คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 - ชีวิตใหม่ (ที่ดันไม่เหมือนเดิม)
"พี่เฟิร์นค้าบ นี่มันหมายความว่ายังไงค้าบเนี่ย" ผมโวยวายใหญ่มากขึ้นหลังจากที่ผมกลายร่างมาเป็นผู้หญิงแล้ว "ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ได้ละเนี่ย"
"จะว่าไงดีหละ ก็เธอจะสิ ดันหยิบของคนอื่นกินโดยไม่ขออนุญาต เรื่องมันเลยได้เป็นแบบนี้ไง" พี่เฟิร์นตำหนิผม
"งะ ขอโทษค้าบ" ผมก้มลงขอโทษพี่เขา แต่เสียงขอโทษในแบบผู้หญิงนี่มันฟังแล้วชวนโมเอะพิลึกวุ้ย
"ถ้าเราอยากรู้ พี่จะบอก" พี่เฟิร์นเดินไปหยิบแก้วนํ้าที่ผมกินจนว่างเปล่าแล้วขึ้นมา "นี่มันคือยา Female sex hormones 2t88 หรือยาที่ไปช่วยสร้างฮอร์โมน เซลล์ที่เสียหายในตัวของเพศหญิง เช่น ถ้าเป็นมะเร็งเต้านม มันก็จะไปกำจัดเนื้องอกแล้วก็สร้างเซลใหม่มาแทนที่ ซึ่งจะทำให้อาการนี้หายขาดได้อย่างรวดเร็วกว่าการรักษาแบบปกติ แต่กรณีของเรานะเราเป็นผู้ชาย ยาตัวนี้มันก็เลยไปสร้างฮอร์โมนเพศหญิงแทนที่ฮอร์โมนเพศชายของเธอยังไงหละ"
"ก็เลยทำให้ผมแปลงเพศซะงั้น" ผมถามด้วยความสงสัยปนหวาดกลัว "แล้วพี่เฟิร์นไหงเอามาวางไว้ตรงนี้หละครับ"
"แน๊ะ มากล่าวหาพี่ซะงั้น เดี๋ยวก็ปลํ้าซะเลย" พี่เฟิร์นทำมือจับๆกลางอากาศและเดินเข้ามาหาผมพร้อมทำหน้าราวกับคนโรคจิต
"ว้ายยย ไม่เอานะพี่เฟิร์น" ผมตะโกนร้องลั่นพร้อมกับถอยหนีอย่างรวดเร็ว แต่ก็นึกสงสัยว่าทำไมผมถึงร้อง 'ว้าย' ออกมา
"นั่นปะไร แม้แต่เซลล์สมองก็ถูกปรับเป็นเพศหญิงไปซะแล้ว" พี่เฟิร์นรีบเปลี่ยนสีหน้ามาครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว "แบบนี้ก็เหลือแต่สมองส่วนความทรงจำเท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม"
งานเข้าแล้วตรู ผมก้มหน้าลงอย่างเคร่งเครียด แต่พอมองเห็นอวัยวะตูมๆ ยื่นออกมาจากหน้าอกตัวเอง ผมก็ต้องรีบเบือนหน้าออกอย่างรวดเร็วด้วยความอาย
"ก็ได้ พี่จะบอก" พี่เฟิร์นบอกพร้อมล้วงกระเป๋าตังค์ออกมา "พี่คิดค้นยาตัวนี้ไม่ใช่แค่รักษาทางแพทย์ แต่เพื่อตัวพี่เองด้วย"
