทนาถึงเธอนั้นถึงกับสะดุ้ง "เพราะไม่มีใครที่จะเฟอร์เฟ็คเท่ากับชั้นอีกแล้ว โฮ้ โฮะ โฮะ โฮะ"

    "และผู้เข้าประกวดคนที่สิบสี่ น้องกอร์ฟค่ะ" พิธีกรสาวประกาศบนเวที "เชิญขึ้นมาบนเวทีได้เลยค่ะ"

    เสียงปรบมือดังลั่นทั่วห้องส่ง แต่ทว่า บนเวทีนั้นไม่มีใครวิ่งขึ้นมาสักคนเลย นอกจากทีมงานคนหนึ่งที่วิ่งมากระซิบข้างหูของพิธีกร ซึ่งทำให้พิธีกรสาวเปลี่ยนสีหน้าเครียดทันที

    "ผู้สมัครคนที่สิบสี่น้องกอร์ฟของเรายังไม่ปรากฎตัวออกมาค่ะ ถ้านับถึงยี่สิบแล้วยังไม่ปรากฎออกมา ทางเราจะถือว่าตัดสิทธิจากการเป็นผู้เข้าประกวดทันทีนะค่ะ" พิธีกรสาวหันหน้าบอกกับแขกที่มาร่วมงาน "ว้า น่าเสียดาย"

    ตรงบริเวณที่นั่งของแขกที่มาร่วมงาน ได้เกิดเสียงซุบซิบกันถึงการไม่ปรากฎตัวออกมาของผู้สมัครหมายเลขสิบสี่ โดยที่นั่งหน้าสุดที่ยังว่างอยู่นั้น ได้มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามานั่ง และชายคนนั้นก็คือ คนที่อยู่ในห้องทำงานนั้นนั่นเอง

    "มาทันเวลาพอดีเลยนะค่ะ" กรรมการผู้บริหารสาวของสถานีคนหนึ่งที่นั่งข้างๆ ถาม

    "พอดีติดธุระนะ" ชายคนนั้นบอก แล้วก็หันหน้าไปกระซิบกับชายอีกคนในชุดดำ

    "เตรียมพร้อมรึยัง" เขาถาม

    "แผ่น CD พร้อมเปิดแล้วครับ" ชายในชุดดำตอบ เขาพยักหน้า

    "ดีมาก จบการประกวดนี้แล้วเปิดทันที เราจะได้เริ่มล้างสมองคนดูได้ทันที" เขาบอก

    แต่บนเวทีนั้นก็ยังเงียบ มีตัวเลขจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ยังคงนับถอยหลังอยู่ และตอนนี้นับถึงเลขเจ็ดแล้ว

    "น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งนะค่ะสำหรับผู้เข้าประกวดคนที่สิบสี่น้องกอร์ฟของเรา ดังนั้นแล้วผู้สมัครคนที่สิบห้าเตรียมตัวได้แล้วค่ะ"

    หญิงผู้เข้าสมัครประกวดคนที่สิบสามชะเง้อมองหน้าเวทีและก็พบว่าคนที่น่าจะขึ้นไปบนเวทียังไม่ปรากฎตัวออกมา เธอเริ่มฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

    "อุ้ย สงสัยเราจะทำเกินไป คงกลัวแล้ววิ่งหนีกลับบ้านไปแล้วนะสินะ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย "แบบนี้ตำแหน่งชัยชนะต้องตกเป็นของชั้นอย่างแน่นอน โฮ้ โฮะ โฮะ โฮะ"

    โครม!!