"อะไรนะครับ พี่เป็นกระเทยเหรอครับเนี่ย" ผมแทบเหวอเมื่อคิดแบบนั้น"
"ไม่เชิง" พี่เฟิร์นยักไหล่ แล้วก็ยื่นบัตรประชาชนให้ผมดู ซึ่งมันเขียนว่า 'นางสาว'
"พี่เคยคิดค้นยาแบบนี้มาแล้ว ซึ่งมันเป็นฮอร์โมนเพศชาย แต่พี่เกิดทำมันหกใส่มือ ผลก็คือทำให้พี่ต้องกลายร่างมาเป็นผู้ชายแบบนี้ไง" พี่เฟิร์นเฉลย "ยาตัวนั้นพี่พยายามคิดค้นเพื่อรักษาตัวเอง แต่ก็ยังไม่ได้ทดลองเลย งั้นขอบใจนะ ที่เรามาเป็นเหยื่อทดลองให้"
"จะบอกว่าผมกลายเป็นหนูทดลองของพี่งั้นเหรอเนี่ย" ผมเบ้ปาก
"แต่โชคร้ายหน่อยนะที่พี่บอกว่ามันยังใช้ไม่ได้" พี่เฟิร์นหยิบบัตรประชาชนของตนเองคืนหลังผมส่งให้ "เพราะถ้าทำแบบนั้นจริงๆ ร่างกายจะรับไม่ไหวจนเกิดหัวใจวายตายแน่ๆ แน่นอน พี่ได้เอาไปทดลองกับคนหรอก แต่ทดลองกับหนูนะ" พี่เฟิร์นรีบบอกหลังจากที่ผมทำหน้าเหวอ
"แล้วแบบนี้ผมจะทำยังไงดีครับเนี่ย" ผมยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่
"เราก็เหมือนพี่ ตกในสถานะเดียวกัน ยังไงซะ พี่ก็ต้องทำยาวิจัยออกมาเพื่อตนเองและเพื่อเราอยู่ดี แต่โชคร้ายหน่อยนะที่พี่จะบอกว่ายาตัวนี้พี่พัฒนามาแล้วกว่าห้าปี ยังใช้ไม่ได้สักอัน"
"เยี่ยม" ผมพ่นลมออกมาจากจมูก "แล้วแบบนี้ผมจะไปโรงเรียนยังไงดีครับเนี่ย โรงเรียนผมชายล้วนด้วย คงต้องลาออกแล้วมั้งแบบนี้"
"ไม่ต้องหรอก เราก็เข้าคิงฟอร์ดไปเลยสิ" พี่เฟิร์นเสนอให้ผม "แค่มาล้างส้วมให้โรงพยาบาลราวๆสิบปีเอง"
เวรกรรม ค่าเทอมมันแพงบรรลัยขนาดนั้นเลยไง ผมเกาหัวแกรกๆเพื่อพยายามใช้ความคิด แต่เล็บนิ้วผมก็ดันไปเกี่ยวกับเส้นผมที่สยายยาวออกมาจนถึงสะโพก แต่ผมก็นึกขึ้นได้ว่า ชายเขามีโควต้าสำหรับไปเรียนคิงฟอร์ดฟรีสำหรับเพศหญิง บางที มันอาจทำได้ก็ได้
"ผมว่ามีทางออกละครับ แต่พี่เฟิร์นต้องไปช่วยยืนยันนะครับว่าผมเป็นนพจริงๆ" ผมขอร้องพี่เฟิร์น
"ก็ได้" พี่เฟิร์นตอบตกลง "จะไปหาชายสินะ พี่ไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะพี่ก็รู้จักคณะผู้บริหารของโรงเรียนคิงฟอร์ดดี พี่จะคุยให้ ดังนั้น..."
พี่เฟิร์นโยนของสองสามสิ่งมาให้ผม มันก็คือยกทรงกับกางเกงในของผู้หญิง
"ใส่ไอ้นี่ซะ เราเดินโทงๆออกไปแบบนั้นมีหวังเราโดนพวกโรคจิตรุมโทรมแน่" พี่เฟิร์นบอก "แล้วเดี๋ยวพี่จะหาเสื้อผ้าเก่าๆสมัยพี่เป็นผู้หญิงให้ใส่ ตกลงนะ"
"เอ่อ ขอบคุณครับ" ผมหยิบยกทรงขึ้นมาดูอย่างเอียงอายปนรังเกียจไปพร้อมกัน เพราะผมไม่อยากเอาของพรรนี้มาใส่เลย "เอ่อ พี่เฟิร์นครับ"
"มีอะไร" พี่เฟิร์นหันกลับมาถาม
"แล้วยกทรงมันใส่ยังไงงะ" ผมถามเพราะไม่รู้จริงๆ
"จะไปยากอะไร มานี่ ถอดเสื้อออก เดี๋ยวพี่สอนให้" พี่เฟิร์นบอก
"วะ ว้ายยยยย!!" ผมรีบเอามือกอดอกอย่างรวดเร็ว ผลก็คือ ทำให้แขนของผมไปโดนของนิ่มๆนูนๆ ทำให้ผมหน้าแดงด้วยความอายและหวาดกลัวพร้อมกัน "พี่เฟิร์น พี่ พี่สอนแบบไม่ต้องใส่ไม่ได้เหรอ"
"ได้" พี่เฟิร์นยิ้ม ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก "แต่พี่ต้องดูด้วยว่าร่างกายเราเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน ไม่อย่างนั้นพี่ก็คงจะคิดยารักษาเราไม่ได้"
"ไม่ต้องถอดเสื้อไม่ได้เหรอครับ" ผมเริ่มอับอายมากขึ้นเมื่อรู้ว่าต้องโชว์หน่มน้มให้คนอื่นดู เพียงเพราะมันใหญ่ขึ้นเรียวขึ้น
"ตกลงจะถอดไม่ถอด" พี่เฟิร์นถามเสียงเรียบๆ
"มะ ไม่อาววว" ผมส่ายหัว
"งั้น พี่ถอด" พี่เฟิร์นบุกเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว แล้วทำการปลดกระสุนเสื้อนักเรียนผมอย่างรวดเร็วจนผมมองไม่ทัน
"แว๊กกก พี่เฟิร์นทำอะไร อ๊ายยยย!!" ผมร้องโวยวายด้วยความตกใจหลังจากที่พี่เฟิร์นปลดกระดุมออกจนหมดอย่างรวดเร็วแล้วกระชากเปิดออกจนทำให้ตอนนี้อวัยวะผมโชว์ออกมาให้พี่เฟิร์นเห็น
"อื้อหือ ใหญ่โค้งเรียวสวยได้รูป อกเกรด A เลยนะเนี่ย" พี่เฟิร์นเอามือทั้งสองข้างล็อคมือทั้งสองข้างผมเอาไว้กับโซฟาแล้วมองดูหน้าอกผมอย่างพิจารณา
"พี่เฟิร์นค้าบบบบ" ผมแทบอยากร้องไห้
"เอาหละ ส่วนยกทรง มันต้องใส่แบบนี้" พี่เฟิร์นเอามืออีกข้างปล่อยมือผมแล้วหยิบยกทรงออกมา "แล้วก็แบบนี้ ฮี่ๆ"
"พี่เฟิร์นค้าบ ผมยอมแล้วค้าบ คือ จะสอนแบบนี้ก็ได้ แต่อย่าทำหน้าโรคจิตแบบนั้นได้ไหมค้าบบบบ" ผมขอร้องเพราะตอนนี้ผมมีความรู้สึกแล้วว่า ผู้หญิงเวลาโดนผู้ชายทำหน้าหื่นใส่มันน่ากลัวขนาดไหน
"แล้วก็ใส่มันเข้าไปแบบนี้ แล้วก็ถอดแบบนี้"
หมับ!
"พี่เฟิร์น จับของโผมทำม้ายยยยยย"
"ไม่จับแล้วเราจะรู้เหรอว่าใส่ยังไง เรายิ่งเอ๋อๆอยู่ เอ เรายอมรับแล้วเหรอว่ามันเป็นของเรา"
"ก็มันติดกับตัวผมนิ ว้าย ไม่ช่ายย"
"แล้วก็แบบนี้ แบบนี้ ล็อคตะขอแบบนี้ หึๆๆๆๆ"
"ไม่อ้าวววววว อร้ายยยยยยยย!!"
(ที่เหลือกรุณาจินตนาการเอาเอง)
...
..
.