    ประตูทางเข้าออกของห้องส่งหลุดออกมาทั้งบาน เสียงของผู้เข้าประกวดรอบที่สองแล้วกรีดร้องออกมาดังลั่น โดยเฉพาะกับเธอที่ร้องดังกว่าชาวบ้าน

    "นะ นั่นมันอะไรกันนะ" เธอพึมพำ สายตาของเธอมองไปยังช่องประตูตาไม่กระพริบ

    และคนที่วิ่งเข้ามาข้างในนั้นก็คือ ตัวผมนั่นเอง พร้อมกับชายในชุดดำอีกสี่คนที่ยังวิ่งไล่ตามผมมาไม่เลิกละ

    "กลับมานี่นะยัยตัวแสบ" ชายในชุดดำคนหนึ่งสบถออกมาดังลั่น

    ผมวิ่งเข้ามาตรงบริเวณคนที่เข้าประกวดแล้ว ไม่สนใจสายตาและเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ผมวิ่งผ่านผู้เข้าสมัครคนที่สิบสามไปโดยไม่สนใจท่าทางของเธอเลย

    "ยัยนี่ อย่าเกะกะ ขวางทาง" ชายคนนั้นยื่นมือมาเตรียมจะกระชากเธอให้พ้นทางทันที

    "กรี๊ดดดดดดดด!"

    พลั่ก!!

    ผมกระโดดแล้วก็หมุนตัวกลางอากาศ แล้วเตะหน้าของมันจนมันล้มสลบก่อนที่มือของมันจะแตะโดนตัวเธอคนนั้น แล้วจากนั้นผมรีบคว้าตัวของเธอด้วยการจับหัวไหล่ของเธอทั้งสองข้าง แล้วลากให้เธอออกมาห่างๆ ชายคนนั้น ผลก็คือผมสามารถเอาเธอออกมาได้ทันเวลาก่อนที่ชายคนนั้นจะร่วงล้มทับเธอพอดี

    เธอยังหอบหายใจดังลั่น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและความหวาดกลัว เธอเหมือนอยากจะถามอะไรหลายอย่าง ปากของเธอสั่นระริกราวกับต้องการถามผม แต่ผมนั้นไม่ได้สังเกตท่าทางของเธอเลย

    "ไม่เป็นไรนะ" ผมถามเธอ

    เธอมองผมด้วยสายตาที่ประหลาด ราวกับว่าเธอกำลังโดนผมสะกดจิตเอาไว้ให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยเมื่อเธออยู่ใกล้ๆ ผม เธอทำได้แค่พยักหน้าเท่านั้น

    "จับเธอมาให้ได้" พวกของมันที่เหลือได้ชี้มาทางผมแล้วก็กรูเข้ามาทันที

    "อยู่นี่นะ" ผมรีบเอามือออกจากหัวไหล่ของเธอ จากนั้นก็รีบยกชายกระโปรงตนเองขึ้นแล้วก็วิ่งไปที่เวทีทันที เพราะมันเป็นทางหนีทางเดียวของผม

    พวกชายชุดอีกสามคนได้วิ่งตามผมขึ้นไปบนเวที โดยที่สาวๆ ผู้สมัครประกวดคนอื่นๆ และเจ้าหน้าที่มองดูเหตุการณ์นี้ด้วยความสงสัย

    "นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ" เหล่าสาวๆ ที่เป็นผู้เข้าประกวดต่างพึมพำออกมาด้วยความหวาดกลัว

    แต่เธอคนนั้นกลับเอามือตนเองลูบที่หัวไหล่ของเธอเบาๆ ใบหน้าของเธอร้อนฉ่าโดยไม่ทราบสาเหตุ

    "สงสัยต้องตัดสิทธิน้องกอร์ฟจริงๆ ซะแล้วหละค่ะ" พิธีกรสาวพูดพลางถอนหายใจ "ดังนั้นขอเชิญ... ว้าย!!"