(หนึ่งชั่วโมงต่อมา ที่บ้านของชาย)
Chai Talk
กิ๊ง ก่อง
"คร้าบ" ผมตะโกนออกมาพร้อมเดินออกมาที่หน้าประตูบ้าน พร้อมกับเปิดประตูบ้านออก แล้วผมก็พบกับสาวน้อยน่ารักโมเอะ ใส่ชุดสีชมพูหวานแหวว พร้อมกับติดโบว์สองข้างพร้อม หน้าแดงแป้ด พยายามหลบสายตาของเขา พร้อมกับผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอพร้อมเอกสารในมือ
"เอ่อ มาหาใครเหรอครับ" ผมถามด้วยความสงสัย เพราะผู้หญิงที่ยืนตรงหน้าที่ผมมั่นใจแล้วนะว่าไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ทั้งแววตาและโครงหน้าดูคุ้นๆพิกล
"มาหาเรานะแหละไอ้ชาย" ผู้หญิงคนนั้นบอกด้วยท่าทีเอียงอาย
"มาหาผม?" ผมถามด้วยความสงสัย
"ฉันเองชาย นพนะ" ผู้หญิงคนนั้นบอกผม
"หา อะไรนะ" ผมถามด้วยความสงสัย
"รายละเอียดเดี๋ยวเรามาคุยกัน ขอเราเข้าไปข้างในได้ไหม" ผู้ชายที่ยืนข้างหลังเธอบอก
ผมมองดูสองคนในแวบแรกที่ตอนแรกๆเหมือนจะไม่ไว้ใจ
"เรามาคุยเรื่องโรงเรียนคิงฟอร์ด" ผู้ชายที่ยืนข้างหลังชูเอกสารที่มีตราโรงเรียนคิงฟอร์ดให้ผมดู
"อ๋อ งั้น เข้ามาครับ เชิญ" ผมเปิดประตูรั้วให้ทั้งสองคนเดินเข้ามาในบ้านของผม โดยผู้หญิงคนนั้นมองดูผมด้วยสีหน้าลำบากใจตลอดเวลาที่เธอเดินเข้าในบ้านของผม
ผมก็ว่าคุ้นๆหน้าอยู่นา
(สิบห้านาทีต่อมา)
"ถ้าอย่างนั้น จริงเหรอที่เธอเป็นนพจริงๆ" ผมถามเธอเป็นรอบที่ห้า หลังจากที่ทั้งเธอและผู้ชายที่ชื่อ เฟิร์น อะไรนั่นเล่าเรื่องทั้งหมด พร้อมกับมีเอกสารการวิจัยยาฮอร์โมนเพศที่มีการรับรองจากกระทรวงสาธารณะสุขว่ากำลังทดลองจริงๆมายืนยัน แถมผู้หญิงคนนี้ก็รู้เรื่องของผมกับนพอย่างละเอียด
"ชาย นายไม่เชื่อชั้นเหรอ ฮึก ฮือ" ผู้หญิงคนที่เหมือนจะเป็น นพ เริ่มนํ้าตาคลอเบ้า
"คือ ตูเห็นแบบนี้แล้วมันไม่น่าเชื่อเลยนะสิว่าเธอเป็นนพเพื่อนฉันอะ ไอ้นพมันไม่โมเอะอย่างนี้หรอกนะเว้ย" ผมเริ่มเกาหัวอย่างจนปัญญา
"ตูก็รู้ว่าทำไมนํ้าตามันไหลออกมาเอง ซิกๆ" เธอเริ่มเอามือปาดนํ้าตา เล่นทำเอาผมใจอ่อน
"เอาเถอะๆ ถึงมันจะดูไม่น่าเชื่อ แต่ก็ยอมรับ เพราะไอ้นพมันก็ไม่มีเพื่อนหญิง และดูจากตระกูลแล้วนายก็ไม่มีญาติคนอื่นอีกนอกจากพ่อ ถึงมันจะไม่น่าเชื่อไปหน่อยก็เถอะว่านายเป็นนพจริงๆ" ชายทำท่ายอมแพ้ "แต่ไอ้นิสัยกินไม่เลือกนี่มันก็เป็นนิสัยนพจริงๆนะแหละ"
"แล้วจะมาเผาตรูทำม้ายยยย" เธอทำเบ้ปาก ซึ่งผมบอกตรงๆว่า ทั้งท่าทางการพูดจา การนั่ง หรือการเบ้ปากแบบนี้ มันเหมือนนพจริงๆ
"ทีนี้ เราเลยจะมาคุยเรื่องโรงเรียนคิงฟอร์ด" ผู้ชายที่ชื่อ เฟิร์น บอกกับผม "โควต้าที่เรามีอยู่ก็คือ ตัวเราด้วยและผู้หญิงอีกคนใช่ไหม"
"ใช่ครับ" ผมตอบ
"งั้นก็ล็อคเป้า เพราะยังไงตอนนี้นพก็กลายเป็นผู้หญิงไปแล้ว แถมสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซนต์ด้วย ดังนั้นให้นพเข้าไปเรียนก็ไม่น่ามีปัญหา"
"เดี๋ยวก่อนสิครับพี่" ผมพูดแทรก "คือ มันก็อาจจะได้นะครับ แต่ยังไงซะ โควต้านี้มันก็ต้องยึดหลักตามข้อมูลฐานทะเบียนราษฏร์ เพราะถึงนพจะเป็นกระเทย.."
"ผู้หญิงว้อย" เธอแทรกด้วยความไม่พอใจ
"เออ นั่นแหละ แต่ยังไงซะ ตามข้อมูลบัตรประชาชนของนพ เขาก็ยังเป็น นาย อยู่ แล้วมันก็มีกฎห้ามให้นักเรียนแปลงเพศด้วยยกเว้นขึ้นมหาลัยแล้ว แล้วแบบนี้จะให้นพมาเรียนด้วยได้เหรอครับ"
"ไม่มีปัญหา เพราะพี่ติดต่อกับทางผู้อำนวยการของโรงเรียนคิงฟอร์ดแล้ว" พี่คนที่ชื่อเฟิร์นหยิบเอกสารจากในแฟ้มแล้วส่งให้ผมดู ซึ่งมันเป็นหนังสือการอนุญาตให้นพเข้ามาเรียนในฐานะโควต้านักเรียนหญิงได้ แต่ในชื่อประวัตินักเรียนจะเป็นชื่อนาย โดยลงชื่อผู้อำนวยการพร้อมตราประทับโรงเรียน แถมลงวันที่นี้ด้วย "เพียงแต่เขาต้องการเอกสารโควต้าที่ปู่ของเรามีอยู่นะแหละ เขาถึงจะอนุมัติได้ทันที"
ผมมองดูนพ (ร่างผู้หญิง) ที่เริ่มมองผมอย่างเคร่งเครียด เพราะผมเองก็รู้ดีว่านพเอง เขาก็อยากเข้าไปเรียนในคิงฟอร์ดมาก เพราะเขาอยากเข้าไปใกล้ชิดกับสาวที่เขาชอบ แต่โควต้านี่ผมก็ไปถามปู่แล้ว ซึ่งปู่ก็บอกว่าไม่ได้ เพราะมันต้องใช้ผู้หญิงจริงๆ ถ้าทำแบบนี้ ก็เท่ากับให้นพเข้ามาเรียนกับผมได้ แต่ให้ตายเถอะ ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยว่านพเวลามันเป็นผู้หญิงไปแล้วมันจะโมเอะขนาดนี้ ถึงจะบอกว่าเป็นที่ฤทธิ์ยาก็เหอะ
"งั้นตกลงครับ" ผมพยักหน้า "ถ้าทางผู้อำนวยการโรงเรียนเขาบอกมาแบบนี้ ก็ไม่น่ามีปัญหา"
"โอ้ ขอบคุณมากๆนะชาย" นพรีบเข้ามาจับมือผมแล้วเขย่าอย่างรวดเร็ว "ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ"
"ไอ้ขอบคุณนะโอเค แต่อย่ามาจับมือฉันได้ไหม" ผมรีบสะบัดมือออก