    ผมวิ่งขึ้นไปกลางเวที ไม่สนใจแสงากไฟส่องเวทีและใบหน้าที่ตกอกตกใจของเหล่าแขกที่มาร่วมงานและกรรมการเลยแม้แต่น้อย แต่ผมกลับให้ความสนใจไปที่ทางที่ผมมามากกว่า เพราะว่าพวกของมันนั้นยังวิ่งตามผมขึ้นมาบนเวทีด้วย

    "นะ นั่นมันอะไรกันค่ะเนี่ยน้องกอร์ฟ" พิธีกรสาวถาม

    แต่ผมไม่ตอบ ผมหอบหายใจเพื่อคลายความเหนื่อยล้าของผม พร้อมกับจ้องมองไปยังพวกคนที่อยู่ข้างหน้าผม และดูเหมือนพวกนี้ก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่ตนเองขึ้นมาบนเวทีด้วยซํ้า

    "ยอมให้เราจับตัวเสียแต่โดยดีเถอะนะสาวน้อย" พวกของมันยิ้มกริ่ม "เธอหนีไปไหนไม่รอดอยู่แล้ว"

    "ทำไมต้องมีใครๆ เรียกฉันว่าสาวน้อยทุกคนเลยฟะ" ผมสบถออกมาเบาๆ ด้วยความไม่พอใจ

    ตึง ตึง ตึง

    พวกของมันวิ่งข้ามเวทีมาเพื่อที่จะจับตัวผมโดยไม่สนใจเลยว่าตัวเองกำลังโดนออกอากาศถ่ายทอดสดอยู่ และก็ไม่ได้สนใจพื้นเวทีเลยว่ามันจะพังลงไปรึเปล่า และผมเองก็ไม่สนใจเช่นกัน

    ผมหยิบอาวุธของผมถือไว้ในมือขวา และก็วิ่งเข้าไปหาพวกมันทันที

    "ย๊ากกกกก!!"

    ผมยกไม้ขึ้นเตรียมฟาดใส่มัน แต่มันนั้นกลับหลบได้ แถมยังหมุนตัวเพื่อที่จะพุ่งหมัดมาหาผมแทน แต่ผมนั้นไหวตัวทันแล้วก็ก้มลงหลบได้ทันเวลา พวกของมันอีกคนจึงเสยหมัดจะชกผมต่อทันที ผมรีบยกหน้าตัวเองถอยหลังหลบอย่างรวดเร็วก่อนที่จะก้มหัวหลบหมัดของอีกคนที่พุ่งเข้ามาจะชกผม จากนั้นผมก็วิ่งมาที่เวทีอีกฟาก ก่อนที่จะหมุนตัวแล้วก็ยกไม้ฟาดใส่พวกมันคนหนึ่งจนมันล้มลงกลางเวที พวกของมันอีกคนกระโดดข้ามร่างเพื่อนตนเองเพื่อที่จะมาจับผม ผมจับอาวุธของผมด้วยมือทั้งสองข้างแล้วก็แทงเข้าไปทีหน้าท้องของเขา แล้วดันออกไป จนเจ้าตัวร้องลั่นออกมาขณะลอยกลางอากาศก่อนที่จะร่วงลงกระแทกพื้นเวที ผมรีบกระโดดข้ามตัวของพวกมันสองคนแล้วก็ยกอาวุธของผมขึ้นเหนือเอวเพื่อเตรียมรับมือพวกของมันที่เหลือ

    "อ๋อ นี่คือการแสดงของน้องกอร์ฟใช่ไหมค่ะ" พิธีกรสาวถามด้วยความสงสัย "เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะท่านผู้ชมค่ะ"

    แสงแฟลตจากกล้องถ่ายรูประดมถ่ายผมมากขึ้น ที่จริงผมแทบไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างด้วยซํ้า แต่แอบรำคาญที่มีแสงแฟลตจากกล้องถ่ายรูปถ่ายมาทางผมในเวลาแบบนี้ เพราะว่ามันทำให้เสียสมาธิอย่างมาก เหล่ากรรมการเมื่อได้ยินพิธีกรพูดแบบนั้น ต่างคนต่างคว้าปากกามาจดในกระดาษเขียนคะแนนกันแทบไม่ทัน บางคนที่เผลอทำกระดาษร่วงจากโต๊ะก็รีบยกมันขึ้นมาบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว

    "นี่มันอะไรกัน" หัวหน้าของพวกมันที่นั่งอยู่บนโซฟากรรมการผู้บริหารสถานี "ทำไมลูกน้องของฉันถึงขึ้นไปบนนั้นหละ"

    "ท่านครับ เด็กคนนั้นเป็นสายลับครับ" พวกของมันที่ยืนข้างๆ รีบรายงาน "ผมเพิ่งได้รับรายงานว่าสายลับคนนั้นล้วงข้อมูลของท่านมาได้แล้วครับ"

    "ว่าไงนะ" มันร้องลั่น "หนอยแน่ะ รีบยุติการออกอากาศเดี๋ยวนี้นะ"

    "ยกเลิกไม่ได้นะ" รองประธานผู้บริหารสถานีหญิงคนหนึ่งยกมือห้าม "นี่คือการแสดงของน้องเขา ปล่อยให้น้องเขาแสดงไปแบบนี้แหละ เรตติ้งรายการกระฉูดแน่ๆ"

    "ไม่ได้นะครับ" เขาเริ่งประท้วง "ต้องรีบยุติเดี๋ยวนี้"

    "ทำไมต้องยุติด้วยเหรอ" รองประธานหญิงถามด้วยสายตาจับผิด

    "เอ่อ เปล่าครับ" เขารีบสงบปากสงบคำทันที

    พวกของมันเองก็ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเช่นเดียวกัน แถมยังวิ่งเข้ามาหาผมอีกด้วย ผมเตรียมตั้งท่าพร้อมเอาไว้ และเมื่อพวกของมันวิ่งเข้ามาใกล้แล้ว ผมมองซ้ายมองขวาเพื่อหาที่หลบ และเมื่อผมกลิ้งตัวไปกับพื้นเวทีทางซ้าย ผมรีบยื่นขาเข้าไปขัดขาพวกของมันทันที พวกของมันคนหนึ่งล้มลงกระแทกพื้นเวทีเสียงโครมดังลั่น และเมื่อผมรีบลุกขึ้นมา พวกของมันคนหนึ่งพุ่งหมัดเข้ามาหาผมไม่ลดละ ผมรีบก้มหัวหลบทันเวลา และเมื่อมันพุ่งมาอีกครั้ง ผมรีบเอียงหัวหลบไปทางขวาอย่างรวดเร็ว และเมื่อมันยกขาตั้งเพื่อเตรียมเตะ ผมรีบกระโดดขึ้นเพื่อหลบได้ทันเวลาพอดีเป๊ะ

    "โอโห ท่านผู้ชมค่ะ นี่คือการแสดงที่สุดยอดมากเลยค่ะ และดิฉันจะบอกนะค่ะว่านี่คือการแสดงสดค่ะ ไม่มีการใช้สลิงด้วยนะค่ะ" พิธีกรสาวพูดอย่างตื่นเต้น

    "สุดยอดเลยครับว่าไหม" กรรมการคนหนึ่งที่เป็นผู้กำกับเอ่ยชม "ดูจากความเคลื่อนไหวในการต่อสู้ที่ดุเดือดและเร้าใจไร้ที่ติแบบนี้ ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าเป็นผู้หญิง เก่งพอๆ กับจี่จ้าด้วย"

    "นั่นสิครับ" กรรมการอีกคนที่เป็นผู้กำกับเช่นกันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "แถมเซอร์วิสตั้งหลายท่าด้วย โดยเฉพาะกระโปรงเปิดตอนกระโดดนี่สิ โคตรแหล่ม"

    ควับ

    ผมกระโดดขึ้นเพื่อหลบการโจมตีของพวกมันคนหนึ่ง แต่ก็ต้องรีบเอามือหุบชายกระโปรงลงเพราะมันมันเปิดเลิกขึ้นจนทำให้ผมอดที่จะรำคาญไม่ได้

    ทำไมต้องใส่กระโปรงประกวดด้วยนะ ผมคิดอย่างรำคาญ

    หมับ

    พวกของมันอีกคนที่ยังยืนอยู่กลางเวทีคว้าที่ชายกระโปรงผมอย่างรวดเร็วก่อนที่ผมจะตั้งตัวทัน แล้วก็จับกระซากทันที

    คว๊าก!!