"ทำไมอ่า นายรังเกียจฉันที่ฉันเป็นผู้หญิงเหรอ หรือคิดว่าฉันเป็นกระเทยไปแล้ว ฉันยังแมนอยู่นะเว้ย" เธอเบ้ปากถามผม
"ไม่ใช่แบบนั้น แต่มือนายนะสิ มันเนียน นิ่ม ขาว เนียน จนทำเอาตูคิดเตลิดเปิดเปิงไปแล้ว" ผมหันหน้าหนีโดยพยายามซ่อนอาการเขินอายเอาไว้ นั่นเพราะผมกับนพมีอย่างหนึ่งเหมือนกันก็คือเขินอายเพศหญิงเหมือนกัน จับมือยังไม่เคยเลย แต่พอมาจับจริงๆแล้วมันกลับรู้สึกน่าหลงไหลอย่างบอกไม่ถูก แต่พอมารู้ว่าเธอเป็นนพที่เป็นผู้ชายนี่เล่นทำเอาผมอยากอ้วก
"งั้นตกลงตามนี้ เดี๋ยวจะกลับไปเอาเอกสารติดต่อโรงเรียนให้ ส่วนมิ้น เรากลับไปขนของแล้วเดี๋ยวมานอนกับพี่ก่อนก็ได้" พี่เฟิร์นบอก
"ขอนอนกับชายได้ไหมครับ" นพถามด้วยนํ้าเสียงกึ่งขอร้อง
"เฮ้ย อะไรนะ นี่เอ็งคิดจะมานอนกับตูเลยเหรอ" ผมถามด้วยความตกใจ
"ไอ้บ้าชาย คิดบ้าอะไรของเอ็ง ฉันหมายถึงมาขอนอนบ้านนาย แต่ไม่ได้นอนกับนายเว้ย" นพเบ้ปากบอกอีกครั้ง
"เฮ้อ.. โล่ง" ชายเอามือปาดเหงื่อ "แล้วทำไมถึงไม่ไปนอนกับพี่เขาหละ"
"คือ มันมีเหตุผล" เขาหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ ผมเหลือบตามองเห็นพี่เฟิร์นยิ้มด้วยความสะใจเล็กน้อย
"งั้นตามใจ" พี่เฟิร์นลุกขึ้นยืนแล้วบอก "เพราะยังไงก็ตาม นักเรียนโควต้าก็ต้องไปนอนอยู่หอของโรงเรียนคิงฟอร์ด ที่คิงฟอร์ดจะเปิดเรียนในอีกสองวัน ดังนั้นพรุ่งนี้พวกเธอทั้งสองคนก็ต้องย้ายเข้าไปนอนในหอของโรงเรียน"
"ก็ดีครับ เพราะตอนนี้อาพาร์ทเมนท์ที่ผมไปเช่ากำลังจะโดนเจ้าของถีบออกมาอยู่แล้ว" นพพึมพำ
"ค้างค่าเช่าเขาอีกแล้วสิ" ผมถามเพราะผมรู้ดีว่านพเขาค้างค่าเช่ามานานมากแล้ว เด็กสาวพยักหน้าอย่างเข้มขรึม
"ตกลงตามนี้ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่มารับนะ" พี่เฟิร์นบอก "งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะมิ้นจัง"
"เดี๋ยวก่อนครับพี่" เด็กสาวโต้ "จะให้ผมชื่อ มิ้น เนี่ยนะ ให้ชื่อนพเหมือนเดิมไม่ได้เหรอครับ"
"ผู้หญิงบ้าอะไรชื่อนพ ถ้าเราอยากเข้าเรียนที่คิงฟอร์ด เราต้องใช้ชื่อใหม่ ซึ่งพี่ก็ต้องให้แล้ว" พี่เฟิร์นหยิบเอกสารขึ้นมา "กนกพร พิกุลทอง หรือชื่อเล่นว่า มิ้นจังไงหละ"
"นี่ผมไม่มีทางเลือกเลยรึยังไงเนี่ย" นพพึมพำ
"แต่ชื่อมิ้นก็น่ารักดีนะ เหมาะกับสภาพนายตอนนี้ด้วย" ผมล้อเลียนเขา
"ไอ้ชาย T^T"
"งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ" พี่เฟิร์นยิ้มหึๆก่อนที่จะเดินออกไปจากบ้านผม
และเมื่อเสียงรถมอเตอร์ไซด์หายไปแล้ว ผมหันไปหาเพื่อนผมที่ยืนข้างๆด้วยคำถามที่ผมอยากรู้
"แล้วทำไมนายถึงไม่ค้างคืนบ้านพี่เขาอะ พี่เฟิร์นเขาก็สนิทกับนายไม่ใช่เหรอ" ผมถาม
"ไม่ต้องเลย ไม่ต้องถามเรื่องนี้เลย ตูก็เพิ่งรู้ว่าพี่เขาเป็นคนแบบนี้" นพโวยออกมา "เล่นทำเอาตูคิดบ้าอะไรก็ไม่รู้ ฮือๆ"
"คิดอะไรเหรอ อย่าบอกนะเว้ยว่าเอ็งไปชอบพี่เขาอะ" ผมถามด้วยความหยะแหยงเล็กน้อย
"ไม่ใช่ !! แล้วก็เงียบไปเลยไป๊" นพโวยใส่ผม
ผมมองดูสภาพเพื่อนผมตอนนั้ ซึ่งยังไง๊ ตอนนี้มันก็เหมือนสาวน้อยที่กำลังเหมือนเกือบโดนโจรโรคจิตขืนใจชัดๆ โอ้ ดีนะ ที่โคนันมันไม่มีฉากโมเอะ ไม่งั้นผมคงคลั่งเพื่อนผมแบบไอ้เกรียนไปละ
-------------------------
เกร็ดเนื้อเรื่อง By คนเขียน
ในเนื้อเรื่องดั้งเดิมนั้น ชายเป็นตัวละครที่ถูกเสริมเข้ามาทีหลัง โดยถ้าใครอ่านพล็อตเรื่องแรกๆ จะพบได้เลยว่าชายปรากฎตัวออกมาหลังจากที่มิ้นจังเข้าโรงเรียนมาสักพักหนึ่งแล้ว ในฐานะหนุ่มนับสืบผู้ขี้อายสาว แต่ด้วยความนิยมของชายที่มีมากขึ้น ผมจึงเพิ่มบทบาทให้เขาเป็นเพื่อนเก่าของมิ้นจังเข้าไป พอมาปรับเนื้อเรื่อง จึงทำให้ชายมีบทบาทและมีชีวิตจริงๆตั้งแต่นิยายเริ่มดำเนินเรื่อง ดั่งที่ทุกคนเห็นในภาคหนึ่งแล้ว ซึ่งชายในแบบจริงๆ เขาตามสืบเรื่องของมิ้นจนรู้ว่าเขาเป็นนพ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอนพที่เพิ่งกลายร่างเป็นมิ้นจัง
ส่วนพี่เฟิร์นนั้น ทุกคนก็คงทราบดีว่าพี่เขาเคยเป็นผู้หญิงมาก่อนและยังมีคนรักอยู่ด้วย (ซึ่งจะได้เห็นในหนังสือ) แต่ก็ไม่มีบอกว่าพี่เขาต้องกลายเป็นผู้ชายกี่ปี ตอนนี้ทุกคนก็ทราบดีแล้วว่าพี่เขาต้องเป็นผู้ชายกี่ปี ส่วนฉากที่ ... กับมิ้นจังในตอนนี้นั้น จริงๆแล้วในพล็อตเรื่องดั้งเดิมก่อนถูกเปลี่ยนโครงเรื่อง พี่เฟิร์นก็จับอกของมิ้นจังจริงๆ (แต่เอาออกเพื่อความเหมาะสมหลังจากออกเป็นหนังสือขาย) แต่กรณีนั้นเป็นการจับเพื่อตรวจหาเนื้องอก เพราะโรคมะเร็งเต้านมถือเป็นโรคร้ายแรงสำหรับผู้หญิง แต่กรณีนี้ก็ เอิ่ม.... ไม่ขอบรรยายละกัน
ความคิดเห็น