    "กรี๊ดดดดดด!!"

    ผมร้องเสียงหลงเมื่อชายกระโปรงขาดไปกว่าครึ่ง ถึงจะไม่เข้าใจก็เถอะว่าทำไมต้องร้องเหมือนผู้หญิงด้วย เสียงฮือฮือของเหล่ากรรมการและแขกที่มาร่วมงานนั้นร้องเสียงหลงออก ถึงแม้ว่าแขกผู้มีเกียรติที่เป็นผู้หญิงอาวุโสจะทำหน้าตารังเกียจและไม่เห็นด้วย แต่คนอื่นๆ นั้นกลับจ้องมองดูขาอ่อนของผมตอนที่ชายกระโปรงถูกฉีกขาดตาแทบถลนออกมาจากเป้า แถมทำให้กรรมการคนหนึ่งรีบเขียนให้คะแนนจนปลายปากกาหักไปแล้วแท่งหนึ่ง

    "อู้ มีการเซอร์วิสให้ท่านผู้ชมด้วยเหรอค่ะน้องกอร์ฟ" พิธีกรสาวพูดอย่างตกตะลึง "สุดยอดมากเลยน้อง กล้ามากๆ แต่ขาขาวจังเลยนะตัวเอง ชิ"

    ผมหมุนขว้างกลางอากาศก่อนที่จะล้มลงหน้ากระแทกพื้นเพราะเสียหลักจากการโดนดึงชายกระโปรงเมื่อสักครู่นี้ และคนที่ดึงชายกระโปรงของผมออกมานั้นแกว่งชายกระโปรงของผมท้าทาย

    "อะไรกันน้องสาว" มันแสยะยิ้ม "แค่นี้ร้องเสียงหลงเลยเหรอจ๊ะ"

    ผมเริ่มจะเก็บความอับอายและความโกรธแค้นไม่ไหวแล้ว ผมรีบลุกขึ้นแล้วก็ใช้ไม้ของผมฟาดไปที่หัวไหล่ของมันอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งจับอาวุธของผมในแนวตรงก่อนที่จะแทงเข้าไปหน้าท้องของมันเต็มๆ จากนั้นผมทิ้งอาวุธของผมลงพื้นเวที ก่อนที่จะเอาหมัดตัวเองสวนเข้าไปกลางท้องของมันจนมันตั้งตัวไม่ทัน และการกระทำของผมนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่าทำเอาแขกผู้มีเกียรติคนหนึ่งเลือดกำเดาไหลสลบไปแล้ว เพราะชายกระโปรงที่ขาดมันเลิกไปเลิกมานั่นเอง

    และเมื่อผมโจมตีเสร็จแล้ว ผมคว้าคอเสื้อของมันกระชากขึ้นมาใกล้ๆ ตัวผม พร้อมกับจ้องมองมันราวกับต้องการกินเลือดเนื้อให้ได้

    "อย่า..มา..เรียก..ตู..ว่า..สาว..น้อย..อีก" ผมขู่มันช้าๆ ชัดๆ ก่อนที่จะเอาหัวตัวเองโขกกับหัวของมันอย่างแรงโดยไม่กลัวกระโหลกร้าว และทำให้มันสลบเมือดไปในทันที ผมตัวเซไปเซมาเล็กน้อยเพราะผมเองก็ใช่ว่าไม่เจ็บหัว แล้วก็ยืนตัวตรง มองดูผลงานตัวเองที่นอนไม่ได้สติกลางเวที

    "เรียบร้อย" ผมยิ้มให้กับความสำเร็จในครั้งนี้

    "หนอยแน่ะ" หัวหน้าของพวกมันสบถออกมาดังลั่น "ช่วยไม่ได้ ตัดรายการแล้วรีบเอาวีดีโอนั้นเปิดเลย เร็ว"

    "คงไม่ได้แล้วมั้งครับ"

    เสียงของชายแปลกหน้าดังขึ้น และเมื่อมันหน้าไปมอง เขาก็พบว่าพ่อของผมยืนอยู่ข้างๆ นั่นเอง

    "ค่อยๆ ลุกตามพวกเรามาช้าๆ นะครับ" พ่อของผมชูบัตรประจำตัวของ CIA ขึ้นมา "และอย่าคิดหนี เพราะเราล้อมตึกไว้หมดแล้ว และจับลูกน้องของคุณไว้ได้หมดแล้วด้วย"

    เมื่อมันหันหน้ามองไปบนเวที ก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่ CIA วิ่งขึ้นมาบนเวทีแล้วก็ลากลูกน้องของมันออกไปจากเวทีไปแล้วเช่นกัน

    "ยอมให้จับซะดีๆ" พ่อของผมยิ้ม

    "บัดซบ" มันสบถออกมาเมื่อพ่อของผมใส่กุญแจที่มือแล้วเรียบร้อย

    ส่วนตัวผมนั้นมองดูคนของพ่อผมลากพวกของมันออกไปจากเวทีแล้วเริ่มรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที แต่เมื่อมองไปรอบๆ ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าผมกำลังยืนอยู่กลางเวที แถมขณะนี้ก็ยังมีภาพของผมขึ้นฉายบนหน้าจอโทรทัศน์ขนาดยักษ์ แสดงให้รู้ว่าตอนนี้รายการกำลังออกอากาศสดอยู่

    แย่ละสิ ความแตกแน่ ผมคิดในใจด้วยความกังวล

    แปะ แปะ แปะ

    เสียงปรบมือและเสียงส่งเสียงเชียร์ดังลั่นดังออกมาทั่วห้องส่ง ผมมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น

    "คะแนนปรากฎออกมาแล้วค่า" พิธีกรสาวพูดออกมาอย่างตื่นเต้น "ผู้ที่ชนะการประกวดไอดอลประจำสถานีในคืนนี้ก็คือ ผู้เข้าประกวดหมายเลขสิบสี่ น้องกอร์ฟนั่นเองค่า"

    มีเสียงโหวตจากกรรมการและผู้ชมทางบ้านปรากฎโชว์ขึ้นบนโทรทัศน์ และเมื่อผมเงยหน้าไปมอง ก็พบว่ามีคนโหวตให้ผมถึงหกล้านกว่าเสียงเลยทีเดียว!!

    "เฮ้ย อะไรวะเนี่ย" ผมพึมพำด้วยความตกอกตกใจ

    "และขอต้อนรับน้องใหม่สู่วงการบันเทิง น้องกอร์ฟของเราคร่า กรี๊ดดดดดดด!!" พิธีกรสาวพูดออกอย่างกระดี้กระด้า

    และเหล่าแขกท่านผู้มีเกียรติพร้อมกรรมการเองก็ไม่รอช้า รีบวิ่งขึ้นมาบนเวทีทันที

    "สนใจมาถ่ายทำภาพยนต์กับสตูดิโอของเราไหมครับ"

    "ถ่ายละครกับเราดีกว่าครับน้องกอร์ฟ"

    "เป็นนางแบบดีไหมค่ะ"

    "มาพากษ์การ์ตูนดีกว่าคร้าบ"

    ผมมองไปรอบๆ ด้วยความตกอกตกใจและด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้ผมโดนทั้งกรรมการ ทั้งผู้กำกับ ทั้งนักข่าวรุมล้อมเต็มไปหมด เรียกได้ว่าแย่งตัวผมได้แย่งเอาไปเลยด้วยซํ้า

    "นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยยยยยยยยยยยย!!"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×